Skip to content
Home » [Update] การใช้ Future simple “be going to”ในภาษาอังกฤษ | going to การใช้ – NATAVIGUIDES

[Update] การใช้ Future simple “be going to”ในภาษาอังกฤษ | going to การใช้ – NATAVIGUIDES

going to การใช้: คุณกำลังดูกระทู้

นอกจากรูปแสดงอนาคตกาลโดยใช้ will หรือ shall ใน future simple แล้ว ยังมีรูป future simple โดยใช้ be going to ด้วยเช่นกัน รูปดังกล่าวนี้มีการใช้บ่อยๆ ในสถานการณ์หรือเหตุการณ่ในอนาคต ฉะนั้นผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเรื่องนี้ โดยละเอียดตามลำดับดังนี้
รูปของ be going to
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูปบอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย
going to เป็นส่วนที่แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำในอนาคต กริยาแท้ช่อง 1 หมายความเช่นเดียวกับ infinitive without to หรือกริยาแท้ช่อง 1 ที่ไม่มี to
ตัวอย่าง
Look at the clouds. It is going to rain soon.
ดูเมฆสิ ฝนจะตกในไม่ช้า
Look out! That boy is going to fall down.
ระวัง เด็กชายคนนั้นจะตกลงมาแล้ว
(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are not + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ is not = isn’t หรือ ’s not
am not = ’m not
are not = aren’t หรือ ’re not
ตัวอย่าง
The machine is quite old. I’m afraid it’s not going to work. เครื่องจักรค่อนข้างเก่า ผมเกรงว่ามันจะไม่ทำงาน
If we hurry, I’m sure we’re not going to miss the train.
ถ้าเรารีบ ผมแน่ใจว่าเราจะไม่พลาดรถไฟ
(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Is/Am/Are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม
หรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
A : Is it going to rain?
B : Yes, if there is no wind.
ก – ฝนจะตกหรือ
ข – ใช่ ถ้าไม่มีลม
A : Are we going to tell him when he asks us?
B : No. We won’t let him know.
ก – เราจะบอกเขาไหมหากเขาถามเรา
ข – ไม่เราจะไม่ให้เขารู้
(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
แต่ถ้าหากใช้คำถาม Who โครงสร้างที่ใช้จะประกอบด้วย
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
Who + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคกรรมของประโยค
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
ตัวอย่าง
A : When are you going to return my book?
B : Tomorrow.
ก – เมื่อไรคุณจะคืนหนังสือของดิฉัน
ข – พรุ่งนี้
A : Where are we going to stay tonight?
B : In a temple, perhaps.
ก – คืนนี้เราจะพักกันที่ไหน
ข – บางทีอาจจะพักที่วัด
John is going to tell Mary the truth.
A : Who is going to tell Mary the truth?
B : John.
ก – ใครจะเล่าความจริงให้แมรี่ฟัง
ข – จอห์น
We are going to give Susan a ring.
A : Who are we going to give a ring?
B : Susan.
ก – เราจะให้แหวนแก่ใคร
ข – ซูซาน
การใช้ be going to
1. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่างใน อนาคตที่มีเหตุบ่งบอกให้เห็นชัดเจนในขณะปัจจุบัน ลักษณะดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกมั่นใจของผู้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา จากสาเหตุปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้
ตัวอย่าง
Look at those black clouds in the sky. It’s going to rain. Those people are going to get wet.
ดูเมฆดำทะมึนในท้องฟ้าเหล่านั้นสิ ฝนกำลังจะตก คนเหล่านั้นกำลังจะเปียก
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง เราคิดหรือเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นในอนาคต ซึ่งภาวะของการเกิดเหตุการณ์ยังห่างไกลกว่าการใช้ be going to
ตัวอย่าง
That boat doesn’t look very safe.
It’ll sink in that heavy sea.
เรือลำนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัย
มันอาจจะจมในทะเลที่คลื่นลมแรง
Look at that boat! It’s going to sink.
มองดูเรือลำนั้นสิ มันกำลังจะจม

future
อธิบายในภาพที่ 1 ชายคนนี้ยังไม่ได้เอาเรือลงทะเล เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่เอาเรือลงทะเลก็ได้ เพราะแลเห็นคลื่นลมที่แรงจัด ภาวะของการเกิดอันตรายต่อเรือและชายคนนี้ยังอยู่ไกลตัว

future1
แต่ในภาพที่ 2 เรือและชายคนนี้กำลังเผชิญกับคลื่นลมแรงในทะเลที่บ้าคลั่ง ภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว โอกาสของการนำเรือเข้าฝั่งเพื่อให้ชีวิตรอด แทบไม่มีเลย
Don’t climb up that tree.
You’ll fall and hurt yourself.
อย่าปีนขึ้นต้นไม้ต้นนั้น
ลูกอาจจะตกลงมาได้รับบาดเจ็บ
Look out! You’re going to fall!
ระวัง ลูกกำลังจะตกลงมา

future2
อธิบาย ในภาพที่ 1 แม่บอกลูกที่กำลังทำท่าจะปีนขึ้นต้นไม้ แต่ยังไม่ได้ ปีนขึ้น เพื่อจะเอาลูกบอลที่ค้างอยู่ลงมา แม่ทำนายในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นแต่ยังอยู่ไกลตัวเพราะลูกยังไม่ได้ปีน

future3
แต่ในภาพที่ 2 ลูกปีนขึ้นไปแล้ว และกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่กำลังหัก แม่ร้องเตือน (warning วอนิ่ง) ลูกเพราะภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว เลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นได้ยากแล้ว
จะเห็นได้ว่าทั้งสองภาพเป็นการทำนาย (prediction) เหมือนกัน แต่ ต่างกันตรงที่ความมากน้อยของโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น
2. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เราตั้งใจและตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า ว่าจะทำ แสดงถึงการกระทำที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วว่าจะทำในอนาคตอันใกล้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นการวางแผนไว้ก่อนแล้ว (prior plan ไพรเออะ แพลน) นั่นเอง
ตัวอย่าง
I’m going to have a shower.
ผมกำลังจะอาบน้ำ (ชายคนนี้กำลังเปิดประตูเข้ามา มีผ้าเช็ดตัวพร้อมที่จะอาบน้ำ)
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง การตัดสินใจว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ในขณะที่พูด เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้า
ตัวอย่าง
A : I’m sorry. I’ve spilt some wine on my jacket.
B : Don’t worry. I’ll clean it for you.
ก – ผมขอโทษ ผมทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ตของคุณ
ข – ไม่ต้องกังวล ดิฉันจะซักให้
อธิบาย คำพูดของภรรยา (B) เป็นการเอ่ยขึ้นทันที หลังจากที่สามี (A) บอกว่าทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ต จึงเห็นได้ว่าภรรยาตัดสินใจทันทีเมื่อสามีพูดจบ โดยที่ภรรยาไม่ได้เตรียมการที่จะพูดมาล่วงหน้าแต่อย่างใด เป็นการเอ่ยว่าจะซักเสื้อให้เมื่อสามีบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
A : Why have you moved all the furniture out of this room?
B : I’m going to clean the carpet.
ก – ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้
ข – ดิฉันจะทำความสะอาดพรมค่ะ
อธิบาย คำพูดของ A ที่ถามว่า “ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้’’ แสดงให้เห็นชัดว่า A แลเห็นเครื่องเรือนวางอยู่นอกห้องนั้นมากมาย จึงเกิดความสงสัยและซักถามถึงเหตุผล ซึ่ง B ได้ตอบให้ทราบถึงความตั้งใจว่า “ดิฉัน จะทำความสะอาดพรม’’ คำตอบของ B แสดงถึงการเตรียมการว่าจะทำความสะอาดพรมมาล่วงหน้า จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนเหล่านั้นออกมาจากห้อง
3. ในการแสดงความเต็มใจ (willingness วิลลิงเนส) ว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ให้ จะใช้ will เท่านั้น ไม่ใช้ be going to
ตัวอย่าง
A : The phone’s ringing.
B : I’ll get it.
ก – โทรศัพท์กำลังดัง
ข – ผมจะช่วยรับสายให้
A : I don’t understand this math problem.
B : Ask your teacher about it. She’ll help you.
ก – ผมไม่เข้าใจปัญหาคณิตศาสตร์ข้อนี้
ข – ถามคุณครูของคุณสิ เธอจะช่วยคุณได้
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 58,291 times, 7 visits today)

[NEW] Grammar: 7 วิธีการใช้คำกริยา Go ในภาษาอังกฤษ | going to การใช้ – NATAVIGUIDES

ปกติเวลาบอกว่า “ไป….” เราจะใช้ go to… แต่บางครั้งจะเห็นว่ามีการใช้ go…, go on…, go for…, go + v.ing ด้วยเช่นกัน ถ้าอย่างนั้น go ไหนใช้อย่างไร มาทำความเข้าใจกันเลยดีกว่า  

 

ในการเรียนภาษาอังกฤษเรามักจะคุ้นเคยกับการจดจำกฎต่าง ๆ ซึ่งกฎในภาษาอังกฤษก็มีเยอะซะด้วยสิ แต่บางครั้งไม่ต้องมีกฎอะไร เพียงใช้ความเข้าใจก็พอ เช่นการใช้ go  จริง ๆ ไม่ได้มีกฎมาบอกว่าทำไมถึงใช้ go to หรือ go to the มันก็แค่เป็นไปตามวิธีที่มันควรจะเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วิธีการใช้ go ที่เรานำมาบอกเล่ากันนี้น่าจะช่วยให้เข้าใจได้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้ go…, go to, หรือ go to the…

 

7 วิธีการใช้ Go ในภาษาอังกฤษ

1. Go…

ใช้ go เดี่ยว ๆ ไม่มี preposition ตาม แต่เป็น go + adverb (คำกริยาวิเศษณ์) ที่มาขยาย go เพื่อบอกว่าไปที่ไหน เช่น

go downtown

go uptown

go away

go home

go in

go out

go inside

go outside

go upstairs

go downstairs

go overseas

go outdoors

go abroad

go there
 

ตัวอย่าง

     You’re really annoying me. Go away!

            (เธอมันน่ารำคาญจริง ๆ ไปให้พ้น!)
 

     I want to go abroad.

     (ฉันอยากไปเมืองนอก)
 

     I’m going home now.

     (ฉันจะกลับบ้านแล้ว)

     **home ในที่นี้เป็น adverb มาขยาย go จึงใช้ว่า go home
 

นอกจากนี้ยังใช้ go + adjective เพื่อบอกถึงการเปลี่ยนสภาพของบางสิ่ง เช่น go insane, go mad, go crazy, go cold, go wrong 

ตัวอย่าง 

     My car went wrong again just two days after it had been repaired.

     (รถของฉันเสียอีกแล้วหลังจากที่เพิ่งถูกซ่อมไปเมื่อสองวันก่อน)

 

2. Go + Gerund (v.-ing)

go shopping

go running

go skiing

go dancing

go fishing

go swimming 

go camping

go bowling

go drinking

go cycling
 

ตัวอย่าง 

     I like to go shopping with my sister. 

     (ฉันชอบไปชอปปิ้งกับน้องสาว)
 

     My father went fishing yesterday.

     (เมื่อวานนี้พ่อของฉันไปตกปลา) 
 

     They go camping every summer.

     (พวกเขาไปแคมป์ทุกฤดูร้อน)

 

3. Go to…

ใช้กับสถานที่ปิด หรือสถานที่ที่มีลักษณะเป็นองค์กรมีสมาชิก เช่น

go to school

go to college

go to university

go to work

go to prison

go to jail

go to bed 
 

ตัวอย่าง

     I’m tired I’m going to bed.

     (ฉันเหนื่อย ฉันจะไปนอนแล้ว) 
 

     I go to work at 8 o’clock. 

     (ฉันไปทำงานตอน 8 โมงเช้า)

     **work ในที่นี้หมายถึง สถานที่ทำงาน ไม่ใช่การทำงาน

 

ใช้กับ เมือง ประเทศ ทวีป เช่น

go to London

go to Bangkok

go to Japan

go to England 

go to Europe

go to Asia
 

ตัวอย่าง

     I’m going to Europe for my holiday.

     (ฉันจะไปยุโรปในวันหยุดของฉัน) 
 

     We went to Tokyo on vacation last year.

     (เราไปโตเกียวเมื่อพักร้อนปีที่แล้ว)

 

4. Go to a…

ใช้พูดถึงการไปทำกิจกรรมที่เราเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับกิจกรรมนั้น เช่น

go to a party

go to a concert

go to meeting

go to a conference
 

ตัวอย่าง

     I’m going to a concert tonight.

     (ฉันกำลังจะไปคอนเสิร์ตคืนนี้) 
 

     He is going to a conference next week.

     (เขากำลังจะไปสัมมนาอาทิตย์หน้า)

 

5. Go to the…

ใช้พูดถึงการไปยังสถานที่เฉพาะเจาะจงที่เรารู้หรือเข้าใจตรงกันว่าคือที่ไหน เช่น 

go to the park

go to the mountains

go to the bank

go to the post office 

go to the movies

go to the cinema

go to the supermarket

go to the airport

go to the lake

go to the beach
 

ตัวอย่าง

     I’m going to the hospital this evening to visit my grandfather.

     (ฉันจะไปโรงพยาบาลเย็นนี้เพื่อเยี่ยมคุณปู่) = เรารู้ว่าโรงพยาบาลที่พูดถึงนี้คือโรงพยาบาลไหน
 

     They are going to the airport.

     (พวกเขากำลังจะไปสนามบิน) = หมายถึงสนามบินที่คนส่วนใหญ่รู้ว่าคือสนามบินไหน 
 

     We went to the movies yesterday. We saw ‘Dunkirk’.

     (เมื่อวานนี้พวกเราไปดูหนัง เราดูเรื่องดันเคิร์กกันล่ะ) 

 

ใช้พูดถึงการไปพบบุคคลที่เรารู้ว่าต้องไปพบเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อย่างเจ็บป่วยก็ต้องไปหาหมอ เช่น 

go to the doctor

go to the dentist

go to the specialist
 

ตัวอย่าง

     He is going to the dentist.

     (เขากำลังจะไปพบหมอฟัน) 
 

     I need go to the specialist because of my broken leg.

     (ฉันต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางเพราะขาฉันหัก)

 

6. Go on…

ใช้พูดถึงการไปเที่ยวพักผ่อน เช่น 

go on a holiday

go on a vacation

go on a trip

go on a tour

go on a cruise

go on an adventure
 

ตัวอย่าง

     She going on a vacation next week.

     (เธอจะไปพักร้อนสัปดาห์หน้า) 
 

     I’m going on a cruise tomorrow.

     (พรุ่งนี้ฉันจะไปล่องเรือ) 

 

7. Go for…

ใช้พูดถึงการไปเพื่อทำกิจกรรมนั้น ๆ โดยใช้ go for + คำนาม เช่น 

go for a drink

go for a coffee

go for a meal

go for a nap

go for a rest

go for a ride

go for a drive

go for a swim

go for a hike

go for a jog

go for a walk

go for a run 
 

ตัวอย่าง

     Would you like to go for a nap.

     (คุณอยากไปงีบไหม)
 

     I’m going for a swim

     (ฉันกำลังจะไปว่ายน้ำ)
 

     We went for a run every day.

     (พวกเราไปวิ่งทุกวัน)
 

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ยกตัวอย่างมานี้นับเป็นคำนาม เราจึงใช้ go for  แต่ถ้าจะใช้ go กับคำกริยาต้องใช้ go to เช่น I’m going to swim. 

 

 

 

 

 


วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง Future Tense (will vs be going to)


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง Future Tense (will vs be going to)

การใช้ Will กับ going to ที่แปลว่า “ จะ ” ใช้ต่างกันอย่างไรในภาษาอังกฤษ


will และ going to มีหลักการใช้ต่างกันอย่างไร

cr.https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/60467/laneng

การใช้ Will กับ  going to ที่แปลว่า “ จะ ” ใช้ต่างกันอย่างไรในภาษาอังกฤษ

NEW Toyota Aygo X walkaround: the Aygo becomes a baby crossover! | Auto Express


Here’s everything you need to know about the new, 2022 Toyota Aygo X.
2022 Toyota Aygo X full details: https://aex.ae/3wr2VGY
SUBSCRIBE for more new car reviews and Steve Sutcliffe track tests: http://aex.ae/2gY9ABE
Head to BuyaCar for the best deal on a Toyota Aygo: https://www.buyacar.co.uk/
Say goodbye to the Aygo, and hello to the Aygo X. Toyota’s entrylevel hatch has been beefed up with offroad inspired looks and a new architecture, but can it beat the VW Up! and Hyundai i10? Rising costs and tightening rules on emissions may have forced many manufacturers to abandon their smallest models, but Toyota still believes there’s a future in the city car. Here’s Yousuf Ashraf to take you through the design, practicality and interior tech of the new Aygo X.
More Auto Express videos:
Car reviews playlist: http://aex.ae/2gY4ViX
Track battle playlist: https://aex.ae/2U8yvdf
Car news playlist: https://aex.ae/3vyKA8G
Follow us
Twitter: https://twitter.com/AutoExpress
Facebook: https://www.facebook.com/AutoExpress
Instagram: https://www.instagram.com/autoexpressmagazine

NEW Toyota Aygo X walkaround: the Aygo becomes a baby crossover! | Auto Express

\”จะ\” ใช้ Will หรือ Going to | Tina Academy Ep.40


เทคนิควิธีการใช้คำว่า \”จะ\” จะใช้ Will หรือ Going to ดี?
♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @hxr4999x https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

\

การใช้ be going to


ขอบคุณที่ติดตามครูเก๋นะคะ
Facebook
Magic English with Teacher Kay

การใช้  be going to

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ going to การใช้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *