Skip to content
Home » [Update] ความหมายและการใช้ Degree Adverbs | fairly แปล ว่า – NATAVIGUIDES

[Update] ความหมายและการใช้ Degree Adverbs | fairly แปล ว่า – NATAVIGUIDES

fairly แปล ว่า: คุณกำลังดูกระทู้

Degree adverb (ดีกรี แอ็ดเวิบ) เป็นชนิดของกริยาวิเศษณ์ที่บอกระดับความเข้มข้นของการกระทำ (action) คุณศัพท์ (adjective) หรือกริยาวิเศษณ์อีกคำหนึ่ง (another adverb) หรือกริยาวิเศษณ์อีกคำหนึ่ง (another adverb) สำหรับ Degree adverbs ที่พบบ่อย ได้แก่ almost, nearly, quite, just, too, enough, hardly, scarcely, rarely, completely, very (much), fairly, rather และ extremely
ตำแหน่งของ Degree adverbs
1. วางไว้หน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ ที่มันขยาย ดังโครงสราง Degree adverb + Adjective/Adverb
ตัวอย่าง
The water was extremely cold.
น้ำหนาวเย็นมาก
(extremely “มาก” เป็น degree adverb ขยายคุณศัพท์ cold)
I am too tired to go out tonight.
ผมเหนื่อยเกินไปที่จะออกไปข้างนอกคืนนี้
(too “เกินไป” เป็น degree adverb ขยายคุณศัพท์ tired)
He worked very quickly.
เขาทำงานเร็วมาก
(very “มาก” เป็น degree adverb ขยายกริยาวิเศษณ์ quickly)
You did it quite well.
คุณทำมันได้ค่อนข้างดี
(quite “ค่อนข้าง” เป็น degree adverb ขยายกริยาวิเศษณ์ well)
2. วางไว้หน้ากริยาหลัก (main verb) ดังโครงสร้าง
Degree adverb + Main verb
ตัวอย่าง
He was just leaving.
เขาเพิ่งจะออกไป
(just “เพิ่งจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก leaving)
She has almost finished it.
เธอทำมันเกือบจะเสร็จแล้ว
(almost “เกือบจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก finished) She doesn’t quite know what she’ll do after graduating from the university.
เธอแทบจะไม่รู้ว่าจะทำอะไรเลยหลังจากจบจากมหาวิทยาลัย
(quite “แทบจะ” เป็น degree adverb ขยายกริยาหลัก know)
ความหมายและการใช้
1. almost & nearly
almost และ nearly มีความหมายเดียวกันคือ not completely/not quite แปลว่า “เกือบ, เกือบจะ” ใช้วางหน้าคุณศัพท์ (adjectives) หรือกลุ่มนาม (noun groups) ดังโครงสร้าง almost/nearly + adjective/noun groups
ตัวอย่าง
We’re nearly ready now.
พวกเราเกือบพร้อมแล้วตอนนี้
(nearly วางหน้าคุณศัพท์ ready)
I spent almost a month in China.
ผมใช้ชีวิตเกือบหนึ่งเดือนในประเทศจีน
(almost วางหน้ากลุ่มนาม a month in China)
The hay was almost ready for cutting.
ฟางข้าวเกือบพร้อมแล้วสำหรับการตัด
(almost วางหน้าคุณศัทพ์ ready)
She liked doing nearly all the things.
เธอชอบทำเกือบจะทุกสิ่ง
(nearly วางหน้ากลุ่มนาม all the things)
วาง almost/nearly หน้ากริยาหลัก (main verb) หากว่าในประโยคมี กริยาช่วยหนึ่งคำ (one auxiliary) และกริยาหลัก ให้วางไว้หลังกริยาช่วย แต่ถ้าหากมีกริยาช่วยมากกว่าหนึ่งคำ และกริยาหลัก ให้วางไว้หลังกริยาช่วยตัวที่หนึ่ง ดังโครงสร้าง
(1) almost/nearly + main verb
(2) auxiliary + almost / nearly + main verb
(3) auxiliary 1 + almost / nearly + auxiliary 2 + main verb
ตัวอย่าง
Dad nearly died after being bitten by a snake.
พ่อเกือบตายหลังจากถูกงูกัด
Douglas had almost run out of food.
ดักลาสเกือบไม่มีอาหารเหลือเลย
I have nearly been drowned three times.
ผมเกือบจะจมน้ำตายมาสามครั้งแล้ว
วาง almost/nearly ไว้หน้า Time adverbs (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น every morning, every day หรือ Place adverbs (กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่) เช่น there, here เป็นต้น
ตัวอย่าง
I used to ride nearly every day.
ผมเคยขับรถเกือบทุกวัน
We went out almost every evening.
พวกเราออกไปข้างนอกเกือบจะทุกเย็น
We are almost there.
พวกเราเกือบจะถึงที่นั่นแล้ว
2. just
เราใช้คำว่า just เมื่อกล่าวถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆ ที่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน ฉะนั้น just จึงมีความหมายว่า a very short time ago แปลว่า “เพิ่งจะ” ปกตินิยมใช้ใน Present Perfect Tense สำหรับ tense อื่น ก็สามารถใช้ just ได้ โดยมักวางไว้หน้ากริยาหลัก (main verb) ดังโครงสร้าง
just + main verb
ตัวอย่าง
He just died.
เขาเพิ่งจะตาย
I’ve just arrived here.
ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่
3. quite
เราใช้คำว่า quite เพื่อชี้แสดงว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นค่อนข้างจะถึงขีดสุด ฉะนั้น quite จึงมีความหมายว่า to a fairly great extent แปลว่า “ค่อนบ้างจะ” ใช้วางหน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังโครงสร้าง
quite + adjective / another adverb
ตัวอย่าง
He was quite young.
เขาค่อนข้างจะหนุ่ม
Nid was standing quite close to the manager.
นิดยืนค่อนข้างจะใกล้กับผู้จัดการ
4. enough, very, & too
enough เมื่อทำทน้าที่กริยาวิเศษณ์ หมายถึง to the necessary degree แปลว่า “เพียงพอ, พอดิบพอดี, กำลังดี, พอเหมาะพอเจาะ” วางไว้หลังคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ ดังโครงสร้าง
adjective/ adverb + enough
ตัวอย่าง
Is your coffee hot enough?
กาแฟของคุณร้อนพอดีไหม
He didn’t work hard enough.
เขาไม่ได้ทำงานหนักเพียงพอ
too เมื่อทำหน้าที่กริยาวิเศษณ์ หมายถึง more than necessary or useful แปลว่า “มากเกินจำเป็น, มากเกินใช้สอย” วางไว้หน้าคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์
ดังโครงสร้าง too + adjective / adverb
ตัวอย่าง
This coffee is too hot.
กาแฟนี้ร้อนเกินไป
He works too hard.
เขาทำงานหนักเกินไป
ทั้ง enough และ too เมื่อใช้กับคำคุณศัพท์ สามารถตามด้วยวลี “for someone/something” ได้ด้วย ดังโครงสร้าง
adjective/adverb + enough + for someone/something
too + adjective/adverb + for someone/something
ตัวอย่าง
The shirt was big enough for me.
เสื้อเชิ้ตใหญ่พอดีสำหรับผม
The shirt was too big for me.
เสื้อเชิ้ตใหญ่เกินไปสำหรับผม
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วลี “to + infinitive” หลัง enough และ too กับคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ได้ด้วย
ตัวอย่าง
The coffee was too hot to drink.
กาแฟร้อนเกินไปที่จะดื่ม
ประโยคนี้ได้มาจากการรวมกันของ 2 ประโยคคือ
1. The coffee was very hot.
2. I can’t drink it.
He didn’t work hard enough to pass the exam.
เขาไม่ขยันพอที่จะสามารถสอบผ่านได้
ประโยคนี้ได้มาจากการรวมกันของ 2 ประโยคคือ
1. He didn’t work very hard.
2. He couldn’t pass the exam.
very หมายถึง “มาก” วางไว้หน้าคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์ เพื่อเพิ่มน้ำหนักความหมายของคำคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์นั้นให้มากขึ้น ดังโครงสร้าง
very + adjective / adverb
ตัวอย่าง
That girl was very beautiful.
เด็กหญิงคนนั้นสวยมาก
He worked very quickly.
เขาทำงานเร็วมาก
หากต้องการสื่อความหมายในเชิงปฏิเสธ หรือตรงข้ามกัน ใช้ not very
ตัวอย่าง
That girl was not very beautiful.
เด็กหญิงคนนั้น ไม่สวยมาก
He didn’t work very quickly.
เขาไม่ได้ทำงานเร็วมาก
ข้อควรระวัง ระหว่าง too กับ very มีความแตกต่างกันอยู่มาก กล่าวคือ too บ่งบอกถึงปัญหา (problem) แต่ very บ่งบอกถึงข้อเท็จจริง (fact)
ตัวอย่าง
He speaks English too quickly.
เขาพูดภาษาอังกฤษเร็วเกินไป (ทำให้คนฟังไม่รู้เรื่อง)
He speaks English very quickly.
เขาพูดภาษาอังกฤษเร็วมาก (คนฟังรู้เรื่อง)
ยังมี Degree adverbs อื่นๆ อีกที่มีความหมายและการใช้คล้ายคลึงกับ very และ not very ดังรายการคำเหล่านี้เรียงตามลำดับความแรง (strengthe) ของความหมายจากเชิงบวก (positive) ไปยังเชิงลบ (negative) ดังนี้
POSITIVE→→→→→→→→→→→→→→→→→→→→→NEGATIVE
extremely especially particularly pretly quite fairly rather not especially not particularly
หมายเหตุ นักเรียนต่างชาติที่มิใช่เจ้าของภาษาอังกฤษ มักใช้คำว่า fairly กับ rather ผิดอยู่บ่อยๆ เนื่องจากทั้งสองคำมีความหมายใกล้เคียงกัน ฉะนั้น จึงต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าทั้งสองคำที่ใช้ต่างกันอย่างไรบ้าง
fairly เป็นกริยาวิเศษณ์ที่ใช้เมื่อผู้พูดหรือผู้เขียนปรารถนาจะยืนยันความคิดที่รื่นรมย์เป็นไปในทางบวก (positive or pleasant idea) ส่วน rather นั้นใช้ในทางตรงข้าม กล่าวคือ ใช้เมื่อความคิดนั้นๆ ไม่รื่นรมย์เป็นไปในทางลบ (negative or unpleasant idea) หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เมื่อใช้คำว่า fairly จะพุ่งเป้าไปยังอุดมคติ (ideal) ที่เราเห็นชอบ แต่หากใช้คำว่า rather จะเบี่ยงเบนออกจากอุดมคติ คือไม่เห็นชอบกับสิ่งนั้น
ตัวอย่าง
The film was rather disappointing.
ภาพยนตร์เรื่องนั้นค่อนข้างจะน่าผิดหวัง(ไม่ค่อยดี)
The information was fairly accurate.
ข้อมูลค่อนข้างจะเที่ยงตรง (ดีพอใช้)
Mary is rather tall for her age.
แมรี่ค่อนข้างสูงเกินอายุ (สูงมากไป)
The room looks fairly clean.
ห้องค่อนข้างจะสะอาด (สะอาดพอใช้)
He found his host rather irritating.
เขาพบว่าเจ้าของบ้านค่อนข้างจะน่ารำคาญ
5. hardly, rarely, & scarcely
Degree adverbs ทั้งสามคำนี้ มีความหมาย “แทบจะไม่” ซึ่งบ่ง บอกความหมายในเชิงปฏิเสธ โดยปกติภายในประโยค จะวาง hardly, rarely, scarcely ไว้หน้า main verb หรือวางไว้หลัง verb to be หรือกริยาช่วยอื่น (other auxiliary) ดังโครงสร้าง
hardly/rarely/scarcely + main verb
verb to be/ other auxiliary + hardly / rarely / scarcely
ตัวอย่าง
I hardly knew him.
ผมแทบจะไม่รู้จักเขาเลย
We could hardly move.
พวกเราแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เลย
He rarely comes here.
เขาแทบจะไม่มาที่นี่เลย
I can scarcely remember what we ate.
ผมแทบจะจำไม่ได้เลยว่าพวกเราได้รับประทานอะไร
There could scarcely be a promising environment.
แทบจะไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเลย
โครงสร้างที่เห็นดังตัวอย่างเหล่านี้เป็นโครงสร้างปกติ (regular structure) ของการวางตำแหน่งของ Degree adverbs ทั้ง 3 คำนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกโครงสร้างหนึ่งเรียกว่า Negative inversion ซึ่งใช้ได้เฉพาะกับข้อความในประโยคที่มี Degree adverbs ที่เป็น negative meaning เมื่อวางไว้ตอนเริ่มต้นประโยค (placed at the beginning of the sentence) ในที่นี้คือ hardly, rarely และ scarcely โครงสร้างจะเป็นดังนี้
Hardly/Rarely/Scarcely + auxiliary + subject + main verb + remaining part
หมายเหตุ     1. remaining part = ส่วนที่เหลือ
2. การใช้ auxiliary มีหลักอยู่ว่า ถ้าหากในประโยคเดิมมีกริยาช่วยแสดงอยู่แล้ว ให้ใช้กริยาช่วยตัวนั้นเลย แต่หากในประโยคเดิมมีเฉพาะกริยาหลัก ก็ให้ใช้ verb to do ซึ่งต้องดูว่า กริยาหลักนั้นเป็นรูปกาล (tense) ใด กล่าวคือ หากเป็น Past Simple ให้ใช้ did หากเป็น Present Simple ก็ใช้ do/does ทั้งนี้ แล้วแต่ว่า subject (ประธาน) เป็นอะไร หากเป็นประธานบุรุษที่ 1 หรือ 2 หรือบุรุษที่ 3 พหูพจน์คือ they หรือนามพหูพจน์ให้ใช้ do แต่หากเป็นประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือ he, she, it หรือ นามเอกพจน์ให้ใช้ does
ตัวอย่าง
I hardly knew him.
=Hardly did I know him.
ผมแทบจะไม่รู้จักเขา
We could hardly move.
=Hardly could we move.
พวกเราแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เลย
He rarely comes here.
=Rarely does he come here.
เขาแทบจะไม่มาที่นี่เลย
I can scarcely remember what we ate.
= Scarcely can I remember what we ate.
ผมแทบจะจำไม่ได้เลยว่าพวกเราได้รับประทานอะไร
There could scarcely be a promising environment.
= Scarcely could there be a promising environment.
แทนจะไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเลย
นอกจาก hardly, rarely และ scarcely จะสามารถใช้ตามโครงสร้างนี้ได้แล้ว ยังมี adverbs และ adverbial expressions อื่นอีก ที่ใช้โครงสร้างประโยคตามนี้ ได้แก่ seldom, not only … but also, no sooner … than, not until, under no circumstances, hardly ever และ never
โปรดดูตัวอย่างเพิ่มเติม
It selsom rains here.
Seldom does it rain here.
ฝนแทบจะไม่ตกที่นี่เลย
I no sooner reached the surface than I was pulled back again. =No sooner did I reach the surface than I was pulled back again.
ผมยังไม่ทันจะขึ้นถึงผิวน้ำเลยก็ถูกดึงกลับไปอีก
หมายเหตุ โครงสร้างแบบ Negative inversion นี้ไม่เป็นที่นิยมใช้ในภาษาทูต มีใช้กันในภาษาเขียนเป็นส่วนใหญ่
6. completely
completely มีความหมายว่า “อย่างสมบูรณ์หรือโดยสมบูรณ์” วางไว้หน้าหรือหลัง main verb หรือหลัง auxiliary ดังโครงสร้าง
หรือ
completely + main verb หรือ sentence + completely
auxiliary + completely
ตัวอย่าง
I completely disagree with you.
I disagree with you completely.
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณเลยแม้แต่น้อย
What you said are completely right.
สิ่งที่คุณได้พูดมาถูกต้องไม่มีที่ติเลย
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 14,825 times, 3 visits today)

Table of Contents

[NEW] 10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | fairly แปล ว่า – NATAVIGUIDES

10 คำถามปราบเซียน สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ

ช่วงนี้คนเปลี่ยนงานกันเยอะนะครับ แน่นอนว่าตั้งแต่ประเทศเราเกิดกระแสเห่อ AEC มา เรียกได้ว่าบริษัท ห้างร้าน กิจการทุกที่ก็เอาแต่สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น! ถ้าใครยัง “หวั่นๆ”

กับการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ

กดเซฟ Blog นี้ไว้เลยครับ หรือจะพิมพ์แปะฝาบ้านก็ได้ เพราะ Blog นี้ช่วยคุณได้ชัวร์ป๊าบบบบบ! มาเริ่มกันเลยกับคำถามแรกครับ…

 

– Tell me about yourself. –

– เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังหน่อย –

 

คำแนะนำ : คำถามนี้เปิดโอกาสให้คุณเล่าเรื่องให้ตัวเองดูดี แต่ควรเล่าอย่างมีชั้นเชิง โดยคุณอาจพูดถึงงานอดิเรกที่คุณทำที่ช่วยสะท้อนแง่มุมดีๆในตัวคุณ เช่น I enjoy going to a marathon running program. ฉันชอบลงวิ่งมาราธอน การที่คุณชอบวิ่งมาราธอนอาจหมายถึงคุณเป็นคนมีความมุ่งมั่น อดทน ชอบความท้าทาย และรักสุขภาพ!

 

หรือจะบอกว่า In my freetime, I like to go to a volunteering event. ในเวลาว่าง ฉันมักจะชอบไปทำงานอาสาสมัคร การที่คุณชอบทำงานอาสา แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และประสานงานกับผู้อื่นได้ดี เป็นต้น

 

เมื่อคุณพูดถึงแง่มุมสนุกๆในตัวคุณไปแล้ว คุณอาจกลับมาที่เรื่องงาน โดยใช้ประโยคว่า…

 

“In addition to those interests and passions”

ในส่วนที่นอกเหนือจากงานอดิเรกความสนใจของผมแล้ว

 

“my professional life is a huge part of who I am”
การทำงานก็เป็นพาร์ทที่สำคัญที่ทำให้ผมเป็นผมอย่างเช่นทุกวันนี้ครับ

 

“I’d like to talk a bit about some of the strengths which I would bring to this job.”

ผมขอกล่าวถึงจุดแข็งของผมที่ผมสามารถนำมาใช้ในงานตำแหน่งนี้นะครับ

 

…จากตรงนี้คุณก็สามารถเล่าถึงจุดแข็งและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้เลยครับ

 

ข้อควรระวัง : อย่าพูดมากเกินไป ควรพูดให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และไม่ต้องเล่าถึงเรื่องส่วนตัว พ่อแม่พี่น้อง หรืออะไรที่ไม่ได้มีจุดเด่น และอย่าพูดถึงข้อดีเป็นสิบๆข้อ ให้เลือกข้อที่เด่นๆมาพูดจะดีกว่า ควรหลีกเลี่ยงเรื่องศาสนาและการเมืองเพื่อไม่ให้ดูเป็นคนชอบตัดสิน (A judgmental person) ครับ

 

– Why should we hire you? –

– ทำไมเราต้องจ้างคุณ –

 

คำแนะนำ : คุณอาจเจอคำถาม “Why should we hire you?” ทำไมเราต้องจ้างคุณ หรือ “What makes you the best fit for this position?” อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้ คำตอบที่ควรตอบคือการ “ขายตัวเอง” ให้กับผู้สัมภาษณ์

 

“จงจำไว้ว่าบริษัทจ้างคน เพื่อมาแก้ปัญหา และคุณคือคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหานั้น”

 

วิธีที่คุณจะตอบคำถามนั้นได้ดีที่สุด คือการทำความเข้าใจรายละเอียดของตำแหน่งที่คุณสมัคร และสกิลที่จำเป็นสำหรับงานนี้ รวมถึงเป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ของบริษัท ก่อนที่จะนำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นในตัวคุณที่ทำให้คุณเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น และอธิบายว่าคุณจะสามารถ “เอาชนะ” หรือ “แก้ไขปัญหา” ที่บริษัทมีได้อย่างไร

 

โดยคุณอาจใช้ประโยคว่า

 

“I have ……… ability to be an asset to your company.”

ดิฉันมีคุณสมบัติ……ที่จะสร้างคุณค่าให้กับบริษัทของคุณค่ะ

   

“Your company provides many services that I have had experience with. I believe that my familiarity with the industry would make me a good fit for this position.”

 

องค์กรของคุณมีการให้บริการ (หรือสินค้า) ในหลายรูปแบบที่ดิฉันเคยมีประสบการณ์การทำงานด้วยมาก่อน ดิฉันเชื่อว่าความคุ้นเคยที่ดิฉันมีกับธุรกิจในรูปแบบนี้จะทำให้ดิฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ค่ะ

 

หรือจะกล่าวถึงปัญหา (Pain Point / Problem) ที่บริษัทกำลังมีอยู่ เช่น…

“You have explained that you are looking for a sales executive who is able to effectively manage over a dozen employees.”

 

จากที่คุณได้อธิบายว่าคุณกำลังมองหาพนักงานขายที่สามารถบริหารลูกทีมหลายคนได้ (บริษัทมีปัญหาในการหาคนมาบริหารฝ่ายขาย)

 

“In my 15 years of experience as a sales manager, I have developed strong motivational and team-building skills.”

 

จากประสบการณ์ของดิฉันที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายมา 15 ปี ฉันได้เรียนรู้ทักษะการสร้างทีมและสร้างแรงจูงใจมาเป็นอย่างดีเลยค่ะ

 

และอาจกล่าวเพิ่มเติมถึงใบประกาศนียบัตรหรือรางวัลที่ได้รับ เช่น “I was awarded manager-of-the-year for my new managment strategies. If hired, I will bring my leadership abilities and strategies for achieving profit gains to this position.”

 

ดิฉันได้รับรางวัลผู้จัดการแห่งปี สำหรับกลยุทธ์การบริหารงานรูปแบบใหม่ของดิฉัน ถ้าคุณจ้างดิฉัน ดิฉันจะนำทักษะความเป็นผู้นำและกลยุทธ์ในการทำกำไรมาสู่ที่นี่เองค่ะ!

 

ข้อควรระวัง : ถ้าคุณถูกถามกลับกันว่า “Why shouldn’t we hire you?” ทำไมเราถึงไม่ควรจ้างคุณ คุณไม่ควรตอบกวนๆว่า “ถ้าไม่อยากได้คนเก่ง ก็ไม่ต้องจ้างสิยะ” หรือ “ถ้าคุณไม่อยากได้กำไร ก็ไม่ต้องจ้างดิฉันก็ได้” แต่ให้คุณบอกถึงคุณสมบัติกลางๆ ไม่ดีไม่ร้าย เช่น “ถ้าดิฉันเป็นคนพูดน้อย อาจจะไม่เหมาะกับบริษัทที่เฮฮาอย่างนี้ก็ได้มั้งคะ” เพราะจริงๆแล้วคุณสมบัติ “พูดน้อย” แบบนี้ไม่ได้เป็นคุณลักษณะ (Trait) ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทแต่อย่างใด

 

– What are your salary expectations? –

– คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ –

 

คำแนะนำ : คุณควรศึกษาหาความรู้ว่าสายงานของคุณโดยเฉลี่ยแล้วได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขนั้นจะทำให้คุณประเมินตนเองได้ว่าควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี แต่สิ่งสำคัญคือ  “อย่ายอมรับเงินเดือนที่ต่ำกว่าที่คุณตั้งใจ เว้นเสียว่าทางบริษัทอาจชดเชยเป็นผลประโยชน์อื่นๆ” ซึ่งคุณต้องชั่งน้ำหนักเอาเองว่าคุณสามารถเอาชีวิตรอดในเงินเดือนเท่านั้นได้หรือไม่

 

เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องที่ต่อรองได้ คุณต้องแฟร์กับตัวเองด้วย ซึ่งคุณสามารถบอกกับผู้สัมภาษณ์ได้ด้วยประโยคตัวอย่างเหล่านี้…

 

“I understand that positions similar to this one pay in the range of ฿35,000 to ฿45,000. With my experience, I would like to receive something in the range of ฿40,000 to ฿42,000.”

 

ผมเข้าใจว่าตำแหน่งงานแบบนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ด้วยประสบการณ์ของผม ผมต้องการได้รับค่าตอบแทนที่ 40,000 – 42,000 บาทครับ

 

หรือ “I would like to be compensated fairly for my experience.” ผมต้องการรับค่าจ้างที่ยุติธรรมสำหรับประสบการณ์ของผมครับ

 

หรือ “The research I’ve done indicates that positions like this one pay ฿35,000 to ฿45,000 and something in that range would be acceptable to me as a starting salary.”

 

จากที่ผมทำการบ้านมา ตำแหน่งนี้จะจ่ายที่ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ดังนั้นถ้าผมได้รับเงินเดือนในช่วงดังกล่าวเป็นเงินเดือนเริ่มต้น ผมคิดว่าผมรับได้ครับ

 

และ “My salary requirements are flexible, but I do have significant experience in the field that I believe adds value to my candidacy.”

 

สามารถเจรจาได้ครับ แต่ผมมีประสบการณ์ในสายงานนี้มาอย่างดี ผมเชื่อว่าตรงนี้สามารถนำมาคิดเป็นเงินเดือนของผมได้

 

ข้อควรระวัง : หลายบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์มักจะพยายามกดเงินเดือนที่คุณเรียกอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าคุณต้องการตัวเลขใดให้บวกเพิ่มไป 15-20% ก่อนจะเจรจาจะดีกว่านะครับ

 

– What is your greatest strength? –

– จุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร –

 

 

คำแนะนำ : ก่อนสัมภาษณ์คุณควรลิสต์ข้อดี จุดแข็ง สกิล และประสบการณ์ที่คุณมีออกมาก่อน และเลือกมาสัก 3-4 อย่างที่เด่นๆ และเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัครเท่านั้น อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่มีโฟกัส เพราะมันจะลดความน่าเชื่อถือของข้อดีที่คุณเล่าไปก่อนหน้า และควรยกตัวอย่างว่าคุณได้ใช้ข้อดีเหล่านั้นทำอะไรมาบ้างในอดีต เพราะหากผู้สัมภาษณ์ถามว่า “คุณจะเอาข้อดีเหล่านั้นมาช่วยบริษัทได้อย่างไร” คุณจะได้คิดออกทันท่วงที

 

ตัวอย่างที่คุณอาจเอาไปใช้ได้

 

“I have extremely strong writing skills.” ดิฉันมีประสบการณ์ทางด้านการเขียนที่ดีมากค่ะ

 

แชร์


Unsettled All In – Unboxing \u0026 Rambling – Small Acts of Kindness


BoardGameCo Patreon https://www.patreon.com/boardgameco
Exclusive Patreon Videos Every Monday!
Unsettled is a 24 player cooperative survival adventure set in the wondrous and unnerving fringes of uncharted space. There are no enemies and no combat, only an environment where every step, every breath, every particle around you could mean immediate, terrifying, death. Enemies are the least of your concerns.
How to Play https://www.youtube.com/watch?v=4J473ZnyjS4
BGG Link https://boardgamegeek.com/boardgame/290484/unsettled
TimeStamps:
0:00:00 Introduction
0:00:23 The New Table
0:00:53 How Dare They
0:01:50 Core Box
0:03:18 The Rulebook
0:06:30 The Planet Boxes
0:07:06 Other Components
0:09:58 Luna! And Other Minis
0:11:37 Wenora (Basically no spoilers, but seeing some cards)
0:18:14 Grakkis (Again basically no spoilers)
0:20:30 Zehronn (No Spoilers)
0:21:00 Kaelyfos (No Spoilers)
0:21:34 Yendraal (No Spoilers)
0:22:14 Strannos (No Spoilers)
0:23:25 Wrapping Up
Upgrade Your Game At Top Shelf Gamer (Referral Link)
https://bit.ly/3siD0PL
My Game Table (Non Referral)
https://bit.ly/3aYUdpp
For media inquiries, please email [email protected]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Unsettled All In - Unboxing \u0026 Rambling - Small Acts of Kindness

⏰ in time, on time, in no time, from time to time ⏳ แปลว่าอะไร


⏰ in time, on time, in no time, from time to time ⏳
แปลว่าอะไรบ้าง มาดูคลิปนี้กันค่ะ 😊
ใครดูจบ อย่าลืมส่งคอมเม้น 4 ให้กันด้วยนะคะ ❤
Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish

⏰ in time, on time, in no time, from time to time ⏳ แปลว่าอะไร

ละครสั้น เจ้เปิดร้านขายข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง อาหารตามสั้ง ของเล่นเครื่องครัว


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง Fairy Doll TV (แฟรีดอล) นะคะ
ฝากกดติดตามช่องแฟรี่ดอล ทีวี ของพี่นุ้ยด้วยนะคะ
❤ กดติดตามช่อง Fairy Doll : http://goo.gl/exBeXn
❤ Subscribe to the channel :http://goo.gl/exBeXn
❤Facebook : https://www.facebook.com/fairydolltv

Please feel free to subscribe to our channel for more Youtube exclusive children’s videos here. Fair use of content is intended

ละครสั้น เจ้เปิดร้านขายข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง อาหารตามสั้ง ของเล่นเครื่องครัว

have got กับ have แปลว่า ‘มี’ เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔


have got กับ have แปลว่า ‘มี’ เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔
📌ใครดูจบอย่าลืมตอบคำถามท้ายคลิปกัน เดี๋ยวฝ้ายจะตรวจให้นะคะ ❤

ติดตามฝ้ายทาง Youtube ได้ที่: http://bit.ly/2S6QBJu
อย่างลืมกด subscribe กันไว้ด้วยนะคะ 💕
Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish

have got กับ have แปลว่า 'มี' เหมือนกัน แล้วต่างกันยังไงนะ🤔

ละครสั้น เจ้เปิดร้านขายชานมไข่มุกบุฟเฟต์ ตักเองไม่อั้น ของเล่นทำอาหาร ของเล่นเครื่องครัว


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง Fairy Doll TV (แฟรีดอล) นะคะ
ฝากกดติดตามช่องแฟรี่ดอล ทีวี ของพี่นุ้ยด้วยนะคะ
❤ กดติดตามช่อง Fairy Doll : http://goo.gl/exBeXn
❤ Subscribe to the channel :http://goo.gl/exBeXn
❤Facebook : https://www.facebook.com/fairydolltv

Please feel free to subscribe to our channel for more Youtube exclusive children’s videos here. Fair use of content is intended

ละครสั้น เจ้เปิดร้านขายชานมไข่มุกบุฟเฟต์ ตักเองไม่อั้น ของเล่นทำอาหาร ของเล่นเครื่องครัว

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ fairly แปล ว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *