Skip to content
Home » [Update] การบอกความถี่ หรือความบ่อยในภาษาอังกฤษ | ระดับความรุนแรง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] การบอกความถี่ หรือความบ่อยในภาษาอังกฤษ | ระดับความรุนแรง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ระดับความรุนแรง ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ในการพูดคุยกันนั้น เป็นธรรมดาทีจะต้องแสดงให้เห็นถึงความถี่ หรือความบ่อยในการกระทำต่าง ๆ ของเรา วันนี้เราจึงขอเสนอวิธีการใช้งานคุณศัพท์ที่บอกถึงความถี่หรือความบ่อยของเหตุการณ์ หรือการกระทำ (Frequency) ซึ่งเป็นคำตอบของคำถาม “How often?” หรือว่า “How frequently?” นั้นเอง ลองมาดูตัวอย่าง และรูปแบบประโยคการใช้งานกันเลยค่ะ

Adverbs of Frequency บอกความถี่ ในภาษาอังกฤษฃ

ตัวอย่างการถามคำถามเกี่ยวกับความบ่อย หรือความถี่

How often do you go out with her?

คุณไปข้างนอกกับเธอบ่อยแค่ไหน

I usually go out with her on Sundays.

ปกติฉันจะไปข้างนอกกับเธอทุกวันอาทิตย์

โดยความถี่ที่มันจะใช้กันบ่อย ๆ นั้นจะแบบตามระดับเปอร์เซ็นได้ดังนี้

100%
Always

95%
Almost always

70%
Usually

Normally

Frequently

often

50%
Sonetiome

Occasionally

20%
Seldom

Rerely

5%
Almost never, Hardly ever

0%
Never

การวางตำแหน่งของ Frequency adverbs

ในประโยคบอกเล่า

  • ให้วางหลัง Verb to be  โดยมีโครงสร้างดังนี้   Subject + V.to be + Frequency adverb

เช่น She is always eat banana.

เธอกินกล้วยเสมอ ๆ (สุขภาพดีแน่นอน)

  • หากมีกริยาช่วย และกริยาแท้ เราจะวาง Frequency adverb ไว้หลังกริยาช่วยคำแรก หรือหากมีกริยาช่วยและกริยาแท้ ก็จะวาง Frequency adverb ไว้กึ่งกลางระหว่างกริยาทั้งสอง  เช่น

I have never been to America.

ฉันไม่เคยไปอเมริกา

She would always have been late.

เธอมักจะมาสายเสมอ

  • วาง Frequency adverb ไว้หน้ากริยาแท้ หากไม่มีกริยาอื่นๆ อยู่ด้วย เช่น

She usually jog with her dog.

เธอมักจะวิ่งเหยาะ ๆ กับสุนัขของเธอ

วาง Frequency adverb ต่อไปนี้ ได้แก่ occasionally, sometimes, often, usually ไว้ตอนเริ่มต้น หรือตอนท้ายของประโยค

Sometimes he come and stay with us.

บางครั้งเขาก็จะมาอยู่กับเรา

I play guitar occasionally.

ฉันเล่นกีต้าร์ในบางโอกาส

ในประโยคคำถาม

  • เราจะวาง Frequency adverb ไว้หลังประธานของประโยค เช่น

Is he always drink beer?

เค้าดื่มเบียร์เสมอหรือ

Do you occasionally play guitar?

คุณเล่นกีต้าร์ในบางครั้งเหรอ

ในประโยคปฏิเสธ

  • Frequency adverb มักจะวางหลัง not เช่น

He isn’t often late when he works night shift.

เขาไม่ค่อยมาสายเมื่อเขาทำงานกะดึก

Frequency adverb สามารถวางไว้หลัง subject เพื่อเน้นย้ำเป็นพิเศษ เช่น

I often don’t like night life.

ฉันไม่ชอบการใช้ชีวิตท่องเที่ยวราตรี

แต่Frequency adverb บางคำก็เป็นการปฎิเสธในตัวเองอยู่แล้ว อาทิ  Seldom, rarely, almost never, hardly ever, never เช่น

We rarely see them.

พวกเราแทบจะไม่เคยเห็นพวกเขา

He hardly ever go to temple.

เขาแทบจะไม่ไปวัดเลย

นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์ที่บอกความถี่อื่นๆ  อีก อาทิ

every month
ทุกเดือน

twice a month
เดือนละสองครั้ง

once a day
วันละครั้ง

three times a day
วันละสามครั้ง

almost every day
เกือบทุกวัน

all day
ทั้งวัน

all night
ทั้งคืน

forever
ตลอดกาล

until one’s dying day
จวบจนวันตาย

scarcely
แทบจะไม่

once in a blure moon
นานมาก ๆ จึงจะเกิดสักครั้งหนึ่ง

ตัวอย่างประโยค

I see my parents almost every day.

ฉันเจอพ่อแม่ฉันเกือบทุกวัน

I go to the temple once a year.

ฉันไปวันปีละครั้ง

(Visited 69,384 times, 2 visits today)

[Update] รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ COVID-19 ที่ควรรู้ ใช้รับมือกับ ไวรัสโคโรนา | ระดับความรุนแรง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

“รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ COVID-19 ที่ควรรู้ ใช้รับมือกับ ไวรัสโคโรนา”

สถานการณ์ COVID-19 นั้นเรียกว่ามีความตึงเครียดและแพร่กระจายไปรอบโลก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆ คนก็ต้องมีการสืบค้นหาข้อมูลต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ให้มากขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวของ COVID-19 เป็นเรื่องราวที่สากลให้ความสนใจ จึงมีข้อมูลต่างๆ ที่เป็นข้อมูลวิชาการภาษาอังกฤษออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น Sanook Campus เราก็เลยจะอัปเดต คำศัพท์เกี่ยวกับ COVID-19 มาให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลโรคนี้ให้มากขึ้น

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ COVID-19 ควรรู้ ใช้รับมือกับ ไวรัสโคโรนา

COVID-19 (โควิด-19) = Coronavirus Disease 2019 (โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019)

CO ย่อมาจาก Corona

VI ย่อมาจาก Virus

D ย่อมาจาก Disease

19 ย่อมาจาก 2019

Coronavirus (ไวรัสโคโรนา) = ชื่อของไวรัส

PUI (Patient Under Investigation) = ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์

Close Contact = ผู้สัมผัสใกล้ชิดที่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย

High Risk Contact = ผู้สัมผัสใกล้ชิดความเสี่ยงสูง มีความเสี่ยงกว่า Close Contact โดยจะอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยมากๆ เช่น อยู่บ้านเดียวกัน

Cohort Ward = ห้องพักผู้ป่วย, ห้องพักผู้ป่วยรวม

Social Distancing = การรักษาระยะห่างทางสังคม เป็นการอยู่ห่างๆ คนอื่น และเลี่ยงการทำกิจกรรมร่วมกันในระยะใกล้ๆ

Quarantine = การกักตัว

Home Quarantine = กักตัวเองที่บ้าน

Droplet Transmission = การติดต่อผ่านละอองฝอย

Airborne Transmission = การติดต่อผ่านอากาศ

Pandemic = โรคระบาดไปทั่วโลก

Epidemic = โรคระบาดทั่วไปที่เริ่มใหญ่และแพร่กระจายออกไปเมืองต่างๆ มากขึ้น

Outbreak = การอุบัติขึ้นแบบฉับพลันของโรคติดต่อที่ไม่ใช่โรคปกติทั่วไป ในกลุ่มคนจำนวนเล็กๆ ในเมืองใดเมืองหนึ่ง โดยยังไม่ได้แพร่กระจายออกไป

Plague = โรคระบาด

Disease = โรค

Infection = การติดเชื้อ

 

• Endemic โรคประจำถิ่นที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งเป็นประจำ การระบาดอยู่ในวงจำกัดมาก

• Sporadic โรคระบาดในชุมชนที่นาน ๆ ครั้งจะระบาด

• Outbreak การเกิดขึ้นหรือการปะทุขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง

• Epidemic โรคระบาดที่แพร่อย่างรวดเร็ว WHO ให้นิยามว่า เป็นโรคภัยหรือความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในชุมชนหรือภูมิภาคใด ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินความคาดหมาย ส่วน US-CDC ให้นิยามว่าเป็นโรคที่มีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินความคาดหมาย

• Pandemic โรคระบาดขนาดใหญ่ WHO ให้นิยามว่าเป็นเชื้อโรคใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้อัตราการป่วยและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่วน US-CDC ให้นิยามว่าเป็นโรคที่แพร่ระบาดในหลายประเทศหรือหลายทวีป ส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก

 

(ด้านการแพทย์)

• PUI (Patients under investigated) ผู้ป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน

• Close contact ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

• High Risk Contact ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง

• Cluster กลุ่ม

• emerging disease โรคเกิดใหม่

• disease โรค

• communicable disease โรคติดต่อ

• transmission การแพร่เชื้อ

 

(ด้านสังคมและการป้องกัน)

• Super Spreader ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นในวงกว้าง

• Social Distancing ระยะห่างทางสังคม เป็นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

• Self quarantine มาตรการควบคุมโรค คือ การให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแยกตัวเองออกจากครอบครัว ชุมชน หรือสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

• Work From Home การทำงานจากที่บ้าน เป็นหนึ่งในช่องทาง Social Distancing

• Lockdown ป้องกัน ในที่นี้หมายถึงการปิดประเทศ หรือปิดพรมแดน ห้ามบุคคลในประเทศเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามบุคคลภายนอกประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศ

• Fake news คือ ข่าวปลอม หรือข่าวลวง ที่ถูกพิสูจน์ได้ว่าไม่จริง และมีผลกระทบในระดับความเชื่อ

• Isolation การแยกตัวผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อ

• Quarantine Activities กิจกรรมที่ทำขณะแยกตัวเองออกจากครอบครัว ชุมชน หรือสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention)

และองค์การอนามัยโลก (World Health Organization)

เรียบเรียงเนื้อหา/นำเสนอบทความโดย :”สาระหลากด้าน”


คุณเก่งศัพท์แค่ไหน?? ลุ้นไปกับแบบทดสอบ 20 ข้อ Phrasal Verbs


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คุณเก่งศัพท์แค่ไหน?? ลุ้นไปกับแบบทดสอบ 20 ข้อ Phrasal Verbs

ฝึกพูด 30 ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับการขายของให้ชาวต่างชาติ


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright

ฝึกพูด 30 ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับการขายของให้ชาวต่างชาติ

4 tense ใช้ให้คล่อง รอดแน่! | Eng ลั่น [by We Mahidol]


\”วันนี้พี่คะน้ากับพี่แมทธิว ผู้เข้าแข่งขันรายการ The Face Thailand season 5 จะมาลองใช้ 4 tenses ในการสนทนาภาษาอังกฤษ ประกอบไปด้วย Present simple, Past simple, Future simple และสุดท้าย Present perfect tense มาดูกันว่า 4 tense นี้จะเพียงพอต่อการพูดคุยสื่อสารระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องคู่นี้ได้หรือไม่ ไปชมกันได้เลย
ทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น. ทางช่อง We Mahidol
Learn WithMe Engลั่น แมทธิว TheFaceThailand5 WeMahidol Mahidol
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

4 tense ใช้ให้คล่อง รอดแน่! | Eng ลั่น [by We Mahidol]

A๑๑: แบบฝึกหัดทดสอบความรู้พื้นฐาน Eng | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง


(ขอแก้ที่พิมพ์ผิด 1 จุด)
ที่เวลา 20:15 20:25 นาที
ตัวเลือกข้อ a.) sleep (ตัดคำว่า late ทิ้ง)
คะแนน (%) จาก 40 ข้อ
0 ข้อ = 0%
1 ข้อ = 2.5%
2 ข้อ = 5%
3 ข้อ = 7.5%
4 ข้อ = 10%
5 ข้อ = 12.5%
6 ข้อ = 15%
7 ข้อ = 17.5%
8 ข้อ = 20%
9 ข้อ = 22.5%
10 ข้อ = 25%
11 ข้อ = 27.5%
12 ข้อ = 30%
13 ข้อ = 32.5%
14 ข้อ = 35%
15 ข้อ = 37.5%
16 ข้อ = 40%
17 ข้อ = 42.5%
18 ข้อ = 45%
19 ข้อ = 47.5%
20 ข้อ = 50%
21 ข้อ = 52.5%
22 ข้อ = 55%
23 ข้อ = 57.5%
24 ข้อ = 60%
25 ข้อ = 62.5%
26 ข้อ = 65%
27 ข้อ = 67.5%
28 ข้อ = 70%
29 ข้อ = 72.5%
30 ข้อ = 75%
31 ข้อ = 77.5%
32 ข้อ = 80%
33 ข้อ = 82.5%
34 ข้อ = 85%
35 ข้อ = 87.5%
36 ข้อ = 90%
37 ข้อ = 92.5%
38 ข้อ = 95%
39 ข้อ = 97.5%
40 ข้อ = 100%
อ่านบทความเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ (ฟรี) \u0026 ดูรายละเอียดคอร์สเรียน Eng ได้ที่
www.NakedEnglish.net หัวข้อ: บทความที่น่าสนใจ
ติดตามเราได้ที่ Facebook.com/EnglishWithPiboon
เราเน้นเรียน+สอนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ให้สนทนาและเข้าใจหลักการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
[จัดทำและสอนโดย อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง] Piboon Jangsawang

A๑๑: แบบฝึกหัดทดสอบความรู้พื้นฐาน Eng | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง

แบบทดสอบชุดที่ 1 คุณพูดอังกฤษเก่งแค่ไหน??


ติดตามแฟนเพจครูเชอรี่ได้ที่ https://www.facebook.com/cherry.englishbright

แบบทดสอบชุดที่ 1 คุณพูดอังกฤษเก่งแค่ไหน??

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ระดับความรุนแรง ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *