Skip to content
Home » [Update] บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ พูดคุยโทรศัพท์กับลูกค้าฉบับจัดเต็ม! ห้ามพลาด! | ข้อมูลลูกค้า ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ พูดคุยโทรศัพท์กับลูกค้าฉบับจัดเต็ม! ห้ามพลาด! | ข้อมูลลูกค้า ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ข้อมูลลูกค้า ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

106

SHARES

Facebook

Twitter

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ ไว้ฝึกพูดคุยกับลูกค้า การติดต่อทางโทรศัพท์เป็นช่องทางการติดต่อที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่าช่องทางอื่น และการสนทนาทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เพราะคุณแค่จำประโยคไม่กี่ประโยค ก็สามารถรับสาย พูดคุยกันได้แล้วครับ

บทสนทนา ภาษา อังกฤษ ทาง โทรศัพท์

Table of Contents

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์

ลองมาดูตัวอย่างการสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์กันดูสักหน่อยนะครับ ที่บอกว่ามันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยนั้น มันเป็นความจริงหรือเปล่า

ตัวอย่างบทสนทนา 1

Operator: Hello, ABC Travel, Somying speaking. How can I help you?
โอเปอเรเตอร์ : เฮ็ลโล เอบีซี แทร๊เวิล สมหญิง สปีคคิง ฮาว แคน ไอ เฮ็ลพ ยู๊
(สวัสดีค่ะ เอบีซีทราว็ล ดิฉันสมหญิงรับสาย มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ)

You: Yes, can I speak to Mr. John Doe, please?
คุณ: เย็ส แคน ไอ สปีค ทู มิ๊สเตอะ จอน โด พลีส
(ค่ะ ฉันขอคุยสายกับคุณจอห์นโดหน่อยค่ะ)

Operator: Who’s calling please?
โอเปอเรเตอร์ : ฮูส ค๊อลลิง พลีส
(ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ)

You: It’s Jenny White from  XYZ Tour.
คุณ: อิทส เจ็นนิ ไวท ฟรอม เอ็กซ วาย เซ็ด ทัว
(ชื่อเจนนี่ไวท์ จากเอ็กซ์วายแซดทัวร์ค่ะ)

Operator: Please hold and I’ll put you through.
โอเปอเรเตอร์ : พลีส โฮลด์ แอน ไอล พุท ยู ธรู
(ถือสายรอสักครู่ ฉันจะโอนสายให้นะคะ)

You: Thank you.
คุณ : แธ็งคิว
(ขอบคุณค่ะ)

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ด้านบนนี้ หมายความว่า คนที่คนโทรมาต้องการคุยด้วยอยู่ในสำนักงานนะครับ จะเห็นได้ว่ามีการโอนสายให้ได้พูดคุยกัน

ตัวอย่างบทสนทนา 2

Operator: Hello, ABC Travel. How may I help you?
โอเปอเรเตอร์ : เฮ็ลโล เอบีซี แทร๊เวิล ฮาว เม ไอ เฮ็ลพ ยู๊
(สวัสดีค่ะ เอบีซีทราว็ล มีอะไรให้ช่วยเหลือค่ะ)

You: Hello, this is Jenny White from  XYZ Tour.
May I speak to Mr. John Doe, please.
คุณ : เฮ็ลโล ดิส อิส เจ็นนิ ไวท ฟรอม เอ็กซ วาย เซ็ด ทัว
เม ไอ สปีค ทู มิ๊สเตอะ จอน โด พลีส
(สวัสดีค่ะ นี่คือเจนนี่ไวท์จากเอ็กซ์วายแซดทัวร์)
(ฉันขอคุยสายกับคุณจอห์นโดหน่อยค่ะ)

Operator: I’m sorry. He’s out.
Would you like to leave a message?
โอเปอเรเตอร์ : ไอม ซ๊อริ ฮีส เอ๊า
วุด ยู ไลค ทุ ลิฝ อะ เม็สสิจ
(ฉันขอโทษด้วยค่ะ เขาออกไปข้างนอก)
(คุณต้องการจะฝากข้อความไหมคะ)

You: Yes, please tell him to call me back later.
คุณ : เย็ส พลีส เท็ล ฮิม ทู คอล มี แบ็ค เล๊เทอะ
(ค่ะ ช่วยบอกให้เขาโทรหาฉันด้วยนะค่ะ)

Operator: Does he have your number?
โอเปอเรเตอร์ : ดัส ฮี แฮฝ ยัว นัมเบ๊อะ
(เขามีเบอร์โทรของคุณไหมคะ)

You: Yes, he does.
คุณ : เย็ส ฮี ดัส
(ครับ เขามี)

Operator: Okay, I’ll tell him to call back you as soon as possible.
Thanks for calling.
โอเปอเรเตอร์ : โอเค ไอล เท็ล ฮิม ทู คอล ยู แบ็ค แอ็ส ซูน แอ็ส พ๊อซเซอะเบิล
แธ็งส์ ฟอ ค็อลลิง
(ตกลงค่ะ ฉันจะบอกเขาให้โทรหาคุณโดยเร็วที่สุด)
(ขอบคุณค่ะที่โทรมา)

You: Thank you.
คุณ : แธ็งคิว
(ขอบคุณค่ะ)

สนทนาทางโทรศัพท์

ประโยคสำหรับการรับสาย

การรับสายโทรศัพท์ โดยมากจะเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือ โอเปอเรเตอร์ของหน่วยงาน ซึ่งประโยคที่ใช้ในการรับสายโทรศัพท์มีง่ายๆ ดังนี้

การการทักทาย

การทักทายโดยใช้ภาษาสุภาพทั่วไปคือ Hello.

หรือจะใช้ภาษาทางการหน่อยก็จะใช้คำทักทายตามช่วงเวลาของวันคือ

  • Good morning.
    สวัสดีตอนเช้า
  • Good afternoon.
    สวัสดีตอนบ่าย
  • Good evening.
    สวัสดีตอนเย็น

การบอกชื่อบริษัท หรือแผนก

ถ้าเป็นบริษัทไม่ใหญ่โตมาก หรือเป็นสำนักงานเล็กๆ ก็จะบอกชื่อบริษัทไปเลย แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีหลายแผนก อาจจะบอกชื่อแผนกไปเลยก็ได้ เช่น

  • Hello, ABC Company.
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี
  • Good morning, the marketing department.
    สวัสดียามเช้า ฝ่ายการตลาด
  • Hello, the customer service.
    สวัสดีค่ะ ฝ่ายบริการลูกค้า

การบอกชื่อผู้รับสาย

การบอกชื่อผู้รับสาย เพื่อให้ผู้โทรมาได้ทราบข้อมูลผู้ที่สามารถประสานงานได้ ในภายหลัง หรือจะไม่บอกก็ไม่เป็นไร

  • Hello, ABC Company, Somyin speaking.
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี ดิฉันสมหญิงรับสาย
  • Good morning, the marketing department, Somchai speaking.
    สวัสดียามเช้า ฝ่ายการตลาด กระผมสมชายรับสาย

การถามความต้องการ

ประโยคสุดท้ายในการรับสายคือ ถามความต้องการของผู้ที่โทรมานั้นเอง ภาษาสุภาพจะใช้สำนวน “มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ” ความหมายคือ “โทรมาทำไมคะ” นั่นแหละ

  • Hello, ABC Company, Somyin speaking. May I help you?
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี ดิฉันสมหญิงรับสาย มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ

สำนวนที่ใช้ถามความต้องการ หรือเสนอความช่วยเหลือให้ใช้สำนวนต่อไปนี้้ ซี่งมีความหมายเดียวกัน

  • May I help you?
  • Can I help you?
  • How may I help you?
  • How can I help you?

ประโยคสำหรับการบอกความต้องการ

ประโยคในการบอกความต้องการ จะเป็นฝ่ายคนที่โทรไปนะครับ ว่าจุดประสงค์ของการโทรไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อพูดกับผู้จัดการ เพื่อยืนยัน เพื่อแจ้ง เพื่อร้องเรียน เป็นต้น

การแนะนำตัว

ถ้าเป็นการติดต่อประสานงานระหว่างบริษัท ประการแรกเลยให้แนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นใคร มาจากไหน เพื่อให้ผู้รับสายได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าโทรไปหาบริษัท คงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวนะครับ

  • Hello, this is Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี นี่คือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี
  • Hello, it’s Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี นี่คือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี
  • Hello, I’m Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี ฉันคือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี

การบอกความต้องการ

ต่อมาคือการแจ้งให้ผู้รับสายทราบว่าที่เราโทรไปนั้น เรามีจุดประสงค์ใด

  • I’d like to speak to Mr. John Doe.
    ผมต้องการพูดกับคุณจอห์นโด
  • May I speak to Mr. John Doe?
    ผมขอพูดกับคุณจอห์นโดหน่อย
  • I’m calling to confirm the meeting next week.
    ผมโทรมาเพื่อยืนยันการประชุมสัปดาห์หน้า
  • I’m calling to inform the payment.
    ผมโทรมาเพื่อแจ้งการทำธุรกรรมการเงิน
  • I’m calling to cancel the reservation.
    ผมโทรมาเพื่อยกเลิกการจอง
  • I’m calling to claim the product.
    ผมโทรมาเพื่อเคลมสินค้า
  • I’d like to know more about your new phone.
    ผมต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ของคุณ
  • I want to buy a ticket.
    ผมต้องการซื้อตั๋ว
  • I want to buy an iPhone XS.
    ผมต้องการซื้อโอโฟน XS
  • etc…

การถามชื่อผู้โทรมา

การติดต่อกันระหว่างบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บริหาร ผู้ที่มีตารางการทำงานชัดเจน การโทรไปคุยเล่นๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันคงทำไม่ได้ ดังนั้นโอเปอเรตอร์ต้องถามไถ่ก่อนว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ต้องการอะไร สำนวนในการถามชื่อมีดังนี้

  • Who shall I say is calling? 
    ใครโทรมาคะ
  • Who’s calling, please?
    ใครโทรมาคะ
  • Who’s speaking?
    ใครกำลังพูดสายอยู่
  • Could I ask who’s calling, please?
    ขอถามหน่อยนะคะ ว่าใครโทรมา
  • May I have your name, please?
    ขอทราบชื่อด้วยค่ะ

การบอกให้สะกดชื่อ

การบอกให้สะกดชื่อในกรณีที่เขาบอกชื่อเราแล้ว แต่เราไม่แน่ใจว่าจะเขียนถูกไหม ก็สามารถให้เขาสะกดชื่อได้ครับ โดยใช้สำนวน

How do you spell….?

  • Operator: I’m sorry. He’s out. Would you like to leave a message?
    ขอโทษคะ เขาออกไปข้างนอก คุณต้องการฝากข้อความไหมคะ
  • You: Okay, please tell him that Ana Thomson Call?
    ค่ะ ช่วยบอกเขาด้วยว่าอันนา ทอมสันโทรมา
  • Operator: How do you spell Ana?  
    คุณสะกดคำว่าอันนาอย่างไร
  • You: It’s A-N-A.
    มันคือ A-N-A

ประโยคบอกให้รอสาย และการโอนสาย

หลังจากที่ทราบความต้องการของผู้โทรแล้ว ถ้าต้องการให้เขารอสาย เพื่อตามคนที่เขาต้องการคุยด้วย เพื่อหาข้อมูลตอบกลับไป หรือถือสายรอเพื่อโอนสาย สามารถใช้สำนวนเหล่านี้ได้เลย

  • Hold the line, please. I’ll check if he is available now.
    ถือสายรอสักครู่ ฉันจะเช็คดูว่าเขาว่างจะคุยหรือยัง
  • One moment please. I’ll put you through.
    ขอเวลาสักครู่ ฉันจะโอนสายให้
  • Please hold.  I’ll put you through to Mr. White. 
    กรุณาถือสายรอสักครู่ ฉันจะโอนสายคุณไปยังคุณไวท์

ประโยคบอกปฏิเสธ

การบอกปฏิเสธ หมายถึง ไม่สามารถปฏิตามที่ผู้โทรต้องการได้ เช่น ต้องการคุยกับผู้จัดการ แต่ผู้จัดการไม่อยู่ ไม่ว่าง เป็นต้น ถ้าคนนั้นไม่ว่าง หรือไม่อยู่ เราสามารถใช้สำนวนเหล่านี้ได้

  • I’m sorry, she’s not here today.
    ขอโทษครับ หล่อนไม่มาทำงานวันนี้
  • I’m sorry, he’s out.
    ขอโทษครับ เขาออกไปข้างนอก
  • I’m sorry, he’s in the meeting room.
    ขอโทษครับ เขากำลังประชุมอยู่
  • I’m sorry, he’s not available at the moment.
    ขอโทษครับ เขาไม่ว่างตอนนี้
  • I’m sorry, she’s busy.
    ขอโทษครับหล่อนไม่ว่าง
  • I’m sorry, you got the wrong number.
    ขอโทษครับ คุณโทรผิดแล้ว
  • I’m sorry, there’s nobody here by that name.
    ขอโทษครับ ไม่มีคนชื่อนั้นในนี้เลย

การรับฝากข้อความ

อันนี้ต่อเนื่องมาจากไม่สามารถพูดคุยกับคนที่คุณต้องการได้ ทำอย่างไรจะสามารถติดต่อกันได้ ก็โดยการฝากข้อความ  การฝากข้อความสั้นๆ ก็อาจจะจดโน๊ตไว้ หรือฝากด้วยวาจาก็ได้ เช่น ฝากบอกว่าบริษัท ABC ยอมรับข้อเสนอ หรือ ยืนยันการนัดหมาย เป็นต้น  แต่ถ้าเป็นการพูดคุยเพิ่มเติม ก็คงต้องฝากบอกให้โทรกลับอย่างเดียว

โอเปอเรเตอร์

  • Can I take a message?
    ขอรับฝากข้อความไว้นะคะ
  • Would you like to leave a message?
    คุณต้องการฝากข้อความไหมคะ

ผู้ติดต่อ

  • Can I leave a message?
    ขอฝากข้อความไว้หน่อยนะครับ
  • Could you give him a message?
    ช่วยฝากข้อความไปให้เขา/เธอด้วยนะครับ
  • Could you tell Mr. White that ABC Company accepted the offer?
    ช่วยบอกคุณไวท์ด้วยนะครับว่าบริษัทเอบีซียอมรับข้อเสนอ
  • Could you tell him that the flight will be delayed over 2 hours?
    คุณช่วยบอกเขาหน่อยว่าเที่ยวบินจะดีเลย์เกิน 2 ชั่วโมง
  • Could you tell her that Jo called?
    ช่วยบอกเธอหน่อยว่าโจโทรมา
  • Could you tell him to call me back?
    ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมหน่อย

การกล่าวลา

การกล่าวลาจากการพูดคุย ถ้าเป็นภาษาเราก็คือ สวัสดี ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Goodbye หรือ ง่ายๆกันเองคือ Bye แต่มีสำนวนอื่นๆ ที่ควรนำไปใช้ ดังนี้

  • Thanks for calling.
    ขอบคุณที่โทรมา
  • Thanks for calling. Bye for now.
    ขอบคุณที่โทรมา สวัสดีค่ะ
  • Thank you for your time.
    ขอบคุณที่สละเวลา

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 108

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[NEW] ขอโทษที่รบกวน พูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงดีนะ? — รวม 10 ประโยคภาษาอังกฤษ ในที่ทำงาน | OpenDurian เตรียมสอบ | ข้อมูลลูกค้า ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เวลาต้องทำงานกับคนต่างชาติ ไม่ว่าจะพูด หรือเขียนอีเมล หลายคนมีปัญหาว่าไม่รู้จะใช้ประโยคแบบไหนดี อย่างเช่นถ้าอยากพูดว่า “รบกวน” เป็นภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไงดี? — บทความนี้คัดมา 10 ประโยคภาษาอังกฤษในที่ทำงาน ให้ทุกคนจำโครงสร้าง ไปใช้กันได้เลยค่า

1. Sorry to bother (disturb) you, but + ประโยคคำถาม

คำแปล: ขอโทษที่รบกวนนะ แต่… 

เวลาอยากจะรบกวนใคร บางทีเขาอาจจะทำงานอยู่ เราควรจะออกตัวขอโทษที่ไปรบกวนเขาก่อน แล้วค่อยเข้าเรื่อง ไม่งั้นอยู่ดีๆ ไปถามเลย เราอาจจะโดนเหวี่ยงได้ (ประมาณว่าไม่เห็นเหรอ ฉันทำงานอยู่นะ!) ลองดูตัวอย่างกันค่ะ
 

  • Sorry to bother you, but could you check this report for me?
    ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้มั้ย
     
  • Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler?
    ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้มั้ย
     

จำประโยคขึ้นต้นไปเลยค่ะ Sorry to bother (disturb) you, but… แล้วก็ตามด้วยคำถามที่เราอยากจะถามต่อได้เลย 

ถ้าเราเป็นผ่ายถูกถามด้วยประโยคนี้ เราก็ตอบได้ว่า

  • Yes, I’ll do it for you.
    ได้เลย เดี๋ยวฉันทำให้คุณนะ
     
  • Sorry, I can’t do it now.
    โทษทีนะ แต่ฉันทำตอนนี้ไม่ได้น่ะ

2. Do you have a minute?

คำแปล: ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย

แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย แต่จริงๆ ก็หมายถึงพอมีเวลาสั้นๆ มั้ยนั่นเอง ใช้เวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ นอกจากประโยคนี้แล้ว จะใช้ประโยคด้านล่างแทนก็ได้ค่ะ แปลโดยรวมเหมือนกันเลยค่ะ

  • Are you free to talk?
  • Can I have a word with you?
  • Can I talk to you for a minute/a second?

ถ้าเราว่าง คุยได้ ก็ตอบไปว่า Yes./Sure./Of course.  และถามกลับไปได้ว่า What is it?/What’s the matter? (คุยเรื่องอะไรล่ะ, มีเรื่องอะไรรึเปล่า)

3. Would you mind helping me with + N.?

คำแปล: รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ…

  • Would you mind helping me with this document?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้
     
  • Would you mind helping me with the project?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้
     
  • Would you mind helping me with the contract?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้

ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือได้เลยค่ะ เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ แต่สังเกตว่ารูปประโยคนี้ จะตามด้วยคำนาม คือไม่ได้บอกว่าให้ช่วย “ทำอะไร” แต่แค่ขอให้ช่วยเรื่องอะไร หรือเกี่ยวกับอะไร เหมือนถามรวมๆ ว่าช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย

ดังนั้นจำรูปประโยค Would you mind helping me with ไปเลยค่ะ แล้วอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย

*ถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง หรือคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท ก็ใช้ Can you help me with + N.? ได้เหมือนกันค่ะ จะดูเป็นกันเองมากกว่า แต่ถ้าไม่แน่ใจ ใช้ Would you mind ไปเลย สุภาพสุดแล้วจ้า

4. Would you mind + V.ing?

คำแปล: รังเกียจมั้ยที่จะทำ…

  • Would you mind sending the presentation to me?
    รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อย
     
  • Would you mind photocopying this bill for me?
    รังเกียจมั้ยที่จะถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ฉันหน่อย

ประโยคนี้เอาไปใช้เวลาอยากให้คนอื่นช่วยเรา “ทำอะไร” คือระบุเลยว่าคุณช่วยทำนั่นนี่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย ซึ่งโครงสร้างจะต้องตามด้วย V.ing (หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ Gerund) ค่ะ มีหลักง่ายๆ ว่า อยากให้ช่วยทำอะไร เอา V. ตัวนั้นไปเติม -ing แล้วต่อท้ายประโยคได้เลย เช่น

  • ตัดกระดาษ cut > cutting the papers
     
  • หาข้อมูล find > finding the information
     
  • ร่างจดหมาย draft > drafting the letter

 

5. Would you mind if + ประโยค?

คำแปล: จะเป็นอะไรมั้ยถ้า…

  • Would you mind if I skip the meeting?
    จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม
     
  • Would you mind if I postpone the deadline?
    จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน

นอกจากแปลว่า รังเกียจมั้ย” แล้ว Would you mind ยังสามารถหมายถึง “จะเป็นอะไรมั้ย” ได้ด้วย คือใช้โยนหินถามทางก่อนได้ว่า ถ้าเราจะทำแบบเนี้ย จะเป็นไรป่าว เช่นอยากอยากโดดประชุม ก็ไปถามนายก่อนว่า Would you mind if I skip the meeting? (แต่อย่าลืมเตรียมเหตุผลที่ฟังขึ้นไปบอกนายด้วยนะ)

 

✿ อัพคะแนน TOEIC พร้อมสมัครทุกงาน! เริ่มติวกับครูดิวเลย! 

ติว TOEIC ครูดิว พร้อมลองทำข้อสอบเหมือนจริง

 

6. Can you join the meeting on + วันที่ + at + เวลา?

คำแปล: คุณเข้าร่วมประชุมวันที่…เวลา…ได้มั้ย

  • Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?
    คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้มั้ย
     

    หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ค่ะ
     

  • Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?
    คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้ามั้ย

ได้ใช้แน่นอนเวลาจะถามคนอื่นๆ ว่าเข้าประชุมได้มั้ย ซึ่งจุดที่ต้องระวังก็คือการใช้ on กับ at แค่นั้นเองค่ะ

จำว่า “on ใช้กับวัน ส่วน at นั้นกับเวลา”

ซึ่งอาจจะไม่มาพร้อมกันทั้งสองอย่างก็ได้ เช่นถ้าวันนี้มีประชุมช่วงบ่าย เราก็อาจจะถามว่า Can you join the meeting at 1 p.m.? คนฟังก็จะเข้าใจค่ะว่าหมายถึงวันนี้ หรือถ้าเขาไม่มั่นใจก็จะถามเองว่า Today? (วันนี้เหรอ)

แล้วถ้าอยากบอกว่าพุธนี้, อาทิตย์หน้า, เดือนหน้า ล่ะ? >> ให้ตัด on ออกค่ะ กลายเป็น

  • Can you join the meeting + this Wednesday/next week/next month?

เป็นการถามแบบกว้างๆ ก่อน ยังไม่ได้เจาะจงรายละเอียดเวลาแน่นอน ซึ่งถ้าเขาถามต่อ เราก็ตอบไปได้ค่ะ
 

  • on (วันอะไร) at (เวลาไหน) เช่น on Monday at 1.30 p.m.

7. Sorry, I’m quite busy right now.

คำแปล: ขอโทษนะตอนนี้ฉันยุ่งอยู่

ประโยคนี้ต้องรู้ไว้เลย ไม่งั้นปฏิเสธไม่เป็น รับงานมาทำหัวฟูแน่นอน ส่วนถ้าอยากให้ดูซอฟท์ๆ สวยๆ หน่อย ใช้ประโยคนี้ได้ค่ะ

  • I wish I could help, but I’m busy right now.
    ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะ

ถ้าเราเป็นฝ่ายไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ก็อาจจะได้ยินประโยคนี้ได้นะคะ เพราะคงไม่มีใคร say yes กับคำขอของเราทุกรอบแน่ๆ ค่า

8. Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง?

คำแปล: ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ

  • Can I speak to Mr. Smith?
    ขอสายคุณสมิธหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ
     
  • Can I speak to the sales department head?
    ขอสายหัวหน้าฝ่ายขายหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ

ใช้เวลาโทรไปขอคุยกับใคร หรือจะใช้คุยต่อหน้าก็ได้ค่ะ เช่นไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อย ซึ่งคำตอบที่เราอาจจะได้รับ เช่น

  • Who’s calling, please?
    ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ
     
  • I’m sorry. He’s not available at the moment.
    ขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้เขายังไม่ว่างเลยค่ะ
     
  • He’s on the other line.
    เขาติดสายอื่นอยู่ค่ะ
     
  • Just a moment./Hold the line please./Could you hold on, please?
    ถือสายรอซักครู่นะคะ

คำตอบพวกนี้เราสามารถเอาไปใช้ได้เหมือนกันนะคะ ถ้าหากเราเปนคนรับโทรศัพท์เอง ใครเป็นเลขาฯ หรือต้องติดต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงานทางโทรศัพท์บ่อยๆ ได้ใช้แน่นอนค่ะ

9. When (What time) can I call you back?

คำแปล: ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร

ประโยคนี้ใช้เวลาเราโทรหาใคร แต่เขายังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น เราก็ถามกลับไปได้ว่างั้นสะดวกให้เราโทรกลับไปอีกครั้งเมือไรดี คำตอบส่วนมากเขาก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมาเช่น

  • Can you call me again at 2 p.m.?
    โทรหาฉันอีกทีตอนบ่ายสองได้มั้ย
     
  • Can you call me in 15 minutes?
    อีก 15 นาทีค่อยโทรหาฉันได้มั้ย

หรือถ้าเขาจะเป็นคนโทรกลับมาหาเราเองเมื่อสะดวก ก็จะบอกได้ว่า

  • I’ll call you back when I’m free.
    ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง
     
  • I’ll call you back in 30 minutes.
    อีก 30 นาทีฉันจะโทรกลับหาคุณนะ

10. Can I take + วัน/อาทิตย์นี้/เดือนหน้า off?

คำแปล: ฉันขอลาในวัน…ได้มั้ย

  • Can I take Monday off?
    ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย
     
  • Can I take this Friday off?
    ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย

หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาซักวันนึงได้มั้ย (ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า

  • Can I take a day off?
    ฉันขอลาซักวันได้มั้ย

จดให้ไวเลยประโยคนี้ โดยเฉพาะใครที่มีนายต่างชาติ ถึงเวลาจะไปอ้อนนายขอลางานจะได้พูดคล่องๆ นะคะ ^^

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 ประโยคใช้บ่อยในที่ทำงาน จริงๆ แล้วไม่ยากเลย เพียงแต่เราต้องขยันเอามาใช้บ่อยๆ เท่านั้นเอง เวลาจะพูดจะได้นึกประโยคออกทันที ไม่ต้องมานั่งเรียง S. V. ให้ปวดหัว จำเป็นประโยคไปใช้กันได้เลยค่ะ 

 

 

✿ อัพคะแนน TOEIC พร้อมสมัครทุกงาน! เริ่มติวกับครูดิวเลย! 

ติว TOEIC ครูดิว พร้อมลองทำข้อสอบเหมือนจริง

ติว TOEIC กับครูดิว ดียังไง?

  • คอร์สติว TOEIC ของครูดิวนั้น เรียน Online
  • แบ่งบทเรียนชัดเจน เรียนง่ายไม่งง คลิ๊กเลือกบทเรียนที่ต้องการได้ทันที
  • สามารถหยุด, เล่นซ้ำบทเรียนที่ต้องการได้แบบไม่อั้น! (ตลอดระยะเวลาคอร์ส)
  • อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ใหม่ล่าสุด! ครบชุด!
  • มีไฟล์ E-Book (PDF) ประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด (และมีหนังสือเรียนเป็นเล่มส่งให้ถึงบ้าน)
  • เรียนเวลาไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ แค่มี Internet
  • หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเรียน สามารถส่งคำถามหาทีมงานได้
  • การันตีคะแนน 750+ (หากสอบแล้วไม่ถึง สามารถแจ้งทวนคอร์สได้ฟรี!)

 

ทดลองติว TOEIC ฟรีได้ที่ >>> คอร์ส KruDew TOEIC 


การนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งอังกฤษ


เรียนออนไลน์คอร์สเทคนิคการนำเสนอและการพูด:
https://go.auditorium.co.th/pp

ถึงแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้ามีหลักการการนำเสนอที่เหมาะสม ก็สามารถช่วยให้การพูดของเรารู้เรื่อง และชัดเจนได้!
อย่าให้อุปสรรคทางภาษา มาเป็นอุปสรรคในการนำเสนอของเราอีกต่อไป! กล้าสื่อสารไปเลย!
วิทยากร:
จีนา จีนาฟู
สร้างสรรค์การผลิต:
ภูมิ รัตตวิศิษฐ์
Music:
Got a Feeling
Walking Together
https://hooksounds.com

แอ๊ดเราเป็นเพื่อนใน Line เพื่อรับข่าวสารคอร์สอบรม
Line ID: @auditorium.co.th
https://go.auditorium.co.th/line
Facebook:
https://facebook.com/auditorium.co.th

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

การนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งอังกฤษ

วลาดและนิกิตาเก็บวิดีโอเกี่ยวกับรถยนต์เด็ก


เรื่องราวตลกที่วลาดและนิกิตาเล่นกับรถยนต์สำหรับเด็กและขี่มัน
สมัครสมาชิกช่อง!
Vlad \u0026 Niki ร้านค้า: https://vladandniki.com/
แอปพลิเคชันของเราบน Google Play:
https://play.google.com/store/apps/details?id=me.apptivise.vladnikita
แอพของเราใน App Store:
https://apps.apple.com/us/app/vladniki/id1497525407
VLAD Instagram https://www.instagram.com/Vlad.super.Vlad/
NIKITA Instagram https://www.instagram.com/nikitoys_official/

วลาดและนิกิตาเก็บวิดีโอเกี่ยวกับรถยนต์เด็ก

50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย


ติดตามแฟนเพจครูเชอรี่ได้ที่ https://www.facebook.com/cherry.englishbright/

50 สำนวนอังกฤษไม่ธรรมดาที่ใช้บ่อย

ร้านอาหาร Restaurant คำศัพท์/คำถาม/วลี ภาษาอังกฤษ


ติดต่อสอบถาม / สั่งซื้อหนังสือ
@LINE ID = @EnglishbyChris
รับสอนตัวต่อตัว ติดต่อผมได้ที่
@LINE ID = @TeacherChris
http://www.englishbychris.com/portfolioitems/restaurant
https://www.facebook.com/Teacherchrischiangmai

ร้านอาหาร Restaurant คำศัพท์/คำถาม/วลี ภาษาอังกฤษ

20 ประโยคภาษาอังกฤษสำคัญ ซื้อของ-ขายของ


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
50 ประโยคภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดบ่อยมากในการสนทนา
https://youtu.be/tDYt8ZXOsrI
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกพูดจากประโยคง่ายๆ และพื้นฐานๆที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการพูดออกเสียงเป็นประโยคและเข้าใจความหมายไปด้วยจะช่วยให้เราสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้งานในสถานการณ์จริงและรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ วันนี้ผมรวบรวมเอาประโยคที่พื้นฐานที่สุดมาให้ทุกคนได้ฝึกฝนกัน จริงๆยังมีมากกว่านี้แต่ 50 ประโยคเริ่มต้นนี้ถ้าฝึกพูดจนชินแล้วเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบทเลยทีเดียว
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฝึกพูดอังกฤษ
สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ UNFOX English Club
https://www.unfoxenglish.com/club
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Instagram: https://www.instagram.com/unfoxenglish
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่อง LACTA: https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่อง Bell Vittawut: https://www.youtube.com/bellvittawut
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]

20 ประโยคภาษาอังกฤษสำคัญ ซื้อของ-ขายของ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ข้อมูลลูกค้า ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *