Skip to content
Home » [Update] ยุโรปตะวันออก: เช็คอิน 20 เมืองน่าเที่ยว | ประเทศแถบยุโรป – NATAVIGUIDES

[Update] ยุโรปตะวันออก: เช็คอิน 20 เมืองน่าเที่ยว | ประเทศแถบยุโรป – NATAVIGUIDES

ประเทศแถบยุโรป: คุณกำลังดูกระทู้

เมื่อพูดถึงทวีป “ยุโรป” หลาย ๆ คน คงนึกถึงประเทศในแถบทวีปยุโรปตะวันตกกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ยุโรปไม่ได้มีดีเพียงแค่ยุโรปตะวันตกเท่านั้นค่ะ ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน และโบสถ์ยุคกลางที่ยังคงความสมบูรณ์ วันนี้ Allianz Travel เลยไม่รอช้า ขออาสาเป็นไกด์ พาทุกคนไปเที่ยว 20 เมืองยุโรปตะวันออกกันค่ะ

มาเริ่มกันที่เมืองแรกเลยค่ะกับเมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย บูคาเรสต์เคยได้ฉายาว่า “Little Paris” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยความทันสมัยของอาคารบ้านเรือนและรสนิยมของชาวเมืองที่คล้าย ๆ กับเมืองปารีสของฝรั่งเศส ณ ขณะนั้น

เมืองบูคาเรสต์ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่องเที่ยวชมมากมาย แต่ที่โดดเด่น และถือเป็นไฮไลต์พลาดไม่ได้เลย ก็คือ พระราชวังรัฐสภา ซึ่งมีความหรูหราและอลังการ เทียบเท่าได้กับเพนตากอนของสหรัฐเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอีกหลายแห่งที่มีความโดดเด่น อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์ Romanian Athenaeum, มหาวิทยาลัยบูคาเรสต์ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นต้น

จากเมืองหลวงบูคาเรสต์ ขึ้นเหนืออีกนิดไปที่เมืองซีบีอู แคว้นทรานซิลวาเนีย ซีบีอูเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 2007 และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม ด้วยบริเวณเมืองเก่าเป็นชุมชนของชาวเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ จึงเต็มไปด้วยบ้านเรือนศิลปะแบบบาโรคและโกธิค สำหรับสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง Brukenthal, จตุรัส Piaata Mare และร้านอาหาร Crama Sibiu Vechi และเมื่อมายังแคว้นทรานซิลวาเนียแล้ว ใครที่ชื่นชอบการปีนเขา ที่นี่ก็มี Transylvania Mountain Trail ด้วยค่ะ โดยเส้นทางปีนเขาทรานซิลวาเนีย เป็นจุดหมายปลายทางของนักปีนเขาจำนวนมาก ด้วยความสวยงามของภูเขา Carpathian บวกกับภาพวิวทิวทัศน์ปราสาท Bran ปราสาทที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และตั้งตระหง่าอยู่กลางภูเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้

จากประเทศโรมาเนีย มาเที่ยวกันต่อที่เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย กับเมืองบราติสลาวา เมืองที่อยู่ติดชายแดนกับประเทศออสเตรีย สามารถนั่งรถไฟมาจากกรุงเวียนนาได้ บราติสลาวา เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง มีปราสาทเนินเขาบราติสลาวาเป็นจุดเด่นสำคัญ และเมื่อมาเที่ยวบราติสลาวาแล้ว ก็ห้ามพลาดการเยี่ยมชมพระราชวัง Primatial โรงละคร Slovenske narodne divadlo รวมไปถึงการเดินหาอาหารพื้นเมืองทานที่จตุรัสเมืองเก่า ซึ่งที่นั้นจะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ และตลาดนัด ให้เดินเล่นและทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ

สโกเปีย เมืองหลวงของประเทศมาซิโดเนียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในอดีต สโกเปียเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายอาณาจักร เช่น โรมัน ไบแซนไทน์ บัลกาเรียน เซอร์เบีย และออโตมันซึ่งปกครองเมืองยาวนานกว่า 500 ปี ด้วยเหตุนี้ สโกเปียจึงเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมทั้งคริสเตียนและอิสลาม ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ จตุรัสมาซิโดเนีย, ประตูชัยมาซิโดเนีย, โบสถ์แม่ชีเทเรซ่า, โรงละครแห่งชาติมาซิโดเนีย เป็นต้น

ดูโบรฟนิก ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติค เมืองเก่าแก่ติดชายทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชียที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว ด้วยการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Game of Thrones ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันจำนวนมากค่ะ

ดูโบรฟนิกเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปตะวันออก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 ดูโบรฟนิกมีศิลปและวัฒนธรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ หรือประติมากรรม และสถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ การเดินตามกำแพงเมืองเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์เมืองและทะเลอเดรียติคค่ะ

จากดูโบรฟนิก ขึ้นเหนือเลียบชายฝั่งมายังเมืองสปลิต เมืองชายฝั่งทางตะวันออกของทะเลอเดรียติค และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศโครเอเชียด้วยค่ะ เมื่อมาเที่ยวยังเมืองสปลิตแล้ว ก็พลาดไมได้เลยที่จะไป เยือนพระราชวังไดโอคลีเชียน พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนเมื่อศตวรรษที่ 4 และปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ โดยตัวพระราชวัง เปรียบเสมือนศูนย์กลางของเมือง ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และถนนคนเดิน

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเล ที่เมืองสปลิตก็มีชายหาดสีขาวสวยงามหลากหลายหาดให้เล่นน้ำทะเลกันด้วยค่ะ

จากโครเอเชีย ย้ายมาเที่ยวที่เซอร์เบียกับเมืองเบลเกรด เมืองหลวงของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเบลเกรดเป็นศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของยุโรป สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลาย ๆ แห่งในเมืองเบลเกรดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเบลเกรด ซึ่งมีวัตถุโบราณกว่า 3,000 ชิ้น หรือจะแวะพักผ่อนที่สวนสาธารณะเคลเมกเดน สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่รอบป้อมปราการ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเซอร์เบียที่จะพาเราดื่มด่ำไปกับงานศิลปะกว่า 400,000 ชิ้นจากหลากหลายยุคสมัย

เบลเกรดเป็นเมืองที่แม่น้ำสองสายดานูบและซาวาไหลมาบรรจบกัน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบลเกรดคือเป็นเมืองราบลุ่มที่มีเนินต่ำสลับ โดยมีทิวเขาสองแห่งตั้งเป็นกำแพงอยู่ทางใต้ ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิหนาวจัด เหมาะแก่การท่องเที่ยวค่ะ

ลูบลิยานา เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรประหว่างเทือกเขาแอลป์ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่ราบแพนโนเนียน ลูบลิยานา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและโรงแรม โดยใจกลางเมืองจะเป็นจตุรัสขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยแม่น้ำลูบลิยานาที่ไหลผ่าน ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดให้พื้นที่จตุรัสกลางเมืองเป็นพื้นที่ห้ามรถวิ่ง ทำให้มีร้านอาหาร และคาเฟ่ตลอดสองข้างทางเลียบแม่น้ำ เหมาะแก่การปั่นจักรยานเล่นกลางเมือง และถ้าใครอยากชมสถาปัตยกรรมแบบสโลวีเนีย ก็อย่าลืมแวะไปที่ปราสาทลูบลิยานา และห้องสมุดแห่งชาติ ทั้งสองสถานที่ล้วนมีความสวยงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมสโลวีเนีย

วอร์ซอเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลัก เช่น เหล็กกล้า รถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาอีกด้วย โดยสถานที่เที่ยววอร์ซอแบ่งได้เป็นสามโซนหลัก ๆ ด้วยกันคือ โซน Old Town โซน Royal Route และโซนเมืองใหม่

โซนเมืองเก่าเป็นโซนที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากการเสียหายจากภัยสงครามโลก สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในโซนเมืองเก่า ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยคงรูปแบบเดิมเอาไว้ และสำหรับใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์เมืองเก่าแห่งนี้ ก็มีพิพิธภัณฑ์ Warsaw Rising Museum ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์เมืองให้ศึกษาอีกด้วยค่ะ

จากวอร์ซอ มาต่อกันที่เมืองคราโคว เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศโปแลนด์ และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไฮไลต์ของเมือง อยู่ที่ย่าน Old Town ซึ่งจะมีอาคารบ้านเรือน พระราชวัง และโบสถ์เก่าแก่จำนวนมาก ที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ปราสาทพระราชวังวาเวล และโบสถ์ St. Adabert โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบพันปี และปิดท้ายทริปด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Schindler พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยที่กองทัพนาซีของเยอรมันเข้ายึดครองเมือง ซึ่ง พิพิธภัณฑ์ Schindler ตั้งอยู่บนโรงงานเดิมของ Oscar Schindler นักอุตสาหกรรมชาวเยอรมันที่ได้ช่วยชีวิตชาวยิวในเมืองคราโควกว่า 1,200 คน เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยค่ะ

เมื่อพูดถึงประเทศบัลแกเรีย หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงโยเกิร์ตกันเป็นอันดับแรก แต่บัลแกเรียไม่ได้มีดีแค่โยเกิร์ตนะคะ เพราะบัลแกเรียเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเมืองที่เราจะพาไปเที่ยววันนี้ก็คือเมืองหลวงของประเทศ อย่างเมืองโซเฟียค่ะ

โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารักที่เต็มไปด้วยอาคารเกร๋ ๆ แต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล เหมาะแก่การเดินเล่นชิล ๆ และถ่ายรูปสวย ๆ เป็นที่ระลึก ขณะที่ ภายในเมืองก็มีร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารจำนวนมากในบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ และหากใครไปโซเฟียทั้งทีก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวอาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์สไตล์ออร์โธด็อกซ์ของบัลแกเรีย จากนั้นแวะไปเที่ยวที่โบสถ์โบยานา (Boyana Church) โบสถ์เล็ก ๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดูข้างนอกอาจจะธรรมดา แต่ภายในเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามค่ะ

จากบัลแกเรีย มาต่อกันที่ประเทศเล็ก ๆ อย่างเอสโตเนีย กับเมืองหลวงทาลลินน์ เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงามมากมาย และตลอดสองข้างทางของเมือง ก็เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ โดยไฮไลต์สำคัญของเมืองคือการเยี่ยมชม ทาวน์ฮอลล์สไตล์โกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป รวมไปถึงแลนมาร์คสำคัญของเมืองอย่างโบสถ์เซนต์โอลาฟ ซึ่งภายในโบสถ์จะมีจุดให้เราชมวิวทิวทัศน์เมืองแบบ 360 องศา

เอสโตเนีย มีขนาดพื้นที่โดยรวมแค่ประมาณ 45,227 ตารางกิโลเมตร (17,462 ตารางไมล์) ทางทิศเหนือจะติดกับอ่าวฟินแลนด์ ทิศตะวันตกติดกับทะเลบอลติก ทิศใต้ติดกับปะเทศลัตเวีย ส่วนทางทิศตะวันออกจะติดกับประเทศรัสเซียนั่นเอง ทำให้สามารถเที่ยวหมดได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และสามารถนั่งรถไฟมาจากทางประเทศรัสเซียหรือทางลัตเวียได้ค่ะ

ริกา เมืองหลวงของประเทศลัตเวียที่ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก หนึ่งในสามประเทศเกิดใหม่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ริกาได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ “อาร์ตนูโว” (Art Nouveau) ด้วยความโดดเด่นของเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว ซึ่งหมายถึงการใช้รูปแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้และพืชอื่น ๆ มาทำเป็นลวดลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อย ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจภายในเมือง อาทิ Central Market, The Riga Art Nouveau Center, House of Blackheads, Latvia National Museum of Art เป็นต้น

ริกา เป็นเมืองชิล ๆ สีสันสดใส ที่สามารถเดินเล่นได้รอบเมืองเลยค่ะ ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรม เดินไปทางไหน เป็นอันต้องหยุดเพื่อแชะภาพเป็นที่ระลึก ที่สำคัญ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้หมดภายในหนึ่งวัน

จากลัตเวีย ลงทางใต้มายังประเทศลิธัวเนียที่เมืองวีลนิอุส เมืองหลวงของประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพราะความเก่าแก่ยาวนานของประวัติศาสตร์ และความสวยงามของตัวอาคารบ้านเรือนที่มีอายุมาตั้งแต่ช่วงยุคกลาง ตัวเมืองวิลนีอุสมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ สองสายไหลผ่านได้แก่ Neris กับ Vilnia จึงทำให้ภายในบริเวณเขตตัวเมืองเก่านั้นมีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่มไปทั่วทั้งเมือง และบริเวณจัตุรัสเมืองหรือ Town Hall Square จะมีสไตล์การปลูกสร้างเป็นศิลปะแบบบาโรค และบางส่วนก็จะมีส่วนผสมของศิลปะแบบโกธิครวมอยู่ด้วยค่ะ

เมื่อมายังเมืองวีลนิอุสแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดก็คือ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สังหารหมู่ (Museum of Genocide) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความโหดร้ายของการกดขี่และการสังหารหมู่ชาวลิธัวเนีย ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตนานกว่า 50 ปี

กอเตอร์ เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ติดทะเลอเดรียติค มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน เคยเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเล และศูนย์การค้าที่สำคัญในแถบทะเลเอเดรียติก กอเตอร์เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงาม รายล้อมด้วยเทือกเขาและอ่าวกอเตอร์ ภายในเมืองมีกำแพงเมือง ป้อมปราการจากอดีต คูคลองที่เชื่อมกับอ่าว และอาคารบ้านเรือนแบบยุคกลางที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดี จนความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกค่ะ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้แก่ กำแพงเมืองและป้อมกอเตอร์ กำแพงและป้อมเก่าแก่ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป, โบสถ์เลดี้ออฟเดอะร็อคส์ โบสถ์พระแม่มารีที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ, ปราสาทแห่งซาน จีโอวานนี ปราสาทเก่าแก่ยุคกลาง, โบสถ์แห่งกอเตอร์ โบสถ์โรมันคาทอลิกเก่าแก่ในเมือง

ซาราเยโวเป็นมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งเมื่อทศวรรษ 1990 ทั้งเมืองเคยกลายเป็นซากปรักหักพังจากภัยสงครามกลางเมืองก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมา กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองยอดนิยมเมืองหนึ่งของประเทศ

เมื่อมาถึงซาราเยโวแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องไปดู Kovaci Memorial Cemetery สุสานขนาดใหญ่สำหรับฝังศพชาวบอสเนียที่ทำการสู้รบกับชาวเซิรบ์ในสงครามกลางเมืองเมื่อทศวรรษ 1990 รวมไปถึงการเยี่ยมชม Sarajevo Tunnel Museum พิพิธภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งชาวบอสเนียเคยใช้เป็นอุโมงค์เพื่อหลบหนีออกไปนอกเมือง และใช้เป็นที่ส่งเสบียงอาหารเข้ามายังภายในเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Gazi Husrev-beg Mosque, Latin Bridge, Jewish Museum, Sarajevo Town Hall เป็นต้น

ปราก เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก ปรากได้รับฉายาว่า “The City of a Hundred Spires” หรือ “เมืองแห่งหนึ่งร้อยยอด” เนื่องจากทั้งเมืองเต็มไปด้วยความสวยงามและเงียบสงบท่ามกลางขุนเขา อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอาณาจักรโบราณมาเนิ่นนานตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล เมืองปรากจึงเต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่า และสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมาก จนทำให้ปรากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1992 และนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ
• สะพานชาร์ลส์ สะพานหินเก่าแก่คู่เมือปราก สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1357
• ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และภายในปราสาทยังมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ถนนทองคำ, มหาวิหารบาซิลลิกา ออฟ เซนต์จอร์จ, พระราชวังเก่า
• หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หอนาฬิกาเก่าแก่ที่ติดตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1410 และยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
• ซุ้มประตูเมือง Powder Tower ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณย่านโซนเก่า สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค ด้านบนเป็นหอคอยจุดชมวิวเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

จากกรุงปราก มาเที่ยวกันต่อที่เมืองโอโลโมซ ซึ่งตัวเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูมิภาค Moravia เคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ห่างจากกรุงปรากโดยรถไฟประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ตามเรื่องเล่า เล่ากันว่าเมืองโอโลโมซถือกำเนิดจากการเป็นป้อมปราการของชาวโรมัน โดยมีจูเลียส ซีซาร์เป็นผู้สร้างเมืองขึ้นมา ทำให้เมืองทั้งเมืองได้รับอิทธิพลทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโรมันมาทั้งหมดค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ใครมาโอโลโมซต่างต้องแวะมาก็คือ จตุรัสใจกลางเมืองที่มีเสาหิน Holy Trinity ศิลปะสไตล์บาโรคตั้งอยู่ โดยเจ้าเสาหินนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ โบสถ์เซนต์มอริสท์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศาลากลางยุคศตวรรษ 14 และพระราชวังบิชอป เป็นต้น

เบรัต เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “Town of a thousand windows” หรือเมืองที่มีหน้าต่างหลายพันบาน ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ทำให้อาคารบ้านเรือนสร้างขึ้นลดหลั่นกันตามแนวภูเขา Tomorri ไปจนถึงตัวปราสาทเบรัต เกิดเป็นภาพหน้าต่างหลายพันบานเมื่อมองมาจากข้างล่าง นอกจากนี้แล้ว ทั้งเมืองยังเป็นเมืองเก่าที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมออตโตมันไว้อย่างสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2005

เมื่อมายังเบรัตแล้ว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการขึ้นไปยังปราสาทเบรัตเพื่อชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองแบบ 360 องศา และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินกลางเมือง เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสบายแบบชาวเบรัต ที่จะพากันออกมาสังสรรค์ตามถนนกัน และถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะของชาวเบรัต ก็มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Onufri ให้เข้าชมกันค่ะ

มาถึงเมืองสุดท้ายกับเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เนื่องด้วยลักษณะของเมืองที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งบูดา และฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งเปสต์ ด้วยลักษณะเมืองที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ทำให้ภูมิทัศน์เมืองมีความสวยงามทั้งจากตัวสถาปัตยกรรม ผังเมือง สะพานข้ามแม่น้ำ และอาคารบ้านเรือน

บูดาเปสต์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ต้องใช้เวลาหลายวันในการเที่ยว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยได้ อาทิ
• สะพานเชนเซเชนยี สะพานที่พาดระหว่างแม่น้ำดานูบสองฝั่ง ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
• ปราสาทบูดา ปราสาทที่ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์ฮังการี ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติ
• โรงอาบน้ำเซเชนยี โรงอาบน้ำที่มีสปาน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในยุโรป
• จัตุรัสวีรชน สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญวีรบุรุษฮังการีในอดีต และเพื่อฉลองครบรอบ 1,000 ปีประเทศ
• เกลเลิร์ต ฮิลล์ สถานที่ชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวบูดาเปสต์ทั้งสองฝั่งได้แบบพาโนรามา
• รัฐสภาฮังการี รัฐสภาที่มีความงดงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 20 เมืองน่าเที่ยวประเทศแถบยุโรปตะวันออก หลาย ๆ เมืองอาจเป็นเมืองที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เมืองเหล่านี้ล้วนมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแห่ง รวมไปถึงสถาปัตยกรรม ศิลปะและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากสถานที่อื่น ๆ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปค้นหา เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ หวังว่าประเทศแถบยุโรปตะวันออกจะอยู่ใน “Bucket List” สำหรับแพลนเที่ยวครั้งหน้านะคะ ^^

ขอบคุณข้อมูลจาก :
25 Amazing Places in Eastern Europe You Have To Visit

Blog Disclaimer

All content provided on this blog is for informational purposes only. The content of this blog neither makes representations as to the accuracy or completeness of any information on this site, nor is construed as Allianz Travel’s offering of travel insurance, unless explicitly stated. Details of benefits, limits, policy exclusions, terms and conditions of
Allianz Travel insurance can be found under Allianz Travel
Policy Wording.

[Update] ยุโรปตะวันออก: เช็คอิน 20 เมืองน่าเที่ยว | ประเทศแถบยุโรป – NATAVIGUIDES

เมื่อพูดถึงทวีป “ยุโรป” หลาย ๆ คน คงนึกถึงประเทศในแถบทวีปยุโรปตะวันตกกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ยุโรปไม่ได้มีดีเพียงแค่ยุโรปตะวันตกเท่านั้นค่ะ ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน และโบสถ์ยุคกลางที่ยังคงความสมบูรณ์ วันนี้ Allianz Travel เลยไม่รอช้า ขออาสาเป็นไกด์ พาทุกคนไปเที่ยว 20 เมืองยุโรปตะวันออกกันค่ะ

มาเริ่มกันที่เมืองแรกเลยค่ะกับเมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย บูคาเรสต์เคยได้ฉายาว่า “Little Paris” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยความทันสมัยของอาคารบ้านเรือนและรสนิยมของชาวเมืองที่คล้าย ๆ กับเมืองปารีสของฝรั่งเศส ณ ขณะนั้น

เมืองบูคาเรสต์ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่องเที่ยวชมมากมาย แต่ที่โดดเด่น และถือเป็นไฮไลต์พลาดไม่ได้เลย ก็คือ พระราชวังรัฐสภา ซึ่งมีความหรูหราและอลังการ เทียบเท่าได้กับเพนตากอนของสหรัฐเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมอีกหลายแห่งที่มีความโดดเด่น อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์ Romanian Athenaeum, มหาวิทยาลัยบูคาเรสต์ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นต้น

จากเมืองหลวงบูคาเรสต์ ขึ้นเหนืออีกนิดไปที่เมืองซีบีอู แคว้นทรานซิลวาเนีย ซีบีอูเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 2007 และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม ด้วยบริเวณเมืองเก่าเป็นชุมชนของชาวเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ จึงเต็มไปด้วยบ้านเรือนศิลปะแบบบาโรคและโกธิค สำหรับสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง Brukenthal, จตุรัส Piaata Mare และร้านอาหาร Crama Sibiu Vechi และเมื่อมายังแคว้นทรานซิลวาเนียแล้ว ใครที่ชื่นชอบการปีนเขา ที่นี่ก็มี Transylvania Mountain Trail ด้วยค่ะ โดยเส้นทางปีนเขาทรานซิลวาเนีย เป็นจุดหมายปลายทางของนักปีนเขาจำนวนมาก ด้วยความสวยงามของภูเขา Carpathian บวกกับภาพวิวทิวทัศน์ปราสาท Bran ปราสาทที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และตั้งตระหง่าอยู่กลางภูเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้

จากประเทศโรมาเนีย มาเที่ยวกันต่อที่เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย กับเมืองบราติสลาวา เมืองที่อยู่ติดชายแดนกับประเทศออสเตรีย สามารถนั่งรถไฟมาจากกรุงเวียนนาได้ บราติสลาวา เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง มีปราสาทเนินเขาบราติสลาวาเป็นจุดเด่นสำคัญ และเมื่อมาเที่ยวบราติสลาวาแล้ว ก็ห้ามพลาดการเยี่ยมชมพระราชวัง Primatial โรงละคร Slovenske narodne divadlo รวมไปถึงการเดินหาอาหารพื้นเมืองทานที่จตุรัสเมืองเก่า ซึ่งที่นั้นจะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ และตลาดนัด ให้เดินเล่นและทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ

สโกเปีย เมืองหลวงของประเทศมาซิโดเนียที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในอดีต สโกเปียเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายอาณาจักร เช่น โรมัน ไบแซนไทน์ บัลกาเรียน เซอร์เบีย และออโตมันซึ่งปกครองเมืองยาวนานกว่า 500 ปี ด้วยเหตุนี้ สโกเปียจึงเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมทั้งคริสเตียนและอิสลาม ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ จตุรัสมาซิโดเนีย, ประตูชัยมาซิโดเนีย, โบสถ์แม่ชีเทเรซ่า, โรงละครแห่งชาติมาซิโดเนีย เป็นต้น

ดูโบรฟนิก ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติค เมืองเก่าแก่ติดชายทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชียที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว ด้วยการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Game of Thrones ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันจำนวนมากค่ะ

ดูโบรฟนิกเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปตะวันออก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 ดูโบรฟนิกมีศิลปและวัฒนธรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ หรือประติมากรรม และสถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ การเดินตามกำแพงเมืองเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์เมืองและทะเลอเดรียติคค่ะ

จากดูโบรฟนิก ขึ้นเหนือเลียบชายฝั่งมายังเมืองสปลิต เมืองชายฝั่งทางตะวันออกของทะเลอเดรียติค และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศโครเอเชียด้วยค่ะ เมื่อมาเที่ยวยังเมืองสปลิตแล้ว ก็พลาดไมได้เลยที่จะไป เยือนพระราชวังไดโอคลีเชียน พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนเมื่อศตวรรษที่ 4 และปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ โดยตัวพระราชวัง เปรียบเสมือนศูนย์กลางของเมือง ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และถนนคนเดิน

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเล ที่เมืองสปลิตก็มีชายหาดสีขาวสวยงามหลากหลายหาดให้เล่นน้ำทะเลกันด้วยค่ะ

จากโครเอเชีย ย้ายมาเที่ยวที่เซอร์เบียกับเมืองเบลเกรด เมืองหลวงของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเบลเกรดเป็นศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของยุโรป สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลาย ๆ แห่งในเมืองเบลเกรดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเบลเกรด ซึ่งมีวัตถุโบราณกว่า 3,000 ชิ้น หรือจะแวะพักผ่อนที่สวนสาธารณะเคลเมกเดน สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่รอบป้อมปราการ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเซอร์เบียที่จะพาเราดื่มด่ำไปกับงานศิลปะกว่า 400,000 ชิ้นจากหลากหลายยุคสมัย

เบลเกรดเป็นเมืองที่แม่น้ำสองสายดานูบและซาวาไหลมาบรรจบกัน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบลเกรดคือเป็นเมืองราบลุ่มที่มีเนินต่ำสลับ โดยมีทิวเขาสองแห่งตั้งเป็นกำแพงอยู่ทางใต้ ในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิหนาวจัด เหมาะแก่การท่องเที่ยวค่ะ

ลูบลิยานา เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรประหว่างเทือกเขาแอลป์ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่ราบแพนโนเนียน ลูบลิยานา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและโรงแรม โดยใจกลางเมืองจะเป็นจตุรัสขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยแม่น้ำลูบลิยานาที่ไหลผ่าน ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดให้พื้นที่จตุรัสกลางเมืองเป็นพื้นที่ห้ามรถวิ่ง ทำให้มีร้านอาหาร และคาเฟ่ตลอดสองข้างทางเลียบแม่น้ำ เหมาะแก่การปั่นจักรยานเล่นกลางเมือง และถ้าใครอยากชมสถาปัตยกรรมแบบสโลวีเนีย ก็อย่าลืมแวะไปที่ปราสาทลูบลิยานา และห้องสมุดแห่งชาติ ทั้งสองสถานที่ล้วนมีความสวยงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมสโลวีเนีย

วอร์ซอเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลัก เช่น เหล็กกล้า รถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาอีกด้วย โดยสถานที่เที่ยววอร์ซอแบ่งได้เป็นสามโซนหลัก ๆ ด้วยกันคือ โซน Old Town โซน Royal Route และโซนเมืองใหม่

โซนเมืองเก่าเป็นโซนที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากการเสียหายจากภัยสงครามโลก สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในโซนเมืองเก่า ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยคงรูปแบบเดิมเอาไว้ และสำหรับใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์เมืองเก่าแห่งนี้ ก็มีพิพิธภัณฑ์ Warsaw Rising Museum ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์เมืองให้ศึกษาอีกด้วยค่ะ

จากวอร์ซอ มาต่อกันที่เมืองคราโคว เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศโปแลนด์ และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยไฮไลต์ของเมือง อยู่ที่ย่าน Old Town ซึ่งจะมีอาคารบ้านเรือน พระราชวัง และโบสถ์เก่าแก่จำนวนมาก ที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ปราสาทพระราชวังวาเวล และโบสถ์ St. Adabert โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบพันปี และปิดท้ายทริปด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Schindler พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยที่กองทัพนาซีของเยอรมันเข้ายึดครองเมือง ซึ่ง พิพิธภัณฑ์ Schindler ตั้งอยู่บนโรงงานเดิมของ Oscar Schindler นักอุตสาหกรรมชาวเยอรมันที่ได้ช่วยชีวิตชาวยิวในเมืองคราโควกว่า 1,200 คน เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยค่ะ

เมื่อพูดถึงประเทศบัลแกเรีย หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงโยเกิร์ตกันเป็นอันดับแรก แต่บัลแกเรียไม่ได้มีดีแค่โยเกิร์ตนะคะ เพราะบัลแกเรียเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเมืองที่เราจะพาไปเที่ยววันนี้ก็คือเมืองหลวงของประเทศ อย่างเมืองโซเฟียค่ะ

โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารักที่เต็มไปด้วยอาคารเกร๋ ๆ แต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล เหมาะแก่การเดินเล่นชิล ๆ และถ่ายรูปสวย ๆ เป็นที่ระลึก ขณะที่ ภายในเมืองก็มีร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารจำนวนมากในบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ และหากใครไปโซเฟียทั้งทีก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวอาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์สไตล์ออร์โธด็อกซ์ของบัลแกเรีย จากนั้นแวะไปเที่ยวที่โบสถ์โบยานา (Boyana Church) โบสถ์เล็ก ๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดูข้างนอกอาจจะธรรมดา แต่ภายในเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามค่ะ

จากบัลแกเรีย มาต่อกันที่ประเทศเล็ก ๆ อย่างเอสโตเนีย กับเมืองหลวงทาลลินน์ เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงามมากมาย และตลอดสองข้างทางของเมือง ก็เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ โดยไฮไลต์สำคัญของเมืองคือการเยี่ยมชม ทาวน์ฮอลล์สไตล์โกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป รวมไปถึงแลนมาร์คสำคัญของเมืองอย่างโบสถ์เซนต์โอลาฟ ซึ่งภายในโบสถ์จะมีจุดให้เราชมวิวทิวทัศน์เมืองแบบ 360 องศา

เอสโตเนีย มีขนาดพื้นที่โดยรวมแค่ประมาณ 45,227 ตารางกิโลเมตร (17,462 ตารางไมล์) ทางทิศเหนือจะติดกับอ่าวฟินแลนด์ ทิศตะวันตกติดกับทะเลบอลติก ทิศใต้ติดกับปะเทศลัตเวีย ส่วนทางทิศตะวันออกจะติดกับประเทศรัสเซียนั่นเอง ทำให้สามารถเที่ยวหมดได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และสามารถนั่งรถไฟมาจากทางประเทศรัสเซียหรือทางลัตเวียได้ค่ะ

ริกา เมืองหลวงของประเทศลัตเวียที่ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก หนึ่งในสามประเทศเกิดใหม่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ริกาได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ “อาร์ตนูโว” (Art Nouveau) ด้วยความโดดเด่นของเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว ซึ่งหมายถึงการใช้รูปแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้และพืชอื่น ๆ มาทำเป็นลวดลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อย ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจภายในเมือง อาทิ Central Market, The Riga Art Nouveau Center, House of Blackheads, Latvia National Museum of Art เป็นต้น

ริกา เป็นเมืองชิล ๆ สีสันสดใส ที่สามารถเดินเล่นได้รอบเมืองเลยค่ะ ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรม เดินไปทางไหน เป็นอันต้องหยุดเพื่อแชะภาพเป็นที่ระลึก ที่สำคัญ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้หมดภายในหนึ่งวัน

จากลัตเวีย ลงทางใต้มายังประเทศลิธัวเนียที่เมืองวีลนิอุส เมืองหลวงของประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพราะความเก่าแก่ยาวนานของประวัติศาสตร์ และความสวยงามของตัวอาคารบ้านเรือนที่มีอายุมาตั้งแต่ช่วงยุคกลาง ตัวเมืองวิลนีอุสมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ สองสายไหลผ่านได้แก่ Neris กับ Vilnia จึงทำให้ภายในบริเวณเขตตัวเมืองเก่านั้นมีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่มไปทั่วทั้งเมือง และบริเวณจัตุรัสเมืองหรือ Town Hall Square จะมีสไตล์การปลูกสร้างเป็นศิลปะแบบบาโรค และบางส่วนก็จะมีส่วนผสมของศิลปะแบบโกธิครวมอยู่ด้วยค่ะ

เมื่อมายังเมืองวีลนิอุสแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดก็คือ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สังหารหมู่ (Museum of Genocide) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความโหดร้ายของการกดขี่และการสังหารหมู่ชาวลิธัวเนีย ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตนานกว่า 50 ปี

กอเตอร์ เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ติดทะเลอเดรียติค มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน เคยเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเล และศูนย์การค้าที่สำคัญในแถบทะเลเอเดรียติก กอเตอร์เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงาม รายล้อมด้วยเทือกเขาและอ่าวกอเตอร์ ภายในเมืองมีกำแพงเมือง ป้อมปราการจากอดีต คูคลองที่เชื่อมกับอ่าว และอาคารบ้านเรือนแบบยุคกลางที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดี จนความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกค่ะ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้แก่ กำแพงเมืองและป้อมกอเตอร์ กำแพงและป้อมเก่าแก่ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป, โบสถ์เลดี้ออฟเดอะร็อคส์ โบสถ์พระแม่มารีที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ, ปราสาทแห่งซาน จีโอวานนี ปราสาทเก่าแก่ยุคกลาง, โบสถ์แห่งกอเตอร์ โบสถ์โรมันคาทอลิกเก่าแก่ในเมือง

ซาราเยโวเป็นมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งเมื่อทศวรรษ 1990 ทั้งเมืองเคยกลายเป็นซากปรักหักพังจากภัยสงครามกลางเมืองก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมา กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองยอดนิยมเมืองหนึ่งของประเทศ

เมื่อมาถึงซาราเยโวแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องไปดู Kovaci Memorial Cemetery สุสานขนาดใหญ่สำหรับฝังศพชาวบอสเนียที่ทำการสู้รบกับชาวเซิรบ์ในสงครามกลางเมืองเมื่อทศวรรษ 1990 รวมไปถึงการเยี่ยมชม Sarajevo Tunnel Museum พิพิธภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งชาวบอสเนียเคยใช้เป็นอุโมงค์เพื่อหลบหนีออกไปนอกเมือง และใช้เป็นที่ส่งเสบียงอาหารเข้ามายังภายในเมือง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Gazi Husrev-beg Mosque, Latin Bridge, Jewish Museum, Sarajevo Town Hall เป็นต้น

ปราก เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก ปรากได้รับฉายาว่า “The City of a Hundred Spires” หรือ “เมืองแห่งหนึ่งร้อยยอด” เนื่องจากทั้งเมืองเต็มไปด้วยความสวยงามและเงียบสงบท่ามกลางขุนเขา อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอาณาจักรโบราณมาเนิ่นนานตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล เมืองปรากจึงเต็มไปด้วยเรื่องราว เรื่องเล่า และสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมาก จนทำให้ปรากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1992 และนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวน่าสนใจ อาทิ
• สะพานชาร์ลส์ สะพานหินเก่าแก่คู่เมือปราก สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1357
• ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และภายในปราสาทยังมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ถนนทองคำ, มหาวิหารบาซิลลิกา ออฟ เซนต์จอร์จ, พระราชวังเก่า
• หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หอนาฬิกาเก่าแก่ที่ติดตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1410 และยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
• ซุ้มประตูเมือง Powder Tower ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณย่านโซนเก่า สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค ด้านบนเป็นหอคอยจุดชมวิวเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

จากกรุงปราก มาเที่ยวกันต่อที่เมืองโอโลโมซ ซึ่งตัวเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูมิภาค Moravia เคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ห่างจากกรุงปรากโดยรถไฟประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ตามเรื่องเล่า เล่ากันว่าเมืองโอโลโมซถือกำเนิดจากการเป็นป้อมปราการของชาวโรมัน โดยมีจูเลียส ซีซาร์เป็นผู้สร้างเมืองขึ้นมา ทำให้เมืองทั้งเมืองได้รับอิทธิพลทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโรมันมาทั้งหมดค่ะ

สำหรับสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ใครมาโอโลโมซต่างต้องแวะมาก็คือ จตุรัสใจกลางเมืองที่มีเสาหิน Holy Trinity ศิลปะสไตล์บาโรคตั้งอยู่ โดยเจ้าเสาหินนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ โบสถ์เซนต์มอริสท์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศาลากลางยุคศตวรรษ 14 และพระราชวังบิชอป เป็นต้น

เบรัต เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “Town of a thousand windows” หรือเมืองที่มีหน้าต่างหลายพันบาน ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ทำให้อาคารบ้านเรือนสร้างขึ้นลดหลั่นกันตามแนวภูเขา Tomorri ไปจนถึงตัวปราสาทเบรัต เกิดเป็นภาพหน้าต่างหลายพันบานเมื่อมองมาจากข้างล่าง นอกจากนี้แล้ว ทั้งเมืองยังเป็นเมืองเก่าที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมออตโตมันไว้อย่างสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2005

เมื่อมายังเบรัตแล้ว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการขึ้นไปยังปราสาทเบรัตเพื่อชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองแบบ 360 องศา และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินกลางเมือง เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสบายแบบชาวเบรัต ที่จะพากันออกมาสังสรรค์ตามถนนกัน และถ้าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะของชาวเบรัต ก็มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Onufri ให้เข้าชมกันค่ะ

มาถึงเมืองสุดท้ายกับเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เนื่องด้วยลักษณะของเมืองที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งบูดา และฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเรียกว่าฝั่งเปสต์ ด้วยลักษณะเมืองที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ทำให้ภูมิทัศน์เมืองมีความสวยงามทั้งจากตัวสถาปัตยกรรม ผังเมือง สะพานข้ามแม่น้ำ และอาคารบ้านเรือน

บูดาเปสต์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ต้องใช้เวลาหลายวันในการเที่ยว สถานที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยได้ อาทิ
• สะพานเชนเซเชนยี สะพานที่พาดระหว่างแม่น้ำดานูบสองฝั่ง ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
• ปราสาทบูดา ปราสาทที่ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์ฮังการี ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติ
• โรงอาบน้ำเซเชนยี โรงอาบน้ำที่มีสปาน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในยุโรป
• จัตุรัสวีรชน สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญวีรบุรุษฮังการีในอดีต และเพื่อฉลองครบรอบ 1,000 ปีประเทศ
• เกลเลิร์ต ฮิลล์ สถานที่ชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวบูดาเปสต์ทั้งสองฝั่งได้แบบพาโนรามา
• รัฐสภาฮังการี รัฐสภาที่มีความงดงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 20 เมืองน่าเที่ยวประเทศแถบยุโรปตะวันออก หลาย ๆ เมืองอาจเป็นเมืองที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เมืองเหล่านี้ล้วนมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแห่ง รวมไปถึงสถาปัตยกรรม ศิลปะและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากสถานที่อื่น ๆ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปค้นหา เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ หวังว่าประเทศแถบยุโรปตะวันออกจะอยู่ใน “Bucket List” สำหรับแพลนเที่ยวครั้งหน้านะคะ ^^

ขอบคุณข้อมูลจาก :
25 Amazing Places in Eastern Europe You Have To Visit

Blog Disclaimer

All content provided on this blog is for informational purposes only. The content of this blog neither makes representations as to the accuracy or completeness of any information on this site, nor is construed as Allianz Travel’s offering of travel insurance, unless explicitly stated. Details of benefits, limits, policy exclusions, terms and conditions of
Allianz Travel insurance can be found under Allianz Travel
Policy Wording.


ประเทศที่ไม่มีกลางคืน


ประเทศที่มีแต่กลางวันเกิดขึ้นได้อย่างไร มีประเทศอะไรบ้างแล้วมีกี่วัน
เกิดขึ้นได้อย่างไร

Facebook Fanpage : รู้ก่อนเที่ยว
https://www.facebook.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7102180094904988
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCNFd5GRULOpq4U6eu_D6Wg?sub_confirmation=1

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ประเทศที่ไม่มีกลางคืน

10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไปได้เลยไม่ต้องขอ \”วีซ่า\”


1 เวียดนาม เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
2 ไต้หวัน เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 14 วัน
3 ฟิลิปปินส์ เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
4 สิงคโปร์ เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
5 เกาหลีใต้ เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 90 วัน
6 ญี่ปุ่น เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 15 วัน
7 มัลดีฟส์ เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
8 จอร์เจีย เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 365 วัน
9 ตุรกี เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
10 รัสเซีย เที่ยวโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติม ชี้เป้า 10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไม่ง้อ Visa อัพเดทใหม่ 2019 …. อ่านต่อได้ที่ : https://www.chillpainai.com/scoop/10894
เที่ยวต่างประเทศ ไม่ต้องใช้วีซ่า novisa

ดูรีวิวข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chillpainai.com/
Facebook : https://www.facebook.com/Chillpainai
Instagram : https://www.instagram.com/chillpainai/
Twitter : https://twitter.com/Chillpainai
รับสิทธ์ซื้อวอเชอร์ที่พักราคาพิเศษ เพิ่มเพื่อน LINE ID : @Chillpainai หรือกด https://line.me/R/ti/p/%40bfa4984h

10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไปได้เลยไม่ต้องขอ \

เนเธอร์แลนด์จ่อหวนล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังโควิดกลับมาระบาดในยุโรปอีกครั้ง | TNNข่าวเที่ยง | 12-11-64


เนเธอร์แลนด์ตัดสินใจวันนี้ จะหวนกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์จำกัดพื้นที่ทั้งประเทศหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชากรไปแล้วมากกว่าร้อยละ 84 ตามด้วยออสเตรียเตรียมใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศสำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด หลังยุโรปหวนกลับมาเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิดอีกครั้ง
ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo
ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ

เนเธอร์แลนด์จ่อหวนล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังโควิดกลับมาระบาดในยุโรปอีกครั้ง | TNNข่าวเที่ยง | 12-11-64

10 ประเทศที่น่าย้ายไป ขอสัญชาติมากที่สุด I PROD CHANNEL


10 ประเทศที่น่าย้ายไปขอสัญชาติ ที่มีรัฐสวัสดิการยอดเยี่ยม
และคงเป็นคำถามที่อยู่ในหัวของใครหลายคน
ว่ามีวิธีใดบ้างที่จะสามารถย้ายสัญชาติหรือไปหางานทำในต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นการขอทุนไปเรียนต่อ หรือใช้ทุนตัวเองแล้วหางานทำต่อ
หรือจะเป็นการแต่งงานกับคนสัญชาตินั้น ๆ
.
อย่าลืมกด Like + Subscribe เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

10 ประเทศที่น่าย้ายไป ขอสัญชาติมากที่สุด I PROD CHANNEL

การรวมตัวของสหภาพยุโรป สังคมศึกษาฯ ม.4-ม.6


ม.4ม.6
ส 4.2
นับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง หลายประเทศในยุโรปตะวันตกได้มีความพยายามที่จะจัดตั้งองค์การระหว่างประเทศของกลุ่ม วัตถุประสงค์ของการรวมกลุ่ม นอกจากเรื่องเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นเรื่องของความมั่นคงระหว่างประเทศ เนื่องจากชาติอื่น ๆ กลัวว่าเยอรมนีตะวันตกจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แล้วกลับมาก่อสงครามเหมือนที่เคยทำ ในปีค.ศ. 1992 มีการลงนามร่วมกันของกลุ่มประชาคมยุโรปในสนธิสัญญามาสทริชต์(Treaty of Maastricht) จึงเปลี่ยนสถานภาพมาเป็น สหภาพยุโรป(EUEuropean Union) มีรัฐสมาชิก 28 ประเทศ
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)
http://www.dlit.ac.th

การรวมตัวของสหภาพยุโรป สังคมศึกษาฯ ม.4-ม.6

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประเทศแถบยุโรป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *