Skip to content
Home » [Update] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | ฉัน อยาก เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | ฉัน อยาก เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ฉัน อยาก เป็น ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

การขอร้องให้คนอื่นทำอะไรหรือช่วยอะไรนั้น ควรพูดให้สุภาพเข้าไว้ มิฉะนั้นแล้วอาจจะได้รับการปฏิเสธได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามการขอร้องมีหลายระดับ คือ ระดับธรรมดา สุภาพและสุภาพที่สุด หรือในเรื่องที่ยากง่ายต่างกัน ฉะนั้น จะขอร้องให้ทำหรือช่วยอะไรนั้น ควรใช้คำให้เหมาะสมกับระดับเหตุการณ์นั้นๆ ในการขอร้องใช้คำได้หลายวิธี หลายประโยค ในที่นี่อาจจำแนกประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งเป็นประโยคที่ขึ้นต้น ด้วยคำกริยาไม่มีประธาน เช่น Sit down. นั่งลง Open the window. เปิดหน้าต่างด้วย Don’t disturb her. อย่ารบกวนเธอ ประโยคชนิดนี้สร้างเป็นการขอร้องโดยการเติม Please (โปรด กรุณา) เข้าไป อาจจะวางต้นประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ การขอร้องด้วยประโยคชนิดนี้ ถือเป็นการขอร้องโดยตรง นิยมใช้โดยทั่วไป โดยมีรูปประโยคดังนี้
Please…………..         กรุณา / โปรด……………..
…………………….please.
ตัวอย่าง
Please sit down.
กรุณานั่งลง
Open the window, please.
กรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Please don’t disturb her.
กรุณาอย่ารบกวนเธอ
Please give me your name.
กรุณาบอกชื่อคุณด้วย
Don’t park in front of the office, please.
กรุณาอย่าจอดรถหน้าสำนักงาน
Please get me a chair.
กรุณาหาเก้าอี้ให้ฉันสักตัวด้วย
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การขอร้องอาจจะใช้เป็นรูปประโยคบอกเล่าธรรมดาก็ได้ แม้จะถือว่าเป็นการแสดงความต้องการของผู้พูดเองขึ้นมาลอยๆ โดยใช้กริยาที่แสดงออกถึงความต้องการ คือ want หรือ would like โดยการเติม Please เข้าท้ายประโยค ใช้ would like เป็นการสุภาพกว่า มีรูปประโยคดังนี้
I want …………, please.
ฉันต้องการ………………..
I would like …………….., please.
ฉันต้องการ……………………………
ตัวอย่าง
I want some water, please.
ฉันต้องการนํ้าบ้าง
I want a pen, please.
ฉันต้องการปากกาด้ามหนึ่ง
I want some drinks, please.
ฉันต้องการเครื่องดื่มสักอย่าง
I would like a cup of coffee, please.
ฉันต้องการกาแฟสักถ้วย
I would like the red one, please.
ฉันต้องการอันสีแดง
เพื่อให้มีความหมายเป็นการขอร้องโดยตรง ในรูปประโยคบอกเล่า ใช้กริยา ask หรือ request (ขอร้อง) ได้เลย หรือแสดงความต้องการจะขอร้อง โดยนำด้วย want หรือ would like และตามด้วย infinitive ดังโครงสร้างต่อไปนี้
I ask you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I request you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I want to ask you to
ฉันต้องการขอร้องคุณช่วย
I want to request you to
ฉันต้องการที่จะขอร้องคุณให้ช่วย
ตัวอย่าง
I ask you to open the window.
ฉันขอร้องให้คุณช่วยเปิดหน้าต่าง
I ask you to help me with this.
ฉันขอร้องคุณช่วยทำสิ่งนี้ด้วย
I request you to post these letters for me.
ฉันขอร้องคุณช่วยส่ง จ.ม.เหล่านี้ให้ด้วย
I would like to ask you to call him for me.
ฉันอยากขอร้องคุณช่วยโทรศัพท์ไปหาเขาให้ด้วย
I want to ask you to find his address.
ฉันต้องการให้คุณหาที่อยู่ของเขาให้ด้วย
I want you to sit down.
ฉันอยากจะให้คุณนั่งลง
I would like you to get me a pen.
ฉันอยากขอร้องให้คุณหาปากกาให้สักด้ามด้วย
3. ประโยคคำถาม (Question) การใช้รูปประโยคคำถามในการ ขอร้องนั้น ถือเป็นการขอร้องโดยอ้อมเป็นการถามกลายๆ ว่า จะทำอย่างนั้น ได้ไหม เป็นการแสดงความเกรงใจในการขอร้องนั้นๆ ซึ่งนิยมใช้กันมาก รูปคำถามที่ใช้มากคือ Yes/No Question แต่อย่างไรก็ตาม คำถามประเภทอื่นก็ใช้ในการขอร้องได้เช่นกัน ประโยคคำถามต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องมีโครงสร้างดังนี้
Yes/No Question :     Can / Will you…….., please?
Could / Would you please……., (please)?
Could / Would you kindly………..?
Would you be so kind as to……..?
Do / Would you mind………?
Tag Question :         ………,will you?
………,won’t you?
Wh- Question :         What……., please?
Who………, please?
(ect.)
Indirect Question :     I wonder if you……
I wonder if you’d mind…….
การใช้ประโยคคำถามชนิดต่างๆ ในการขอร้องนั้น มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
-ประโยค Yes/No Question ใช้มากที่สุด เป็นทั้งการถามและ ขอร้องในตัวเสร็จว่าจะทำได้หรือไม่ จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
Can you sit down, please?
กรุณานั่งลงได้ไหม
Will you make me a cup of coffee, please?
ชงกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม
Could you please tell me the way to the airport?
คุณจะกรุณาบอกหนทางไปสนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you kindly lend me the book for two days?
คุณจะกรุณาให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันจะได้ไหม
Would you be so kind as to post these letters for me?
คุณจะกรุณาส่งจดหมายเหล่านี้ให้ฉันด้วยได้ไหม
Do you mind washing this glass?
คุณล้างแก้วนี้ด้วยได้ไหม
Would you mind closing the door?
คุณจะกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหม
Would you please translate this sentence for them?
คุณจะกรุณาแปลประโยคนี้ให้พวกเขาหน่อยได้ไหม
Can you help me with this exercise?
คุณช่วยฉันทำแบบฝึกหัดนี้ได้ไหม
Will you find the meaning of the word for me?
คุณจะหาความหมายคำนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you mind giving me her name?
คุณจะบอกชื่อเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม
-ประโยค Tag Question ตามปกติใช้เฉพาะชนิดที่ท่อนแรกเป็นรูปคำสั่งเท่านั้น บางครั้งอาจจะถือว่ายังเป็นคำสั่งอยู่นั้นเอง แต่ในที่นี่จัดเป็นการขอร้องอีกระดับหนึ่งไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
Come in, will you?
เข้ามาข้างใน ได้ไหม
Close the window, won’t you?
ปิดหน้าต่างด้วย ได้ไหม
Sit down, won’t you?
นั่งลงได้ไหม
Speak slowly, will you?
พูดช้าๆ ได้ไหม
ประโยคเช่นนี้ถือว่าเป็นคำสั่งโดยอ้อม ซึ่งมีความหมายสุภาพกว่า คำสั่งโดยตรง
-ประโยค Wh-Question เป็นรูปคำถามธรรมดา แล้วเติม please เข้าท้ายประโยค ถือว่าเป็นการขอร้องโดยอ้อมอีกแบบหนึ่ง เป็นการขอร้องระดับธรรมดา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
What’s your name, please?
คุณชื่ออะไรครับ
Where are you from, please?
คุณมาจากไหนครับ
When were you born, please?
คุณเกิดเมื่อไรครับ
How old are you, please?
คุณอายุเท่าไรครับ
การขอร้องวิธีนี นิยมใช้กับเหตุการณ์หรือสถานการณไม่มากนัก
-ประโยค Indirect Question นิยมใช้ในการขอร้องเช่นกัน เป็น การขอร้องโดยอ้อมเช่นเดียวกับ Yes/No Question ที่จริงแล้วประโยคชนิดนี้ก็คือประโยคบอกเล่านั้นเอง กริยาที่นิยมใช้สำหรับประโยคชนิดนี้ ก็คือกริยาที่แสดงถึงความสงสัย ไม่แน่ใจ ได้แก่ wonder (สงสัย) ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
I wonder if you’d lend me the typewriter.
ไม่ทราบว่า คุณจะให้ฉันยืมเครื่องพิมพ์ดีดได้ไหม
I wonder if you could help me with this?
ไม่ทราบว่า คุณจะช่วยฉันทำสิ่งนี้ได้ไหม
I wonder if you would mind checking this work.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาตรวจงานนี้หน่อยได้ไหม
I wonder if you would mind explaining this sentence.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาอธิบายประโยคนี้หน่อยได้ไหม
ตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขอร้อง คือสามารถกระทำได้ตามที่ขอร้องนั้น ใช้คำพูดได้หลายอย่างหลายระดับเช่นเดียวกับการขอร้องดังนี้
Yes, of course
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
All right ตกลง
Not at all
ได้เลย, ไม่เป็นไร
O.K.
ตกลง, ได้เลย
Sure ได้เลย
With pleasure
ยินดี, ด้วยความยินดี
I’d be glad to
ด้วยความยินดี
No, of course not
ไม่เป็นไร, ไม่รังเกียจ
Certainly not
ไม่เป็นไร ไม่รังเกียจ
ตอบปฏิเสธ (Refusing) อาจใช้ได้หลายคำเช่นกัน ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ และให้เหตุผลที่ไม่อาจสนองความต้องการตามที่ขอร้องได้ ดังนี้
I’m sorry…..
ขอโทษ……..
I’m afraid….
ฉันเกรงว่า……
I wish I could but……
ฉันอยากจะทำให้ แต่ว่า….
ตัวอย่าง
I’m sorry I don’t know.
ขอโทษด้วย, ฉันไม่ทราบ
I’m afraid I am not free at that time.
ฉันเข้าใจว่า ฉันคงไม่ว่างในเวลานั้น
I wish I could but I have to hurry back home.
อยากจะทำให้เหมือนกัน แต่ว่าฉันต้องรีบกลับบ้าน
ข้อสังเกต
-การใช้กริยารูปอดีต (past) คือ could, would ไม่มีความหมาย เป็นอดีต แต่แสดงถึงความสุภาพหรือเกรงใจว่า can และ will และใช้ would like สุภาพกว่า want
-การขอร้องรูปคำถาม Yes/No นั้นแตกต่างจากคำถามธรรมดา โดยเติม Please เข้าไปเพื่อแสดงการขอร้อง และตอบแตกต่างกัน โดยคำถามธรรมดาตอบ Yes/No แต่การขอร้องตอบ Yes, of course หรือ I’m sorry … ดังตัวอย่างต่อไปนี้

คำถาม

ขอร้อง

Can you open the window?

Yes, I can. / No, I can’t.

คุณสามารถเปิดหน้าต่างได้ไหม

เปิดได้ / เปิดไม่ได้

Can you open the window, please?

Yes, of course. / I’m sorry …

คุณจะกรุณาเปิดหน้าต่างหน่อยได้ไหม      

ได้เลย / ขอโทษ เพราะว่า …

Can you speak Thai?

Yes, I can. / No, I can’t

คุณพูดภาษาไทยได้ไหม

ได้ พูดได้ / เปล่า พูดไม่ได้

Can you speak Thai, please?

All right. / Sorry, I don’t knowThai.

คุณกรุณาพูดภาษาไทยได้ไหม

ตกลง / ขอโทษ ฉันไม่รู้ภาษาไทย

Will you come tomorrow?

Yes, I will. / No, I won’t.

พรุ่งนี้ คุณจะมาใช่ไหม

ใช่, ฉันจะมา / เปล่า, ฉันจะไม่มา

Will you come tomorrow, please?

Sure. / I’m afraid I can’t.

พรุ่งนี้คุณมาได้ไหม

มาได้ / ฉันเกรงว่า คงมาไม่ได้

-การขอร้องที่ใช้ Do / Would you mind + v-ing เมื่อตอบรับ ใช้รูปเป็นปฏิเสธ คือ Of course not / Certainly not ซึ่งความหมายจริงๆ
ของการขอร้องชนิดนี้ ก็คือ คุณจะรังเกียจไหมที่จะ….คำตอบ ก็คือ เปล่า, ไม่รังเกียจ
ตัวอย่าง
Do you mind opening the window?    No, of courses not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะเปิดหน้าต่าง    ไม่เลย ไม่รังเกียจ
Would you mind helping me with this?    Certainly not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะกรุณาช่วยฉันทำสิ่งนี้   ไม่, ไม่รังเกียจ
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขอร้อง
1. Take a seat
2. Turn off the fan
3. Show how to use it
4. Clean the room
5. Tell the way to somewhere
6. Type the letter
7. Not to be late
8. Pronounce this word
9. Send the letter by post
10. Not smoke in the room
ตัวอย่าง
Take a seat, please.
I want you to take a seat.
I would like you to take a seat.
Can you take a seat, please?
Could you please take a seat?
Do you mind taking a seat?
Take a seat, won’t you?
I wonder if you would take a seat.
โครงสร้างประโยคสำหรับขอร้อง มีดังนี้
Please…………….
………………., please.
I want …………., please.
I would like ……………, please.
Can/Could you ………….., please?
Will/Would
Could/Would you kindly ……………?
Would you be so kind as to …………?
Do/Would you mind ……………?
…………, will you?
…………, won’t you?
What/Who/etc…………, please?
I wonder if you…………….
I wonder if you would mind……………..
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา    

(Visited 257,797 times, 57 visits today)

Table of Contents

[Update] 10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ (PART II) | ฉัน อยาก เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ (PART II)

 

– Why do you want this job? –

– ทำไมถึงอยากได้งานนี้ –

 

คำแนะนำ : คุณควรรู้จักบริษัทที่คุณสมัคร และรู้ถึงข่าวสารล่าสุดที่บอกถึงทิศทางที่บริษัทกำลังจะไป และที่สำคัญคุณต้องรู้ว่าตำแหน่งคุณต้องเข้ามาแก้ปัญหาในด้านไหน

 

สำหรับการตอบคำถามให้ตอบว่า “ทำไมคุณถึงเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้” คุณจะเข้ามาช่วยสร้างอะไรให้กับบริษัท และคุณจะได้อะไรตอบแทนที่นอกเหนือจากตัวเงิน เช่น ความต้องการพิสูจน์ตัวเอง เป็นต้น

 

“I want this job because it emphasizes sales and marketing, two of my greatest skill sets. I know I could bring my ten years of sales and marketing experience to this company, and help you continue your years of growth.”

 

ดิฉันต้องการงานตำแหน่งนี้เพราะมันจะช่วยต่อยอดทักษะด้ายการขายและการตลาดซึ่งเป็นสองทักษะที่ดีที่สุดของดิฉัน ดิฉันเชื่อว่าดิฉันสามารถนำเอาประสบการณ์การขายและการตลาดกว่า 10 ปีที่ดิฉันมีมาใช้กับที่นี่ได้ และช่วยให้บริษัทของคุณมียอดขายเติบโตในทุกๆปีค่ะ

 

“I understand that this is a company on the rise. As I’ve read on your website and in various press releases, you are planning to launch several new products in the coming months. I want ​to be a part of this business as it grows, and I know my experience in product development would help your company as you roll out these products.”

 

ดิฉันเชื่อว่าบริษัทอยู่ในช่วงขาขึ้นนะคะ จากที่ดิฉันได้อ่านข้อมูลจากเว็บไซต์และข่าวต่างๆ ทางบริษัทของคุณมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรายการในเดือนที่จะมาถึงนี้ ดิฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของบริษัทค่ะ และดิฉันรู้ว่าประสบการณ์ทางด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดิฉันมี จะช่วยบริษัทของคุณในเรื่องของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ว่านี้ได้ค่ะ

 

“This job is a good fit for what I’ve been doing and enjoying throughout my career. It offers a mix of short-term projects and long-term goals. My organizational skills allow me to successfully multitask and complete both kinds of projects.”

 

งานนี้เหมาะเจาะกับสิ่งที่ดิฉันทำและดิฉันสนุกกับมันในอาชีพของดิฉันค่ะ มันสร้างโอกาสให้ดิฉันได้ทำโปรเจ็คระยะสั้นและระยะยาวผสมผสานกัน ทักษะการจัดการที่ดิฉันมีนั้นจะช่วยให้ดิฉันสามารถทำทั้งสองอย่างได้สำเร็จลุล่วงค่ะ

 

ข้อควรระวัง : ถึงแม้การตอบว่าเงินเดือนดี สวัสดิการดี หรือบ้านใกล้จะเป็นคำตอบที่แท้จริงในใจคุณ แต่มันไม่ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตัวคุณ อย่าลืมว่าผู้สัมภาษณ์ต้องการวัดทัศนคติในการเรียนรู้ และความมุ่งมั่นในการทำงานของคุณด้วย ฉะนั้นอย่าลืมตอบให้ดู “มีไฟ” ด้วยนะครับ

 

– Why are you leaving or have left your job? –

– ทำไมคุณถึงลาออกหรือกำลังจะลาออกจากงานเก่า –

 

คำแนะนำ : หลายๆบริษัทมักจะถามคุณอยู่แล้วว่าทำไมคุณกำลังจะออกจากงาน หรือคุณออกจากที่เก่าเพราะอะไร ทั้งนี้เพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณลาออกมาเองหรือถูกให้ออกจากงานเนื่องจากความผิดพลาดในการทำงานบางอย่างหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม คำตอบของคุณควรจะทำให้คุณดูดีอยู่ดี ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลอะไรก็ตามนะครับ

 

“จงโฟกัสที่ปัจจุบันและอนาคต มากกว่าประสบการณ์ในอดีต”

 

สิ่งที่คุณสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการหลีกเลี่ยงคำตอบตรงๆ ในเรื่องประสบการณ์การทำงานที่เก่าก็คือการพูดถึง “แพสชั่น” หรือความคาดหวังส่วนตัวของคุณที่มีต่อชีวิตการทำงาน โดยโฟกัสว่างานใหม่นี้จะมอบโอกาสทางการทำงานให้คุณอย่างไรได้บ้างนั่นเอง

 

มาดูตัวอย่างคำตอบกันนะครับ

 

คุณกำลังมองหาความท้าทาย — “I found myself bored with the work and looking for more challenges. I am an excellent employee, and I didn’t want my unhappiness to have any impact on the job I was doing for my employer.” ผมพบว่าผมเบื่องานเดิมและต้องการมองหาความท้าทายใหม่ๆ ผมเป็นลูกจ้างที่ดีนะครับ และผมไม่ต้องการให้ “ความรู้สึกไม่มีความสุข” ของผมนั้นมากระทบกับงานที่ทำที่บริษัทเดิมครับ

 

คุณกำลังมองหาความก้าวหน้า — “There isn’t room for growth with my current employer, and I’m ready to move on to a new challenge.” ผมไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้าในที่ทำงานเดิมเลยครับ และผมเองพร้อมแล้วที่จะเจอความท้าทายใหม่ๆ

 

คุณโดนเลย์ออฟมา — “I was laid off from my last position when our department was eliminated due to corporate restructuring.” ผมถูกให้ออกเพราะแผนกที่ผมทำงานอยู่ถูกยุบ เนื่องจากบริษัทนั้นได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กรครับ

 

คุณมีเหตุผลส่วนตัว — “I’m relocating to this area due to family circumstances and left my previous position in order to make the move.” ผมย้ายมายังที่นี่เนื่องจากสถานการณ์ทางด้านครอบครัวของผมครับ ผมจึงต้องลาออกจากงานเดิมมา

 

คุณคิดว่างานเก่าไม่ใช่งานในฝัน — “I’ve decided that my current work role is not the direction I want to go in my career and my current employer has no opportunities in the direction I’d like to head.” ผมคิดว่างานเก่านั้นไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ผมต้องการจะเติบโต และนายจ้างก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้กับทิศทางที่ผมต้องการจะไปครับ

 

คุณเพิ่งเรียนจบ — “I recently received my degree, and I want to utilize my educational background in my next position.” ผมเพิ่งได้รับปริญญามา และผมต้องการใช้ความสามารถจากพื้นฐานการศึกษาที่ผมมีกับงานใหม่นี้ครับ

 

คุณเบื่อการเดินทาง — “I was commuting to the city and spending a significant amount of time each day on travel. I would prefer to be closer to home.” ผมเคยต้องเดินทางเข้าเมืองและใช้เวลาอย่างมากมายในการเดินทาง ผมจึงอยากที่จะได้ทำงานใกล้บ้านมากขึ้นน่ะครับ

 

คุณโดนให้ออก — “The company was cutting back and, unfortunately, my job was one of those eliminated.” บริษัทเก่าลดต้นทุน และโชคร้ายที่งานของผมก็เป็นหนึ่งตำแหน่งที่โดนโละครับ

 

ข้อควรระวัง : อย่าด่าเจ้านายเก่า! เพราะโลกธุรกิจนั้นเชื่อมโยงกันไปหมด เผลอๆบริษัทเก่าที่คุณลาออกมา กลับกลายเป็นลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์เจ้าสำคัญของบริษัทใหม่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้ ซึ่งผู้สัมภาษณ์คงไม่อยากจ้างคนที่ด่า “ลูกค้าคนสำคัญ” ของเขาอย่างเสียๆหายๆใช่ไหมล่ะครับ

 

– How do you handle stress and pressure? –

– คุณรับมือกับความเครียดและความกดดันอย่างไรบ้าง –

 

คำแนะนำ : คำถามข้อนี้ สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากรู้มากที่สุดคือ “ความเครียดปริมาณมากแค่ไหน ที่จะส่งผลต่อการทำงานของคุณ” และคุณจะจัดการมันได้อย่างไรโดยไม่กระทบกับการทำงานในแต่ละวัน คุณสามารถตอบโดยเล่าถึงสถานการณ์ในอดีตว่าคุณเคยจัดการกับปัญหาที่สร้างความเครียดให้คุณอย่างไรบ้าง คุณอาจบอกว่าเคสที่คุณเล่านั้นได้ทำให้คุณเครียด แต่ความเครียดปริมาณดังกล่าวทำให้คุณรู้สึกตั้งใจทำงานมากขึ้น และทำให้คุณรู้สึกท้าทาย เป็นต้น

 

ถ้าความเครียดที่เคยเกิดขึ้นกับคุณเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นโดยปกติตามเนื้องาน (ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้) คุณไม่ควรกล่าวถึงมันนะครับ เช่น ถ้าคุณสมัครงานตำแหน่งพนักงานขาย แต่คุณบอกผู้สัมภาษณ์ว่าคุณเครียดเวลาต้องคุยกับคนเยอะๆ (อ้าว…) หรือคุณสมัครเป็นโปรเจ็คแมเนเจอร์ แต่ดันไปบอกว่าเครียดเวลาทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน (เอ๊ะ!) แบบนี้คงหมดโอกาสได้งานกันพอดีจริงไหมครับ

 

ตัวอย่างการตอบที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ก็คือ…

 

“I actually work better under pressure, and I’ve found that I enjoy working in a challenging environment.” จริงๆแล้วดิฉันสามารถทำงานได้ดีขึ้นภายใต้ความกดดันนะคะ ดิฉันพบว่าดิฉันนั้นชอบทำงานในสภาวะที่ท้าทายความสามารถค่ะ”

 

“I find that when I’m under the pressure of a deadline, I can do some of my most creative work.” ดิฉันพบว่าเมื่อดิฉันอยู่ในสภาวะที่ถูกกดดันด้วยวันเด้ดไลน์ ดิฉันจะสามารถทำงานได้อย่างมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด

 

หรือจะบอกว่า “I react to situations, rather than to stress. That way, the situation is handled and doesn’t become stressful.” ดิฉันเลือกที่จะจัดการกับสถานการณ์นั้นมากกว่าจะมานั่งเครียดกับมันนะคะ ด้วยวิธีนี้ทำให้ดิฉันควบคุมสถานการณ์นั้นไว้ได้และไม่เกิดเป็นความเครียดค่ะ

 

โดยคุณอาจยกตัวอย่างให้ผู้สัมภาษณ์ฟัง โดยใช้คำว่า “For example”

 

“For example, when I deal with an unsatisfied customer, rather than feeling stressed, I focus on the task at hand. I believe my ability to communicate effectively with customers during these moments helps reduce my own stress in these situations and also reduces any stress the customer may feel.”

 

เมื่อดิฉันต้องดูแลลูกค้าที่รู้สึกไม่พึงพอใจกับสินค้า แทนที่ดิฉันจะเครียด ดิฉันกลับมาโฟกัสที่งานที่ดิฉันต้องแก้ไขมากกว่า ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นว่าความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับลูกค้าของดิฉันนั้น จะช่วยลดความเครียดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และยังทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเครียดไปด้วย

 

แชร์


น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film


หนังสั้น เรื่องราวสะท้อนสังคม เตือนภัยต่างๆ
หนังสั้น ละครสั้น

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film

ทน – SPRITE \u0026 GUYGEEGEE (Live) | Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย


ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่
Youtube : http://www.youtube.com/zensetv
Facebook : https://www.facebook.com/zenseentertainment
Twitter : https://twitter.com/zense_tv
Instagram : https://www.instagram.com/zense_tv
Official Website : http://www.zense.co.th/
Line : @zense_tv
สร้างสรรค์ผลงานโดย บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
Powered by ZENSE Entertainment Co., Ltd.

ทน - SPRITE \u0026 GUYGEEGEE (Live) | Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย

Learned Helplessness รู้สึกสิ้นหวัง จะพยายามไปทำไม ยังไงก็แพ้ …ต้องทำไง? | English Chitchat


ดีใจจัง ที่คุณตั้งใจพัฒนาทักษะ และเก่งขึ้นไปด้วยกัน ! 🧠🌟
อยากมาเรียนออนไลน์ด้วยกัน? 📚 📖
📋 วัดระดับภาษา เพื่อวางแผนการเรียนได้ ที่ selfassessment form ฟรี ! https://www.farangangmor.com/selfassessmentform/
หลักสูตรต่างๆ ของฝรั่งอั่งม้อ
Think in English คิดเป็นภาษาอังกฤษ พูดได้คล่องไม่ต้องท่องจำ
https://www.farangangmor.com/course/thinkinenglish/
พูดฝรั่งได้ดั่งเสก Online Course
https://www.farangangmor.com/course/speaklikemagic/
Conversation สนทนาลื่นไหล มั่นใจร้อยเปอร์
https://www.farangangmor.com/course/conversation/
Pronunciation พูดเหมือนเด๊ะ ออกเสียงเป้ะเวอร์
https://www.farangangmor.com/course/pronunciation/
English for Career Development เรียนอังกฤษ ติดเทอร์โบ พูดได้โปรเติบโตในงานhttps://www.farangangmor.com/course/englishforcareerdevelopment/
Speak Brilliantly Excel at Public Speaking \u0026 Presentation in English พรีเซ้นต์เป็นภาษาอังกฤษ ได้โดดเด่น โดนใจ เป็นมืออาชีพ! https://www.farangangmor.com/course/speakbrilliantly/
Teach English It’s Cool สอนภาษาออนไลน์ได้ด้วยหลักสูตรนี้https://forms.gle/WzX8gZdwyS3QhM7s5_______________________________________________
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ให้ไม่พลาด content แบบนี้📱❤️
Facebook: ฝรั่งอั่งม้อ
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/
IG: farang_angmor
https://www.instagram.com/farang_angmor/
LINE: @farangangmor
https://lin.ee/cjP5cGv
Tiktok: @farangangmor
https://vt.tiktok.com/A5GEg6/
Website: http://farangangmor.com/

Learned Helplessness รู้สึกสิ้นหวัง จะพยายามไปทำไม ยังไงก็แพ้ ...ต้องทำไง? | English Chitchat

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h

กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/

เรียนตอนต่อๆไป
https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk9TP14p0TWjl7bs84Ow1aC
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องฝึกพูด เริ่มต้นฝึกเหมือนเด็กทารกที่ค่อยๆหัดพูดตามพ่อแม่ทีละคำสองคำ เป็นกลุ่มคำ เป็นประโยค จนพูดได้ตามที่ใจนึกอยากจะพูด วิธีการเรียนรู้แบบธรรมชาตินี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ และที่สำคัญไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย แค่ทำความเข้าใจผ่านภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับเสียงที่ได้ยิน เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่เราเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างธรรมชาติ
ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่าย แต่เราอย่าไปทำให้มันยาก
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics

เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)


แม็กซ์มีวิธีเก่งภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ และสนุกๆมาบอกต่อครับ
รับร้องพูดและเก่งได้เลย แต่ต้องทำทุกวันนะ ทำให้สม่ำเสมอ
แม็กซ์เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^
ขอขอบคุณร้านสวยๆ : ON TIME CUISINE ชั้น3 Siamdiscovery
maxedout สอนแต่งตัวผู้ชาย เก่งอังกฤษ
ติดตามกันครับ อัปเดททุกสัปดาห์!!
facebook : https://www.facebook.com/maxedoutstyle/
instagram : https://www.instagram.com/maxedout_style/?hl=th
: https://www.instagram.com/maxdetter_/?hl=th

เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ฉัน อยาก เป็น ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *