กริยา 3 ช่อง ของ wash: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
คำกริยาในภาษาอังกฤษ
ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น
3
ช่อง
เรียกว่า
“
กริยา
3
ช่อง
“
ซึ่งแต่ละ
ช่องก็บอกถึง
เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
คำที่แสดงถึงอาการต่าง
ๆ
หรือเหตุการณ์ต่าง
ๆ
ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็
คือ
คำพูดที่แสดง
ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค
หรือคำที่ทำหน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง
กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ
ในแต่ละประโยค
ถ้าในประโยคนั้น
ๆ
ขาดคำกิริยา
ความหมายก็ไม่เกิด
และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง
ๆได้เลย
หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์
คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น
3
ประเภท
คือ
1.
สกรรมกริยา
(
Transitive Verb )
คือ
คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม
หรือคำอื่นเข้ามารองรับความ
หมายจึง
จะสมบูรณ์
เช่น
The boys kick football in the field.
หมายความว่า
พวกเด็ก
ๆ
เตะ
ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า
คำว่า
“kick “
เป็น
คำกิริยา
บอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน
นี้เด็ก
ๆ
กำลังเล่นกันอยู่
ส่วนคำว่า
“ football ”
เป็นตัวกรรม
หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ
หมายสมบูรณ์ขึ้น
เพราะถ้าใช้คำว่า
“ kick “
คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์
ไม่
รู้ว่าเตะอะไร
นั่นเอง
2.
อกรรมกริยา
(
Intransitive Verb )
คือ
คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้
ความหมายสมบูรณ์
เช่น
The dogs run in the field.
ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ
ก็ได้ใจ
ความสมบูรณ์ดี
ซึ่งคำว่า
“run “
แปลว่า
“
วิ่ง
“
คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่ง
3.
กริยาช่วย
(
Helping Verb
หรือ
Auxiliary Verb )
คือ
กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วย
กันมีความหมายดีขึ้น
และ
ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย
เช่น
She studies in Lamp – Tech college . Does she study in Lamp – Tech College?
คำ
กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น
3
ช่อง
เรียกว่า
“
กริยา
3
ช่อง
“
ซึ่งแต่ละ
ช่องก็บอกถึง
เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
กริยาช่องที่
1
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
กริยาช่องที่
2
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
กริยา
ช่องที่
3
ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต
เรียก
อีกอย่างหนึ่งว่า
“
ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา
หรือ
Complement
Base Form(
ช่อง
1)
Simple Past Tense(
ช่อง
2)
Past Participle(
ช่อง
3)
Meaning (
ความหมายเทียบเคียง
)
awake
awoke
awoken
ตื่น
be
was, were
been
เป็น
,
อยู่
,
คือ
bear
bore
born
ทน
beat
beat
beat
ตี
become
became
become
กลายเป็น
begin
began
begun
เริ่ม
bend
bent
bent
หัก
,
งอ
beset
beset
beset
โอบล้อมรอบด้าน
bet
bet
bet
พนัน
bid
bid/bade
bid/bidden
ประมูล
bind
bound
bound
ผูกติดกัน
bite
bit
bitten
กัด
bleed
bled
bled
เลือดออก
blow
blew
blown
เป่า
break
broke
broken
แตก
,
หัก
breed
bred
bred
ผสมพันธ์
bring
brought
brought
นำมา
broadcast
broadcast
broadcast
ออกอากาศ
build
built
built
สร้าง
burn
burned/burnt
burned/burnt
เผา
burst
burst
burst
ระเบิดออก
buy
bought
bought
ซื้อ
cast
cast
cast
หล่อ
catch
caught
caught
จับ
oose
chose
chosen
เลือก
cling
clung
clung
พิง
come
came
come
มา
cost
cost
cost
มีราคา
creep
crept
crept
คืบคลาน
cut
cut
cut
ตัด
deal
dealt
dealt
จัดการ
dig
dug
dug
ขุด
dive
dived/dove
dived
กระโดดน้ำ
do
did
done
ทำ
draw
drew
drawn
วาด
,
ล่อ
,
ชักดาบ
,
ถอนเงิน
dream
dreamed/dreamt
dreamed/dreamt
ฝัน
drive
drove
driven
ขับรถ
drink
drank
drunk
ดื่ม
eat
ate
eaten
กิน
fall
fell
fallen
ล้ม
feed
fed
fed
ให้อาหารสัตว์
feel
felt
felt
รู้สึก
fight
fought
fought
ต่อสู้
find
found
found
พบ
fit
fit
fit
พอเหมาะ
flee
fled
fled
หลบหนี
fling
flung
flung
เขวี้ยง
fly
flew
flown
บิน
,
นั่งเครื่องบิน
forbid
forbade
forbidden
ห้าม
forget
forgot
forgotten
ลืม
forego (forgo)
forewent
foregone
ยอม
,
ไม่เอา
forgive
forgave
forgiven
ให้อภัย
forsake
forsook
forsaken
สละ
,
ละทิ้ง
freeze
froze
frozen
หยุด
,
เป็นน้ำแข็ง
get
got
gotten
ได้
give
gave
given
ให้
go
went
gone
ไป
grind
ground
ground
บด
grow
grew
grown
เจริญงอกงาม
hang
hung
hung
แขวน
hang
hunged
hanged
แขวนคอ
hear
heard
heard
ได้ยิน
hide
hid
hidden
ซ่อน
hit
hit
hit
ตี
hold
held
held
ถือ
hurt
hurt
hurt
ทำร้าย
keep
kept
kept
เก็บรักษา
kneel
knelt
knelt
คุกเข่า
knit
knit
knit
ถัก
know
knew
know
รู้จัก
lay
laid
laid
วางไข่
lead
led
led
นำ
leap
leaped/lept
leaped/lept
กระโดด
learn
learned/learnt
learned/learnt
เรียน
leave
left
left
ออกจาก
lend
lent
lent
ให้ยืม
let
let
let
อนุญาต
lie
lay
lain
นอนลง
light
lighted/lit
lighted
จุดไฟ
lose
lost
lost
ทำหาย
make
made
made
ทำ
mean
meant
meant
หมายถึง
meet
met
met
พบ
misspell
misspelled /misspelt
misspelled/ misspelt
สะกดผิด
mistake
mistook
mistaken
ทำผิด
mow
mowed
mowed/mown
ตัดหญ้า
overcome
overcame
overcome
เอาชนะ
overdo
overdid
overdone
ทำมากเกินไป
overtake
overtook
overtaken
ตามทัน
overthrow
overthrew
overthrown
ปลดจากตำแหน่ง
pay
paid
paid
จ่าย
plead
pled
pled
อ้อนวอน
,
ขอโทษ
prove
proved
proved/proven
พิสูจน์
put
put
put
วาง
quit
quit
quit
เลิก
read
read
read
อ่าน
rid
rid
rid
ขจัด
ride
rode
ridden
ขี่
ring
rang
rung
กรดกริ่ง
rise
rose
risen
ลุกขึ้น
run
ran
run
วิ่ง
saw
sawed
sawed/sawn
เลื่อย
say
said
said
พูด
see
saw
seen
เห็น
seek
sought
sought
ค้นหา
sell
sold
sold
ขาย
send
sent
sent
ส่ง
set
set
set
จัดวาง
sew
sewed
sewed/sewn
เย็บ
shake
shook
shaken
สั่น
shave
shaved
shaved/shaven
โกน
shear
shore
shorn
ตัดขนแกะ
shed
shed
shed
เท
,
กันน้ำ
,
ทิ้ง
shine
shone
shone
เปล่งแสง
shoe
shoed
shoed/shod
ซ่อมรองเท้า
shoot
shot
shot
ยิง
show
showed
showed/shown
แสดง
shrink
shrank
shrunk
หด
shut
shut
shut
ปิด
sing
sang
sung
ร้องเพลง
sink
sank
sunk
จม
sit
sat
sat
นั่ง
sleep
slept
slept
นอน
slay
slew
slain
ฆ่า
slide
slid
slid
เลื่อน
sling
slung
slung
slit
slit
slit
สอดกรีดตามยาว
smite
smote
smitten
ตีอย่างแรง
sow
sowed
sowed/sown
หว่านพืช
speak
spoke
spoken
พูด
speed
sped
sped
เร่งความเร็ว
spend
spent
spent
ใช้จ่าย
spill
spilled/spilt
spilled/spilt
ทำหก
spin
spun
spun
ปั่น
spit
spit/spat
spit
บ้วนน้ำลาย
split
split
split
แยกออกจากกัน
spread
spread
spread
แผ่
spring
sprang/sprung
sprung
กระโดด
stand
stood
stood
ยืน
steal
stole
stolen
ขโมย
stick
stuck
stuck
ติดอยู่กับ
sting
stung
stung
ปล่อยเหล็กไน
stink
stank
stunk
เหม็น
stride
strod
stridden
เดินก้าวยาว
ๆ
strike
struck
struck
ตี
string
strung
strung
ขึ้นสาย
,
ร้อยลูกปัด
strive
strove
striven
ดิ้นรน
ต่อสู้
swear
swore
sworn
สาบาน
sweep
swept
swept
กวาด
swell
swelled
swelled/swollen
บวม
swim
swam
swum
ว่ายน้ำ
swing
swung
swung
แกว่ง
take
took
taken
นำไป
teach
taught
taught
สอน
tear
tore
torn
ฉีก
tell
told
told
บอก
think
thought
thought
คิด
thrive
thrived/throve
thrived
เติบโต
throw
threw
thrown
ขว้าง
thrust
thrust
thrust
เสือกเข้าไป
tread
trod
trodden
เดิน
understand
understood
understood
เข้าใจ
uphold
upheld
upheld
ยกไว้
upset
upset
upset
เสียใจ
wake
woke
woken
ตื่น
wear
wore
worn
สวม
weave
weaved/wove
weaved/woven
ทอ
wed
wed
wed
แต่งงาน
weep
wept
wept
ร้องไห้
wind
wound
wound
ไขลาน
win
won
won
ชนะ
withhold
withheld
withheld
เก็บไว้
withstand
withstood
withstood
ทนฟ้าทนฝน
wring
wrung
wrung
บิด
write
wrote
written
เขียน
Table of Contents
[NEW] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | กริยา 3 ช่อง ของ wash – NATAVIGUIDES
Past simple (พาสทฺ ซิมเพิล) หมายถึง “อดีตกาล” ใช้เพื่อกล่าวถึง เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จำเพาะเจาะจง (definite time) เช่น เมื่อวานนี้ (yesterday เยสเทอะเดย์), ปีที่แล้ว (last year ลาสทฺ เยียร์), เมื่อคืนที่แล้ว (last night ลาสทฺ ไน้ทฺ), ในปี 1990 (in 1990) เป็นต้น
ในเรื่อง Past simple นี้เกี่ยวข้องกับคำกริยาช่องที่ 2 กล่าวคือถ้าเป็น คำกริยาปกติ (regular verbs เรกิวเลอะ เวิบสฺ) สามารถเปลี่ยนเป็นช่อง 2 ด้วยการเติม -ed ข้างท้าย แต่ถ้าเป็นกริยาอปกติ (irregular verbs เออเรกิวเลอะเวิบสฺ) ก็จำเป็นต้องท่องจำหรือใช้ให้บ่อยครั้ง เช่น
กริยาปกติ กริยาอปกติ
work worked (เวคทฺ) go went (เว้นทฺ)
live lived (ลิฟดฺ) build built (บิ้ลทฺ)
play played (เพลดฺ) see saw (ซอ)
ตัวอย่าง
Tony lives in London now. He lived in Manchester last year. ตอนนี้โทนี่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ปีที่แล้วเขาอาศัยอยู่ใน-
แมนเซสเตอร์
Tony stayed at home last night. He didn’t go out with his friend. เมื่อคืนที่แล้วโทนี่อยู่บ้าน เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อนของเขา
สังเกตได้ว่า รูปของคำกริยาในตัวอย่างที่เป็นการกระทำในอดีต จะเป็นช่อง 2 ฉะนั้นจึงควรจะทราบถึงรูปแบบ (forms) ของ Past simple ดังนี้
รูปของ Past simple
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 2 +ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย กริยาแท้ช่อง 2 มีอยู่สองแบบที่นักเรียนต้องเรียนรู้ นั่นคือ
ก. กริยาแท้ปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก regular verbs (เรทิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้เมื่อเปลี่ยนให้เป็นช่องที่ 2 กระทำได้โดย
1. เติม -ed ข้างท้าย เช่น
work – worked walk – walked
wash – washed watch – watched
2. หากคำกริยาแท้ปกติใดลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ต่อไปข้าง
ท้าย เช่น
type – typed operate – operated
change – changed smoke – smoked
3. ส่วนคำกริยาแท้ใดลงท้ายด้วย y และมีอักษรพยัญชนะอยู่หน้าอักษร y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed เช่น
play – played spray – sprayed
employ – employed delay – delayed
ข. กริยาแท้อปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก irregulat verbs (อิเรกิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้ต้องอาศัยการจดจำ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากคำกริยาแท้ปกติเมื่อเป็นช่อง 2 เช่น
go – went set – set
ring – rang break – broke
หมายเหตุ สามารกหาซื้อหนังสือ กริยา 3 ช่อง ซึ่งได้รวบรวมคำกริยาแท้ปกติทั้ง 3 ช่องได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือ หนังสือเล่มดังกล่าวจัดพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา กรุงเททมหานคร
ตัวอย่าง
I bought a new car three days ago.
ผมซื้อรถยนต์คันใหม่มาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำถ้วยหล่น กาแฟได้หกราดบนหน้าตักของผม
Last night I went to the cinema.
เมื่อคืนดิฉัน ได้ไปชมภาพยนตร์
(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + did not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were not + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + กริยาช่วยช่อง 2 + not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ did not = didn’t
was not = wasn’t
were not = weren’t
กริยาแท้ช่อง 1 หมายถึง กริยาแท้ที่ไม่มีการเติม -s, -es, -ed, -ing
ไม่ใช่กริยาแท้ช่อง 1 ใช่กริยาแท้ช่อง 1
works work
broke break
cleaning clean
watches watch
กริยาช่วยช่อง 2 หมายถึง กริยาช่วยอื่น นอกเหนือจาก did, was, were ได้แก่ could, might
รูปย่อของ could not = couldn’t ; might not = mightn’t
ตัวอย่าง
He wasn’t busy yesterday.
เขาไม่ได้มีธุระยุ่งเมื่อวานนี้
I didn’t sleep for eight hours last night.
ผมไม่ได้นอนหลับเป็นเวลาถึง 8 ชั่วโมงเมื่อคืนที่แล้ว
This year John can play badminton, but last year he couldn’t
(play it).
ปีนี้จอห์นเล่นแบดมินตันได้ แต่ปีที่แล้วเขาเล่นไม่ได้
(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
กรณีที่ไม่มีกริยาช่วยอยู่ภายในประโยค
Did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่ไม่ใช่ was/were อยู่ภายในประโยค
กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่เป็น was/were
Was/Were + ภาคประธาน + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
Did you go to Bangkok yesterday?
เมื่อวานนี้คุณไปกรุงเทพฯ ใช่ไหม
Were you a student two years ago?
คุณเป็นนักเรียนใช่ไหมเมื่อสองปีที่แล้ว
Could you swim when you were five years old?
คุณว่ายน้ำได้ใช่ไหม เมื่อตอนที่คุณอายุห้าขวบ
(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ” ประกอบด้วย
กรณีที่ต้องใช้กริยาช่วย did เพราะไม่มีกริยาช่วยอื่นใด
Wh-word + did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยช่อง 2 อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ was/were
Wh-word + กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม/ส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วย was/were
Wh-word + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
How long was the film?
ภาพยนตร์มีความยาวเท่าไร
What did you do last night ?
เมื่อคืนที่แล้วคุณทำอะไร?
Where were you yesterday?
เมื่อวานนี้คุณอยู่ที่ไหน
การใช้ Past simple
1. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบสิ้นสมบูรณ์ในอดีต โดยปกติมักมีข้อความที่บ่งบอกเวลาที่เหตุการณ์นั้นๆ ได้เกิดขึ้นมาในอดีต อาทิ yesterday, last night, two days ago, in 1990, … ฯลฯ
ตัวอย่าง
I walked to school yesterday.
เมื่อวานนี้ผมเดินไปโรงเรียน
He bought a new car three days ago.
เขาซื้อรถยนต์คันใหม่เมื่อสามวันที่ผ่านมา
2. ใช้แสดงเหตการณ์หรือสถานการณ์ที่ยาวนาน หรือเหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยตั้งนานแล้วในอดีต
ตัวอย่าง
I spent all my childhood in Scotland.
ดิฉันใช้ชีวิตตลอดวัยเด็กในประเทศสกอตแลนด์
Regularly every summer, Jenny fell in love.
ทุกๆ ฤดูร้อน เจนนีตกอยู่ในความรัก
3. ถ้าในประโยคมีคำว่า when และมีรูปกริยาเป็นอดิต (past simple form) ทั้งสอง clauses จะถือว่าการกระทำใน when clause เกิดขึ้นก่อน
ตัวอย่าง
I Stood under a tree when it began to rain.
ผมยืนอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อตอนฝนตก
When she heard a strange noise, she got up to investigate.
เมื่อเธอได้ยินเสียงแปลกๆ เธอได้ลุกขึ้นจากที่นอนไปตรวจดู
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำแก้วหล่น กาแฟได้ราดลงบนหน้าตักของผม
4. ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น เล่าเรื่องในอดีต
ตัวอย่าง
Once upon a time there was a beautiful princess who lived
with her father. One day the king decided
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมองค์หนึ่งอาศัยอยู่กับพระ ราชบิดา วันหนึ่งกษัตริย์ได้ตัดสินใจ…
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ เตียวรัตนกุล
(Visited 35,744 times, 1 visits today)
คำกริยา 3 ช่อง ที่ควรรู้และใช้บ่อยมากๆ |Just for fun by kru Khwan
มาฝึกท่อง คำกริยา 3 ช่อง ที่ควรรู้และใช้บ่อยมากๆ หมวด Irregular verbs กันเถอะ ฝึกท่องบ่อยๆ เดี๋ยวก็จำได้จ้ากริยา3ช่อง lrregularverb verb3
อย่าลืมไปดูคลิปให้ความรู้ เพิ่มเติมด้วยนะคะ
👉Past Simple Tense หลักการใช้และเทคนิคการทำแบบทดสอบง่ายสุดๆlJust for fun by kru Khwan https://youtu.be/sY5nhmFY7No
👉 เทคนิคการออกเสียง คำที่ลงท้าย ed ง่ายๆ|Just for fun by kru Khwan https://youtu.be/bixcyfGUi_E
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
กริยา 3 ช่อง พร้อมตัวอย่างการใช้ | เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี
กริยาช่อง 3 คืออะไร และ ตัวอย่างกริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อยมีอะไรบ้าง
กริยาช่องที่ 1 (รูปย่อคือ V.1) จะใช้กับเหตุการณ์ใน ปัจจบัน
กริยาช่องที่ 2 (รูปย่อคือ V.2) จะใช้กับเหตุการณ์ใน อดีต
กริยาช่องที่ 3 (รูปย่อคือ V.3) จะใช้กับเหตุการณ์ใน perfect tense ทุกชนิด
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…
📌 คำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ พื้นฐาน FANBOYS คืออะไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=6g8MlhZhBcE
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
กริยา3ช่อง ภาษาอังงกฤษ eng123
Action verbs in English for kids and beginners
This video shows some action verbs in English for kids and beginners, with images to easily associate concepts and words. If you need the translation to another language, you can activate the subtitles available in Spanish, or in other languages with automatic translation.
Do not forget to check our channel (BABY NENES) to get more educational contents for kids:
Bathroom in English Vocabulary of bathroom stuff for kids and beginners: https://www.youtube.com/watch?v=cCn1o5T_Yk
Sports in English Vocabulary for beginners and children: https://www.youtube.com/watch?v=tZdNh5p0WBw
Beach and summer holidays vocabulary in English for kids: https://www.youtube.com/watch?v=GXXPxP5NUSM
The kitchen in English Vocabulary for English students: https://www.youtube.com/watch?v=f2KsK9zTrgk
Foods and drinks in English: https://www.youtube.com/watch?v=qhH7c1VSgw
Subscribe our channel !!! https://www.youtube.com/babynenes
G5 E64 vdo 029 Review Unit 2 Review 1 3 Past Continuous Tense v2
สงวนลิขสิทธิ์โรงเรียนไผทอุดมศึกษา 2021
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยา 3 ช่อง ของ wash