[Update] รีวิวซีรีส์ More Than Friends มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม | กว่า จะ ได้ รัก กัน – NATAVIGUIDES

รีวิวซีรีส์ More Than Friends มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม | แล้วได้ไหมล่ะ?

ช่วงนี้ เหมือนจะเป็นคนที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีติดๆ กันหลายเรื่อง แถมยังค่อนข้างจะไม่สนใจกระแสเท่าไหร่ เลือกดูตามความรู้สึกส่วนตัว อย่างเช่นครั้งนี้ ซีรีส์ที่มีฉายในเกาหลีไปเมื่อปลายปีก่อน และตอนนี้มีฉายใน Netflix เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวความรักระหว่างเพื่อนที่อยากจะเป็นให้มากกว่าเพื่อน ซีรีส์เรื่องนี้จึงมีชื่อบอกไว้อย่างชัดๆ ว่า More Than Friends หรือชื่อไทย มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม นั่นเอง

แรกเริ่มเดิมที ผมก็ได้ยินชื่อนี้มาบ้าง แต่ก็ผ่านไปผ่านมาไม่ได้สนใจ จนวันนึงลองเปิดตัวอย่างดู และก็ไปสะดุดเข้ากับนางเอกของเรื่อง Shin Ye Eun/ชินเยอึน หน้าตาน่ารักโดนใจ เลยเปิดไปดูเสียหน่อย ผลก็คือต่อยาวๆ หนังรักสามเส้าของวังวนคนที่บอกว่าเป็น ‘เพื่อน’ แต่พฤติกรรมมันไม่ใช่

ลองดูซิ ว่าจะปากแข็งไปได้สักกี่ตอน

เรื่องย่อซีรีส์ More Than Friends

มันเป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่รักคนเดียวมาสิบปีแต่ไม่เคยสมหวัง และหัวใจก็ยังคงรักอยู่อย่างนั้น จนวันหนึ่ง อีกคนก็เดินเข้ามา ทำให้หวั่นไหว

คยองอูยอน (Shin Ye Eun/ชินเยอึน จากซีรีส์เรื่อง Welcome และ He is Psychometric) สาวผู้รักในอักษรวิจิตรวัย 28 ที่คบผู้ชายมาก็หลายคน แต่ก็ลงเอยด้วยการเลิกรา เพราะเธอไม่อาจรักใครได้จริง หัวใจเธอยังคงผูกติดอยู่กับเดิมที่เธอหลงรักมาแต่วัยเรียน ทุกปีที่ร้านเดิมๆ หลังเมาหนักเธอจะออกมานั่งนอกร้าน โทรหาคนเดิมคนนั้นไม่ว่าเขาจะรับหรือไม่ แต่เธอก็จะพร่ำเพ้อบ้าบอโดยไม่สนใจคนรับสายที่ไม่พูดจา

ตัวอย่างซีรีส์ มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม [ซับไทย]

ชายคนที่เธอรักคือ อีซู (Ong Seong Wu/องซองอู จากหนังเรื่อง Life is Beautiful และซีรีส์เรื่อง At Eighteen) คนที่เคยเป็นเพื่อนวัยมัธยมกับอูยอนมาก่อน ผู้ที่ทำดีกับเธอมาก็หลายหน แต่ปากบอกว่า คิดกับเธอแบบเพื่อน ทั้งที่เขารู้เห็นหัวใจเธอมาโดยตลอด ก่อนจะหายหน้าไปอยู่อเมริกาหลายขวบปี กลับมาเจอกันเพียงครั้งเดียวก่อนจะหายหน้าไปอีก และเพิ่งจะกลับมาเจอกันใหม่ ในวันที่เธอมีผู้ชายอีกคนเข้ามา

ปัจจุบัน อีซูทำงานเป็นช่างภาพ อูยอนยังคงเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟ หากในมุมของการเป็นนักอักษรวิจิตร เธอยังคงต้องดิ้นรนอยู่

แต่การที่เธอได้พบกับ อนจุนซู (Kim Dong Joon/คิมดงจุน จากซีรีส์ Joseon Exorcist, Chief of Staff ทั้งสองซีซัน และ About Time) ท่านประธานแห่งสำนักพิมพ์ชื่อดัง ผู้ที่เลือกให้อูยอนมาร่วมงาน และเริ่มแผนการจีบเธอไปพร้อมๆ กัน จุนซูเลือกจับคู่ให้อูยอนมาทำงานร่วมกับอีซู โดยไม่รู้ว่าอูยอนนั้นหลงรักอีซูอยู่ก่อนแล้ว งานนี้ คนไหน คู่ไหนจะสมหวัง ชายผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาที่หน้าที่การงาน

กับนักถ่ายภาพผู้มีความหลังและเป็นคนที่เธอแอบรักมานานปี

รีวิวซีรีส์ มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม

อาจเรียกได้ว่า นักแสดงชุดนี้สำหรับผม คือ แทบจะใหม่เกือบทั้งหมด เพราะยังไม่เคยดูผลงานของพวกเขาเลย นอกจากกลุ่มนักแสดงสมทบที่ยังพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง ผลงานของ JTBC ที่ออกฉายช่วงปลายปี 2020

‘เพื่อนสนิท’ ของคยองอูยอน

เนื้อเรื่องย่อ อาจจะยังพูดน้อยไป ที่จริงแล้วไม่พูดคงไม่ได้ เรื่องเพื่อนสนิทของคยองอูยอน

ที่จริงเธอมีกลุ่มเพื่อนสาวสามคนที่รักกันมากมาตั้งแต่สมัยมัธยม หนึ่งคือ คิมยองฮี (Ahn Eun Jin/อันอึนจิน จากซีรีส์เรื่อง Hospital Playlist, Life และ Kingdom) เลขาฯ สาวลุคแกร่งบ้านยากจนที่ทำงานหนักมากมาย เธอคบหากับ ชินฮยอนแจ (Choi Chan Ho จากซีรีส์ Strangers From Hell และหนังเรื่อง Secret Zoo) เพื่อนชายมานานมาก แต่ไม่ยอมแต่งงานด้วยสักที และพบว่า ครอบครัวทั้งสองบ้านสร้างภาระหนักอึ้งให้กับหัวใจเธอมากเหลือเกิน

ส่วนอีกคน ฮันจินจู คือ (Baek Soo Min/แพคซูมิน จากซีรีส์ ID: Gangnam Beauty) อัยการสาวที่ยังคงครองตัวโสดทั้งที่อยากจะมีคนรู้ใจเต็มแก่ ถึงขั้นอุตส่าห์ไปลงเรียนภาษาจีนทั้งที่พูดได้เพราะอยากเจอผู้ชายที่ไม่ใช่มาจากการนัดบอด

นอกจากนี้ ยังมี จินซังฮยอก (P.O/พีโอ จากซีรีส์เรื่อง Hotel Del Luna, Mouse และ Encounter ) เจ้าของบาร์ ‘คำคืนนี้’ ที่ทั้งสามแวะเวียนมานั่งเม้าท์นั่งเมาอยู่บ่อยๆ เป็นชายผู้มองโลกในแง่บวกที่แอบมองอัยการสาวมาโดยตลอด

เรื่องราวมันจึงเป็นพล็อตของการแอบชอบเพื่อนแต่ยังจำเป็นต้องรักษาระดับความเป็น ‘เฟรนด์โซน’ กันต่อ สุดท้ายก็ต้องมานั่งกินเหล้าเม้าท์มอยกับเพื่อนสนิทที่ต่างก็มีปัญหาในแบบของตัวเอง

ปมในชีวิต ทำให้คิดแค่ในใจ ปากบอกว่าได้ ‘แค่เพื่อน’

การได้ดูตอนแรกๆ ของซีรีส์ มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม ใครก็คงสงสัยเหมือนๆ กันว่า เหตุใด อีซู ผู้มีทีท่าว่าน่าจะมีใจให้กับอูยอง กลับบอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ทั้งยังบอกว่าคิดกับเธอเพียง ‘แค่เพื่อน’ เท่านั้น

แต่แท้ที่จริงแล้ว เขามีปมอันเจ็บปวดในวันเก่าที่ฉุดรั้งไม่ให้เขามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับใคร การได้เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก ในที่สุดพวกเขาก็หย่ากัน แต่ก็ยังคงทำตัวเป็นเพื่อนกัน ทำให้อีซูรู้สึกรับไม่ได้ ไม่ก็คือไม่ยอมรับ และเลือกที่ปฏิเสธความรู้สึกตนเอง ไม่ยอมคบหากับใครมากเกินไปกว่าความเป็นเพื่อน ทำให้เขาต้องเอ่ยคำทำร้ายจิตใจของอูยอนตลอดมา

ก็ไม่ใช่แค่พระเอกที่มีปมความหลังที่คั่งค้างอยู่ในใจ แต่พระรองอย่าง อนจุนซู ผู้เป็นประธานของสำนักพิมพ์ก็เช่นกัน ที่เขาเองก็เคยมีประสบการณ์ช้ำรักในอดีต ทำให้เขาไม่กล้าเปิดใจจนได้มาเจอกับอูยอน แต่เพราะโปรเจกต์ที่ทำหนังสือที่เล่าเรื่องเมืองโซลด้วยภาพถ่ายและอักษรวิจิตร ทำให้พระนางต้องกลับมาทำงานร่วมกัน จนเกิดความเปลี่ยนแปลงในใจของอีซู

อาจด้วยจังหวะเวลาที่ไม่ลงล็อก ทุกอย่างจึงดูยุ่งยากไปหมดสำหรับคนคู่นี้

องค์ประกอบที่น่าสนใจในซีรีส์ มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม

เรื่องราวในซีรีส์อาจจะไม่ได้ถึงแปลกใหม่อะไรมากนักในใจคนดู เพราะรักสามเส้านั้นก็เป็นเรื่องปกติที่หาพบได้ในซีรีส์เกาหลีทั่วไป แต่เรื่องราวของเพื่อนที่แอบรักเพื่อนนั้นไม่ใคร่เห็นใครหยิบมาสร้างกัน ส่วนองค์ประกอบของมันก็ชักชวนให้รู้สึกดีก็เห็นจะมีอยู่ประมาณๆ นี้

1. นางเอกโคตรน่ารักเลย ชินเยอึน เป็นนักแสดงสาวที่มีโครงหน้าดี ดวงตากลมโตชวนมอง เพิ่งเข้าวงการมาได้ไม่นานนัก และนี่คือผลงานซีรีส์เรื่องที่สาม ทำเอาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย
2. ดนตรีประกอบชวนฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงบรรเลงชิลๆ ที่สามารถเปิดฟังคลอไปในร้านกาแฟได้ เข้ากับภาพและเรื่องราวที่พาเราออกไปเดินเที่ยวในเมืองหลวง
3. พาเที่ยวชมจุดต่างๆ ในกรุงโซล แต่ละตอนจะเป็นภารกิจของสองพระนางที่จะพากันไปเก็บภาพและเขียนบรรยายความคิด ซีรีส์จึงพาเราไปเจอบรรยากาศเงียบๆ ที่มีอยู่ในเมืองใหญ่แต่ไม่ได้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะเดินไปพบ ชักชวนให้คนดูรู้สึกอยากจะซอกซอนไปเจอมุมแบบนั้นบ้างเหมือนกันนะ
4. มีความเชื่อมโยงกับวรรณกรรมเยาวชน นิทานเด็กเลี้ยงแกะบ้างล่ะ เจ้าหญิงนิทราบ้างล่ะ เรื่องราวบางส่วนเล่าในลักษณะของภาพการ์ตูน แถมนำมาสอดคล้องกับเหตุการณ์จริงในตอนนั้นๆ นางเอกเธอเป็นสายนี้ ยังดูไม่ประสีประสากับความรักสักเท่าไหร่ แม้จะอายุปาเข้าไป 28 ปีแล้วก็ตาม

ตัวเรื่องราวช่วงแรกอาจจะดูมึนๆ อยู่บ้าง กับความคิดตัวละครที่กลับไปกลับมา ก่อนที่จะเริ่มชัดเจนเมื่อมีใครอีกคนเข้ามา ทำให้พระเอกเริ่มจะมีคู่แข่ง เป็นตัวเร่งให้เขาเริ่มรู้สึกตัวได้เสียทีว่าที่จริงตนนั้นคิดเช่นไร แต่ความรักเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ใช่ว่า นางเอกมีใจแล้วมันจะสมหวังทันทีก็ไม่ใช่เสียหน่อย ทำเขาเสียใจมาโดยตลอด ดันมารู้สึกได้ในวันที่เขามีใคร

มันก็ต้องใช้ความพยายามหน่อยนะ ถ้าจะเป็นมากกว่าแค่ ‘เพื่อนกัน’

ชื่อซีรีส์: More Than Friends / มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม / Number of Cases / 경우의 수
ผู้กำกับการแสดง: Choi Sung Bum
ผู้เขียนบท: Jo Seung Hee
นักแสดง: Ong Seong Wu/องซองอู, Shin Ye Eun/ชินเยอึน, Kim Dong Joon/คิมดงจุน, Ahn Eun Jin, Baek Soo Min, P.O, Choi Chan Ho
แนว/ประเภท:
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 16 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: JTBC (September 25 – November 28, 2020)
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: JTBC

มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม

พล็อตและบท – 6.5

การแสดง – 7.2

งานภาพ – 8.2

เพลงและดนตรีประกอบ – 8.2

การดำเนินเรื่อง – 7

7.4

More Than Friends

ซีรีส์เกาหลีเรื่องราวของเพื่อนที่แอบรักเพื่อน เมื่อนางเอกแอบรักคนหนึ่งมาสิบปี ไม่เคยสมหวังเพราะเขาบอกว่าคิดเพียงเพื่อน ได้เจอคนใหม่ที่เข้ามาจีบจริงจัง คนที่บอกว่าเป็นแค่เพื่อนเริ่มจะหวั่นไหว เขาจะกลับไปจีบเธออีกครั้งดึงใจเธอกลับมาจะได้ไหม ซีรีส์อารมณ์เย็น ดนตรีประกอบเหมือนเพลงร้านกาแฟ โดนใจคนแอบรักได้ประมาณหนึ่ง ที่สำคัญคือ นางเอกน่ารักมาก เพิ่งเจอได้ไง?

User Rating:

Be the first one !

 

ต่อให้รักกันแค่ไหน ก็ต้องมีบางช่วงอารมณ์ที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่หากปล่อยให้อารมณ์โกรธมีอิทธิพลมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้จนถึงขั้นเลิกกัน ทั้งที่บางทีมันเริ่มมาจากเรื่องเล็กแท้ๆ ดังนั้นเรามาดู 10 วิธีจบปัญหาเวลาทะเลาะกับแฟนกันดีกว่า จะได้จบปัญหาแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่เสียใจทีหลังกันนะคะ

 

ถอยหลัง 1 ก้าว

การพักเบรคยามถกเถียงกันรุนแรงนั้นช่วยได้เสมอ เพราะมันทำให้เราใจเย็น และรับมือด้วยวิธีแตกต่างออกไปได้ ลองใช้เวลา 30-60 วินาทีคิดถึงเรื่องดีๆ ของคุณสองคน จนแน่ใจว่าสามารถคุมอารมณ์และน้ำเสียงได้แล้ว จึงค่อยคุยกันอีกครั้งดีกว่า

 

 

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ปกติแล้วเรามักจะเริ่มจาก “ทำไมคุณถึงไม่….” ลองเปลี่ยนมาเป็น “ฉันเข้าใจนะว่าทำไมคุณถึง…” คุณอาจจะยุติความขัดแย้งได้เร็วขึ้น เพราะการเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้เห็นอะไรรอบด้านขึ้นว่าทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลจำเป็นเหมือนกัน

มีอารมณ์ขันให้กัน

เวลาที่เถียงกันเล็กๆ น้อยๆ เสียงหัวเราะนั้นดับอารมณ์โกรธได้ดีทีเดียว แต่ควรระวังอย่าใช้มุกที่เหน็บแนมหรือเห็นเขาเป็นตัวโจ๊กล่ะ เพราะจะทำให้เขายิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ควรเป็นมุกทั่วๆ ไป หรือมุกขอคืนดีแบบน่ารักจะดีกว่าเยอะ

 

รับผิดชอบผลที่ตามมาบ้าง

บางครั้งการทะเลาะก็มาจากตัวเราเองที่เริ่มก่อน จึงต้องยอมรับความผิดส่วนหนึ่งว่าเราคือสาเหตุแทนที่จะโทษอีกฝ่าย 100% เพื่อเป็นการลดเกราะป้องกันตัวเองลงบ้าง และเขาเองก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

 

อย่าหยิบเรื่องที่จบไปแล้วมาพูดอีก

ข้อนี้ทำคนเลิกกันมาเยอะแล้ว การหยิบเรื่องเก่าที่จบไปแล้วมาพูดใหม่ซ้ำๆ คือสิ่งที่ผู้ชายเกลียดมาก ดังนั้นเราควรโฟกัสที่ปัจจุบัน และความสุขในวันข้างหน้า แทนที่จะเถียงกันเรื่องเก่า ลองหาหนังดีๆ แล้วนั่งกอดนัวเนียดูด้วยกันจะเวิร์คกว่าเยอะเลยนะ

 

 

สัมผัสกันและกัน

บางครั้งภาษากายก็สื่อได้ตรงจุดมากกว่าภาษาพูด การกอดหรือจับมือกันคือสิ่งย้ำเตือนว่า คุณแคร์กันมากแค่ไหน และจะไม่อยากทำลายมันลงด้วยการทะเลาะกัน

หยุดพูดคำว่า “แต่…”

การปิดท้ายประโยคด้วยคำว่า “แต่” มันคือการบอกเป็นนัยๆ ว่าความคิดคุณเท่านั้นที่ดีที่สุด หากปรับความเข้าใจกันแล้วก็ยังมี “แต่” มาจุดประเด็นใหม่ไม่รู้จบ แล้วจะเลิกทะเลาะกันได้ยังไงล่ะจริงไหม

 

เปลี่ยนน้ำเสียง

หากทะเลาะกันจริงจัง ควรควบคุมน้ำเสียงให้เบาลง และใช้โทนเสียงที่เหมาะสมเพื่อสื่อว่าคุณไม่อยากเถียงกับเขา พยายามอย่าขึ้นเสียง ทำเสียงแบ๊ว หรือเล่นตลกผิดเวลา เพราะมันจะทำให้บรรยากาศยิ่งมาคุหนักกว่าเดิมได้

ไม่รีบร้อนหาข้อสรุป

การเข้านอนทั้งที่ยังโกรธกันอาจดูแย่ แต่ที่แย่สุดคือ พยายามหาข้อสรุปปัญหาทั้งที่ยังโมโหจัด หากอารมณ์ยังร้อนอยู่ การนอนหลับสักตื่นให้เย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยกันอาจจะดีกว่าเยอะ

มองในภาพรวม

แทนที่จะมองแต่ปัญหาตรงหน้าว่าใครจะชนะ ลองมองในมุมกว้างว่า ชนะแล้วได้อะไร จะกระทบใครบ้าง และคุ้มไหมกับสิ่งดีๆ ที่เรามีร่วมกันมา มันจะทำให้เรื่องตรงหน้าดูเล็กลงไปถนัดตาเลยทีเดียว

อ่านแล้วลองนำไใช้กันดูนะคะ เวลาโกรธกันอะไรๆ ก็ดูหนักหนาใหญ่โตไปหมดจนยากจะยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย แต่หากมี “รัก” เป็นพื้นฐานล่ะก็ ทุกอย่างก็ดูง่ายและเบาขึ้นแน่นอนค่ะ

 

ติดตาม women.truelife.com ได้ที่

We are women’s best friend.