Skip to content
Home » [Update] ประโยค Passive Voice | โครงสร้างpassive voice – NATAVIGUIDES

[Update] ประโยค Passive Voice | โครงสร้างpassive voice – NATAVIGUIDES

โครงสร้างpassive voice: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

 

หลักการใช้

ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย เช่น

  • เขา เดิน
    He walked

เขา เป็นประธาน (Subject)

เดิน เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)

  • เรา กิน มันฝรั่ง
    We eat potatoes

เรา เป็นประธาน (Subject)

กิน เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)

ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้ มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้) เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง

  • Mangoes are eaten
    มะม่วง ถูกกิน

มะม่วง เป็นประธาน (Subject)

ถูกกิน เป็นกริยา (Present Tense)
ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ

  • The letter was read yesterday
    จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้

จดหมาย เป็นประธาน (Subject)

ถูกอ่าน เป็นกริยา (Past Tense)

ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก (Passive Voice)

วิธีการแปลประโยค passive ให้เป็นภาษาไทย

สำหรับโครงสร้างแบบ Passive Voice จะแปลว่า ถูกกระทำ เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งแปลว่า ได้รับการกระทำนั้น ดูจะเหมาะกว่า เช่น

  • He was punished by his teacher a few days ago.
    เขาถูกลงโทษ โดยครูของเขาเมื่อ 2 – 3 วันก่อน
  • The articles were read by most students.
    บทความถูกอ่าน โดยนักเรียนส่วนใหญ่
  • The most valuable ring was stolen . (by someone)
    แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)

แต่

  • He was loved by his friends.
    เขาได้รับความรักจากเพื่อน ๆ ของเขา (เราไม่พูดว่า เขาถูกรัก)
  • Mrs. Brown was promoted . (by someone)
    นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
  • The man was named . The Greatest Inventor (by someone)
    ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)

วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ

ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น

  1. ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ
    2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม

โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป

  • รูปของ Active Voice คือ S + V
  • รูปของ Passive Voice คือ S + V to be + V.3

โครงสร้าง Verb to be + V.3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า

  1. นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้
    2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ

แต่ เหนืออื่นใด เวลาจะใช้ประโยคภาษาอังกฤษ ขอให้นักเรียนถามตนเองซ้ำหลายๆ ครั้งก่อนว่า ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่ เมื่อยืนยันกับตนเองได้ว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน จึงค่อยผูกประโยคตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1 วางประธานไว้หน้าประโยค เช่น
A boy
The desk

2 ปรับคำกริยาให้เป็น V.3 เช่น laughed , written , eaten , punished , done , caughtโดยใช้คำเหล่านี้อยู่หลัง V. to be

กระจายรูป Verb to be ไปตาม Tense ที่ควรจะเป็นและวางหน้ากริยา Past participle

ถ้ากริยาในประโยคเป็นกริยาช่วย (Auxliary Verbs) ต่าง ๆ ก็เพียงแต่นำ be และ Past participle มาวางต่อข้างท้าย ดังนี้คือ

เช่น

The office ought to be opened .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ

 

Tenses
V. to be
Past Participles

Present Simple
is, am, are
Thai is spoken in Thailand.
spoken

Present Continuous
is, am, are + being
He is being punished now.
punished

Present Perfect
has, have + been
The new building has been planned.
planned

Present Perfect Continuous
had, have + been + V.ing
The game has been being played for 2 hours.
played

Past Simple
was, were
Our house was painted last year.
painted

Past Continuous
was, were + being
When I arrived, the last guest speaker was being introduced.
introduced

Past Perfect had been
The work had been done before we got up.
done

*Past Perfect Continuous had been + being
When I knew him, he had been being trained for 2 years.
trained

Future Simple
will + be
He will be caught be the police some day.
caught

Future Simple
is, am, are + going to + be
The news is going to be published soon.
published

*Future Continuous
will be + being
At 10 o’clock tomorrow, he will be being questioned.
questioned

Future Perfect
will have + been
By next June, the tests will have been completed.
completed

*Future Perfect Continuous
will have + been + being
By tomorrow, the experiment will have been being conducted for 5 hours.
conducted

ข้อสังเกต Tense ที่มีเครื่องหมาย * ทั้ง 4 tense ไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะยาวและเยิ่นเย้อมากเกินไป

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก) กับกริยาช่วย Modal ต่างๆ

 

Modal Verbs
V. to be
Past Participles

may,might
can, could
must, haveto
ought to
used to
etc.
+ be +
Past Participle
V3

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้าต้องการใช้ Passive Voice ในรูปประโยคคำถามที่มี Question Words ก็วาง Question Words ไว้หน้าประโยคเหมือนในรูป Active Voice ยกเว้นคำว่า Who ให้เปลี่ยนเป็น By Whom เช่น

What will I be taught by you?
-> What will you teach me?

Where was the kitten seen ?
->Were did (someone) see the kitten?

By whom can it be done ?
-> Who can do it?

  1. ถ้าเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคคำถาม จะมีรูปเช่น

Let the bell be rung
มาจาก Ring the bell.

Let the boy not be blamed
มาจาก Don’t blame the boy.

 

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น

ตัวอย่างประโยคที่ 1
แบบที่ 1 
He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน)
แบบที่ 2 
Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave

ตัวอย่างประโยคที่ 2
แบบที่ 1 

We were shown the museum . (by someone)
แบบที่ 2 
The museum was shown to us . (by someone)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed

ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน

  1. ถ้าในActive Voice มีรูปกริยาดังต่อไปนี้ think , consider , acknowledge , know , say , report , understand , claim , believe , fear , hope , feel , find เช่น

People think that we are flexible.
People know he is impulsive

ประโยคเช่นนี้สามารถใช้โครงสร้าง Passive ได้ 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 ใช้ it เป็นประธาน เช่น

It is thought that we are flexible.
It i s known he is impulsive

แบบที่ 2 เอาข้อความข้างหลังย้ายมาข้างหน้า และตามด้วย to be + adjective เช่น

We are thought to be flexible .
He is known to be impulsive

หมายเหตุ ถ้าใน Active Voice มี Infinitive without to ต้องเปลี่ยนเป็น Infinitive (ที่มี to) ในPassive Voice เว้นคำว่า let เช่น

 

Active Voice
Passive Voice

I watched him leave.
He was watched to leave.

They made us work hard
We were made to work hard

แต่

He let me go
I was let go

การเติม by

เราจะเติม by เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้ทำกริยานั้น เช่น

  • I was bitten by his dog .
    (ถ้าไม่ใส่ by his dog ก็ไม่รู้ว่าถูกกัดโดยอะไร)
  • The report was written by Tom .
    ถ้าไม่ใส่ by Tom ก็ไม่รู้ว่าใครเขียน รายงาน

แต่บางครั้ง ถ้าไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ หรือผู้กระทำไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องระบุลงไป เช่น

  • English is spoken all over the world.
    (ไม่จำเป็นต้องต่อท้ายประโยคว่า by people )
  • My ring has been stolen .
    (ไม่จำเป็นต้องเติม by someone เข้าข้างท้ายประโยค)
  • The laws must be obeyed .
    (ไม่ต้องเติม by everyone ข้างท้าย)
  • Dinner is cooked .
    (ถ้าผู้กระทำเป็นคำสรรพนาม เช่น by her / him ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เช่นกัน)

นอกจากนั้นไม่ใช่ Passive Voice ทุกประโยคที่ต้องใส่คำว่า by เสมอไป อาจใช้ at, in, of, with ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะพิเศษของกริยานั้น เช่น

    • He was asked of a lot of questions by the police.
    • I am pleased at (with) your progress.
    • The workers were killed in the fire.
    • The hill is covered with snow.
    • การทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense (กริยาช่อง 2)

ในหน้านี้สอนการทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense ทั้งกริยาที่เป็นไปตามกฎ และกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎซึ่งกริยาส่วนใหญ่ จะทำเป็นกริยาช่อง 2 ได้ด้วยการเติม -ED ไว้ท้ายคำกริยานั้น แต่อย่างไรก็ตาม คำกริยาบางคำต้องปรับคำกริยานั้นเสียก่อน

นี่คือตารางกฎการเติม -ED

    • กริยาที่ลงท้ายด้วย
      การทำกริยาให้เป็นรูปอดีต
      ตัวอย่าง

      e
      เติม -D
      live – lived
      date – dated

      พยัญชนะ + y
      เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ED
      try – tried
      cry – cried

      สระหนึ่งตัว + พยัญชนะหนึ่งตัว (แต่ต้องไม่ใช่ w หรือ y)
      เพิ่มพยัญชนะท้ายตัวนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วเติม -ED
      tap – tapped
      commit – committed

      [อืนๆ]
      เติม -ED
      boil – boiled
      fill – filled
      hand – handed

แม้ว่ากริยาส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปอดีตได้ด้วยการเติม -ED แต่กริยาบางตัวก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น กริยาเหล่านั้นเรียกว่า กริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ (Irregular Verbs) ครู จะอธิบายรูปแบบที่สำคัญในการทำกริยาประเภทนี้ให้เป็นรูปอดีต แต่ต้องจำไว้ว่านี่ไม่ใช่กฎ เป็นเพียงรูปแบบที่พบบ่อยๆเท่านั้น กล่าวคือในที่สุดแล้วการจำ หรือการใช้อยู่เป็นประจำจะช่วยให้ทำกริยาให้เป็นอดีตได้อย่างคล่องแคล่ว

ถ้า ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ ก็ให้ใช้วิธีการท่องจำคำกริยาเหล่านี้นะ ส่วนใครที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ อาจไม่ต้องท่องจำ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎที่สำคัญ 3 คำ

กริยาที่สำคัญเหล่านั้นได้แก่ กริยา BE, HAVE, DO กริยา BE เป็นกริยาที่ยากที่สุดเพื่อรูปกริยาจะเปลี่ยนไปตามประธาน

    • ประธาน
      คำกริยา

      I
      was

      You
      were

      He / she / it
      was

      We
      were

      They
      were

กริยา HAVE และ DO

    • คำกริยา
      คำกริยาในรูปอดีต

      have
      had

      do
      did

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎคำอื่นๆ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎอาจจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม

  • ประเภท
    ตัวอย่าง

    คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป
    cut – cut
    hit – hit
    fit – fit

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปสระ
    get – got
    sit – sat
    drink – drank

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปไปเลย
    catch – caught
    bring – brought
    teach – taught

[Update] Passive voice คืออะไร มีการใช้อย่างไร | โครงสร้างpassive voice – NATAVIGUIDES

Passive voice หรือรูปประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ถือเป็นอีกหัวข้อนึงในภาษาอังกฤษที่หลายๆคนมักจะสับสน

สำหรับใครที่ยังไม่แม่นเรื่อง passive voice ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆแล้ว ทั้งนิยาม หลักการใช้ และตัวอย่างประโยคทั้ง 12 tense เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Passive voice คืออะไร

Passive voice คือรูปประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งจะใช้ “verb to be + verb ช่อง 3” แทน verb ปกติ ยกตัวอย่างเช่น

He is called a genius.
เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะ

ในประโยคตัวอย่างนี้ ประธานไม่ได้เป็นผู้เรียก แต่เป็นผู้ที่ถูกคนอื่นเรียก ว่าเป็นอัจฉริยะ เราจึงใช้ passive voice

Passive voice จะเป็นรูปประโยคที่ตรงกันข้ามกับ active voice ซึ่ง active voice นั้นก็คือรูปประโยคปกติทั่วไป ที่ประธานเป็นผู้กระทำ อย่างเช่น

He calls Joe a genius.
เขาเรียกโจว่าอัจฉริยะ

ตารางเปรียบเทียบ active voice และ passive voice

รายการActive voicePassive voiceประธาน (subject)เป็นผู้กระทำเป็นผู้ถูกกระทำคำกริยา (verb)verb ตามรูปประโยคที่ใช้verb to be ตามรูปประโยคที่ใช้ + verb ช่อง 3ตัวอย่างประโยคShe feeds her cat every day.
เธอให้อาหารแมวของเธอทุกวันHer cat is fed (by her) everyday
แมวของเธอถูก (เธอ) ให้อาหารทุกวันThe thieves robbed the bank last week.
โจรปล้นธนาคารเมื่อสัปดาห์ก่อนThe bank was robbed (by the thieves) last week.
ธนาคารถูก (โจร) ปล้นเมื่อสัปดาห์ก่อนTim will sign the books at the event.
ทิมจะเซ็นหนังสือในงานThe books will be signed (by Tim) at the event.
หนังสือจะถูกเซ็นในงาน (โดยทิม)You should help your grandma.
คุณควรช่วยยายของคุณYour grandma should be helped (by you).
ยายของคุณควรถูกช่วย (โดยคุณ)

หลักการใช้ passive voice

เราควรใช้ passive voice ตอนไหน

หลายๆประโยคจะสามารถใช้ได้ทั้ง active voice และ passive voice เช่น “ฉันให้อาหารแมว” (active voice) กับ “แมวถูกฉันให้อาหาร” (passive voice) ทั้งสองประโยคนี้ถือว่ามีใจความเหมือนกัน

เมื่อเป็นแบบนี้ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วตอนไหนเราควรใช้ active voice หรือ passive voice

ในกรณีส่วนใหญ่ การใช้ active voice จะเหมาะสมกว่า passive voice เพราะเป็นการสื่อความแบบตรงๆ ทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังสามารถรับข้อมูลได้ลื่นไหลกว่า

แต่ก็มีบางกรณีที่การใช้ passive voice จะเหมาะสมกว่า active voice อย่างเช่น

1. เมื่อต้องการเน้นไปที่ผู้รับผลของการกระทำ

More than thousand people was killed in the war.
มีคนมากกว่าพันคนถูกฆ่าตายในสงคราม
(ผู้พูดต้องการเน้นไปที่เหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม)

2. เมื่อผู้กระทำนั้นไม่สำคัญ

The bed sheets in this hotel are changed every day.
ผ้าปูที่นอนในโรงแรมนี้ถูกเปลี่ยนทุกวัน
(ผู้พูดต้องการชี้ให้เห็นถึงความสะอาดหรือบริการที่ดีของโรงแรม ใครเป็นคนเปลี่ยนผ้าปูนั้นไม่ใช่สาระสำคัญ)

3. เมื่อไม่รู้ว่าผู้กระทำคือใคร

He was shot in the park.
เขาโดนยิงในสวนสาธารณะ
(เมื่อเราไม่รู้ตัวคนทำ เราสามารถใช้ passive voice เพื่อเลี่ยงให้ไม่ต้องพูดถึงคนทำได้)

การใช้ passive voice ในรูปประโยคต่างๆ

เราสามารถใช้ passive voice ได้กับทุก tense อีกทั้งยังสามารถใช้กับ modal verb ต่างๆได้อีกด้วย (modal verb ก็อย่างเช่น can, could, may, might, must) โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

ตารางสรุปโครงสร้างการใช้ passive voice

รูปประโยคโครงสร้างPresent simpleS + is/am/are + V3Present continuousS + is/am/are + being + V3Present perfectS + has/have + been + V3Present perfect continuous*S + has/have + been + being + V3Past simpleS + was/were + V3Past continuousS + was/were + being + V3Past perfectS + had + been + V3Past perfect continuous*S + had + been + being + V3Future simpleS + will + be + V3Future continuous*S + will + be + being + V3Future perfectS + will + have + been + V3Future perfect continuous*S + will + have + been + being + V3Modal verbS + modal verb + be + V3

*การใช้ passive voice ใน present perfect continuous, past perfect continuous, future continuous และ future perfect continuous เป็นสิ่งที่ไม่นิยมเท่าไรนัก

1. Present simple

โครงสร้าง
S + is/am/are + V3

ตัวอย่างประโยค

Social media is used every day.
สื่อโซเชียลถูกใช้ทุกวัน

I am loved by family and friends.
ฉันถูกรักโดยครอบครัวและเพื่อนๆ

We are paid monthly.
พวกเราได้รับการจ่ายเงินทุกเดือน

2. Present continuous

โครงสร้าง
S + is/am/are + being + V3

ตัวอย่างประโยค

He is being pressured by his parents.
เขากำลังถูกกดดันโดยผู้ปกครองของเขา

I am being watched by that guy.
ฉันกำลังถูกมองโดยผู้ชายคนนั้น

All children are being severely impacted by school closures.
เด็กทุกคนกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปิดของโรงเรียน

3. Present perfect

โครงสร้าง
S + has/have + been + V3

ตัวอย่างประโยค

Anne has been asked to resign from the position.
แอนถูกขอให้ลาออกจากตำแหน่ง

My car has been stolen since last week.
รถของฉันถูกขโมยไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน

We have been known as the best marketing company since 2010.
พวกเราถูกรู้จักในนามของบริษัทด้านการตลาดที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2010

4. Present perfect continuous

(เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน present perfect continuous)

โครงสร้าง
S + has/have + been + being + V3

ตัวอย่างประโยค

This road has been being repaired for the past five years.
ถนนเส้นนี้ถูกซ่อมแซมมาได้ห้าปีแล้ว (และการซ่อมแซมก็ยังคงดำเนินการอยู่)

5. Past simple

โครงสร้าง
S + was/were + V3

ตัวอย่างประโยค

My kid was bitten by a dog yesterday.
ลูกของฉันถูกสุนัขกัดเมื่อวานนี้

I was raised by a single mother.
ฉันถูกเลี้ยงดูโดยแม่เลี้ยงเดี่ยว

These articles were written by me.
บทความพวกนี้ถูกเขียนขึ้นมาโดยตัวฉันเอง

6. Past continuous

โครงสร้าง
S + was/were + being + V3

ตัวอย่างประโยค

The computer wasn’t being used when I was there.
เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ถูกใช้งานตอนที่ฉันอยู่ที่นั่น

When Tim arrived, his car was still being repaired.
เมื่อทิมมาถึง รถของเขายังคงกำลังถูกซ่อมอยู่

She was sleeping while her bag were being taken away.
เธอกำลังหลับอยู่ ในขณะที่กระเป๋าของเธอกำลังถูกเอาไป

7. Past perfect

โครงสร้าง
S + had + been + V3

ตัวอย่างประโยค

The breakfast had been cooked already when I woke up.
อาหารเช้าถูกทำเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนที่ฉันตื่นนอน

Joe had been warned about his inappropriate behaviors several times before he was fired.
โจถูกเตือนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะถูกไล่ออก

All new phones had been sold out before I even arrived.
โทรศัพท์รุ่นใหม่ถูกขายหมดก่อนที่ฉันจะไปถึงเสียอีก

8. Past perfect continuous

(เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน past perfect continuous)

โครงสร้าง
S + had + been + being + V3

ตัวอย่างประโยค

A flying object had been being observed for over an hour last night.
มีวัตถุบินได้ถูกสังเกตเห็นเป็นระยะเวลากว่าชั่วโมงในคืนที่ผ่านมา

9. Future simple

โครงสร้าง
S + will + be + V3

ตัวอย่างประโยค

The product photos will be uploaded to the company website.
รูปภาพสินค้าจะถูกอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ของบริษัท

I will be promoted to manager this year.
ฉันจะถูกเลื่อนขั้นให้เป็นผู้จัดการในปีนี้

All customers will be given discount coupons this season.
ลูกค้าทุกคนจะถูกให้คูปองส่วนลดในฤดูกาลนี้

10. Future continuous

(เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน future continuous)

โครงสร้าง
S + will + be + being + V3

ตัวอย่างประโยค

Plants all across Thailand will be being built over the course of the next eight years.
โรงงานทั่วประเทศไทยจะถูกสร้างขึ้นภายในระยะเวลาแปดปีต่อจากนี้

11. Future perfect

โครงสร้าง
S + will + have + been + V3

ตัวอย่างประโยค

The experiment will have been completed by next year.
การทดลองจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีถัดไป

All work will have been done by this evening.
งานทั้งหมดจะเสร็จภายในเย็นนี้

All new students will have been brought to the classroom before 8 o’clock.
นักเรียนใหม่ทั้งหมดจะถูกนำตัวไปที่ห้องเรียนก่อน 8 โมง

12. Future perfect continuous

(เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน future perfect continuous)

โครงสร้าง
S + will + have + been + being + V3

ตัวอย่างประโยค

These projects will have been being worked on for over three years by next month.
โปรเจคเหล่านี้จะถูกดำเนินการรวมเป็นระยะเวลากว่าสามปีในเดือนถัดไป

13. Modal verb

Modal verb คือคำจำพวก can, could, may, might, shall, should, must, have to ซึ่งคำพวกนี้ สามารถใช้ร่วมกันกับ passive voice ได้

โครงสร้าง
S + modal verb + be + V3

ตัวอย่างประโยค

I can be reached by phone at 081-234-5678.
ฉันสามารถรับการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลย 081-234-5678

The law must be followed in every case.
กฏหมายนั้นจะต้องถูกปฏิบัติตามในทุกกรณี

The fee will have to be paid within 10 days.
ค่าธรรมเนียมจะต้องถูกจ่ายภายในสิบวัน

เป็นยังไงบ้างครับกับนิยามและการใช้ passive voice ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้กันได้แล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


ติวข้อสอบแกรมม่าร์ยังไงให้ได้เต็ม 🔥 -ไลฟ์ที่ห้ามพลาด- #ภาษาอังกฤษ


กดติดตามครูหวานไว้ได้เลยนะคะ ครูจะมาไลฟ์บ่อยๆค่ะ
ติดตามเฟสบุ๊ค+ไอจีและสอบถามคอร์สเรียนของครูหวานที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

ในนาทีที่ 29:00 ครูหวานไม่ได้อธิบายละเอียด ต้องขออภัยนักเรียนด้วยนะคะ ที่ทำให้เกิดข้อข้องใจ ขออนุญาตอธิบายดังนี้นะคะ
Running ในที่นี้คือ V.ที่เติมing
ทั้งนี้เรียกว่า present participle
ซึ่งในประโยคนี้ทำหน้าที่เป็น Adj. เพื่อขยายคำที่อยู่ข้างหน้าอย่าง office ซึ่งเป็นคำนามจ้า
และ keep (ในที่นี้มีความหมายว่า to continue doing something without stopping, or to do it reapeatedly ตาม cambridge dictionary) ที่เป็น intransitive verb นั้น จะต้องตามด้วย V.ing จ้า
ส่วนที่นักเรียนสงสัยว่า ทำไม smoothly ถึงอยู่ด้านหลังได้ เพราะว่า Run (V.) มี collocation ที่เป็น adv. สามารถตามหลังได้คือคำว่า effective/ smoothly จ้า

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ติวข้อสอบแกรมม่าร์ยังไงให้ได้เต็ม 🔥 -ไลฟ์ที่ห้ามพลาด- #ภาษาอังกฤษ

Passive Voice ง่ายๆในภาษาอังกฤษ


ตามไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูหวานต่อที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

Passive Voice ง่ายๆในภาษาอังกฤษ

The Passive Voice


Passive Voice is used when the focus is on the action, and not on the person who does it. Learn how to use it correctly in more tenses in this video. There are many examples that will make it easy for you to understand.

The Passive Voice

ความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice | Eng ลั่น [by We Mahidol]


ใครที่ยังงงเรื่องของ Active Voice และ Passive Voice กันบ้าง
วันนี้พี่คะน้า รุ่นพี่วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล จะมาอธิบายความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice ว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันยังไง และเมื่ออยู่ในรูปประโยคของ Tense ต่าง ๆ แล้วจะเป็นรูปแบบไหนกันบ้าง รับรองว่าดู Eng ลั่นตอนนี้จบแล้วจะเข้าใจเรื่อง Active Voice และ Passive Voice และสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องแน่นอน

WeMahidol Mahidol Engลั่น ActiveVoice PassiveVoice
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
TikTok : https://www.tiktok.com/@wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

ความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice | Eng ลั่น [by We Mahidol]

ACTIVE \u0026 PASSIVE VOICE | Definition \u0026 Examples


In this video I explain what active voice and passive voice are. It is important to try an use both in writing therefore I hope you find this video helpful!
We hope you enjoyed this video! If you have any questions please ask in the comments.
Please like subscribe and share your comments with us!
Be sure to follow us on Instagram for daily tips and tricks in learning English: https://www.instagram.com/ilearneasyenglish/

Music: Royalty Free music https://www.bensound.com/

ACTIVE \u0026 PASSIVE VOICE | Definition \u0026 Examples

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ โครงสร้างpassive voice

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *