Skip to content
Home » [Update] | ทํา งาน เสร็จ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] | ทํา งาน เสร็จ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ทํา งาน เสร็จ ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

วันนี้ Eng Breaking มาพร้อมกับคู่มือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ที่มีทั้งหมด 12 หัวข้อที่น่าสนใจรับรองว่าถ้าคุณใช้ประโยคเหล่านี้เป็นคุณสามารถโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ สร้างการสื่อสารที่ดีได้อย่างแน่นอน

Table of Contents

1. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย Greetings- การแนะนำและคำทักทาย

Hello/ HiสวัสดีHow’s your day going?เป็นอย่างไรบ้าง?Hello, my name is….สวัสดีฉันชื่อ…  How are you?เป็นอย่างไรบ้าง?Hey man, Nice to meet you. เฮ้ เพื่อนยินดีที่ได้รู้จัก  Good to see you!ดีใจที่ได้เจอHi, how’s tricks?เป็นอย่างไรบ้าง?What’s your name?คุณชื่ออะไร?How do you do? สวัสดี (ไม่ได้แปลตรงตัวตามตัวอักษรว่า คุณทำอย่างไร)  Whazzup?ทำอะไรอยู่How’s life?ชีวิตเป็นไงบ้าง?What’s up? What’s new?, or What’s going on? มีอะไร? มีอะไรใหม่? หรือเกิดอะไรขึ้น?How’s it going?เป็นไงบ้าง?Where are you from?คุณมาจากไหนHow long will you stay here?คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?Where do you live now?ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่ไหนHave a nice day for you!ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะAre you here on vacation?คุณมาที่นี่เพื่อพักร้อนใช่ไหม?Haven’t seen you for ages.นานมาแล้วไม่เห็นคุณ(สำนวน “in ages” หรือ “for ages” แปลว่า เป็นเวลานาน)  This is my name cardนี่คือนามบัตรของฉันHave a good one ขอให้มีวันที่ดีSee you soon!แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้

2. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Family – ประโยคเกี่ยวกับครอบครัว

Do you want to see pictures of my family?คุณอยากดูรูปภาพครอบครัวของฉันไหม?How’s the family? How’s everybody doing?         ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างHave you got a big family?คุณมีครอบครัวใหญ่ใช่ไหม?Have you got any brothers or sisters?คุณมีพี่ชายหรือพี่สาว?How many people are there in your family?ครอบครัวคุณมีสมาชิกกี่คน?There are six people in my familyครอบครัวของฉันมีหกคน

3. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Jobs – ประโยคเกี่ยวกับงาน

Are you available for the meeting on …?คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา…มั้ยI wish I could help, but I’m busy right now.ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะCan / Could I remind you to…?ขอฉันเตือนเธอสักนิดนะว่า…Hope you don’t forget to do it.ฉันหวังว่าเธอจะไม่ลืมทำมันนะCould I have your advice on this?ฉันขอคำแนะนำจากคุณได้ไหม?That sounds like a great plan!ฟังดูแผนนี้ยอดเยี่ยมจังCan you join the meeting on..?คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา…ได้มั้ยWhat time does the meeting start?  ประชุมเริ่มกี่โมงCan I take a day off? ฉันขอลาซักวันได้มั้ย  Which room is the meeting in?ห้องที่กำลังมีประชุมอยู่ไหน?Don’t forget to do it.อย่าลืมทำเรื่องนี้Would you mind photocopying this bill for me?จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะรบกวนคุณถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ที  Do you have a minute?ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย                 Would you mind sending the presentation to me?  รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อยI want to remind you about …ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่อง…  Please don’t forget to do this.อย่าลืมทำมันนะI’d like to remind you about…ฉันต้องการเตือนคุณเกี่ยวกับ …You will remember to finish it, won’t you?เธอจำได้ว่าต้องทำมันให้เสร็จใช่ไหมI’m looking forward to working together.ฉันรอคอยที่จะทำงานร่วมกันกับคุณStick on the plan that…ตามแผนที่วางไว้คือ…                                     

Eng Breaking แนะนำประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Things Are Good – ชื่นชม

Good job!ทำได้ดีมาก!You’re a genius.คุณเป็นอัจฉริยะGood for you!ดีสำหรับคุณ!You’re doing fine.คุณทำได้ดีGreat!ดีมากYou are really pretty.คุณน่ารักจริงๆGood thinking.เป็นความคิดที่ดีYou look great today.วันนี้คุณดูดีมากThat’s it!นั่นแหล่ะ! (ต้องเป็นอย่างนั้น)You’re on the right track now!คุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว!That’s the best ever.นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดYou’re looking so beautiful today.วันนี้คุณดูสวยงามมากThat’s not bad! นั่นไม่เลวเลย!I love your new dress.ฉันชอบชุดใหม่ของคุณThat’s really nice มันดีจริงๆHow thoughtful ช่างคิด,ครุ่นคิด,รอบคอบ

5. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Ways To Say Sorry – วิธีการพูดคำขอโทษ

Whoops. Sorryอ๊ะ ขอโทษSorry to butt in ….ขอโทษที่พูดขัดจังหวะ….I’m (so / very / terribly) sorry หรือ I’m terribly sorryฉันขอโทษจริงๆSorry to interrupt, but…..ขออภัยที่จะขัดจังหวะ แต่…I’m sorry I’m lateฉันขอโทษที่มาสายPardon (me).ยกโทษให้ฉันSorry to bother youขอโทษที่รบกวนคุณThat’s my fault.นั่นเป็นความผิดของฉันSorry. I didn’t mean to do that ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นMy bad/My fault.ฉันไม่ดี / ความผิดของฉันSorry for keeping you waitingขออภัยที่ทำให้คุณต้องรอPlease excuse my (ignorance).กรุณาให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉัน

คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้เพื่อตอบกลับเมื่อคนอื่นพูดคำขอโทษกับคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยเช่น
Don’t worry about it. – อย่าไปกังวล, อย่าไปคิดมาก
Please don’t blame yourself. –อย่าโทษตัวเอง
It’s not your fault. – ไม่ใช่ความผิดของคุณ
That’s all right – ไม่เป็นไร หรือ ทุกอย่างยังโอเค
Think nothing of it. – ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกนะ
No problem – ไม่เป็นไร
Never mind. It doesn’t really matter. – ไม่ต้องคิดมากไม่เป็นไร

6. Ways To Say Thank You for someone – การพูดขอบคุณใครสักคน

Thank you very much.ขอบคุณมากๆThanks a million for…!ขอบคุณล้านครั้งสำหรับ … !How thoughtful.คุณรอบคอบจังThere are no words to show my appreciation!ไม่มีคำพูดใดที่แสดงความขอบคุณของฉัน!That’s so kind of you.คุณดีกับฉันจังI am most grateful ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่สุดThank you, without your supportขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI really appreciate itฉันซาบซึ้งกับเรื่องนี้จริงๆ

อย่าพลาดวิดีโอนี้นะ >> จะอธิบายบางอย่างในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างไร

7. Giving An Opinion – ให้ความคิดเห็น

As far as I’m concerned…ตามความเห็นของฉัน / เท่าที่ฉันรู้…..What I’m trying to say is….สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคือWhat are your views on…?คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้What is your opinion about that?เรื่องนั้นคุณมีความเห็นว่าอย่างไรWhat are your ideas ?คุณรู้สึกยังไงกับสิ่งนั้นTo my mind…ฉันคิดว่า….What’s your opinion?คุณมีความคิดเห็นอย่างไรI think we should…ฉันคิดว่า เราควร…

8. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Hobby – ประโยคเกี่ยวกับงานอดิเรก

What is your hobby? งานอดิเรกของคุณคืออะไรI’m really into it.ฉันหลงใหลในสิ่งนั้นมากๆI relax by…ฉันผ่อนคลายด้วยI’m addicted to itฉันติดสิ่งนั้นมากๆIf I’m not working, I…ถ้าฉันไม่ทำงานฉัน …Why did you start your hobby?ทำไมคุณถึงเริ่มงานอดิเรกของคุณMy hobbies are…งานอดิเรกของฉันคือ…How many hours a week do you spend on your hobby?คุณใช้เวลากับงานอดิเรกของคุณกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์?I wouldn’t mind a…ฉันจะไม่รังเกียจ …I’m crazy about it. ฉันคลั่งไคล้มันI could use a…ฉันต้องการI’d really like / I’d love a day off.ฉันชอบมาก / ฉันชอบวันหยุด

ผู้เรียนภาษาอังกฤษจะไม่ควรพลาดกับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

9. Asking For Help and Suggest Giving Help – การขอความช่วยเหลือและแนะนำการให้ความช่วยเหลือ

Can I help you?ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้างGive me a hand with this, will you?คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?Could you help me for a second? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม

Help! / Help me!ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยI need some help, please.ฉันต้องการความช่วยเหลือโปรด ช่วยฉันหน่อยThanks for your help. ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI can’t manage. Can you help?ฉันจัดการไม่ได้ คุณช่วยได้ไหมIt’s my pleasure.ด้วยความยินดี

10. Sentences about Shopping – ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
เกี่ยวกับการช็อปปิ้ง

Are you open on…?
ร้านเปิดตอน…ใช่ไหม?What is the total?
ทั้งหมดเท่าไหร่?Buy one get one free
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งWhat is the price after the discount?
ราคาหลังลดแล้วคือเท่าไห่รCan you give me any off?
คุณลงราคาหน่อยได้ไหม?Would you like anything else?
คุณต้องการอย่างอื่นอีกไหมDo you sell any…? or Do you have any…?
คุณมีขาย….ไหม?That’s cheap!
ถูกมากเลย!That’s good value
นั่นมีมูลค่าที่ดีThat’s too expensive!
มันแพงเกินไป!

11. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย On The Phone

Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง? ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ?
Can I speak to … please?ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ย
Could I ask who’s calling, please? ฉันขอถามได้ไหมว่าใครโทรมา
Can I leave a message for him/her? – ฉันสามารถฝากข้อความถึงเขา ได้หรือไม่?
Could you please take a message? Please tell her/him that…คุณช่วยส่งข้อความได้ไหม กรุณาบอกเธอว่า…

Sure, one moment please. –แน่นอนอยู่แล้ว รอฉันสักครู่
Thanks for getting back to me. ขอบคุณที่ติดต่อกลับ
Leave a message after the beep. ฝากข้อความหลังจากเสียงสัญญาณ
Leave a message.ฝากข้อความไว้
I’ll call you later. ฉันจะโทรกลับทีหลัง
I’ll call you back when I’m free. ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง

I’m sorry, she/he’s not here today. Can I take a message? ขอโทษนะคะ เขาไม่อยู่ที่นี่วันนี้ กรุณาฝากข้อความเอาไว้ได้ไหม
I’m sorry, we have a bad connection.  Could you speak a little louder, please? ขอโทษนะคะ เหมือนสัญญาณจะไม่ดี กรุณาพูดให้ดังหน่อยได้ไหม
Good morning/afternoon/evening.  This is (your name) at/ calling from (company name).  Could I speak to ….? – สวัสดี.ฉันชื่อ … โทรจาก… ฉันสามารถคุยกับ…. ได้ไหม?
Is there anything else I can help you with?……Okay, thanks for calling.  –มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม? … ขอบคุณมากที่โทรหา

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยช่วยคุณมั่นใจมากขึ่้นในการสื่อสาร

ยกตัวอย่างบทสนทนามีใช้ประโยคที่ใช้บ่อย

บทสนมนาในการเจอกันครั้งแรกกับ การใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยบทสนมนาถามตอบเกี่ยวกับงานอดิเรก กับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยMike: Good morning, nice to see you, I’m Mike What’s yours?
สวัสดีตอนเช้า ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อ Mike แล้วคุณละครับ
Ning: You can call me Ning. — เรียกผมว่า Ning ได้นะครับ
Mike: You speak English very well. — คุณพูดภาษาอังกฤษดีมากเลยนะครับ
Ning: Oh, a little — อ่ะ ได้นิดหน่อยครับ
Mike: Where are you from Ning? — คุณมากจากไหนครับ Ning?
Ning: I’m from Japan — ผมมาจากญี่ปุ่นครับ 
Mike:  Are you here on vacation? — คุณมาเที่ยวหรอครับ
Ning: No, I’m not. I’m here working — ไม่ครับ ผมมาทำงานที่นี่ครับ
Mike: what are you doing? — คุณทำงานอะไรครับ
Ning: I’m a journalist — ผมเป็นนักข่าวครับ
Mike: How long will you stay here? — คุณจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ
Ning: A week, nice to meet you Mike — หนึ่งสัปดาห์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับไมค็
Mike:  Me too , This is my name card — เช่นกันครับ นี่คือนามบัตรของผม
Ning: Thank you — ขอบคุณครับNing: Tell me, what do you enjoy doing in your spare time Mike? 
บอกผมได้ไหมครับว่าคุณชอบทำอะไรในเวลาว่างครับไมค์? 
Mike: Well, I like painting and I also collected a lot of other things. What
about you? — อ่ะ ผมชอบวาดรูป และสะสมบางอย่างครับ แล้วคุณละครับ ?
Ning: I like painting too and playing piano. — ผมชอบวาดรูปและเล่นเปียโน
Mike: You know how to playing piano? — คุณเล่นเปียโนเป็นด้วยหรอ
Ning: Yes, I do. — ครับ ผมเล่นได้
Mike: How interesting! When did you learn how to do that?
ดีจังเลย คุณเรียนเปียโนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Ning:  I learned by myself when I was 15 years old
ผมเรียนเองนะครับ ตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี
Mike: It’s so amazing. –มันช่างยอดเยี่ยมมาก

เยี่ยมเลยครับ 

ทั้งหมดดังกล่าวคือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่ Eng Breaking ฝากไว้ให้ผู้เรียนทุกท่าน หวังว่าคุณจะใช้ได้มีประโยชต์ต่อการทำงาน การเรียน อย่าลืมติดตามเว็บไซน์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของ EngBreaking.co.th เพื่อได้รับข้อมูล และสารดีๆ ทางภาษาอังกฤษทุกวัน

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[NEW] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | ทํา งาน เสร็จ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

Idioms หมายถึง สำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีคำศัพท์ หรือประโยค ที่มีความหมายไม่ตรงตัว พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เปรียบเหมือนสำนวนไทย หรือคำสุภาษิต ในบ้านเรานั่นเองค่ะ อาทิเช่น ไก่ได้พลอย ก็ไม่ได้หมายถึงไก่ได้พลอยจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ คนที่ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ในภาษาอังกฤษเองก็เช่นกัน เขาจะมีสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบซึ่งเรียกว่า idiom นั่นเองค่ะ

สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms)

วันนี้เรามีสำนวน idiom พร้อมภาพประกอบเป็นการ์ตูนน่ารักๆ มาฝากเพื่อนๆ อ่านสนุกๆ ไปด้วยกันนะคะ

head in the clouds

1. head in the clouds

หมายถึง เพ้อฝัน,ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง, อยู่ในโลกแห่งความฝัน (ตื่นค่ะซิสสสส)

heart in your mouth

2. heart in your mouth

หมายถึง  อาการประหม่า ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก (ประมาณว่าตื่นเต้นตอนพูดบนเวที หรือตอนออกไปพูดหน้าห้องเรียน)

hold your horses

3. hold your horses

ไม่ได้หมายถึง จับม้าเอาไว้นะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษนี้ หมายถึงว่า  เดี๋ยวก่อน แปบนึงก่อน (ประมาณว่า เดี๋ยวแปบนึง ขอทำสิ่งนี้ก่อนนะ)
เพราะม้าคือตัวแทนของความเร็วค่ะ เค้าเลยเปรียบเปรยว่า จับม้าของคุณไว้ก่อน

kick the bucket

4. kick the bucket

แปลตรงๆ คือ เตะถัง แต่เมื่อกลายเป็นสำนวน Kick the bucket แปลว่า ตาย

**สำนวนนี้มันมาจากในอดีตที่มีการลงโทษด้วยการแขวนคอ ซึ่งผู้ที่จะถูกแขวนคอ มักจะต้องยืนบนถังใบเล็กที่วางคว่ำอยู่ ทันทีที่เท้าเตะถังออก นั่นก็หมายถึง ผู้ถูกลงโทษก็จะถูกแขวนคอค่ะ

dead as a doornail

5. dead as a doornail

หมายถึง ลาโลกไปแล้วไม่ต้องสงสัย (ถ้าจะบอกว่าตายแหงแก๋ ฝรั่งเขาเปรียบไว้กับคำว่า ตะปูที่ตอกตรึงประตู ที่เรียกว่า door nail )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

6. Bob’s your uncle.

หมายถึง ง่ายๆ แค่นั้นเอง, เท่านั้นแหละ, เรียบร้อย (สำนวนนี้จะไว้ใช้ ตอนนี้เราต้องการบอกว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นมันง่ายมากๆ ทำได้แน่นอน ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว)

blue in the face

7.  blue in the face

ไม่ได้หมายถึงว่าหน้าสีนำ้เงินตามภาพนะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษ blue in the face จะหมายถึง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว (เหมือนเวลาที่พูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หรือเจอสถานการณ์ที่พูด อธิบายอะไรไป แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ฟัง หรืออาจจะฟังแต่ไม่เกิดปฏิกิริยาตอบกลับ จนทำให้เราเพลียที่จะพูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

8. a storm in a teacup

หมายถึง เรื่องขี้ปะติ๋ว, เรื่องเล็กน้อย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (คนที่ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้บานปลาย)
(สำนวนนี้ใช้กันในหมู่คนอังกฤษ คนออสเตรเลีย)

"as cool as a cucumber"

9.”as cool as a cucumber”

หมายถึง คนที่ใจเย็นมากๆ (ยิ่งเอาไปแช่เย็นแล้วล่ะก็… อูยยย เย็นมากฝุดๆ ฮ่าๆ)

a piece of cake

10. a piece of cake

หมายความว่า เรื่องหมูๆ ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

ˇ﹏ˇ ˇ△ˇ ˇ▽ˇ ˙▂˙ ˙0˙ ˙︿˙ ˙ω˙ ˙﹏˙ ˙△˙

สำนวนภาษาอังกฤษอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีสำนวนภาษาอังกฤษมาให้เพื่อนๆ อีกมากมายเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีภาพประกอบแล้วนะคะ ไปอ่านแล้วจำไว้ใช้กันได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เลย

11. A great deal – จำนวนมาก มากมาย

12. After all – อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

13. After one’s own heart – ได้ดังใจ สมใจคิด ถูกใจจริงๆ

14. Aim at – เล็ง(ปืน)ไปที่ มุ่งหมายเพื่อ มุ่งไปยัง มุ่งมั่นเพื่อ ตั้งเป้า เล็ง เพ่งมอง

15. All over the place – ทั่วทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง กระจัดกระจาย เกลื่อน

16. Around the corner – อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว

17. As a matter of fact – อันที่จริง ตามที่จริง จริงๆ แล้ว

18. As far as I am concerned – ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ

19. Ask after –  ถามถึง ถามสารทุกข์สุกดิบ ไปเยี่ยมเยียนถามอาการ ทักทายปราศรัย

20. A dead end – หมดหวัง, ภาวะที่ไร้ความหวัง

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

21. Ask for trouble – หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แส่หาเรื่อง

22. Back and forth – ไปๆ มาๆ เดินกลับไปกลับมา

23. Be concerned about – เป็นห่วง กังวลเกี่ยวกับ

24. Be fond of – ชอบ ชื่นชอบ โปรดปราน

25. Be in charge of – ดูแล รับผิดชอบ

26. Be in the same boat – ลงเรือลำเดียวกัน ประสบปัญหาหรือความยุ่งยากเหมือนกัน

27. Be mad at – โกรธ

28.  Be my guest – ตามสบายเลย เชิญตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ

29. Be on a diet  / go on a diet – กำลังลดน้ำหนัก (ด้วยการคุมอาหาร)

30. Be out of order – เสีย ใช้การไม่ได้ ไม่เข้าท่า ไม่เป็นระเบียบ

31. Be supposed to – น่าจะ ควรจะ

32. Bear in mind – จำใส่ใจไว้ จำไว้ว่า จดจำ รำลึก สังวรไว้

33. Better than nothing – ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

34. Bottom line – ท้ายที่สุด ส่วนที่สำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุด ผลที่ปรากฏออกมาในที่สุด

35. Break a promise – ผิดสัญญา ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามสัญญา

36. Break one’s heart – ทำให้หัวใจสลาย ทำร้ายความรู้สึก ทำให้อกหัก หักอก

37. Break up – เลิกคบ ตัดขาดจากกัน แตกหัก แยกทางกัน ทำให้แหลกละเอียด

38. By all means – แน่นอน ใช่เลย ได้เลย เชิญเลย

39. By no means – ไม่ด้วยประการใดเลย ไม่ใช่ใดๆ เลย ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีทาง

40. Calm down – สงบสติอารมณ์ สงบใจ ทำใจให้สงบ ทำให้สงบ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

41. Carry out – ทำให้สำเร็จ ทำให้ลุล่วง ทำให้บรรลุ ปฎิบัติ ดำเนินการ

42. Catch up with – ตามทัน ไล่ทัน พบ

43. Cheer up – ให้กำลังใจ ปลอบใจ ทำให้รู้สึกดีขึ้น ทำให้ร่าเริงขึ้น

44. Come out of the closet – เปิดเผยตัวตน หรือประกาศตัวออกมาว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน

45. Come over – แวะเยี่ยม ไปมาหาสู่

46.Cope with – จัดการกับ รับมือกับ

47.Count on – ไว้วางใจ เชื่อใจ เชื่อถือ พึ่งพาอาศัย

48.Cross the line – ล้ำเส้น ข้ามเส้น ข้ามแดน

49.Day in and day out – ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุด

50.Deal with – ติดต่อกับ จัดการกับ เกี่ยวข้องกับ รับมือกับ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

51.Don’t get me wrong – อย่าเข้าใจฉันผิด

52.Dress up – แต่งกาย แต่งตัวเป็น ปรุงแต่ง

53.Drive someone crazy – ทำให้บ้าคลั่ง ทำให้เสียสติ

54.Drive someone nuts – ทำให้หงุดหงิดมาก ทำให้โมโหมาก

55.End up – สิ้นสุดด้วย ลงท้ายด้วย ลงเอยด้วย จบลง ในที่สุด

56.Every now and again – เป็นครั้งคราว

57.Every now and then – เป็นครั้งคราว

58.Face to face – ซึ่งๆ หน้า จะๆ ต่อหน้า ประจันหน้า

59.Fade away – ค่อยๆ จางหายไป ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้หายไปอย่างลับๆ เลือนหายไป เสื่อม

60.Figure out – คิดออก คิดให้ออก คิดได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

61.Finish up – ทำให้เสร็จสิ้น จบลง ยุติ

62.Focus on – เพ่งเล็งไปที่ มีสมาธิจดจ่อกับ มุ่งเป้าไปที่ พุ่งความสนใจไปที่

63.Fool oneself – หลอกตัวเอง

64.For the sake of – เพื่อ เพื่อเห็นแก่ เพื่อเป็นเกียรติกับ

65.From now on – จากนี้ไป จากนี้เป็นต้นไป ต่อแต่นี้ไป นับจากนี้ไป

66.From time to time – บางครั้ง

67.Get along – เข้ากันได้ เป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน มุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน

68.Get lost – หลงทาง แต่ถ้าเป็นคำสั่งจะเป็นในเชิงการไล่ แปลว่า ไปให้พ้น ไปให้ห่างๆ ไสหัวไป

69.Get out of – ออกไปจาก ได้มาจาก เอาออกจาก ทำให้ออกไปจาก นำออก คัดลอกจาก ลงจากรถ ยกเลิก ยุติ

70.Get out of hand – ควบคุมไม่ได้ เกินกว่าจะควบคุมได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

72.Get rid of – ขจัด กำจัดออกไป จำหน่ายออกไป ขจัดปัญหา กวาดล้าง โค่น ฆ่า

73.Get the most out of – ใช้ประโยชน์สูงสุดจากบางสิ่งบางอย่าง

74.Get together – พบปะ รวมตัวกัน รวมกลุ่มกัน พบปะสังสรรค์กัน

75.Get used to – เคยชิน รู้สึกเคยชิน

76.Give someone a hard time – นำความยุ่งยากมาให้ ทำให้ยุ่งยาก สร้างความลำบากให้

77.Give up on someone/something – ตัดหางปล่อยวัด เลิกคาดหวังในคนๆ นั้นอีกต่อไป หมดหวังต่อบุคคลนั้นแล้ว

78.Give way to – ยอมตาม เออออห่อหมก ตามใจ

79.Go for a walk – เดินเล่น ไปเดินเล่น ไปกินลมชมวิว

80.Good-for-nothing – เปล่าประโยชน์ ซึ่งไร้ประโยชน์ ไม่เอาถ่าน บุคคลไร้ประโยชน์ คนไม่เอาไหน คนไม่มีค่า

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

คลิปอื่นๆ https://seeme.me/ch/adambradshaw

81.Hand in (something) – ส่ง (รายงาน การบ้าน) ยื่นเสนอ มอบให้(ด้วยมือ) ส่งให้เมื่อถึงกำหนด

82.Hang out – ออกไปข้างนอก ออกไปสังสรรค์

83.Have a crush on someone – หลงรักหรือคลั่งไคล้ใครคนใดคนหนึ่ง แอบรักหรือปิ้ง

84.Have a date (with) – มีนัด ติดนัด ไปเที่ยว (กับ)

85.Have a good time – สนุกสนาน เพลิดเพลิน ขอให้สนุกนะ

86.Have a word with – ต้องการคุยด้วยเป็นส่วนตัว

87.Hit the books – อ่านหนังสืออย่างหนัก ติววิชา ติวเข้ม ตั้งใจเรียน

88.Hold one’s ground – ยึดมั่นอยู่ที่เดิม ไม่ถอย ตั้งรับ ตั้งมั่น รักษาสถานะไว้

89.In advance – ล่วงหน้า ก่อนหน้า ก่อนเวลา

90.In any case – ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ตาม

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

91.In case of – ในกรณีที่เป็น ในแง่ของ

92.In no time – รวดเร็ว ในเวลาไม่นาน

93.In vain – เปล่าประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ สูญเปล่า

94. It/that goes without saying – ชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า

95.Jot down – จดอย่างเร็ว บันทึกอย่างเร็ว รีบจด

96.Jump the gun – ทำอะไรก่อนเวลาอันควร

97.Jump to conclusions – ด่วนตัดสินใจ รีบสรุป รีบตัดสินใจเร็วเกินไป

98.Jump up – กระโดดขึ้น กระโจนขึ้น รีบลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ลุกขึ้นทันที

99.Keep a promise – รักษาสัญญา ทำตามสัญญา

100.Keep an eye on  – เฝ้าดู เฝ้ามอง จับตาดู

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

101.Keep away from – อยู่ห่างจาก หลีกหนีจาก หลีกเลี่ยงจาก

102.Keep calm – ตั้งสติ ทำใจให้สงบ

103. Keep on – ทำต่อไป ดำเนินต่อไป กระทำ…อย่างต่อเนื่อง

104.Keep one’s eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จัดตาดู

105. Keep one’s word – รักษาคำพูด รักษาสัจจะ ทำตามที่พูดไว้

106. Keep your shirt on! – คอยเดี๋ยว คอยก่อน อารมณ์เสีย

107.Lay a finger on – แตะต้อง หรือ ทำร้าย

108.Leave someone in peace – หยุดรบกวน

109.Let go of – ปล่อย ปล่อยตัว ปล่อยไป

110.Let someone down – ทำให้ผิดหวัง

111.Once in a blue moon – ไม่บ่อย นานๆ ครั้ง แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

112.Out of the blue – ทันทีทันใด ไม่ได้บอกล่วงหน้า จู่ๆ ก็เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก englishidiomsaday , ภาพประกอบน่ารักๆ www.rosha.ie

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

บทความแนะนำ


ดนตรีบำบัดความเครียด เพลงบรรเลงเพื่อการฝึกสมาธิ


เพลงบรรเลงเพื่อการฝึกสมาธิ บำบัดความเครียด
คลิปใหม่ๆ คลิกเลย https://bit.ly/2LzQvUJ
Twitter : https://twitter.com/MungKueFarmRak
=============
ในสังคมยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ทุกคนอาจมีช่วงเวลาที่ต้องตกอยู่ในสภาวะความตึงเครียด ในการใช้ชีวิตและในสังคมปัจจุบัน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการเรียน การทำงาน ครอบครัว เศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน การติดอยู่บนโลกโซเซียลก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด และอื่นๆ อีกมากมาย หากเราไม่สามารถที่จะกำจัดความเครียดต่างๆ เหล่านี้ออกไปได้ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหา ความผิดปกติทางด้านอารมณ์ ทางร่างกาย และสติปัญญา

ดนตรีบำบัดช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับบุคลิกภาพ เช่น ช่วยเพิ่มความมั่นใจและการกล้าแสดงออก เด็กที่มีปัญหาด้านการพูด ช่วยแก้ปัญหาเด็กสมาธิสั้น อาจใช้ดนตรีกระตุ้นให้เด็กสามารถพูดและฟังได้ดีขึ้น ช่วยเด็กให้เรียนรู้ในการฝึกควบคุมอารมณ์ของตนเอง ช่วยให้เกิดจินตนาการ และการฝึกคิดวิเคราะห์ พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การทำงานสอดประสานกันของอวัยวะส่วนต่าง ๆ เช่น ตาและมือ และยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ การฝึกหัดเล่นดนตรีอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้เกิดระเบียบวินัย เกิดความความมานะพยายามและความอดทน ซึ่งจะนำไปสู่ผลสำเร็จ คือสามารถเล่นดนตรีที่ต้องการได้ 
ดนตรีมิได้มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาหรือมีโรคภัยทางร่างกายและจิตใจเท่านั้น คนปกติอย่าง เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถใช้ดนตรีเพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจ ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานหรือการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เลือกดนตรีตรงตามรสนิยมของท่าน หรือเพลงบรรเลงเบาๆที่ประกอบไปด้วยเสียงดนตรีและเสียงน้ำไหล ที่ฟังวนไปเรื่อยๆยาวๆ แต่ควรทำไปพร้อมกับการฝึกการนั่งสมาธิไปด้วย
ปัจจุบันสามารถหาฟังได้ง่าย ๆ ตามวิทยุหรือทีวี ใน website ของ Youtube ก็มีดนตรีที่ช่วยผ่อนคลาย (relaxing music) ดนตรีที่ช่วยในการทำสมาธิ (meditation music) หรือดนตรีที่ช่วยให้หลับ (sleeping music) ให้เลือกตามความชอบใจที่มีอยู่มากมาย ลองวิธีง่ายๆ นี้ดูรับรองความเครียดจะหายไปพร้อมกับความสุขของคุณจะกลับมาอีกครั้ง
เพลงบำบัด บำบัดความเครียด เพลงบรรเลงเพื่อการฝึกสมาธิ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ดนตรีบำบัดความเครียด เพลงบรรเลงเพื่อการฝึกสมาธิ

Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด


คลื่นเสียงนี้ทำโดยนักจิตบำบัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา คลื่นเสียง Alpha Wave คือคลื่นเสียงที่มีความถี่ระหว่าง ประมาณ 714 รอบต่อวินาที เวลาที่ความถี่น้อยลง หมายถึงว่า เราจะคิดช้าลง เป็นจังหวะ เป็นท่วงทำนอง คมชัด ให้เวลาแก่จิตในการไตร่ตรองและมีความคิดเป็นระบบขึ้น สภาวะที่สมองทำงานอยู่ในคลื่นอัลฟ่ายังพบอยู่ในหลายๆ รูปแบบ เช่น ขณะที่กล้ามเนื้อหรือร่างกายผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่ง่วงนอน ก่อนหลับหรือหลับใหม่ๆ เวลาทำอะไรเพลินๆ จนลืมสิ่งรอบๆ ตัว เวลาสบายใจ เวลาอ่านหนังสือหรือจดจ่อกับกิจกรรมใด ๆ อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง และการเข้าสมาธิในระดับภวังค์ที่ไม่ลึกมาก
โดยหากจะตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึกก็ควรทำในช่วงที่คลื่นสมองเป็นอัลฟ่า ในคนทั่วไปเองก็ควรฝึกฝนตนเองให้สมองทำงานอยู่ในช่วงคลื่นอัลฟ่าเป็นประจำเช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยสร้างความผ่อนคลาย ร่างกายจะไม่ทำงานอยู่บนฐานแห่งความกลัวหรือวิตกกังวล แต่จะมองชีวิตอย่างสนุกสนาน มีความรู้สึกอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรืออยากสำรวจโลกแบบเด็ก ๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะขาดการฝึกฝนให้ตนเองมีคลื่นสมองชนิดนี้ และมักปล่อยให้อารมณ์อัตโนมัติตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ขาดการคิดใคร่ครวญด้วยระยะเวลาอันเหมาะสมก่อน หากเรามีการฝึกฝนจิตให้ตื่นรู้เช่นเดียวกันกับแนวทางการปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา คลื่นอัลฟ่านี้จะถูกบ่มเพาะให้เข้มแข็งขึ้น สามารถรื้อโปรแกรมอัตโนมัติเก่า สร้างโปรแกรมอัตโนมัติใหม่ ๆ ได้
หากชื่นชอบและอยากสนับสนุนช่องของเรา คุณสามารถเลี้ยงกาแฟเราได้นะคะ
เราจะได้ตาสว่างยันเช้าเพื่อทำเพลงให้พวกคุณได้นอนหลับสบาย ^^
เลี้ยงกาแฟเราได้ที่นี่ค่ะ https://www.buymeacoffee.com/KateVP
ที่มา
http://www.jaisabuy.com/index.php?lay=show\u0026ac=article\u0026Id=5385708\u0026Ntype=1
Copyrights
Meditate and Create, LLC
Commercial Rights License
เพลงเพิ่มสมาธิ เพลงอ่านหนังสือ เพลงกล่อมนอน

Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด

ฝึกพูด 40 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในที่ทำงาน


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
ฝึกพูด 50 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://youtu.be/DAcNrKXmkYk
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกพูดจากประโยคง่ายๆ และพื้นฐานๆที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการพูดออกเสียงเป็นประโยคและเข้าใจความหมายไปด้วยจะช่วยให้เราสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้งานในสถานการณ์จริงและรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ วันนี้ผมรวบรวมเอาประโยคที่พื้นฐานที่สุดมาให้ทุกคนได้ฝึกฝนกัน จริงๆยังมีมากกว่านี้แต่ 50 ประโยคเริ่มต้นนี้ถ้าฝึกพูดจนชินแล้วเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบทเลยทีเดียว
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฝึกพูดอังกฤษ
สมัครเรียน
Line: https://lin.ee/5uEdKb7h
Website: https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Instagram: https://www.instagram.com/unfoxenglish
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่อง LACTA: https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่อง Bell Vittawut: https://www.youtube.com/bellvittawut
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]

ฝึกพูด 40 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในที่ทำงาน

เพิ่งทำงานเสร็จ ภาษาอังกฤษ พูดยังไง?


เพราะการสื่อสาร ไม่ใช่แค่ไวยากรณ์
แต่คือ \”ความมั่นใจ\” และ \”ความรู้\”
ในการสื่อสาร และสร้างบทสนทนา
\”อยากใช้ได้ไม่ลืม จนเพื่อนฝรั่งว้าว
พิมพ์ฝึกใต้คอมเม้นได้เลยค่ะ\” 🥰

🌹 เรียนมั่นใจพูดอังกฤษ
https://www.facebook.com/englishsmilebymadame
🌷 อัพเดตความรู้ใหม่ๆ
https://englishsmileclub.com/
🌹 Englishsmile Instagram
https://www.instagram.com/englishsmilebymadame
🌺 ไดอารีจาก Day 1 ที่อิตาลี
https://www.facebook.com/Madameitaly.ploy
🌸 หนังสือจากประสบการณ์
แอร์โฮสเตทสายการบินห้าดาว 5 ปี
โหดมันฮาสายการบิก พีคทุกวัน
https://bit.ly/2DUt7R7
🌼 อัพเดทคำศัพท์ใหม่ๆเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการพูดอังกฤษ
https://bit.ly/2DSzSlV
🌻สอบถามคอร์สเรียน
m.me/englishsmilebymadame

เพิ่งทำงานเสร็จ ภาษาอังกฤษ พูดยังไง?

Classical Music for Brain Power – Mozart


🎧 Listen to our playlist on Spotify: http://bit.ly/MozartBrainPower
🎬 Watch Hollywood AwardWinning Film \”Interlude in Prague\”, Mozart in love: https://bit.ly/MozartInLove1788 SAVE 25% OFFER CODE: HALIDONMUSIC
💿 Order “Brain Power” [2CDs] on Amazon: http://hyperurl.co/BrainPower
These tracks are available for sync licensing in web video productions, corporate videos, films, ads and music compilations.
For further information and licensing please contact [email protected].
👉 The HalidonMusic Sync Licensing platform is now live at https://licensing.halidonmusic.com
📧 Subscribe to our newsletter and get a 50% discount for 10 days: https://www.halidonmusic.com/en/newsletter.html
CLASSICAL MUSIC FOR BRAIN POWER
Wolfgang Amadeus Mozart
01 Ascanio in Alba, K. 111: Ouverture 00:00
02 Lucio Silla, K. 135: Ouverture
I. Molto allegro 03:33
II. Andante 07:17
III. Molto allegro 10:04
03 Eine Kleine Nachtmusik in G Major, K. 525
I. Allegro 11:44
II. Romanza. Andante 17:47
III. Minuetto. Allegretto 24:26
IV. Rondò. Allegro 26:51
04 Flute Concerto No. 2 in D Major, K. 314
I. Allegro aperto 30:03
II. Adagio non troppo 38:09
III. Rondo. Allegretto 45:52
05 La Finta Giardiniera (“The Pretend GardenGirl”), K. 196: Ouverture 51:33
06 Symphony No. 36 in C Major, K. 425 \”Linz\”
II. Andante con moto 57:38
III. Menuetto 1:05:06
07 Symphony No. 41 in C Major, K. 551 \”Jupiter\”
II. Andante cantabile 1:08:21
IV. Molto Allegro 1:16:40
08 Flute Concerto No. 1 in G Major, K. 313
I. Allegro maestoso 1:25:35
II. Adagio Allegro ma non troppo 1:34:39
III. Rondò – Minuetto 1:44:09
09 Bastien und Bastienne, K. 50: Ouverture 1:51:54
10 Symphony No. 40 in G Minor, K. 550: I. Molto allegro 1:53:52
11 Piano Concerto No. 21 in C Major, K. 467
I. Allegro maestoso 2:02:05
II. Andante 2:16:35
1, 3 \u0026 9: Opole Philharmonic Orchestra conducted by Werner Stiefel
2, 47, 10 \u0026 11: Orchestra da Camera Fiorentina conducted by Giuseppe Lanzetta
Flute on 4: Andreas Blau | Piano on 11: Jörg Demus
8: Ubaldo Rosso, Opole Philarmonic Orchestra conducted by Silvano Frontalini
Wolfgang Amadeus Mozart (1756–1791) was a prolific and influential composer of the Classical era. Born in Salzburg, he showed prodigious ability from his earliest childhood. Already competent on keyboard and violin, he composed from the age of five and performed before European royalty. At 17, Mozart was engaged as a musician at the Salzburg court, but grew restless and traveled in search of a better position. While visiting Vienna in 1781, he was dismissed from his Salzburg position. He chose to stay in the capital, where he achieved fame but little financial security. During his final years in Vienna, he composed many of his bestknown symphonies, concertos, operas, and portions of the Requiem, which was largely unfinished at the time of his death. He wrote more than 600 works, many acknowledged as pinnacles of symphonic, concertante, chamber, operatic, and choral music. He is among the most enduringly popular of classical composers, and his influence is profound on subsequent Western art music. Ludwig van Beethoven composed his own early works in the shadow of Mozart, and Joseph Haydn wrote: \”Posterity will not see such a talent again in 100 years\”.
Thank you so much for watching this video by Halidon Music channel, we hope you enjoyed it! Don’t forget to share it and subscribe to our channel: http://bit.ly/YouTubeHalidonMusic
All the best classical music ever on Halidon Music Youtube Channel.
The very best of Mozart, Beethoven, Bach, Chopin, Tchaikovsky, Vivaldi, Schubert, Handel, Liszt, Haydn, Strauss, Verdi, Brahms, Wagner, Mahler, Rossini, Ravel, Grieg, Dvorák…
classicalmusic musicforreading classicalmusicforstudying mozart brainpower

Classical Music for Brain Power - Mozart

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ทํา งาน เสร็จ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *