Skip to content
Home » [Update] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | โดดเรียน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | โดดเรียน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

โดดเรียน ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

 

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞

แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ เป็นวิธีการสร้างความประทับใจที่ง่ายที่สุด และทำให้คนจดจำเราได้ตั้งแต่แรกพบ เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีแพทเทิร์นในการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษของตัวเองได้ก็จะยิ่งดีมาก ๆ 

 

และถ้ายิ่งได้ฝึกพูดแนะนำตัวภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งพูดคล่อง และมั่นใจค่ะ เมื่อเจอกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ ก็จะพูดได้เลย โดยที่ไม่ต้องคิดนาน

 

ถ้าหากฝึกซ้อมแนะนำตัวแล้ว อย่าลืมซ้อมตอบคำถาม และปรับบุคลิกภาพด้วย คลิก

 

20 ประโยคจำไว้ถาม-ตอบเวลาพรีเซนต์

How to พรีเซนต์งานภาษาอังกฤษ ให้โดนใจคนฟัง!

 

การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ การแนะนำตัวแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สัมภาษณ์งาน, Presentation หรือการไปเที่ยวแล้วพบเจอคนใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

ซึ่งนอกจาก Globish จะมาแนะนำวิธีการและประโยคแล้ว ยังมีตัวอย่างการแนะนำตัวภาษาอังกฤษให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยอีกด้วยค่ะ

 

แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหา อยากให้ทุกท่านลองลิสต์คำตอบของคำถามเหล่านี้ดูก่อนค่ะ 

 

1) What is your name? 

ตัวอย่างคำตอบ

Pim, Jane, Sam etc.

 

2) Where are you from? 

ตัวอย่างคำตอบ

Bangkok, Thailand etc.

 

3) How are you related to the person who has introduced you? 

ตัวอย่างคำตอบ

Husband, wife, friend etc.

 

4) Why are you in that situation? 

ตัวอย่างคำตอบ

Party, Family introductions, Wedding etc.

 

5) What makes you interesting? 

ตัวอย่างคำตอบ

You’re good at singing, painting, playing the piano etc.

 

เมื่อคุณสามารถตอบคำถามครบแล้ว ก็จะเริ่มรู้แนวแล้วว่า คุณควรจะพรีเซนต์ตัวเองไปในทิศทางไหน และควรพูดเรื่องอะไรดี

 

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพูดแนะนำตัวเรื่องอะไรดีหรือยังไม่มีเรื่องในใจ Globish ได้เตรียมหัวข้อมาให้ทุกท่านเลือกเช่นกันค่ะ ได้แก่

 

Personality นิสัย

Likes สิ่งที่ชอบ

Dislikes สิ่งที่ไม่ชอบ

Hobbies งานอดิเรก

Skills ทักษะ

Talents พรสวรรค์

Qualifications คุณสมบัติ

Interests ความสนใจ

Awards รางวัลหรือความสำเร็จ

Ideas ความคิด

Opinions ความคิดเห็น

 

ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องพูดในทุกหัวข้อเมื่อแนะนำตัวภาษาอังกฤษก็ได้ แต่เลือกเฉพาะสิ่งที่เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น ถ้าหากต้องแนะนำตัวสัมภาษณ์งาน อาจจะพูดถึง Personality, Hobbies, Qualifications, Skills, หรือ Awards ค่ะ

 

เชื่อว่าทุกท่านน่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการกันเลยค่ะ

1. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Informal (ไม่เป็นทางการ)

 

การแนะนำตัวแบบนี้ เหมาะมาก ๆ กับสถานการณ์อย่าง ไปเจอครอบครัวของเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนในงานต่าง ๆ หรือเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ 

 

  ■ สถานการณ์: แนะนำตัวในงานเลี้ยงของเพื่อน

 

เริ่มจากการทักทาย…

 

Hi everybody.

สวัสดีค่ะ/ครับทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

แนะนำตัวเอง…

 

I’m Sam, Jane’s friend. It’s a pleasure to meet you.

ฉันชื่อแซมนะ เป็นเพื่อนของเจน ยินดีที่ได้พบคุณมาก ๆ เลย

 

You can call me Sam. It’s nice to meet you.

คุณเรียกฉันว่าแซมก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

พูดถึงงานปาร์ตี้หรือคนที่คุณทั้งสองคนรู้จักร่วมกัน

 

This is a fantastic party, very well-organised.

ปาร์ตี้นี้สุดยอดมากเลยนะครับ จัดได้ดีมาก ๆ

 

The food in this restaurant is so good, I’m on my third round!

อาหารในร้านนี้อร่อยมาก ๆ เลย นี่ผมตักอาหารรอบที่ 3 แล้ว

 

I work with Jane (the hostess) at Globish. We first met when we studied at Thammasart university together, so we’ve known each other for 10 years.

ฉันทำงานกับเจนที่โกลบิช แต่เราเจอกันครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนธรรมศาสตร์ ตอนนี้ก็รู้จักกันมา 10 ปีแล้ว

 

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

So, tell me a bit about yourself. How do you know Jane?

เล่าเรื่องของคุณซักหน่อยได้ไหม คุณรู้จักเจนได้ยังไง

 

By the way, please tell me about yourself. How did you and Jane meet?

ว่าแต่… คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณได้ไหม แบบคุณกับเจนเจอกันได้ยังไง

 

 


■ สถานการณ์: แนะนำตัวในทีทำงาน (เพิ่งเริ่มทำงานวันแรก)

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everybody.

สวัสดีทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

แนะนำตัวเองและตำแหน่งงาน…

 

Nice to meet you. My name is Laticia. I’m the new graphic designer. 

ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อลาทีเซีย เป็นกราฟิกดีไซน์คนใหม่ค่ะ

 

My name is Jack, your new marketing manager. 

ผมชื่อแจ็ค เป็นผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้ง

 

I’m Javier, an engineer in the IT department.

ฉันชื่อจาเวียร์ เป็นวิศวะแผนกไอทีค่ะ

 

Hi, I am Jeff from the Marketing Team.

สวัสดี ฉันชื่อเจฟจากทีมมาร์เก็ตติ้ง

   

I’m Mike, the new engineer. Nice to meet you.

ผมชื่อไมค์ เป็นวิศวะกรคนใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

พูดถึงประวัติการทำงาน…

 

Previously, I worked as marketing manager in Noc Company. So, I have 10 years of experience.

ก่อนหน้านี้ ผมเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้งที่บริษัทน็อค ผมเลยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากว่า 10 ปี 

สร้างความประทับใจ…

 

I believe I can lead this team to even more success, but I can’t produce great results alone. That’s why I need your utmost cooperation. Together, we can achieve great things.

ผมเชื่อว่าผมสามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จ แต่คงทำคนเดียวไม่ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการความร่วมมือจากพวกคุณ หากร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้แน่นอน

 

I worked at ABC Company for one year before joining this company. Outside of work, I enjoy doing yoga and reading novels at the beach. If you have any interesting books, feel free to recommend them to me.

ฉันทำงานที่บริษัท ABC มา 1 ปี ก่อนที่จะย้ายมาทำงานที่นี่ นอกเหนือจากการทำงาน ฉันชอบเล่นโยคะและนั่งอ่านหนังสือริมชายหาด ถ้าคุณมีหนังสือที่น่าสนใจ แนะนำฉันมาได้เลย

 

I graduated with my degree in Economics two months ago.

Although I don’t have real-life work-experience, I’m ready to learn new things from all of you.

ผมจบเศรษฐศาสตร์มาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แม้ว่าผมยังไม่มีประสบการณ์จริง แต่ผมพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคุณทุกคน

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

I’m excited to work with all of you.

ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับพวกคุณทุกคน

 

We’ll be working together in the future and I’m excited to be a part of the team

เราจะได้ร่วมงานกันในอนาคตแน่นอน และฉันตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม

 

I’m looking forward to working with you in the future. See you around.

ฉันตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับคุณในอนาคต แล้วพบกันนะคะ

 

 

 

2. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Formal (เป็นทางการ)

 

ข้อแตกต่างระหว่างการแนะนำแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คือ ภาษาที่ใช้ค่ะ แบบเป็นทางการจะใช้ภาษาที่ค่อนข้างสุภาพมากกว่า เหมาะกับสถานการณ์แบบ สัมภาษณ์งาน หรือใช้เกริ่นก่อนนำเสนองานให้คนที่ไม่รู้จัก และเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นในบริษัทฟัง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวเมื่อไปสัมภาษณ์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

แนะนำตัวเองพร้อมประวัติการเรียนหรือการทำงาน…

 

My name is Kevin Smith. Glad to meet you. I’m 21 years old and I’m a fresh graduate from XYZ University with Business management.

ผมชื่อเควิน สมิธ ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ ผมอายุ 21 ปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการจัดการธุรกิจครับ

 

First of all, it’s my pleasure to speak with you today. My name is Paul Smith. I’m 23 years old and I have just completed my graduation from XYZ University with Human Resource Management as the subject.

ก่อนอื่นเลย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พูดคุยกับคุณวันนี้ครับ ผมชื่อพอล สมิธ อายุ 23 ปี เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลครับ

 

Good morning, I’m Janejira Rakdee. Pleased to meet you. I’m from Bangkok. I completed my Bachelor of Engineering degree in 2009 from Abac university.

สวัสดีตอนเช้าค่ะ ดิฉันชื่อเจนจิรา รักดี ยินดีที่ได้พบคุณค่ะ ฉันมาจากกรุงเทพฯ จบการศึกษาจากคณะวิศวะกรรมศาสตร์ตอนปี 2009 จากมหาวิทยาลัยเอแบคค่ะ

 

Good afternoon, I’m Sam Brandon. I have been working as a Sales Professional for 5 years now. I joined as a Sales executive and worked my way up to the position of Sales Manager within 3 years.

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมชื่อแซม แบรนดอน ผมทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายมา 5 ปีแล้ว นอกจากนี้ ผมเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขายไปจนถึงผู้จัดการฝ่ายขายภายใน 3 ปี

พูดถึงสกิลที่ถนัด ความสามารถ หรือประสบการณ์ที่โดดเด่น…

 

One of my accomplishments during my university life was being a speaker at a Science seminar. I have completed my internship in ABC Motor company. During my internship, I gained a lot of useful skills that weren’t included in the academic curriculum such as negotiation and time management skills.

หนึ่งในความสำเร็จช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยของดิฉันคือ การได้เป็นผู้บรรยายในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ อีกทั้งดิฉันยังได้ฝึกงานในบริษัทยานยนตร์ ABC ระหว่างการฝึกงาน ฉันได้เรียนรู้สกิลที่มีประโยชน์ และไม่มีสอนในรั้วมหาลัย เช่น สกิลการต่อรองและการจัดการเวลา

 

I’ve been hard-working and have taken my subjects quite seriously. Now, as I am graduated, I want to implement my knowledge in my work. That is the reason I applied for this job. 

ผมค่อนข้างทุ่มเทและจริงจังกับการเรียนมาตลอด และตอนนี้ ในฐานะที่เป็นเด็กจบใหม่ ผมอยากเอาความรู้ที่ได้เรียนมาปรับใช้กับการทำงาน นี่คือเหตุผลที่ผมสมัครงานในตำแหน่งนี้ครับ

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

Now, I am all set to start my career, and hoping to get selected into your esteemed company which will help me explore my other abilities, and improve myself.

และตอนนี้ ดิฉันพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การทำงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับเลือกให้ทำงานในบริษัทสามารถช่วยดิฉันค้นหาความสามารถอื่น ๆ ของตัวเองและพัฒนาตัวเองไปได้อีกค่ะ

 

Although I don’t have real-life work-experience, I have learned a lot about business through subjects during my graduation. So, I would assure you to be a valuable asset to your esteemed company by implementing all of my knowledge mixed up with hard work.

แม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจริง แต่ผมได้เรียนรู้ด้านธุรกิจผ่านวิชาเรียนที่หลากหลายในรั้วมหาวิทยาลัย ผมจึงอยากให้คุณมั่นใจเลยว่า ผมจะเป็นพนักงานที่มีคุณค่าต่อบริษัท โดยการนำความรู้ทั้งหมดที่ผมมีมาปรับใช้ไปพร้อม ๆ กับความมุมานะในการทำงาน

 

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวก่อนพรีเซนต์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everyone. Thanks for coming.

สวัสดีค่ะ/ครับ ทุกคน ขอบคุณที่มาในวันนี้

 

Hello, everyone. I’d like, first of all, to thank the organizers of this meeting for inviting me here today.

สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลย ผมขอขอบคุณผู้จัดงานที่เชิญผมมาในวันนี้

 

Good morning everyone and welcome to the meeting. First of all, let me thank you all for coming here today. 

สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกคน ขอต้อนรับสู่การประชุมค่ะ ก่อนอื่นเลย ขอขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ค่ะ

แนะนำตัวเองและตำแหน่ง…

 

I’m John, who heads the marketing team.

ผมชื่อจอห์น เป็นหัวหน้าทีมมาร์เก็ตติ้งครับ

 

Let me introduce myself. I’m Jan from the marketing team.

ขอแนะนำตัวสักหน่อยนะคะ ดิฉันชื่อแจน มาจากทีมมาร์เก็ตติ้งค่ะ

 

For those of you who don’t know me, my name’s Jane from the operation management team.

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักดิฉันนะคะ ดิฉันชื่อเจน มาจากทีมการจัดการการผลิตค่ะ

บอกหัวข้อหลักของการพรีเซนต์…

 

What I’d like to present to you today is our annual sales report.

สิ่งทีผมต้องการจะนำเสนอในวันนี้คือรายงานยอดขายประจำปี

 

As you can see on the screen, our topic today is our annual sales report.

อย่างที่คุณเห็นบนหน้าจอ หัวข้อในวันนี้คือการรายงานยอดขายประจำปี

 

In my presentation I would like to report on our annual sales report.

ในการนำเสนอ ดิฉันจะชี้แจงเรื่องรายงานยอดขายประจำปี

 

I’m here today to present our annual sales report.

วันนี้ฉันจะมานำเสนอเรื่องการรายงานยอดขายประจำปี

บอกจุดมุ่งหมายของการพรีเซนต์…

 

The purpose of this presentation is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์ของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

 

My main objective for today is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์หลังของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

บอกหัวข้อย่อยที่จะพรีเซนต์…

 

I’ve divided my presentation into three main parts.

ผมได้แบ่งการนำเสนอนี้ออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

In my presentation I’ll focus on three major issues.

ในการนำเสนอ ผมจะมุ่งไปที่ 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

I thought it would be useful to divide our talk into three main sections.

ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์มาก ถ้าแบ่งการนำเสนอออกเป็น 3 ส่วน

บอกลำดับเรื่องที่จะพรีเซนต์…

 

First of all, I’d like to give you an overview of

our monthly sales report.

Next, I’ll focus on

our annual sales report.

Lastly, I’ll deal with

our company goals for next year.

อันดับแรก ดิฉันขอเริ่มด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ดิฉันจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และสุดท้าย จะจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าค่ะ

 

So, I’ll begin by bringing you up-to-date on

our monthly sales report.

And then, I’ll go on to

our annual sales report.

I’ll end with

our company goals for next year.

ผมจะเริ่มต้นด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ผมจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าครับ

บอกระยะเวลาของการพรีเซนต์…

 

This should only last 20 minutes.

การนำเสนองานจะใช้เวลา 20 นาที

 

My presentation will take about an hour.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

It will take about 1 hour and a half to cover these issues.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อพูดถึงหัวข้อทั้งหมด

 

 

บอกเรื่องเอกสารประกอบการบรรยาย…

 

I’ll be handing out copies of the slides at the end of my talk.

ผมจะแจกเอกสารหลังจากจบการพรีเซนต์นะครับ

 

I can email the PowerPoint presentation to anybody who wants it.

ดิฉันจะส่งอีเมลแนบเพาเวอร์พ้อยท์ที่พรีเวนต์วันนี้ให้ผู้ที่ต้องการนะคะ

ปิดท้ายด้วยการให้ผู้ฟังถามคำถามหลังการพรีเซนต์…

 

There will be time for questions after my presentation.

เดี๋ยวจะมีช่วงให้ถามคำถามในตอนท้ายของการนำเสนอนะคะ

 

 

  

ทั้งหมดนี้คือการแนะนำตัวภาษาอังกฤษทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการค่ะ ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากบัสถานการณ์ของตัวเองได้นะคะ

ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นฝึกฝน และซ้อมบ่อย ๆ เพราะจะช่วยเรื่องการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นตัวของตัวเองค่ะ

 

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ Indeed

เว็ปไซต์ HQ hire

เว็ปไซต์ Interview Questions

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิก

[NEW] 25 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง | โดดเรียน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ไม่ได้มีเฉพาะในภาษาไทยเท่านั้น สำหรับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “โกหก” โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษนั้นมีคำศัพท์ที่เป็นทั้งคำนามและคำกริยาที่เป็นคำโกหกได้ เช่น Biggest Lies ที่แปลว่า โกหกคำโต, Canard ที่แปลว่า รายงานเท็จ, Pretend ที่แปลว่า เสแสร้ง, Deception ที่แปลว่า การหลอกลวง และ Fake ที่แปลว่า สร้างเรื่อง เป็นต้น

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง

ดังนั้นในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า “โกหก” กัน และจะถูกนำมาใช้ในประโยคแบบไหน มาดูกันได้เลย…

1. Bluff

Bluff (บลัฟ) แปลว่า การหลอกให้หลงกล

ตัวอย่างการใช้ : Is he going to jump or is he only bluffing? แปลว่า นี่เขากำลังจะโดดจริง ๆ หรือแค่หลอกให้หลงกลเฉย ๆ

2. Canard

Canard (แค นาร์ด) แปลว่า เรื่องเท็จ รายงานเท็จ

ตัวอย่างการใช้ : Look! It is a canard แปลว่า ดูสิ นี่มันรายงานเท็จนี่

3. Deceit

Deceit (ดิ ซีท) แปลว่า การหลอกลวง

ตัวอย่างการใช้ : Finally, his deceits were revealed แปลว่า ในที่สุดการหลอกลวงของเขาก็ถูกเปิดโปง

คำโกหกในภาษาอังกฤษ เขาพูดยังไง?

4. Deception

Deception (ดิ เซพ เชิ่น) แปลว่า การหลอกลวง ตบตา

ตัวอย่างการใช้ :  It wasn’t really magic – just some kind of clever visual deception แปลว่า ไม่ใช่เวทมนตร์อะไรหรอก มันก็แค่ภาพตบตาเจ๋ง ๆ

5. Distortion

Distortion (ดิส ทอร์ เชิ่น) แปลว่า การบิดเบือน

ตัวอย่างการใช้ : False retelling of events is an example of distortion แปลว่า การเล่าเรื่องแบบผิด ๆ เป็นตัวอย่างของการบิดเบือน

6. Equivocation

Equivocation (อิค ควิ เวอะ เค เชิ่น) แปลว่า การพูดกำกวม อ้อมค้อม

ตัวอย่างการใช้ : He answered openly without equivocation แปลว่า เขาตอบคำถามอย่างเปิดเผย ปราศจากการพูดกำกวม

7. Exaggeration

Exaggeration (อิ๊ค แซก เจอะ เร เชิ่น) แปลว่า การพูดเกินจริง

ตัวอย่างการใช้ : Honestly, without any exaggeration, the fish was three metres long แปลว่า นี่ไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะ ตัวปลามันยาวตั้ง 3 เมตรจริง ๆ

8. Fable

Fable (เฟเบิ้ล) แปลว่า เรื่องโกหก เรื่องที่แต่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้ : What you have said is just a fable แปลว่า ที่เธอพูดมามันเรื่องโกหกทั้งนั้น

9. Fabrication

Fabrication (แฟ บริ เค เชิ่น) แปลว่า การปลอมขึ้นมา

ตัวอย่างการใช้ : The whole story about how her stepson died was a fabrication แปลว่า เรื่องการตายทั้งหมดของลุกเลี้ยงเธอมันเป็นเรื่องปลอม

การใช้ Apology vs Apologise ต่างกันอย่างไร?

Link : seeme.me/ch/englishafternoonz/k77dRk?pl=EpPYVE

10. Fairy tale

Fairy tale (แฟรี่ เทล): เรื่องแหกตา เรื่องโกหก

ตัวอย่างการใช้ : He’s telling us another fairy tale about how great the software will be แปลว่า เขากำลังเล่าเรื่องแหกตาเกี่ยวกับความดีงามของซอฟต์แวร์ตัวนี้ให้เราฟัง

11. Fallacy

Fallacy (แฟล เลอะ ซี่) แปลว่า เรื่องหลอกลวง

ตัวอย่างการใช้ : It’s a common fallacy that women are worse drivers than men แปลว่า เรื่องหลอกลวงที่รู้กันดีคือผู้หญิงขับรถแย่กว่าผู้ชาย

12. Falsehood

Falsehood (ฟ้อลซ์ หูด) แปลว่า การโกหก

ตัวอย่างการใช้ : She doesn’t seem to understand the difference between truth and falsehood แปลว่า ดูเหมือนว่านางจะไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับการโกหกนะ

13. Falsify

Falsify (ฟ้อลซิไฟย์) แปลว่า ปลอมแปลง

ตัวอย่างการใช้ : The certificate had clearly been falsified แปลว่า ประกาศนียบัตรนี่ถูกปลอมแปลงชัด ๆ

14. Falsity

Falsity (ฟ้อลซิติ) แปลว่า เรื่องปลอม

ตัวอย่างการใช้ : Believe me, it’s not the falsity แปลว่า เชื่อฉันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องปลอมนะ

15. Fib

Fib (ฟิบ) แปลว่า โกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ

ตัวอย่างการใช้ : I can tell he’s fibbing because he’s smiling! แปลว่า ฉันบอกได้เลยว่าเขาโกหกอยู่ ก็เพราะเขากำลังยิ้มอยู่นั่นไงล่ะ!

คำโกหกในภาษาอังกฤษ เขาพูดยังไง?

16. Fiction

Fiction (ฟิค เชิ่น) แปลว่า เรื่องโกหก

When he’s telling you something, you never know what’s fact and what’s fiction แปลว่า ตอนที่เขากำลังเล่าเรื่องบางอย่าง เธอไม่เคยรู้เลยว่าอันไหนเรื่องจริงกันไหนโกหก

17. Half-truth

Half-truth (ฮ้าฟ ทรูท) แปลว่า เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง

ตัวอย่างการใช้ : I don’t care! half-truth is a whole lie แปลว่า ฉันไม่สนใจหรอก เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก็คือเรื่องโกหกนั่นแหละ

18. Humbug

Humbug (ฮัม บั๊ก) แปลว่า การหลอกลวง ต้มตุ๋ม

ตัวอย่างการใช้ : Don’t try and humbug me, tell me everything แปลว่า อย่าแม้แต่จะลองหลอกฉัน บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้

19. Invention

Invention (อิน เว้น เชิ่น) แปลว่า การกุเรื่องขึ้น เรื่องที่กุขึ้น

ตัวอย่างการใช้ : Her story is a total invention แปลว่า เรื่องของเธอน่ะมันเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งหมด

20. Jive

Jive (ไจ้ฟ์) แปลว่า หลอก เรื่องเหลวไหล

ตัวอย่างการใช้ : Quit jiving me and just tell me where you were! แปลว่า เลิกหลอกฉันได้แล้ว แค่บอกมาซะทีว่าเธออยู่ไหน!

21. Libel

Libel (ไล้ เบิ้ล) แปลว่า ใส่ร้ายป้ายสี

ตัวอย่างการใช้ : She threatened to sue that guy for libel แปลว่า เธอขู่ว่าจะฟ้องผู้ชายคนนั้นข้อหาใส่ร้ายเธอ

22. Mendacity

Mendacity (เมน แด ซิ ติ) แปลว่า การโกหก

ตัวอย่างการใช้ : You need to overcome this mendacity, or no one will ever believe anything you say แปลว่า คุณต้องเอาชนะการโกหกนี่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเชื่อที่คุณพูดอีกเลย

23. Untruth

Untruth (อัน ทรู้ท) แปลว่า คำโกหก

ตัวอย่างการใช้ : Don’t told him an untruth แปลว่า อย่าโกหกเขาเชียว

24. Whopper

Whopper (ว้อพ เผอะ) แปลว่า การโกหกที่ร้ายแรง

ตัวอย่างการใช้ : He told us a real whopper แปลว่า เขาเล่าเรื่องโกหกคำโตให้เราฟังเลยล่ะ

25.  Liar

Liar (ไล อ่าร์) แปลว่า คนขี้โกหก

ตัวอย่างการใช้ : Don’t trust him, he is such a liar แปลว่า อย่าไปเชื่อเขา เขาเป็นคนขี้โกหก

ที่มา : www.dailyenglish.in.th

Written by : Toey


教室吃零食的一些奇聞軼事


上課的時候就要專心上課。邊上課邊吃零食,不只耽誤學習,還有衛生疑慮。零食高熱量低營養,平時少吃不肥胖。
百萬開箱密技 https://youtu.be/C6nTbTvgmTE
鬼滅大廚https://youtu.be/2eXodPuA7v8
奇多哥與小恩恩https://youtu.be/taky7ntUZyA
奇多哥善惡論 https://youtu.be/Dq3xsWes9KQ
爆笑網路金句https://youtu.be/rriYYHrmBFA
教室吃零食的一些奇聞軼事https://youtu.be/7apE3sSS4TA
學校37人https://youtu.be/_avKKINQnN0
PUBG真人版 謀略篇 https://youtu.be/QBt7t2sTQUg
巧克力勇氣1 https://youtu.be/ezJ082CROAc
巧克力勇氣2 https://youtu.be/9gIaXjaMhDI
少年的煩惱1 https://youtu.be/ELOh0Taqu4E
少年的煩惱2 https://youtu.be/JBlL91ApUiI
校園秘密檔案 https://youtu.be/xVkZeQUzJyE
笑話大帝國 https://youtu.be/bGsSh06xFVA
一堆奇怪的玩具 https://youtu.be/VTMea4kkIQg

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

教室吃零食的一些奇聞軼事

เอาชีวิตรอดในโรงเรียน ผมจะไม่โดดเรียนแล้วครับ ! | Roblox


FB : https://www.facebook.com/guyngid12\r
Fanpage : https://www.facebook.com/GuyngidFanpage\r
IG : https://www.instagram.com/guy.ariya

เอาชีวิตรอดในโรงเรียน ผมจะไม่โดดเรียนแล้วครับ ! | Roblox

Easy English Words Lesson 1 โดดเรียน ในภาษาอังกฤษ คือ!!??


เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี กับ อ.จบจาก USA
ในรายการ Easy English Words
Lesson 1 โดดเรียน ในภาษาอังกฤษ คือ!!?? https://youtu.be/6ehYWY6lyE8
Lesson 2 โคตรเซ็ง ในภาษาอังกฤษ คือ ? และ I am boring ไม่ได้แปลว่า ชั้นเบื่อ !! https://youtu.be/qPXgPrR5xXc
Lesson 3 คำว่า กาก ในภาษาอังกฤษ คือ !!
https://youtu.be/7weu5eK1GvM
Lesson 4 คำศัพท์ที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายแตกต่างกัน !!
https://youtu.be/Bs0AH90ATUE
Lesson 5 คำศัพท์คำเดิม แต่พอเติม S ความหมายเปลี่ยน !!
https://youtu.be/6Yk7wibtDHY
Lesson 6 เรียนคำศัพท์ กับ The Mask Singer
https://youtu.be/v7SdKYYUWfU
Lesson 7.1 ศัพท์คำเดียวแต่มีหลายความหมาย ตอน 1
https://youtu.be/DI5yX6AcaHY
Lesson 7.2 ศัพท์คำเดียว แต่มีหลายความหมาย ตอน 2
https://youtu.be/IKnwvFVDDJ0
Lesson 7.3 ศัพท์คำเดียว แต่ มีหลายความหมาย ตอน 3
https://youtu.be/P8IpydvpRN4
Lesson 8.1 Word Building
การสร้างคำศัพท์ขึ้นมาใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 1
https://youtu.be/ISRTi2SCOtw
Lesson 8.2 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 2
https://youtu.be/ZUlz8kosG8
Lesson 8.3 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นมาใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 3
https://youtu.be/v3uInnEPz6o
Lesson 8.4 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 4
https://youtu.be/aGjjuXBWaQ
Lesson 8.5 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 5
https://youtu.be/jhm05UgJMjs
Lesson 8.6 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 6
https://youtu.be/KNZCJjDtdpE
Lesson 8.7 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 7
https://youtu.be/Zul4zzxFOU
Lesson 8.8 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 8
https://youtu.be/YMLW0QUbv0
Lesson 8.9 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 9
https://youtu.be/UZECnrpOu9k
Lesson 8.10 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 10
https://youtu.be/G4wzZCpXEgY
Lesson 8.11 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 11
https://youtu.be/VZaaOzOxmH0
Lesson 8.12 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 12
https://youtu.be/2lxt_2xPoTg
Lesson 8.13 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 13
https://youtu.be/MmQxgiskeo
Lesson 8.14 Word Building การสร้างคำศัพท์ขึ้นใหม่ จากศัพท์คำเดิม ตอน 14
https://youtu.be/Spc48rxoDh8

Easy English Words  Lesson 1  โดดเรียน ในภาษาอังกฤษ คือ!!??

ออสตินโดดเรียน มุกแป้ก ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ?? #อดัมไลฟ์


สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ @ajarnadam หรือโทร 02 612 9300
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
อาจารย์อดัม

ออสตินโดดเรียน มุกแป้ก ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ?? #อดัมไลฟ์

คุณพ่อรวย ช่วยไม่ได้ วีคิดสมาย เดอะมูฟวี่ EP 2 !!! น้องดาว


สวัสดีค่ะ สำหรับเทปนี้ น้องดาวมีคลิปสนุกๆ มาให้ชมกันนะคะ จะเป็นยังไง เราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ ติดต่องานได้ที่ [email protected]
……………………………………….
!!! Live แฟนเพจ : https://goo.gl/vn3hMm
สโมสรเด็กยิ้ม : https://goo.gl/ajNpMr
ช่องน้องดาว : https://goo.gl/BxtB5i
ช่องน้องต้นน้ำ : https://goo.gl/7ey4RG

คุณพ่อรวย ช่วยไม่ได้ วีคิดสมาย เดอะมูฟวี่ EP 2 !!! น้องดาว

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ โดดเรียน ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *