Skip to content
Home » [Update] | การอ่านเลขภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] | การอ่านเลขภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การอ่านเลขภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การเรียกชื่อแอนไอออน และออกซีแอนไอออน

สรุปการเรียกชื่อของแอนไอออนและออกซีแอนไอออน

1. แอนไอออนลงท้ายด้วย -ide เช่น simple anion ____ide (Chloride,Cl-)

2. ถ้าแอนไอออนของธาตุนั้น เกิดได้ 2 ออกซีแอนไอออน ลงท้ายด้วย -ite และ -ate เช่น form with less oxygen _____ite ion (nitrite ion, NO2-) ,form with more oxygen _____ate ion(nitrate ion,NO3-)

3. ถ้าแอนไอออนของธาตุนั้น เกิดได้มากกว่า 2 ออกซีแอนไอออน เช่น hypo___ite,hypochlorite,ClO-___ite,Chlorite,ClO2-_____ate,Chlorate,ClO3-per____ate,perchlorate,ClO4-

การเรียกชื่อสามัญ

การตั้งชื่อสามัญ (Common name) ตั้งขึ้นตามความเหมาะสมของการพบสารนั้น เช่น

Na2SO4เรียกว่า Glauber’s salt ให้เกียรติแก่ J.F.Glauber ซึ่งเป็นผู้ค้นพบ
NH4Cl เรียกว่า sal ammoniac มีรากศัพท์มาจากภาษาลาติน
C6H4(HO)COOCH3(methyl salicylate) เรียกว่า oil of wintergreen
SbCl3เรียกว่า butter of antimony ตามลักษณะทางกายภาพที่พบ

การเรียกชื่อสารอินทรีย์

ในสมัยแรก ๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน เนื่องจากมีสารที่พบไม่มากนักจึงมักจะเรียกชื่อตามที่นักเคมีคิดว่าเหมาะสม ซึ่งอาจจะเรียกชื่อตามสิ่งที่พบหรือตามสถานที่พบ ชื่อที่เรียกโดยไม่มีกฎเกณฑ์เหล่านี้ เรียกว่าชื่อสามัญ (common name) ต่อ มาเมื่อมีการค้นพบสารอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น การเรียกชื่อสามัญจึงเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากชื่อสามัญส่วนมากจะไม่มี ส่วนสัมพันธ์กับชนิดของสารหรือไม่มีส่วนสัมพันธ์กับสูตรโครงสร้าง ทำให้ยากแก่การจดจำว่าสารดังกล่าวนั้นเป็นสารประเภทใด มีสูตรโครงสร้างเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสารที่มีสูตรโครงสร้างคล้าย ๆ กันหรือที่มีสูตรโครงสร้างซับซ้อนจะเรียกชื่อสามัญไม่ได้

นักเคมีจึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ในการเรียกชื่อขึ้นใหม่ให้เป็นระบบเดียวกันว่า ระบบ IUPAC (International Union of Pure and Applied Chemistry) การเรียกชื่อในระบบ IUPAC นี้มีส่วนสัมพันธ์กับชนิดและสูตรโครงสร้างของสารจึงทำให้ง่ายแก่การจดจำ ซึ่งยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ 

IUPAC

การเรียกชื่อระบบ IUPAC

เป็นการเรียกชื่อตามระบบสากล มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนจึงทำให้เรียกชื่อสารอินทรีย์ได้ทุกชนิด ทั้งที่เป็นโมเลกุลเล็กและโมเลกุลใหญ่ หรือที่มีโครงสร้างโมเลกุลแบบง่าย และที่ซับซ้อน ซึ่งระบบนี้จะทำให้ทราบชนิดและลักษณะโครงสร้างของสาร เพราะหลักเกณฑ์ในการเรียกชื่อสารมีความสัมพันธ์กับโครงสร้างสาร

การเรียกชื่อระบบ IUPAC เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1892 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยการประชุมร่วมกันของนักเคมีเพื่อวางกฎเกณฑ์การเรียกชื่อสารอินทรีย์ ในครั้งแรกเรียกระบบการเรียกชื่อนี้ว่าระบบเจนีวา ต่อมาสหพันธ์นักเคมีระหว่างประเทศ (International Union of Chemistry) ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เหมาะสมขึ้น ในปี ค.ศ. 1931 และเปลี่ยนชื่อเป็นระบบ IUC และเมื่อมีการค้นพบสารใหม่เพิ่มมากขึ้นจึงได้ปรับปรุงการเรียกชื่อใหม่อีก ครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 1957 และเปลี่ยนชื่อเป็นระบบ IUPAC ดังที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

หลักเกณฑ์การเรียกชื่อสารอินทรีย์ตามระบบ IUPAC โดยทั่ว ๆ ไปมีหลักดังนี้

1. ชื่อโครงสร้างหลัก เป็นส่วนที่แสดงลักษณะโครงสร้างหลักของคาร์บอนที่ต่อกันเป็นสายตรงยาวที่สุด การเรียกชื่อโครงสร้างหลักจึงเรียกตามจำนวนอะตอมของคาร์บอนที่ต่อกันเป็นสาย ยาวที่สุด

2.คำลงท้าย เป็นส่วนที่เต็มท้ายชื่อโครงสร้างหลัก เพื่อแสดงว่าสารอินทรีย์นั้นเป็นสารประกอบประเภทใด เป็นสารประกอบประเภทอิ่มตัวหรือไม่อิ่มตัว คำลงท้ายจะบอกให้ทราบถึงชนิดของหมู่ฟังก์ชันในโมเลกุล

3.คำนำหน้า เป็นส่วนที่เติมหน้าชื่อของโครงสร้างหลัก เพื่อจะบอกให้ทราบว่าในโครงสร้างหลักมีหมู่ฟังก์ชัน อะตอมหรือกลุ่มอะตอมใดบ้างมาต่ออย่างละกี่หมู่และอยู่ที่ C ตำแหน่งใดในโครงสร้างหลัก การบอกตำแหน่งของส่วนที่มาต่อให้ใช้ตัวเลขน้อยที่สุด (ตัวเลขที่แสดงตำแหน่งของ C ในโครงสร้างหลัก)

ถ้าในโครงสร้างหลักมีกลุ่มอะตอมซ้ำ ๆ กันมาเกาะให้บอกจำนวนโดยใช้ภาษากรีก เช่น di = 2 กลุ่ม, tri = 3 กลุ่ม, tetra = 4 กลุ่ม, penta = 5 กลุ่ม

ถ้าในโครงสร้างหลักมีกลุ่มอะตอมหลายชนิดมาเกาะ ให้เรียกชื่อเรียงลำดับตามอักษรภาษาอังกฤษ

ตัวอย่าง

2-methyl- หมายถึง มี methyl group มาต่อที่ C ตำแหน่ง 2 ในโครงสร้างหลัก

3-hydroxy- หมายถึง มี OH มาต่อที่ C ตำแหน่ง 3 ในโครงสร้างหลัก

3-ethyl-2-methyl หมายถึง มี ethyl มาต่อที่ C ตำแหน่ง 3 และ methyl group มาต่อที่ C

ตำแหน่ง 2 ในโครงสร้างหลัก 

การเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์

สารประกอบโคเวเลนต์เป็นโมเลกุลของสารที่เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมาสร้างพันธะโคเวเลนต์ต่อกันด้วยสัดส่วนต่าง ๆ กัน ทำให้เป็นการยากในการเรียกชื่อสาร จึงได้มีการตั้งกฎเกณฑ์ในการเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์ขึ้น เพื่อให้สามารถสื่อความเข้าใจถึงลักษณะโครงสร้างของสารประกอบโคเวเลนต์ได้ ตรงกัน โดยนักวิทยาศาสตร์ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์ไว้ดังนี้

1. ให้เรียกชื่อของธาตุที่อยู่ข้างหน้าก่อนแล้วตามด้วยชื่อของธาตุที่อยู่ด้านหลังโดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายของธาตุเป็น-ไอด์(-ide) ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

ไฮโดรเจน (H) ออกเสียงเป็น ไฮไดรต์
คาร์บอน (C) ออกเสียงเป็น คาร์ไบด์
ไนโตรเจน (N) ออกเสียงเป็น ไนไตรด์
ฟลูออรีน (F) ออกเสียงเป็น ฟลูออไรด์
คลอรีน (CI) ออกเสียงเป็น คลอไรต์
ออกซิเจน (O)ออกเสียงเป็น ออกไซต์

2. ระบุจำนวนอะตอมของธาตุไว้หน้าชื่อธาตุโดยวิธีการระบุจำนวนอะตอมของธาตุจะระบุโดยใช้ชื่อตัวเลขในภาษากรีก ดังนี้

1 = มอนอ (mono)
2 = ได (di)
3 = ไตร (tri)
4 = เตตระ (tetra)
5 = เพนตะ (penta)
6 = เฮกซะ (hexa)
7 = เฮปตะ (hepta)
8 = ออกตะ (octa)
9 = โนนะ (nona)
10 = เดคะ (deca)

แต่มีข้อยกเว้น คือ ไม่ต้องมีการระบุจำนวนอะตอมของธาตุที่อยู่ด้านหน้าในกรณีที่ธาตุที่อยู่ด้าน หน้ามีอยู่เพียงอะตอมเดียว และไม่จำเป็นต้องมีการระบุจำนวนอะตอมของธาตุในกรณีที่ธาตุที่อยู่ด้านหน้า เป็นธาตุไฮโดรเจน ไม่ว่าจะมีกี่อะตอมก็ตาม

ตัวอย่างการเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์

N2O5Nเรียกว่า ไดโนโตรเจนเพนตะออกไซด์
N2Oเรียกว่า ไดโนโตรเจนมอนอกไซด์
CCI4เรียกว่าคาร์บอนเตตระคลอไรด์
SO2เรียกว่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์
COเรียกว่า คาร์บอนมอนนอกไซด์
CO2เรียกว่า คาร์บอนไดออกไซด์
H2Sเรียกว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์

การเรียกชื่อสารประกอบไอออนิก

สูตรและการอ่านชื่อสารประกอบไอออนิก

เนื่องจากสารประกอบไอออนิกมีลักษณะการสร้างพันธะต่อเนื่องกันเป็นผลึก ไม่ได้อยู่ในลักษณะของโมเลกุลเหมือนในสารประกอบโคเวเลนต์ ดังนั้นสารประกอบไอออนิกจึงไม่มีสูตรโมเลกุลที่แท้จริง แต่จะมีการเขียนสูตรเพื่อแสดงอัตราส่วนอย่างต่ำของจำนวนธาตุต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบ เช่น โซเดียมคลอไรด์ เกิดจากอะตอมของธาตุโซเดียม (Na) อย่างน้อยที่สุด 1 อะตอม และอะตอมของธาตุคลอรีน (Cl) อย่างน้อยที่สุด 1 อะตอม จึงสามารถเขียนสูตรได้เป็น NaCl โดยการเขียนสูตรของสารประกอบไอออนิกจะเขียนนำด้วยธาตุที่เกิดเป็นไอออนบวก ก่อน จากนั้นจึงเขียนตามด้วยธาตุที่เกิดเป็นไอออนลบตามลำดับ

วิธีการอ่านชื่อสารประกอบไอออนิกให้อ่านตามลำดับของธาตุที่เขียนในสูตร คือ เริ่มจากธาตุแรกซึ่งเกิดเป็นไอออนบวก (ธาตุโลหะ) แล้วตามด้วยธาตุหลังซึ่งเป็นไอออนลบ (ธาตุอโลหะ) ดังนี้

1. เริ่มจากอ่านชื่อไอออนบวก (ธาตุโลหะ) ก่อน

2. อ่านชื่อธาตุไอออนลบ (ธาตุอโลหะ) โดยเปลี่ยนเสียงสุดท้ายเป็น -ไอด์ (-ide) ดังตัวอย่างเช่น

NaCl อ่านว่า โซเดียมคลอไรด์
MgO อ่านว่า แมกนีเซียมออกไซด์
Al2O3อ่านว่า อะลูมิเนียมออกไซด์

3. หากไอออนลบมีลักษณะเป็นกลุ่มธาตุ จะมีชื่อเรียกเฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น No3-เรียกว่า ไนเดรต, CO32-เรียกว่า คาร์บอเนต, SO42-เรียกว่า ซัลเฟต OH-เรียกว่า ไฮดรอกไซด์ เป็นต้น ดังตัวอย่างเช่น

CaCO3อ่านว่า แคลเซียมคาร์บอเนต
Na2SO4อ่านว่า โซเดียมซัลเฟต

การอ่านชื่อสารประกอบไอออนิก

1. สารประกอบธาตุคู่ ถ้าสารประกอบเกิดจาก ธาตุโลหะที่มีไอออนได้ชนิดเดียวรวมกับอโลหะ ให้อ่านชื่อโลหะที่เป็นไอออนบวก แล้วตามด้วยชื่อธาตุอโลหะที่เป็นไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไอด์ (ide) เช่น

อออซิเจน เปลี่ยนเป็น ออกไซด์ (oxide)

ไฮโดรเจน เปลี่ยนเป็น ไฮไดรด์ (hydride)

คลอรีน เปลี่ยนเป็น คลอไรด์ (chloride)
ไอโอดีน เปลี่ยนเป็น ไอโอไดด์ (iodide)

ตัวอย่างการอ่านชื่อสารประกอบไอออนิกธาตุคู่

NaCl อ่านว่า โซเดียมคลอไรด์ (Sodium chloridr)
CaI2อ่านว่า แคลเซียมไอโอไดด์ (Calcium iodide)

KBr อ่านว่า โพแทสเซียมโบรไมด์ (Potascium bromide)
CaCl2อ่านว่า แคลเซียมคลอไรด์ (Calcium chloride)

ถ้าสารประกอบที่เกิดจากธาตุโลหะเดีนวกันที่มีไอออนได้หลายชนิด รวมตัวกับอโลหะ ให้อ่านชื่อโลหะที่เป็นไอออนบวกแล้วตามด้วยค่าประจุของไอออนของโลหะโดยวงเล็บเป็นเลขโรมัน แล้วตามด้วยอโลหะที่เป็นไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไอด์ (ide) เช่นFe เกิดไอออนได้ 2 ชนิดคือ Fe 2+ และ Fe 3+และCu เกิดอิออนได้ 2 ชนิดคือ Cu + และ Cu 2+สารประกอบที่เกิดขึ้นและการอ่านชื่อ ดังนี้

FeCl2อ่านว่า ไอร์ออน (II) คลอไรด์ ( Iron (II) chloride )
CuS อ่านว่า คอปเปอร์ (I) ซัลไฟด์ ( Cupper (I) sunfide )

FeCl3อ่านว่า ไอร์ออน(III) คลอไรด์ ( Iron (III) chloride )
Cu2S อ่านว่า คอปเปอร์ (II) ซัลไฟด์ ( Copper (II) sunfide )

2. สารประกอบธาตุสามหรือมากกว่าถ้าสารประกอบเกิดจากไอออนบวกของโลหะ หรือกลุ่มไอออนบวกรวมตัวกับกลุ่มไอออนลบ ให้อ่านชื่อไอออนบวกของโลหะหรือชื่อกลุ่มไอออนบวก แล้วตามด้วยกลุ่มไอออนลบ เช่น

CaCO3อ่านว่า แคลเซียมคาร์บอนเนต (Calcium carbonatX
KNO3อ่านว่า โพแทสเซียมไนเตรต (Potascium nitrae)

Ba(OH)2อ่านว่า แบเรียมไฮดรอกไซด์ (Barium hydroxide)
(NH4)3PO4อ่านว่า แอมโมเนียมฟอสเฟต (Ammomium pospate)

การเรียกชื่อสารประกอบเชิงซ้อน

หลักการเรียกชื่อสารเชิงซ้อนและไอออนเชิงซ้อน
RULES FOR NAMING COORDINATION COMPLEXES

  • เรียกชื่อของไอออนบวกก่อนไอออนลบ
  • เรียกชื่อลิแกนด์ก่อนชื่อของโลหะในไอออนเชิงซ้อนที่เกิดพันธะโคออร์ดิเนต
  • ใช้ตัวเลขภาษากรีกระบุจำนวน mono-, di-, tri-, tetra-, penta-, hexa-, ในการใช้ระบุจำนวนลิแกนด์เมื่อลิแกนด์โดยมีความสัมพันธ์อย่างง่าย และใช้คำอุปสรรคในภาษากรีก bis-, tris-, and tetrakis- กับลิแกนด์ที่มีความซับซ้อน
  • ชื่อของลิแกนด์ในไอออนลบจะลงท้ายด้วย o, เช่น fluoro (F-), chloro (Cl-), bromo (Br-), iodo (I-), oxo (O2-), hydroxo (OH-), และ cyano (CN-)
  • มีลิแกนดด์เป็นกลางจำนวนเล็กน้อยใช้ชื่อสามัญ เช่น น้ำ ใช้ aquo (H2O), แอมโมเนีย ใช้ ammine (NH3), และคาร์บอนิล ใช้ carbonyl (CO)
  • การเรียงลำดับของลิแกนด์ให้เรียงลำดับดังนี้: ไอออนลบ โมเลกุลที่เป็นกลาง ไอออนบวก สำหรับลิแกนด์ที่มีประจุเหมือนกันให้เรียงลำดับตามตัวอักษรในภาษาอังกฤษ
  • ระบุเลขออกซิเดชันของอะตอมโลหะแทรนซิชันเป็นตัวเลขโรมันอักษรตัวใหญ่ตามหลังอะตอมโลหะ
  • ชื่อของไอออนเชิงซ้อนลบจะลงท้ายด้วย –

    ate

    เช่น Co(SCN)42-, อ่านว่า tetrathiocyanatocobaltate(II) ion เมื่อสัญลักษณ์ของโลหะแทรนซิชันมาจากภาษาละติน ให้ลงท้ายชื่อโลหะ ให้ลงท้ายชื่อด้วย

    -ate

    เช่น

    Fe

    ในไออนเชิงซ้อนลบ

    คำในภาษาละตินคือ

    ferrum

    ชื่อของ

    Fe

    จึงเป็น

    ferrate

    และของทองแดง

    Cu

    จึงเป็น

    cuprate

  • ชื่อของโลหะแทรนซิซันในไอออนเชิงซ้อนบวก ให้อ่านเป็นภาษาอังกฤษตากปกติ และต้องระบุเลขออกซิเดชันด้วย

[NEW] | การอ่านเลขภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

พยัญชนะต้น

b = บ bl = บล br=บร

c = ค / ซ ch =ช cl=คล cr=คร

d = ด dr= ดร

f = ฟ fl=ฟล fr=ฟร

g = ก /จ gh = ก gl = กล gr = กร

h = ฮ j = จ

k = ค kl = คล kn = น kr = คร

l = ล m = ม n = น

p = พ ph = ฟ pl = พล pr = พร

q = คว r = ร

s = ซ/ส sc = สค/ส sch = สค/ช scr = สคร

sh = ช sk = สค sl = สล sm = สม

sn = สน sp = สพ spl = สพล spr = สพร

sq = สคว st = สท str = สทร sw = สว

t = ท/ต th = ด/ตซ tr = ทร

v = วฟ์ w = ว wh = ฮ/ว wr = ร

x = ซ y = ย z = ส ng = ง*

หมายเหตุ * พยัญชนะต้นใช้เฉพาะในภาษาไทย, คำขีดเส้นใต้ เป็นเสียงนาสิก

เสียงสระ

a = แอะ ai = ไอ au = เอา ao = เอา

ar = อาร์/ออร์ al = อาล์/ออล์ a-e = เอ au = ออ

aw = ออ ay = เอย์ e = เอะ/อี ea = อี/เอ

ear = เอีย/แอ ee = อี ew = อิว ey = อี/เอ

er = เออร์ ere = เอีย/แอ i = อิ ia = เอีย*

ir = เออ i-e = ไอ o= โอ/เอาะ/อัน oo = อู

oa = โอ oi = ออย or = เออ/ออ oor=ออ/อัว

ou = เอา/อู ow = เอา/โอ oy = ออย o-e = โอ/อัน

u = อุ/อั ua = อัว* ur = เออร์ uy = ไอ

y = ไอ/อี ye = ไอ

ตัวสะกด

b = บ bt = บท์

c = ค ch = ช ck = ค ct = คท์

d = ด dge = ดจ์

f = ฟ ff = ฟ ft = ฟท์

g = ก ge = จ ght = ท

k = ค

l = ล ll = ลล์ ld = ลด์ lf = ลฟ์

lt = ลท์ mpt = มพท์

m = ม mb = มบ์ mf = มฟ์ mp = มพ์

n = น nd = นด์ ng = ง nx,nk = งค์

nce = นส์ nse = นส์ nt = นท์ nz = นส์

p = พ pf = พฟ์ ph = ฟ pt = มท์

q = ค que = ค pth = พตซ์

s = ซ/ส sk = สค์ sp = สพ? Ss = ส

st = สท์

t = ท th = ตซ the = ด

v = ฟ ve = ฟ

w = ว

x = กซ์ xt = คซท์ y = ย ye = ย

z = ส

******************************************

วิธีการสะกดอ่านเทียบ

a n = an

เทียบกับภาษาไทย แ-ะ น = แอน

สะกดอานเปรียบเทียบว่า แอะ นอ = แอน

b a g = bag

เทียบกับภาษาไทย บ แ-ะ ก = แบก

สะกดอ่านเทียบเสียงเสียงว่า บอ แอะ กอ = แบก

d i d = did

เทียบกับภาษาไทย ด อิ ด = ดิด

อ่านออกเสียงว่า ดอ อิ ดอ ดิด

ลองศึกษาเสียงพยัญชนะต้น, สระ, ตัวสะกดเปรียบเทียบจากข้างบนก่อน แล้วค่อยมาสะกดอ่าน แต่อย่างไรก็ตาม การสะกดเปรียบเทียบวิธีนี้ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างในการออกเสียงระหว่างสองภาษา ผู้จัดทำเป็นครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนในชนบท นักเรียนที่มาเรียนมีความแตกต่างกันมาก จึงได้คิดหาวิธีการช่วยผู้เรียน พบว่าสามารถช่วยผู้เรียนให้อ่านภาษาอังกฤษเบื้องต้นได้เร็วขึ้น แต่ยังต้องปรับปรุงอีกมาก ยินดีรับความคิดเห็นค่ะที่ [email protected]

อาจารย์ ศรีจันทร์ จำปาทอง


นับเลข 1-20 ภาษาอังกฤษ | Number 1-20 | Learn and song


มาฝึก นับเลข เรียนรู้ คณิตศาสตร์ กันค่ะ
นับเลข 110 อังกฤษ
https://youtu.be/ytxQIGiszoA
นับเลข 120 ไทยอังกฤษ
https://youtu.be/vF2w3ru0M78
นับเลข 150 อังกฤษ
https://youtu.be/yW_31qeFQQ
นับเลข 1100 ไทย
https://youtu.be/sIb2ufW4o04
นับเลข 1100 ไทยอังกฤษ
https://youtu.be/grJ6N2xMcG0
นับเลข 1100 อังกฤษ
https://youtu.be/F_SDkWc_smg

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

นับเลข 1-20 ภาษาอังกฤษ | Number 1-20 | Learn and song

นับเลข1-10 นับเลข 1-10 นับ1-10 การ์ตูนคณิตศาสตร์


นับเลข110 นับ110 สอนนับเลข การ์ตูนคณิตศาสตร์ นับเลข 110 การ์ตูนสำหรับเด็ก การ์ตูนสำหรับเด็กอนุบาลและปอ1 สอนนับเลขแสนสนุกกับภาพวาดการ์ตูนโดยคนไทยเพื่อเด็กไทย การ์ตูนไทยเพื่อเด็กไทย

นับเลข1-10 นับเลข 1-10 นับ1-10 การ์ตูนคณิตศาสตร์

Phonics Song with TWO Words – A For Apple – ABC Alphabet Songs with Sounds for Children


To download and watch this video anywhere and at any time, get the ChuChu TV Pro app now by clicking the below link!
For Android Phones and Tablets https://chuchu.me/ChuChuTVAndroid
For Apple iPhones and iPads https://chuchu.me/ChuChuTViOS
.
.
. Phonics Song Global English Version https://bit.ly/ChuChuTVPhonics
Follow ChuChu TV On Instagram http://bit.ly/chuchutvrhymes
🎧 Listen to ChuChu TV on SPOTIFY https://ffm.to/eookp7a.oyd
ABC \”Phonics\” song. Please Subscribe to our channel https://bit.ly/32NxN7y
NEW 3D Animated Nursery Rhymes with Baby Taku from ChuChu TV:
Baby goes to Old MacDonald’s Farm https://www.youtube.com/watch?v=mBgOlyGpKrw
Baby Loves Stargazing Twinkle Twinkle Little Star https://www.youtube.com/watch?v=s1DtPUYby94
Baby is Sick Song https://www.youtube.com/watch?v=NjIEhuRG0Ks
Pat A Cake Song https://www.youtube.com/watch?v=XuLyllv3sU
ChuChu’s Baa Baa Black Sheep https://www.youtube.com/watch?v=0FxhksvgHcw
The Boo Boo Song https://www.youtube.com/watch?v=TmqbbtyyUQ
Baby’s Humpty Dumpty Song https://www.youtube.com/watch?v=x8oinWzA0Fs
Baby’s First Steps Song https://www.youtube.com/watch?v=sWkiwlFQ7cQ
Bath Song 2 https://www.youtube.com/watch?v=Qs_ll8GwhIE
Baby Care and Share Song https://www.youtube.com/watch?v=UYMm_zgAGaQ
No No Brush My Teeth Song https://www.youtube.com/watch?v=fyI_eCTPT_A
The Muffin Man https://www.youtube.com/watch?v=ZjbvlfxTgQw
No No Milk Song https://www.youtube.com/watch?v=kgRF3qhXlqI
Color Song The Wheels On The Bus https://www.youtube.com/watch?v=C4hvMJOvXWo
Hello Song https://www.youtube.com/watch?v=El9VkQCh4sg
ABC Song with ChuChu Toy Train https://www.youtube.com/watch?v=Nkmarl4ynRM
Doctor Checkup Song https://www.youtube.com/watch?v=R3XAfpxqfqQ
Yes Yes Fruits Song https://www.youtube.com/watch?v=nKm0g1boEhE
Wheels on the Bus Song Baby Starts Crying https://www.youtube.com/watch?v=0FwA1hMAb4
Baa Baa Black Sheep Song Colors of the Rainbow https://www.youtube.com/watch?v=_OuH7Ihbfc
Baby Goes Swimming Song https://www.youtube.com/watch?v=YvKHNShAaa4
Hickory Dickory Dock https://www.youtube.com/watch?v=Z2jRSAOdwx0
Johny Johny Yes Papa Grandparents Version https://www.youtube.com/watch?v=GAtj5v27heE
No No Yes Yes Go to School Song https://www.youtube.com/watch?v=4GcLWywzQXY
Yes Yes Wake Up Song https://www.youtube.com/watch?v=V7si2KRHLls
Nursery rhymes in English,Piosenki dla dzieci po angielsku, canciones en inglés para niños,เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก, Comptines en anglais,Kinderlieder in Englisch, Lagulagu anak berbahasa Inggeris, Musik Untuk Anak,Engelse kinderliedjes, Músicas em inglês para crianças, Gyerekzene, barnvisorna på engelska, 英文兒歌, Písničky v angličtině, أناشيد أطفال باللغة الإنجليزية, अंग्रेजी में नर्सरी कविताएं, Barnerim på engelsk, Canzoni per bambini in inglese
===============================================
Video: Copyright 2020 ChuChu TV® Studios
Music and Lyrics: Copyright 2020 ChuChu TV® Studios
ChuChu TV ®, Cutians ®, all the characters and logos
used are the registered trademarks of ChuChu TV Studios
===============================================
ChuChuTV NurseryRhymes

Phonics Song with TWO Words - A For Apple - ABC Alphabet Songs with Sounds for Children

ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art


ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์
เกมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยวาชน
เพื่อเสริมทักษะความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
วิชาการทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และอื่นๆๆอีกมากมาย
อย่าลืมกดติดตาม Subscribe WAWA kids art กันนะค่ะ
เกม คณิตศาสตร์หรรษา ระดับประถมศึกษา (10 ข้อ) https://youtu.be/GhlHe6bjBCQ
เกม หาภาพตรงกับคำสั่ง หมวดวิทยาสาสตร์ https://youtu.be/nqoTcc0QV4
เกม ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดสัตว์ https://youtu.be/xcT9ntfaVk
วาดการ์ตูนปลาโลมา, เรือ, ผีเสือ, เห็ด | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สนุกกับการเรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/7_bjSKieC7c
วาดการ์ตูน ผีเสื้อ, ดอกไม้, บอลลูน, อ่างอาบน้ำ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/sfOUFKhNmwc
เกมหารูปภาพตามคำสั่ง หมวดคำราชาศัพท์ https://youtu.be/6yPm5YA2is
เกมหาอักษรที่หายไป หมวดภาษาอังกฤษ https://youtu.be/If5UsAS9ZYQ
เรียนรู้ผลไม้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เล่นไข่เซอร์ไพรส์และลุ้นถ้วยไอศครีม | wawa kids art https://youtu.be/m0b4bpQLBfY
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เกม ทายคำศัพท์ยานพาหนะ หมวดภาษาอังกฤษhttps://youtu.be/dc4ApC1qn_w
เกม หาสุภาษิตไทยจากรูปภาพ เรียนรู้ความหมายของสุภาพษิตไทย https://youtu.be/JhqtK1qae_s

ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ : one-ten


มาฝึกนับเลขเป็นภาษาอังกฤษกันดีกว่า เริ่มจาก 110 กันเลย

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ : one-ten

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การอ่านเลขภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *