Skip to content
Home » [Update] การที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มิสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย กับกรณีข้อ 2 (9) ของประกาศอธิ | การ ยกเลิก ใบ กํา กับ ภาษี – NATAVIGUIDES

[Update] การที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มิสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย กับกรณีข้อ 2 (9) ของประกาศอธิ | การ ยกเลิก ใบ กํา กับ ภาษี – NATAVIGUIDES

การ ยกเลิก ใบ กํา กับ ภาษี: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มิสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย 

กับกรณีข้อ 2 (9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 

         “เบี้ยปรับ” ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 89 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 1 เท่า หรือ 2 เท่า หรือร้อยละ 2 ของจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วแต่กรณี ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อใช้เป็นบทลงโทษทางแพ่ง กรณีผู้ประกอบการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มขาดจำนวน หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีมูลค่าเพิ่ม เกี่ยวกับทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การออกใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ การใช้ใบกำกับภาษีปลอม การไม่เก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือสำเนาใบกำกับภาษี รวมทั้ง การไม่จัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม และการมีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ในทำนองเดียวกัน เป็นอำนาจเจ้าพนักงานประเมินในอันที่จะป้องปรามการกระทำความผิดทางภาษีมูลค่าเพิ่ม

         ในขณะที่ “เงินเพิ่ม” ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของจำนวนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระหรือนำส่ง ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อใช้เป็นบทลงโทษทางแพ่ง กรณีผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่นำส่ง ได้ชำระหรือนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วแต่กรณี ล่าช้า เกินกว่ากำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด คล้ายกับดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารพาณิชย์

         กล่าวเฉพาะ “เบี้ยปรับ” ตามมาตรา 89 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 2 เท่าของจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย อาทิ การออกใบกำกับภาษีของผู้ประกอบการที่มิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือกรณีตามมาตรา 86/1 แห่งประมวลรัษฎากร หรือกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีสำหรับกิจกรรมดังต่อไปนี้ เช่น
         – กิจการที่ไม่นับรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษี (Non VAT Base) ตามมาตรา 79 (1) – (4) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535
         – กิจการที่ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Out of VAT Scope) รวมทั้งกิจการที่อยู่ในบับคับที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
         – กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
         – การออกใบกำกับภาษีสำหรับกิจกรรมที่ไม่เกิดขึ้นจริง
         – การออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ที่มิได้ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากตนเองอย่างแท้จริง
         – การออกใบกำกับภาษีสำหรับสินค้าหรือบริการคนละชนิดกับที่ตนเองได้ขายหรือให้บริการ
         – การออกใบกำกับภาษีปลอมเพื่อการทุจริต หรือโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม
         ผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มิสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย นั้น นอกจากต้องรับผิดเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีที่ตนได้ออกตามนัยมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร พร้อมทั้งเบี้ยปรับตามมาตรา 89 (6) แห่งประมวลรัษฎากร และเงินเพิ่มตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ยังต้องระวางโทษอาญาตามมาตรา 90/4 (3) และมาตรา 90/5 แห่งประมวลรัษฎากร ในโทษจำคุกตั้งแต่ 2 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 200,000 บาท อีกด้วย ซึ่งเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับทางอาญาดังกล่าว ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (6) แห่งประมวลรัษฎากร
         ทางด้านตรงกันข้าม ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่มีสิทธิที่จะออกดังกล่าว ย่อมไม่มีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวไปใช้เป็นเครดิตหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากเป็นภาษีซื้อต้องห้ามตามมาตรา 82/5 (5) แห่งประมวลรัษฎากร

         เกี่ยวกับประเด็นไม่รวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 นั้น เป็นกรณีที่กฎหมายต้องการที่จะขจัดความซ้ำซ้อนของการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการขายสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ขานสินค้า ได้โอนสิทธิการนำเข้าสินค้าของตนให้แก่ผู้ซื้อสินค้า ซึ่งก่อให้เกิดการภาระภาษีมูลค่าเพิ่มอันเนื่องจากการนำเข้าสินค้าตามกฎหมายศุลกากร ตามมาตรา 77/1 (2) ประกอบกับมาตรา 78/2 และมาตรา 83/8 แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีการขายสินค้าในราชอาณาจักรตามมาตรา 77/2 (1) ประกอบกับมาตรา 78 (1) แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร จึงออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 80) ลงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2541 ข้อ 2 (9) เพื่อทอนภาระความซ้ำซ้อนในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มครั้งที่สองที่อยู่ในอำนาจการจัดเก็บของกรมสรรพากรลง โดยให้ถือเป็นกิจการที่ไม่นับรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ขายสินค้านั้นในราชอาณาจักรสำหรับสินค้าที่นำเข้าซึ่งได้โอนสิทธิการนำเข้าไปให้แก่ผู้ซื้อสินค้าแล้วดังกล่าว

         แต่อนิจจา!!! ความปรารถนาดีของอธิบดีกรมสรรพากร กลับกลายมาเป็นแส้ที่หวดลงบนหลังของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ขายสินค้านั้นในราชอาณาจักรสำหรับสินค้าที่นำเข้าซึ่งได้โอนสิทธิการนำเข้าไปให้แก่ผู้ซื้อสินค้าแล้ว เพราะเหตุของการไม่เข้าใจข้อกฎหมาย ด้วยปรารถนาที่จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามหน้าที่แห่งตน ซึ่งหาได้เกิดจากการจงใจเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงภาษีอากรดังกรณีอื่นของการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย
….เบี้ยปรับตามมาตรา 89 (6) แห่งประมวลรัษฎากร นั้น เป็นอำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมายเท่านั้น จะพิจารณาลดหรืองดให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ ลำพังเจ้าพนักางานประเมินที่ทำการตรวจสอบภาษีมูลค่าเพิ่มไม่มีอำนาจที่ลดหรืองดให้แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นผู้เสนอความเห็นเบื้องต้นต่ออธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมายเท่านั้น (ซึ่งถือว่าสำคัญมากประการหนึ่ง!!!)
         ความผิดในกรณีนี้ หากพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมแล้ว อธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมายพึงต้องพิจารณา “งดเบี้ยปรับ” ให้แก่ผู้ประกอบการแต่เพียงสถานเดียวเท่านั้น เนื่องจากด้วยเหตุผลดังกล่าว ประกอบกับบริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงภาษีมูลคาเพิ่ม ข้อผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ไม่มีความรู้และขาดความเข้าใจในทางปฏิบัติ และได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยดีในทุกกรณี
ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ ได้ทำคำร้องของดหรือลดเบี้ยปรับต่ออธิบดีกรมสรรพากรแล้ว จึงพึงต้องรอผลการพิจารณาของท่าน ไม่พึงต้องแสดงความจริงใจที่จะชำระเบี้ยปรับ 20% ของจำนวนเบี้ยปรับ เพราะเจ้าพนักงานรับแบบแสดงรายการไม่มีอำนาจพิจารณาลดเบี้บปรับกรณีดังกล่าวตามมาตรา 89 วรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด

         อย่างไรก็ตาม กรณีการโอนสิทธิให้ผู้ซื้อนำเข้า จะถือเป็นการขายสินค้าที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี ตามประกาศ อธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 101/2543 เรื่อง ค่าตอบแทนที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้

        ”ข้อ 1 การขายสินค้าที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่ต้องนำมูลค่าของ สินค้าที่ขายมารวมคำนวณเป็น มูลค่าของฐานภาษีเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตาม มาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้

             (1) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็น ผู้ขายต้องเป็นผู้ประกอบการ จดทะเบียนที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคำนวณจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร

             (

2) ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ขายสินค้าที่ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้แก่ผู้ซื้อในประเทศ

             (

3) ผู้ซื้อซึ่งนำเข้าสินค้าได้มีการชำระ ภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ตามมาตรา 83/8 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

             (

4) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้า จะต้องมีหลักฐานสำเนาใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากรที่ออกให้ผู้ซื้อเก็บรักษาไว้พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบ

             ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามวรรคหนึ่งไม่ต้องออก ใบกำกับภาษีเพื่อเรียก เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อเมื่อความ รับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตามมาตรา 78 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่มีหน้าที่ต้องออกใบรับตามมาตรา 105 หรือใบส่งของ ตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี”ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ขายจะต้องมีสำเนาใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากรที่ผู้ซื้อได้เสียภาษีตอนนำเข้าไว้แล้ว

         ดังนั้น ถ้าสำเนาใบเสร็จนั้น “หาย” หรือผู้ซื้อไม่ยอมส่งมอบให้บริษัทฯ ก็ยังคงมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บในอัตรา 7.0 ตามปกติ ของการขายสินค้าในราชอาณาจักร จึงต้องกลับไปพิจารณาปรเด็นนี้อีกครั้งหนึ่งว่า มีหลักฐานสำเนาใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากรที่ออกให้ผู้ซื้อเก็บรักษาไว้พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบอยู่หรือไม่ หากไม่มีการออกใบกำกับภาษีก็ถือเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว เป็นกรณีตามสุภาษิต ตกกระไดพลอยโจนไปเสียเลย จะได้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาว่า ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย 

        การปฎิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในอนาคตค่อยว่ากันใหม่ในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป 

[Update] ออกใบกำกับภาษีผิด ต้องทำอย่างไร | การ ยกเลิก ใบ กํา กับ ภาษี – NATAVIGUIDES

           “Put the right man on……


การยกเลิกใบกำกับภาษีและการออกใบกำกับภาษีใหม่แทนใบกำกับภาษีฉบับเดิม


สำนักงานบัญชีรักษ์บัญชี บริการจัดทำบัญชี วางระบบบัญชี จดทะเบียนธุรกิจ
โทร.0818316087 line id 0901975074
https://www.rukaccounting.com/th

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

การยกเลิกใบกำกับภาษีและการออกใบกำกับภาษีใหม่แทนใบกำกับภาษีฉบับเดิม

แก้ไขใบกำกับภาษี ได้หรือไม่


แก้ไขใบกำกับภาษี ได้หรือไม่
.
ปกติใบกำกับภาษีสามารถแก้ไขได้มี 2กรณี
1)ถ้าเปิดแล้วผิด ยกเลิก ถ้าเป็นภายในเดือนนั้น
2)ถ้าเปิดผิดก็ลดหนี้แล้วเปิดใหม่ที่ถูกต้อง
.
บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีโดยระบุชื่อผู้ซื้อว่า “สด” โดยไม่ได้ระบุที่อยู่ของผู้ซื้อ เป็นการ
ออกใบกำกับภาษีโดยมีรายการในส่วนที่เป็นสาระสำคัญไม่ครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่ง
ประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีความผิดดังนี้
(1) คดีอาญา บริษัทฯ มีความผิดตามมาตรา 90 (12) แห่งประมวลรัษฎากร ต้อง
ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท หากเป็นการพบความผิดครั้งแรก ต้องระวางโทษเปรียบเทียบปรับ
เป็นรายกระทง กระทงละ 100 บาท
(2) คดีแพ่ง บริษัทฯ ไม่มีความผิด
การแก้ไขใบกำกับภาษีที่บริษัทฯ ออกไปแล้วดังกล่าวข้างต้น ไม่สามารถแก้ไขได้
.
คำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่องการระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูประบุว่า
“กรณีผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็ไม่จำต้องแจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตนเองให้แก่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการแต่อย่างใด”
ปล. ถ้าลูกค้าไม่ได้จด VAT ไม่จำเป็นต้องใส่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีก็ได้
ใบกำกับภาษีซื้อระบุ “บ้านเลขที่” ไม่ถูกต้อง
กรณีใบกำกับภาษีระบุเลขที่ที่อยู่ไม่ถูกต้องจากเลขที่ 123/4 ออกเป็น 12/34 กรณีดังกล่าวเป็นใบกำกับภาษีที่มีรายการในส่วนที่เป็นสาระสำคัญไม่ถูกต้อง จึงเป็นใบกำกับภาษีต้องห้ามไม่ให้นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเป็นใบกำกับภาษีที่มีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ตามมาตรา 82/5 (2) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อมูลผู้ขายสินค้า “เขียนด้วยมือ” แทนการพิมพ์
ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปซึ่งมีรายการ ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขายสินค้า ตามมาตรา 86/4 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ได้พิมพ์ขึ้น หรือไม่ได้จัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ในกรณีจัดทำใบกำกับภาษีขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
ใบกำกับภาษีลืมพิมพ์คำว่า “แขวง…”
กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีซื้อ ซึ่งระบุที่อยู่ของผู้ซื้อถูกต้อง แต่มิได้ระบุแขวงไว้ เนื่องจากรายการที่อยู่ของผู้ซื้อ ซึ่งระบุไว้ในใบกำกับภาษี สามารถบอกตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดแจ้งถูกต้อง ตามมาตรา 86/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร จึงเป็นใบกำกับภาษีซื้อที่นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้
ใบกำกับภาษีไม่ได้ระบุ “รหัสไปรษณีย์” (หรือกรอกผิด)
รหัสไปรษณีย์ไม่ใช่รายการตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีซื้อซึ่งระบุรหัสไปรษณีย์คลาดเคลื่อน บริษัทฯ จึงใช้เป็นใบกำกับภาษีซื้อได้
ใบกำกับภาษีเขียนชื่อบริษัทแบบย่อ
กรณีระบุชื่อของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการตามวรรคหนึ่งไม่ครบถ้วนโดยมีเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) ละคำที่ประกอบคำหน้า แต่เป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ประกอบการรายอื่น ให้ถือว่าได้ระบุชื่อครบถ้วนแล้ว
ใบกำกับภาษีเขียนจาก “ประเทศไทย” เป็น “ไทยแลนด์”
ลูกค้าซึ่งมีชื่อตามที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ.20 ว่า “บริษัท จ. (ไทยแลนด์) จำกัด” แต่บริษัทฯ ได้ระบุชื่อลูกค้าว่า “บริษัท จ. (ประเทศไทย) จำกัด” ซึ่งเป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ประกอบการรายอื่น หากใบกำกับภาษีมีรายการอื่นถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
บริษัท จ. (ไทยแลนด์) จำกัด มีสิทธินำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้แต่การออกใบกำกับภาษีในคราวต่อไป บริษัทฯต้องระบุชื่อลูกค้าตามที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
⭐คอร์สออนไลน์⭐
1. บัญชีภาษีขายของออนไลน์ LAZADA SHOPEE FACEBOOK
2. วางแผนภาษี เลิกกิจการ บริษัท ห้างหุ้นส่น บุคคลธรรมดา
3. เปิดบริษัทใหม่ ต้องทำอะไรบ้าง
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
สมัครเรียน:
📌 อินบ้อค: https://m.me/aomsinleader
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
บัญชีภาษีขายของออนไลน์ บัญชีภาษีวันละคลิป ขายของออนไลน์ แม่ค้า แม่ค้าออนไลน์ พ่อค้าออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ หาเงินออนไลน์

แก้ไขใบกำกับภาษี ได้หรือไม่

e-Tax Invoice และ e-Receipt | ตอนที่ 1 | รายการ Innovative Wisdom


eTax Invoice และ eReceipt | ตอนที่ 1
.
รายการ Innovative Wisdom | วันจันทร์ศุกร์ 9.009.30 น.
อ.นวพร บุศยสุนทร ภาควิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อภิรักษ์ เชียงเจริญ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
ออกอากาศวันที่ 26/9/2561 สถานีวิทยุจุฬาฯ FM 101.5 MHz

e-Tax Invoice และ e-Receipt | ตอนที่ 1 | รายการ Innovative Wisdom

เปิดใบกำกับภาษีแล้วชำระเงินแล้ว แต่เบิกสินค้าผิดหรือราคาสินค้าผิด แก้ไขอย่างไร ?


โปรแกรมศูนย์บริการรถยนต์ โปรแกรมร้านซ่อมรถ โปรแกรมบริหารอู่ซ่อมรถ โปรแกรมศูนย์ซ่อมรถยนต์ โปรแกรมร้านยาง โปรแกรมอู่รถยนต์ โปรแกรมร้านคาร์แคร์ โปรแกรมอู่ซ่อมรถ
💻โปรแกรม Ursa Shop และแอปพลิเคชั่น Ursa Car 📱
หากท่านสนใจโปรแกรมฯ หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โปรดติดต่อเราได้ตลอดเวลา ยินดีให้บริการ และให้คำปรึกษาทุกท่าน
เวปไซด์: https://www.ursaapp.com
มือถือ 0880228656
โทรศัพท์: (02) 3693838 ต่อ 410
อีเมล: [email protected]
Facebook: https://www.facebook.com/ursaapp
Line ID: @ursaapp
Download Application Ursa Car
iOS : https://apps.apple.com/th/app/ursacar/id1502675300
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ursaapp.ursacar\u0026hl=th

เปิดใบกำกับภาษีแล้วชำระเงินแล้ว แต่เบิกสินค้าผิดหรือราคาสินค้าผิด แก้ไขอย่างไร ?

การเปิดใบลดหนี้และการยกเลิกใบลดหนี้ – Ursa Shop


ในบางกรณีเรามีความจำเป็นต้องออกใบลดหนี้ให้กับลูกค้า เช่น ได้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้สรรพากรไปแล้ว แต่ว่ามีการคืนสินค้าในภายหลัง ซึ่งในกรณีนี้ เราไม่สามารถทำการยกเลิกใบกำกับภาษีได้ จึงจำเป็นต้องออกใบลดหนี้ให้แก่ลูกค้าแทน ใบกำกับภาษี 1 ใบ สามารถมีใบลดหนี้ได้เพียง 1 ใบเท่านั้น การลดหนี้มี 2 แบบคือ ลดราคา และคืนสินค้า การลดราคาจะต้องลดราคาต่อหน่วยกับสินค้าทุกชิ้น หากมีการคืนสินค้า จะต้องเปิดใบคืนสินค้าสำหรับใบลดหนี้ เพื่อรับสินค้าคืนเข้าคลัง
โปรแกรมศูนย์บริการรถยนต์ โปรแกรมร้านยาง โปรแกรมอู่ซ่อมรถ โปรแกรมร้านคาร์แคร์ โปรแกรมร้านซ่อมรถ โปรแกรมอู่รถยนต์ โปรแกรมบริหารอู่ซ่อมรถ โปรแกรมศูนย์ซ่อมรถยนต์
💻โปรแกรม Ursa Shop และแอปพลิเคชั่น Ursa Car 📱
เวปไซด์: https://www.ursaapp.com
โทรศัพท์: (02) 3693838 ต่อ 410
อีเมล: [email protected]
Facebook: https://www.facebook.com/ursaapp
Line ID: @ursaapp
Download Application Ursa Car
iOS : https://apps.apple.com/th/app/ursacar/id1502675300
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ursaapp.ursacar\u0026hl=th

การเปิดใบลดหนี้และการยกเลิกใบลดหนี้ - Ursa Shop

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การ ยกเลิก ใบ กํา กับ ภาษี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *