Skip to content
Home » [Update] ประเทศไหน ขับรถฝั่งไหน | au ประเทศอะไร – NATAVIGUIDES

[Update] ประเทศไหน ขับรถฝั่งไหน | au ประเทศอะไร – NATAVIGUIDES

au ประเทศอะไร: คุณกำลังดูกระทู้

50 miles away from home

Right Rule (พวงมาลัยซ้าย)
Abu Dhabi
Afghanistan
Albania
Algeria
American Samoa
Andorra
Angola
Argentina
Armenia
Aruba
Austria
Azerbaijan
Azores
Bahrain
Balearic Islands
Belarus
Belgium
Belize
Benin
Bolivia
Bonaire
Bosnia and Herzegovina
Brazil
Bulgaria
Burkina Faso
Burma (officially Myanmar)
Burundi
Cambodia
Cameroon
Canada
Canary Islands
Cape Verde
Central African Republic
Chad
Chile
China, People’s Republic of
Colombia
Comoros
Congo, Democratic Republic of
Congo, People’s Republic of
Costa Rica
Côte d’Ivoire (Ivory Coast)
Croatia
Cuba
Curaçao
Czech Republic
Denmark
Djibouti
Dominican Republic
Dubai
Ecuador
Egypt
El Salvador
Equatorial Guinea
Eritrea
Estonia
Ethiopia
Faeroe Islands
Finland
France
French Guiana
French Polynesia
Gabon (Gabonese Republic)
Gambia
Gaza
Georgia
Germany
Ghana
Gibraltar
Greece
Greenland
Guadeloupe
Guam
Guatemala
Guinea
Guinea-Bissau
Haiti
Holland (officially the Netherlands)
Honduras
Hungary
Iceland
Iran
Iraq
Israel
Italy
Ivory Coast (Côte d’Ivoire)
Jordan
Kazakhstan
Korea, North
Korea, South
Kosovo
Kuwait
Kyrgyzstan
Laos
Latvia
Lebanon
Liberia
Libya
Liechtenstein
Lithuania
Luxembourg
Macedonia
Madagascar
Madeira
Mali
Marshall Islands
Martinique
Mauritania
Mayotte
Mexico
Micronesia, Federated States of Moldova
Monaco
Mongolia
Montenegro
Morocco
Myanmar (formerly Burma)
Netherlands
New Caledonia
Nicaragua
Niger
Nigeria
Northern Mariana Islands
North Korea
Norway
Oman
Palau
Panama
Paraguay
Peru
Philippines
Poland
Portugal
Puerto Rico
Qatar
Réunion
Romania
Russia
Rwanda
Saba
Saint Barthélemy
Saint Martin
Sint Eustatius
Sint Maarten
San Marino
São Tomé and Príncipe
Saudi Arabia
Senegal
Serbia
Sierra Leone
Slovakia
Slovenia
Somalia
Somaliland
South Korea
South Sudan
Spain
Sudan
Sweden
Switzerland
Syria
Tahiti
Taiwan
Tajikistan
Togo
Tunisia
Turkey
Turkmenistan
Ukraine
United Arab Emirates (UAE)
United States of America (USA)
Uruguay
Uzbekistan
Vanuatu
Vatican City
Venezuela
Vietnam
Wallis and Futuna
West Bank
Western Sahara
Yemen

Left Rule (พวงมาลัยขวา)
Anguilla
Antigua and Barbuda
Australia
Bahamas
Bangladesh
Barbados
Bermuda
Bhutan
Botswana
British Virgin Islands
Brunei
Cayman Islands
Channel Islands (Guernsey & Jersey)
Christmas Island
Cocos (Keeling) Islands
Cook Islands
Cyprus
Dominica
East Timor (Timor-Leste)
England
Falkland Islands
Fiji
Great Britain (GB)
Grenada
Guernsey
Guyana
Hong Kong
India
Indonesia
Ireland (Eire)
Ireland, Northern
Isle of Man
Jamaica
Japan
Jersey
Kenya
Kiribati
Lesotho
Macau
Malawi
Malaysia
Maldives
Malta
Mauritius
Montserrat
Mozambique
Namibia
Nauru
Nepal
New Zealand
Niue
Norfolk Island
North Cyprus
Northern Ireland
Pakistan
Papua New Guinea
Pitcairn Islands
Saint Kitts and Nevis 
Saint Lucia
Saint Helena
Saint Vincent and the Grenadines
Samoa
Scotland
Seychelles
Singapore
Solomon Islands
South Africa
Sri Lanka
Suriname
Swaziland
Tanzania
Thailand
Tokelau
Tonga
Trinidad and Tobago
Turks and Caicos Islands
Tuvalu
Uganda
United Kingdom (UK)
United States Virgin Islands
Virgin Islands (British)
Virgin Islands (USA)
Wales
Zambia
Zimbabwe

ที่มา: http://www.worldstandards.eu/

10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรปปี 2016

เว็บไซต์ Numbeo.com ได้ทำการจัดลำดับความปลอดภัยของประเทศต่างๆ จากการทำสำรวจจากผู้ที่เข้าใช้งานในเว็บไซต์ ซึ่งแบบสำรวจเป็นแบบสำรวจที่ได้มีความสอดคล้องตามหลักวิชาการ และแบบการสำรวจของรัฐบาล
และเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ Numbeo จึงนำเสนอ โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็นระดับความปลอดภัยดังนี้

80–100 คะแนน มีความปลอดภัยสูงสุด
60–79.99 คะแนน มีความปลอดภัยสูง
40–59.99 คะแนน มีความปลอดภัยปานกลาง
20–39.99 คะแนน มีความปลอดภัยต่ำ
0–19.99 คะแนน มีความปลอดภัยต่ำมาก

ทั้งนี้ทรายได้รวบรวมประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสุด 10 ประเทศในยุโรปดังนี้

อันดับที่ 10 ประเทศโรมาเนีย

โรมาเนีย เป็นประเทศในทวีปยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตทิศตะวันออกเฉียงเหนือจดประเทศยูเครนและประเทศมอลโดวา ทิศตะวันตกจดประเทศฮังการีและประเทศเซอร์เบีย ทิศใต้จดประเทศบัลแกเรีย โรมาเนียมีชายฝั่งบนทะเลดำ
โรมาเนียจัดเป็นประเทศที่ยังมีความหลากหลายทางธรรมชาติอยู่มาก โดยเฉพาะแถบทรานซิลเวเนียแอลป์ซึ่งมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

อันดับ 9 ประเทศโครเอเชีย

โครเอเชีย เป็นประเทศรูปเสี้ยววงเดือนในยุโรปที่มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลาง และบอลข่าน เมืองหลวงชื่อซาเกร็บ ในประวัติศาสตร์ปัจจุบัน โครเอเชียเคยเป็นสาธารณรัฐในยูโกสลาเวียเดิม แต่ได้รับเอกราชในพ.ศ. 2534 และได้สมัครเพื่อเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในอนาคต หวังว่าพวกเราจะได้ข่าวดีจากการเข้าร่วมเชงเก่นวีซ่าในอีกไม่นานนี้

อันดับ 8 ประเทศฟินแลนด์

ประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก เนื้อที่ราวหนึ่งในสี่ของประเทศฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ในจุดที่เหนือที่สุดของฟินแลนด์ พระอาทิตย์ไม่ตกดินเป็นเวลา 73 วันในช่วงฤดูร้อน และไม่ขึ้นเลยเป็นเวลา 51 วันในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าสภาพอากาศจะแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง แต่ฟินแลนด์ก็เป็นดินแดนในฝันของหลายๆ คน

อันดับ 7 ประเทศเบลารุส (ฺBelarus)

ชื่อเบลารุส อาจจะไม่คุ้นหูพวกเรามากนัก ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกัยรัสเซีย ยูเครน โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย เมืองหลวงของประเทศคือกรุงมินสก์ เบลารุสเป็นประเทศที่ยังไม่รวมอยู่ในกลุ่มเชงเก้น แต่พวกนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็นิยมรวมไว้กับการไปเที่ยวโปแลนด์ และลัตเวียค่ะ

อันดับ 6 ประเทศมอลต้า

มอลตา หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมอลตา เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป ถัดลงมาจากตอนใต้ของประเทศอิตาลี นับเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งหนึ่งในยุโรป มีผู้มาครอบครองและถูกแย่งชิงนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต 
มอลต้าถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอิตาลี่ โดยศิลปะและวัฒนธรรมของมอลต้าจะได้อิทธิพลมาจากอิตาลี่อย่างเห็นได้ชัด

อันดับ 5 ประเทศสโลเวเนีย

ประเทศสโลวีเนียเป็นประเทศบนชายฝั่งทางใต้ของเทือกเขาแอลป์ ในยุโรปกลางตอนใต้ เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรยูโกสลาเวียและได้รับเอกราชมาเมื่อไม่นานนี้
ประเทศสโลเวเนียเป็นประเทศที่สวย เพราะมีพรมแดนบางส่วนติดกับเทือกเขาแอลป์ และเนื่องจากเป็นประเทศเปิดใหม่ ทำให้ผู้คนยังไม่เยอะนัก ธรรมชาติก็ยังคงสวยงามดังที่เห็น

อันดับ 4 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ประเทศนี้ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก สวยตรึงตราระดับโลกอยู่แล้วใช่มั้ยคะ

อันดับ 3 ประเทศเดนมาร์ก

เดนมาร์กเป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีแผ่นดินหลักตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ ทางทิศเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางบกเพียงประเทศเดียว ทางทิศใต้ของประเทศนอร์เวย์ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน 
เดนมาร์กแต่เดิมเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย พื้นที่ตลอดชายฝั่งเป็นสันทรายกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนอื่นเกิดจากธารน้ำแข็งและหนองน้ำแต่ความสวยงามไม่ต้องบรรยายเลยทีเดียว

อันดับ 2 ประเทศเอสโตเนีย

เอสโตเนีย ตั้งอยู่ในภูมิภาคบอลติก ในยุโรปเหนือ มีเมืองหลวงชื่อว่า ทาลลินน์ โดยเอสโตเนียมีจำนวนประชากรของประเทศที่น้อยที่สุดในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป และเนื่องด้วยเป็นประเทศที่เพิ่งประกาศเอกราชมาไม่นาน ทำให้ยังมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวไม่มากนัก สำหรับผู้ที่นิยมดินแดนใหม่ๆ ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

อันดับ 1 ประเทศออสเตรีย

ออสเตรีย ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่เป็นประเทศที่มีทะเลสาบจำนวนมาก และแต่ละทะเลสาบก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ 
ออสเตรียมีพื้นที่ที่ถูกเทือกเขาแอลป์พาดผ่านตั้งแต่กลางประเทศ ทำให้มีธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่งดงาม ที่สำคัญในปี 2016 ออสเตรียยังถูกจัดลำดับให้เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป งานนี้พลาดไม่ได้จริงๆ

และถ้าเพื่อนๆ สนใจประเทศอื่นๆ สามารถดูลำดับความปลอดภัยได้ดังนี้เลยค่ะ

ไว้มาติดตามเรื่องราวน่าสนใจกันใหม่นะคะ

พูดคุยอัพเดทกันได้ที่ www.facebook.com/50milesawayfromhome

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงปวดหัวไม่น้อยกับการทำ Tax Refund ที่ยุโรป 
เพราะความซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่
ทำให้บางครั้งเพื่อนๆ อดได้รับภาษีคืนจากการซื้อสินค้า

วันนี้ทรายรวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้มีวิธีการทำ Tax Refund ในยุโรปค่ะ

Tax Refund คืออะไร

Tax Refund ที่เราเข้าใจกับก็คือ VAT Refund ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Value added Tax Refund โดย

Value added Tax หมายถึงภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคหน่วยสุดท้ายซึ่งเป็นผู้บริโภคที่อยู่ในอาศัยในเขต/ในประเทศนั้นๆ

ส่วนคำว่า Refund หมายถึง การเรียกคืน

ดังนั้น VAT Refund จึงหมายถึงการขอเรียกคืนภาษีมูลค่าเพิ่มคืนจากประเทศ
หรือเขตนั้นๆ เนื่องจากเราไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัย หรือเป็นพลเมืองของประเทศ/เขตนั้น

ใครบ้างคือผู้ที่สามารถเรียกคืนภาษีชนิดนี้ได้

ในข้อกำหนดของสหภาพยุโรปกำหนดว่าผู้ที่จะสามารถขอคืนภาษีได้นั้นจะต้องเป็น “Visitor” ซึ่งหมายถึงผู้มาเยี่ยมเยียน ซึ่งต้องมีถิ่นพำนักอาศัยอย่างถาวรในประเทศอื่นนอกเหนือจากเขตสหภาพยุโรป/หรือประเทศนั้นๆ

ซึ่งสิ่งที่สามารถแสดงถึงการเป็น Visitor ก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน พาสปอร์ตในมือเราๆท่านๆนั้นเอง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจากเมืองไทยส่วนใหญ่ (นักเรียน/การมีสามีภรรยาอยู่ที่นู้นอาจไม่นับเป็น Visitor) จึงจะได้รับสิทธิ์จากขอคืนภาษีชนิดนี้ได้

ขั้นตอนการขอคืนภาษี Tax Refund

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากปวดหัวสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้มีอะไรเลย การทำความเข้าใจกับระบบการขอคืนภาษีก่อนจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขอคืนภาษีนี้มี 3 ฝ่ายด้วยกัน

ร้านค้า แบรนด์ ห้างสรรพสินค้าที่ขายของให้เรา กลุ่มนี้จริงๆมีหน้าที่เพียงขายสินค้าให้เราค่ะ แต่เนื่องจากเราเสียภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านร้านค้าเหล่านี้ พวกเขาจึงจะต้องมีการติดต่อ Tax operator (ผู้ดำเนินงานด้านภาษี) ให้เป็นตัวแทนในการคืนภาษีให้เราตามขั้นต่ำการซื้อที่ประเทศนั้นๆกำหนดไว้ ดังนั้นเมื่อเราซื้อสินค้าผ่านร้านค้าที่สามารถขอคืนภาษีได้ เราจะได้รับ Tax Refund Form เก็บใบนี้ไว้ให้ดี โดยเราจะต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน

ร้านค้า แบรนด์ ห้างสรรพสินค้าที่ขายของให้เรา กลุ่มนี้จริงๆมีหน้าที่เพียงขายสินค้าให้เราค่ะ แต่เนื่องจากเราเสียภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านร้านค้าเหล่านี้ พวกเขาจึงจะต้องมีการติดต่อ Tax operator (ผู้ดำเนินงานด้านภาษี) ให้เป็นตัวแทนในการคืนภาษีให้เราตามขั้นต่ำการซื้อที่ประเทศนั้นๆกำหนดไว้ ดังนั้นเมื่อเราซื้อสินค้าผ่านร้านค้าที่สามารถขอคืนภาษีได้ เราจะได้รับ Tax Refund Form เก็บใบนี้ไว้ให้ดี โดยเราจะต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน

2. Tax Operator ผู้ดำเนินงานด้านภาษี กลุ่มนี้จะเป็นตัวกลางที่ดูแลการคืนภาษีให้เรา โดยเจ้าที่ดังๆได้แก่ Global Blue, Premier Tax Free เป็นต้น โดย Tax Operator เหล่านี้มีผลยังไงกับเรา มีผลสิ เพราะ Tax Refund Form ที่เราได้รับจากร้านค้าเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะต้องไปขึ้นเงินคืนอย่างไร ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีข้อกำหนดในการขึ้นเงินไม่เหมือนกัน เช่น Global Blue มักจะมีเค้าเตอร์ที่สนามบิน ทำให้เราสามารถไปขึ้นเงินสดได้เลย แต่ Premier Tax Free ก็จะต้องไปขึ้นเงินที่ธนาคารในสนามบิน หรือ เจ้าอื่นๆ อาจจะไม่มีเค้าเตอร์ที่สนามบินนั้นๆ เราจึงต้องส่ง Tax Refund Form ในกล่องรับ หรือ ตู้จดหมาย และจะได้การคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเท่านั้น นอกจากนี้ Tax Operator แต่ละเจ้าจะมีค่าธรรมเนียมในการคืนภาษีที่แตกต่างกันอีกด้วย

3. เจ้าหน้าที่ศุลกากร (Customs) พี่ใหญ่ของเราในกระบวนการคืนภาษี Customs เป็นผู้มีหน้าที่ในการยินยันว่าสินค้าที่จะขอคืนภาษีนั้นได้ถูกส่งออก หรือ นำไปใช้นอกเขตภาษีนั้นๆ จริง ซึ่งเราจะต้องได้รับ Customs Stamp ลงบน Tax Refund Form เท่านั้น เราถึงจะได้รับภาษีคืน

สามารถสรุปง่ายๆ ได้ว่าในกระบวนการคืนภาษีจะต้องมี Tax Refund Form + Customs Stamp และเราถึงจะได้เงินคืน

ความยุ่งยากอยู่ตรงไหน?

ดูแล้วเหมือนไม่ยุ่งใช่ไหมคะ แต่จริงๆแล้วความยุ่งยากมีอยู่ 2 จุดค่ะ

1.กระบวนการ Customs Stamps เพราะแต่ละประเทศ หรือประเทศเดียวกันแต่คนละสนามบิน ก็มีกระบวนการตรวจสอบเพื่อทำ Customs Stamp ไม่เหมือนกัน บางทีเช็คอินก่อน บางทีทำก่อนเช็คอิน บางที่ต้องเข้าไปทำหลัง Passport Control ยุ่งยากไปหมด

2. การรับเงินคืน จริงๆแล้วการรับเงินคืนจะแตกต่างกันไปในแต่ละ Tax Operator บางบริษัทมีเค้าเตอร์ บางบริษัทต้องใส่กล่องคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามส่วนนี้เราสามารถอ่านการคืนเงินได้ที่ซองจดหมายที่ใส่ Tax Refund Form ที่ได้จากร้านค้าค่ะ ในกรณีที่เครื่องจะขึ้นอยู่แล้ว วินาทีสุดท้ายแล้วยังไงก็ไม่ได้เงินสดคืน ทรายแนะนำให้กรอกรายละเอียดทั้งหมดใน Tax Refund Form ที่ได้รับการ Stamp แล้ว ปิดผนึก หาตู้ Tax Operator เจ้านั้นๆ หรือ Post box (ตู้ไปรษณีย์) เพื่อใส่เอกสารลงไป ถ้าหาไม่เจอจริงๆ (เอาแบบพยายามแล้วนะคะ) ทรายแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากพนักงานสายการบินให้ช่วยส่งเอกสารให้หน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่งลงกล่องด้วยมือตัวเองก็จะปลอดภัยที่สุด จากนั้นเอกสารเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ Tax Operator และ Tax Operator ก็จะคืนเงินเข้าบัตรเครดิตเราให้ค่ะ

ทรายสรุปวิธีการขอคืนภาษีประเทศต่างๆ ในยุโรปมาให้ค่ะ

สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มเลงเก้น แต่อยู่นอกกลุ่ม EU นะคะ ดังนั้นต้องระวังเรื่องการ Refund สินค้าจากประเทศ EU ค่ะ

เพิ่มเติมให้สำหรับคำถามยอดฮิตค่ะ

Q: เราสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าโดยที่หักภาษีส่วนนี้ไปแล้วได้หรือไม่

A: ทรายไม่แน่ใจว่ามีประเทศอื่นๆ ในโลกที่ทำได้หรือไม่นะคะ แต่สำหรับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปไม่ได้ค่ะ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องการันตีว่าสินค้าที่จะขอคืนภาษีนั้นถูกส่งออกไปใช้นอกเขตจริง ดังนั้น Customs จะเป็นผู้ตรวจสอบตรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว Customs ก็จะอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน สถานีรถไฟก่อนออกนอกเขต หรือสนามบินอยู่แล้วค่ะ

Q: ทุกร้านค้าที่เราซื้อสินค้าหรือใช้บริการสามารถขอ Tax Refund ได้ใช่ไหมคะ

A: ไม่ใช่ค่ะ ต้องเป็นร้านค้าที่มีการติดต่อ Tax Operator เพื่อดำเนินการภาษีให้แก่ลูกค้า วิธีสังเกตว่าร้านค้าไหนสามารถขอคืนภาษีได้จะมีป้าย Tax Free หรือ ป้ายของ Tax Operator อยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ร้านใหญ่ๆก็จะสามารถคืนภาษีได้ค่ะ ถ้าไม่แน่ใจเมื่อเข้าร้านให้ถามพนักงานก่อนเลยค่ะ ทั้งนี้เราสามารถขอคืนภาษีได้เฉพาะสินค้าเท่านั้นนะคะ การบริการไม่สามารถขอคืนภาษีได้ค่ะ

Q: แต่ละประเทศมีเงื่อนไขการรีฟันขั้นต่ำที่เหมือนกันหรือไม่

A: ไม่เหมือนค่ะ แต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดมูลค่าสินค้าขั้นต่ำที่จะได้รับรีฟันคืน ตัวอย่างเช่น ประเทศเยอรมนีมีขั้นต่ำอยู่ที่ 25 ยูโร ประเทศฝรั่งเศส 175.01 ยูโร ทั้งนี้มูลค่าสินค้าขั้นต่ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของประเทศนั้นๆค่ะ

Q: กระบวนการขอ Tax Refund ของทุกสนามบินจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไหม

A: ไม่ค่ะ กระบวนการขอ Tax Refund มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น สนามบินชาเดอโกลของฝรั่งเศสได้นำอิเล็กทรอนิกส์ชื่อ Pablo มาแสกนบาร์โค้ดของ Tax Refund Form เพื่อทดแทนงาน Customs Stamp ค่ะ ดังนั้นเราจึงควรติดตามประกาศวิธีการขอ Tax Refund จากสนามบินที่เราเดินทางออกได้ที่เว็บไซต์ของสนามบินนั้นๆ ค่ะ

จบแล้วนะคะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมติดตามต่อได้ที่

https://www.facebook.com/50milesawayfromhome

#50Milesawayfromhome

เชื่อว่าหลายคนคงขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ซิมก็ไม่มี พูดก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง กระเป๋าก็ต้องรอ รูปก็ต้องอัพ
ยิ่งเวลาที่เราจะต้องรอต่อเครื่องนานๆ การมีอินเตอร์เน็ตก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

วันนี้ทรายรวบรวมสนามบินที่มีให้บริการ Free wifi มาให้เพื่อนๆ 
จริงๆ แล้วปัจจุบันสนามบินแทบจะทั้งหมดจะให้บริการ Free Wifi โดยจะใช้ชื่อเครือข่ายเป็นชื่อเดียวกับสนามบิน

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อนๆจะต้องระมัดระวังการใช้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีเหล่านี้ โดยเฉพาะ Wifi ที่มีชื่อเครือข่ายว่า “ Free Public Wi-Fi” เพราะอาจถูกโจรกรรมข้อมูลได้

เริ่มต้นที่ประเทศไทย มีให้บริการแล้ว 6 สนามบิน จ้าา

Suvarnabhumi AirportDon Mueang International AirportChiang Mai International AirportMae Fah Luang Chiang Rai International AirportPhuket International AirportHat Yai International Airport

เอเชีย
1. ประเทศญี่ปุ่น 
Narita Airport — Narita
Kansai Airport — Osaka
Haneda Airport — Ota
New Chitose Airport — Sapporo
ANA lounges — request free WEP key

2.เกาหลีใต้
 Incheon International Airport — Seoul
Gimpo International Airport — Seoul

3. ฮ่องกง และมาเก๊า
Hong Kong International Airport — Hong Kong
Chek Lap Kok Airport
Macau International Airport — Taipa

4. สิงคโปร์
Changi Airport — near free computers

5. เวียดนาม
Tan Son Nhat International Airport — Ho Chi Minh City

6. มาเลเซีย 
Kuala Lumpur Int. Airport

7. จีน
Beijing Capital Airport Term. 3 departure area, after security — Beijing
Airport — front of ticket counters — Changsha, Hunan

8. ไต้หวัน
Chiang Kai-Shek International Airport — Terminal 2
Taoyuan International Airport, terminal 2, arrival hall 1F — Taoyuan

9. อินโดนีเซีย
Denpasar Airport — Bali
Soekarno-Hatta Int. Airport — Jakarta
Yogyakarta Airport — Java

10. ภูฏาน
Paro International Airport

11. บรูไน
Brunei Int. Airport — Bandar Seri Begawan

11. ฟิลิปปินส์
Mactan Airport — Lapu Lapu City
Manila Int. Airport — smoking area — Luzon

12. ศรีลังกา
Sri Lankan Airways Business Class lounge area — Columbo International Airport

13. อินเดีย
Bangalore International Airport — Bangalore
Hyperabad Airport — Hyperabad
Madurai, Tiruchi and Coimbatore airports in Tamil Nadu State
Mumbai International Airport/Chhatrapati Shivaji International Airport
Indira Gandhi Airport — New Delhi

ยุโรป
1. สาธารณรัฐเชค (Czech Republic)
Airport Brno — Brno
Leos Janacek Ostrava Airport — Mosnov
Prague Airport — restricted speed, higher speed fee based — Prague

2. เดนมาร์ก (Denmark)
Aalborg Airport — Norresundby

3. ฟินแลนด์ (Finland)
Helsinki-Vantaa Airport — Vantaa

4. ฝรั่งเศส (France)
Merignac Airport — Bourdeaux
Nice Airport — Nice
Charles-de-Gaulle Aiport — 15 minute limit — Paris
Strasbourg Airport — Strasbourg

5. เยอรมันนี (Germany)
Frankfurt Airport — 30 free minutes with access code — Frankfurt

6. กรีซ (Greece)
Athens Int. Aiport — 45 min. limited access — Athens

7. ฮังการี (Hungary)
Budapest Ferihegy Int’l Airport — Terminals 2A and 2B — free network is Pannongsm — Budapest

8. ไอร์แลนด์ (Ireland)
Cork Airport — departure lounge — Cork
Dublin Airport — Dublin
Shannon Airport — main cafe upstairs and also the departure lounge in front of US immigration — Shannon

9. อิตาลี่ (Italy)
Bologna Airport — Bologna
Turin Airport — Turin

10 ลัตเวีย (Latvia)
Riga Airport for Baltic Miles members(free)

11. ลิทัวเนีย (Lithuania)
Vilnius International Airport — Vilnius

12. ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
Luxembourg International Airport

13. มัลต้า (Malta)
Malta International Airport — Luqa

14. เนเธอร์แลนด์/ฮอล์เลนด์ (Netherlands)
Schiphol International — 1 hour per day — Amsterdam

15. นอร์เวย์ (Norway)
Gardemeon Airport — Oslo
Torp Airport — Sandefjord

16. โปแลนด์ (Poland)
Warsaw Chopin Airport — covers Terminal A (the entire restricted area, VIP and Executive Lounges, as well as the public access area), along with the General Aviation Terminal, 30 free minutes

17. โปรตุเกส (Portugal)
Faial Island Airport — bar area — Horta -Azores
Madeira Island Airport — Madeira Island

18. โรมาเนีย (Romania)
Baia Mare Airport — Tautii Magheraus
International Airport Traian Vuia — Timisoara

19. ดินแดนสองทวีปรัสเซีย (Russia)
Sheremetyevo-2 (SVO) Airport — departure terminal, waiting hall, cafes and vip-halls — Moscow

20. สโลวาเกีย (Slovakia)
Bratislava Airport — Bratislava

21. สโลวีเนีย (Slovenia)
Ljubjana Airport — Ljubjana

22. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
Geneva (Cointrin) International Airport — access code sent via SMS — Geneva

23. ตุรกี (Turkey)
Ataturk Airport — Millenium Lounge access for several airline Club members — Istanbul
Izmir Adnan Menderes Airport

24. สหราชอาณาจักร/อังกฤษ (UK)
British Airways’ lounges at Heathrow, Gatwick, Manchester, Newcastle, Edinburgh, Glasgow, Aberdeen and Jersey have Free Wi-Fi.
Bristol Airport — Bristol
London City Airport — London
Stansted Airport

22. โครเอเชีย
Split Airport — Split

23. ยูเครน (Ukraine)
Kyiv Boryspil International Airport — Boryspil
Odessa Airport -Odessa

24. คาซัคสถาน (Kazakhstan)
Internation Airport — Almaty

แถมประเทศแถบตะวันออกกลางที่มีสายการบินระดับโลกมากมาย
1. ดูไบ (Dubai)
Dubai International — Food Court and other ares — Dubai

2. กาต้า (Qutar)
Doha International Airport

3. United Arab Emirates
Abu Dhabi International Airport
Dubai International Airport

4. อียิปต์ (Egypt)
Hurghada Airport — before visa control — Hurghada
Sharm El Sheik International Airport

5. อิหร่าน (Iran)
Imam Khomeini International Airport — Tehran

6. ปากีสถาน (Pakistan)
Jinnah International Airport — Karachi

ขอเวลาสักพัก ฉันกำลังมีความรักที่ +4,810 เมตร

บางครั้งเราก็ตามหาความหมายของชีวิตผ่านการเดินทาง

ฉันไม่รู้ว่านิยามความสุขของคนเราเหมือนกันมากน้อยเพียงไร
ฉันคิดว่า ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่มีความฝันหลายๆอย่าง
อยากขายบะหมี่ อยากเลี้ยงแพนกวินกับนกเป็ดน้ำ 
อยากมีความสุขในทุกๆวัน 
ที่สำคัญ”ฉันอยากเดินทางรอบโลก”

การเดินทางครั้งนี้ของฉันมีฝรั่งเศสเป็นจุดหมาย
“ฝรั่งเศสเมืองน้ำหอม”
ได้ยินชื่อก็หอมฟุ้งมาแต่ไกล

เมื่อพูดถึงฝรั่งเศส 
หลายๆคนคงนึกถึงหอไอเฟล หลุยส์วิตตอง มาการอง ไปจนถึงช็องเซลีเซ
แต่ด้วยความที่ฉันไม่ค่อยสันทัดเรื่องแบรนด์เนมมากนัก 
บวกกับความรักธรรมชาติที่มีอยู่เป็นทุนเดิม
นั่นทำให้เป้าหมายของฉันค่อนข้างชัดเจน
และแน่นอนว่าเป้าหมายของฉันไม่ใช่ 
ปารีส…

ฉันเดินทางออกจากปารีสด้วยรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง มาแวะพักที่เมืองอานน์ซี (Annecy) และใช้รถไฟท้องถิ่นต่อไปยังจุดหมายของเรา ใช้เวลาอีกเกือบ 3 ชั่วโมง
ในที่สุดฉันก็มาถึง
…ชาโมนิกซ์…

เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) เป็นที่ตั้งของมองบลังค์ (Mont Blanc) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป 
มองบลังค์เป็นชื่อยอดเขาหนึ่งซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาที่ยิ่งใหญ่แห่งยุโรป 
เทือกเขาแอลป์ทอดยาวมาตั้งแต่ประเทศสโลวีเนียจนจบที่ประเทศฝรั่งเศส
เทือกเขาแอลป์มีความสวยงามดั่งภาพวาด

ฉันตกหลุมรักเทือกเขานี้มานานแล้ว
และหวังว่าสักวันฉันจะไปพบกับจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขานี้ให้ได้

มองบลังค์มีความสูงอยู่ที่ 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เป็นจุดที่ได้รับการยอมรับว่าสูงที่สุดในทวีปยุโรป
อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับความสูงเพียงเท่านี้ เมื่อเทียบกับแชมป์ของทวีปอื่นนับว่าเด็กๆ
แต่สำหรับฉัน 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน

ฉันเดินทางมาถึงชาโมนิกซ์ตั้งแต่เช้าตรู่
ฉันมีกำหนดการอยู่ที่นี่เพียง 2 วัน เพราะต้องนั่งรถไฟต่อไปเมืองอื่น
วันแรกที่เราไปถึงอากาศดีมากๆ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบ 2 องศา 
หนาวจนมือหูหลุด!
แต่ท้องฟ้าสดใสมากไม่เคยเห็นแสงอาทิตย์ที่ไหนใสขนาดนี้มาก่อน
ด้วยใบหน้าและรอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่อง
ฉันมั่นใจว่าต้องได้ขึ้นกระเช้าเจอมองบลังค์แน่ๆ
เดินไปซื้อตั๋วที่เค้าเตอร์ตอนประมาณสิบโมง 
พนักงานบอกว่า Close for wind, information at 11.00
ตอนแรกก็งง หมายความว่าไง?
คุยกันจนเข้าใจว่าข้างบนลมแรงมาก
ขึ้นไม่ได้!!!
น้ำตาแทบเล็ด เพราะเค้าบอกว่าต้องดูสภาพอากาศวันต่อวันเท่านั้น
ทำอะไรไม่ได้ คงเหลือแค่ไหว้พระขอพร
เพราะมีเวลาอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว พรุ่งนี้ต้องลุ้นเอาว่าจะได้ขึ้นหรือป่าว

เวลานั้นเดินกลับโรงแรมไปตั้งหลักระหว่างที่นั่งพักได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
เริ่มนับหนึ่งและทบทวนทฤษฎีที่ว่าด้วยการพบกันของคนเรานั้นเกิดขึ้นเพราะโชคชะตา
ดังนั้นการจะได้เจอสิ่งที่อยู่ในฝันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อย่างการขึ้นกระเช้าไปดูมองบลังค์ พกตังมาอย่างเดียวไม่พอ
ต้องพกดวงมาด้วย

สรุปวันนั้นอากาศไม่ดี กระเช้าขึ้นมองบลังค์จึงปิดทั้งวัน
ได้แต่นั่งลุ้นว่าพรุ่งนี้อากาศจะดีพอ กระเช้าจะเปิดได้รึป่าว
ในใจก็อึดอัดมาก ถ้าปีนขึ้นไปเองได้ คงปีนไปแล้ว
ติดอยู่ตรงที่กลัวตาย เลยตัดสินใจว่ารอกระเช้าพรุ่งนี้ก็ได้

วันนั้นเราก็ได้แต่เดินเล่นลัดเลาะไปมาในเมืองท่ามกลางหุบเขา
ไม่มีใครบอกได้ว่าพรุ่งนี้ ฟ้าจะเปิด อากาศจะเป็นใจหรือป่าว
หรือว่าเรา จะไม่ได้เจอกันจริงๆ

และแล้ว…
ด้วยบุญกุศลนำพา
วันรุ่งขึ้นฟ้าฝนเป็นใจ
รายงานสภาพอากาศว่าวันนี้กระเช้าเปิด ขึ้นได้
รีบกุลีกุจอแต่งองค์ทรงเครื่องให้พร้อมขึ้นไปเผชิญความหนาวระดับติดลบ
ตีตั๋ว 57 ยูโรขึ้นกระเช้าไปอย่างมีความสุข 
แว็บแรกที่เห็นกระเช้าลงมารับน้ำตาแทบไหล ดีใจจนพูดไม่ถูก…

ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราเจอกัน

เขาว่ากันว่า บนยอดเขาอากาศมันเบาบาง
แต่ฉันเชื่อว่า
คนที่ชอบยอดเขาสูงแบบฉัน
การขึ้นที่สูงทำให้หายใจได้เต็มปอด

วันนี้ฉันขึ้นไปพบเธอแล้วที่ความสูง 4,810 เมตร
และสักวันฉันจะไปให้ถึงเอเวอเรสต์

ติดตามเรื่องราวการเดินทางอื่นๆได้ที่: https://www.facebook.com/50milesawayfromhome/

Similar Posts by The Author:

[Update] – ข้อควรรู้ก่อนที่จะมาประเทศออสเตรเลีย THINGS YOU SHOULD KNOW BEFORE COMING TO AUSTRALIA -EMPOWER | au ประเทศอะไร – NATAVIGUIDES

ข้อมูลต่างๆที่ควรรับรู้สำหรับคนทำงานบริการที่ควรรู้ก่อนที่จะมาที่ประเทศออสเตรเลีย

การเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย Arriving Australia

ก่อนอื่นมารู้จักกับพวกเรากันก่อน
เอ็มพาวเวอร์ (empower) คือมูลนิธิของพนักงานบริการเพื่อให้ได้มีโอกาสและมีทางเลือกในด้านการศึกษา อาชีพ สุขภาพ และสิทธิต่างๆ ที่พนักงานบริการจะได้รับ เพื่อให้เท่าเทียมกันกับอาชีพอื่นๆ

สการ์เล็ท อไลอันซ์ (Scarlet Alliance) คือ สมาคมของคนทำงานบริการในประเทศออสเตรเลีย องค์กรของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดความเสมอภาค สร้างความยุติธรรมด้านสังคม ด้านกฎหมาย ด้านสุขภาพ ด้านการเมือง ด้านวัฒนธรรม และด้านรายได้แก่คนทำงานบริการทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้คนทำงานบริการมีสิทธิในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเอง, เสริมสร้างสมาคมเครือข่ายของตน และเลือกสถานที่ที่ทำงานหรือวิธีการทำงานได้ด้วยตนเอง องค์กรของเราเป็นตัวแทนเพื่อการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนทำงานบริการในระดับชาติ สมาชิกของสการ์เล็ท อไลอันซ์ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศออสเตรเลีย องค์กรของเราเป็นปากเสียงในการต่อต้านการเลือกปฏิบัติและการประณามคนทำงานบริการ

เมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลีย ท่านต้องแสดงหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าที่กรอกเรียบร้อยแล้วแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนก่อนที่จะไปรับกระเป๋า จากนั้นให้ไปยังจุดตรวจศุลกากรฯและด่านกักกัน และทำตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้า
When you arrive Australian you have to have a valid passport and arrival form and show to the counsel officer
เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้าอาจทำการเอ็กซเรย์หรือตรวจค้นสัมภาระของท่านเพื่อตรวจหาสินค้าต้องห้าม สินค้าต้องกำจัด หรือสินค้าที่ต้องเสียภาษีอากร และอาจมีคำถามที่ต้องถามท่าน.

ก่อนอื่นมารู้จักกับพวกเรากันก่อนเอ็มพาวเวอร์คือมูลนิธิของพนักงานบริการเพื่อให้ได้มีโอกาสและมีทางเลือกในด้านการศึกษา อาชีพ สุขภาพ และสิทธิต่างๆ ที่พนักงานบริการจะได้รับ เพื่อให้เท่าเทียมกันกับอาชีพอื่นๆสการ์เล็ท อไลอันซ์คือ สมาคมของคนทำงานบริการในประเทศออสเตรเลีย องค์กรของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดความเสมอภาค สร้างความยุติธรรมด้านสังคม ด้านกฎหมาย ด้านสุขภาพ ด้านการเมือง ด้านวัฒนธรรม และด้านรายได้แก่คนทำงานบริการทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้คนทำงานบริการมีสิทธิในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเอง, เสริมสร้างสมาคมเครือข่ายของตน และเลือกสถานที่ที่ทำงานหรือวิธีการทำงานได้ด้วยตนเอง องค์กรของเราเป็นตัวแทนเพื่อการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนทำงานบริการในระดับชาติ สมาชิกของสการ์เล็ท อไลอันซ์ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศออสเตรเลีย องค์กรของเราเป็นปากเสียงในการต่อต้านการเลือกปฏิบัติและการประณามคนทำงานบริการเมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลีย ท่านต้องแสดงหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าที่กรอกเรียบร้อยแล้วแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนก่อนที่จะไปรับกระเป๋า จากนั้นให้ไปยังจุดตรวจศุลกากรฯและด่านกักกัน และทำตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้าWhen you arrive Australian you have to have a valid passport and arrival form and show to the counsel officerเจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกักกันสินค้าอาจทำการเอ็กซเรย์หรือตรวจค้นสัมภาระของท่านเพื่อตรวจหาสินค้าต้องห้าม สินค้าต้องกำจัด หรือสินค้าที่ต้องเสียภาษีอากร และอาจมีคำถามที่ต้องถามท่าน.

คำแนะนำ Suggestion
1. กรอกแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าขณะที่ท่านยังอยู่บนเครื่องบิน – จะช่วยท่านประหยัดเวลา เมื่อเครื่องจอด
2. เตรียมหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้าไว้ให้พร้อมเพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดน
3. สำแดงสินค้าทุกรายการที่เป็นยาและเวชภัณฑ์ อาหาร พืช และสินค้าจากสัตว์ หรือสินค้าอื่นที่ระบุไว้ในส่วนของสินค้ากักกัน ไว้ในแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้า
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านทราบปริมาณของสินค้าปลอดอากรที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนอนุญาตให้นำเข้าก่อนที่จะเริ่มการซื้อสินค้า.

การจำกัดจำนวนของเหลว แก๊ส และเจล(LAGs) The limitation of liquid, gas or gel.
เที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออกของประเทศออสเตรเลียใช้ข้อบังคับการตรวจหาของเหลว สเปรย์ และเจล (LAGs) ทุกเที่ยวบิน

ไม่มี Passport ก็ไปไม่ได้ … ต้องทำ passport ก่อนนะ

พาสปอร์ต (Passport) คือหนังสือเดินทางที่จะยืนยันว่าเราเป็นคนไทย เรามีชื่อ มีอายุ เท่าไหร่ เพศนี้ ทุกคนไทยมีสิทธิ ทำ พาสปอร์ต เมื่อเรามีอายุ 20 ปีขึ้นไป ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปี พ่อ แม่ต้องทำให้เรา

เอกสารที่จะต้องใช้ในการทำ พาสปอร์ต ต้องมี
1. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน
2. ถ้าเคยเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุลเราต้องมีใบเปลี่ยนชื่อเอาไปด้วย
3. ถ้าคุณมีใบสมรส หรือใบหย่าก็ให้เอาไปด้วยนะ
4. อย่าลืมเอาใบสำเนาทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนาเอกสารไปทุกอย่างนะ
5. ค่าจ่ายประมาณ 1,200 บาท 1,800 บาท

มีหลายที่ให้เราเลือกทำ โทรถาม กองหนังสือเดินทาง เบอร์โทร (02) 9817170 หรือโทรถามที่เอ็มพาวเวอร์ ใช้เวลาประมาณ 7 วัน หรือหนึ่งอาทิตย์ ที่เขาจะออกให้เรา
เขาถ่ายรูปเราด้วยที่นั่นเพราะฉะนั้นให้เอาเครื่องสำอางไปด้วยนะถ้าอยากสวย

มี Passport แล้วต้องไปขอวีซ่า visa
การขอ visa คือ ขออนุญาตจะเข้าประเทศ ต้องไปขอที่ตึกไทยซีซี ทาวเวอร์ไปยื่นขอแบบฟรอม์ที่นี่แล้วเขาจะส่งไปให้สถานทูตจัดการเอง

จริงๆ คนที่ถือสัญชาติออสเตรเลียต้องการเข้าประเทศไทยไม่เกิน30วันไม่ต้องขอวีซ่าแต่ถ้ามีแผน ที่จะอยู่นานกว่านั้นให้ขอที่สถานทูตไทยในออสเตรเลียเลย แต่เราต้องไปขอก่อนออกเดินทางเข้าประเทศ ส่วนคนที่มีวีซ่า ผู้ที่อยู่อาศัยถาวรแต่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเข้าออกได้ตามสบายโดยไม่ต้องขอวีซ่า

ประเทศ ออสเตรเลีย เหมือนๆกับหลายประเทศ เขากลัวอยู่ 3 เรื่อง คือ
1.กลัวเราถูกหลอกไปขายหรือทำงานเหมือนกับทาส
2. กลัวเราไปเที่ยวแต่แอบไปทำงาน
และ 3.กลัวว่าไปแล้วไมยอมกลับ … ที่เรารู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย!

แต่อย่างไรก็ตามเราต้องทำให้เขามีความมั่นใจว่าปลอดภัยและสมัครใจไปเอง ตามกฎของวีซ่าเราจะต้องกลับบ้านตรงเวลาที่กำหนดแน่ๆ เขาต้องมั่นใจว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้บ้างและถ้าเรามีความมั่นใจเต็มที่ ว่าเราเป็นคนดี เรามีสิทธิที่จะขอไปได้ทุกที่ และดีถ้าเรารู้ข้อมูลบ้างเกี่ยวประเทศออสเตรเลีย ไม่ได้ไปมือเปล่าๆ

แต่เขามีความมั่นใจกับ เอกสารด้วย ก่อนไปขอเราต้องเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ไม่ยากนะเพี่อนๆ เราทำเองได้เลย

ครั้งแรกตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวเท่านั้นหรืออยากจะไปหาที่ เรียน หรือ อยากทำงานด้วยไม่ผิดกฏวีซ่า ถ้าทำผิดกฏวีซ่าและถ้าถูกจับเค้าจะเอาเราไปไว้ที่สถานกักกันและต้องมีการส้มภาษณ์โดยเราต้องขอล่ามแปลและถ้าเรามีตั๋วเครื่องบินพร้อมก็ไม่ต้องอยู่ในนั้นนานขอทำเรื่องกลับบ้านได้เลยและอีก 2-3 ปีให้หลังก็สามารถกลับมาได้อีกไม่ว่าทำเรื่องแต่งงานหรือมาเที่ยวและที่ได้ยินมาทางสถานกักกันเค้าอาจคิดค่าอยู่ในนั้นเป็นจำนวนเงินเท่าไรไม่รู้ ถ้า เขาคิดว่าเราถูกหลอกไปหรือเขาเรียกว่า ถูกค้ามนุษย์ Trafficking เขาอาจจะใช้กฏหมายการค้ามนุษย์ได้ เราไม่ผิดอะไร ไม่เสียค่าปรับ แต่ต้องรอที่จะเป็นพยานในศาลก่อน ในขณะที่รอเพื่อเป็นพยานเค้าจะมีที่อยู่ให้และสามารถทำงานบริการได้จนกว่าศาลพิจราณาว่าเป็นความจริงและอาจจะได้อยู่ในประเทศออสเตรเลีย

วีซ่า นักทองเที่ยว Tourist Visa
Tourist Visa คือวีซ่าขอไปเที่ยว ไปเที่ยวได้ ไม่เกิน 3 เดือน อายุของเราไม่เกี่ยว แต่ห้ามไปทำงานอะไรเลยไม่ว่า นวด สอนภาษา ทำงานในร้านอาหาร แม่บ้าน งานบริการ เก็บผลไม้ หรือ ทำงานที่บาร์ ก็ผิดกฎวีซ่าหมด

เอกสารต้องมีที่จะขอ Tourist Visa
1. กรอกแบบฟอร์ม จริงๆ ฟอร์ม ยาวมาก แต่มีภาษาไทยด้วย เราจะกรอกก่อนไปที่นั้นดีกว่า หาแบบฟอร์มทางอินเตอร์ www.austembassy.or.th/bkok/Visas_and_Migration.html หรือไปหาที่ เอ็มพาวเวอร์ได้เลย

  1. เราต้องเอาบัญชีเงินฝากของธนาคาร หรือ สะเตดเม้น (Bank Statement) ไปด้วย ค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละวันที่ออสเตรเลีย ประมาณ 7000 – 10000 บาท เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปเอง 3 เดือน เราต้องมีเงินฝากประมาณ 100,000 บาท อยู่ในแบงค์ หรือ ถ้าเรามีแฟนจะจ่ายให้ เราต้องมี จดหมายรับรองจากแฟนที่สัญญารับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายของเราทั้งหมดที่โน้น และ เขาต้องส่ง สะเตดเม้น (Bank Statement) ของเขามาด้วย และเราแค่ต้องมีเงินฉุกเฉินอยู่ในแบงก์ของเรา ประมาณ 10,000 – 20,000 บาท เท่านั้น
  2. เราต้องมีจดหมายรับรองจากที่ทำงาน ที่จะแสดงข้อมูลให้เขาดูว่าเราลาพักร้อนกี่เดือนถึงจะกับมาทำงานที่เดิม สถานทูตออสเตรเลียบอกเราว่าใช้จดหมายรับรองสถานที่บริการได้ แต่เราติดกลัวอยู่ด้วย ไม่กล้าเชื่อ แต่อยากลองจริง ๆ
  3. ถ้าเรามีสมบัติ หรือมีที่ดิน มีธุรกิจส่วนตัว เช่น นวด ร้านอาหาร ร้านขายของ ใช้ได้
  4. ต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อน และ ไปกับใบจอง อย่ารีบไปซื้อตั๋วก่อนนะ อาจจะเสียเงินได้
  5. รูปถ่ายเป็นรูปสี 2 นิ้ว 2 ใบ
  6. Passport เอาไปด้วย
  7. เอกสารไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย ท่องเที่ยวหรือ เยี่ยมญาติ, เพื่อน ควรจดเบอร์ โทรของบุคคลที่มารับเราที่แอร์พอร์ต เพื่อเป็นการง่ายต่อการติดต่อถ้าเกิดมีปัญหากับ ด่านตรวจ คนเข้าเมือง

ไปจ่ายค่าวีซ่าที่ตึกไทย ซีซี ทาวเวอร์ ยูนิต 2 แล ะ3 ชั้น 34 เลขที่ 889 ถนน สาทรใต้ กรุงเทพ 10120 โทร 02 675 6222

Student Visa วีซ่านักเรียน … และทำงานได้บ้าง

ขอไปเรียนได้ ไม่เกิน 1 ปี ต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้น ไปทำงานได้แต่ไม่เกิน 20 ช.ม ต่ออาทิตย์ก็ประมาณ 2-3 ชัวโมง ต่อวัน หรือ 2 วัน เต็มเวลาต้องไม่ขาดเรียนเลยเค้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 80%ขึ้นไป แต่การทำงานไม่ใช่ทำ 2วันเต็มหมายถึงจันทร์ถึงศุกร์ในช่วงโรงเรียนมีการสอนหนังสือต้องไปเรียน ทำงานได้หลังเลิกเรียน หรือทำงานอย่างไม่อั้นก็ต้องรอตอนช่วงปิดเทอม

ทำงาน หมอนวด สอนภาษา ในร้านอาหาร แม่บ้าน งานบริการ เก็บผลไม้ หรือ ทำงานที่บาร์ ทำงาน อะไรก็ได้ ก็ไม่ผิดกฎวีซ่า แต่ต้องไม่ขาดเรียนด้วย

เอกสารต้องมี
1. กรอกแบบฟอร์ม แบบฟอร์ม ยาวมาก แต่มีภาษาไทยด้วย เราจะกรอกก่อนไปที่นั้นดีกว่า หาแบบฟอร์มทางอินเตอร์
www. austembassy.or.th/bkok/Visas_and_Migration.html หรือไปหาที่ เอ็มพาวเวอร์ได้เลย

  1. ใบรับรองสมัครที่โรงเรียนที่ออสเตรเลียจากโรงเรียนจริงๆ และสามารถใช้ได้
  2. ต้องมีเงินฝากใน bank พอที่จะอยู่ได้ ค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละวันที่ออสเตรเลีย ประมาณ 1500 -2000บาท ถ้าใช้อย่างประหยัด ไม่รวม ค่าที่อยู่เพราะค่าที่อยู่จ่ายเป็นอาทิตย์ เพราะฉะนั้น เราต้องมีเงินฝากประมาณ 100,000 บาท อยู่ในแบงค์
  3. ต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อน และ ไปกับใบจอง อย่ารีบไปซื้อตั๋วก่อนนะ อาจะเสียเงินได้
  4. รูปถ่ายเป็นรูปสี 2 นิ้ว 2 ใบ
  5. Passport เอาไปด้วย
  6. เอกสารไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย

ไปจ่ายค่าวีซ่าที่ตึกไทย ซีซี ทาวเวอร์ ยูนิต 2 แล ะ3 ชั้น 34 เลขที่ 889 ถนน สาทรใต้ กรุงเทพ 10120 โทร 02 675 6222

*เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ส่วนมาก คนที่มาเรียนเค้าจะเข้าไปปรึกษาที่ ศูนย์วีซ่าและแนะแนวการศึกษาออสเตรเลีย และควรบอกทางศูนย์ให้ช่วยหาที่อยู่ให้ด้วย อีกอย่างควรขอเบอร์โทรศัพท์ ชื่อ ของบุคคลที่ทำงานของศูนย์ที่อยู่ในออสเตรเลีย เผื่อมีการผิดพลาดทุกสถานการณ์

Holiday and Work Visa วีซ่า ท่องเที่ยว และ ทำงาน

ต้องมีอายุ 18 ปี – 30 ปี เท่านั้น ขอไปเที่ยวและทำงานได้ ไม่เกิน 1 ปี
ทำงาน หมอนวด สอนภาษา ในร้านอาหาร แม่บ้าน งานบริการ เก็บผลไม้ หรือ ทำงานที่บาร์ ทำงานอะไรก็ได้ ก็ไม่ผิกกฎวีซ่า แต่ต้องเปลี่ยนที่ทำงาน ทุกๆ 6 เดือน อย่างน้อย

เอกสารต้องมี
1. กรอกแบบฟอร์ม ฟอร์ม ยาวมาก แต่มีภาษาไทยด้วย เราจะกรอกก่อนไปที่นั้นดีกว่า หาแบบฟอร์มทางอินเตอร์
www. austembassy.or.th/bkok/Visas_and_Migration.html หรือไปหาที่ เอ็มพาวเวอร์ได้เลย

  1. ต้องมีเงินฝากใน bank พอที่จะอยู่ได้ ค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละวันที่ออสเตรเลีย ประมาณ 7,000 B หรือ 10,000 บาท เพราะฉะนั้น เราต้องมีเงินฝากประมาณ 100,000 บาท อยู่ในแบงค์
  2. ต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อน และ ไปกับใบจองอย่ารีบไปซื้อตั๋วก่อนนะ อาจะเสียเงินได้
  3. รูปถ่ายเป็นรูปสี 2 นิ้ว 2 ใบ
  4. Passport เอาไปด้วย
  5. เอกสารไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย

ไปจ่ายค่าวีซ่าที่ตึกไทย ซีซี ทาวเวอร์ ยูนิต 2 แล ะ3 ชั้น 34 เลขที่ 889 ถนน สาทรใต้ กรุงเทพ 10120 โทร 02 675 6222

*กฎของการขอวีซ่านี้ ยุ่งยากต้องมีใบรับรองของโรงเรียนที่เรียนอยู่หรือเพิ่งจบในระดับชั้นมัธยมขึ้นไป มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ มีจดหมายรับรองจากรัฐบาลและมีการจำกัดจำนวนของวีซ่าต่อปี

มี Passport และ visa แล้ว เตรียมกระเป๋าได้แล้ว นะ

ไปจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินที่จองไว้แลัว ปกติไม่เกิน ประมาณ 30,000 บาทไป-กลับ และอย่าลืมว่ามี ตั๋วเครื่องบินโล คอส ด้วย เช่น ไป – กลับ 15,000 บาท ก็มี

ถ้าเรามี บัตร ATM ที่ มี คำว่า Plus เราเบิกเงินที่นั้นได้ ค่ากดครั้งละ 200 บาท แต่ถ้าบัตรหายลำบาก มาก ๆ เราต้องมีเงินสดไปด้วย 8,000 – 10, 000 บาท อย่างน้อย

ควรแลกที่ไทยได้มากกว่า แลกที่ออสเตรเลียได้น้อย ประมาน 28บาท = $ Aud 1

ติดต่อกับบริษัทมือถือที่เราใช้ ถามเขาว่าถ้าอยากใช้โทรศัพท์ของเราที่ประเทศออสเตรเลียเราต้องทำอย่างไร จริงๆ ซื้อซิมการด์ ที่โน้นจะ ถูกกว่า แต่อาจจะเปิดใช้ก่อนก็ได้ ถ้าเราต้องโทรก่อนที่จะซื้อได้

ปกติเรามี 2 กระเป๋า กระเป๋าที่อยู่กับเรา และ กระเป๋าที่ใส่สัมภาระที่จะต้องใส่เข้าไปกับเครื่องบิน เรียกกว่า เช็คแบก Checked bag.

กระเป๋าที่จะอยู่กับเรา นำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ใส่ เอกสารตัวจริงทั้งหมด พาสปอร์ต ตัวเครื่องบิน เงิน โทรศัพท์ และ สิ่งของที่มีค่าสูง

นอกจากนั้น ใส่ ปากกาและที่อยู่ออสเตรเลียเป็นภาษาอังกฤษ และ เบอร์ เราจะได้ติดต่อได้ มีเบอร์ติดต่อสถานทูต สการ์เล็ท และเพื่อนที่ออสเตรเลีย ปากกา-สมุดโน็ตอังกฤษติดใส่กระเป๋าไว้ ถ้าอยากใส่ แปลงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ น้ำหอม เจล ครีม ในกระเป๋าติดตัว ใส่ได้ แต่ทุกชนิดต้องเป็นขนาดเล็ก ๆ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม และต้องใส่ถุงพลาสติกให้เขามองเห็นได้ ถ้าจำเป็นมียาไปด้วยต้องการมีใบสั่งจากหมอ หรือต้องเห็นชัด ว่ายาชื่ออะไร

บนเครื่องบินอาจจะหนาว ใส่ ผ้าคลุม หรือ เสื้อแจ๊ทเก็ท ….

กระเป๋าใหญ่ Checked bag นำหนักไม่เกิน 20 กิโล เขียนชื่อเรากับเบอร์โทร ติดไว้กับกระเป๋าใหญ่ checked bag ผูกริบบิ้นเป็นเครื่องหมายไว้ เพื่อเราจะเห็นง่ายว่านี่เป็นกระเป๋าของเรา

ถ่ายเอกสาร พาสปอร์ต ตั่วเครื่องบิน ที่อยู่ถ่ายสำรองไว้เก็บในกระเป๋าใหญ่

นอกจากเสื้อผ้า ถ้าจะใส่ แชมพู น้ำหอม เจล ครีม ฯลฯ ใส่ได้เลย คุณสามารถเอาเหล้าไปได้ 1 ขวด บุหรี่ 10 ซองเท่านั้น

ประเทศออสเตรเลีย เป็นพื้นที่ที่มีสัตว์ และต้นไม้แปลกๆมากมาย เพื่อป้องกันประเทศของเขามีกฎห้ามนำ อาหาร ดอกไม้ ต้นไม้ หอย เข้าประเทศ ไม่มียกเว้น มาม่า พริก ข้าว น้ำปลา กล้วย ๆลๆ ห้ามเข้า แต่ข่าวดี ส่วนมากซื้อที่โน้นได้นะ ข้อควรระวัง ถ้าคนอื่นฝากของไปไม่ต้องรับฝากนะเพราะว่ามันจะยุ่งยากกับเรามาก ต.ม.เขาจะตรวจเราละเอียดมากๆ

เตรียมกระเป๋าแล้ว จะออกจากประเทศไทย

ต้องไปสนามบินเช็คอิน 2 ชั่วโมงก่อนเวลา เครื่องบินจะออก

ครั้งแรกดูที่ บอร์ดตารางเวลา เขามี การเข้า Arrivals และ การออก Departures (ดี-พาท-เทอร์) เราสนใจแค่ Departures ดูที่มี มีเครื่องบิน เวลาออก เข้า Check in ประตู เช่น Thai TG 1022 Syd 14:00 CHK-N Gate E 52


ไปที่ Check in และให้ ยื่น ตั๋วเครื่องบิน และ พาสปอร์ต (passport and ticket) ฝากกระเป๋า Check bag ไปแล้ว ถ้าอยากนั่งที่หน้าต่าง หรือ ที่อี่น ๆ รีบขอตอนนี้เลย

ได้รับ Passport คืน และ ใบ boarding pass เป็นใบแสดง หมายเลขเครื่องบิน ที่นั่ง เวลาขึ้นเครื่องบิน และขึ้นเครื่องบินที่ประตูหมายเลข… เขาจะให้เรากรอกแบบฟอร์มบัตรขาออกด้วย (Departure Card) เป็นภาษาไทย และกรอกแล้ว ไปยื่นให้ ที่ ต.ม. passport control ต.ม. เช็คเอกสารทั้งหมด ถ่ายรูปเรา สแตมป์ออกประเทศ

ติดต่อหาที่แลกเงิน ดอลล่าร์ออสเตรเลีย(ถ้าแลกเงินจากธนาคารข้างนอกสนามบินจะได้ราคาดีกว่า) เสร็จแล้ว เดินเข้า Duty free shopping คือร้าน ที่เราไม่ต้องเสียภาษี แต่อย่าเดินเพลิน จนตกเครื่องบินนะ เพราะยังมีโอกาสที่จะซื้ออีก ที่สนามบินออสเตรเลีย และ ในตอนกลับด้วย (อไรเวลฟ์ -การ์ด) Arrival – card ใบเข้าประเทศ ที่เราต้องกรอก ชื่อ,เลขที่ พาสปอรต์,เลขที่ วีซ่า; วันที่ พาสปอรต์ ออก,วันที่ พาสปอร์ต หมดอายุ; หมายเลข เครื่องบิน Flight number; ที่อยู่ที่ออสเตรเลีย และ อี่นๆ


มีแบบฟอร์มอีกอย่างหนึ่งเป็น Customs Card (คัสทอมส์ คาด) ใบสินค้า จะมีหัวข้อให้ตอบโดยให้ทำเครื่องหมายที่เรามีรายการของที่ต้องแสดงถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ขอแนะนำให้ถามแอร์โฮสเตท อธิบายหรือช่วยกรอกให้เรา

กรอกแบบ ฟอร์ม 2 ใบ เป็นภาษาอังกฦษ กรอกในเครื่องบินดีที่สุด ไม่เข้าใจขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆก็ได้ ใช้โอกาสที่จะจีบผู้ชาย หล่อ ๆ ด้วยก็ได้นะ

ถึงสนามบิน ออสเตรเลียแล้ว


ทุกคนต้องไปที่ ต.ม. ออสเตรเลีย (passport control)

เราต้อง ยื่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต (Passport and ticket) ;แบบฟอร์มที่กรอกในเครื่องบิน Arrival Card (อไรเวลล์ คาด) และ Customs Card (คัส์ทม คาด)

ทุกคนต้องไปที่ ต.ม. ออสเตรเลีย (passport control)เราต้อง ยื่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต (Passport and ticket) ;แบบฟอร์มที่กรอกในเครื่องบิน Arrival Card (อไรเวลล์ คาด) และ Customs Card (คัส์ทม คาด)

เขาเช็ค เอกสารของเรา ถ่ายรูป และเขาอาจจะมีคำถามๆ ด้วยว่า เรามาทำไม? พักที่ใหน ๆลๆ ไม่ต้องตกใจ หรือ รู้สึกอายเราตอบสิ่งที่เราเข้าใจและสิ่งที่ตอบได้ ถ้าเรางงมาก หรือไม่แน่ใจก็ขอให้เขาหาคนแปลให้หรือล่ามให้เรา (Translator ทรานสเลทเตอร์) นั้นเป็นสิทธิของเรานะ เมื่อเราผ่าน ต.ม. แล้ว เขาให้ เอกสาร และ สแตมป์ วันที่เข้า และเราได้อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ เท่าไหร่ด้วย ใน passportของเรา

* ประสบการณ์ที่ได้ยินมา ไม่จำเป็นต้องจดภาษาหรือบันทึกข้อความที่เกี่ยวกับการทำงาน เซ็กส์ เวิกค์ พยายามหัดพูดภาษาอังกฤษพอประมาณเพื่อจะได้ตอบคำถามเมื่อถูกถามที่เค้าท์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง ควรหาที่อยู่ในออสเตรเลียก่อน เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีที่อยู่อาศัยในขณะที่อยู่ในออสเตรเลีย.*

เดินเข้า รอรับกระเป๋า (Baggage Collection) ในเวลานี้อาจจะเห็น หมา ตัวเล็ก น่ารัก วิ่งมาดมตามกระเป๋า เพื่อหายาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมาย รับกระเป๋าแล้วถ้าเรามีของที่ไม่แน่ใจว่าของเราจะผ่านการตรวจหรือเปล่า ให้เดินไปที่ประตู สีแดง (Red) และ ยื่นให้ customs card และ ให้เขา ตรวจกระเป๋า ถ้าไม่ผ่านเขาจะยึดไว้ แต่นั่นดีกว่าเราไม่บอกและถูกจับผิดได้ แต่ถ้าเรามีความมั่นใจไม่มีอะไรผิดในกระเป๋า 2 ใบ เดินไปที่ ประตุเขียว (Green) และยื่นให้ customs card และ เขาให้เราไปได้เลย หรือขอตรวจกระเป๋าก่อน (เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมีของแสดงหรือไม่กระเป๋าทุกใบจะต้องผ่านเอ็กซ์เรย์ )

ถ้าไม่เจอกระเป๋าหรือ กระเป๋าหายไปติดต่อเคาท์เตอร์สายการบินที่เรานั่งมา ตอนที่เราไปเช็คอิน มีบาร์โคด์ติดกระเป๋าและเขาก็จะเอาติดไว้ที่ตั๋วเครื่องบินด้วย และให้เก็บตั๋วเครื่องบินให้ดี หมายเหตุ ถ้าเราหากระเป๋าไม่เจอให้เดินไปหาที่อินโฟเมชั่นยื่นตั๋วเครื่องบิน บอกว่านี่คือบาร์โคด์ของฉันเสร็จแล้วเขาจะขอเบอร์โทรที่อยู๋ของเรา เพื่อจะส่งของมาทีหลัง เราอยู่ในออสเตรเลียแล้ว

ถ้าเหงามีปัญหาอะไรติดต่อได้ ที่สการ์เล็ท 02-9326 9455 9.00-17.00 หรือ สว็อบ (เซ็กส์ เวิกเกอร์ เอ้าท์ริช โปรเจ็ท ) 02-93134866 ขอพูดกับ จุ๋ม หรือ สถานทูตไทย 06-273114, 2732937 ซิดนีย์ 02-92115794 24 ชั่วโมง

เพื่อนๆ ถ้าคิดว่าจะไปต่างออสเตรเลีย ติดต่อสอบถามทุกเรื่องได้ที่ ที่ เอ็มพาวเวอร์ เชียงใหม่ เรายินดีให้คำปรึกษาทุกเรื่อง 053-282504 เมล์ [email protected] [email protected] www.empowerfoundation.org


Shayne Ward – Until You (Audio)


Taken from the album Breathless
Click here to buy on iTunes http://smarturl.it/ShayneWardBreathless
Click here to buy Until You http://smarturl.it/ShayneWardBreathless

Follow Shayne Ward
Website: http://shaynewardofficial.com/
Facebook: https://www.facebook.com/shayneward
Twitter: https://twitter.com/shayneTward?ref_src=twsrc%5Egoogle%7Ctwcamp%5Eserp%7Ctwgr%5Eauthor
Spotify: https://open.spotify.com/artist/6H4lieipng8aGu3Hbd1UeJ

Lyrics
Baby life was good to me
But you just made it better
I love the way you stand by me
Throught any kind of weather
I don’t wanna run away
Just wanna make your day
When you feel the world is on your shoulders
Don’t wanna make it worse
Just wanna make us work
Baby tell me I will do whatever
[Chorus:]
It feels like nobody ever knew me until you knew me
Feels like nobody ever loved me until you loved me
Feels like nobody ever touched me until you touched me
Baby nobody, nobody, until you
Baby it just took one hit of you now I’m addicted
You never know what’s missing
Till you get everything you need, yeah
I don’t wanna run away
Just wanna make your day
When you feel the world is on your shoulders
Don’t wanna make it worse
Just wanna make us work
Baby tell me, I’ll do whatever
[Chorus:]
It feels like nobody ever knew me until you knew me
Feels like nobody ever loved me until you loved me
Feels like nobody ever touched me until you touched me
Baby, nobody, nobody until you
See it was enough to know
If I ever let you go
I would be no one
Cause I never thought I’d feel
All the things you made me feel
Wasn’t looking for someone until you
[Chorus x2]
Nobody, nobody, until you

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Shayne Ward - Until You (Audio)

วีรกรรมนักบินม้ง \”ลี หลือ\” (Lee Lue) ในสงครามลาว โดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ


\”ลี หลือ\” (Lee Lue) นักบินม้งผู้ขับ เต ซาวแปด (ที28) ในสงครามลาว
โดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ นักเขียนและนักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยวิคตอเรียแห่งนครเวลลิงตัน (Victoria University of Wellington) ประเทศนิวซีแลนด์
เคยปฏิบัติภารกิจเป็นผู้สังเกตุการณ์ทางทหาร (United Nation Military Observer : UNMO) ประจำกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์ เลสเต รวมทั้งยังเคยปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
สำเร็จหลักสูตรความมั่นคงในเอเชียตะวันออก (SEAs 12 : Security of East Asia seminar 2012) มลรัฐฮาวาย สหรัฐฯ มองโกเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์, หลักสูตรนายทหารประชาสัมพันธ์ภูมิภาคเอเชีย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ , หลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพแคนาดา (CMR course : Civil Military Relations course) กรุงออตตาวา แคนาดา , หลักสูตรการประชาสัมพันธ์กองกำลังรักษาดินแดนสหรัฐฯ (National Guard) มลรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ และหลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพสิงคโปร์
ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษที่วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, ม.เกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.บูรพา, ม.กรุงเทพ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือจำนวน 10 เล่มคือ \”The War\” เส้นทางสู่สงคราม, ยุทธการขจัดทรราชย์, สมรภูมิรบสะท้านโลกของฮิตเลอร์, ขุมกำลังสะท้านโลกของฮิตเลอร์, 8 ขุนพลของฮิตเลอร์ , มิคาเอล วิทท์มันน์ เสือรถถังไทเกอร์ของนาซี , สงครามเวียดนาม , ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง, ชีวประวัติอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และ กองกำลังเอสเอส หน่วยพิฆาตแห่งนาซี

วีรกรรมนักบินม้ง \

ออเจ้าเอย Ost.บุพเพสันนิวาส | พีท พล | Official MV


Digital Download 4933066
เพลง ออเจ้าเอย (เพลงประกอบละครบุพเพสันนิวาส)
ศิลปิน พีท พล
คำร้อง/ทำนอง วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
เรียบเรียง ตั้งใจทีม
“ออเจ้า” คำพูดฮิตติดปากกันทั่วบ้านทั่วเมือง จากกระแสละครดัง “บุพเพสันนิวาส” เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลง “ออเจ้าเอย” ที่สื่ออารมณ์ความรักแสนหวาน ผสมผสานดนตรีที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างลงตัว รวมถึงได้นักร้องเสียงคุณภาพ “พีท พล” มาเป็นผู้ขับร้อง

ดาวน์โหลดเพลงออเจ้าเอย (เพลงประกอบละคร บุพเพสันนิวาส) – พีท พล
iTunes : https://apple.co/2IcGhZl
Qikplay: http://bit.ly/2Dmrjfy
ฟังเพลง นี้ผ่าน Apple Music , Spotify , JOOX และ TrueID Music
Apple Music : https://apple.co/2Fu6dxE
Spotify : http://spoti.fi/2HqrkBv
JOOX : http://bit.ly/2G9rE8i
TrueID Music : https://goo.gl/bYDp3j
FB : http://www.facebook.com/ChandelierMusicLabel และ http://www.facebook.com/ch3soundtrack
IG : @chandelier_music และ @ Ch3Thailand Music
Youtube : Ch3Thailand Music WWW.เพลงละครช่อง3.com
ออเจ้าเอย เคยรู้หรือไม่ ตรงนี้ยังมีใคร ฤทัยห่วงหา
ออเจ้าเอย งามประกายนภา ขอมองไม่ยอมนิทรา ขอชื่นตาให้พี่ชื่นใจ
กลัวฉันกลัวว่าจันทร์จะลาจากฟ้าไกล กลัวฉันกลัวว่าใจจะขาดเมื่อร้างลา
กลัวฉันกลัวออเจ้าจะไกลไม่เห็นหน้า กลัวชะตาจะมาพรากเรา
เพียงลับตากระวนกระวายและร้อนรน เพียงมืดมนพี่จะทานทนได้รึเปล่า
เพียงยิ้มมาหัวใจเบิกบานคลายทุกข์เศร้า เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย
(ซ้ำ /)
เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย

ออเจ้าเอย Ost.บุพเพสันนิวาส | พีท พล  | Official MV

32 nations are about to DESTROY China’s Economy! Is set to be stripped off of preferential tariff


In a big blow to its economy, China is set to be stripped off of preferential tariff treatment from 32 nations.
China has landed itself in hot soup. At a time when it is reeling under the stress of an intense power crisis and economic downturn, countries from around the world have decided to kick the Communist nation in the shins. Beginning December 1, some 32 nations would no longer grant favourable tariff treatment to Beijing. According to the Hong Kongbased online news portal HK01, 32 nations would remove China from their trade preference lists of recipients of dutyfree tariff treatment for certain items. China will no longer be eligible for GSP trade benefits from 27 EU nations, the United Kingdom, Canada, Turkey, Ukraine, and Liechtenstein as of December 1.
According to an economist quoted by Taiwan News, labourintensive enterprises of China will face the brunt of the change in policy by the 32 countries. China’s lowmargin, labourintensive industries would be the hardest hit, potentially hastening the movement of manufacturing from China to other developing countries. It must be remembered that China’s cheap labour industry and consequently, cheap commodity prices are the reason why the country became the largest exporter in the world. Supply chains became centred around China. However, with 32 countries ending the preferential tariff treatment for China and making it pay like any other normal country – the Communist nation’s manufacturing and export sectors are bound to take a hit.
China will now have to pay tariffs and that would immediately result in its commodity prices rising. This rise in prices would make China’s products at par with those offered by other countries. So, there would be nothing special about China’s products and commodities, apart from the fact that they would be of cheaper quality when compared to the products offered by other nations.
In such a scenario, who do you think countries around the world will decide to import from? Remember, the 32 nations that have stripped China off of the preferential tariff treatment have done so with the aim of crippling China’s economy. On an immediate basis, they will be the ones who turn to alternatives when it comes to importing products. China will no longer remain their first choice and they will be able to select products for importing from a wide array of countries.
The democratic world has been increasingly standing up to China’s unfair trade practices which are not in line with World Trade Organisation rules. As such, the move by 32 countries to strip China of preferential treatment should be seen as them resisting China’s trade practices and violation of WTO rules. In WTO’s regular Trade Policy Review in October, the US, the EU, the UK among others, complained about China’s reluctance to conform to the international trade rules aiming at establishing a level playing field for all participants in the global exchange of goods and services.
The removal of preferential tariff treatment for China can result in an exodus of manufacturers out of China. Already, global manufacturers are not very motivated to continue with their operations in China and are desperately on the lookout for alternative destinations. Now, as China’s labour industry takes a hit, such manufacturers will desperately try to get out of China, thereby further loosening the screws of China’s economy.

32 nations are about to DESTROY China’s Economy!  Is set to be stripped off of preferential tariff

สหรัฐฯ-อังกฤษโวยรัสเซียทดสอบขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ทำสถานีอวกาศISS เสี่ยง | TNNข่าวเที่ยง | 16-11-64


รัสเซีย ยิงทดสอบขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ก่อให้เกิดเศษซากดาวเทียมจำนวนหลายแสนชิ้น อาจเป็นอันตรายต่อนักบินอวกาศที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ทำให้หลายชาติรวมทั้งสหรัฐฯ ออกมาประณามเหตุดังกล่าว
ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

สหรัฐฯ-อังกฤษโวยรัสเซียทดสอบขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ทำสถานีอวกาศISS เสี่ยง  | TNNข่าวเที่ยง | 16-11-64

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ au ประเทศอะไร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *