Skip to content
Home » [Update] “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ” | ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ” | ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

Table of Contents

 บทนำ

ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

  • British English แบบบริติช
  • American English แบบอเมริกัน

โครงสร้างประโยคคำถาม

ประโยคคำถาม เพื่อถามถึงเวลา เช่น

  • ถามเวลาแบบ Direct question:

What time is it right now?

= ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

 

เรามักจะเจอคำถามในลักษณะนี้ในสถานการณ์แบบเป็นกันเอง ภาษาที่ใช้จะดูใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนเราที่ถามทาง หรือ คนใกล้ตัว คุณพ่อ คุณแม่ เป็นต้น

 

  • ถามเวลาแบบ Indirect question: Can I know…= ขอทราบ/ถาม หน่อย…

Can you tell me what time it is?
= ขอถามหน่อยว่ากี่โมงแล้ว

Excuse me, can I know what time it is?
= ขอโทษนะ ขอทราบหน่อยว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว

***การถามเวลาในรูปแบบประโยคลักษณะ Indirect questions นี้ ประโยคของเราจะดูเป็น ทางการและสุภาพมากยิ่งข้น

 

บอกเวลาแบบ British English

 

 

ใน British English จะใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง โดยจะใช้เลข 1 -12 ตามด้วยคำบอกเวลา a.m. และ p.m. ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษนั่นเองค่า

 

  • การใช้ a.m. และ p.m.

a.m. = ante meridiem ใช้กับเวลา หลังเที่ยงคืน จนถึง ก่อนเที่ยงวัน
(00.01 a.m. – 11.59 a.m.)

p.m. = post meridiem ใช้กับเวลาหลังเที่ยงวัน จนถึง ก่อนเที่ยงคืน
(12.00 p.m. – 11.59 p.m.)

 

หากว่าต้องการบอกเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา หรือพูด a.m. และ p.m. ตามด้วยเวลาต่างๆ ก็ได้ เช่นกันค่ะ

 

11.00 a.m. = eleven o’clock in the morning

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า

05.00 p.m. = five o’clock in the afternoon

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น

 

 

การใช้ to กับเวลาที่กำลังจะมาถึง 

 

 

เวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกิน 30 นาทีมาแล้ว ให้บอกนาทีที่เหลือก่อนจะถึงชั่วโมงถัดไป ตามด้วย “to”  และชั่วโมงถัดไป เช่น

 

08.40 p.m. = twenty to nine

แปลว่า อีกยี่สิบนาทีจะถึงเก้านาฬิกาแล้ว

 สำหรับ การบอกเวลาแบบ British English หากนาฬิกาเป็นเวลา 15 นาทีหรือ 45 นาที ให้ใช้คำว่า a quarter และหากเป็น 30 นาที ให้ใช้ half เช่น

 

06.15 a.m. = a quarter past six

07.30 a.m. = a half past thirty

 

การใช้ “past”

 

past เป็นคำคุณศัพท์ เมื่อใช้กับการบอกเวลา จะแปลว่า ผ่าน….มา……แล้ว โดยส่วนมากจะใช้กับเวลาที่ผ่านล่วงเลยมาไม่ถึง 30 นาที เช่น

 

10.20 a.m. = twenty past ten
แปลว่า  ผ่านสิบนาฬิกามามายี่สิบนาทีแล้ว

ถือว่าเป็นการบอกเวลาทางอ้อม เพราะว่าไม่บอกมาตรงๆ มักจะเจอรูปแบบประโยคนี้ในสถานการณ์ปกติ ที่ไม่เร่งรีบ ในชั้นเรียน แต่อาจจะไม่ใช่การถามเวลาก่อนเที่ยงที่น้องๆหิวข้าว เป็นต้น

 

บอกเวลาแบบ American English

 

 

การอ่านเวลาแบบชาวอเมริกันนั้นได้กำหนดวิธีการบอกเวลาในภาษาอังกฤษสไตล์ชิวๆ ไม่ซับซ้อนเท่ากับวิธีการของ
ชาวบริติช
ซึ่ง American English จะมีการใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยจะใช้ตั้งแต่ตัวเลข 0 ไปจนถึง ตัวเลข 24 และส่วนใหญ่จะไม่มี a.m. และ p.m.
ให้ยุ่งยาก ตามสไตล์
easy going ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนอเมริกันเลยทีเดียว ง่ายๆ ไม่ทำให้ยุ่งยาก

วิธีการบอกเวลาของชาวอเมริกันคือ ให้บอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที โดยทั่วมักจะในกรณีที่เป็นทางการมากๆ  เช่น

 

เวลา 21.15 น. = twenty-one fifteen

เวลา 08.09* น. = eight O nine 

ขออธิบายเพิ่มเติม:

*ใช้เสียง O อ่านว่า โอ จะใช้ แทนเลข 0 ใน American English

 

นอกจากนี้ยังมีคำวิเศษณ์เพื่อประมาณเวลา อีกด้วย เช่น about หรือ nearly  ซึ่งแปลว่า ประมาณ หรือ เกือบๆ เช่น

 

เวลา 09.05 น. =It’s about nine o’clock (แม้ว่าจะผ่านมาแล้วตั้ง 5 นาทีก็ตาม)

เวลา 10.28 น.  = It’s nearly half past ten (แม้ว่าจะยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ตาม)

 

 

บอกเวลาตอนเที่ยง

 

 

ในเวลาเที่ยงคืนหรือเที่ยงวัน สามารถใช้คำว่า “midnight” หรือ “midday / noon” แทนเลข 12 ได้ เช่น  เวลา 00:00 น. แทนช่วงเวลานี้ ว่า midnight หรือ เวลา 12:00 น. แทนช่วงเวลานี้ว่า midday or noon

ส่วนในการพูดอย่างเป็นทางการ สามารถใช้ “a.m.” หรือ “p.m.” ประกอบได้อยู่เหมือนเดิม
เช่น  เวลา 05:15 น. บอกได้ว่า 

It is five fifteen a.m.

= เป็นเวลา ตีห้า  สิบห้านาที

แต่ถ้าไม่เป็นทางการมาก เช่นบอกเวลาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน
ก็สามารถพูดได้ว่า It is ten fifteen.
(ไม่ต้องบอก a.m. ก็ได้ แต่หากช่วงเวลาที่คุยเป็นกลางวัน เพื่อนก็จะเข้าใจไปโดยปริยายว่า มันคือเวลา สิบโมง สิบนาที )

ในกรณีที่ลืมว่า ควรจะใช้ a.m. หรือ p.m. ดี ให้ใช้วลีบอกเวลา เพ่อให้ผู้ที่เราพูดด้วยรู้ว่าเรากำลังบอกเวลาช่วงไหน โดยใช้ in/at แล้วตามด้วยช่วงเวลา เช่น

in the morning = ช่วงเช้า
at midday = เที่ยงวัน
at midnight = เที่ยงคืน
in the afternoon = ตอนบ่าย
in the evening = ตอนเย็น
at night = ตอนกลางคืน

 

แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่ แต่คนที่เลือกใช้ก็คือตัวเราเอง ครูแนะนำให้ดูบริบทการใช้ให้มากนะคะ เช่นตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้นะคะ

 

Situation I: At the train station (สถานการณ์เกิดที่ลานชาลาสถานีรถไฟ)

 

 

Romeo: Excuse me sir, what time is it now?
= ขอโทษนะครับ ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

Tom: It’s a half past ten.
= ตอนนี้ผ่านสิบนาฬิกามาครึ่งชั่วโมงแล้วครับ

Rome: Thank you sir. When will the next train arrive?
= ขอบคุณครับ แล้วรถไฟเที่ยวถัดไปจะมากี่โมงครับ

Tom: It will arrive in a minute.
= เดี๋ยวก็มาแล้วครับ

 

Situation II: At NokAcademy School (สถานการณ์เกิดที่โรงเรียน นกอะคาเดมี)

 

Nestie: Jenny, what time is it now?
= เจนนี่ ตอนนี้กี่โมงแล้ว

Jenny: It’s 9 O’ clock. Why did you ask?
= ตอนนี้เก้าโมง ถามทำไม

Nestie: Oh my gosh, we need to go now.
= โอ้ มาย กอด เราต้องไปตอนนี้เลย

Jenny: Why?
= ทำไมล่ะ

Nestie: The class was already begun 10 minutes ago.
= ชั้นเรียนเริ่มเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว (เราเข้าชั้นเรียนสาย 10 นาทีแล้ว)

น้องๆนักเรียนทุกคน อย่าลืมทบทวนบทเรียน  เรื่อง การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ กับทีชเชอร์กรีซได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า
See you again next time.

+1

[Update] | ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การนัดหมาย (Making Appointments)

  • I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)

  • Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)

  • Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)

  • Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)

  • Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)

  • Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)

 

นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)

  • Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)

  • Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)

  • How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)

  • Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)

  • When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)

  • Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)

  • Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)

  • What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)

  • Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)

  • Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)

  • What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)

  • Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)

  • Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)

  • Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)

  • I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)

 

การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)

  • I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)

  • I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)

  • I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)

  • I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)

  • I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)

  • I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)

  • I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)

 

ตัวอย่างที่ 1 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

A        :         Good morning. I would like to make an appointment to see Mr. Smith. (สวัสดีครับ ผมอยากจะขอนัดพบคุณสมิธ)

B        :         When do you want to see him? (คุณต้องการพบเขาเมื่อไรครับ)

A        :         Is Friday at 9.00 a.m. convenient for him? (วันศุกร์ 9 โมงเช้าสะดวกสำหรับเขาไหมครับ)

B        :         Let me see first …. OK. Your appointment will be Friday at 9.00 a.m. (ผมขอดูก่อนนะ …. ตกลงครับ การนัดหมายของคุณคือ วันศุกร์ 9 โมง)

A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

 

ตัวอย่างที่ 2 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

(A = Somsri , B = Somchai)

A        :         Good morning, may I speak to khun Somchai, please? (สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับคุณสมชาย ครับ)

B        :         Hello, this is Somchai speaking. (สวัสดีครับ ผมสมชายพูดครับ)

A        :         This is Somsri, Mr. Somkiat’s secretary. He would like to make an appointment with you sometime next week. (ดิฉัน สมศรีค่ะ เป็นเลขานุการของคุณสมเกียรติ คุณสมเกียรติต้องการนัดพบคุณสัปดาห์หน้าค่ะ)

B        :         On what business he has with me? (เขาต้องการพบผมในเรื่องธุรกิจอะไรครับ)

A        :         He has a new proposal to present to you. (เขามีข้อเสนอใหม่ที่จะนำเสนอคุณค่ะ)

B        :         Certainly. I’m available on Tuesday from 10 to 12 in the morning. Could he come to see me at my office by that time? (ได้สิ ผมว่างวันอังคาร ตั้งแต่ 10-12 โมงเช้า เขาจะมาพบที่ออฟฟิตผมได้ไหมล่ะ)

A        :         Yes, he can. Thank you sir. (ได้ค่ะ เขาไปได้ ขอบคุณมากค่ะ)

B        :         OK. Bye. (ตกลงนะ สวัสดี)


Good Morning – สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.3 by ครูโอ๋


วีดีโอนี้จะเรียนรู้ คำศัพท์ บทความเกี่ยวกับ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ การทักทายตอน เช้า กลางวัน เย็น
คำศัพท์ บทสนทนา การทักทายในช่วงเวลาต่างๆ
Good morning.
Good afternoon.
Good evening.
Good night.
Good bye.
How are you?
I’m fine thanks. And you?
บทเรียนอิเล็กทรอกนิกส์ชุดนี้
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยทาง www.otpchelp.com เป็นเพียงผู้เผยแพร่เท่านั้น
เนื่องจากสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ชุดนี้มีประโยชน์มาก
จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งร่วมเผยแพร่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในการเรียนการสอน สำหรับนักเรียน และผู้ปกครองที่สนใจ

ท่านสามารถติดตาม สื่อการเรียนการสอน
\”ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน\” ได้อีกหลายช่องทาง
webpage : https://www.kruao.com (ครูโอ๋) หรืออีกเว็บ https://www.otpchelp.com
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
twitter : https://goo.gl/yHzunt
ฝากติดตามเพจ channel website ด้วยครับเพื่อพบกับ
สื่อการเรียนการสอน ที่เราอัพเดทให้ใหม่ๆ ตลอดฟรีๆ
ปล.ฝาก shared ฝาก subscribe ด้วยครับผม

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Good Morning - สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.3 by ครูโอ๋

AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? – English Tips EP.1


หลายคนอาจจะงงว่า AM กับ PM คืออะไร? ใช้ยังไง? และต้องใช้ตอนไหน? หลายคนรู้แล้วแต่ก็ยังสับสนอยู่ว่าตอนไหนใช้ AM ตอนไหนใช้ PM English Tips ตอนแรกวันนี้จะมาไขข้อสงสัย และมีเทคนิคทำความเข้าใจวิธีใช้แบบง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ใช้อย่างถูกต้องกัน รับรองว่าจำง่าย ใช้ได้ และไม่ลืมแน่นอน
EnglishTips
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? - English Tips EP.1

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English


การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English
tellingthetime อ่านเวลา อ่านนาฬิกา BKindStory

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English

คำทักทายตามช่วงเวลาภาษาอังกฤษ


คำทักทายตามช่วงเวลาภาษาอังกฤษ

EP.1 ตื่นนอน (Get up) | สนทนาภาษาอังกฤษในครอบครัวเพื่อสร้างเด็กสองภาษา | MISbook


สนทนาภาษาอังกฤษในครอบครัวเพื่อสร้างเด็กสองภาษา
► ดูวิดีโอทั้งหมดได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=WxSceJqWOK8\u0026list=PLYSzQdnk6q9boiF3Nm5fCXV6vA8KI1iL2
รวมบทสนทนาภาษาอังกฤษในครอบครัว เพื่อสร้างเด็กสองภาษา แต่ละตอนประกอบด้วยคำศัพท์จากบทสนทนา พร้อมการ์ตูนแสนน่ารักที่จะมาให้ความเพลิดเพลินกับเด็กๆ กันตลอดเลยทีเดียว
สั่งซื้อหนังสือได้ที่ http://bit.ly/2Ip0yxr
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line @MISbook
อย่าลืมกด Subscribe เพื่อดูวิดีโอใหม่ๆ ก่อนใคร https://www.youtube.com/misbook
ดูตอนอื่นๆ คลิกเลยจ้าาาา
กิจวัตรประจำวันของหนูน้อย
=================
► EP.1 ตื่นนอน (Get up) — https://youtu.be/WxSceJqWOK8
► EP.2 อาบน้ำ (Take a shower) — https://youtu.be/cHPEGZgAzbU
► EP.3 แต่งตัว (Get dressed) — https://youtu.be/CdTJBVpnzEQ
► EP.4 กินข้าวเช้า (Have breakfast) — https://youtu.be/TK0RzPOqV50
► EP.5 ไปโรงเรียน (Go to school) — https://youtu.be/jah0Yzobdq0
► EP.6 กลับบ้าน (Go back home) — https://youtu.be/R5AL1Y0qaYQ
► EP.7 เข้านอน (Going to bed) — https://youtu.be/w9tldG039Q

กิจกรรมในครอบครัว
=============
► EP.8 เสียงโทรศัพท์ (The phone rings) — https://youtu.be/pZwftM8kpI0
► EP.9 เล่นคอมพิวเตอร์ (Use the computer) — https://youtu.be/O9TtpKVYS0
► EP.10 ช่วยแม่ทำงานบ้าน (Help Mom do housework) — https://youtu.be/vFMmaG0IVaM
► EP.11 เก็บของด้วยนะ (Put away your stuff) — https://youtu.be/slqxUWkW4qQ
► EP.12 อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ (Little accidents) — https://youtu.be/EpxXW8ZjIl4
► EP.13 แบ่งปันของเล่น (Share the toys) — https://youtu.be/pE2lNaEkd0
► EP.14 หนูอยากเป็นอะไร (What do you want to be?) — https://youtu.be/y_rOJM9pehQ

กิจกรรมนอกบ้าน
==========
► EP.15 เรียนพิเศษที่บ้านคุณครู (Take a tutorial at the teacher’s house) — https://youtu.be/fdvu2_gS_g4
► EP.16 ไปหาหมอ (Go to see the doctor) — https://youtu.be/sXDj1SJCTQY
► EP.17 ที่สระว่ายน้ำ (At the swimming pool) — https://youtu.be/7QY_DLJ2dns
► EP.18 ไปเยี่ยมคุณยายที่โรงพยาบาล (Go to visit Grandma at the hospital) — https://youtu.be/Yd9A1EgJ38w
► EP.19 ไปทำบุญที่วัด (Go to make merit at the temple) — https://youtu.be/fGsMlefKKdg
► EP.20 ไปเที่ยวสวนสนุก (Go to the amusement park) — https://youtu.be/qeoDE4a1Qk
► EP.21 ไปเที่ยวงานวัด (Go to the temple fair) — https://youtu.be/1w8rGLTvssw

วันแห่งความสุข
==========
► EP.22 วันปีใหม่ (New Year’s Day) — https://youtu.be/JpzltjMcJU8
► EP.23 วันเด็ก (Children’s Day) — https://youtu.be/Ef1OO7WdM0
► EP.24 สุขสันต์วันเกิด (Happy Birthday) — https://youtu.be/kUhkV6TGLz8
► EP.25 วันสงกรานต์ (Songkran’s Day) — https://youtu.be/XREMAPAr8DU
► EP.26 วันแม่ (Mother’s Day) — https://youtu.be/UE_MrRVCVSU
► EP.27 วันพ่อ (Father’s Day) — https://youtu.be/RybhVinxNQI
► EP.28 สุขสันต์วันคริสต์มาส (Merry Christmas) — https://youtu.be/jpqIA4I4so8

EP.1 ตื่นนอน (Get up) | สนทนาภาษาอังกฤษในครอบครัวเพื่อสร้างเด็กสองภาษา | MISbook

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *