IQ ของ Albert Einstein คืออะไร?

IQ ของ Albert Einstein คำนวณได้ระหว่าง 160 ถึง 180,
คะแนนที่วางไว้ในโซนอัจฉริยะ แม้ว่าไอน์สไตน์จะไม่เคยอยู่ภายใต้ การทดสอบไอคิว,
ผู้เชี่ยวชาญประเมินคะแนนของเขาจากข้อมูลในอดีตและชีวประวัติ

ในบทความนี้เรานำเสนอรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตของ Albert Einstein ที่คุณอาจไม่รู้และเรามั่นใจว่าจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ

เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณที่จะต้องรู้ว่ามรดกของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไม่ได้รวมถึงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

ทุกแง่มุมในชีวิตของไอน์สไตน์เต็มไปด้วยแนวคิดสะท้อนและประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราเปลี่ยนแปลงและแสวงหาความสำเร็จ ไม่ใช่เพื่ออะไรเรากำลังพูดถึงว่าใครเป็น ชายผู้อุทิศตนเพื่อวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ.

อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ทำลายกระบวนทัศน์:

เขาเป็นคนที่มีสติปัญญาและความเข้าใจและการวิเคราะห์ที่สูงมากจนสามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางกายภาพที่ซับซ้อนได้ด้วยคำพูดง่ายๆและทันท่วงที

การถ่ายทอดความรู้เป็นสิ่งสำคัญมากและไอน์สไตน์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้

ไอน์สไตน์เคยพูดว่า:

หากคุณไม่สามารถอธิบายได้ง่ายๆแสดงว่าคุณไม่เข้าใจดีพอ

Albert Einstein

หากคุณสามารถหาสำเนาบทความต้นฉบับของเขาที่ตีพิมพ์ในปี 1905 เกี่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพได้คุณจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร:

• สิ่งพิมพ์ของเขามีถ้อยคำที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย
• สมการที่เขาใช้ส่วนใหญ่เป็นพีชคณิต สมการที่เด็กวิทยาลัยทั่วไปสามารถเข้าใจได้

เป้าหมายของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไม่เคยอธิบายถึงทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่ตรงกันข้าม เขาเป็นแฟนของ การวิเคราะห์ภาพ / เชิงพื้นที่และการคิดด้านข้าง.

เขาทำการทดลองทางจิตโดยพยายามค้นหาสาเหตุของสิ่งต่างๆอยู่เสมอจนกระทั่งเขาเห็นภาพความคิดของเขาและระบุหลักการทางกายภาพของปรากฏการณ์ด้วยความชัดเจนทั้งหมด

ถ้าตอนนี้คุณยังไม่ชัดเจนว่าอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ยอดเยี่ยมแค่ไหนขอบอกเลยว่าเรายังไม่ได้เริ่ม ฉันมีหลายอย่างที่จะบอกคุณว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าบทความนี้จะสั้น

วัยเด็กของ Albert Einstein เป็นอย่างไร?

ต่อไปฉันจะอธิบายข้อมูลที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับไฟล์ วัยเด็กของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและน่าชื่นชมที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20:

• Albert Einstein เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2422 ในประเทศเยอรมนี
• เขาเกิดมาพร้อมกับศีรษะที่ใหญ่กว่าเด็กแรกเกิดทั่วไปซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสังเกตเห็นได้แตกต่างกันไป
• ในช่วงปีแรก ๆ เขาชอบเล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิและความอดทนเหนือสิ่งอื่นใดซึ่งทำให้เขาเป็นเด็กที่โดดเดี่ยวและเงียบ
• เขาเริ่มพูดตั้งแต่อายุ 3 ขวบซึ่งเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ของเขาคิดว่าเขาจะมีปัญหาปัญญาอ่อน
• ในฐานะสัญญาณแรกของความอยากรู้อยากเห็นของเขาไอน์สไตน์ในวัย 4 ขวบหลงใหลในเข็มทิศที่พ่อของเขามอบให้ และรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างที่เล็กและดูเรียบง่ายสามารถค้นหาทิศเหนือและทิศใต้ได้ในพริบตาเดียว
• เมื่อเขาอายุได้ 11 ปีไอน์สไตน์ได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่แห่งคณิตศาสตร์และนั่นเป็นวิธีที่ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาค้นพบความสนใจของเขาที่มีต่อพีชคณิตและการเสพติดการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยทั่วไป
• เขาเรียนรู้ที่จะเล่นไวโอลิน
• เขาไม่ใช่คนเรียนภาษาที่ดี อย่างไรก็ตามเขาเป็นเลิศในวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
• ก่อนที่จะอายุครบ 15 ปีเขาได้เรียนรู้แคลคูลัสเชิงปริพันธ์และเชิงอนุพันธ์เพื่อความสมบูรณ์แบบ
• เขาเป็นนักเรียนที่ยากลำบากเนื่องจากการปฏิเสธที่เขามีต่อการศึกษาที่ไม่ยืดหยุ่นและเผด็จการในเวลานั้น เหตุผลที่เขาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 15 ปี

อย่างที่คุณสังเกตเห็นอัลเบิร์ตไอน์สไตน์แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ

และแม้จะเกิดในช่วงเวลาที่ยังคงเป็นเรื่องยากมากที่จะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติของอัจฉริยะ แต่ไอน์สไตน์ก็เริ่มการทดลองของเขาด้วยอายุเพียง 16 ปี ถามคำถามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และจินตนาการถึงทฤษฎีที่ไม่มีที่สิ้นสุด. นิสัยนี้ทำให้เขาสร้างสมการที่ปฏิวัติวงการที่สุดในฟิสิกส์ยุคใหม่

ไอคิวของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์คำนวณอย่างไรถ้าเขาตายไปแล้ว?

บทความจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตตอบสนองต่อคำหลัก “ iq โดย Albert Einstein”.
อย่างไรก็ตามบทความเหล่านี้ส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากการคาดเดาเนื่องจากไม่มีใครสามารถยืนยัน IQ ของ Einstein ได้อย่างแน่นอน
ตั้งแต่ก การทดสอบสติปัญญาอย่างเป็นทางการ ไม่เคยใช้กับเขา
แม้ว่าในเวลานั้นการทดสอบความฉลาดจะถูกนำไปใช้ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้คิดค้นวิธีการ คำนวณไอคิวของผู้เสียชีวิต หรือว่าไม่เคยมี การทดสอบ IQ อย่างเป็นทางการ. ควรค่าแก่การกล่าวถึงว่าวิธีการเหล่านี้สามารถใช้ได้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่ยอมรับเท่านั้นซึ่งวิถีทางมีประวัติชีวิตการสืบสวนสุนทรพจน์ ฯลฯ

ตัวอย่างนี้คือไฟล์ ค่าประมาณ IQ ที่ทำกับบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เช่นกาลิเลโอกาลิเลอีเบโธเฟนอัลเบิร์ตไอน์สไตน์เองและคนอื่น ๆ

สำหรับสิ่งนี้แตกต่างกัน ปัจจัยในการคำนวณไอคิว กำลังพิจารณาเช่น:

• บันทึกพฤติกรรมในวัยหนุ่มของเขา
• การสอบสวนที่บุคคลภายนอกดำเนินการเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา
• วิธีคิด.
• ความสำเร็จ

นอกจากนี้ตามข้อมูลในอดีต Albert Einstein จะได้คะแนนสูงมากในการสอบ การให้เหตุผลเชิงพื้นที่.
สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนหลายปีหลังจากการเสียชีวิตของเขาหลังจากทำการศึกษาเกี่ยวกับร่างกายของเขา การผ่าสมองของเขาพบว่ามีพื้นที่ใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่รับผิดชอบ การสร้างภาพสามมิติ.

ขอเพิ่มหลักฐานทั้งหมดหลักฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่เขามี เนื่องจากผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ของหนังสือดังกล่าวมักจะเป็นคนที่มีก ระดับสูงของความฉลาดทางคณิตศาสตร์วาจาและเชิงพื้นที่.

Albert Einstein ในการเมือง

ไอน์สไตน์ไม่เคยภักดีต่ออุดมการณ์เดียว เขาเป็นนักคิดอิสระมาโดยตลอดซึ่งความคิดนี้ไม่เหมาะกับโอกาสทางการเมือง.

ไอน์สไตน์เป็นคนรักสันติ ผู้มักประกาศตัวต่อต้านสงครามและทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทหาร ยกเว้นการต่อสู้กับฮิตเลอร์เพราะในบริบทนั้นเขาประกาศว่าเป็นสงครามที่ชอบธรรมโดยสิ้นเชิง

แม้ว่า Albert Einstein ไม่เคยตั้งใจที่จะอยู่ในกลุ่มการเมือง, พบว่าตัวเองจมอยู่ในบริบทของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเขาจึงกลายเป็นสมาชิกของ พรรคประชาธิปไตยเยอรมัน. หัวข้อที่ใช้เวลาไม่นานในขณะที่เขาไม่ลังเลที่จะวางบนโต๊ะความไม่เห็นด้วยกับการริเริ่มทางทหารบางอย่างเพื่อต่อต้านกลุ่มกบฏโดยปฏิเสธที่จะลงนามในแถลงการณ์ที่ส่อถึงการสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับไกเซอร์แห่งเยอรมนี

ในการสัมภาษณ์ในอนาคต Albert Einstein กล่าวไว้ดังต่อไปนี้:

เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ยุโรปได้ปลดปล่อยความบ้าคลั่งนี้ออกมา (…)
ในช่วงเวลาเหล่านี้เราตระหนักดีว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่ไร้สาระเพียงใด

Albert Einstein

หลายปีต่อมาและด้วยการขยายอำนาจของนาซีไอน์สไตน์ตัดสินใจออกจากเยอรมนีและนั่นคือวิธีที่เขามาถึงสหรัฐอเมริกา

แม้จะอยู่ห่างไกลจากประเทศเยอรมนี แต่การล่วงละเมิดยังคงมีอยู่ พวกเขายังสามารถจับกุมชายคนหนึ่งที่คาดว่าจะวางแผนฆาตกรรมของเขา

นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกลุ่มที่ตีพิมพ์หนังสือชื่อ: “ผู้เขียน 100 คนต่อต้านไอน์สไตน์”. เหตุการณ์ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ตอบอย่างใจเย็นดังต่อไปนี้:

ทำไมต้องเป็นร้อย? ถ้าฉันผิดแค่คนเดียวก็พอ

Albert Einstein

เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์คือการเสนอให้เป็นประธานาธิบดีของอิสราเอล

ในปีพ. ศ. 2495 หลังจากการเสียชีวิตของ Chaim Weizmann ประธานาธิบดีคนแรกของอิสราเอลซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ Einstein เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกาเชิญอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศของเขา, ข้อเสนอที่ถูกปฏิเสธด้วยคำต่อไปนี้:

ฉันสะเทือนใจอย่างยิ่งกับข้อเสนอของรัฐอิสราเอลและในขณะเดียวกันก็เสียใจและละอายใจที่ไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนี้ได้ ตลอดชีวิตของฉันฉันจัดการกับเรื่องวัตถุประสงค์ดังนั้นฉันจึงขาดความถนัดและประสบการณ์ตามธรรมชาติในการจัดการกับผู้คนอย่างเหมาะสมและปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ฉันรู้สึกทุกข์ใจมากที่สุดกับสถานการณ์เหล่านี้เพราะความสัมพันธ์ของฉันกับคนยิวกลายเป็นความผูกพันระหว่างมนุษย์ที่แน่นแฟ้นที่สุดนับตั้งแต่ฉันตระหนักดีถึงสถานการณ์ที่ล่อแหลมของเราในประเทศต่างๆทั่วโลก

Albert Einstein

แน่วแน่ต่อความเชื่อมั่นและความคิดของเขาและกลัวทุกสิ่งที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งทิ้งไว้เบื้องหลัง ไอน์สไตน์ส่งเสริมการสร้างแถลงการณ์รัสเซล – ไอน์สไตน์, เอกสารที่เรียกร้องให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ทั้งหมดรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์มนุษยชาติและการปกป้องสิ่งแวดล้อมโดยมีประเด็นหลักในการจัดการกับการหายไปของอาวุธนิวเคลียร์

แถลงการณ์ Russel-Einstein เป็นส่วนสำคัญสำหรับการสร้างไฟล์ การประชุม Pugwash เจ้าหนี้ให้ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปีพ. ศ. 2498.

การประชุมระหว่างประเทศดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อจัดการกับหัวข้อต่างๆเช่น:

• การเติบโตของประชากร
• การปลดอาวุธนิวเคลียร์
• ความรับผิดชอบต่อสังคมในส่วนของชุมชนวิทยาศาสตร์
• การเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อม
• การพัฒนาเศรษฐกิจ

ดังที่คุณอาจสังเกตเห็น อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไม่เพียง แต่เป็นอัจฉริยะทางฟิสิกส์เท่านั้น, มันยังเป็น ผู้สงบเชื่อมั่น, ผู้ไม่เคยปฏิเสธอุดมการณ์ของเขาและแสวงหาการปรองดองของชาติต่างๆ จนถึงวันนี้ การประชุม Pugwash พวกเขากำลังดำเนินการเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อม

การมีส่วนร่วมของ Albert Einstein ในชีวิตประจำวัน

ในกรณีที่คุณไม่รู้ชีวิตของเราจะแตกต่างกันมากถ้าอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไม่ได้เกิดมา

ทุกวันเราใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ไม่มีอยู่จริงหากไม่ได้มาเพื่อความฉลาดของชายคนนี้:

ด้านล่างฉันอธิบาย 4 จาก การมีส่วนร่วมของ Albert Einstein ในชีวิตประจำวันของเรา:

1. ตัวนำทาง GPS

แม้ว่าไอน์สไตน์จะไม่ได้เป็นซีอีโอของ บริษัท ซอฟต์แวร์ที่รับผิดชอบในการพัฒนาแอปพลิเคชัน GPS แต่เขาก็มีส่วนร่วมน้อยกว่ามากในแนวทางของอัลกอริทึมที่แอปพลิเคชันเหล่านี้ใช้งานได้เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับความแม่นยำที่ GPS มอบให้เราในปัจจุบัน ในวัน.

Albert Einstein ตีพิมพ์ในปีพ. ศ. 1905 ทฤษฎีสัมพัทธภาพ, ซึ่งอธิบายภายในปรากฏการณ์อื่น ๆ อีกมากมาย ทำไมนาฬิกาของดาวเทียมถึงอยู่ข้างหน้า.

แต่, ความก้าวหน้าของนาฬิกาดาวเทียมส่งผลต่อความแม่นยำของแอพพลิเคชั่น GPS อย่างไร? ที่นี่เราจะอธิบายให้คุณ:

ตัวนำทาง GPS ทั้งหมดรวมถึง Google Maps, พวกเขาใช้อัลกอริทึมในการวัดระยะทางจากจุดใด ๆ บนโลกไปยังดาวเทียมจำนวนมากที่โคจรรอบโลกของเรา ในการวัดระยะทางนี้จะคำนวณเวลาที่สัญญาณที่ปล่อยออกมาจากดาวเทียมไปถึงเครื่องรับ

เนื่องจากนาฬิกาดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าอยู่ข้างหน้า 38,000 นาโนวินาทีอัลกอริทึมที่กำหนดระยะทางจะคำนึงถึงความก้าวหน้าบางอย่างในอัลกอริทึมของมัน

อาจดูเหมือนน้อยที่สุดเพียง 32,000 นาโนวินาทีก็มีความหมายมาก ถ้าไม่คำนึงถึงไฟล์ ระบบ GPS จะทำงานผิดพลาดหลายกิโลเมตร.

2. อุปกรณ์เลเซอร์

เลเซอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของเรา ในความเป็นจริงพวกเขาถูกใช้เป็นประจำทุกวันและบางทีคุณอาจไม่รู้ตัว

นี่คือบางส่วนของไฟล์ การใช้เลเซอร์โดยทั่วไป:

• โทรคมนาคม: ระบบส่งข้อมูลไฟเบอร์ออปติกใช้เลเซอร์
• ยา: ในการผ่าตัดตาเมื่อเอานิ่วในไตออกเมื่อเอาเนื้องอกออกการผ่าตัดผิวหนัง ฯลฯ
• อุตสาหกรรม: ในการวัดระยะทางที่แน่นอนการตัดและการนำเครื่องจักร
• วิศวกรรมโยธา: ในการสำรวจเพื่อเป็นแนวทางในเครื่องคว้านอุโมงค์
• การรักษาความงาม: ในการกำจัดขนสิวเซลลูไลท์และรอยแตกลาย
• โบราณคดี: ช่วยให้คุณสามารถทำแผนที่พื้นที่ขนาดใหญ่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

ตอนนี้คุณมีความคิดว่าเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ขาดไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้อย่างไรฉันขอเสนอให้คุณผู้รับผิดชอบ:

Albert Einstein ผู้ซึ่งในปีพ. ศ. 1917 ได้วางรากฐานสำหรับการพัฒนาและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเลเซอร์ เมื่อเขาเผยแพร่ ทฤษฎีการปล่อยสารกระตุ้น.

3. เซลล์โฟโตอิเล็กทริก

ปรากฏการณ์ของเซลล์โฟโตอิเล็กทริกถูกค้นพบและต่อมาได้รับการอธิบายเป็นครั้งแรกโดย Heinrich Hertz, นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่มีอาชีพเป็นที่รู้จักในเวลานั้น

อย่างไรก็ตามอัลเบิร์ตไอน์สไตน์เป็นผู้ที่ตีพิมพ์บทความของเขาในปี 1905: “ฮิวริสติกส์ของการสร้างและการแปลงแสง” ซึ่งเขาเกี่ยวข้องกับเอฟเฟกต์โฟโตอิเล็กทริกกับแสงและการปล่อยกระแสไฟฟ้าโดยกำหนดสถานที่บางแห่ง:

• แสงยังเป็นแหล่งพลังงานเช่นเดียวกับลมหรือพลังน้ำ
• แสงถูกปล่อยออกมาในโฟตอนซึ่งเป็นแพ็คเก็ตขนาดเล็กที่ไม่สามารถแบ่งออกได้
• เมื่อโฟตอนชนกับวัสดุอื่นจะทำให้อิเล็กตรอนบางตัวกระโดด
• หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่องสิ่งที่เรารู้ว่าเป็นพลังงานไฟฟ้าจะถูกสร้างขึ้น

ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้เราสรุปได้ 2 ประการคือ

• แสงทำงานเหมือนอนุภาคเล็ก ๆ ในบางครั้ง
• อนุภาคดังกล่าวมีความสามารถในการโต้ตอบกับสสารที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่มองเห็นได้

แต่การใช้รู้ทั้งหมดนี้คืออะไร?

เอฟเฟกต์โฟโตอิเล็กทริกมีอยู่ในหลายแห่ง มันเป็นมากกว่าที่คุณคิดทุกวัน

Here are some การใช้เซลล์โฟโตอิเล็กทริกโดยทั่วไป:

• กล้องโทรศัพท์มือถือ.
• Breathalyzers.
• ตัวควบคุมหมึกสำหรับเครื่องพิมพ์.
• เปิดไฟอัตโนมัติในสวนสาธารณะและสวนหย่อม

แม้ว่าการใช้เอฟเฟกต์ตาแมวที่สำคัญที่สุดคือแผงโซลาร์เซลล์ เนื่องจากผ่านแผงโซลาร์เซลล์สิ่งที่เขียนโดย Albert Einstein จึงถูกนำไปใช้อย่างสะอาดที่สุด:

การแปลงแสงเป็นไฟฟ้าโดยการรวบรวมโฟตอนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อชี้ไปยังวัสดุที่จะสร้างพลังงานไฟฟ้าในที่สุด

4. การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น

มันเป็นไปได้อย่างไร Albert Einstein มีส่วนในการพัฒนาสูตรที่ใช้ใน ตลาดหุ้น?

แม้ว่ามันจะดูเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นเรื่องจริง:

ไอน์สไตน์ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับ ทฤษฎีบทความผันผวนและการสูญเสีย, สูตรดั้งเดิมโดย Harry Nyquist

แต่ทฤษฎีบทนี้เกี่ยวกับอะไร?

ทฤษฎีบทการกระจายความผันผวนตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าการตอบสนองของระบบในสมดุลทางอุณหพลศาสตร์ต่อการประยุกต์ใช้แรงขนาดเล็กจะเหมือนกับการตอบสนองต่อความผันผวนที่เกิดขึ้นเอง
ดังนั้นทฤษฎีบทจึงเชื่อมโยงการผ่อนคลายการตอบสนองเชิงเส้นของระบบจากสถานะที่ไม่สมดุลที่เตรียมไว้กับคุณสมบัติของความผันผวนทางสถิติที่สมดุล บ่อยครั้งการตอบสนองเชิงเส้นจะอยู่ในรูปแบบของการสลายตัวแบบเอกซ์โพเนนเชียลอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

Wikipedia, 2021

ในระยะสั้น ทฤษฎีบทความผันผวนและการสูญเสีย แสร้งทำเป็นอธิบายวิธีที่เราทำได้
ทำนายพฤติกรรมของระบบคลาสสิกหรือควอนตัมที่เป็นไปตามความสมดุลโดยละเอียด.

ตอนนี้เราเข้าใจมากขึ้นอีกเล็กน้อยว่าทฤษฎีบทดังกล่าวประกอบด้วยอะไรบ้าง
ฉันบอกคุณได้ว่ามันแทรกแซงอย่างไร Albert Einstein และบทความของเขาเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหวของ Brownian.

ดังที่เราได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้อัลเบิร์ตไอน์สไตน์มีความสามารถในการคิดทฤษฎีมากมายผ่านจินตนาการของเขา

นี่คือวิธีที่ Einstein ให้ความสนใจกับไฟล์ ทฤษฎีบทความผันผวนและการสูญเสีย
และทำให้เรามีมุมมองใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคที่สังเกตเห็นเมื่อหลายปีก่อน Robert Brown.

เป็นที่น่ากล่าวขวัญว่าโรเบิร์ตบราวน์สามารถสังเกตเห็นอนุภาคที่เคลื่อนที่ภายในเมล็ดละอองเรณูที่ลอยอยู่ในน้ำ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถอธิบายกลไกที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวนี้ได้

กลับไปข้างบน Albert Einstein ในบทความของเขาเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหวของ Brownian เผยแพร่ในปี 1905 โดยใช้ทฤษฎีความผันผวนและการกระจายตัวของกลไกที่สร้างการเคลื่อนที่ของอนุภาคในตัวกลางของไหล

หลายปีต่อมาพบว่าการเคลื่อนไหวของอนุภาคที่ไอน์สไตน์อธิบายนั้นคล้ายคลึงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดหุ้น

เนื่องจากมีการระบุการเปรียบเทียบดังกล่าวจึงเริ่มใช้สูตรของไอน์สไตน์ในการทำนายพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ

จะฉลาดขึ้นได้อย่างไรตาม Albert Einstein?

นอกเหนือจากการเป็นผู้ชายที่รู้จักกันดีในเรื่องความเฉลียวฉลาดอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ยังโดดเด่นในเรื่องของเขา จูงใจสูงในการเปลี่ยนแปลงและความสามารถในการเรียนรู้, คุณสมบัติที่อาจเป็นความลับของเขา ไอคิวสูง.

ไอน์สไตน์เคยพูดว่า:

การวัดความฉลาดคือความสามารถในการเปลี่ยนแปลง

Albert Einstein

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงนำเราไปสู่การเติบโตและด้วยเหตุนี้การเติบโตทำให้เราฉลาดขึ้น:

มนุษย์ได้รับการฝึกฝนให้ประสบความสำเร็จในทุกด้านผ่านการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัว

ดังนั้นการเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงจะช่วยยกระดับการขยายตัวของจิตใจของเราและทำให้เกิดแนวคิดและแนวทางแก้ไขที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

ด้านล่างนี้ฉันอธิบาย 4 เคล็ดลับที่คุณควรคำนึงถึงเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณและ เพิ่มไอคิวของคุณ:

1. ปรับปรุงความสัมพันธ์ของคุณกับพ่อแม่

สิ่งแรกที่คุณต้องบรรลุเพื่อเริ่มการเปลี่ยนแปลงคือ บรรลุความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ของคุณ, สิ่งนี้ช่วยให้ไฟล์ การขยายตัวของจิตสำนึกของเรา.

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีตเราต้องรู้จักให้อภัยและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว

2. เริ่มทำเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว

จำเป็นที่เราจะต้องเริ่มฝึกฝนจิตใจของเราเพื่อให้มันสามารถควบคุมร่างกายของเราได้ทั้งหมดไม่ใช่ในทางอื่น

กลยุทธ์ที่ดีในการกู้คืนไฟล์ การควบคุมจิตใจเหนือร่างกาย มันผ่าน อดอาหาร.
และฉันไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทานอาหารเช้าหรืออื่น ๆ

เราสามารถรวมไว้ในกิจวัตรของเรา a เทคโนโลยีที่รวดเร็ว.
นั่นคือทิ้งเครือข่ายสังคมออนไลน์และโทรศัพท์มือถือโดยทั่วไป อาหารที่ดีต่อสุขภาพก็มีประโยชน์มากเช่นกัน

3. อ่านและอาศัยประสบการณ์มากมาย

นอกจากจะเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับเวลาว่างของคุณแล้วการอ่านหนังสือยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกเช่น:

• เพิ่มความสามารถในการมีสมาธิ
• เรียนรู้โดยการอ่าน สิ่งนี้ทำให้เกิดหัวข้อการสนทนาใหม่ ๆ ซึ่งสนับสนุนความสัมพันธ์ทางสังคม
• ลดความตึงเครียด.

Charlie Tremendous Jones เคยพูดว่า:

คุณจะเป็นคนเดิมในวันนี้เช่นเดียวกับคุณในห้าปียกเว้นคนที่คุณพบและหนังสือที่คุณอ่าน

Charlie Tremendous Jones

เสี่ยงและแสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่ากลัวความล้มเหลวมันเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและนวัตกรรม

4. มองแก้วว่าเต็มครึ่งและไม่ว่างครึ่ง

เราต้องคุ้นเคยกับการมองเห็นผลกำไรแทนช่องว่างอยู่เสมอ

คุณสามารถออกกำลังกายเล็กน้อยเพื่อเริ่มมองเห็นชีวิตจากมุมมองในแง่ดี:

• ย้อนกลับไป 5 ปีและเริ่มจดบันทึกทุกสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จฉันมั่นใจว่ามันจะทำให้คุณสะท้อนใจ

ตอนนี้คุณได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 อัลเบิร์ตไอน์สไตน์มรดกและอุดมคติของเขาแล้วคุณอาจสงสัยสิ่งต่อไปนี้:

หากคุณอยากรู้เกี่ยวกับ รู้ว่าคุณฉลาดแค่ไหน , คุณต้องหา เชาวน์ปัญญา.
สำหรับสิ่งนี้คุณสามารถใช้ ทดสอบไอคิวออนไลน์ และทราบผลของคุณทันที

วันนี้คุณกล้าที่จะค้นพบไอคิวของคุณแล้วหรือยัง?

มีมาฝากกันเรื่อยๆ สำหรับคนที่ชอบอ่าน คำคม วาทะเด็ด สุภาษิตสอนใจ ที่มาในรูปแบบของภาษาอังกฤษพร้อมแปลไทยค่ะ

คำคม วาทะเด็ด จากคนดังระดับโลก

To climb steep hills requires a slow pace at first.
จะปีนเขาสูงชัน ก้าวแรกต้องไปช้าๆ
– – วาทะของเช็กสเปียร์ (Shakespeare) กวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ

Expect the best, plan for the worst, and prepare to be surprised.
คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด วางแผนรับมือเหตุร้ายที่สุด และเตรียมตัวสำหรับเรื่องที่คาดไม่ถึง
– – วาทะของ เดนิส เวตลีย์ (Denis Waitley) นักเขียนชาวอเมริกัน

A person who never made a mistake never tried anything new.
บุคคลที่ไม่เคยทำผิดพลาด จะไม่มีวันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
– – วาทะของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)

Even peace may be purchased at too high a price.
แม้ว่าสันติภาพจะมีราคาแพงแต่ก็ยังมีคนซื้อ
– – วาทะของ เบนจามิน แฟรงกลิน นักปรัชญาคนสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐ

Forgiveness is a gift you give yourself.
การให้อภัยคือของขวัญที่คุณให้กับตัวเอง
– – วาทะของ ซูซานน์ ซอเมอร์ (Suzanne Somers) นักแสดงอเมริกัน

Envy is an insult to oneself.
ความอิจฉาคือการดูถูกตัวเอง
– – วาทะของ เยฟเกนี เยฟทุเชนโก (Yevgeny Yevtushenko) กวีชาวรัสเซีย

When you forgive, you in no way change the past but you sure do change the future.
เมื่อให้อภัย คุณเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่มั่นใจได้ว่าเปลี่ยนอนาคตได้
– – วาทะของเบอร์นาร์ด เมลต์เซอร์ (Bernard Meltzer) เจ้าของสถานีวิทยุชาวอเมริกัน

Love looks not with the eyes, but with the mind.
รักมองไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
– – คำคมจาก วิลเลียม เช็กสเปียร์ ยอดนักประพันธ์ชาวอังกฤษ

The definition of insanity is doing the same thing over and over and expecting a different result.
นิยามของความวิกลจริตคือการทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา และคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป
– – วาทะของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

Half of being smart is knowing what you”re dumb at.
ครึ่งหนึ่งของความฉลาด คือ การที่คุณรู้ว่าตัวเองโง่เรื่องไหนบ้าง
– – วาทะ เดวิด เจอร์โรลด์ นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน

I”m a slow walker, but I never walk back.
ฉันอาจเป็นคนที่เดินอย่างเชื่องช้า แต่ฉันก็ไม่เคยเดินถอยหลัง
– – วาทะของ อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)

Losers make promises they often break.
Winners make commitments they always keep.
คนแพ้มักให้สัญญาแต่ไม่เคยรักษา
คนชนะมักให้สัญญาที่รักษาได้เสมอ
– – วาทะของเดนิส เวตลีย์ นักพูดชาวอเมริกัน

You know you are getting old when the candles cost more than the cake.
คุณจะรู้ตัวว่าแก่ขึ้น เมื่อราคาเทียนแพงกว่าเค้ก
– – วาทะของ บ๊อบ โฮพ (Bob Hope) ดาวตลก อเมริกัน

Do not pray for easy lives. Pray to be stronger men.
อย่าอ้อนวอนขอชีวิตที่เรียบง่าย แต่จงสวดขอให้เป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น
– – วาทะของจอห์น เอฟ.เคนเนดี้

Freedom is the oxygen of the soul.
เสรีภาพคือออกซิเจนของจิตวิญญาณ
– – คำคมของ โมเช่ ดายัน นายพลตาเดียวแห่งอิสราเอล

Even peace may be purchased at too high a price.
แม้ว่าสันติภาพจะมีราคาแพงแต่ก็ยังมีคนซื้อ
– – วาทะของ เบนจามิน แฟรงกลิน นักปรัชญาคนสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐ

Beware of small expenses; a small leak will sink a great ship.
จงระวังสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยรั่วเล็กๆ อาจจะทำให้เรือใหญ่ล่ม
– – วาทะของ เบนจามิน แฟรงกลิน นักปรัชญาคนสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐ

When nothing is sure, everything is possible.
ในเมื่อไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
– – วาทะของ มาร์กาเร็ต แดร็บเบิ้ล (Margaret Drabble) นักเขียนนิยายชาวอังกฤษ

All life is an experiment. ชีวิตคือการทดลอง
The more experiments you make the better. ยิ่งทดลอง ก็ยิ่งช่ำชอง
– – วาทะของ ราล์ฟ วัลโด เอเมอร์สัน (Ralph Waldo Emerson) นักวิชาการอเมริกัน

บทความแนะนำ