Skip to content
Home » [Update] ทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept ง่ายๆ แค่ 10 นาที รู้เรื่อง | tense 12 tense มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

[Update] ทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept ง่ายๆ แค่ 10 นาที รู้เรื่อง | tense 12 tense มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

tense 12 tense มีอะไรบ้าง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept ง่ายๆ แค่ 10 นาที รู้เรื่อง

ถ้าใครท่อง Tense มาทุกปี แต่ก็ยังจำไม่ได้สักที
กระทู้นี้มาเพื่อน้องค่ะ

           

 Hello everyone! สวัสดีค่ะทุกๆคน เป็นกันบ้างไหมคะ เรียนอังกฤษมานาน เจอแน่ๆต้องเรื่อง Tense โอโห มีเป็นสิบ แต่จำรูปแบบไม่ได้เลย แต่วันนี้ พี่ขอแค่ 10 นาทีจากน้องค่ะ

มาทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept และตัวอย่างง่ายๆ

ในกระทู้นี้เลยค่ะ
 

สวัสดีค่ะทุกๆคน เป็นกันบ้างไหมคะ เรียนอังกฤษมานาน เจอแน่ๆต้องเรื่อง Tense โอโห มีเป็นสิบ แต่จำรูปแบบไม่ได้เลย แต่วันนี้ พี่ขอแค่ 10 นาทีจากน้องค่ะในกระทู้นี้เลยค่ะ

เวลาของคนเรามี 3 เวลาใช่ไหมคะ?

     

อดีต

>>

ปัจจุบัน

>>

อนาคต

               

Past

>>

Present

>>

Future

รูปแบบของกาล จะมีอยู่ 4 แบบ ดังนี้
        1.    Simple
        2.    Continuous
        3.    Perfect 
        4.    Perfect Continuous

เท่ากับว่า

มี 3 เวลา เวลาละ 4 รูปแบบ เท่ากับมีทั้งหมด 12 Tenses

จับคู่กันแบบ 1-1 ได้เลย
 

1. Simple2. Continuous3. Perfect4. Perfect Continuousเท่ากับว่าจับคู่กันแบบ 1-1 ได้เลย

Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous

Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous

Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, Future Perfect Continuous

 

ทีนี้ จะจำรูปแบบทั้ง 12 ได้ยังไง? 

รูปแบบที่พี่ไม่ห่วงน้องๆเลยคือ รูปแบบ Simple ค่ะ ก็คือ 
          1. Present Simple ก็ผัน V.1 คือเติม s หรือ es ตามประธานว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์
          2. Past simple ก็ผัน v.2  
          3. Future Simple เอา will+v.inf หรือ v. ที่ยังไม่ผันนั่นเอง

              ส่วน 3 รูปแบบที่เหลือค่ะ ขอให้จำตามฟอร์มนี้นะคะ เวลาผัน

ผันแค่ Verb ที่พี่เน้นตัวหนาไว้ เพราะมันคือ Finite Verb

หรือ Verb แท้ของประโยคนั้นนั่นเอง เพราะสามารถบอกกาลที่เกิดขึ้น และพจน์ด้วยค่ะ (เอกพจน์-พหูพจน์) 

รูปแบบที่พี่ไม่ห่วงน้องๆเลยคือ รูปแบบ Simple ค่ะ ก็คือ1. Present Simple ก็ผัน V.1 คือเติม s หรือ es ตามประธานว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์2. Past simple ก็ผัน v.23. Future Simple เอา will+v.inf หรือ v. ที่ยังไม่ผันนั่นเองส่วน 3 รูปแบบที่เหลือค่ะ ขอให้จำตามฟอร์มนี้นะคะ เวลาผันหรือ Verb แท้ของประโยคนั้นนั่นเอง เพราะสามารถบอกกาลที่เกิดขึ้น และพจน์ด้วยค่ะ (เอกพจน์-พหูพจน์)

พอเราจำฟอร์มได้แล้ว

ผันแค่ตัวหน้า ตามกาลเวลาที่ต้องการ

ก็จะเป็นแบบนี้
ขอเรียง Present ขึ้นมาก่อนนะคะ เพื่อง่ายต่อการผัน verb เหมือนเรานั่งผัน verb 3 ช่อง น่าจะสะดวกกว่า

ลองมายกตัวอย่างการผัน 12 Tense สัก 1 กริยาดีกว่า
ลองผันกันนะคะว่าน้องๆผันตามกันถูกหรือเปล่า
Verb to “write” กำหนดประธานว่า “She” นะคะ

*สรุปแล้วจริงๆ ที่เราอ่านกันมา Tense มันก็มีวิธีการเพียงแค่ดังนี้ค่ะ*

         1.    จำ Form หลัก ให้ได้
         2.    นำ Verb ตัวแรก (ที่จริงๆมันเรียกว่า เจ้า Finite Verbs) มาผันตามกาลเวลาที่เราต้องการ
         3.    จัดการเรื่องพจน์ ว่าเราผันเอกพจน์ หรือพหูพจน์ ถูกต้องรึเปล่า ในกรณีที่เป็น Present Tense กับ Past Simple และ Past Continuous เท่านั้น 

1. จำ Form หลัก ให้ได้2. นำ Verb ตัวแรก (ที่จริงๆมันเรียกว่า เจ้า Finite Verbs) มาผันตามกาลเวลาที่เราต้องการ3. จัดการเรื่องพจน์ ว่าเราผันเอกพจน์ หรือพหูพจน์ ถูกต้องรึเปล่า ในกรณีที่เป็น Present Tense กับ Past Simple และ Past Continuous เท่านั้น

แล้วรูปแบบไหนใช้ยังไง?

         1.    Simple : ง่ายๆ ธรรมดาๆ ตามชื่อ เป็นเหตุการณ์ทั่วๆไปตามเวลาที่ระบุ อดีตก็อดีต ปัจจุบันก็เล่าเหตุการณ์เป็นจริงในปัจจุบัน อนาคตก็เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตนั่นเอง
         2.    Continuous  : เจ้าคำๆนี้ มันแปลว่า ต่อเนื่องกัน ใช่แล้วค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อกันเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักจะมีเวลาบ่งบอกเฉพาะ
          (ตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึง Present Continuous ก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินในเวลา “ปัจจุบัน” นั่นเอง ก็มักจะมีคำว่า now, at the moment อยู่นั่นเอง เช่น I’m driving now. ฉันขับรถอยู่ ลองเปลี่ยนก็เป็นอดีตสิคะ ก็จะเป็น I was driving ก็เท่ากับว่า ต้องกำลังขับรถในช่วงใดช่วงหนึ่งในอดีตแน่นอน)
         3.    Perfect : เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่เราพูดถึง หรือคาบเกี่ยวกับเวลาที่เราพูดนั่นเอง
         4.    Perfect Continuous : ส่วนมันเอา 2 กับ 3 รวมกันเลย ก็คือ เหมือน Perfect เลย แต่แค่มันจะดำเนินต่อเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องกันนั่นเองแบบข้อ 2 นั่นเองค่ะ

            หลักการทำ Tense จริงๆแล้ว มันอยู่ที่ การสังเกตบริบทรอบข้าง ว่าเขาพูดเหตุการณ์อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต รวมถึง สังเกต “Signal words” คำที่จะบ่งบอกว่าต้องใช้ Tense นี้ ว่าง่ายๆก็คือ เจ้า

“คำบอกเวลา”

นั่นเองค่ะ 
 

ง่ายๆ ธรรมดาๆ ตามชื่อ เป็นเหตุการณ์ทั่วๆไปตามเวลาที่ระบุ อดีตก็อดีต ปัจจุบันก็เล่าเหตุการณ์เป็นจริงในปัจจุบัน อนาคตก็เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตนั่นเองเจ้าคำๆนี้ มันแปลว่า ต่อเนื่องกัน ใช่แล้วค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อกันเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักจะมีเวลาบ่งบอกเฉพาะ(ตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึง Present Continuous ก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินในเวลา “ปัจจุบัน” นั่นเอง ก็มักจะมีคำว่า now, at the moment อยู่นั่นเอง เช่น I’m driving now. ฉันขับรถอยู่ ลองเปลี่ยนก็เป็นอดีตสิคะ ก็จะเป็น I was driving ก็เท่ากับว่า ต้องกำลังขับรถในช่วงใดช่วงหนึ่งในอดีตแน่นอน)เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่เราพูดถึง หรือคาบเกี่ยวกับเวลาที่เราพูดนั่นเองส่วนมันเอา 2 กับ 3 รวมกันเลย ก็คือ เหมือน Perfect เลย แต่แค่มันจะดำเนินต่อเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องกันนั่นเองแบบข้อ 2 นั่นเองค่ะหลักการทำ Tense จริงๆแล้ว มันอยู่ที่ การสังเกตบริบทรอบข้าง ว่าเขาพูดเหตุการณ์อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต รวมถึง สังเกต “Signal words” คำที่จะบ่งบอกว่าต้องใช้ Tense นี้ ว่าง่ายๆก็คือ เจ้านั่นเองค่ะ

**แจก Signal Words และตัวอย่างการใช้**

 

            พี่จะยกตัวอย่าง จากกริยา V. to do = ทำ  และประธาน I ในทุกๆ Tense นะคะ โดยจะแยกกาลเวลาด้วยสีที่ชัดเจนเลย

Present Tense

       

พี่จะยกตัวอย่าง จากกริยา V. to do = ทำ และประธาน I ในทุกๆ Tense นะคะ โดยจะแยกกาลเวลาด้วยสีที่ชัดเจนเลย

 1) Present simple Tense :

Adverbs of frequency คำแสดงความถี่ ไม่ว่าจะเป็น always, usually, often, sometimes, seldom, rarely, hardly, ตระกูล every, การบอกจำนวนครั้ง เช่น twice a week, five times a week
           เช่น I do homework every day. ฉันทำการบ้านทุกวัน (ขับเป็นกิจวัตรในปัจจุบัน)

     

Adverbs of frequency คำแสดงความถี่ ไม่ว่าจะเป็น always, usually, often, sometimes, seldom, rarely, hardly, ตระกูล every, การบอกจำนวนครั้ง เช่น twice a week, five times a weekเช่น Ihomeworkฉันทำการบ้านทุกวัน (ขับเป็นกิจวัตรในปัจจุบัน)

   2) Present Continuous Tense :

คำที่สื่อว่า “เป็นตอนนี้” เช่น now, right now, at this moment
           เช่น I am doing homework now. ฉันกำลังทำการบ้านอยู่ตอนนี้

       

 3) Present Perfect Tense :

since (ตามด้วยจุดเริ่มเวลา เช่น since 1995), for (ตามด้วยช่วงเวลา เช่น  for 2 days , 4 months), just, yet, already, recently 
           เช่น I have not done my homework yet. ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย

       

คำที่สื่อว่า “เป็นตอนนี้” เช่น now, right now, at this momentเช่น Ihomeworkฉันกำลังทำการบ้านอยู่ตอนนี้since (ตามด้วยจุดเริ่มเวลา เช่น since 1995), for (ตามด้วยช่วงเวลา เช่น for 2 days , 4 months), just, yet, already, recentlyเช่น Imy homeworkฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย

 4) Present Perfect Continuous Tense :

จะมีการใช้ since, for เหมือนกับ Present Perfect ปกติค่ะ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตเหมือนกัน แต่จะสื่อว่า ยังคงทำต่อไปอีกค่ะ
           เช่น I have been doing my homework since 9 a.m. ฉันทำการบ้านมาตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว (คือตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ และยังจะทำต่อไปอีก) 

Past Tense

       

จะมีการใช้ since, for เหมือนกับ Present Perfect ปกติค่ะ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตเหมือนกัน แต่จะสื่อว่า ยังคงทำต่อไปอีกค่ะเช่น Imy homeworkฉันทำการบ้านมาตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว (คือตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ และยังจะทำต่อไปอีก)

 1) Past Simple Tense :

คำที่สื่อว่าอยู่ในอดีต เช่น ตระกูล ago, last, the previous, in + ปีในอดีต, yesterday
         เช่น I did my homework yesterday. ฉันทำการบ้านเมื่อวาน

       

คำที่สื่อว่าอยู่ในอดีต เช่น ตระกูล ago, last, the previous, in + ปีในอดีต, yesterdayเช่น Imy homeworkฉันทำการบ้านเมื่อวาน

 2) Past Continuous Tense :

คำใดก็ได้ในอดีต แต่ขอให้ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. yesterday
         เช่น I was doing my homework at 10 a.m. yesterday. เมื่อวานตอน 10 โมง ฉันกำลังทำการบ้านอยู่

         

คำใดก็ได้ในอดีต แต่ขอให้ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. yesterdayเช่น Imy homeworkเมื่อวานตอน 10 โมง ฉันกำลังทำการบ้านอยู่

3) Past Perfect Tense :

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอดีตอีกขั้นหนึ่ง จะไม่อยู่ประโยคเดี่ยวๆ จำไว้แค่ว่า เกิดก่อนใช้ past perfect เกิดหลังใช้ past simple มันจะมีแค่คำว่า before กับ after อยู่นั่นเอง
         เช่น I had done my homework before I went to bed. ฉันทำการบ้านก่อนที่จะไปนอน (เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในอดีต)

       

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอดีตอีกขั้นหนึ่ง จะไม่อยู่ประโยคเดี่ยวๆ จำไว้แค่ว่า เกิดก่อนใช้ past perfect เกิดหลังใช้ past simple มันจะมีแค่คำว่า before กับ after อยู่นั่นเองเช่น Imy homeworkto bed. ฉันทำการบ้านก่อนที่จะไปนอน (เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในอดีต)

 4) Past Perfect Continuous Tense :

เหมือนกับ Past Perfect ทุกๆอย่างทุกประการ แต่เน้นช่วงที่ต่อเนื่องมากกว่าค่ะ
         เช่น I had been doing my homework for almost two hours before my mother arrived home. ฉันทำการบ้านเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าแม่จะกลับมา (ทำการบ้านเสร็จก่อนแม่มานั่นเองค่ะ)

เหมือนกับ Past Perfect ทุกๆอย่างทุกประการ แต่เน้นช่วงที่ต่อเนื่องมากกว่าค่ะเช่น Imy homeworkmy mother arrived home. ฉันทำการบ้านเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าแม่จะกลับมา (ทำการบ้านเสร็จก่อนแม่มานั่นเองค่ะ)

Future Tense

       

 1) Future Simple Tense

: คำใดก็ได้ที่บอกเวลาในอนาคต เช่น tomorrow, ตระกูล next, the following, in+เวลาในอนาคต
        เช่น I will do my homework tomorrow. พรุ่งนี้ฉันจะทำการบ้าน

         

2) Future Continuous Tense :

คำที่สื่อถึงอนาคต แต่ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. tomorrow (คุ้นๆไหม ว่าคล้าย Past con แค่เปลี่ยนเวลาเอง)
         เช่น I will be doing my homework at 10 a.m. tomorrow. พรุ่งนี้ตอน 10 โมง ฉันคงกำลังจะทำการบ้านอยู่

     

: คำใดก็ได้ที่บอกเวลาในอนาคต เช่น tomorrow, ตระกูล next, the following, in+เวลาในอนาคตเช่น Imy homeworkพรุ่งนี้ฉันจะทำการบ้านคำที่สื่อถึงอนาคต แต่ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. tomorrow (คุ้นๆไหม ว่าคล้าย Past con แค่เปลี่ยนเวลาเอง)เช่น Imy homeworkพรุ่งนี้ตอน 10 โมง ฉันคงกำลังจะทำการบ้านอยู่

   3) Future Perfect Tense :

by + เวลาในอนาคต ไมก็ by + s + v.1 ค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นแล้วคาดว่าจะจบลงในอนาคตค่ะ
         เช่น I will have done my homework by 4 p.m. ฉันจะทำการบ้านเสร็จตอนสี่โมงเย็น (ทำตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ทำอยู่ แต่คาดว่า จะเสร็จสี่โมงเย็น)

         

by + เวลาในอนาคต ไมก็ by + s + v.1 ค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นแล้วคาดว่าจะจบลงในอนาคตค่ะเช่น Imy homeworkฉันจะทำการบ้านเสร็จตอนสี่โมงเย็น (ทำตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ทำอยู่ แต่คาดว่า จะเสร็จสี่โมงเย็น)

4) Future Perfect Continuous Tense :

หลักคล้าย Future Perfect ธรรมดานะคะ ก็คือเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต แล้วยังจะเกิดต่อไปอีกค่ะ 
         เช่น In 5 minutes, I will have been doing my homework for two hours. อีก 5 นาทีฉันจะทำการบ้านครบ 2 ชั่วโมง (แล้วฉันก็จะยังคงทำต่อไปอีก) 
 

หลักคล้าย Future Perfect ธรรมดานะคะ ก็คือเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต แล้วยังจะเกิดต่อไปอีกค่ะเช่นmy homework for two hours. อีก 5 นาทีฉันจะทำการบ้านครบ 2 ชั่วโมง (แล้วฉันก็จะยังคงทำต่อไปอีก)

              เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ 10 นาทีที่ผ่านมา ถ้าน้องๆเข้าใจ Concept หลักการผันได้ น้องๆจะสามารถต่อยอดในการทำ Passive Voice และเห็น Tense แล้วตอบได้แม่นยำขึ้นด้วย หวังว่าทุกๆคนจะชอบกระทู้นี้นะคะ ถ้าเกิดอยากให้พี่แชร์เทคนิค เรื่องใดเป็นพิเศษ Comment บอกไว้ได้เลยน้า ขอบคุณมากนะคะ 🙂
 

เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ 10 นาทีที่ผ่านมา ถ้าน้องๆเข้าใจ Concept หลักการผันได้ น้องๆจะสามารถต่อยอดในการทำ Passive Voice และเห็น Tense แล้วตอบได้แม่นยำขึ้นด้วย หวังว่าทุกๆคนจะชอบกระทู้นี้นะคะ ถ้าเกิดอยากให้พี่แชร์เทคนิค เรื่องใดเป็นพิเศษ Comment บอกไว้ได้เลยน้า ขอบคุณมากนะคะ 🙂

ถ้าเราฝึกวันนี้ เราก็จะทำได้วันนี้
แล้วทำไมเราไม่เริ่มเสียเลยละ?

ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้

“อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว” แนะนำเทคนิคสอบติดคณะอักษรฯใน 3 เดือน
http://www.dek-d.com/board/view/3616155
5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?”
http://www.dek-d.com/board/view/3616811
แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)
http://www.dek-d.com/board/view/3626387
เผย How to be อัจฉริยะข้ามคืน ที่คุณทำได้ในยามอ่านหนังสือไม่ทัน !
http://www.dek-d.com/board/view/3660189
แนะแนวการเรียนในรั้วจุฬาฯ ที่น่าสนุกกว่าที่คิด
http://www.dek-d.com/board/view/3668295
รีวิวหนังสือสอบภาษาอังกฤษที่ควรมี !
http://www.dek-d.com/board/view/3669269
เทคนิคการอ่านหนังสือ อ่านเยอะแต่จำแม่น
http://www.dek-d.com/board/view/3681589
How To ท่องศัพท์ให้ได้เร็วแบบติดสปีด
https://www.dek-d.com/board/view/3701406
วิธีการฝึกทำข้อสอบเก่า GAT Eng ให้ได้ผลในรอบจริง
https://www.dek-d.com/board/view/3703426
เช็กตัวเองก่อนจบ ม.6 เราควรเข้าคณะอะไรดี?
https://www.dek-d.com/board/view/3707014
วิธีขจัด 5 อุปสรรคการอ่านหนังสือ จะตอนไหนก็อ่านได้ยาว!
https://www.dek-d.com/board/view/3717631
แชร์เนื้อหาสอบ ONET สำหรับ
https://www.dek-d.com/board/view/3719625
เผยการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่ต้องเจอในรั้วมหาลัย
https://www.dek-d.com/board/view/3721586

“อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว” แนะนำเทคนิคสอบติดคณะอักษรฯใน 3 เดือน5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?”แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)เผย How to be อัจฉริยะข้ามคืน ที่คุณทำได้ในยามอ่านหนังสือไม่ทัน !แนะแนวการเรียนในรั้วจุฬาฯ ที่น่าสนุกกว่าที่คิดรีวิวหนังสือสอบภาษาอังกฤษที่ควรมี !เทคนิคการอ่านหนังสือ อ่านเยอะแต่จำแม่นHow To ท่องศัพท์ให้ได้เร็วแบบติดสปีดวิธีการฝึกทำข้อสอบเก่า GAT Eng ให้ได้ผลในรอบจริงเช็กตัวเองก่อนจบ ม.6 เราควรเข้าคณะอะไรดี?วิธีขจัด 5 อุปสรรคการอ่านหนังสือ จะตอนไหนก็อ่านได้ยาว!แชร์เนื้อหาสอบ ONET สำหรับ #dek60 อ่านให้ตรงจุดภายใน 1 เดือนเผยการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่ต้องเจอในรั้วมหาลัย

ตามติดชีวิตนิสิตอักษรคนนี้ได้ตามนี้เลย

Facebook :

Icepphassorn Aonkwanmueng  

Icepphassorn Aonkwanmueng http://www.facebook.com/icepphassorn

Facebook Fanpage :

กัปตันไอซ์ BAR5

กัปตันไอซ์ BAR5 http://www.facebook.com/Iicebar5

Twitter :

@iiceiizz

Instagram :

@icepphassorn

[Update] ทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept ง่ายๆ แค่ 10 นาที รู้เรื่อง | tense 12 tense มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

ทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept ง่ายๆ แค่ 10 นาที รู้เรื่อง

ถ้าใครท่อง Tense มาทุกปี แต่ก็ยังจำไม่ได้สักที
กระทู้นี้มาเพื่อน้องค่ะ

           

 Hello everyone! สวัสดีค่ะทุกๆคน เป็นกันบ้างไหมคะ เรียนอังกฤษมานาน เจอแน่ๆต้องเรื่อง Tense โอโห มีเป็นสิบ แต่จำรูปแบบไม่ได้เลย แต่วันนี้ พี่ขอแค่ 10 นาทีจากน้องค่ะ

มาทำความเข้าใจ 12 Tenses ด้วย Concept และตัวอย่างง่ายๆ

ในกระทู้นี้เลยค่ะ
 

สวัสดีค่ะทุกๆคน เป็นกันบ้างไหมคะ เรียนอังกฤษมานาน เจอแน่ๆต้องเรื่อง Tense โอโห มีเป็นสิบ แต่จำรูปแบบไม่ได้เลย แต่วันนี้ พี่ขอแค่ 10 นาทีจากน้องค่ะในกระทู้นี้เลยค่ะ

เวลาของคนเรามี 3 เวลาใช่ไหมคะ?

     

อดีต

>>

ปัจจุบัน

>>

อนาคต

               

Past

>>

Present

>>

Future

รูปแบบของกาล จะมีอยู่ 4 แบบ ดังนี้
        1.    Simple
        2.    Continuous
        3.    Perfect 
        4.    Perfect Continuous

เท่ากับว่า

มี 3 เวลา เวลาละ 4 รูปแบบ เท่ากับมีทั้งหมด 12 Tenses

จับคู่กันแบบ 1-1 ได้เลย
 

1. Simple2. Continuous3. Perfect4. Perfect Continuousเท่ากับว่าจับคู่กันแบบ 1-1 ได้เลย

Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous

Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous

Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, Future Perfect Continuous

 

ทีนี้ จะจำรูปแบบทั้ง 12 ได้ยังไง? 

รูปแบบที่พี่ไม่ห่วงน้องๆเลยคือ รูปแบบ Simple ค่ะ ก็คือ 
          1. Present Simple ก็ผัน V.1 คือเติม s หรือ es ตามประธานว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์
          2. Past simple ก็ผัน v.2  
          3. Future Simple เอา will+v.inf หรือ v. ที่ยังไม่ผันนั่นเอง

              ส่วน 3 รูปแบบที่เหลือค่ะ ขอให้จำตามฟอร์มนี้นะคะ เวลาผัน

ผันแค่ Verb ที่พี่เน้นตัวหนาไว้ เพราะมันคือ Finite Verb

หรือ Verb แท้ของประโยคนั้นนั่นเอง เพราะสามารถบอกกาลที่เกิดขึ้น และพจน์ด้วยค่ะ (เอกพจน์-พหูพจน์) 

รูปแบบที่พี่ไม่ห่วงน้องๆเลยคือ รูปแบบ Simple ค่ะ ก็คือ1. Present Simple ก็ผัน V.1 คือเติม s หรือ es ตามประธานว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์2. Past simple ก็ผัน v.23. Future Simple เอา will+v.inf หรือ v. ที่ยังไม่ผันนั่นเองส่วน 3 รูปแบบที่เหลือค่ะ ขอให้จำตามฟอร์มนี้นะคะ เวลาผันหรือ Verb แท้ของประโยคนั้นนั่นเอง เพราะสามารถบอกกาลที่เกิดขึ้น และพจน์ด้วยค่ะ (เอกพจน์-พหูพจน์)

พอเราจำฟอร์มได้แล้ว

ผันแค่ตัวหน้า ตามกาลเวลาที่ต้องการ

ก็จะเป็นแบบนี้
ขอเรียง Present ขึ้นมาก่อนนะคะ เพื่อง่ายต่อการผัน verb เหมือนเรานั่งผัน verb 3 ช่อง น่าจะสะดวกกว่า

ลองมายกตัวอย่างการผัน 12 Tense สัก 1 กริยาดีกว่า
ลองผันกันนะคะว่าน้องๆผันตามกันถูกหรือเปล่า
Verb to “write” กำหนดประธานว่า “She” นะคะ

*สรุปแล้วจริงๆ ที่เราอ่านกันมา Tense มันก็มีวิธีการเพียงแค่ดังนี้ค่ะ*

         1.    จำ Form หลัก ให้ได้
         2.    นำ Verb ตัวแรก (ที่จริงๆมันเรียกว่า เจ้า Finite Verbs) มาผันตามกาลเวลาที่เราต้องการ
         3.    จัดการเรื่องพจน์ ว่าเราผันเอกพจน์ หรือพหูพจน์ ถูกต้องรึเปล่า ในกรณีที่เป็น Present Tense กับ Past Simple และ Past Continuous เท่านั้น 

1. จำ Form หลัก ให้ได้2. นำ Verb ตัวแรก (ที่จริงๆมันเรียกว่า เจ้า Finite Verbs) มาผันตามกาลเวลาที่เราต้องการ3. จัดการเรื่องพจน์ ว่าเราผันเอกพจน์ หรือพหูพจน์ ถูกต้องรึเปล่า ในกรณีที่เป็น Present Tense กับ Past Simple และ Past Continuous เท่านั้น

แล้วรูปแบบไหนใช้ยังไง?

         1.    Simple : ง่ายๆ ธรรมดาๆ ตามชื่อ เป็นเหตุการณ์ทั่วๆไปตามเวลาที่ระบุ อดีตก็อดีต ปัจจุบันก็เล่าเหตุการณ์เป็นจริงในปัจจุบัน อนาคตก็เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตนั่นเอง
         2.    Continuous  : เจ้าคำๆนี้ มันแปลว่า ต่อเนื่องกัน ใช่แล้วค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อกันเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักจะมีเวลาบ่งบอกเฉพาะ
          (ตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึง Present Continuous ก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินในเวลา “ปัจจุบัน” นั่นเอง ก็มักจะมีคำว่า now, at the moment อยู่นั่นเอง เช่น I’m driving now. ฉันขับรถอยู่ ลองเปลี่ยนก็เป็นอดีตสิคะ ก็จะเป็น I was driving ก็เท่ากับว่า ต้องกำลังขับรถในช่วงใดช่วงหนึ่งในอดีตแน่นอน)
         3.    Perfect : เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่เราพูดถึง หรือคาบเกี่ยวกับเวลาที่เราพูดนั่นเอง
         4.    Perfect Continuous : ส่วนมันเอา 2 กับ 3 รวมกันเลย ก็คือ เหมือน Perfect เลย แต่แค่มันจะดำเนินต่อเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องกันนั่นเองแบบข้อ 2 นั่นเองค่ะ

            หลักการทำ Tense จริงๆแล้ว มันอยู่ที่ การสังเกตบริบทรอบข้าง ว่าเขาพูดเหตุการณ์อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต รวมถึง สังเกต “Signal words” คำที่จะบ่งบอกว่าต้องใช้ Tense นี้ ว่าง่ายๆก็คือ เจ้า

“คำบอกเวลา”

นั่นเองค่ะ 
 

ง่ายๆ ธรรมดาๆ ตามชื่อ เป็นเหตุการณ์ทั่วๆไปตามเวลาที่ระบุ อดีตก็อดีต ปัจจุบันก็เล่าเหตุการณ์เป็นจริงในปัจจุบัน อนาคตก็เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตนั่นเองเจ้าคำๆนี้ มันแปลว่า ต่อเนื่องกัน ใช่แล้วค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินต่อกันเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักจะมีเวลาบ่งบอกเฉพาะ(ตัวอย่างเช่น ถ้าพูดถึง Present Continuous ก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินในเวลา “ปัจจุบัน” นั่นเอง ก็มักจะมีคำว่า now, at the moment อยู่นั่นเอง เช่น I’m driving now. ฉันขับรถอยู่ ลองเปลี่ยนก็เป็นอดีตสิคะ ก็จะเป็น I was driving ก็เท่ากับว่า ต้องกำลังขับรถในช่วงใดช่วงหนึ่งในอดีตแน่นอน)เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่เราพูดถึง หรือคาบเกี่ยวกับเวลาที่เราพูดนั่นเองส่วนมันเอา 2 กับ 3 รวมกันเลย ก็คือ เหมือน Perfect เลย แต่แค่มันจะดำเนินต่อเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องกันนั่นเองแบบข้อ 2 นั่นเองค่ะหลักการทำ Tense จริงๆแล้ว มันอยู่ที่ การสังเกตบริบทรอบข้าง ว่าเขาพูดเหตุการณ์อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต รวมถึง สังเกต “Signal words” คำที่จะบ่งบอกว่าต้องใช้ Tense นี้ ว่าง่ายๆก็คือ เจ้านั่นเองค่ะ

**แจก Signal Words และตัวอย่างการใช้**

 

            พี่จะยกตัวอย่าง จากกริยา V. to do = ทำ  และประธาน I ในทุกๆ Tense นะคะ โดยจะแยกกาลเวลาด้วยสีที่ชัดเจนเลย

Present Tense

       

พี่จะยกตัวอย่าง จากกริยา V. to do = ทำ และประธาน I ในทุกๆ Tense นะคะ โดยจะแยกกาลเวลาด้วยสีที่ชัดเจนเลย

 1) Present simple Tense :

Adverbs of frequency คำแสดงความถี่ ไม่ว่าจะเป็น always, usually, often, sometimes, seldom, rarely, hardly, ตระกูล every, การบอกจำนวนครั้ง เช่น twice a week, five times a week
           เช่น I do homework every day. ฉันทำการบ้านทุกวัน (ขับเป็นกิจวัตรในปัจจุบัน)

     

Adverbs of frequency คำแสดงความถี่ ไม่ว่าจะเป็น always, usually, often, sometimes, seldom, rarely, hardly, ตระกูล every, การบอกจำนวนครั้ง เช่น twice a week, five times a weekเช่น Ihomeworkฉันทำการบ้านทุกวัน (ขับเป็นกิจวัตรในปัจจุบัน)

   2) Present Continuous Tense :

คำที่สื่อว่า “เป็นตอนนี้” เช่น now, right now, at this moment
           เช่น I am doing homework now. ฉันกำลังทำการบ้านอยู่ตอนนี้

       

 3) Present Perfect Tense :

since (ตามด้วยจุดเริ่มเวลา เช่น since 1995), for (ตามด้วยช่วงเวลา เช่น  for 2 days , 4 months), just, yet, already, recently 
           เช่น I have not done my homework yet. ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย

       

คำที่สื่อว่า “เป็นตอนนี้” เช่น now, right now, at this momentเช่น Ihomeworkฉันกำลังทำการบ้านอยู่ตอนนี้since (ตามด้วยจุดเริ่มเวลา เช่น since 1995), for (ตามด้วยช่วงเวลา เช่น for 2 days , 4 months), just, yet, already, recentlyเช่น Imy homeworkฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย

 4) Present Perfect Continuous Tense :

จะมีการใช้ since, for เหมือนกับ Present Perfect ปกติค่ะ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตเหมือนกัน แต่จะสื่อว่า ยังคงทำต่อไปอีกค่ะ
           เช่น I have been doing my homework since 9 a.m. ฉันทำการบ้านมาตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว (คือตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ และยังจะทำต่อไปอีก) 

Past Tense

       

จะมีการใช้ since, for เหมือนกับ Present Perfect ปกติค่ะ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตเหมือนกัน แต่จะสื่อว่า ยังคงทำต่อไปอีกค่ะเช่น Imy homeworkฉันทำการบ้านมาตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว (คือตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ และยังจะทำต่อไปอีก)

 1) Past Simple Tense :

คำที่สื่อว่าอยู่ในอดีต เช่น ตระกูล ago, last, the previous, in + ปีในอดีต, yesterday
         เช่น I did my homework yesterday. ฉันทำการบ้านเมื่อวาน

       

คำที่สื่อว่าอยู่ในอดีต เช่น ตระกูล ago, last, the previous, in + ปีในอดีต, yesterdayเช่น Imy homeworkฉันทำการบ้านเมื่อวาน

 2) Past Continuous Tense :

คำใดก็ได้ในอดีต แต่ขอให้ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. yesterday
         เช่น I was doing my homework at 10 a.m. yesterday. เมื่อวานตอน 10 โมง ฉันกำลังทำการบ้านอยู่

         

คำใดก็ได้ในอดีต แต่ขอให้ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. yesterdayเช่น Imy homeworkเมื่อวานตอน 10 โมง ฉันกำลังทำการบ้านอยู่

3) Past Perfect Tense :

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอดีตอีกขั้นหนึ่ง จะไม่อยู่ประโยคเดี่ยวๆ จำไว้แค่ว่า เกิดก่อนใช้ past perfect เกิดหลังใช้ past simple มันจะมีแค่คำว่า before กับ after อยู่นั่นเอง
         เช่น I had done my homework before I went to bed. ฉันทำการบ้านก่อนที่จะไปนอน (เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในอดีต)

       

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนอดีตอีกขั้นหนึ่ง จะไม่อยู่ประโยคเดี่ยวๆ จำไว้แค่ว่า เกิดก่อนใช้ past perfect เกิดหลังใช้ past simple มันจะมีแค่คำว่า before กับ after อยู่นั่นเองเช่น Imy homeworkto bed. ฉันทำการบ้านก่อนที่จะไปนอน (เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในอดีต)

 4) Past Perfect Continuous Tense :

เหมือนกับ Past Perfect ทุกๆอย่างทุกประการ แต่เน้นช่วงที่ต่อเนื่องมากกว่าค่ะ
         เช่น I had been doing my homework for almost two hours before my mother arrived home. ฉันทำการบ้านเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าแม่จะกลับมา (ทำการบ้านเสร็จก่อนแม่มานั่นเองค่ะ)

เหมือนกับ Past Perfect ทุกๆอย่างทุกประการ แต่เน้นช่วงที่ต่อเนื่องมากกว่าค่ะเช่น Imy homeworkmy mother arrived home. ฉันทำการบ้านเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าแม่จะกลับมา (ทำการบ้านเสร็จก่อนแม่มานั่นเองค่ะ)

Future Tense

       

 1) Future Simple Tense

: คำใดก็ได้ที่บอกเวลาในอนาคต เช่น tomorrow, ตระกูล next, the following, in+เวลาในอนาคต
        เช่น I will do my homework tomorrow. พรุ่งนี้ฉันจะทำการบ้าน

         

2) Future Continuous Tense :

คำที่สื่อถึงอนาคต แต่ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. tomorrow (คุ้นๆไหม ว่าคล้าย Past con แค่เปลี่ยนเวลาเอง)
         เช่น I will be doing my homework at 10 a.m. tomorrow. พรุ่งนี้ตอน 10 โมง ฉันคงกำลังจะทำการบ้านอยู่

     

: คำใดก็ได้ที่บอกเวลาในอนาคต เช่น tomorrow, ตระกูล next, the following, in+เวลาในอนาคตเช่น Imy homeworkพรุ่งนี้ฉันจะทำการบ้านคำที่สื่อถึงอนาคต แต่ “เจาะจงเวลาชัดเจน” เช่น 10 a.m. tomorrow (คุ้นๆไหม ว่าคล้าย Past con แค่เปลี่ยนเวลาเอง)เช่น Imy homeworkพรุ่งนี้ตอน 10 โมง ฉันคงกำลังจะทำการบ้านอยู่

   3) Future Perfect Tense :

by + เวลาในอนาคต ไมก็ by + s + v.1 ค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นแล้วคาดว่าจะจบลงในอนาคตค่ะ
         เช่น I will have done my homework by 4 p.m. ฉันจะทำการบ้านเสร็จตอนสี่โมงเย็น (ทำตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ทำอยู่ แต่คาดว่า จะเสร็จสี่โมงเย็น)

         

by + เวลาในอนาคต ไมก็ by + s + v.1 ค่ะ เล่าถึงเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นแล้วคาดว่าจะจบลงในอนาคตค่ะเช่น Imy homeworkฉันจะทำการบ้านเสร็จตอนสี่โมงเย็น (ทำตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ทำอยู่ แต่คาดว่า จะเสร็จสี่โมงเย็น)

4) Future Perfect Continuous Tense :

หลักคล้าย Future Perfect ธรรมดานะคะ ก็คือเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต แล้วยังจะเกิดต่อไปอีกค่ะ 
         เช่น In 5 minutes, I will have been doing my homework for two hours. อีก 5 นาทีฉันจะทำการบ้านครบ 2 ชั่วโมง (แล้วฉันก็จะยังคงทำต่อไปอีก) 
 

หลักคล้าย Future Perfect ธรรมดานะคะ ก็คือเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต แล้วยังจะเกิดต่อไปอีกค่ะเช่นmy homework for two hours. อีก 5 นาทีฉันจะทำการบ้านครบ 2 ชั่วโมง (แล้วฉันก็จะยังคงทำต่อไปอีก)

              เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ 10 นาทีที่ผ่านมา ถ้าน้องๆเข้าใจ Concept หลักการผันได้ น้องๆจะสามารถต่อยอดในการทำ Passive Voice และเห็น Tense แล้วตอบได้แม่นยำขึ้นด้วย หวังว่าทุกๆคนจะชอบกระทู้นี้นะคะ ถ้าเกิดอยากให้พี่แชร์เทคนิค เรื่องใดเป็นพิเศษ Comment บอกไว้ได้เลยน้า ขอบคุณมากนะคะ 🙂
 

เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ 10 นาทีที่ผ่านมา ถ้าน้องๆเข้าใจ Concept หลักการผันได้ น้องๆจะสามารถต่อยอดในการทำ Passive Voice และเห็น Tense แล้วตอบได้แม่นยำขึ้นด้วย หวังว่าทุกๆคนจะชอบกระทู้นี้นะคะ ถ้าเกิดอยากให้พี่แชร์เทคนิค เรื่องใดเป็นพิเศษ Comment บอกไว้ได้เลยน้า ขอบคุณมากนะคะ 🙂

ถ้าเราฝึกวันนี้ เราก็จะทำได้วันนี้
แล้วทำไมเราไม่เริ่มเสียเลยละ?

ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้

“อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว” แนะนำเทคนิคสอบติดคณะอักษรฯใน 3 เดือน
http://www.dek-d.com/board/view/3616155
5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?”
http://www.dek-d.com/board/view/3616811
แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)
http://www.dek-d.com/board/view/3626387
เผย How to be อัจฉริยะข้ามคืน ที่คุณทำได้ในยามอ่านหนังสือไม่ทัน !
http://www.dek-d.com/board/view/3660189
แนะแนวการเรียนในรั้วจุฬาฯ ที่น่าสนุกกว่าที่คิด
http://www.dek-d.com/board/view/3668295
รีวิวหนังสือสอบภาษาอังกฤษที่ควรมี !
http://www.dek-d.com/board/view/3669269
เทคนิคการอ่านหนังสือ อ่านเยอะแต่จำแม่น
http://www.dek-d.com/board/view/3681589
How To ท่องศัพท์ให้ได้เร็วแบบติดสปีด
https://www.dek-d.com/board/view/3701406
วิธีการฝึกทำข้อสอบเก่า GAT Eng ให้ได้ผลในรอบจริง
https://www.dek-d.com/board/view/3703426
เช็กตัวเองก่อนจบ ม.6 เราควรเข้าคณะอะไรดี?
https://www.dek-d.com/board/view/3707014
วิธีขจัด 5 อุปสรรคการอ่านหนังสือ จะตอนไหนก็อ่านได้ยาว!
https://www.dek-d.com/board/view/3717631
แชร์เนื้อหาสอบ ONET สำหรับ
https://www.dek-d.com/board/view/3719625
เผยการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่ต้องเจอในรั้วมหาลัย
https://www.dek-d.com/board/view/3721586

“อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว” แนะนำเทคนิคสอบติดคณะอักษรฯใน 3 เดือน5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?”แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)เผย How to be อัจฉริยะข้ามคืน ที่คุณทำได้ในยามอ่านหนังสือไม่ทัน !แนะแนวการเรียนในรั้วจุฬาฯ ที่น่าสนุกกว่าที่คิดรีวิวหนังสือสอบภาษาอังกฤษที่ควรมี !เทคนิคการอ่านหนังสือ อ่านเยอะแต่จำแม่นHow To ท่องศัพท์ให้ได้เร็วแบบติดสปีดวิธีการฝึกทำข้อสอบเก่า GAT Eng ให้ได้ผลในรอบจริงเช็กตัวเองก่อนจบ ม.6 เราควรเข้าคณะอะไรดี?วิธีขจัด 5 อุปสรรคการอ่านหนังสือ จะตอนไหนก็อ่านได้ยาว!แชร์เนื้อหาสอบ ONET สำหรับ #dek60 อ่านให้ตรงจุดภายใน 1 เดือนเผยการอ่านหนังสือ 5 สไตล์ที่ต้องเจอในรั้วมหาลัย

ตามติดชีวิตนิสิตอักษรคนนี้ได้ตามนี้เลย

Facebook :

Icepphassorn Aonkwanmueng  

Icepphassorn Aonkwanmueng http://www.facebook.com/icepphassorn

Facebook Fanpage :

กัปตันไอซ์ BAR5

กัปตันไอซ์ BAR5 http://www.facebook.com/Iicebar5

Twitter :

@iiceiizz

Instagram :

@icepphassorn


Master ALL TENSES in 30 Minutes: Verb Tenses Chart with Useful Rules \u0026 Examples


Table of 12 Tenses in English! Verb Tenses are all used to express action that has taken place in the past, present, and future. https://7esl.com/verbtenses/
Verb Tenses List:
• Present Simple
• Present Continuous
• Present Perfect
• Present Perfect Continuous
• Past Simple
• Past Continuous
• Past Perfect
• Past Perfect Continuous
• Future Simple
• Future Continuous
• Future Perfect
• Future Perfect Continuous

WATCH MORE:
★ Grammar: https://goo.gl/pK8eBC
★ Vocabulary: https://goo.gl/d4dJfR
★ Expressions: https://goo.gl/mNKvAB
★ Phrasal Verbs: https://goo.gl/Riw1r6
★ Idioms: https://goo.gl/KrEMRx
★ Conversations: https://goo.gl/MxQEnV
★ Kids Vocabulary: https://goo.gl/K96toU
★ English Writing: https://goo.gl/3zxuQB
★ IELTS: https://goo.gl/5fi2Sk
★ TOEFL: https://goo.gl/3rdyML
★ British vs. American English: https://goo.gl/ySYPWp
★ Pronunciation: https://goo.gl/UXYD2M
★ Business English: https://goo.gl/xpVNkr

OUR SOCIAL MEDIA:
Pinterest: https://www.pinterest.com/7english/
Facebook: https://www.fb.com/7ESLLearningEnglish/

For more videos and lessons visit:
https://7esl.com/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Master ALL TENSES in 30 Minutes: Verb Tenses Chart with Useful Rules \u0026 Examples

สรุปทุก Tenses รวมดาว ภาษาอังกฤษ


ติดตาม ครูเชอรี่ English Bright แนะแนวเรียนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์ และ UK
https://www.facebook.com/cherry.englishbright
http://www.englishbright.net/

สรุปทุก Tenses รวมดาว ภาษาอังกฤษ

สรุป English Tenses ง่ายๆเข้าใจใน 30 นาที!


ฝากกดติดตามช่องด้วยนะคะ

สรุป English Tenses ง่ายๆเข้าใจใน 30 นาที!

เทคนิคจำ 12 TENSES ใน 10 นาที


น้องบ่นกันว่า Tenses จำยาก เรียนเท่าไหรก็จำไม่ได้ซักที
พี่เลยจัดให้ \”เทคนิคจำ 12 Tenses ใน 10 นาที\”
อยากเรียนคอร์สเต็มๆ ทดลองเรียนฟรีคลิกที่นี่เลยครับ
http://www.mylearnville.com/course/intensivegrammar/

เทคนิคจำ 12 TENSES ใน 10 นาที

Ngữ Pháp TOEIC 990 điểm Full – Bài 2: 12 TENSES (12 THÌ)


Bài 2: 12 TENSES (12 THÌ)
Bộ ngữ pháp luyện thi TOEIC gồm 18 bài ngữ pháp giúp bạn có thể chinh phục điểm CAO trong kỳ thi TOEIC. Tổng hợp Ngữ pháp TOEIC chuẩn của ôn Thi Toeic trong loạt hệ thống kiến thức trọng tâm học ôn Toeic hiệu quả. Tổng hợp ngữ pháp TOEIC nhằm giúp người học biết, nắm bắt và hiểu một cách có hệ thống các chuyên đề ngữ pháp chính cần có để hoàn thành tốt bài thi Toeic mới với 2 phần chính là Nghe và Đọc.
Đừng quên \”ĐĂNG KÝ\” kênh Youtube để cập nhật những Video mới nhất và hay nhát bạn nha. Click vào đây để đăng ký theo dõi kênh: https://www.youtube.com/user/tuhocanhvan?sub_confirmation=1

Ngữ Pháp TOEIC 990 điểm Full  -  Bài 2:  12 TENSES (12 THÌ)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ tense 12 tense มีอะไรบ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *