Skip to content
Home » [Update] การใช้ a an the ภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง | การใช้ a an some – NATAVIGUIDES

[Update] การใช้ a an the ภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง | การใช้ a an some – NATAVIGUIDES

การใช้ a an some: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การใช้ a / an และ the ในภาษาอังกฤษ

ความหมายของ a / an และ the ในภาษาอังกฤษ

a / an และ the เป็นคำนำหน้านาม เป็นคำบ่งชี้ซึ่งใช้นำหน้าคำนาม

a / an ซึ่งวางอยู่ข้างหน้าคำนามในภาษาอังกฤษนั้น จะแสดงให้เห็นว่าคำนามที่พูดถึงไม่ได้เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูดผู้ฟัง หรือว่าผู้เขียนกับผู้อ่าน ซึ่งในภาษาอังกฤษจะเรียกคำนำหน้านามประเภทนี้ว่า indefinite article (คำนำหน้านามเอกพจน์ที่ไม่ได้กล่าวถึงมาก่อน)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ การใช้ a an the

Do you have a car?
แปลว่า คุณมีรถยนต์(1 คัน)ไหม

A: Do you live in a house?
แปลว่า คุณอาศัยอยู่ในบ้าน (1 หลัง, หลังใดหลังหนึ่ง) ใช่ไหม

B: No, actually, I live in an apartment.
แปลว่า ไม่ใช่ จริงๆ แล้วฉันอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ (1 แห่ง แต่ไม่ได้บอกว่าคือที่ใด)

คำว่า the ในภาษาอังกฤษ เมื่อวางอยู่ข้างหน้าคำนามจะแสดงให้เห็นว่าคำนามนั้นเป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว ระหว่างผู้พูดผู้ฟัง หรือว่าผู้เขียนกับผู้อ่าน ในภาษาอังกฤษจะเรียกคำนำหน้านามประเภทนี้ว่า definite article

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ การใช้ a an the

Where did we park the car?
แปลว่า พวกเราจอดรถไว้ที่ไหน
(ในประโยคนี้ ผู้พูดและผู้ฟังรู้กันดีว่าหมายถึงว่ารถคันไหน ซึ่งก็คือคันที่ขับไปจอดไว้นั่นเอง)

They had to paint the house before they sold it.
แปลว่า พวกเขาต้องทาสีบ้านก่อนที่พวกเขาจะขายมันไป
(ในประโยคนี้ ผู้พูดและผู้ฟังรู้กันดีว่าหมายถึงบ้านหลังไหน ซึ่งก็คือบ้านหลังที่พวกเขาทาสีและขายนั่นเอง)

คำว่า the ในภาษาอังกฤษ ทำให้คำนามนั้นเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบการใช้ the ในภาษาอังกฤษ

Do you have a cat?
แปลว่า คุณมีแมวไหม
(ประโยคนี้ใช้ a ซึ่งหมายถึงแมวตัวใดตัวหนึ่งสักตัว โดยที่ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นตัวไหน)

Have you seen the cat?
แปลว่า คุณเห็นแมวตัวนั้นไหม
(ประโยคนี้ใช้ the ซึ่งหมายถึงแมวตัวที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูดและผู้ฟังว่าเป็นแมวตัวไหน)

เมื่อไหร่ใช้ a และเมื่อไหร่ใช้ an

พูดภาษาอังกฤษสามารถใช้ a นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ เช่น

a cat, a horse, a big dog, a wheel

ข้อควรระวัง การใช้ a an the ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษควรทราบ
คำบางคำในภาษาอังกฤษ ขึ้นต้นด้วยสระแต่ออกเสียงแบบพยัญชนะ เช่น

a united group
a university
a one-year-old child

ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถใช้ an นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ เช่น

an apple, an old book, an orchestra, an umbrella

ข้อควรระวัง ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษควรทราบ
คำบางคำในภาษาอังกฤษ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะแต่ออกเสียงแบบสระ เช่น

an hour / an MP3 player

** คำว่า the ออกเสียงว่าอย่างไรกันแน่

คำว่า the ออกเสียงได้ 2 อย่างขึ้นอยู่กับคำที่ตามมา ว่าพยางค์แรกของคำนั้นออกเสียงพยัญชนะหรือว่าออกเสียงสระ

ออกเสียงว่า เฑฺอะ เมื่อนำหน้าคำภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ เช่น

the team
the union

ออกเสียงว่า ฑิฺ เมื่อนำหน้าคำภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ เช่น

the exit
the apple

** เมื่อไหร่บ้างที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องใช้คำนำหน้านาม (articles)

การใช้ a an the กับคำนามประเภทต่างๆ

คํานามนับได้

ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถใช้ a/an กับคำนามนับได้เอกพจน์

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

He has a sister and a brother.
แปลว่า เขามีพี่น้องผู้หญิงหนึ่งคนและผู้ชายหนึ่งคน

That was an excellent meal.
แปลว่า มันเป็นมื้ออาหารที่ยอดเยี่ยมมื้อหนึ่ง

ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถใช้ the น้ำหน้าได้ทั้งคำนามเอกพจน์และพหูพจน์

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

The lion roared. = สิงโต (ตัวนั้น 1 ตัว) คำราม
The lions roared. = สิงโต (หลายตัวนั้น) คำราม

The tree fell. = ต้นไม้ล้ม (ต้นนั้นต้นเดียว)
The trees fell. ต้นไม้ล้ม (พวกนั้นหลายต้น)

** การใช้กับคํานามนับไม่ได้ (Uncountable nouns)

ผู้เรียนภาษาอังกฤษไม่สามารถใช้ a an นำหน้าคำนามที่นับไม่ได้

Could I have rice instead of potatoes with my fish?
แปลว่า ฉันขอเป็นข้าวแทนที่จะเป็นมันฝรั่ง คู่กับปลาของฉันได้ไหม
(จะไม่ใช้ a rice เพราะ rice เป็นนามนับไม่ได้)

ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถใช้ the นำหน้าคำนามที่นับไม่ได้ เมื่อต้องการกล่าวถึงแบบเฉพาะเจาะจง

The rice we bought in the Thai shop is much better than the supermarket rice.
แปลว่า ข้าวที่พวกเราซื้อในร้านขายสินค้าไทย ดีกว่าซื้อจากตลาดจำหน่ายข้าว

The weather was awful last summer.
แปลว่า ฤดูร้อนที่ผ่านมาอากาศแย่มาก

** การใช้ a an the กับคำนามทั่วไป

ในกรณีที่ใช้ the กับคำนามพหูพจน์ จะใช้ต่อเมื่อพูดถึงคำนามที่ชี้เฉพาะเจาะจงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Books are so important in my life.
แปลว่า หนังสือสำคัญกับชีวิตของฉันมาก
(ในที่นี้ ผู้พูดหมายถึงหนังสือทั่วๆ ไป)

The books were all over the floor.
แปลว่า หนังสือเกลื่อนอยู่บนพื้น
(ในที่นี้ ผู้พูดไม่ได้หมายถึงหนังสือทั่วๆ ไป หมายถึงหนังสือที่เกลื่อนอยู่บนพื้น)

ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถทำคำนามทั่วๆ ไปให้จำเพาะเจาะจงขึ้น โดยการใช้ article และเพิ่มข้อมูลสำคัญเข้าไปหลังคำนามนั้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Life is wonderful.
แปลว่า ชีวิตคือสิ่งอัศจรรย์
(หมายถึงชีวิตโดยทั่วๆ ไป)

The life of a soldier is full of danger.
แปลว่า ชีวิตของทหารเต็มไปด้วยอันตราย
(หมายถึงชีวิตของทหาร ไม่ได้หมายถึงชีวิตของคนโดยทั่วๆ ไป)

ในภาษาอังกฤษ มักใช้ the เมื่อพูดถึงเกี่ยวกับ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องดนตรี หรือสถานที่จำพวกโรงหนัง โรงละคร โรงละครสัตว์ โรงละครโอเปร่า เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

The computer must be the greatest invention ever.
(ในที่นี้พูดถึงคอมพิวเตอร์ในฐานะของการเป็นสิ่งประดิษฐ์ไม่ได้พูดถึงคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง)

ในภาษาอังกฤษจะไม่ใช้ article นำหน้า determiners (คำจำพวก any, some, my, her, this, that เป็นต้น)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

I love my job.
แปลว่า ฉันรักงานของฉัน (ไม่พูดว่า the my job.)

Do you want this book?
แปลว่า คุณต้องการหนังสือเล่มนี้ไหม

ในภาษาอังกฤษจะใช้ the กับสิ่งที่ทุกคนรู้จักกันเป็นสากล เช่น the sun, the stars, the moon, the earth, the planet

The earth moves around the sun.
แปลว่า โลกเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์

We lay on the grass and watched the stars.
แปลว่า พวกเรานอนลงบนหญ้าและมองดูดวงดาว

ในภาษาอังกฤษมักใช้ the กับข้าวของในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

I don’t buy the newspaper these days. It’s free on the Internet.
แปลว่า ทุกวันนี้ฉันไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ เพราะว่ามันฟรีบนอินเตอร์เน็ต
(ในที่นี้หมายถึงหนังสือพิมพ์ทั่วๆ ไป)

I always take the train.
แปลว่า ฉันขึ้นรถไฟอยู่เสมอ
(ในที่นี้หมายถึงรถไฟโดยทั่วๆ ไป)

** การใช้กับงานและอาชีพ
ในภาษาอังกฤษ เมื่อพูดถึงงานหรืออาชีพของบุคคล จะใช้ a/an

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

He’s a gardener.
แปลว่า เขาเป็นคนสวน

He’s an ambulance driver.
แปลว่า เขาเป็นคนขับรถพยาบาล

บทเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
 เมื่อไหร่ใช้ หรือไม่ใช้ the

[NEW] หลักการใช้ there is และ there are พร้อมตัวอย่างประโยค | การใช้ a an some – NATAVIGUIDES

ตอนไหนเราต้องใช้ there is และตอนไหนเราต้องใช้ there are คำถามนี้เป็นคำถามที่คาใจหลายๆคน ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่คนที่เรียนมาจนถึงระดับหนึ่งก็อาจจะยังสับสนได้เช่นกัน

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเรามักจะคุ้นชินกับการเลือกใช้ is หรือ are ตามประธานที่อยู่ข้างหน้า แต่คำว่า there is และ there are นั้นเราจะต้องดูคำนามที่อยู่ข้างหลัง

เพื่อให้ทุกคนได้กระจ่างกับการใช้ there is และ there are ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ there is และ there are ทั้งในประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม มาให้ได้เรียนรู้กัน ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

There is และ there are แปลว่าอะไร

There is และ there are แปลว่า “มี” แต่เป็นในลักษณะของการบอกว่า “มีสิ่งใดดำรงอยู่” หรือ “มีสิ่งใดเกิดขึ้น” ไม่ใช่ “มี” แบบครอบครองหรือเป็นเจ้าของเหมือน have และ has ตัวอย่างเปรียบเทียบเช่น

There is a book on the table.
มีหนังสือเล่มหนึ่งอยู่บนโต๊ะ

I have a book.
ฉันมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม
(ฉันเป็นเจ้าของ/ครอบครองหนังสือเล่มนั้น)

การใช้ there is และ there are

การเลือกใช้ there is และ there are

การเลือกว่าจะใช้ there is หรือ there are เราจะต้องดูคำนามที่ตามหลัง ถ้าคำนามเป็นเอกพจน์ (มีปริมาณหนึ่งหน่วย) เราจะต้องใช้ there is แต่ถ้าคำนามเป็นพหูพจน์ (มีปริมาณตั้งแต่สองหน่วยขึ้นไป) เราจะต้องใช้ there are

สำหรับคำนามนับไม่ได้ ซึ่งไม่มีรูปพหูพจน์ เราจะต้องใช้ there is เท่านั้น

There is/areชนิดคำนามตัวอย่างประโยคThere isคำนามนับได้ เอกพจน์There is a pen on the table.
มีปากกาด้ามหนึ่งอยู่บนโต๊ะคำนามนับไม่ได้There is some water here.
มีน้ำบางส่วนอยู่ตรงนี้There areคำนามนับได้ พหูพจน์There are two pens on the table.
มีปากกาสองด้ามอยู่บนโต๊ะ

[เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนามนับได้และนับไม่ได้: คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้ ฉบับเข้าใจง่าย]

ประโยคปฏิเสธ

การใช้ there is และ there are ในประโยคปฏิเสธ หลักๆแล้วเราสามารถใช้ได้ 2 แบบ คือ

1. ใช้ not หลัง there is และ there are

เราสามารถใช้ there is not (เขียนย่อเป็น there isn’t) และ there are not (เขียนย่อเป็น there aren’t) เพื่อสื่อว่า “ไม่ได้มีสิ่งใดอยู่”

ใช้โครงสร้าง “There isn’t/aren’t + ปริมาณ + คำนามนับได้” เพื่อบอกว่าไม่ได้มีสิ่งนั้นในปริมาณเท่านั้น แต่มีมากหรือน้อยกว่า

There isn’t a cat in my house.
บ้านของฉันไม่ได้มีแมวหนึ่งตัว
(อาจไม่มีแมวเลยหรือมีมากกว่าหนึ่งตัว)

There aren’t three cats in my house.
บ้านของฉันไม่ได้มีแมวสามตัว
(อาจมีมากหรือน้อยกว่าสามตัว)

ใช้โครงสร้าง “There isn’t any + คำนามนับไม่ได้” เพื่อบอกว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย

There isn’t any cat food in my house.
บ้านของฉันไม่มีอาหารแมวอยู่เลย
(ไม่มีอาหารแมวเลยแม้แต่น้อย)

ใช้โครงสร้าง “There aren’t any + คำนามนับได้พหูพจน์” เพื่อบอกว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย

There aren’t any cats in my house.
บ้านของฉันไม่มีแมวอยู่เลย
(ไม่มีแมวเลยแม้แต่ตัวเดียว)

2. ใช้ no หลัง there is และ there are

เราสามารถใช้ there is no และ there are no เพื่อสื่อว่า “ไม่ได้มีสิ่งใดอยู่” ซึ่งได้แก่

ใช้โครงสร้าง “There is no + คำนามนับได้เอกพจน์”

There is no cat in my house.
บ้านของฉันไม่มีแมวอยู่เลย
(ไม่มีแมวเลยแม้แต่ตัวเดียว)

ใช้โครงสร้าง “There is no + คำนามนับไม่ได้”

There is no cat food in my house.
บ้านของฉันไม่มีอาหารแมวอยู่เลย
(ไม่มีอาหารแมวเลยแม้แต่น้อย)

ใช้โครงสร้าง “There are no + คำนามนับได้พหูพจน์”

There are no cats in my house.
บ้านของฉันไม่มีแมวอยู่เลย
(ไม่มีแมวเลยแม้แต่ตัวเดียว)

สำหรับคำนามนับได้ ถ้าเทียบกันแล้ว ส่วนใหญ่เรามักจะใช้รูปพหูพจน์ (there are no cats) มากกว่ารูปเอกพจน์ (there is no cat)

ประโยคคำถาม

หลักๆแล้วเราจะใช้ there is และ there are ในประโยคคำถาม 2 แบบ คือ

1. มีหรือไม่

ในการถามว่ามีสิ่งใดหรือไม่ เราจะใช้ Is there… และ Are there… โดยโครงสร้างที่ใช้หลักๆแล้วจะมี “Is there + a/an + คำนามนับได้เอกพจน์”

Is there a pen on the table?
มีปากกาหนึ่งด้ามอยู่บนโต๊ะใช่มั้ย

“Is there + any + คำนามนับไม่ได้”

Is there any food left?
มีอาหารเหลืออยู่บ้างมั้ย

และ “Are there + any + คำนามนับได้พหูพจน์”

Are there any pens on the table?
มีปากกาอยู่บนโต๊ะมั้ย

สำหรับคำตอบ เราสามารถตอบโดยใช้ is หรือ are ตามคำถามได้เลย

Is there…? – Yes, there is.
Is there…? – No, there isn’t.
Are there…? – Yes, there are.
Are there…? – No, there aren’t.

2. มีจำนวนเท่าไร

สำหรับการถามว่ามีสิ่งใดจำนวนเท่าไร เราจะใช้ How many + คำนามนับได้พหูพจน์ + are there

How many chairs are there in the room?
มีเก้าอี้กี่ตัวในห้อง

How many books are there in your bag?
มีหนังสือกี่เล่มในกระเป๋าของคุณ

เป็นยังไงบ้างครับกับการใช้ there is และ there are ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


some any ใช้ยังไง – เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี


เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันกับเคท
หัวข้อวันนี้คือ พูดอังกฤษsome any ใช้ยังไง
some กับ any [ มีบ้าง แต่ไม่ได้บอกว่ามีเท่าไร ]
ใช้กับนามนับได้ที่มีมากกว่า 1 แต่ไม่ระบุจำนวน
ใช้กับนามนับไม่ได้ เช่น ข้าว ขนมปัง
some = ใช้กับประโยคบอกเล่า
There are some apples.
There is some rice.
Some = ใช้กับประโยคคำถาม [ ขอ….ได้ไหม ]
โครงสร้างประโยค “Can I have some + สิ่งที่ต้องการจะขอ\”
Can I have some apples?
ฉันขอแอ๊ปเปิ้ลบางได้ไหม
Some = ใช้กับประโยคคำถาม [ เสนอให้….เอามั้ยจ๊ะ ]
โครงสร้างประโยค “Would you like some + สิ่งที่ต้องการจะเสนอ\”
Would you like some apples?
อยากได้แอ๊ปเปิ้ลบ้างไหมจ๊ะ
———————————————————————————
Any = ใช้กับประโยคคำถาม [ มี….มั้ยจ๊ะ ]
โครงสร้างประโยค “Do you have any + สิ่งที่ต้องการจะขอ\”
Do you have any apples?
คุณมีแอ๊ปเปิ้ลบ้างไหมจ๊ะ
Any = ใช้กับประโยคปฏิเสธ
There aren’t any apples.
There isn’t any rice.

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

some any ใช้ยังไง - เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี

Ep.1 (1/2) การใช้ a , an และเทคนิคการใช้แบบเข้าใจง่าย


🌈 สอนการใช้ a , an นำหน้าคำนามเอกพจน์ เรื่องง่ายๆที่หลายคนไม่รู้
ฟังครูปัดสอนแล้วจะหายงงเลยจ้า 🎉🌟

โหลดแบบฝึกหัดมาทำกันเลย ด้านล่างนี้เลยจ้า 👇
https://drive.google.com/file/d/1_x3JqsxooCMY3ZbU9tCU_JNbYZ3zZWfo/view?usp=sharing
ทำเสร็จแล้ว ค่อยดูคลิปเฉลยนะตะเอง

englishgrammar grammar article indefinitearticle

Ep.1 (1/2) การใช้ a , an และเทคนิคการใช้แบบเข้าใจง่าย

Some and Any Fruit Game (How To Teach Some and Any)


A fun and interactive classroom game to teach the general difference between the quantifiers “some” and “any” and also to learn new vocabulary related to the names of fruit in English.
Challenge students to think of 20 or so different types of fruit and write them on the board (always in the plural form).
Make sure to include apricots, bananas, pears, lemons, grapes, raspberries, watermelons and mangoes.
Display an image of the 8 previously mentioned fruits to one student (minute 2:19, on a computer screen or on a printout) and have other students take turns guessing which fruits he or she can see in the image with the questions “Have you got any_____?” or “Do you have any _____?”
If the guess is correct, the student looking at the image must answer “Yes, I have (got) some ____” and return to his or her seat. The student who guessed correctly then gets to look at the image and answer a question from another student.
Continue until all 8 fruits have been successfully guessed.

Some and Any Fruit Game (How To Teach Some and Any)

a an some any| phân biệt a an some any|bài tập a an some any


video này giúp các em phân biệt a/an/some/any trong ngữ pháp tiếng anh cơ bản.
chúc các em học tốt. nhớ đăng ký kênh ủng hộ mình nha.cảm ơn.

a an some any| phân biệt a an some any|bài tập a an some any

Grammar 5º (a/an, some, any)


Grammar unit 6 \”Fruits and vegetables\”
Tiger Tracks 5 (Macmillan)
Year 5, Primary Education

Grammar 5º (a/an, some, any)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การใช้ a an some

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *