Skip to content
Home » [Update] การเขียน Resume / CV ภาษาอังกฤษ | สุด ความ สามารถ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] การเขียน Resume / CV ภาษาอังกฤษ | สุด ความ สามารถ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

สุด ความ สามารถ ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

มาเจาะลึกถึงเทคนิคการเขียน resume ภาษาอังกฤษกันสักหน่อย การเขียนเรซูเม่ให้ดีเป็นสิ่งที่ยากมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเขียนไม่ได้  หลักสำคัญคือ ต้องเขียนสิ่งที่เป็ฯตัวเราจริงๆ เนื้อความสั้น กระชับ และได้ใจความ ส่วนรูปแบบของเรซูเม่ จริงๆแล้วไม่มีใครรู้ว่าแบบไหนคือดีที่สุด เอาเป็นว่าอ่านง่ายสบายตา เท่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรซูเม่ที่ดีค่ะ การเขียนเรซูเม่ทั่วไปมีหลักการเช่นเดียวกับการเขียนออไลน์เรซูเม่ แต่ออนไลน์เรซูเม่มีความพิเศษกว่า เพราะสามารถใส่ลิ้ง (Link) เพื่อที่จะโชว์ความสามารถพิเศษหรือ portfolio ของเราให้นายจ้างดูได้ และยังสามารถใส่วีดีโอเรซูเม่ (VDO Resume) เพื่อแนะนำหรือพรีเซนต์ประวัติย่อของเราได้ด้วย ซึ่งนายจ้างที่เห็นวีดีโอเรซูเม่ก็จะสามารถเห็นบุคลิกภาพของเราก่อนเรียกเข้าสัมภาษณ์งาน ความพิเศษของออนไลน์เรซูเม่ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้เรซูเม่ของเราน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการเรียกเข้าสัมภาษณ์งานให้กับเราอีกด้วย ในบทความนี้เราจะแบ่ง resume ออกเป็น 6 ส่วนหลักๆ คือ  

 

Table of Contents

1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

3. ทักษะความสามารถ (Skills) 

4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

 

1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

 

ส่วนหัวกระดาษ (Heading) ต้องระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ที่สามารถติดต่อเราโดยตรงได้ อย่าลืมเช็คเบอร์โทรและอีเมล์ก่อนส่งเรซูเม่สมัครงานอีกครั้งเพราะเป็นส่วนที่สำคัญและไม่ควรจะเขียนผิดพลาด เนื่องจากถ้านายจ้างสนใจเรียกเข้าสัมภาษณ์งานแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อเราได้ เรซูเม่เราก็จะไม่มีความหมายไม่ต่างกับกระดาษเปล่านะคะ

ส่วนจุดมุ่งหมายในงาน (Career Objecting) คือการระบุเป้าหมายของการสมัครงานในตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร และควรระบุตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัครให้ชัดเจน อาจมีการระบุจำนวนเงินเดือนที่ต้องการด้วยก็ได้

 

การระบุจุดมุ่งหมายในการทำงานที่ชัดเจน และสอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เช่น ตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างไร หรือการตั้งเป้าหมายระยะยาวในช่วงเวลา 3-5 ปีข้างหน้าในเส้นทางอาชีพว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เป็นต้น ซึ่งการตั้งเป้าหมายในสายอาชีพให้ชัดเจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และสร้างแรงจูงใจที่สำคัญแก่องค์กรในการเลือกรับผู้สมัครคนดังกล่าวเข้าทำงานเพื่อสร้างผลงานและขับเคลื่อนองค์กรได้ต่อไป

 

ตัวอย่าง หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

 

MR. FISCHER PARTNERS

55 Wave Place Wireless Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok, 10330

Tel. 02-2541448-9  E-mail: [email protected]

CAREER OBJECTIVE: Seeking a position in the accounting field where excellent analytical and technical skills can be utilized to improve the company’s profitability 
EXPECTED SALARY:   15,000- 25,000 Baht

 

 

2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

 

ข้อมูลส่วนตัว (Personal  Information) ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในเรซูเม่  ประกอบไปด้วยรูปภาพ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ประวัติการศึกษา สำหรับรูปถ่ายควรเป็นรูปที่เห็นใบหน้าตรงชัดเจน และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากรูปถ่ายจะเป็นสิ่งแรกที่ HR เห็นจากเรซูเม่ของผู้สมัคร นอกจากนี้ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลติดต่อกลับทั้งเบอร์โทรศัพท์ และอีเมลที่ต้องดูเป็นทางการ เช่น ชื่อ.นามสกุล@xxx.com 

 

ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวกับสัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก ส่วนสูง และงานอดิเรกที่เราสนใจนอกเวลางาน บางคนอาจจะเลือกที่จะไม่ใส่ขอมูลเกี่ยวกับ สัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก และส่วนสูง ถ้าต้องการให้เรซูเม่ของเราดูเป็นมืออาชีพ และถ้าข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้องาน ดังนั้นในส่วนนี้ จะใส่เพียว ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ และงานอดิเรกที่สนใจนอกเวลางาน เท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเนื้องานก็จำเป็น เช่น ถ้าเราสมัครเป็นแอร์โฮสเตส ที่นายจ้างจะต้องรู้ความสูงและน้ำหนัก แบบนี้เราก็ควรระบุลงไปให้ชัดเจน เป็นต้น

 

ตัวอย่าง ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

 

PERSONAL INFORMATION 

Residential Address : 55 Wave Place Wireless Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok, 10330

Mobile : 084-752-5656

Email : [email protected]

Date of Birth : 15 May 1977

Nationality : Thai

Age : 41

Marital Status : Single

Interest and Activities : Volunteer at local Rescue Mission, Participant in various running events, Enjoy jogging, tennis, reading

 

 

3. ทักษะความสามารถ (Skills)

 

ทักษะความสามารถ เป็นหัวข้อที่เราควรใส่ลงในเรซูเม่ (Resume) ของเรา  เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสัมภาษณ์งาน เพราะช่วยให้เรซูเม่ของผู้สมัครดูน่าสนใจและได้เปรียบคู่แข่ง  เนื่องจากปัจจุบันนายจ้างจะเลือกดูประสบการณ์ทำงานและทักษะความสามารถของผู้สมัครเป็นหลัก ดังนั้น ใครมีความสามารถอะไร ควรใส่ให้ครบนะคะ โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นในตำแหน่งงานที่สมัครจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น อาทิ ทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 เช่น ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฯลฯ รวมไปถึงทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จำเป็นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้

 

ทักษะความสามารถแบ่งออกเป็น Hard Skill และ Soft Skill

 

Hard Skill หรือ Qualification คือ ทักษะที่จำเป็นในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ เช่น ถ้าเราเป็นนักบัญชี เราต้องรู้เกี่ยวกับการบันทึกบัญชี การสอบบัญชี และการยื่นภาษีต่างๆ  ถ้าเราเป็นวิศวกร คุณต้องรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการคำนวณ ว่ากันง่ายๆคือ ทักษะส่วนใหญ่ที่เราเรียนมาในมหาวิทยาลัย (อาจจะดูได้จากวิชาหลักที่เราเรียนในมหาวิทยาลัย) คือ Hard Skill

 

Soft Skill คือ มีขอบเขตที่กว้างกว่า โดยเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้กับทุกสายอาชีพ เป็นลักษณะส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence Quotient) เช่นทักษะการสื่อสารการแก้ปัญหาความขัดแย้ง การจูงใจ การจัดการอารมณ์ของตัวเอง การเจรจาต่อรอง การคิดเชิงกลยุทธ์ การสร้างทีมงาน ซึ่งแตกต่างจาก Hard Skills ที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางสติปัญญา (Intelligence Quotient)

 

ตัวอย่าง การเขียนทักษะความสามารถ (Skills)

 

QUALIFICATION

 

  • General accounting transaction and entering data to accounting system

  • Issue withholding tax certificate

  • prepare and record AR,AP payment 

  •  handle all VAT and TAX calculation 

  • issue Invoice, Debit note, Credit note

  • Good command of Written and Spoken English

 

Skill

 

  • Having analytical skills, leadership, highly responsible and results oriented. 

  • Ability to work under pressure conditions

  • Typing skills: Thai, 45 words per minute | English, 50 words per minute

 

 

4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

 

เขียนวุฒิการศึกษาที่เราได้รับมา และการฝึกอบรมต่างๆ หรือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เคยเข้าร่วม ถ้าให้ดีต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน สามารถใช้ประสบการณ์ระหว่างการศึกษาได้ เช่น ถ้าเคยเป็นเหรัญญิกของสมาคมหรือค่าอาสา ก็เขียนว่า ได้รับเลือกให้เป็นเหรัญญิกของโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบท มีหน้าที่จัดทำเอกสาร รวบรวมเอกสาร รวมถึงบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดของโครางการ เป็นต้น ส่วนคนที่เคยมีประสบการทำงานมาแล้วก็สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำมาได้เลย (อย่าลืมใส่ลิ้ง หรือเว็บไซต์ของที่ทำงานเก่า ลงไปในออนไลน์เรซูเม่ด้วย เพื่อให้นายจ้างตรวจเช็คได้สะดวก) การเขียนข้อมูลทางการศึกษา (Education) ให้เรียงจากวุฒิการศึกษสูงสุดไปวุฒติที่ต่ำที่สุด แต่ไม่ควรต่ำเกิดวุฒิมัธยมปลายหรือ ปวช. และถ้าเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน ให้เขียนเรียงลำดับจาก ช่วงเวลาที่เรียน วุฒิที่ได้รับ และชื่อสถาบัน

 

ตัวอย่าง ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

 

EDUCATION HISTORY

May 2010 – Aug 2012                 Masters in  Accounting,University of ABC,  Bangkok THAILAND

May 2006 – Feb 2010                 Bachelor of Science – Accounting, University of ABC, Bangkok THAILAND

May 2000 – Feb 2006                High School Certificate equivalent, AAA High School, Bangkok THAILAND

 

ข้อสังเกต

 

  • เขียนชื่อวุฒิขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ

  • ชื่อสถาบัน ให้ใส่จังหวัดที่สถาบันตั้งอยู่ ยกเว้นสถาบันที่ใช้ชื่อจังหวัดเป็นชื่อสถาบัน (เช่น Chiang Mai University, Khon Kaen University)

  • เราสามารถเพิ่มหัวข้อการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับงานเข้าไปที่หัวข้อนี้ หรือเพิ่มหัวข้อการฝึกอบรมขึ้นมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้งานมากขึ้นด้วย วิธีเขียนก็เช่นเดียวกับการศึกษาหรือประสบการณ์ทำงาน คือ ให้เขียนเรียงลำดับ วันเดือนปีที่อบรม ระยะเวลา ชื่อหลักสูตรในการอบรม และสถาบันที่จัดการอบรม

 

 

5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

 

ในส่วนนี้จะคล้ายกับข้อมูลการศึกษา โดยเริ่มจาก ชื่อสถานประกอบการ ตำแหน่งงาน จังหวัด ประเทศ (ถ้าทำงานต่างประเทศมาก่อน) วันเดือนปีที่เริ่มทำงาน  และระยะเวลาที่ทำงานนั้น และควรใส่ขอบเขตหน้าที่ ที่เราได้รับผิดชอบขณะทำงานอยู่ด้วย หรืออาจจะจัดรูปแบบให้แตกต่างแต่อานแล้วสบายตา เข้าใจง่ายก็ได้ (ดูตัวอย่างข้างล่าง) นอกจากนั้น ถ้าเคยผ่านงานมาหลายที่ ให้เขียนงานที่ทำปัจจุบันก่อน แล้วเรียงไปจนถึงตำแหน่งงานแรก  และการอบรมที่เคยเข้าร่วม ส่วนนิสิต นักศึกษาจบใหม่ การระบุประสบการณ์พิเศษเป็นการช่วยให้เรซูเม่ดูน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร การออกค่าย การฝึกงาน ตลอดจนการทำงานล่วงเวลา (Part-Time) ทั้งนี้ประสบการณ์พิเศษจะเป็นปัจจัยสนับสนุนว่าผู้สมัครเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบด้าน และมีความรับผิดชอบ

 

ตัวอย่าง ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

 

WORK EXPEREINCE

FP RECRUITMENT, Bangkok THAILAND  (Feb 2013 – April 2014)

Accounting Assistant

 

  • Performed accounts payable functions for construction expenses.

  • Managed vendor accounts, generating weekly on demand cheques.

  • Managed financial departments with responsibility for Budgets, Forecasting, Payroll, Accounts Payable and Receivable.

  • Created budgets and forecasts for the management group.

  • Ensured compliance with accounting deadlines.

  • Prepared company accounts and tax returns for audit.

  • Coordinated monthly payroll functions for 200+ employees.

  • Liased with bankers, insurers and solicitors regarding financial transactions.

 

K FiSCHER & CO, Bangkok, THAILAND  (March 2010 – Dec 2012)

Administrative Assistant

 

  • Performed general office duties and administrative tasks.

  • Prepared weekly confidential sales reports for presentation to management.

  • Managed the internal and external mail functions.

  • Provided telephone support.

  • Scheduled client appointments and maintained up-to-date confidential client files.

 

 

6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

เรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ ที่เราเขียนจะดูมีความน่าเชื่อถือสูง ถ้าเรามีชื่อและข้อมูลการติดต่อของบุคคลที่นายจ้างสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเราได้ ประมาณ 2-3 คน (ไม่ควรทำงานที่เดียวกัน และต้องไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา) ดังนั้นบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (reference) ของเราควรเป็นหัวหน้างานเก่าหรือ หากคุณยังไม่มีประสบการณืทำงานเลย ก็ควรจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ในวงการธุรกิจ เช่น ต้องเป็นบุคคลที่มีงานมั่นคง หรือมีชื่อเสียง อาจเป็นข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน อาจารย์ หรือเจ้าของกิจการ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องรู้จักและเคยเห็นการทำงานของเราเป็นอย่างดี การเขียนให้เรียงจากชื่อ-นามสกุล (ถ้าเป็นอาจารย์ที่มีตำแหน่งต้องใส่คำนำหน้าด้วย เช่น ศาสตราจารย์ = Prof. , รองศาสตราจารย์ = Assoc.Prof) ตำแหน่ง ชื่อสถานประกอบการ และหมายเลขโทรศัพท์

 

ตัวอย่าง บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

REFERENCES

Mr. Chanin Kulkanjanatorn, Director, AEC Enlist Co.Ltd., Bangkok THAILAND Tel. 02-392-4186

อย่างไรก็ตาม resume ที่เราส่งไปนั้นยังไม่ต้องอ้าง reference ก็ได้แต่ให้เขียนว่า “References will be sent on request.” (หมายความว่า เอกสารอ้างอิงจะส่งให้กรณีที่ทางบริษัทร้องขอมา)

 

ตัวอย่างเรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ

[Update] 30 วิธีพูด beautiful เป็นภาษาอังกฤษด้วยคำอื่นๆ | สุด ความ สามารถ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

30 words to say beautiful

    เวลาเราต้องการชมคน สัตว์ หรือสิ่งของว่า “สวย”  คำแรกๆ ที่จะนึกถึงคงหนีไม่พ้นคำพื้นฐานอย่าง “Beautiful” ใช่มั้ย? แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีคำอีกมายมายที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่เหมาะกับสถานการณ์อื่นๆ หรืออธิบายอารมณ์ของเราได้ดีกว่า ไปดูกันเลยพ.ศ.นี้ว่ามีคำอะไรบ้าง     

 

1. Cute (adj.) แปลว่า น่ารัก ส่วนใหญ่ใช้กับสัตว์ตัวเล็กๆ เด็กเล็ก หรือคนที่เรารู้สึกว่าน่ารัก  

    She is really cute. (ผู้หญิงคนนั้นน่ารักจัง) 

    How cute! (เป็นคำอุทานชื่นชมว่า น่ารักจังเลย!)

 

2. Adorable (adj.) แปลว่า น่ารักเหมือนกับ Cute แต่มีความชื่นชมชัดกว่า เอาไว้ชมได้ทั้งสัตว์เลี้ยง เด็กเล็ก หรือคนทั่วๆ ไป  

    Your son is so adorable. (ลูกชายเธอน่ารักสุดๆ ไปเลย)

    คำนี้ถ้าเป็นกริยา (Verb) คือ Adore แปลว่ารักและชื่นชม

 

3. Lovely (adj.) แปลว่า น่ารัก น่าเอ็นดู ส่วนใหญ่ใช้พูดถึงคนและสิ่งของ หรืออาจจะใช้อธิบายเหตุการณ์ดีๆ ที่ทำให้มีความสุขก็ได้

    My vacation was lovely. (วันหยุดของฉันผ่านไปด้วยดี) 

    I had a lovely time at the park. (ฉันมีช่วงเวลาดีๆ ที่สวนสาธารณะ) 

 

 

4. Pretty (adj.) แปลว่า สวย น่ารัก น่ามอง แต่จะออกเป็นการชมรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า Beautiful ที่ชมได้ทั้งความงามภายนอกและภายใน 

    She is very pretty but not really smart.

 

    แต่ถ้า Pretty ถูกใช้ขยายคำอื่นจะแปลว่า ค่อนข้าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ (Adverb) 

    I’m pretty sure she has a boyfriend already. (ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเธอมีแฟนแล้ว)

 

5. Attractive (adj.) เป็นคำกลางๆ ที่ใช้ชมคนที่ดูดี มีเสน่ห์ดึงดูด หรือจะใช้พูดถึงความคิดหรือข้อเสนอก็ได้         The idea is very attractive. (ฉันคิดว่าความคิดนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ)

    This is a very attractive proposal. (ข้อเสนอนี้ดูดีจริงๆ)

 

6. Gorgeous (adj.) แปลว่า สวย หรูหรา สง่างาม ใช้พูดถึงคนที่สวยและมีเสน่ห์ดึงดูดมากๆ ใช้ชมได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ชมผู้หญิงมากกว่า

     You look gorgeous in that dress! (เธอดูดีมากๆ ในชุดนั้น)  

 

 

7. Exquisite (adj.) แปลว่า วิจิตร งดงาม อ่อนช้อย ซึ่งสามารถใช้อธิบายได้ทั้งคน (ผู้หญิงที่สวยมาก) อาหาร ไวน์ ภาพวาด หรือประสบการณ์บางอย่างที่มีความงดงามในรายละเอียด 

    The tourists were fascinated with the exquisite scenery. (นักท่องเที่ยวตะลึงกับทัศนียภาพที่งดงาม) 

 

8. Stunning (adj.) แปลว่า น่าทึ่ง น่าประหลาดใจ แต่ถ้าในความหมายของคำว่าสวย หมายถึงความสวยจนอึ้งไปเลย ใช้อธิบายได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    Scarlett is so stunning!     

 

9. Radiant (adj.) แปลว่า เปล่งประกาย เปล่งปลั่ง มีเสน่ห์ มีพลัง สามารถใช้ในความหมายว่า คนๆ นี้ดูสดใส สุขภาพดีก็ได้

    She was radiant with love. (เธอเปล่งประกายไปด้วยความรัก) 

 

 10. Breathtaking (adj.) ใช้อธิบายสิ่งที่ทำให้เราลืมหายใจ ส่วนใหญ่ใช้อธิบายความงดงามของธรรมชาติ         The scenery is breathtaking. 

 

11. Captivating (adj.) เป็นความสวยที่จับใจ ใช้อธิบายคนหรือสิ่งของที่ทำให้เราหลงใหลจนควบคุมตัวเองไม่ได้ คำกริยาของคำนี้คือ Captive ซึ่งแปลว่า ถูกครอบงำ ไม่สามารถหนีได้ 

 

12. Striking (adj.) หมายถึงความสวยที่จู่โจมเข้ากลางใจเรา และส่งอิทธิพลต่อเราอย่างมาก

    She is naturally striking. (เธอสวยอย่างธรรมชาติ) 

 

13. Alluring (adj.) ใช้อธิบายสิ่งที่ยั่วยวน ดึงดูดใจอย่างอธิบายไม่ถูก หรือมีเสนห์ สามารถใช้กับคนหรือสิ่งของก็ได้ 

    Her perfume is very alluring.

 

14. Appealing (adj.) สิ่งที่ดึงดูดให้เราสนใจ ใช้อธิบายคน สิ่งของ หรือความคิดก็ได้ 

    My girlfriend doesn’t find rock appealing. (แฟนของผมไม่สนใจเพลงร็อค)

 

15. Seductive (adj.) เป็นความสวยในแบบที่มีเสน่ห์ยั่วยวน และดึงดูดใจ 

    He has a seductive voice. (เขามีน้ำเสียงมีเสน่ห์ยั่วยวน)  

 

    40 คำที่ใช้ชมแทนคำว่า VERY GOOD! ในภาษาอังกฤษ

    10 สำนวนไทย ใช้เหมือนอังกฤษเป๊ะ

 

 

16. Drop-Dead (adj.) เป็นคำที่ใช้เน้นความสวย หล่อ มักใช้ร่วมกับคำว่า Gorgeous พอมาอยู่ด้วยกันแล้วก็แปลว่า สวยหรือหล่อจนหัวใจหยุดเต้น สวยแบบวัวตายควายล้มเลย คำนี้ใช้คำคนเท่านั้นเน้อ

    She is drop-dead gorgeous! (เธอสวยจนหัวใจฉันหยุดเต้นไปเลย) 

 

17. A Head turner (n.) ใช้เรียกคนที่สวยหรือหล่อ จนคนอื่นต้องเหลียวหลังมอง

    

18. A Perfect ten (n.) ใช้เรียกคนที่สวยแบบ 10 เต็ม 10 ส่วนใหญ่เป็นคำที่ผู้ชายใช้เรียกผู้หญิง เหมือนเป็นการให้คะแนนเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก จนบางครั้งอาจตีความไปในเชิงลบได้

 

 

 

19. Charming (adj.) 

20. Enchanting (adj.) 

21. Bewitching / Bewitched (adj.) 

    เป็น 3 คำที่มีความหมายเดียวกัน ใช้อธิบายคนที่ดูดี มีเสน่ห์ เหมือนมีมนต์สะกด สามารถใช้กับคนหรือสิ่งของก็ได้ คำว่า Charming ใช้กับผู้ชายก็ได้ เช่น Prince charming ไง 

 

22. Angelic (adj.) เป็นคำที่ใช้อธิบายความงามเหนือมนุษย์ ประหนึ่งนางฟ้านางสวรรค์ 

    She has an angelic smile. (เธอมีรอยยิ้มงดงามดั่งนางฟ้า) 

 

23. Divine (adj.) ปัจจุบันคำนี้ใช้อธิบายสิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ้า และความศักดิ์สิทธิ์ แต่คำนี้ใช้อธิบายบางคน หรือบางสิ่งว่าดีมากๆ หรือเป็นที่น่าพอใจได้เช่นกัน 

    The dinner was simply divine. (อาหารค่ำอร่อยมาก)

    

24. A goddess (n.) เป็นคำนามอธิบายผู้หญิงที่สวยเหมือนเทพเจ้า หากเห็นผู้หญิงคนไหนที่รู้สึกว่าทั้งสวย ทั้งมีพลังอำนาจต่อเราก็ใช้คำนี้อธิบายได้เลยจ้ะ   

 

25. Luscious (adj.) ถ้าใช้อธิบายของหวาน คือของหวานที่อร่อย รสชาติเข้มข้น หวาน บางครั้งถูกนำมาใช้อธิบายคนที่มีเสน่ห์แบบเซ็กซี่ 

 

26. Marvelous (adj.) แปลตรงตัวคือ น่าประหลาดใจ น่ามหัศจรรย์ ถ้านำมาอธิบายคน คือ เป็นคนที่ดึงดูดอย่างน่ามหัศจรรย์ น่าเหลือเชื่อ ใช้อธิบายสิ่งของก็ได้

 

27. Sensuous (adj.) เป็นอีกคำที่ใช้อธิบายความงามภายนอกที่ดึงดูด มีเสน่ห์ ยั่วยวน เป็นเรื่องภายนอกล้วนๆ มีความหมายเชิงชู้สาว 

 

 

ชมแต่ผู้หญิงมากไปเดี๋ยวหนุ่มๆ จะงอน สำหรับผู้ชายที่ดูดี คำพื้นฐานคือ

28. Handsome (adj.) ซึ่งแปลว่า หล่อ ดูดี มีเสน่ห์ แต่ในอเมริกาจะไม่ค่อยใช้คำนี้แล้วนะ จะพูดง่ายๆ ว่า Good-looking มากกว่า 

 

29. A hottie (n.) เป็นคำที่ไม่เป็นทางการ เป็นภาษาพูด ใช้เรียกคนที่หล่อมากๆ ว่า 

    Chris Pine is totally a hottie!!

 

30. smoking hot (adj.) คำนี้ใช้อธิบายได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และมีความหมายแฝงว่า Sexy ได้อีกด้วย ใช้แทนคำว่า A hottie ได้

    He is smoking hot. (เขาโคตรหล่อเลย) 

 

   ส่งท้าย ขอแถมคำว่า Total package (n.) ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบเครื่อง ทั้งหน้าตา ความสามารถ แถมยังจิตใจดี ถ้าเจอใครที่ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งสวย ทั้งเก่งแถมยังนิสัยดีอีกก็ใช้คำนี้ได้เลย

    My boyfriend is a total package! (แฟนฉันครบเครื่องสุดๆ!) 

 

    สุดยอดลายแทงรวมบทความ IELTS ที่คนเตรียมสอบห้ามพลาด

 

Updated and Edited content by Pattama K

 


น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film


หนังสั้น เรื่องราวสะท้อนสังคม เตือนภัยต่างๆ
หนังสั้น ละครสั้น

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย


100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย
กริยาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ verb
ภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
กริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
คำกริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษ,
กริยาอังกฤษใช้บ่อย,

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย

ขั้นกว่าและที่สุดในภาษาอังกฤษ


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

ขั้นกว่าและที่สุดในภาษาอังกฤษ

สุดต๊าชกว่าใคร ภาษาอังกฤษ x นิเทศศาสตร์ ที่ ม.กรุงเทพ


กำแพงภาษา ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เก่งภาษาอังกฤษและมีทักษะในยุคดิจิทัล
โครงการพิเศษสุดต๊าซ สาขาภาษาอังกฤษ x คณะนิเทศศาสตร์ ตอบโจทย์อาชีพมาแรง ทำงานได้หลากหลายกว่าที่คิด
สาขาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว
https://www.bu.ac.th/th/humanities/english
BUHU

สุดต๊าชกว่าใคร ภาษาอังกฤษ x นิเทศศาสตร์ ที่ ม.กรุงเทพ

S03 | น้องเดวต้า | ตี๋น้อยมหัศจรรย์วัย 3 ขวบ level up รอบรู้ศัพท์ ไทย จีน อังกฤษ


พบกับรายการ Super 10 อัจฉริยะตัวน้อย
ทุกวันเสาร์ เวลา 16.40 น.
ได้ทางช่อง เวิร์คพอยท์ กดหมายเลข 23
และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการได้ที่
เว็บไซต์: https://www.workpointtv.com
เฟสบุ๊ค: https://www.facebook.com/workpoint

S03 | น้องเดวต้า | ตี๋น้อยมหัศจรรย์วัย 3 ขวบ level up รอบรู้ศัพท์ ไทย จีน อังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ สุด ความ สามารถ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *