Skip to content
Home » [Update] ตัวอย่างการใช้ Present Perfect Continuous | ประโยคpresent continuous – NATAVIGUIDES

[Update] ตัวอย่างการใช้ Present Perfect Continuous | ประโยคpresent continuous – NATAVIGUIDES

ประโยคpresent continuous: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Present perfect continuous (เพรเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ คอนทินิวเอิส) หรือ บางคนเรียก Present perfect progressive (เพสเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ โพรเกรสซิฟวฺ) มีรูปและการใช้ดังนี้

รูปของ Present Perfect Continuous
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาโทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย ภาคประธาน (Subject ซับเจ็กทฺ) คือคำนามหรือสรรพนามที่ทำ หน้าที่เป็นผู้กระทำในอาการกิริยานั้นๆ
have เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นพหูพจน์ (มีจำนวนมากกว่าหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนาม ได้แก่ I, We, They
has เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนเพียงหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนามได้แก่ He, She, It
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย (object or modifier อ็อบเจ็กทฺ ออ โมดิไฟเออะ) คือส่วนที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์
ตัวอย่าง
I have been working for two hours.
ผมทำงานมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่า ทำงานโดยไม่ได้หยุดเลย
จนถึงบัดนี้)
He has been watching TV since 8 p.m.
เขาชมโทรทัศน์มาตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้ว (แสดงว่า ชมมาตลอดตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถังบัดนี้)

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + haven’t/hasn’t + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย   
อธิบาย haven’t คือรูปย่อของ have not ซึ่ง have ถูกทำให้รูปปฏิเสธ โดยเติม not ข้างหลัง
hasn’t คือรูปย่อของ has not ซึ่ง has ถูกทำให้เป็นรูปปฏิเสธโดยเติม not ข้างหลัง
ตัวอย่าง
I haven’t been working for two hours.
ผมไม่ได้ทำงานมาตลอดเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่าไม่ได้ทำงานใดเลย จนถึงบัดนี้)
She hasn’t been washing clothes since she came back.
เธอไม่ได้ซักเสื้อผ้าเลยนับตั้งแต่ที่เธอกลับมา

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Have/Has + ภาคประธาน + been + กริอาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย Have เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม I, We, You, They หรือ นามพหูพจน์ เช่น My friends, Mr. and Mrs. Brown เป็นต้น

Has เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม He, She, It หรือนามเอกพจน์ เช่น Mr.Brown, My friend เป็นต้น

ท้ายประโยคคำถาม ต้องมีเครื่องหมาย ? (question – mark) ด้วย
ตัวอย่าง
Have you been doing a lot of cooking ?
คุณปรุงอาหารได้เยอะแล้วยัง (ตั้งแต่เริ่มปรุงมาจนถึงบัดนี้)
Has Helen been living here long ?
เฮเลนได้มาอาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง (ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้)

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When. Where, Why, How long …. ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย       
ยกเว้น “Who” ซึ่งแบ่งได้ 2 โครงสร้างคือ
Who + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคประธานของประโยค
Who + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing + ส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคกรรมของประโยค
ตัวอย่าง
How long have you been working for the company ?
คุณทำงานกับบริษัทนี้มานานเท่าใดแล้ว (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน) Where have you been sleeping lately?
คุณไปนอนที่ไหนมาเมื่อเร็วๆ นี้ (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน)
Susan has been waiting for Thomas for two hours.
A : Who has been waiting for Thomas for two hours ?
B : Susan.
ก – ใครที่รอโทมัสมาเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง
ข – ซูซาน
A : Who has Susan been waiting for two hours ?
B : Thomas.
ก – ใครคือผู้ที่ซูซานรอคอยมานานถึง 2 ชั่วโมง
ข – โทมัส

การใช้ Present Perfect Continuous
1. ใช้แสดงช่วงเวลา (duration) ของกิจกรรมหรือการกระทำที่ได้เกิดขึ้น มาในอดีต และดำเนินสืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่ขาดช่วง ปกติมักมีคำ หรือวลีที่แสดงเวลา (time expressions) อาทิ for (เป็นเวลา) since (ตั้งแต่) until now (จนถึงบัดนี้) all moming/evening/night/day/week/month/ year (ตลอด เช้า/บ่าย/เย็น/ กลางคืน/วัน/สัปดาห์/เดือน/ปี up to now (จนถึงเดี๋ยวนี้) all my life (ตลอดชีวิต) so far (ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา) recently/ lately (เมื่อไม่นานมานี้) อยู่ภายในประโยค
ตัวอย่าง
I have been sitting here since seven o’clock.
ผมนั่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 7 โมงแล้ว
It has been raining all day. It is still raining right now.
ฝนตกตลอดทั้งวัน จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังคงตกอยู่
Has Mr. Smith been working in the office all day?
นายสมิธทำงานในที่ทำงานตลอดทั้งวันใช่ไหม
Susan has been waiting for a bus for an hour.
ซูซานรอคอยรถประจำทางมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว

หมายเหตุ (1) since (ซิ้นซฺ) ในที่นี้หมายถึง “ตั้งแต่” แสดงจุดใดจุดหนึ่งของเวลา (a point of time) อาทิ since 4:00 (ตั้งแต่บ่าย 4 โมง) since this morning (ตั้งแต่เช้านี้) since last week (ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว) since then(ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) เป็นต้น

(2) for (ฟอร์) ในที่นี้หมายถึง “เป็นระยะเวลา” แสดงปริมาณมากน้อยของเวลา (an amount of time) อาทิ for five minutes (เป็นระยะเวลา 5 นาที) for two days (เป็นระยะเวลา 2 วัน) for several years (เป็นระยะเวลาหลายปี) เป็นต้น

(3) all (ออล) ในที่นี้หมายถึง “ตลอดช่วงเวลา” วางหน้าคำที่แสดงช่วงเวลาหนึ่ง (a time period) อาทิ all evening (ตลอดช่วงเย็น) all week (ตลอดสัปดาห์) all semester long (ตลอดภาคการศึกษา) เป็นต้น

2. ใช้แสดงการกระทำหรือกิจกรรมที่ดำเนินเรื่อยมาในอดีตจนจบสิ้นเมื่อไม่นานมานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระทำนั้นยังมีผลให้แลเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ตัวอย่าง
It has been snowing before now.
หิมะตกมาตลอดก่อนหน้านี้ (ตอนนี้หยุดตกแล้ว แต่ยังมีหิมะให้แลเห็น ทั่วไปบนพื้น)
Have you been running ? You look hot.
คุณวิ่งมาใช่ไหม ดูท่าทางคุณจะร้อน (ตอนนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว)
We have been reviewing our software development program. เราทำการทบทวนโปรแกรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ (ทำมาตั้งแต่อดีต และปัจจุบันยังแลเห็นผลของการกระทำนั้น)

3. ใช้เพื่อกล่าวถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ (repeated actions or situations) ในช่วงเวลาหนึ่งๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน หรือเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานมานี้
ตัวอย่าง
I have been having driving lessons for six months.
ผมเรียนขับรถยนต์มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว (เรียนมาตลอด ปัจจุบันก็ ยังคงเรียนอยู่)
How long have you been living in New York?
คุณอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กมานานเท่าไรแล้ว (อาศัยอยู่โดยตลอด)

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 29,519 times, 1 visits today)

Table of Contents

[Update] หลักการใช้ Present Continuous Tense ฉบับเข้าใจง่าย | ประโยคpresent continuous – NATAVIGUIDES

อะไรเอ่ย เป็นปัจจุบันยิ่งกว่า Present Simple tense? พอจะตอบกันได้ไหมคะ ถ้าตอบได้แสดงว่าคุณเองคงจะพอรู้ๆเรื่องราวที่พวกเรา DailyEnglish กำลังจะพูดถึงกันต่อไปนี้ แต่ถ้าไม่ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ มาเรียนและทบทวนไปพร้อมๆกันนะคะ

อธิบายชื่อเสียก่อนเลยละกันจะได้ทำความเข้าใจง่ายขึ้น Present Continuous Tense หรือบางคนอาจะคุ้นหูในชื่อ Present Progressive ก็ไม่แปลกค่ะ เพราะชื่อต่างแต่หน้าตาและหน้าที่เหมือนกันเด๊ะ

คำว่า Present ในที่นี้แปลว่า ปัจจุบัน
continuous /progressive ในที่นี้แปลว่า ต่อเนื่อง

อธิบายแต่ชื่ออาจจะยังนึกไม่ออกลองไปดูหน้าตากันเลยดีกว่า

I am working for CBT Company right now. (ตอนนี้ฉันกำลังทำงานให้กับบริษัทซีบีทีอยู่)
She is doing her homework. (เธอกำลังทำการบ้านของเธออยู่)

พอจะคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างแล้วหรือยัง (เดาว่าต้องมีบางคนตอบว่ายังแน่ๆ ) สังเกตดูความหมายของประโยคนะคะว่ามีอะไรที่เหมือนกัน

ทั้งสองประโยคนี้นำมาซึ่งกรณีอันเป็นเอกลักษณ์ของ Present Continuous Tense ดังนี้:

Present continuous tense

กรณีที่ 1: เป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น และเหตุการณ์นั้นยังไม่จบไป

ตัวอย่างเพิ่มเติมอย่างเช่น
Please be quiet! The teacher is teaching (กรุณาเงียบหน่อยได้ไหม ครูกำลังสอนอยู่นะ)
I am trying to fix this car. (ฉันกำลังพยายามจะซ่อมรถคันนี้อยู่)

แต่ถ้ามาลงลึกๆ ไอ้คำว่า กำลังทำ ในที่นี้ก็ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการกระทำที่เกิดตอนที่เรากำลังพูดตอนนี้เท่านั้นนะคะ แต่รวมถึงการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลานั้นก็ได้ บางครั้งเราเลยมักเห็นคำจำพวก today, this week, this month, this year, this three month etc. พ่วงติดท้ายมาบ้าง

เช่น
A: Betty is studying hard this week. (เบ็ตตี้ตั้งใจเรียนเรียนมากๆเลยนะสัปดาห์นี้)
B: Yeah, of course. She is going to have the exam next week.
(แหงล่ะ ก็อาทิตย์หน้าเธอมีสอบน่ะสิ)

อย่าเพิ่งสงสารโชคชะตาอันอาภัพของเบ็ตตี้ ลองมาสังเกตดูตัวอย่างข้างต้นนะคะ ที่ A บอกว่าสัปดาห์นี้เบ็ตตี้ตั้งใจเรียนมากๆ ไม่ได้หมายความว่าในขณะที่ A พูดเบ็ตตี้กำลังนั่งอ่านหนังสืองกๆอยู่ แต่ช่วงเวลาหลายวันอาจตั้งแต่จันทร์ถึงวันนี้ที่ผ่านมาเกือบอาทิตย์ A เห็นเบ็ตตี้ตั้งใจเรียนมากต่างหาก

มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งค่ะเพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Wipa wants to go to France, so she is learning French.
(วิภาอยากไปฝรั่งเศส ดังนั้นเธอก็กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่)
เรียนในที่นี้วิภาอาจไม่ได้กำลังเรียนในขณะที่ผู้พูดพูดก็ได้ เพียงแค่ช่วงนี้เธอกำลังเรียนอยู่เท่านั้น

กรณีที่ 2: การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

โดยเรามักจะเจอกริยาพวกนี้ที่จะแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้กำลังจะเกิดในไม่ช้า อย่างเช่น
get = ได้รับ / เข้าใจ     change = เปลี่ยน      become = กลายเป็น
increase = เพิ่มขึ้น      rise = สูงขึ้น/ลุกขึ้น/ปรากฏ      fall = หล่น / ร่วง/ตก
grow = เติบโต      improve= ทำให้ดีขึ้น     begin = เริ่ม      start = เริ่ม

เช่น
It is starting to rain. (ฝนกำลังจะเริ่มตกแล้ว)
Your English is getting better. (ภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นเรื่อยๆ)
Everything is changing. (ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป)

กรณีที่ 3: การกระทำที่แสนซ้ำซากจนน่าเบื่อ

ไอ้การกระทำนี้จะทำบ่อยจนคล้ายกิจวัตร เลยมักสับสนกับ Present Simple แต่ที่ต่างคือสิ่งที่ทำมันมากเกินพอดี

เช่น
Patrick is always coming to work late. (แพททริกมาทำงานสายตลอดเลย)
My mother is constantly complaining. (แม่ฉันนี่บ่นได้แบบไม่หยุดไม่หย่อนเลย)

สองประโยคด้านบนแม้เป็นเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำ แต่ลักษณะกิจกรรมมันมากเกินพอดีไปเลยให้มาใช้ Present Continuous Tense แทน

สิ่งที่ควรสังเกตว่าเมื่อไหร่จะใช้ Present Simple หรือเมื่อไหร่จะใช้ Present Continuous Tense

1. เนื้อหาบริบทของประโยคที่ดูแล้วเป็นกิจวัตรที่เกินพอดี หรือมากเกินไป
2. มี Adverb บอกความต่อเนื่องสม่ำเสมอ เช่น always, constantly, continually, endlessly หรือ phrases ที่บอกถึงความบ่อยเกินไปของกิจวัตรนั้นๆ อย่าง all the time, every minutes etc.

อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่ากริยา (Verb) ทุกตัวจะสามารถนำมาใช้กับ Present Continuous ได้ มีกริยาบางประเภทที่เป็นข้อยกเว้น ได้แก่

  • กริยาเกี่ยวกับประสาทสัมผัส หรือความรู้สึก เช่น
    fear hate hope like love prefer want wish
  • กริยาเพื่อแสดงความเห็น เช่น
    assume believe consider
  • กริยาเกี่ยวกับสภาวะภายในจิตใจหรือในสมอง เช่น
    forget imagine know notice remember understand
  • กริยาเกี่ยวกับการวัดปริมาณ เช่น
    contain cost measure weigh

เพราะอะไรกริยาเหล่านี้ถึงเป็นข้อยกเว้น?
ลองมาดูเล่นๆซักสองประโยคก็ได้ค่ะ เอากริยาที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง know ที่แปลว่า รู้/รู้จัก กับ like ที่แปลว่า ชอบ
I know him. (ฉันรู้จักเขา ไม่ใช่ I am knowing him.)
I like ice cream. (ฉันชอบกินไอศกรีม ไม่ใช่ I am liking ice cream.)

กริยาเหล่านี้เรียกอีกแบบว่า stative verb มีหน้าที่เพื่อบอกสภาพ สภาวะ ความรู้สึก สถานะ ไม่ได้แสดงออกมาในรูปของการกระทำ หรือการเคลื่อนไหวเหมือนกริยาอื่นๆ จึงไม่สามารถแสดงความต่อเนื่องได้เหมือนอย่างกริยา walk, run, study etc. นั่นเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถนำมาใช้กับ Present Continuous ได้นั่นเอง

นี่เป็นเรื่องราวของ Present Continuous Tense / Present Progressive ที่เอามาเล่าให้กันฟัง ถ้ายังไม่เข้าใจลองกลับไปอ่านใหม่อีกครั้งนะคะ ดูตัวอย่างให้ดีๆ แต่ถ้าอ่านอีกรอบแล้วยังไม่เข้าใจหรืออยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติมก็ comment หรือ inbox มาถามได้เสมอค่ะ ลองอ่านเกี่ยวกับไวยากรณ์อื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ


What Did You Do? Simple Past Tense


Learn how to talk about your day or about your weekend and how to ask questions using Past Tense Verbs.

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

What Did You Do? Simple Past Tense

เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ EP 35: สอนแต่งประโยค Present Continuous Tense ง่ายๆ ใครๆก็ทำได้


เป็นที่ทราบกันดีว่า Present แปลว่า ปัจจุบัน ส่วน Continuous แปลว่า ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น Present Continuous Tense จึงเป็นการบอกเล่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน โดยจะมีลักษณะการใช้ยังไง สามารถดูที่คลิปนี้ได้เลย

📌 เฉลยคำศัพท์ tonMme = Moment แปลว่า ชั่วขณะ

FACEBOOK PAGE : https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou
YOUTUBE : https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ
อังกฤษออนไลน์Imfinethankyou presentcontinuoustense เรียนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ภาษาอังกฤษออนไลน์ อังกฤษ english learnenglish englishconversation speakenglish englishvocabulary englishgrammar education เรียนอังกฤษด้วยตัวเองฟรี สอนภาษาอังกฤษพื้นฐาน สอนภาษาอังกฤษ englishspeaking englishonline teachenglishonline present continuous tense tenses presentcontinuous continue ken work afternoon tomorrow weekend theweekend now rightnow right inthismoment moment mew reading magazine

เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ EP 35: สอนแต่งประโยค Present Continuous Tense ง่ายๆ  ใครๆก็ทำได้

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.2 เรื่อง การใช้ Present Continuous Tense


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.2 เรื่อง การใช้ Present Continuous Tense

สื่อต่างชาติเขาว่าอย่างไรกันบ้าง เรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเคลื่อนไหวปฎิรูปเท่ากับล้มล้าง


สมัครเป็นผู้สนับสนุนแบบรายเดือนได้ที่นี่ครับ https://www.youtube.com/DailyTopicsTH/join
สำหรับสมาชิกรายเดือน จะมีคลิปพิเศษมาให้ดูกันเรื่อยๆ รอชมกันได้เลย!
สำหรับผู้สนับสนุนรายครั้ง สามารถสนับสนุนเราได้ที่ กสิกรไทย 0698975539
ขอบพระคุณมากครับ
ศาลรัฐธรรมนูญ ปฎิรูป ล้มล้าง

สื่อต่างชาติเขาว่าอย่างไรกันบ้าง เรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเคลื่อนไหวปฎิรูปเท่ากับล้มล้าง

Present continuous uses and examples


Let’s look at the different ways we can use the present continuous tense in English.
1) To describe something that is happening right now.
We use the present continuous in order to describe an event that is happening at that specific moment, right before our very eyes. It is the most immediate of tenses, as it deals in the here and the now. Although different time frames can be implied in the present continuous, this first use is the most commonly used and, arguably, the most important of the three. In conversation, this tense is often used with heightened expression or excitement.
Examples:
• He is stealing the car!
• They are winning the game!
• The tires are losing air!
• Jimmy is walking to school.
Notice the punctuation in the first three of the above examples; the exclamation point strengthens the tone of immediacy which is contained in the present continuous.
2) Something we think to be temporary.
When we know or believe that a certain reality will last for a predetermined or finite period of time, that is, something we know will not be true for forever, we use the present continuous. This way we can describe different stages in our lives, what we are working on at the current moment and how things will be in the foreseeable future.
Examples:
• Jane is working in Mexico this summer.
• I am living in Wisconsin for the winter.
• Willie Nelson is touring for a while.
• Jane and Alex are hiking in the Appalachian Mountains for two months.
In each case there is a defined, expressed time frame with which the speaker is working. The only undefined time frame in the examples used above is in Example 3. The phrase for a while is by no means defining a concrete period of time, but the listener should understand that, whatever the time frame is, it will be temporary. No one is perpetually, always on tour (much less an old man like Willie Nelson).
3) Something that happens again and again.
When an event takes on a habitual nature (that is, if it happens continually, over and over again) we can use the present continuous to express that continuousness. Essentially, the speaker does not know when, or if, the event will ever cease to occur. We usually include a word which introduces the habitual action, which most often happens to be always.
Examples:
• Jennifer is always fighting with her brother.
• He is always waiting for the train.
• We are always losing matches.
• I am always arriving late to class.
As is illustrated by the above examples, the marker always is extremely important to this particular use. Without it, it would lose its meaning and purpose.

Present continuous uses and examples

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประโยคpresent continuous

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *