เรียน ทำงาน ต่าง ประเทศ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
สวัสดีค่ะชาว Dek-D ที่ผ่านมามีน้องๆ สนใจและสอบถามเกี่ยวกับการเรียนสายวิทย์สุขภาพในต่างประเทศเยอะมาก วันนี้เราเลยขอพาไปส่องชีวิต 11 คนไทยที่ไปเรียนและทำงาน แพทย์, ทันตแพทย์, พยาบาล, ชีวเคมี, วิศวกรรมชีวการแพทย์ ฯลฯ มีทั้งจากสาธารณรัฐเช็ก, รัสเซีย, นอร์เวย์, เยอรมนี, จีน, เกาหลี, อเมริกา แน่นอนค่ะว่าเล่าแบบเห็นภาพบรรยากาศ เราเชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจและทำให้ทุกคนได้เห็นแนวทางการเดินเส้นทางนี้ในต่างประเทศแน่นอนค่ะ 🙂
Table of Contents
1
เด็กทุนรัฐบาลรัสเซีย
เริ่มเรียนแพทย์ด้วยภาษาที่ไม่คุ้นเคย
การเรียนแพทย์ในภาษาที่ไม่คุ้นเคย เป็นอีกหนึ่งความท้าทายมากๆ ค่ะ ในนี้มีรีวิวจากนักเรียนทุนรัฐบาลรัสเซียที่ได้ไปเรียนคณะแพทย์ที่ Moscow State University of Medicine and Dentistry (MSUMD) เป็นหลักสูตร 6 ปี + ปรับพื้นฐาน 1 ปี เล่าให้ฟังแบบครบทั้งเนื้อหาเรียน ภาษา สภาพแวดล้อม สังคม สวัสดิการ รวมถึงตอบข้อสงสัยว่าหากจบหมอที่รัสเซียจะกลับมาเป็นหมอที่ไทยได้มั้ย? ต้องเดินเรื่องยังไงบ้าง? บทสัมภาษณ์นี้มีคำแนะนำเบื้องต้นให้ค่ะ
“เนื้อหาเรียนปี 1 เรียนวิทย์พื้นฐาน คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ (เราเข้าใจได้เร็วเพราะมีเรียนตอนปรับพื้นฐานมาแล้ว ในขณะที่คนรัสเซียเค้าจบ ม.ปลายแล้วขึ้นปี 1 เลย) เรียน Anatomy ต้องท่องทุกส่วนของร่างกายเป็นภาษารัสเซียและภาษาละติน และปีหลังจากนั้นจะเรียนพวกโครงสร้างการทำงานของร่างกาย ไบโอเคมี และเริ่มเรียนแพทย์แต่ละแขนง เช่น ศัลกรรม สูติเวช ฯลฯ ครับ”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
2
ชีวิต 17 ปีในอังกฤษ
จาก นร.ไฮสคูลสู่แพทย์หญิง
เป็นอีกรีวิวที่น่าสนใจมากค่ะ! พี่คนนี้ไปเรียนประเทศอังกฤษตั้งแต่มัธยมจนได้เป็นแพทย์ที่นั่น เล่าให้เห็น process ก่อนจะได้เข้าเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ University of Birmingham ซึ่งเป็นหลักสูตร 5 ปี เมื่อเรียนจบจะได้ MBChB (Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery) ค่ะ ในบทสัมภาษณ์นี้จะรีวิวครบทั้งหลักสูตรตั้งแต่ปี 1-5 จนได้ทำงานและสมัครเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางด้วย เจาะลึกไปถึงเรื่องรายได้และลักษณะคนไข้ที่เจอ (อิงจากปี 2560) เก่งแบบไปสุดมาก!
“สองปีแรกเป็น Pre-Clinical มาถึงปีแรกก็เริ่มเรียนวิชาทางการแพทย์เลย เช่น สรีรวิทยา จริยธรรมทางการแพทย์ กายวิภาคศาสตร์ ชีวเคมีทางการแพทย์ พอปี 2 ก็จะเรียนคล้ายๆ กัน โดยที่นี่เค้าจะให้นักศึกษาได้สัมผัสคนไข้ตั้งแต่ปีแรก และทุกๆ 2 อาทิตย์จะมี 1 วันที่เราจะได้ไปเรียนรู้และคุยกับคนไข้ ได้ฝึกเจาะเลือด วัดความดัน อะไรต่างๆ นานา ซึ่งอันนี้จะมีไปจนถึงปี 4 เลย”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
3
นักเรียนแพทย์ใน Czech
เรียนยากเบอร์ไหน?
ต่อกันที่นักศึกษาแพทย์ ม.ชาร์ลส์ (First Faculty of Medicine, Charles University) ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป เก่าแก่พอๆ กับ Oxford และชื่อเสียงยังเป็นอันดับต้นๆ ในยุโรปด้วยนะคะ หากเรียนจบจะได้ใบประกอบวิชาชีพของเช็ก ทำงานได้ในสหภาพยุโรป (EU) หรือถ้าอยากกลับมาทำงานที่ไทยก็จะมีช่องทางเหมือนกัน
“ยากสุดยกให้วิชา Anatomy เจอกันตั้งแต่ปี 1 เทอม 1 เพราะที่นี่ไม่ได้เริ่มด้วยวิชาทั่วไป แต่เริ่มด้วยวิชาแพทย์เลยค่ะ ทำให้มี่ได้ทำความรู้จักกับอาจารย์ใหญ่ หรือ Cadavers รู้สึกเหมือนเปิดโลกมากเพราะมันต่างจากมัธยมโดยสิ้นเชิง วิชากายวิภาคเราเรียนต้องจำละเอียดยิบย่อยมากๆ รู้สึกเหมือนสิ่งที่เรียนมาตลอด 6 ปีในช่วงมัธยม ยังไม่เยอะเท่าวิชานี้ตัวเดียว (แต่ก็สนุกนะ!) มีผ่าอาจารย์ใหญ่ด้วย ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นจากการอ่าน textbook”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
4
กว่าจะติดที่หมอที่นอร์เวย์
ใน ม.ที่คะแนนคณะแพทย์สูงสุดในประเทศ
หลังจบ ม.3 เธอต้องแพ็กกระเป๋าและความฝันที่อยากเป็นหมอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในนอร์เวย์ที่ต่างกับไทยมากทั้งเรื่องภาษา สังคม วัฒนธรรม ค่าครองชีพ ระบบเรียน การสมัครเรียน แม้กระทั่งค่านิยมที่คนนอร์เวย์ให้ค่ากับประสบการณ์มากกว่า ข้อดีคือคนเรียนหมอที่นี่ก็ได้เงินสนับสนุนค่าเทอมด้วย แต่นั่นยิ่งทำให้การสอบเข้าหมอยากชนิดเด็กนอร์เวย์บางคนยังเลือกไปต่างประเทศแทน ส่วนเธอคนนี้ไฟต์หนักจนติดหมอที่ Universitetet i Oslo (UiO) ซึ่งคะแนนคณะแพทย์สูงที่สุดในประเทศค่ะ ใครที่อยากเรียนต่อประเทศนี้ก็สามารถอ่านเป็นแนวทางการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยได้นะคะ 🙂
“UiO คือม.แพทย์ที่เข้ายากที่สุดเพราะอยู่ในเมืองหลวงและมีความหลากหลายสูง ยิ่งเจอช่วงโควิดก็ทำให้คนสมัครสายสุขภาพพุ่งเป็นอันดับ 1 มีประมาณ 60,000 คนจากคนที่สมัครเรียนทั้งหมด 150,000 คน และคนที่เลือก Oslo ไว้อันดับ 1 มี 1,300 คนจาก 3,000 คนที่สมัคร อัตราแข่งขัน 1:100 และจากเกรดต่ำสุดปีที่แล้ว 68.5 ผลออกมาคืออัปขึ้นมาเป็น 69 (เห็นแบบนี้ กว่าจะขึ้นสักจุดคือยากมากกก) การสมัครมหาวิทยาลัยที่นี่ต้องใช้เกรดล้วนๆ ไม่มีสอบเข้านะคะ”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
5
พยาบาลห้องฉุกเฉินใน ‘เยอรมนี’
สมรภูมิงานรอบทิศ สติต้องมี ภาษาต้องได้!
คนไทยที่ถือใบประกอบวิชาชีพพยาบาลถึง 3 ประเทศ ทั้งไทย เยอรมนี และอเมริกา โดยพาร์ตใหญ่ของบทสัมภาษณ์คือการเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉิน 2 ปีที่เยอรมนี ก่อนจะสอบติดใบประกอบของอเมริกาในภายหลัง รับรองได้แรงบันดาลใจและข้อคิดดีๆ จากเรื่องราวของเธอแน่นอนค่ะ
6
เปิดใจอาชีพ Flight nurse
งานพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล
หลายคนคิดว่าถ้าเรียนจบพยาบาล ก็จะต้องทำงานแค่ในโรงพยาบาล แต่จริงๆ แล้วข้อดีและความพิเศษของการเป็นพยาบาลก็คือสามารถทำงานได้หลากหลายมากๆ เช่น สามารถเป็นเซลส์ขายยา ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำธุรกิจ หรือแม้แต่ “Fligtnurse” ที่ทำงานบนอากาศ! อยากรู้จักอาชีพนี้มากขึ้นมั้ย? คลิกอ่านต่อในบทความกันค่ะ
7
เส้นทางเรียนทันตะฯ
จบมาเป็นเจ้าของคลินิกที่วอชิงตัน
มาคุยกับครู KAYLEE เจ้าของยูทูบแชนเนลยอดตามหลักแสนกันค่ะ ชีวิตเธอดูเหนือความคาดหมายมาก จากเด็กโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล พลิกไปเริ่มต้นชีวิตเด็กไฮสคูลที่ Hawaii โดยที่ภาษาแทบจะเป็นศูนย์ จากนั้นเรียนต่อ ป.ตรีนิติวิทยาศาสตร์ ตามด้วยการเป็นผู้ช่วยหมอฟัน และเรียนจบทันตแพทย์ที่ Las Vegas ด้วยคะแนน Top10 ของรุ่น และมีดีกรีเป็นถึงรองประธานนักเรียน พอเป็นหมอฟันคลินิกหนึ่งได้สักระยะ ก็จับพลัดจับผลูเป็นเจ้่าของคลินิกแห่งหนึ่งในรัฐ Washington!
กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย มาดูกันว่าเส้นทางกว่าจะเป็นหมอฟันที่อเมริกาต้องผ่านกี่ด่าน? แล้วชีวิตเรียนและทำงานสายนี้ต้องเจอความท้าทายอะไรบ้าง?
“มันยากกว่าตอนเรียนนิติวิทยาศาสตร์เป็นพันๆ เท่า ช่วงปีแรกกับปีที่ 2 เจอไป 13 คลาส รวม 33 หน่วยกิตต่อเทอม เนื้อหาเจาะลึกเรื่องทันตะฯ และเรื่องวิทย์สุขภาพเหมือนกับแพทย์เลย เพราะสุขภาพช่องปากและส่วนอื่นๆ เชื่อมโยงกันหมด อย่างวิชาที่คนตกกันเยอะๆ คือ Anatomy & Physiology ซึ่งก็คือกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาค่ะ”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
8
แพทย์แผนจีน ม.เซี่ยงไฮ้
ถ้าใครเคยติดตามซีรี่ส์ “แดจังกึม” หรือ “หมอโฮจุน” น่าจะพอจำเรื่อง “การฝังเข็ม” ได้ใช่มั้ยคะ 🙂 ศาสตร์การรักษาของชาวจีนนี้ดูมหัศจรรย์และน่าเหลือเชื่อสำหรับหลายคนมากๆ อีกทั้งยังจุดประกายให้หลายคนอยากไปเรียนฝังเข็มเหมือนในซีรีส์ อย่างเช่นนักเรียนไทยที่ได้ทุน Shanghai municipal government scholarship B (Partial scholarship) ไปเรียนคณะแพทย์แผนจีนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ทุนนี้เป็นทุนรัฐบาลตามเมือง ครอบคลุมค่าเทอมและค่าประกันเลยค่ะ
9
นศพ.ที่ไปแลกเปลี่ยนถึงเกาหลีใต้
Kyungpook National U.
เรื่องราวประทับใจของนักศึกษาแพทย์ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนผ่านโครงการของศิริราชเป็นระยะเวลา 1 เดือนที่ Kyungpook National University เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ การเรียนและทำงานของนักศึกษาแพทย์ที่นั่นจะเป็นยังไง? เหมือนในซีรีส์ที่เราดูมั้ย? มาเก็บแรงบันดาลใจดีๆ กันค่ะ!
“เราได้ไปทำงานในส่วนของ Orthopedics (เกี่ยวกับกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ) และ Surgery (ศัลยศาสตร์) ค่ะ นอกจากฟังเลกเชอร์แล้วก็ได้ออก OPD = ตรวจผู้ป่วยนอก และเข้า field = ดูงานในห้องผ่าตัด ตรงนี้เขาก็เปิดโอกาสให้เราเข้าไปยืนมองการผ่าใกล้ๆ ช่วยถือเครื่องมือด้วยก็ได้ ซึ่งถ้าพูดถึงบรรยากาศโรงพยาบาลของเกาหลีเหมือนในซีรีส์เลยค่ะ เพียงแต่จะดูธรรมดากว่าไม่ได้ตื่นเต้นแบบที่เราเห็นในฉากห้องฉุกเฉิน”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
10
เด็กทุนรัฐบาลเกาหลี
เรียนต่อ ม.การแพทย์ Konyung
พี่คนนี้ได้ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ระดับ (GKS) ไปเรียนต่อ ป.โท คณะ Biomedical Engineering (의용공학과) ที่ Konyang University (Medical Campus) ซึ่งเป็น ม.แพทย์ในเมืองแดจอน บรรยากาศในและนอก ม.คือทันสมัยมาก แต่ชีวิตวุ่นวายตั้งแต่เริ่ม ทั้งป่วยก่อนบิน ไปถึงเจอบัดดี้เท ในขณะที่พูดเกาหลีได้แค่ 2-3 คำ แล้วยังต้องไปเจอคลาส discuss มันส์ๆ ภาษาเกาหลีล้วนไปอีกกก ตามไปอ่านกันเลย!
“เนื้อหา Biomedical Engineering = วิศวะ + ชีวะ ในนั้นมีหลายหัวข้อเลย เช่น วัสดุทางการแพทย์, เครื่องมือ ระบบจัดการมาตรฐานโรงพยาบาล, เทคโนโลยีการประมวลผลทางภาพ, ชีวกลศาสตร์ ส่วนที่เรามาศึกษาลงลึกที่เกาหลีคือเทคโนโลยี 3D cell culture ที่เพาะเลี้ยงในระบบ Pillar, Chip เพืิ่อพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเซลล์สำหรับการวิจัยทดลองทางการแพทย์ ซึ่งข้อดีอย่างนึงตอนเรียน มศว คือเริ่มทำวิจัยเร็วทุกคน ต่างจากที่เกาหลีที่ต้องสนใจแล็บนั้นจริงๆ ถึงจะเริ่มเร็ว บางคนไฟแรงแบบเริ่มตั้งแต่ปี 1”
มาเก็บข้อมูลกันเลย!
11
เด็ก ป.เอกควบศิริราชฯ-ม.คยองบุก
ม.รัฐอันดับ1ในเกาหลีใต้
คนไทยที่เพิ่งเรียนจบจากโครงการปริญญาเอกร่วม (dual-Ph.D. degree program) ระหว่างภาควิชาวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กับภาควิชาชีวะเคมี คณะแพทยศาสตร์ ม.คยองบุก Kyungpook National University ของเกาหลีใต้ เรียนเป็นภาคอินเตอร์และจบมาได้ปริญญา 2 ใบด้วย แน่นอนว่าไม่ง่ายแต่น่าสนใจมาก ได้สัมผัสจุดเด่นด้านการศึกษาของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งฝั่งเกาหลีใต้หลักๆ ก็คือเรื่องทุนเลยค่ะ เพราะเขาให้ความสำคัญกับการวิจัยมาก ถ้าเรียน ป.โท-เอกการันตีว่ามีเงินเดือนให้
[ชวนอ่านต่อ]
รวมประสบการณ์เตรียมขอทุน-เรียนต่อ ป.ตรี
ม.ชั้นนำและ Ivy League
[NEW] ไปอยู่ต่างประเทศ 7 ช่องทาง ที่จะทำให้เรามีโอกาส อยู่อาศัย เรียนต่อและทำงาน | เรียน ทำงาน ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES
สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในต่างประเทศสักครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนที่เพิ่งเรียนจบ หรือคนในวัยทำงาน การได้ลองใช้ชีวิตในต่างประเทศนั้น มีข้อดีมากมายที่เราไม่ควรพลาด เช่น การได้ฝึกภาษาไปในตัว มีโอกาสได้ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ช่วยเปิดกว้างในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปจากเดิม ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนและการทำงานให้กับตนเอง อีกด้วย อ่าน.. ช่องทาง ไปอยู่ต่างประเทศ
7 ช่องทาง ไปอยู่ต่างประเทศ
เรียนต่อ ทำงาน
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ต่างก็อยากมีโอกาสไปอยู่ต่างประเทศ และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็มีโอกาสดี ๆ ที่ทำให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสไปสัมผัสการใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมาฝากกันด้วย โดยแบ่งรายละเอียดออกเป็นแต่ละวัย ได้แก่ นักเรียน (ชั้นมัธยม) นิสิต-นักศึกษา และวัยทำงาน อย่ารอช้า!! มาดูกันเลย
นักเรียน (ชั้นมัธยม)
1. โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนชั้นมัธยมนั้น ก็มีโปรแกรมฮิตในการเดินทางไปเรียนต่อกันอยู่หลายโครงการกันด้วยกัน เช่น โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งส่วนใหญ่จะรับน้อง ๆ อายุระหว่าง 15-18 ปี และมีเกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป ทั้งนี้ข้อกำหนดและรายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการด้วย น้อง ๆ จะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในการเรียนต่อต่างประเทศกันนะจ๊ะ พร้อมกับมีประเทศให้ได้เลือกไปแลกเปลี่ยนกันมากมาย เช่น ญี่ปุ่น, อเมริกา, ฝรั่งเศส, แคนาดา, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน นอกจากน้อง ๆ ได้เดินทางไปเรียนรู้การเรียนการสอนในต่างประเทศแล้ว น้อง ๆ ยังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ภาษา และได้เพื่อนใหม่อีกมากมายด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีโครงการจากหลากหลายเอเจนซี่มาให้น้อง ๆ ได้เลือกกัน เช่น AFS, YFU, EF, MPLC, BWK และ Edudee เป็นต้น หากน้อง ๆ สนใจโครงการไหนก็ไปศึกษารายละเอียดให้ดีและเตรียมตัวกันพร้อมได้เลยค่ะ ลุย!!!
นิสิต-นักศึกษา
น้อง ๆ นิสิต-นักศึกษา เรียกได้ว่ามีหลายช่องทางด้วยกัน ในการเดินทางไปเปิดประสบการณ์ในต่างประเทศ และข้อกำหนดหรือกฏเกณฑ์ก็แตกต่างกันไปตามเอเจนซี่ต่าง ๆ โดยน้อง ๆ จำเป็นที่จะต้องสอบถามข้อมูล ศึกษารายละเอียด และเตรียมตัวให้ดี เช่น
2. Work and Travel
Work and Travel เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในประเทศต่าง ๆ เช่น อเมริกา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส เป็นต้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เดินทางไปฝึกภาษาในสถานการณ์จริง เรียนรู้ความเป็นอยู่ และฝึกวิชาชึพตามฤดูกาลในช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ประมาณ 3-4 เดือน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งน้อง ๆ จะได้ฝึกความอดทน ฝึกความเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงวิธีการเอาตัวรอด อีกด้วย
ทั้งนี้งานที่น้อง ๆ จะได้ทดลองทำนั้นมีความหลากหลาย เช่น งานในร้านอาหาร โรงแรรม รีสอร์ต สวนสนุก และขายของที่ระลึก ฯลฯ เอเจนซี่สำหรับโครงการ Work and Travel มีหลายที่ด้วยกัน เช่น ieo, Warantex, American Learning, PST Center, Click Work and Travel เป็นต้น
3. Work and Study
Work and Study เป็นโครงการทำงานและเรียนไปด้วยในต่างประเทศ ซึ่งมีประเทศให้น้อง ๆ ได้เลือกกันอย่างมากมาย เช่น แคนาดา, สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เป็นต้น คอร์สเรียนก็มีให้น้อง ๆ ได้เลือกเรียนเยอะเช่นกัน โดยระยะเวลานั้นก็จะมีตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อด้านอาหาร บริหารธุรกิจ และการจัดการด้านการบริการ ฯลฯ ส่วนงานที่น้อง ๆ สามารถทำไปได้ด้วยนั้น เช่น พนักงานเสิร์ฟ, พนักงานล้างจาน, พนักงานสปา และพนักงานต้อนรับ เป็นต้น เอเจนซี่สำหรับโครงการ Work and Study เช่น ieo, TSAB (Thai Study Abroad Consultant), Advice for you ฯลฯ
4. Work and Holiday
Work and Holiday ในปัจจุบันโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ให้กับเยาวชนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งโครงการนี้มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องมีอายุ 18-30 ปี พร้อมด้วยผลคะแนนสอบทางด้านภาษาอังกฤษ เช่น IELTS ไม่ต่ำกว่า 4.5 หรือคะแนน TOEFL ฯลฯ น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.thaiwahclub.com เป็นต้น
5. ทุนการศึกษาหรือทุนแลกเปลี่ยน
ทุนการศึกษาหรือทุนแลกเปลี่ยน นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น้อง ๆ หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปด้วยทุนต่าง ๆ เช่น ทุนครึ่งจำนวน, ทุนจำนวนเต็ม, ทุนให้เปล่า, ทุนรัฐบาล และทุนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ทุน ก.พ. จากรัฐบาลไทย, ทุน EF, ทุน Full Bright จากอเมริกา, ทุน Chevening จากอังกฤษ, ทุน Endeavour Awards จากออสเตรเลีย และทุน DAAD จากเยอรมัน เป็นต้น
วัยทำงาน
สำหรับคนที่เรียนจบแล้ว หรืออยู่ในวัยทำงานที่อยากจะเปิดโอกาสให้กับตนเองได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในต่างประเทศดูบ้าง ก็มีหลายช่องทางด้วยที่จะทำให้เราได้ทำตามความฝันของเรา เช่น
6. โครงการออแพร์ (AuPair)
โครงการออแพร์ (AuPair) เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับครอบครัวในต่างแดน ที่เราสามารถเลือกไปได้ในหลายประเทศ เช่น เยอรมัน, เนเธอร์แลนด์, เบลเยี่ยม, แคนาดา, อเมริกา, เดนมาร์ก ฯลฯ ซึ่งจะมีโครงการพี่เลี้ยงเด็กในต่างแดนให้เราได้เลือกกันนั่นเอง โดยมีรายได้เป็นรายสัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่อยากจะลองไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ เพราะมีรายได้ แถมยังมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ และที่สำคัญเรายังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ จากคนในท้องถิ่น ได้เรียนรู้ภาษาจากเข้าของภาษาจริง ๆ อีกด้วย น้อง ๆ เข้ามาดูรายละเอียดกันได้เลย www.american-learning.com
7. Work on Cruise
Work on Cruise หรือทำงานบนเรือสำราญ เหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักในงานด้านบริการ มีอายุระหว่าง 21-35 ปี รายได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว แต่เราก็ต้องใช้ความอดทนสูงเหมือนกันในทำงานบนเรือสำราญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับผู้คนมากมายจากหลายประเทศ หลากหลายวัฒนธรรมจากทั่วโลก รับรองได้เลยว่าเราจะได้ทั้งเรียนรู้ภาษา ได้เพื่อนใหม่ และประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกมากมาย
โดยตำแหน่งงานที่เปิดรับนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท สำหรับคนที่สนใจสมัครทำงานบนเรือสำราญจะต้องมีประสบการณ์ด้านการทำงานด้านบริการมาก่อน และในปัจจุบันก็มีโรงเรียน/มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรสำหรับผู้ที่สนใจโดยเฉพาะ ได้แก่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยพะเยา, Study Abroad Plus, IEO Study Abroad เป็นต้น ส่วนบริษัทที่เปิดโอกาสให้คนทำงานบนเรือสำราญนั้นก็มีหลายบริษัทด้วยกัน เช่น CTI Bangkok ฯลฯ
ข้อมูลจาก : www.scholarship.in.th, ภัคสรกัญญ์ ทองคำ (iPrice)
บทความที่น่าสนใจ
How to ทำงานต่างประเทศที่คนไทยนิยมไปกัน !! | Money Matters EP.125
ต้องบอกว่าเรื่องของการย้ายประเทศกำลังเป็นกระแสที่มาแรงมากในช่วงนี้นะครับ แล้วเนื่องจากว่า
Money Matters เป็นรายการที่พูดถึงเรื่องการงานและการเงิน เราจึงขอแบ่งความรู้ในด้านนี้มาให้ดูกันครับ
สำหรับใครที่อยากใกล้ชิดกับผมมากกว่านี้และให้การสนับสนุนช่องเพื่อสร้างสรรคอนเทนต์
แบบนี้ต่อๆไปสามารถเข้าไปสมัคร Membership กันได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA/join
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม สามารถเข้าไป
กดติดตามได้ที่ YouTube : https://www.youtube.com/paulpattarapon
ช่องทางการติดตาม
Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
Website : https://www.paulpattarapon.com
สนใจติดต่อโฆษณา และทำวิดีโอ YouTube
โทร : 0926648245
Email : [email protected]
Powered by AnyMind Group
MoneyMatters PaulPattarapon พอลภัทรพล
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
แรงงานไทยมาทำงานอิสราเอลใหม่ๆ รู้สึกยังงัย!!!
แรงงานไทยในอิราเอลงานสวนผลไม้เก็บผลไม้ต่างประเทศทำงานเมืองนอกทำงานอิราเอล
Giá Xe Exciter 155 \u0026 Exciter 150 Xanh Rêu Nhám | Quang Ya
Exciter Exciter155 Quangya
Xe Exciter 155 vva 2021 với các phiên bản
+ Xanh GP
+ Bản giới hạn: vàng xám
+ Cao cấp: Đỏ nhám, trắng đỏ, đen nhám
+ Tiêu chuẩn: Đỏ nhám, trắng đỏ, đen nhám
Nay bổ sung thêm 6 màu phiên bản giới hạn mới
Exxciter155 Vva phiên bản giới hạn Master Art Of Street: Xám đen, xanh đen, trắng xanh đen, xám ánh xanh bạc đen
Exciter 155 Vva Monster Energy: Đen xanh
Exciter 155 Vva Phiên bản kỷ niệm 60 năm Yamaha tranh tài MotoGP : Trắng đỏ đen
Mua xe Exciter 2021 tháng 10/2021 sẽ được: tặng kèm combo quà: nón, móc khóa, áo mưa, thay nhớt miễn phí, quay số trúng thưởng, quay số trúng xe
► Khuyến mãi tại Yamaha Sài Gòn 1, địa chỉ: 164 166C đường 3/2, P. Hưng Lợi, Q. Ninh Kiều, TP. Cần Thơ ( Đầu đường Trần Ngọc Quế)
► Liên hệ Zalo ( Cần Thơ ): 0854.234.345
► Facebook: https://www.facebook.com/QuangYa104600211991299
Bạn nào mến mình thì có thể Donate ^^ Support my work
► Msb: 07001012991581 ( Dinh Tien Quang)
Không gọi giờ nghỉ trưa và sau 7h tối nha ^^ zalo thì kết bạn thoải mái nhé ^^
อยากมาทำงานที่ต่างประเทศ ต้องทำยังไง? (นิวซีแลนด์)
💻 FB Page : จูนโกะเมาท์มอย https://www.facebook.com/junekotalkative
📷 IG : junekotalkative
🎥 Youtube : จูนโกะเมาท์มอย ichigojuneko
อยากเรียนและทำงานออสเตรเลียต้องเตรียมตัวยังไง ll Australia
➤อย่าลืมกดติดตามที่ช่องด้วยนะคะ
▲Youtube : https://goo.gl/SwC0Xh
▲Facebook page : https://goo.gl/F0PNmz
▲Instragram : https://www.instagram.com/maryy_pt/
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เรียน ทำงาน ต่าง ประเทศ