Skip to content
Home » [Update] ประโยค Passive Voice | การ ทำ passive exercise – NATAVIGUIDES

[Update] ประโยค Passive Voice | การ ทำ passive exercise – NATAVIGUIDES

การ ทำ passive exercise: คุณกำลังดูกระทู้

 

Table of Contents

หลักการใช้

ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย เช่น

  • เขา เดิน
    He walked

เขา เป็นประธาน (Subject)

เดิน เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)

  • เรา กิน มันฝรั่ง
    We eat potatoes

เรา เป็นประธาน (Subject)

กิน เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)

ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้ มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้) เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง

  • Mangoes are eaten
    มะม่วง ถูกกิน

มะม่วง เป็นประธาน (Subject)

ถูกกิน เป็นกริยา (Present Tense)
ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ

  • The letter was read yesterday
    จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้

จดหมาย เป็นประธาน (Subject)

ถูกอ่าน เป็นกริยา (Past Tense)

ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก (Passive Voice)

วิธีการแปลประโยค passive ให้เป็นภาษาไทย

สำหรับโครงสร้างแบบ Passive Voice จะแปลว่า ถูกกระทำ เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งแปลว่า ได้รับการกระทำนั้น ดูจะเหมาะกว่า เช่น

  • He was punished by his teacher a few days ago.
    เขาถูกลงโทษ โดยครูของเขาเมื่อ 2 – 3 วันก่อน
  • The articles were read by most students.
    บทความถูกอ่าน โดยนักเรียนส่วนใหญ่
  • The most valuable ring was stolen . (by someone)
    แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)

แต่

  • He was loved by his friends.
    เขาได้รับความรักจากเพื่อน ๆ ของเขา (เราไม่พูดว่า เขาถูกรัก)
  • Mrs. Brown was promoted . (by someone)
    นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
  • The man was named . The Greatest Inventor (by someone)
    ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)

วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ

ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น

  1. ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ
    2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม

โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป

  • รูปของ Active Voice คือ S + V
  • รูปของ Passive Voice คือ S + V to be + V.3

โครงสร้าง Verb to be + V.3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า

  1. นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้
    2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ

แต่ เหนืออื่นใด เวลาจะใช้ประโยคภาษาอังกฤษ ขอให้นักเรียนถามตนเองซ้ำหลายๆ ครั้งก่อนว่า ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่ เมื่อยืนยันกับตนเองได้ว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน จึงค่อยผูกประโยคตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1 วางประธานไว้หน้าประโยค เช่น
A boy
The desk

2 ปรับคำกริยาให้เป็น V.3 เช่น laughed , written , eaten , punished , done , caughtโดยใช้คำเหล่านี้อยู่หลัง V. to be

กระจายรูป Verb to be ไปตาม Tense ที่ควรจะเป็นและวางหน้ากริยา Past participle

ถ้ากริยาในประโยคเป็นกริยาช่วย (Auxliary Verbs) ต่าง ๆ ก็เพียงแต่นำ be และ Past participle มาวางต่อข้างท้าย ดังนี้คือ

เช่น

The office ought to be opened .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ

 

Tenses
V. to be
Past Participles

Present Simple
is, am, are
Thai is spoken in Thailand.
spoken

Present Continuous
is, am, are + being
He is being punished now.
punished

Present Perfect
has, have + been
The new building has been planned.
planned

Present Perfect Continuous
had, have + been + V.ing
The game has been being played for 2 hours.
played

Past Simple
was, were
Our house was painted last year.
painted

Past Continuous
was, were + being
When I arrived, the last guest speaker was being introduced.
introduced

Past Perfect had been
The work had been done before we got up.
done

*Past Perfect Continuous had been + being
When I knew him, he had been being trained for 2 years.
trained

Future Simple
will + be
He will be caught be the police some day.
caught

Future Simple
is, am, are + going to + be
The news is going to be published soon.
published

*Future Continuous
will be + being
At 10 o’clock tomorrow, he will be being questioned.
questioned

Future Perfect
will have + been
By next June, the tests will have been completed.
completed

*Future Perfect Continuous
will have + been + being
By tomorrow, the experiment will have been being conducted for 5 hours.
conducted

ข้อสังเกต Tense ที่มีเครื่องหมาย * ทั้ง 4 tense ไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะยาวและเยิ่นเย้อมากเกินไป

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก) กับกริยาช่วย Modal ต่างๆ

 

Modal Verbs
V. to be
Past Participles

may,might
can, could
must, haveto
ought to
used to
etc.
+ be +
Past Participle
V3

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้าต้องการใช้ Passive Voice ในรูปประโยคคำถามที่มี Question Words ก็วาง Question Words ไว้หน้าประโยคเหมือนในรูป Active Voice ยกเว้นคำว่า Who ให้เปลี่ยนเป็น By Whom เช่น

What will I be taught by you?
-> What will you teach me?

Where was the kitten seen ?
->Were did (someone) see the kitten?

By whom can it be done ?
-> Who can do it?

  1. ถ้าเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคคำถาม จะมีรูปเช่น

Let the bell be rung
มาจาก Ring the bell.

Let the boy not be blamed
มาจาก Don’t blame the boy.

 

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น

ตัวอย่างประโยคที่ 1
แบบที่ 1 
He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน)
แบบที่ 2 
Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave

ตัวอย่างประโยคที่ 2
แบบที่ 1 

We were shown the museum . (by someone)
แบบที่ 2 
The museum was shown to us . (by someone)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed

ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน

  1. ถ้าในActive Voice มีรูปกริยาดังต่อไปนี้ think , consider , acknowledge , know , say , report , understand , claim , believe , fear , hope , feel , find เช่น

People think that we are flexible.
People know he is impulsive

ประโยคเช่นนี้สามารถใช้โครงสร้าง Passive ได้ 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 ใช้ it เป็นประธาน เช่น

It is thought that we are flexible.
It i s known he is impulsive

แบบที่ 2 เอาข้อความข้างหลังย้ายมาข้างหน้า และตามด้วย to be + adjective เช่น

We are thought to be flexible .
He is known to be impulsive

หมายเหตุ ถ้าใน Active Voice มี Infinitive without to ต้องเปลี่ยนเป็น Infinitive (ที่มี to) ในPassive Voice เว้นคำว่า let เช่น

 

Active Voice
Passive Voice

I watched him leave.
He was watched to leave.

They made us work hard
We were made to work hard

แต่

He let me go
I was let go

การเติม by

เราจะเติม by เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้ทำกริยานั้น เช่น

  • I was bitten by his dog .
    (ถ้าไม่ใส่ by his dog ก็ไม่รู้ว่าถูกกัดโดยอะไร)
  • The report was written by Tom .
    ถ้าไม่ใส่ by Tom ก็ไม่รู้ว่าใครเขียน รายงาน

แต่บางครั้ง ถ้าไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ หรือผู้กระทำไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องระบุลงไป เช่น

  • English is spoken all over the world.
    (ไม่จำเป็นต้องต่อท้ายประโยคว่า by people )
  • My ring has been stolen .
    (ไม่จำเป็นต้องเติม by someone เข้าข้างท้ายประโยค)
  • The laws must be obeyed .
    (ไม่ต้องเติม by everyone ข้างท้าย)
  • Dinner is cooked .
    (ถ้าผู้กระทำเป็นคำสรรพนาม เช่น by her / him ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เช่นกัน)

นอกจากนั้นไม่ใช่ Passive Voice ทุกประโยคที่ต้องใส่คำว่า by เสมอไป อาจใช้ at, in, of, with ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะพิเศษของกริยานั้น เช่น

    • He was asked of a lot of questions by the police.
    • I am pleased at (with) your progress.
    • The workers were killed in the fire.
    • The hill is covered with snow.
    • การทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense (กริยาช่อง 2)

ในหน้านี้สอนการทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense ทั้งกริยาที่เป็นไปตามกฎ และกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎซึ่งกริยาส่วนใหญ่ จะทำเป็นกริยาช่อง 2 ได้ด้วยการเติม -ED ไว้ท้ายคำกริยานั้น แต่อย่างไรก็ตาม คำกริยาบางคำต้องปรับคำกริยานั้นเสียก่อน

นี่คือตารางกฎการเติม -ED

    • กริยาที่ลงท้ายด้วย
      การทำกริยาให้เป็นรูปอดีต
      ตัวอย่าง

      e
      เติม -D
      live – lived
      date – dated

      พยัญชนะ + y
      เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ED
      try – tried
      cry – cried

      สระหนึ่งตัว + พยัญชนะหนึ่งตัว (แต่ต้องไม่ใช่ w หรือ y)
      เพิ่มพยัญชนะท้ายตัวนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วเติม -ED
      tap – tapped
      commit – committed

      [อืนๆ]
      เติม -ED
      boil – boiled
      fill – filled
      hand – handed

แม้ว่ากริยาส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปอดีตได้ด้วยการเติม -ED แต่กริยาบางตัวก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น กริยาเหล่านั้นเรียกว่า กริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ (Irregular Verbs) ครู จะอธิบายรูปแบบที่สำคัญในการทำกริยาประเภทนี้ให้เป็นรูปอดีต แต่ต้องจำไว้ว่านี่ไม่ใช่กฎ เป็นเพียงรูปแบบที่พบบ่อยๆเท่านั้น กล่าวคือในที่สุดแล้วการจำ หรือการใช้อยู่เป็นประจำจะช่วยให้ทำกริยาให้เป็นอดีตได้อย่างคล่องแคล่ว

ถ้า ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ ก็ให้ใช้วิธีการท่องจำคำกริยาเหล่านี้นะ ส่วนใครที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ อาจไม่ต้องท่องจำ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎที่สำคัญ 3 คำ

กริยาที่สำคัญเหล่านั้นได้แก่ กริยา BE, HAVE, DO กริยา BE เป็นกริยาที่ยากที่สุดเพื่อรูปกริยาจะเปลี่ยนไปตามประธาน

    • ประธาน
      คำกริยา

      I
      was

      You
      were

      He / she / it
      was

      We
      were

      They
      were

กริยา HAVE และ DO

    • คำกริยา
      คำกริยาในรูปอดีต

      have
      had

      do
      did

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎคำอื่นๆ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎอาจจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม

  • ประเภท
    ตัวอย่าง

    คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป
    cut – cut
    hit – hit
    fit – fit

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปสระ
    get – got
    sit – sat
    drink – drank

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปไปเลย
    catch – caught
    bring – brought
    teach – taught

[Update] หลักการใช้ Passive Voice ไม่ยากอย่างที่คิด!! | การ ทำ passive exercise – NATAVIGUIDES

“ แม่ตีฉัน ” “ ฉันถูกแม่ตี ” จากประโยคที่ยกตัวอย่างไป อ่านแล้วนี่เจ็บแทนเลยว่าไหมครับ ทั้งสองประโยคนี้ดูแล้วความหมายอาจจะเหมือนกัน แต่ในเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกกลับแตกต่างกัน เหมือนระบบฟิล์มธรรมดาเทียบกับระบบ HD เลยทีเดียว

หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า:

  • ประโยคแรกประธานเป็นผู้กระทำ นั่นคือ แม่(ประธาน) ตี(กริยา) ฉัน(กรรม) หรือที่เรียกว่า

    Active voice

  • ส่วนประโยคที่สองประธานเป็นผู้ถูกกระทำ นั่นคือ ฉัน(ประธาน) ถูก แม่(กรรม) ตี(กริยา) หรือที่เรียกว่า

    Passive voice

พอเกริ่นมาถึงตรงนี้แล้วผมว่าหลายๆคนคงสนใจประโยคที่ให้ความรู้สึกที่คมชัดมากกว่า ดังนั้นผมขอพูดถึงเรื่อง Passive voice แล้วกันครับ

ประโยค Passive voice คือประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ หรือประโยคที่อยู่ในรูป Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) ซึ่งส่วนมากจะถูกเปลี่ยนจากประโยค Active voice (ประโยคที่อยู่ในรูป Subject + Verb1) แต่ก็ไม่ใช่แค่เอามาสลับที่กันเฉยๆนะครับ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีเงื่อนไขเสมอ

passivevoice

หลักการเปลี่ยนประโยค “Active” เป็นประโยค “Passive”

1. นำเอา

กรรม

ของประโยค Active voice ไปเป็น

ประธาน

ของประโยค Passive voice

Active voice: Nammon read a book.
Passive voice: A book is read by Nammon.

2. นำเอาประธานของประโยค Active voice ไปเป็นกรรมของประโยค Passive voice และมี by นำหน้าประธานเดิม

(แต่ในบางกรณีอาจจะสามารถเขียนโดยไม่ต้องมี by ก็ได้)

Active voice: Nammon read a book.
Passive voice: A book is read by Nammon.

3. เมื่อเปลี่ยนประโยค Active voice เป็นประโยค Passive voice กริยาจะต้องเป็นรูปกริยาช่องที่ 3 (Past Participle) และตามหลัง Verb to be.( is, am , are, was , were, be, being, been)

ต้องดูตามประธาน(ของประโยคใหม่) และ tense

Active voice: Nammon read a book.
Passive voice: A book is read by Nammon. (ในที่นี่รูปกิริยาทั้งสามช่องของ read มีรูปที่เหมือนกัน)

Active voice: They have built  a new hotel. พวกเขาสร้างโรงแรมใหม่ (เสร็จไปแล้วในอดีต)
Passive voice: A new hotel has been built by them. โรงแรมใหม่ถูกสร้างขึ้นมาโดยพวกเขา (เสร็จไปแล้วในอดีตเช่นกัน)

ตัวอย่างนี้เป็นประโยค Active voice เป็นประโยคที่อยู่ในรูปของ Present Perfect tense (Subject + have, has + Verb 3) ดังนั้นเมื่อเป็นประโยค Passive voice จึงอยู่ในรูป (Subject + have, has + been +Verb 3)

Active voice: Rita writes a letter. (ริต้าเขียนจดหมาย)
Passive voice: A letter is written by Rita. (จดหมายถูกเขียนโดยริต้า)

ตัวอย่างนี้เป็นประโยค Active voice เป็นประโยคที่อยู่ในรูปของ Present Simple tense (Subject + Verb 1) ดังนั้นเมื่อเป็นประโยค Passive voice จึงอยู่ในรูป (Subject + Verb to be + Verb 3)

Active voice: She was cleaning a chair. เธอกำลังทำความสะอาดเก้าอี้ (ตอนนี้เธอทำเสร็จแล้ว)
Passive voice: A chair was being cleaned by her. เก้าอี้ถูกทำความสะอาดโดยเธอ (ตอนนี้เธอทำเสร็จแล้ว)

ตัวอย่างนี้เป็นประโยค Active voice เป็นประโยคที่อยู่ในรูปของ Past Continuous tense (Subject + was, were + Verb ing) ดังนั้นเมื่อเป็นประโยค Passive voice จึงอยู่ในรูป (Subject + was, were + being +Verb 3)

แล้วเมื่อไรที่เราจะสามารถละผู้กระทำได้บ้าง? คำถามนี้ตอบได้ย่อยๆ 3 ข้อครับ

เมื่อไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ

The windows are closed. (หน้าต่างถูกปิด แต่ไม่ได้สนใจว่าใครเป็นคนปิด)

เมื่อรู้อยู่แล้วว่าใครกระทำ

The thieves were all arrested. (ในที่นี้เราละคำว่า by police เพราะว่าเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าตำรวจมีหน้าที่จับขโมย)

ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ

My shoes were stolen on Monday. (รองเท้าถูกขโมยไปแต่ไม่รู้ว่าใครขโมย)

จากตัวอย่างข้างต้นทั้งหมด ผมขอสรุปคร่าวๆนะครับว่า… ไม่ว่า ประโยค Active จะอยู่ใน tense ใดก็ตาม เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค Passive ยังไงก็ต้องอยู่ในรูปของ Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) เสมอ แต่ยังคงต้องไม่ทิ้ง tense เดิม ลองสังเกตสองตารางข้างล่างดีๆอีกสักทีนะครับ

รูปประโยค Active แบ่งตาม tense ต่างๆ

activevoice

รูปประโยค Passive แบ่งตาม tense ต่างๆ

passivevoicetable

หากเรารู้จักรูปแบบประโยคดีแล้ว นั่นคือเรารู้ว่าตัวไหนเป็นประธาน ตัวไหนเป็นกริยา และตัวไหนเป็นกรรม เอามารวมกับความรู้เรื่อง tense และกริยาสามช่องนิดหน่อย ผมว่าเรื่อง Passive voice ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากบางคนยังคิดว่ายาก ก็เพียงแค่ฝึกฝน อดทน และพยายาม ยังไงซะคำว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ก็ยังใช้ได้เสมอครับ


Passive exercise แนวทางการทำกายภาพบำบัด สำหรับผู้ป่วยติดเตียง


บ้านใครมีผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ตอนนี้ไปหาหมอก็ลำบาก ไปหานักกายภาพก็ลำบาก มาทำกายภาพให้กับผู้ใหญ่ในบ้าน ตามคลิปนี้เลยครับ
www.rebalancebangkok.com
Line: @reb9

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Passive exercise แนวทางการทำกายภาพบำบัด สำหรับผู้ป่วยติดเตียง

How to do Passive Range of Motion Exercises with Pets


Passive Range of Motion (PROM) exercises help your dog or cat increase circulation, strengthen or maintain muscle \u0026 joint flexibility, regain range of motion, and ease joint stiffness. PROM exercises help after injury or surgery, with neurological conditions, or can comfort pets with joint stiffness…we show you how.

How to do Passive Range of Motion Exercises with Pets

กายภาพเด็กพิการทางสมอง cp ตอนที่ 1


เด็กพิการทางสมอง (cerebral palsy ; CP) คือ กลุ่มอาการของผู้
ป่วยเด็กที่มีอาการพิการของสมองอย่างถาวรโดยเกิดกับสมองที่ยังพัฒนา
ไม่เต็มที่ (สมองพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุ 35 ปี) ความพิการนี้จะคงที่และไม่
ลุกลามต่อไป ซึ่งเด็กจะมีปัญหาทางด้านความผิดปกติของความตึงตัวของ
กล้ามเนื้อ ท่าทาง และการเคลื่อนไหว ทำให้การประสานงานของการ
ทำงานของกล้ามเนื้อบกพร่อง มีความผิดปกติในการทรงท่าและการ
เคลื่อนไหว

กายภาพเด็กพิการทางสมอง cp ตอนที่ 1

Listen and Speak English Story For Simple Present Tense


Short stories are perfect to practise English listening and speaking. You can use English grammar correctly and automatically by listening to the English story in the simple present tense. You can download our audio short stories here 👉 https://www.powerenglish.net/realenglishconversations/easypracticeenglishspeaking.html
In order to speak English fluently, you must practice grammar and vocabulary repeatedly so that you can use them automatically. That is where the short stories come in. Just listen to our English stories and answer the easy questions out loud.
Learn English by speaking to a native now 👉 https://www.gr8english.com/realenglishlessons/learnenglishbyspeakingitalki.html
In this story, we used a lot of simple present tense sentences. So you will hear many present simple examples to exercise. There are positive sentences, negative sentences, questions, and answers.
Our English Easy Practice course is very powerful to improve English listening skills and speaking skills. These are very useful short stories for kids as well.
Repetition is very important to speak English. So repeat that story with simple present tense exercises and you will become fluent eventually.
⭐ The Best English Courses ⭐

Effortless English 👉 https://www.powerenglish.net/effortlessenglish/powerenglish/powerenglishlessonset.html
English Easy Practice 👉 https://englisheasypractice.com/
Learn English Online 👉 https://tinyurl.com/englishrocket
Story For Past Continuous Tense 👉 https://youtu.be/QJ2x20GmUTs
Short Stories In English 👉 https://www.youtube.com/watch?v=O1iknZFsk0\u0026list=PLpODSd__yLPVVlSZo3RpAOiRZWHaUAoDb
Another great channel on Youtube, thanks to @Rahatingilizce
We would be happy if you like this video and subscribe to our channel. Now enjoy the English listening and speaking practice video here and write your comments below.
learnenglishthroughstory speakEnglish Englishlistening

Listen and Speak English Story For Simple Present Tense

Passive Voice ง่ายๆ ให้มันจบที่ไลฟ์นี้! (แจก…


Passive Voice ง่ายๆ ให้มันจบที่ไลฟ์นี้! (แจก...

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การ ทำ passive exercise

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *