Skip to content
Home » [Update] การเขียนจดหมาย อีเมล ภาษาอังกฤษ ประโยคจำเป็น รวมประโยคสำเร็จรูป ตัวอย่างประโยค | เรียน เพิ่มเติม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] การเขียนจดหมาย อีเมล ภาษาอังกฤษ ประโยคจำเป็น รวมประโยคสำเร็จรูป ตัวอย่างประโยค | เรียน เพิ่มเติม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เรียน เพิ่มเติม ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

สอนภาษาอังกฤษเรื่องการเขียนอีเมล (email) เป็นภาษาอังกฤษ บทเรียนภาษาอังกฤษบทนี้ อ.ต้นอมร รวบรวมประโยคที่จำเป็นต้องใช้ แต่ผู้เรียนภาษาอังกฤษอาจไม่กล้าเขียน email เองเพราะภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรงพอ กลัวว่าถ้าเขียนอีเมลเองจะผิดแกรมม่าไวยากรณ์ ก็สามารถมาดูประโยคสำเร็จรูปที่จำเป็นจะต้องได้ใช้ในการเขียนอีเมล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงาน ติดต่อสื่อสารธุรกิจครับ และถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ สามารถเรียนภาษาอังกฤษฟรีได้โดยคลิก >> สอนภาษาอังกฤษฟรี โดยเว็บ tonamorn.com สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐานภาษาอังกฤษ จนถึงระดับสูง ครบถ้วนทั้งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ผู้เรียนสามารถเลือกเนื้อหาที่ต้องการเรียนได้ฟรี มีการเพิ่มบทเรียนภาษาอังกฤษใหม่อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอครับ ถ้าเข้ามาเรื่อยๆ จะรู้ว่ามีเนื้อหาใหม่ตลอดครับ ช่วยกันแชร์ และบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ

กดติดตาม อ.ต้นอมร บนเฟซบุ๊ก ความรู้ดีๆ เพียบ!
facebook.com/tonie.amorn

กดติดตาม เพจเรียนภาษาอังกฤษฟรี บนเฟซบุ๊ก
facebook.com/ajtonamorn
(ตั้งเป็น see first : เห็นโพสต์ก่อน ด้วยนะครับ)

ประโยคที่น่าสนใจ สำหรับการเขียนอีเมล (email) หรือจดหมายธุรกิจ

Table of Contents

การเกริ่นนำจดหมาย หรืออีเมล เพื่อแจ้งให้ทราบ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– I’m writing to tell you that …
– I’m writing to inform you that …
– This is to make you aware that …
– I want to fill you in on …
– Please be advised that …

คำศัพท์ที่น่าสนใจ
inform (อินฟอร์ม’) = บอก,แจ้ง
aware (อะแว-) = ทราบ
advise (แอ็ดไฝส-) = แจ้งให้ทราบ, แนะนำ

โครงสร้างไวยากรณ์ (grammar) ที่น่าสนใจ

With + noun, subject + verb …

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
With the next product release, we will change our advertising strategy.
= (เนื่องด้วย)การปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป เราจะเปลี่ยนกลยุทธ์การโฆษณา

การแนะนำข้อมูลทั่วไป

– For your background information, …
– To give you a general summary, …
– To provide you with a broad picture of …
– Just so you have a comprehensive idea of …
หมายถึง เพื่อให้คุณได้เข้าใจอย่างคร่าวๆ เกี่ยวกับ …

การเกริ่นนำ เรื่องที่รู้อยู่แล้ว

– As you know, …
– As you may have noticed, …
– As you might have guessed, …
– You might already be aware that, …

การเขียนแจ้งเรื่องความรับผิดชอบ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– … (Name) … will be responsible for …
– … (Name) … will be in charge of …
– … (Name) … will be taking care of …
แปลว่า …(ชื่อ)… จะรับผิดชอบด้าน …

– … (Name) … will assume the role of (position)
แปลว่า …(ชื่อ)… จะรับหน้าที่ในตำแหน่ง …

– … (Name) … has assumed a number of responsibilities in …
แปลว่า …(ชื่อ)… จะดูแลรับผิดชอบงานเกี่ยวกับด้าน …

การตักเตือน เป็นภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างการเขียนขึ้นต้นประโยค
– Be mindful of …
– Try not to forget …
– Please try to heed …
– Remember that … is essential.
– Please keep in mind that …

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– Remember that being punctual is essential.
= จำไว้ว่าการตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ

– Please keep in mind that we start work at eight o’clock sharp.
= โปรดจำใส่ใจว่าเราเริ่มงาน 8 โมงตรง

การแสดงความเสียใจ ภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างการเขียนขึ้นต้นประโยค
– I am sorry that …
– I feel sorry that …
– I am regretful that …
– I feel regretful that …
แปลว่า ฉันเสียใจ/เศร้า กับเรื่อง …

– It is unfortunate that …
– It is regrettable that …
แปลว่า ช่างโชคร้าย/น่าเสียดาย ที่ …

– There is nothing I can say about … except that …
แปลว่า ฉันไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับ … นอกเสียจากว่า …

การแสดงความเห็นใจ
(Showing Sympathy)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– All our hearts go out to you.
– We’re all pulling for you.
= พวกเราทุกคนภาวนาเอาใจช่วยคุณ

– We are deeply concerned about your …
แปลว่า พวกเรารู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่อง … ของคุณเป็นอย่างมาก

สำนวนให้กำลังใจ ภาษาอังกฤษ
(Encouraging Someone)

– Don’t forget to keep your chin up.
– Remember to stay positive.
– Be sure to believe in yourself.

การแสดงความขอบคุณ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– I would like to take this opportunity to express my most heartfelt appreciation to you for your assistance.
= ฉันขออาศัยโอกาสนี้แสดงความซาบซึ้งใจของฉันที่มีต่อความช่วยเหลือของคุณ

คำศัพท์ที่น่าสนใจ
heartfelt (ฮาร์ท’เฟ็ลท) adjective = จริงใจ, โดยตั้งใจ, ไม่เสแสร้ง, อย่างน้ำใสใจจริง
appreciation (อะพรี’ชีเอ’เชิน) noun = ความรู้คุณค่า, ชอบ, ชมเชย
assistance (อะซิส’เทินซฺ) noun = ความช่วยเหลือ, การสนับสนุน

การแนบไฟล์ แนบข้อมูล

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– For your review, enclosed is …
– For your review, attached is …
– For your consideration, enclosed is …
– For your consideration, attached is …
– I have included …
– I have attached …
– I have added …
– Please find enclosed …
– Please find affixed …

คำศัพท์ที่น่าสนใจ
enclose (เอนโคลซ’) = แนบมา
affix (อะฟิคซฺ’) = สิ่งเพิ่มเติม, ภาคผนวก, คำต่อท้าย

การบอกความคืบหน้าของงาน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– I am planning to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันวางแผนที่จะ
– I am attempting to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันพยายามที่จะ
– I am preparing to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันเตรียมที่จะ

We are in the process of + v. ing …
แปลว่า เรากำลังอยู่ในระหว่าง
(=to have started doing something)

สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น
We’re still in the process of decorating the house.
แปลว่า เรายังคงอยู่ระหว่างการตกแต่งบ้าน

– Meanwhile, subject + verb …
– At the same time, subject + verb …
– Concurrently, subject + verb …
แปลว่า ในขณะที่ …

การขอบคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษ

– Words cannot convey my gratitude.
– Words cannot convey my gratefulness.
– Words cannot convey my appreciation.
แปลว่า คำพูดมากมายก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกซาบซึ้งของฉันได้

– I want to thank you on behalf of (Name) for …
แปลว่า ฉันขอขอบคุณแทน …(ชื่อ)… สำหรับ …

การตอบแทนในโอกาสถัดไป

– We look forward to returning the favor.
– We hope to repay your kindness in full.
– Next time, everything is on us.

การเสนอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

– Please let me know if I can do more to support this.
= บอกฉันเลยถ้าหากคุณอยากให้ฉันช่วยอะไรเพิ่มในเรื่องนี้
– Feel free to tell me if there is anything I can do to be of assistance.
= ไม่ต้องกังวลที่จะบอกฉันหากมีอะไรให้ช่วยเหลือ
– Don’t hesitate to ask for more help.
= ไม่ต้องลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ

คำศัพท์น่ารู้
assistance (อะซิส’เทินซฺ) /əˈsɪs.təns/ = การช่วยเหลือ, ความช่วยเหลือ
hesitate (เฮช’ชิเทท) /ˈhez.ə.teɪt/ = ลังเล

ประโยคแสดงการเห็นด้วย

– I couldn’t agree more.
– I agree with you completely.
– I’m on your side 100%.
– I see things the same way.

การชมเชยเมื่องานสำเร็จด้วยดี

– Your direction and vision made the project successful.
– This project would not have been accomplished without your suggestions and
cooperation.

การพูดถึงความกังวล

My fear is that … subject + verb …
My concern is that … subject + verb …
My worry is that … subject + verb …
= ฉันกังวลว่า …

คำศัพท์ภาษาอังกฤษควรรู้
fear (เฟียร์) ความกลัว
concern (คันเซิร์น’) เกี่ยวพัน, กังวล, เป็นห่วง
worry (เวอ’รี) /ˈwɝː.i/ เป็นห่วง, กังวล

ไวยากรณ์ น่ารู้
การใช้ seem(s) to be
seem (ซีม) ดูราวกับ, ดูเหมือนว่า

ถ้าหลัง to be เป็นคำนามเอกพจน์ ใช้ seems
ถ้าหลัง to be เป็นคำนามพหูพจน์ ใช้ seem เช่น

– There seems to be a mistake.
– There seem to be a lot of mistakes.

การตอบกลับเพื่อคลายความกังวลหรือข้อสงสัย

– I would like to clarify a few points before we proceed.
– I would like to clear up a few points before we move on.
แปลว่า ฉันอยากจะคลายข้อสงสัยบางประการ ก่อนที่เราจะดำเนินการต่อไป

การร้องเรียน บ่น ตำหนิ

– I don’t think this is appropriate because …
– I don’t think this is suitable because …
แปลว่า ฉันคิดว่าแบบนี้ไม่เหมาะสม เพราะ …

– I would appreciate it if you could …
– I would be thankful if you could …
– I would be grateful if you could …
– I would be obliged if you could …
แปลว่า ฉันจะซาบซึ้ง/ขอบคุณเป็นอย่างมาก ถ้าคุณสามารถ …

– I believe you and I discussed this before and agreed that it wouldn’t and shouldn’t
take place.
แปลว่า ฉันเชื่อว่าก่อนหน้านี้เราได้คุยกันไปแล้ว และเห็นด้วยกันแล้วว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้น

การขอโทษ ภาษาอังกฤษ แบบต่างๆ

– I sincerely apologize for …
– I deeply apologize for …
– I truly apologize for …
แปลว่า ฉันต้องขออภัยอย่างยิ่ง สำหรับ …

– I am very sorry for …
– I am very sorry about …
แปลว่า ฉันรู้สึกเสียใจมากเกี่ยวกับ

การตั้งตารอ บางสิ่ง บางอย่าง

ไวยากรณ์ (grammar) น่ารู้
– I am looking forward to + v.ing
– I’m anxiously anticipating + v.ing
– I can’t wait to + v.

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
– I can’t wait to start working here.
= ฉันรอที่จะเริ่มงานที่นี่ไม่ไหวแล้ว

กลับเข้ามาดูอีกนะครับ เพิ่มประโยคให้เรื่อยๆ ครับ

คลิกอ่านได้เลยครับ
การเขียนจดหมาย และอีเมลภาษาอังกฤษ (การขึ้นต้น และลงท้ายจดหมาย แบบต่างๆ)
การเขียนจดหมายลางาน ลาป่วย ลาคลอด ลากิจ ลาประจำปี และการฝากงานระหว่างวันลา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การเขียน Résumé ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ แบบย่อ (เรซูเม่) เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการสมัครงาน
บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์

[NEW] 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 3 เดือน | เรียน เพิ่มเติม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

การสื่อสารมีความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารจะมีทั้งการฟังและพูด เพื่อสร้างบทสนทนาและสามารถโต้ตอบได้อย่างเข้าใจ แต่ปัญหาของผู้เรียนส่วนใหญ่จะเจอในการสื่อสารคือฟังได้แต่ตอบไม่ได้ พูดไม่ออก เรียนไปตั้งนานแต่ไม่เห็นการพัฒนา ทำให้รู้สึกว่าเรียนไปก็เสียเวลาไปเปล่า ๆ ดังนั้นวันนี้ทาง EngBreaking.co.th จะเปิด 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือน จริงหรือไม่ ? ต้องดู !

1.เปลี่ยนจากการคิดเป็นภาษาไทยเป็นคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อนพูดทุกครั้ง

ถ้าผู้เรียนคนใดอยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง เราต้องคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อน เช่น เมื่ออยากจะพูดกับเพื่อนว่า

  • นานแล้วไม่เจอเธอเลย สบายดีไหม ?

เราจะคิดเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่มีความหมายเดียวกันคือ

  • “Hi, Long time no see, How are you?”

จากนั้นลองคิดเกี่ยวกับคำตอบที่จะได้รับ ฝึกคิดตั้งแต่ประโยคสั้น ๆ ก่อน ถึงจะลองฝึกคิดประโยคยาว ตั้งแต่ง่ายจนถึงยากเพื่อท้าทายตัวเอง และเป็นการฝึกฝนที่จะช่วยได้หลายอย่าง ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณเอง เช่น การโต้ตอบเร็วขึ้นเพราะจะไม่ต้องแปลหรือคิดเป็นภาษาไทยก่อนพูดเหมือนเดิม และสามารถเดาไว้ก่อนคำถามหรือคำตอบที่คุณอาจจะเจอในแต่ละกรณี ทำให้ตอนที่เราสื่อสารกับใครเราก็มั่นใจ พูดได้เร็วเพราะสมองได้ฝึกและคุ้นเคยกับศัพท์หรือประโยคเหล่านั้นอยู่แล้ว

Eng Breaking แนะนำวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ

2.ต้องกล้าพูดภาษาอังกฤษ

ผู้เรียนบางคนชอบคิดว่าเมื่อเราเรียนแกรมมาเก่งแล้วเราถึงจะพูดก็ได้ แต่ความคิดแบบนี้ผิดมากเพราะตอนที่เราพูด ไม่จำเป็นที่ต้องพูดให้ถูกไวยากรณ์ 100% และถ้าเราไม่ฝึกพูดบ่อยและยิ่งมีความล่าช้าในการฝึกพูด ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเมื่อต้องพูด เราคิดว่าเราจะพูดได้นะเพราะเราเคยเรียนศัพท์และไวยากรณ์นั้นไปแล้ว แต่เราไม่เคยได้ฝึกพูดจริง ๆ เมื่อถึงเวลาใช้งาน พอถึงเวลากลับพูดไม่ออก ดังนั้นอย่าลังเลในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ต้องกล้าพูด กล้าท้าทายตัวเอง ถึงจะเก่งได้

3. ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษในหลายกรณีที่แตกต่างกัน

“Use It or Lose It” เป็นสำนวนอังกฤษที่มีความหมายว่า สิ่งใดไม่ได้ใช้ กำลังก็จะลูญหาย คุณค่าก็จะลดลง เช่นเดียวกันกับการฝึกฝนเรียนภาษาอังกฤษ หากไม่มีการนำออกมาใช้พัฒนา ความสามารถที่มีก็จะหายไปในที่สุด ดังนั้นต้องหมั่นเติมความรู้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะให้ไม่ถูกลดทอนไปและใช้งานไม่ได้ในที่สุด

หมั่นฝึกพูดให้หลากหลายและบ่อยขึ้น ถ้าเรียนรู้คำศัพท์มามากมาย แต่ไม่ทำไปใช้งาน การพัฒนาก็ไม่เกิดขึ้น ควรที่จะรู้จักการเรียนรู้ในรูปแบบอื่น ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่มากขึ้น รู้จักการท้าทาย อย่ากลัวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่ก้าวหน้า ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความกลัวที่จะก้าวข้ามมานั่นเอง

4.เรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างสร้างสรรต์

ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอะไรก็ตามถ้าเรามีความสร้างสรรค์ในการเรียน รู้จักประยุกต์การเรียน ถึงแม้จะเรียนคนเดียวแต่รู้จักออกแบบการเรียนให้ดูสนุกก็ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ เช่น ฝึกฝนกับกระจก หรือร้องเพลงตามศิลปินที่ชอบ

และในปัจจุบัน ก็มีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยในการเรียนรู้ควบคู่ไปการสร้างความบันเทิง เช่น Tiktok ที่มักจะมีชาเลนจ์ คอนเทนต์ที่น่าสนใจที่อัปเดตอยู่เสมอ ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษดูไม่ยากและน่าเรียนมากขึ้น การเรียนรู้ไปกับเพื่อน ๆ ก็จะช่วยเพิ่มความสนุกได้มากขึ้น กับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น บอร์ดเกม ที่เป็นที่นิยม หรือแอปพลิเคชั่นที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็นำมาเล่นสนุกด้วยกันเป็นทีมได้เช่นกัน

ฝึกพูดภาษาอังกฤษถูกต้องสามารถเก่งได้ในสามเดือน

5.มีแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษที่ดี น่าเชื่อถือใช้ตลอดการเรียน

ตอนนี้เราสามารถหาได้ทุกอย่างได้ในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Blog, Vlog, Youtube เว็บไซต์ต่าง ๆ แต่ก็ใช่ว่าแต่ละแหล่งจะเชื่อถือได้และได้ผล ดังนั้นก็ควรศึกษาแหล่งข้อมูลเหล่านั้นให้ดี ๆ ว่ามีประโยชน์จริง ๆ อย่างเว็บ EngBreaking.co.th ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษในแบบฉบับสมบูรณ์ รองรับผู้เรียนทุกระดับตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยาก มีการจัดสรรเนื้อหาในบทเรียนให้เหมาะสมแก่ผู้เรียนแต่ละคน

6.เลียนแบบตามคนอื่นเป็นวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม

ถ้าคุณชอบน้ำเสียงของใคร คุณสามารถเรียนตามเขาได้หรือเรียกได้ว่าวิธีการเลียนแบบตามคนอื่นที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายคนที่เคยใช้และประสบความสำเร็จได้ การเรียนแบบนี้ง่ายมาก ๆ กับสามขั้นตอนคือ

  • ขั้นตอนที่หนึ่ง คุณต้องเลือกคนที่คุณชอบ มีน้ำเสียงดี ออกเสียงภาษาอังกฤษแบบชัดเจน
  • ขั้นตอนที่สอง พูดตามคำพูดของเขาแบบที่ละประโยคสั้นๆ 
  • ขั้นตอนที่สาม ปรับความเร็ว การขึ้นลงของเสียงตามคนพูดในวิดีโอ แล้วฝึกพูดตามประโยคยาวๆ ถ้าตอนแรกเราฟังก่อนแล้วพูดตาม แต่ถึงขึ้นตอนที่สามนี้เราลองพูดตามไปเลยเหมาะกับจังหวะ ถ้าขยันใช้วิธีแบบนี้เราจะสามารถเลียนสำเนียงต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว

7.ลองฝึกใช้วิธี Tongue Twisters แบบสนุกๆ เพื่อฝึกพูดไว

ในภาษาอังกฤษมักจะมีศัพท์ที่อ่านออกเสียงยาก แต่ผู้เรียนจะไม่ต้องกังวลอีกแล้วเพราะเรามีเทคนิคเพื่อช่วยให้คุณปรับการออกเสียงให้ดียี่งขึ้นที่ได้เรียกว่า “Tongue Twisters” ที่หมายถึงสิ่งที่ทำให้ลิ้นบิดเบี้ยว หรือจริงๆ ก็คือเจ้าสิ่งนี้มันทำให้ลิ้นของเราอ่อน พูดได้เพราะมากขึ้นนั้นเอง
คุณสามารถฝึกออกเสียงตามวิธี “Tongue Twisters” โดยการอ่านประโยคละสามถึงห้ารอบหรือจนถึงเมื่อไหร่รู้สึกว่าโอเคแล้วเพื่อฝึกทักษะการพูดของตัวเองให้ดีขึ้นดังนี้

  • How can a clam cram in a clean cream can? ที่หมายถึง “หอยตลับเข้าไปแออัดยัดกันอยู่ในกระป๋องครีมสะอาด ๆ ได้ยังไงกัน” ช่วยคุณแยกระหว่างการออกเสียง /kl/ กับ /kr/ 
  • Send toast to ten tense stout saints’ ten tall tents. ที่หมายถึง “เอาขนมปังอบไปส่งที่เต็นท์สูงสิบหลังของพวกนักบุญอวบอ้วนที่ดูเคร่งเครียดสิบคน” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง /s/ กับเสียง /t/ ซึ่งเป็นพยัญชนะฐานฟันทั้งคู่
  • If Stu chews shoes, should Stu choose the shoes he chews? ที่หมายถึง “ถ้าสตูเคี้ยวรองเท้า มันก็ควรจะเลือกรองเท้าที่มันเคี้ยวหรือเปล่า” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง sh กับ ch ให้ชัดเจน กับหลายประโยคที่ผู้เรียนสามารถเก็บเอาไว้ฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านได้เช่น
  • Can you can a can as a canner can can a can? ฝึกออกเสียง เสียง /k/
  • I wish to wish the wish you wish to wish, but if you wish the wish the witch wishes, I won’t wish the wish you wish to wish. ฝึกออกเสียง sh กับ ch 
  • Santa’s short suit shrunk. ฝึกเสียง s กับ sh ซึ่งเป็นเสียงประเภท sibilant ทั้งคู่
  • Big purple bags were bought by the big picky people from

    Bilbao

    . ฝึกออกเสียง /b/ กับ /p/

8. เรียนรู้วลีแทนการเรียนรู้แต่ละคำ

การที่เราเรียนรู้เพิ่มวลีจะช่วยคุณในการพูดภาษาอังกฤษอย่างกล้วยๆ คำพูดจะออกมาแบบธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้นเราควรทราบวลีที่ต่างชาติมักจะใช้กันบ่อยดังนี้

come up /kʌm/ with something แปลว่า ก่อให้เกิด, ปรากฏ
clean up /kliːn/ แปลว่า
ทำความสะอาด
come about  แปลว่า
สิ่งที่เกิดขึ้น
bring in something /brɪŋ/ แปลว่า
นำบางสิ่งบางอย่าง, เอามาให้
turn off /tɜːn/  แปลว่า ปิด
turn on something แปลว่า
เปิดบางสิ่งบางอย่าง
grow up /ɡrəʊ/  แปลว่า
โตขึ้น
keep up /kiːp/  แปลว่า
ทำต่อไป
look after /lʊk/ sb/sth แปลว่า
ดูแล
show up /ʃəʊ/ แปลว่า
แสดงขึ้นมา
stay behind /steɪ/  แปลว่า
อยู่ข้างหลัง
look up to sb แปลว่า
เคารพ
find out (something) /fɑɪnd/ แปลว่า
หา (บางสิ่งบางอย่าง)
wake up /weɪk/ แปลว่า 
ตื่นนอน

ยกตัวอย่างเช่น

:

What do you want to be when you grow up? แปลว่า คุณอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น?
How did you find out about the party? แปลว่า คุณทราบเกี่ยวกับปาร์ตี้ได้อย่างไร?
How many people showed up to the meeting? แปลว่า มีคนเข้าร่วมประชุมกี่คน

จากตัวอย่างดังนี้เราจะเห็นเลยว่าในภาษาอังกฤษเราก็มีหลากหลายวิธีเพื่อจะตั้งคำถามหรือตอบโดยการใช้ศัพท์หรือวลีที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคำที่ต่างชาตินิยมกันใช้ เราควรทราบเพื่อเลียนแบบตามได้ถูก มีความก้าวหน้าสำหรับทักษะการพูดภาษาอังกฤษของตนเอง

9. ไม่หยุดการเก็บกศัพท์ใหม่

สำหรับการพูดภาษาอังกฤษถ้าเราไม่ขยันเสริมสร้างคลังคำศัพท์ของตัวเราเอง เราก็จะพูดไม่ได้แน่นอน เพราะตอนที่ขาดศัพท์จะฟังไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดว่าหมายความว่าอะไร จากการฟังไม่ออกก็ทำให้จะตอบไม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากพูดเก่งนอกจากต้องฝึกฟังและหัดสำเนียงตามให้เก่ง นอกจากนี้ก็ต้องหมั่นเก็บตกศัพท์ใหม่ไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีคลังศัพท์เยอะยิ่งใช้คำพูดได้ธรรมชาติและพูดได้คล่อง ได้ไวเหมือเจ้าของภาษา

10. ต้องพัฒนาทักษะการพูดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

อย่าพึ่งหยุดการพัฒนาในทักษะการพูดของตัวเองโดยคิดว่าเราสื่อสารได้แล้ว หรือแค่นั้นแค่นี้คือพอแล้ว เพราะสำหรับการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เราต้องขยันอัปเดตศัพท์ใหม่ถ้าจากพื้นฐานเราพูดได้แล้วแต่เรื่องแกรมมายังไม่ค่อยมั่นใจ ถึงจุดใดจุดหนึ่งถ้าคุณอยากเป็นช่างพูด พูดเก่งคุณควรใช้เวลาเพิ่มสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ “part of speech” หรือเข้าใจกันง่ายๆ คือชนิดของศัพท์เพื่อได้รู้ว่าคำไหนเป็น คำนาม คำกริยา หรือ คำคุณศัพท์ เพื่อใช้ในการพูดหรือเขียนให้ถูก เพราะตอนสื่อสารทั่วไปคุณไม่ต้องใส่ใจแกรมมามาก แต่เมื่อคุณอยากสอบพูดแน่นอนว่าคุณต้องการทราบไวยากรณ์และเรียงศัพท์ให้ถูกถึงจะได้คะแนนสูงสุด คุณสามารถเข้า google translater หรือ youTube เพื่อดูวิธีการออกเสียงของศัพท์แต่ละคำที่คุณต้องการ ฝึกออกเสียงตามและตั้งประโยคกับศัพท์นั้นด้วยเพื่อจดจำได้ยาวนานขึ้น

11. เรียนจากทุกคน และหาเพื่อนใหม่เพื่อช่วยกันฝึกพูด

“Make a new friend” หรือเข้าใจได้ว่าการหาเพื่อนใหม่ผู้ที่ก็ชอบการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกับคุณ จะเป็นคนต่างชาติหรือเป็นคนไทยที่เก่งภาษาอังกฤษก็ได้ คุณสามารถเรียนรู้ตามวิธีการออกเสียงหรือวิธีการตั้งประโยคของเพื่อนคนเก่ง เป็นวิธีการฝึกทักษะการพูดได้เร็วอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผล

มีหลากหลายหัวข้อให้คุณกับเพื่อนสามารถหยิบมาใช้ สร้างเป็นบทสนทนากันเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

หัวข้อเกี่ยวกับ Hobbies ที่เสามารถถามตอบเกี่ยวกับเรื่องงานอดิเรกของเพื่อนหรือพูดเกี่ยวกับงานอดิเรกของเราเช่น

  • What are your hobbies?
  • Why do you like your hobbies so much?
  • How often do you do these hobbies?
  • How long have you been doing these hobbies, and how did you get started?

หัวข้อเกี่ยวกับ Work การทำงาน หรือที่ทำงานที่คุณสามารถเลือกถามตอบเกี่ยวกับ

  • What work do/did you do?
  • How do/did you like the work?
  • What is your dream job?
  • What is your general view about work? Why?

หัวข้อเกี่ยวกับ Shopping ใช้ในการเดินเล่นที่ตลาด หรืออยากหค้นหา ซื้ออะไรบางอย่างคุณสามรถฝึกพูดภาษาอังกฤษกับประโยคคำถามเหล่านี้

  • Do you enjoy shopping? Why/why not?
  • What is your favorite shop? Why?
  • In your city, where is a good place to go shopping?

ถ้าไม่มีสภาพแวดล้อมสำหรับการสื่อสารเลยส่งผลมให้พูดไม่เก่ง งั้นคุณลองหาหรือสร้างสภาพแวดล้อมเองโดยวิธีการลองหาเพื่อนสักคนที่เก่งภาษาอังกฤษเพื่อให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ยังมีหลากหลายหัวข้อที่เราสามารถเอามาใช้กันได้ไม่ยากเมื่อคุณมีการเตรียมพร้อมในหลากหลายหัวข้อทั้งศัพท์และวิธีการตั้งคำถามและตอบรับรองว่าเมื่อคุณพูดคุณจะพูดได้ไว เพราะได้ผ่านการฝึกใช้มาก่อน และฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษมาก่อนแล้ว

12. อยากพูดดีต้องฟังให้ดีก่อน (จริงไหม?)

คุณเชื่อไหมว่าถ้าเราฟังไม่ดีเราก็จะพูดไม่ดีเหมือนกัน ? เพราะตอนที่เราฟังไม่ออกเราก็จะโต้ตอบแบบมั่นใจไม่ได้ แถมฟังไม่ออกจะไม่รู้วิธีการออกเสียงของศัพท์ให้ถูกต้องโดยซ้ำ ดังนั้นทักษะการพูดกับฟังต้องการฝึกใช้กันบ่อยๆ ฝึกไปพร้อมกันถึงจะเก่งได้
วิธีการฝึกฟังดีๆ ที่ทำที่ไหนก็ได้คือ

การพูดเป็นหนึ่งในสี่ทักษะสำคัญมากในเรียนภาษาใดภาษาหนึ่ง

13. จดจำเทคนิคการตอบคำถาม / คำตอบจะฝังอยู่ในคำถามเสมอ

คุณรู้ไหมว่าทักษะการตอบที่ดีคือจับ Keyword และคำตอบจะมีอยู่ในคำถามตลอด ดังนั้นตอนที่เราสื่อสารเราควรตั้งใจฟังคำถามที่คนอื่นเขาถามเราว่าเป็นประเภทคำถามแบบไหน ถึงจะหาคำตอบที่ตรงกันอย่างเช่น

ถ้าเขาถามคำถามโดยคำแรกเป็น “Does he…” เราจะตอบเป็นแบบ Yes, He does.

หรือถามแบบ Can she…?  เราจะตอบเป็นแบบ  Yes, she can.

หรือถามแบบ  It is…? เราจะตอบเป็นแบบ   Yes, it is. ง่ายๆ ที่แค่เราตั้งใจและจับใจความหมายของคำถาม หรือประเภคของคำถามเราจะตอบได้ถูกต้องเสมอเป็นอย่างไรกันบ้างกับ 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือนจาก Eng Breaking อย่าลืมกดติดตามเว็บไซต์ของเราเพื่อได้รับโปรโมชั่นคอรสเรียนดี ๆ แถมเคล็ดลับเด็ดต่าง ๆ เพื่อช่วยคุณพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีที่สุด Eng Breaking เชื่อว่าคุณทำได้แน่นอน ยินดีที่จะตอบทุกข้อสงสัยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับผู้เรียนทั่วประเทศ

ความคิดเห็น 635 รายการ

 


ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1


ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน
นักเรียนจะได้ยินเสียงประโยคสนทนาภาษาอังกฤษสั้นๆที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำ 2 ครั้ง (แบบไม่มีซับ) แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินอีกครั้งแบบมีซับ
นักเรียนลองฝึกฟังดูนะคะ ว่าพอจะฟังออกไหม ตรงกับที่เราเข้าใจไหม

ฝึกพูด 100 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://www.youtube.com/watch?v=NEOO6wgqZMw\u0026t=837s
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ประโยคสั้นๆง่ายๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน miniconversation
https://www.youtube.com/watch?v=_mdqpBLMEkA
Playlist ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษคล่องด้วยตนเอง: ระดับ Beginner (พื้นฐานในชีวิตประจำวัน)
https://www.youtube.com/playlist?list=PLMfgvKgVmGD7V56x_zgAIPsF0fdrLmF5x

สนใจเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษกับ Kru.First
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.krufirst.com
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @englishkrufirst

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1

ฝึกพูด 50 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
ฝึกพูด 50 ประโยคสนทนาในชีวิตประจำวัน EP.2
https://youtu.be/wPZ2j_MFfKA
50 ประโยคภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดบ่อยมากในการสนทนา
https://youtu.be/tDYt8ZXOsrI
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกพูดจากประโยคง่ายๆ และพื้นฐานๆที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการพูดออกเสียงเป็นประโยคและเข้าใจความหมายไปด้วยจะช่วยให้เราสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้งานในสถานการณ์จริงและรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ วันนี้ผมรวบรวมเอาประโยคที่พื้นฐานที่สุดมาให้ทุกคนได้ฝึกฝนกัน จริงๆยังมีมากกว่านี้แต่ 50 ประโยคเริ่มต้นนี้ถ้าฝึกพูดจนชินแล้วเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบทเลยทีเดียว
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฝึกพูดอังกฤษ
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

ฝึกพูด 50 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts


คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts
คำศัพท์ร่างกาย ภาษาอังกฤษ ศัพท์อังกฤษ

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts

55 ประโยค คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมคำอธิบาย คำอ่าน ในชีวิตประจำวัน


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
รวม 55 ประโยคภาษาอังกฤษ ฝึกพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน และคำอธิบายวิธีการใช้วลี ประโยคอังกฤษ สำหรับพ่อแม่ สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
รวมวิดีโอฝึกฟัง ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLrstMNlAK0Iu3XViE08wFLjyxyRFFhKYl
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/english/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บทสนทนาภาษาอังกฤษ ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100% โดย อาจารย์ต้นอมร

55 ประโยค คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมคำอธิบาย คำอ่าน ในชีวิตประจำวัน

BEGINNER’S ENGLISH บทเรียนที่ 1 : คอร์สภาษาอังกฤษฟรีสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน | ภาษาอังกฤษกับเคลี่


ภาษาอังกฤษกับเคลี่ คอร์สภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: WONDER ACADEMY เรียนภาษาอังกฤษกับครูหมอเคลี่
เรียนคอร์สพื้นฐาน (100 ชั่วโมง 1000 บาท) หรือคอร์สสนทนาแบบอเมริกัน (65 ชั่วโมง 2000 บาท) และซื้อหนังสืออีบุ๊ค American English Complete Grammar [เล่มเดียวจบ ครบสูตร] และ I Can Read [อ่านอังกฤษไม่ออก ขอบอกว่าเล่มนี้ช่วยได้] ได้ที่ Facebook ด้วยการติดต่อมาที่ https://m.me/englishwithkaylee

Introduction to Beginner’s English Course (ข้อมูลเกี่ยวกับคอร์ส): 00:00
Introduction to Lesson 1 (ข้อมูลเกี่ยวกับบทเรียนที่ 1): 1:28
Name (ชื่อ): 2:16
Possessive (การแสดงความเป็นเจ้าของ): 2:55
Marital Status (สถานภาพ): 8:43
Title (ยศศักดิ์): 11:09
Alphabets (ตัวอักษร): 12:48
Name spelling (สะกดชื่อ): 17:50
Verb to be (เป็น อยู่ คือ): 19:12
Formal introduction (การแนะนำอย่างเป็นทางการ): 27:04
Informal introduction (การแนะนำอย่างไม่เป็นทางการ): 28:34
Self introduction (การแนะนำตัวเอง): 29:17
Good bye (ลาก่อน): 29:56
Review (ทบทวน): 30:54
Conclusion (คำลงท้าย): 38:02

ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001 เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัส ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงอเมริกันเป๊ะค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆ นะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันค่ะ

เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

BEGINNER'S ENGLISH บทเรียนที่ 1 : คอร์สภาษาอังกฤษฟรีสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน | ภาษาอังกฤษกับเคลี่

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เรียน เพิ่มเติม ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *