Skip to content
Home » [Update] บทที่4 ธรณีประวัติ | pajamas คือ – NATAVIGUIDES

[Update] บทที่4 ธรณีประวัติ | pajamas คือ – NATAVIGUIDES

pajamas คือ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

อายุทางธรณีวิทยา

อายุทางธรณีวิทยา ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 แบบ ถ้าเป็นการหาอายุที่ใช้วิธีเทียบเคียงจากการลำดับชั้นหิน ข้อมูลอายุทางธรณีวิทยาของซากดึกดำบรรพ์ที่พบในหินนั้น และลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาของชั้นหิน เรียกว่า อายุเปรียบเทียบ แต่ถ้าเป็นการหาอายุของชั้นหินหรือซากดึกดำบรรพ์โดยตรง โดยใช้วิธีคำนวณจากธาตุกัมมันตรังสีที่มีอยู่ในหิน เรียกว่า อายุสัมบูรณ์

อายุทางธรณีวิทยา เป็นอายุที่เกี่ยวกับการเกิดของโลก ทุกอย่างที่อยู่ใต้ผิวดินจะเกี่ยวข้องกับธรณีวิทยาทั้งสิ้น จึงต้องมีการให้อายุ เพื่อลำดับขั้นตอน เหตุการณ์ ว่าหิน แร่ ซากดึกดำบรรพ์ที่พบใต้ผิวโลก(จากการเจาะสำรวจ) หรือโผล่บนดินเกิดในช่วงใดเพื่อจะได้หาความสัมพันธ์ และเทียบเคียงกันได้ ถ้าไม่มีอายุ ก็คงจะยุ่งตายห่า ลองนึกภาพสมมุติตัวอย่างของคนซิครับ อายุทางธรณีวิทยาก็หาได้จากการเอาธาตุกัมมันตรังสี มาหาอายุ อีกแบบก็หาจากซากดึกดำบรรพ์ ว่าเป็นสกุลและชนิดใด โดยเปรียบเทียบกับรายงานวิชาการอื่นๆ ซึ่งศาสตร์นี้ต้องอาศัยการสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง สำหรับหน่วยเราพูดกันเป็นล้านปีครับ น้อยๆ เราไม่ชอบ ต้องมีหน่วยเป็นหลักล้านครับ อายุทางธรณีวิทยานอกจากเป็นตัวเลขแล้ว ก็มีชื่อเรียกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้ชื่อตามชื่อสถานที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีการพบซากดึกดำบรรพ์ แบบสังเกตการบอกอายุของซากดึกดำบรรพ์หรืออายุหิน สามารถบอกได้ 2 แบบคือ การบอกอายุเชิงเปรียบเทียบ(Relative Age)และการบอกอายุสมบูรณ์(Absolute age)อายุเปรียบเทียบ(Relative Age) คืออายุทางธรณีวิทยาของซากดึกดำบรรพ์ หิน ลักษณะทางธรณีวิทยา หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา เมื่อเปรียบเทียบกับซากดึกดำบรรพ์ หิน ลักษณะทางธรณีวิทยา หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาอื่น ๆแทนที่จะบ่งบอกเป็นจำนวนปี ดังนั้นการบอกอายุของหินแบบนี้จึงบอกได้แต่เพียงว่าอายุแก่กว่าหรืออ่อนกว่าหิน หรือซากดึกดำบรรพ์ อีกชุดหนึ่งเท่านั้น โดยอาศัยตำแหน่งการวางตัวของหินตะกอนเป็นตัวบ่งบอก( Index fossil) เป็นส่วนใหญ่ เพราะชั้นหินตะกอนแต่ละขั้นจะต้องใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่งที่จะเกิดการทับถม เมื่อสามารถเรียงลำดับของหินตะกอนแต่ละชุดตามลำดับก็จะสามารถหาเวลาเปรียบเทียบได้ และจะต้องใช้หลักวิชาการทางธรณีวิทยา( Stratigraphy )ประกอบด้วย                                                                                                                    การศึกษาเวลาเปรียบเทียบโดยอาศัยหลักความจริง มี อยู่ 3 ข้อคือ
1. กฎการวางตัวซ้อนกันของชั้นหินตะกอน(Law of superposition) ถ้าหินตะกอนชุดหนึ่งไม่ถูกพลิกกลับโดยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแล้ว ส่วนบนสุดของหินชุดนี้จะอายุอ่อนหรือน้อยที่สุด และส่วนล่างสุดจะมีอายุแก่หรือมากกว่าเสมอ
2. กฎของความสัมพันธ์ในการตัดผ่านชั้นหิน(Law of cross-cutting relationship ) หินที่ตัดผ่านเข้ามาในหินข้างเคียงจะมีอายุน้อยกว่าหินที่ถูกตัดเข้ามา
3. การเปรียบเทียบของหินตะกอน(correlation of sedimentary rock) ศึกษาเปรียบเทียบหินตะกอนในบริเวณที่ต่างกันโดยอาศัย
ก. ใช้ลักษณะทางกายภาพโดยอาศัยคีย์เบด(key bed) ซึ่งเป็นชั้นหินที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวของมันเอง และถ้าพบที่ไหนจะต้องสามารถบ่งบอกจดจำได้อย่างถูกต้องถึงว่าชั้นหินที่วางตัวอยู่ข้างบนและข้างล่างของคีย์เบดจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบริเวณด้วย                                                                                                                                                                                          ข. เปรียบเทียบโดยใช้ซากดึกดำบรรพ์(correlation by fossil) มีหลักเกณฑ์คือ ในชั้นหินใด ๆถ้ามีซากดึกดำบรรพ์ที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันเกิดอยู่ในตัวของมันแล้ว ชั้นหินนั้น ๆย่อมมีอายุหรือช่วงระยะเวลาที่เกิดใกล้เคียงกับซากดึกดำบรรพ์ที่สามารถใช้เปรียบเทียบได้ดี เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เกิดอยู่กระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้างขวางมากที่สุด ฟอสซิลเหล่านี้เรียกว่า ไกด์ฟอสซิลหรือ อินเด็กฟอสซิล(guide or index fossil)

 
อายุสัมบูรณ์( Absolute age ) หมายถึงอายุซากดึกดำบรรพ์ของหิน ลักษณะหรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา(โดยมากวัดเป็นปี เช่น พันปี ล้านปี) โดยทั่วไปหมายถึงอายุที่คำนวณหาได้จากไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี ขึ้นอยู่กับวิธีการและช่วงเวลาครึ่งชีวิต(Half life period) ของธาตุนั้น ๆ เช่น C-14 มีครึ่งชีวิตเท่ากับ 5,730 ปี จะใช้กับหินหรือ fossil โบราณคดี ที่มีอายุไม่เกิน 50,000 ปี ส่วน U-238 หรือ K-40จะใช้หินที่มีอายุมาก ๆ ซึ่งมีวิธีการที่สลับซับซ้อน ใช้ทุนสูง และแร่ที่มีปริมาณรังสีมีปริมาณน้อยมาก วิธีการนี้เรียกว่า การตรวจหาอายุจากสารกัมมันตภาพรังสี(radiometric age dating)
การใช้ธาตุกัมมันตรังสีเพื่อหาอายุหิน หรือ ฟอสซิล นั้น ใช้หลักการสำคัญคือการเปรียบเทียบอัตราส่วนของธาตุกัมมันตรังสีที่เหลืออยู่( End product) ที่เกิดขึ้นกับไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสีตั้งต้น(Parent isotope)แล้วคำนวณโดยใช้เวลาครึ่งชีวิตมาช่วยด้วยก็จะได้อายุของชั้นหิน หรือ ซากดึกดำบรรพ์ นั้น ๆ เช่น
วิธีการ Uranium 238 – Lead 206 วิธีการ Uranium 235 – Lead 207
วิธีการ Potassium 40 – Argon 206 วิธีการ Rubidium 87- Strontium 87
วิธีการ Carbon 14 – Nitrogen 14
การหาอายุโดยใช้ธาตุกัมมันตรังสีมีประโยชน์ 2 ประการคือ
1. ช่วยในการกำหนดอายุที่แน่นอนหลังจากการใช้ fossil และ Stratigrapy แล้ว
2. ช่วยบอกอายุหรือเรื่องราวของยุคสมัย พรีแคมเบียน(Precambrian) นี้ถูกเปลี่ยนแปลง
อย่างต่อเนื่องไปอย่างมาก ร่องรอยต่าง ๆจึงสลายไปหมด

การลำดับชั้นหินในประเทศไทย (Stratigraphy of Thailand)
ประเทศไทยมีหินที่มีอายุต่างๆ ครบทุกมหายุคตามมาตราธรณีกาล หรือตั้งแต่มหายุคพรีแคมเบรียน จนถึงยุคควอเทอร์นารี และพบหินครบทุกประเภทคือ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร ลำดับ
8.5.1 หินมหายุคพรีแคมเบรียน (Precambrian Era)
หินมหายุคพรีแคมเบรียนในประเทศไทยส่วนใหญ่พบทางตะวันตกของประเทศไทย ได้แก่ เชียงแสน เวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย) เชียงใหม่ ตาก บ้านไร่ (จังหวัดอุทัยธานี) กาญจนบุรี หัวหิน ทับสะแก (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ระนอง และชลบุรีหินในชุดนี้ประกอบด้วยหินไนส์ที่แปรสภาพมาจากหินอัคนี (Orthogneiss) และมีเกรดปานกลางถึงสูง หินไนส์ที่แปรมาจากหินตะกอน (Paragneiss) และหินซีสต์ นอกจากนี้ยังมีหิน แกรนิตไนส์ เพกมาไทด์ แคลด์-ซิลิเกต และอื่นๆ
8.5.2 หินยุคแคมเบรียนหรือกลุ่มหินตะรุเตา (Cambrian Period Tarutao Group)
กลุ่มหินตะรุเตาพบตั้งแต่ภาคเหนือลงไปจนถึงภาคใต้ของไทย ลักษณะทั่วไปของหินที่พบจะแตกต่างกันไปเนื่องจากสภาพแวดล้อมการเกิดต่างกัน ในส่วนที่พบทางภาคใต้เช่นที่เกาะตะรุเตาจังหวัดสตูล เป็นหินไมกาเชียสแซนด์สโตน (Micaceous sandstone) หินดินดาน และหินดินดานเนื้อผสมปูน (Calcareous shale) สีน้ำตาลแดงหนาประมาณ 200-300 เมตร พบซากดึกดำบรรพ์ไตรโลไบด์ (Trilobites)และแบรกชิโอปอด (Brachiopods) หินทราย ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นชั้นของหินปูน และมีชั้นหินทรายแทรกสลับอยู่ ในที่สุดเปลี่ยนไปเป็นหินปูนทุ่งสง (Thungsong limestone)บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย พบที่บริเวณตะวันตกของจังหวัดตาก จังหวัดแม่ฮ่องสอนอำเภอฝาง บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอฮอต จังหวัดเชียงใหม่ และที่จังหวัดกาญจนบุรี หินยุคนี้ประกอบด้วย หินควอร์ตไซต์ที่วางตัวเป็นชั้นชัดเจน (Well-bedded quartzite) จนถึงควอร์ไซด์ที่ไม่พบชั้นหรือมวลเนื้อแน่น (Massive quartzite)
8.5.3 หินยุคออร์โดวิเชียนหรือหินปูนทุ่งสง (Ordovician Period-Thung Song limestone)
หินยุคนี้ส่วนใหญ่เป็นหินปูนสีเทาเข้ม-ดำ มักพบผลึกแร่ไพไรต์ (FeS2) และวัตถุที่มีเนื้อปูน (Calcareous materials) ปนอยู่ นอกจากนี้ยังมีมลทินเป็นทราย (Sand) และโคลน (Clay) ปนอยู่เป็นแนวยาวตามระนาบชั้นหิน แทรกสลับเป็นชั้นบางๆ ทั้งตอนล่าง และตอนบนของหินกลุ่มนี้อายุของหินปูนยุคนี้ได้จากซากดึกดำบรรพ์ แอคทิโนเซราสและอาร์มีโนเซราสเซฟาโลปอด (Actinoceras and Armenoceras Cephalopods) ที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
8.5.4 หินยุคไซลูเรียน-ดีโวเนียน-คาร์บอนิเฟอรัส หรือกลุ่มหินตะนาวศรี (Silurian, Devonian, Carboniferous Period ; Tanaosi Group)
กลุ่มหินตะนาวศรีพบแผ่กระจายค่อนข้างกว้างขวางในประเทศ กล่าวคือพบเกือบทุกภาคในประเทศไทย ยกเว้นที่ราบสูงโคราช แต่เข้าใจว่าอาจรองรับกลุ่มหินโคราช (Khorat Group) การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีของหินกลุ่มนี้มีมากกว่าหินกลุ่มอื่น จึงทำให้เกิดความยุ่งยากต่อการลำดับชั้นหิน และเป็นหินที่มีปัญหามากกว่ากลุ่มหนึ่งจึงมีผู้แบ่งย่อยเป็นชื่อกลุ่มต่างๆ หลายแบบในที่นี้จะกล่าวถึงที่สำคัญเท่านั้น หินกลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 2 หมวด (Formation) ใหญ่ๆ คือ
1) หมวดหินแก่งกระจาน (Kaeng Krachan Formation) เป็นหมวดที่วางตัวอยู่ข้างบนและมีอายุอยู่ในช่วง ดีโวเนียนตอนบน คาร์บอนิเฟอรัส (Upper-Devonian Carboniferous) หินหน่วยนี้บริเวณเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ประกอบไปด้วยหินโคลน หินดินดาน หินทรายและเกรย์แวก ส่วนใหญ่สีเทาดำ
2) หมวดหินกาญจนบุรี (Kanchanaburi Formation) เป็นหินที่รองรับหินหน่วยแก่งกระจานอยู่และมีอายุในช่วง ไซลูเรียน – ดีโวเนียนตอนล่าง (Silurian – lower Devonian) โดยทั่วไปหินหน่วยกาญจนบุรีประกอบด้วยหินแปรเกรดต่ำ ได้แก่ หินชนวน หินฟิลไลต์ หินควอร์ตไซต์ และมักบิดเบี้ยวคดโค้งไปมามาก
8.5.5 หินยุคคาร์บอนิเฟอรัสตอนบน เพอร์เมียน หรือ กลุ่มหินราชบุรี (Upper Carboniferous Permian Period : Ratchaburi Group) 
หินราชบุรีส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยหินปูนสีเทา-ขาว มักแสดงการโค้งงอให้เห็น บางส่วนแสดงการเกิดผลึกใหม่ (Recrystallization) ซึ่งแสดงว่าได้ผ่านการแปรสภาพ นอกจากหินปูนแล้วยังพบด้วยหินตะกอนที่มีองค์ประกอบของ เศษตะกอนของหินภูเขาไฟ (Volcanogenic sediments) เช่น หินทราย หินดินดาน หินกรวดมน หินปูนในกลุ่มนี้มีซากดึกดำบรรพ์จำนวนมาก (Fossilliferous limestone) เช่นสัตว์เซลล์เดียวพวกฟิวซูลินิค (Fusulinid) หรือที่เรียกว่า คตข้าวสาร แบรกชิโอปอต (Brachiopods)ปะการัง (Corais) และไบรโอโซน (Bryozoans)
8.5.6 หินยุคไทรแอสซิก หรือกลุ่มหินลำปาง (Triassic Period-Lampang Group)
กลุ่มหินลำปางเป็นหินที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนในทะเล (Marine sediments) แผ่กระจายไม่กว้างขวางมากนัก ส่วนใหญ่พบบริเวณภาคเหนือ เช่นที่จังหวัดลำปาง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน บางส่วนของจังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตามเส้นทางสายตากแม่สอด ส่วนบริเวณอื่นพบกระจัดกระจายอยู่ตามแนวเขตรอยเลื่อน (Fault zone) ขนาดใหญ่ เช่น ตอนใต้ของอำเภอทองผาภูมิ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ตามแนวรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์-ราชบุรี แม่น้ำแควใหญ่
8.5.7 หินยุคไทรแอสสิกตอนบนถึงครีเทเชียสหรือกลุ่มหินโคราช (Upper Triassic to Cretaceous Period – Khorat Group)
หินกลุ่มนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1/3 ของประเทศไทย โผล่ให้เห็นชัดเจนมากบริเวณภาคอีสานหรือที่ราบสูงโคราช (Khorat plateau) และต่อเนื่องเข้าไปยังประเทศลาว เขมร และเวียดนาม นอกจากนี้ยังพบกระจัดกระจายในส่วนอื่นของประเทศไทย เช่นจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก กาญจนบุรี เป็นต้น
กลุ่มหินนี้มีผู้ศึกษาตามเส้นทางสายลพบุรี นครราชสีมา บริเวณผานกเค้า ภูกระดึง เส้นทางสายอุดรธานี-หนองบัวลำพู และบริเวณทิวเขาภูพาน
8.5.8 หินยุคเทอร์เชีนรีหรือกลุ่มกระบี่ (Tertiary Period-Krabi Group)
หินกลุ่มนี้มีลักษณะเด่นคือประกอบด้วยหินกึ่งร่วนกึ่งแข็ง (Semiconsolidated rocks) ได้แก หินคาร์บอนาเชียสเชล (Carbonaceous shale) หินทราย ดินมาร์ล (Marl) หินปูนที่เกิดในน้ำจืด (Freshwayer limestone) ชั้นถ่านหิน และ/หรือชั้นหินน้ำมัน (Oill shale) มีสภาพแวดล้อมการเกิดเป็นแบบน้ำจืดและปากแม่น้ำ โดยทั่วไปหินชุดกระบี่มักจะพบในบริเวณที่เป็นแอ่งโด ๆ ระหว่างหุบเขา มักไม่ต่อเนื่องซึ่งกันและกัน
8.5.9 หินยุคควอเทอร์นารี (Quaternary deposits)
หินยุคนี้เป็นตะกอนร่วน (Unconsolidated sediment) เกิดจากการสะสมตัวของตัวกระทำต่างๆ เช่น น้ำ ลม มักพบอยู่ตามลำธาร ที่ราบลุ่ม และหาดทรายทั่วไป ประกอบด้วยตะกอนขนาดก้อนกรวด(Gravel) ทราย (Sand) ทรายแป้ง (Silt) และเคลย์ (Clay) หินยุคนี้อาจจัดแบ่งเป็นพวกตะกอนน้ำพา (Alluvium) การทับถมบนลาดตะพัก (Terrace deposits) และศิลาแลง (Laterite) พบเห็นได้ชัดบริเวณที่เป็นแอ่งที่ราบลุ่มแม่น้ำสายใหญ่ๆ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง เป็นต้น
8.5.10 หินอัคนีในประเทศไทย
หินอัคนีที่พบในประเทศไทยแบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มหินอัคนีพุ (Extrusive igneous rocks)ที่สำคัญได้แก่ หินแอนดีไซต์ ไรโอไลต์ หินชั้นภูเขาไฟ (Pyroclastic rocks) ที่มีอายุต่างๆ กัน รวมทั้งหินบะซอลต์ที่มีอายุควอเทอร์นารีด้วย และกลุ่มหินอัครีแทรกซ้อน (Intrusive igneous rocks) ที่สำคัญได้แก่ หินแกรนิต หินอัลตราเมฟิก (Ultramafic and mafic rocks)
1) หินแอนดีไซด์ – เดไซต์ – ไรโอไลต์ – หินชิ้นภูเขาไฟ หินภูเขาไฟที่พบในประเทศไทย แบ่งตามช่วงอายุการเกิดภูเขาไฟได้ ดังนี้
– หินยุคคาร์บอนิเฟอรัสตอนกลาง (Middle Carboniferous) ส่วนใหญ่เป็น หินแอนดีไซต์และหินชิ้นภูเขาไฟ ซึ่งพบตั้งแต่ทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงราย ต่อลงมาจนถึงขอบที่ราบสูงโคราช
– หินยุคเพอร์โม-ไทรแอสซิก (Permo-Triassic) ส่วนใหญ่เป็นหินแอนดีไซต์ ไรโอไลต์ เดไซต์ ทัฟฟ์ และหินกรวดมน พบมากในภาคเหนือ เช่น เขื่อนกิ่วลม ดอยพระบาท จังหวัดลำปาง ทางเหนือของจังหวัดลำพูน เชียงราย และแพร่
– หินยุคครีเทเชียส ถึงเทอร์เชียรี (Cretaceous3Tertiary) ส่วนใหญ่เป็นหิน แอนดีไซต์ ไรโอไลต์ และทัฟฟ์ แผ่กระจายไม่มาก ส่วนใหญ่พบบริเวณของที่ราบสูงโคราช เช่น บริเวณลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี
2) หินบะซอลต ์พบแผ่กระจายเป็นจุดๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ของประเทศไทย หินบะซอลต์ส่วนใหญ่เกิดในลักษณะของการไหล (Flow) ออกมาของลาวาตามรอยแตกของผิวโลกหรือเป็นปลั๊ก (Plug) อายุโดยทั่วไปตั้งแต่ เทอร์เชียรีตอนปลายถึงควอเทอร์นารี (Late Tertiary Quaternary) บะซอลต์ในประเทศไทยพอจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
– บะซอลต์ที่สัมพันธุ์กับพลอยคอรันดัม (Corundum related basalt) เช่น ที่บ้านหนองบอน บ้านบ่อไร่ จังหวัดตราด บ้านบ่อพลอย – บ้านตกพรม จังหวัดจันทบุรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี บ้านบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ บ้านหนอง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง บ้านโคกสำราญ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นต้น
– บะซอลต์ที่ไม่สัมพันธ์กับพลอยคอรันดัม (Coundumless bwsalt) เช่นที่ อำเภอเทิงจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่ทา จังหวัดลำปาง จังหวัดเลย จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอโคกสำโรง และอำเภอลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสระบุรี เป็นต้น
3) หินแกรนิต เป็นหินอัคนีที่พบแพร่หลาย และมีความสำคัญในแง่ที่สัมพันธ์กับแหล่งแร่เศรษฐกิจของประเทศไทย แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ตามอายุที่ได้จากการหาอายุทางกัมมันตรังสี (Radioactive dating)รวมทั้งหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นในภาคสนาม คือ
– แกรนิตยุคคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous granite) โผล่ให้เห็นมากบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยใกล้พรมแดนไทยพม่า เป็นแนวยาวจากตะวันตกของเชียงใหม่-อุทัยธานี และโผล่ให้เห็นบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง ลักษณะเด่นของแกรนิตยุคนี้คือ มีแนวการเรียงตัวของเม็ดแร่ (Foliation) อย่างชัดเจนโดยเฉพาะ แร่ไบโอไทต์ บางทีเรียกว่า โฟลิเอตเตคหรือสเตรสแกรนิต (Foliated or stressec granite) นอกจากนั้นยังไม่พบแร่ฮอร์นเบลนด์ ปริมาณแร่แอลคาไลเฟลด์สปาร์มีมากกว่า แพลจิโอเคลเฟลด์สปาร์ และมักเกิดเป็นมวลหินอัคนีชนิดการแทรกซ้อนร่วมแนว (Concordant intrusion) กับหินดั้งเดิมในบริเวณนั้น
– แกรนิตยุคไทรแอสซิก-จูแรสซิก (Triassic Jurassic granite) โผล่ให้เห็นชัดบริเวณภาคเหนือ เช่น ทิวเขาขุนตาล อำเภอเมือง จังหวัดตาก ลักษณะเด่นคือ มักเป็นพวกที่มีผลึกขนาดใหญ่และเป็นสองขนาด (Porphyitic Phaneritie texture) ปริมาณแร่แพลจิโอเคลสเฟลด์สปาร์มีมากกว่า แอลคาไลเฟลด์สปาร์ มีแร่ฮอร์นเบลนด์ ไม่พบแร่มัสโคไวต์ปฐมภูมิ (Primary muscovite) มักไม่พบหินเพกมาไทต์ มักเห็นมวลหินที่แทรกเข้ามาในหินดั้งเดิมแบบการแทรกซอนไม่ร่วมแนว (Discordant intrusion)
– แกรนิตยุคครีเทเซียส (Cretaceous granite) โผล่ให้เห็นน้อย พบที่อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และอำเภอแม่ทา จังหวัดลำปาง
4) หินอัลตราเมฟิก และหินเมฟิก หินอัคนีเหล่านี้ประกอบด้วยหินไดออไรด์ แกบโบร ไพรอกซีไนต์ ดูไนต์ เป็นส่วนใหญ่ และมักเกิดร่วมกันอยู่ พบแผ่กระจายไปมาก ที่พบมากได้แก่ บริเวณอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ทางทิศเหนือและตะวันออกของอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย ตามลำน้ำน่าน จังหวัดน่าน และจังหวัดสระแก้ว เป็นต้น แทรกตัวขึ้นมาในหินที่มีอายุแก่กว่า บางบริเวณหินไพรอกซีไนต์ อาจถูกเปลี่ยนไปเป็น หินเซอร์เพนทิไนต์ (Serpentinite) มักมีแร่ใยหิน (Asbestos) และแร่ทัลก์ (หรือหินสบู่ Soapstone) ติดร่วมอยู่ด้วย อายุที่ได้จากการเปรียบเทียบลำดับชั้นหิน คือประมาณคาร์บอนเฟอรัสถึงคาร์บอนนิเฟอรัสตอนปลาย (Carboniferous – Late Carboniferous)

 

[Update] | pajamas คือ – NATAVIGUIDES

บทเรียน

ขั้นตอนสำหรับการเขียนบทภาพยนตร์

1. การค้นคว้าหาข้อมูล (research)

เป็นขั้นตอนการเขียนบทภาพยนตร์อันดับแรกที่ต้องทำถือเป็นสิ่งสำคัญหลังจากเราพบประเด็นของเรื่องแล้ว จึงลงมือค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อเสริมรายละเอียดเรื่องราวที่ถูกต้อง จริง ชัดเจน และมีมิติมากขึ้น  คุณภาพของภาพยนตร์จะดีหรือไม่จึงอยู่ที่การค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าภาพยนตร์นั้นจะมีเนื้อหาใดก็ตาม

2. การกำหนดประโยคหลักสำคัญ (premise)

หมายถึงความคิดหรือแนวความคิดที่ง่าย ๆ ธรรมดา ส่วนใหญ่มักใช้ตั้งคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นถ้า…” (what if) ตัวอย่างของ premise ตามรูปแบบหนังฮอลลีวู้ด เช่น เกิดอะไรขึ้นถ้าเรื่องโรเมโอ &จูเลียตเกิดขึ้นในนิวยอร์ค คือ เรื่อง West Side Story, เกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ดาวอังคารบุกโลก คือเรื่อง The Invasion of Mars, เกิดอะไรขึ้นถ้าก็อตซิล่าบุกนิวยอร์ค คือเรื่อง Godzilla, เกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ต่างดาวบุกโลก คือเรื่อง The Independence Day, เกิดอะไรขึ้นถ้าเรื่องโรเมโอ &จูเลียตเกิดขึ้นบนเรือไททานิค คือเรื่อง Titanic เป็นต้น

3. การเขียนเรื่องย่อ (synopsis)

คือเรื่องย่อขนาดสั้น ที่สามารถจบลงได้ 3-4 บรรทัด หรือหนึ่งย่อหน้า หรืออาจเขียนเป็น story outline เป็นร่างหลังจากที่เราค้นคว้าหาข้อมูลแล้วก่อนเขียนเป็นโครงเรื่องขยาย (treatment)

4. การเขียนโครงเรื่องขยาย (treatment)

เป็นการเขียนคำอธิบายของโครงเรื่อง (plot) ในรูปแบบของเรื่องสั้น โครงเรื่องขยายอาจใช้สำหรับเป็นแนวทางในการเขียนบทภาพยนตร์ที่สมบูรณ์ บางครั้งอาจใช้สำหรับยื่นของบประมาณได้ด้วย และการเขียนโครงเรื่องขยายที่ดีต้องมีประโยคหลักสำคัญ (premise)  ที่ง่าย ๆ น่าสนใจ

 5. บทภาพยนตร์ (screenplay)

สำหรับภาพยนตร์บันเทิง หมายถึง บท (script) ซีเควนส์หลัก (master scene/sequence)หรือ ซีนาริโอ (scenario) คือ บทภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่อง บทพูด แต่มีความสมบูรณ์น้อยกว่าบทถ่ายทำ (shooting script) เป็นการเล่าเรื่องที่ได้พัฒนามาแล้วอย่างมีขั้นตอน ประกอบ ด้วยตัวละครหลักบทพูด ฉาก แอ็คชั่น ซีเควนส์ มีรูปแบบการเขียนที่ถูกต้อง เช่น บทสนทนาอยู่กึ่งกลางหน้ากระดาษฉาก เวลา สถานที่ อยู่ชิดขอบหน้าซ้ายกระดาษ ไม่มีตัวเลขกำกับช็อต และโดยหลักทั่วไปบทภาพยนตร์หนึ่งหน้ามีความยาวหนึ่งนาที

6. บทถ่ายทำ (shooting script)

คือบทภาพยนตร์ที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเขียน บทถ่ายทำจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทภาพยนตร์ (screenplay) ได้แก่ ตำแหน่งกล้อง การเชื่อมช็อต เช่น คัท (cut) การเลือนภาพ (fade) การละลายภาพ หรือการจางซ้อนภาพ (dissolve) การกวาดภาพ (wipe) ตลอดจนการใช้ภาพพิเศษ (effect) อื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเลขลำดับช็อตกำกับเรียงตามลำดับตั้งแต่ช็อตแรกจนกระทั่งจบเรื่อง

7. บทภาพ (storyboard)

คือ บทภาพยนตร์ประเภทหนึ่งที่อธิบายด้วยภาพ คล้ายหนังสือการ์ตูน ให้เห็นความต่อเนื่องของ

ช็อตตลอดทั้งซีเควนส์หรือทั้งเรื่องมีคำอธิบายภาพประกอบ เสียงต่าง ๆ เช่น เสียงดนตรี เสียงประกอบฉาก และเสียงพูด เป็นต้น ใช้เป็นแนวทางสำหรับการถ่ายทำ หรือใช้เป็นวิธีการคาดคะเนภาพล่วงหน้า (pre-visualizing) ก่อนการถ่ายทำว่า เมื่อถ่ายทำสำเร็จแล้ว หนังจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งบริษัทของ Walt Disney นำมาใช้กับการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนของบริษัทเป็นครั้งแรก โดยเขียนภาพ      เหตุการณ์ของแอ็คชั่นเรียงติดต่อกันบนบอร์ด เพื่อให้คนดูเข้าใจและมองเห็นเรื่องราวล่วงหน้าได้ก่อนลงมือเขียนภาพ ส่วนใหญ่บทภาพจะมีเลขที่ลำดับช็อตกำกับไว้ คำบรรยายเหตุการณ์ มุมกล้อง และอาจมีเสียงประกอบด้วย

 

 

ขั้นตอนในการถ่ายภาพยนตร์สั้น

ขั้นที่1  หาองค์ประกอบด้านวิธีการ คือ หลักการ การวางแผน การถ่ายทำ

การตัดต่อ การประเมินผล

ขึ้นที่2   หาองค์ประกอบด้านบุคลากร คือ บุคลากรในหน้าที่ต่างๆตั้งแต่ ตัวละคร บุคคลทางเทคนิค รวมไปถึง ผู้มีความสามารถเฉพาะครับ จะดีมากๆ และอีกอย่างคือทีมเวิคครับ

ขั้นที่3   เตรียมการผลิต คือ วางแผน เตรียมสถานที่ บท อุปกรณ์ ให้ครบ

ขั้นที่4    บทหนัง คือ วางบท คำพูด ระยะเวลาสถานที่ เรื่องราว ที่จะสื่อออกมา

เรื่องบทนี้จะมี หลายแบบ

– บทแบบสมบูรณ์  ประมาณว่า เก็บทุกรายละเอียดทุกคำพูดครับ

– บทแบบอย่างย่อ ประมาณว่า เปิดกว้างๆให้ผู้ชมสังเกตในความเข้าใจของตนเอง

– บทแบบเฉพาะ

– บทแบบร่างกำหนด

ขั้นที่5    การผลิต อย่างแรกเลย แต่ละฉากคุณต้องเลือกมุมกล้องให้เหมาะสม กับสภาพอากาศ ขนาดวัตถุ ว่าควรเห็นแค่ไหน  ขนาดมุมกล้องมีหลายแบบนะเยอะมาก ผมพูดรวมๆละกัน มีแบบ ระยะไกลมาก ระยะไกล ระยะปานกลาง ระยะใกล้

ขั้นที่6   ค้นหามุมกล้อง

– มุมคนดู ประมาณว่า เป็นมุมถ่ายจากรอบนอกของฉากนั้นๆครับ เหมือนผู้ชมเป็นคนสังเกตฉากนั้นๆ

– มุมแทนสายตา

– มุมพ้อยออฟวิว มุมนี้แนะนำให้ใช้เยอะๆครับ สวยมากมุมนี้ในการทำหนัง เป็นมุมที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ครับ เช่น การถ่ายข้ามไหล่ของตัวละคร หรือวัตถุ ครับ

 

ขั้นที่7   การเคลื่อนไหวของกล้อง

– การแพน การทิลท์ ประมาณว่า การทำเคลื่อนไหวกล้องให้เห็นตำแหน่งวัตถุนั้นสัมพันกันครับ

– การดอลลี่ การติดตามการเคลื่อนไหวเลยครับ

– การซูม เป็นการเปลี่ยนองค์ประกอบภาพครับ เหมือนเน้นความสนใจในจุดๆหนึ่ง

ขั้นที่8   เทคนิคการถ่าย

เอาเป็นว่าจับกล้องให้มั่นนะครับ อย่างผมก็จะจับ แบบกระชับกับตัวเลย คือแขนทั้งสองข้างแนบตัวเลยครับ

และก็ไม่แนะนำให้เคลื่อนไหวกล้องแบบรวดเร็วนะครับ กล้องจะปรับโฟกัสไม่ทัน ทำให้ภาพเบลอครับ

ขั้นที่9    หลังการผลิต ก็ต้องตัดต่อ เพิ่มเสียง เอ็ฟเฟก ความคมชัด ความเด่นชัดเรื่อง อักษรหนังสือ

ขั้นที่10   การตัดต่อ

อย่างแรกเลยครับจัดลำดับภาพ และเวลาให้ตรงและเหมาะสม อันไหนเกินยาวก็ให้ตัดทิ้งครับอย่าให้ขัดอารมณ์

อย่างสองคือจัดภาพให้เหมาะสม เนื้อหาและโครงเรื่องที่เราวางไว้ครับ

อย่างสามแก้ไขข้อบกพร่องครับ

อย่างสี่ เพิ่มเทคนิคให้ดูสวยงาม

เทคนิคการถ่ายวีดีโอ

ปัจจุบันกล้องวีดีโอมีอยู่หลายประเภท เช่น แบบ Handycam(กล้องขนาดเล็ก)  กล้องแบบมืออาชีพ(ขนาดใหญ่) แต่หลักการและเทคนิคการถ่ายจะเหมือนๆกัน

ก่อนอื่นเรามาทราบถึงประเภทของสื่อที่ใช้บันทึกภาพของกล้องวีดีโอก่อนว่าปัจจุบันมีอยู่กี่แบบ

1.แบบใช้ม้วนเทป  ปัจจุบันเหลือเพียง miniDV   เป็นส่วนใหญ่

2.แบบใช้แผ่น  ซึ่งจะใช้แผ่น mini DVD เป็นตัวเก็บข้อมูล

3.แบบใช้ Hard Disk ปัจจุบันมีให้เลือกหลายขนาดของความจุ เช่น 30 GB, 60 GB ต้น

4.แบบใช้ Memory card  เช่น SD,  Memory Stick, XDcard  เป็นต้น

เทคนิคการถ่าย

1. อย่าถ่ายแช่นานเกินไป

2.อย่ายกกล้องไปมาแทนสายตา

3.ถ้าเหตุการณ์นั้นยังไม่สิ้นสุด อย่าหยุดถ่ายกลางคัน

4.อย่าZoom หรือ Pan ขณะถ่าย บ่อยเกินไป

5.หาจุดจบที่ทำให้สนใจ

6.พยายามมองหาจุดที่น่าสนใจรอบๆตัวเพื่อจะได้ไม่พลาดเหตุการณ์สำคัญ

หลักการง่ายๆแค่นี้ ท่านก็จะได้ภาพที่ดูดี ระดับมืออาชีพแล้ว

7. ถือกล้องให้นิ่ง อย่าสั่น เทคนิคง่ายๆคือกลั้นหายใจ หรือหายใจเบาๆ ขณะที่กด record

 

เทคนิคการถ่ายวีดีโอให้นิ่งที่สุด โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง

ส่วนใหญ่แล้วช่างภาพวีดีโอมือสมัครเล่นทั่วไป จะชอบถือกล้องในแบบที่ถนัดที่สุด แบบที่สบายที่สุด และแบบที่ถือแล้วไม่เมื่อย แต่มุมมองที่ออกมา ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมภาพสั่นยังกะอยู่ในคลื่นกลางทะเล วิธีที่จะทำให้วีดีโอนั้นไม่สั่นก็ต้องใช้ขาตั้งกล้องนะครับ ขาตั้งกล้องช่วยได้มากทีเดียว และต้องเป็นหัวแพนด้วย ถ้าเป็นหัวบอล ใช้สำหรับกล้องถ่ายภาพนิ่งนะครับ แต่ถ้าเกิดว่าเราไปเที่ยว ถือแค่กล้องถ่ายวีดีโอไปตัวเดียว ไม่อยากเอาขาตั้งกล้องไปด้วย มันใหญ่และเกะกะมาก ผมมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆครับ ที่จะทำให้ได้มุมมองที่สวย และจับถือได้นิ่งมากๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องเลย ขั้นตอนแรกนะครับ ให้ท่านจับกล้องด้วย 2 มือ กุมกล้องไว้ในมือทั้ง 2 จากนั้นยืดแขนออกไปให้สุด เพื่อฟิตกล้ามเนื้อก่อน ซัก 3-5 รอบ แล้วก็เอากล้องมาชิดที่หน้าท้อง ติดหน้าท้องเลยนะครับ ดันให้แน่นๆ เสยมุมกล้องขึ้นบนนิดหน่อยพอสวยงาม จากนั้นก็บิดจอ LCD ขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นจอภาพถนัดๆ จากนั้นก็กด Record ได้เลย ในระหว่างที่ถ่ายอยู่ ต้องใช้มือทั้ง 2 ที่กุมกล้องอยู่ ดันกล้องให้ติดหน้าท้องนะครับ รับรองได้ว่า วีดีโอที่ออกมา สวยและนิ่งใช้ได้เลยครับ แต่ถ่ายไปนานๆ จะรู้สึกเมื่อยนะครับ เพราะต้องกดกล้องเข้าหาหน้าท้องตัวเองอยู่ตลอดเวลา หากถ่ายนานๆใช้ขาตั้งหรือโต๊ะ หรือหาอะไรที่มันพอจะวางกล้องได้มันจะดีกว่านะครับ ลองเอาเทคนิคนี้ไปประยุกต์ใช้กันดู หวังว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับสมาชิกทุกท่านครับ

 

การเขียนบทภาพยนตร์จากเรื่องสั้น

การเขียนบทอาจเป็นเรื่องที่นำมาจากเรื่องจริง เรื่องดัดแปลง ข่าว เรื่องที่อยู่รอบ ๆ ตัว  นวนิยาย   เรื่องสั้น หรือได้แรงบันดาลใจจากความประทับใจในเรื่องราวหรือบางสิ่งที่คนเขียนบทได้สัมผัส เช่น ดนตรี บทเพลง บทกวี ภาพเขียน และอื่น ๆ หรืออะไรที่ทำให้เกิดความคิด จินตนาการ การสร้างสรรค์ คือการนำเรื่องราวมาประสมประสานกันให้เป็นเรื่องขึ้นมา ความพยายามเท่านั้นทำให้เกิดความสำเร็จ  ขอให้ศึกษาในบทภาพยนตร์ต่อไป


Is it Bad to Hold our Urine? + more videos | #aumsum #kids #science #education #children


Buy AumSum Merchandise: http://bit.ly/3srNDiG
Website: https://www.aumsum.com
Our body has various ways to get rid of unwanted waste materials. One of these ways is through urine. Urine is a liquid waste consisting of unwanted materials like water, salts, urea, uric acid, etc.
The urinary system consists of two kidneys, two ureters, a urinary bladder and a urethra. The two kidneys filter blood and produce urine, which flows through the ureters and starts getting collected in the urinary bladder. When our urinary bladder starts getting full and it begins to stretch or expand, the nerves of the bladder inform the brain to produce an urge to urinate. Now, when we want to urinate, the bladder contracts and the urine flows out of the body through the urethra.
Once in a while, it’s okay to hold our urine. But stress and pressures of modern life make us hold our urine more often and for longer periods, which can have negative effects on our health. For example, a wet and warm bladder of urine is the perfect breeding ground for harmful bacteria. Hence, if we don’t empty the bladder regularly, then the bacteria are more likely to grow and multiply, causing urinary tract infection or UTI.
Holding the urine can also cause the bladder to remain expanded or stretched for too long. This may make it difficult for the bladder to contract normally while urinating. As a result, the bladder will not be emptied completely which can lead to discomfort, pain and other serious problems.
Sometimes, the excess urine in bladder can even flow back to the kidneys, causing kidney damage or kidney infection. In very rare cases, the bladder may even burst, risking the life of the individual.
Also, don’t forget to subscribe to our YouTube channel.

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Is it Bad to Hold our Urine? + more videos | #aumsum #kids #science #education #children

How To Make A Pajama Pants Pattern


On this segment I’ll show you how to draft your own pajama pant pattern.
Please visit this link to view your size chart:
http://feliciazee.com/diy/makepajamapantpattern/

How To Make A Pajama Pants Pattern

เพราะเราเล่นกัน #Play2gether | EP.2


4 วันจันทร์สุดพิเศษที่คุณจะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะความคิดถึงของทุกคนมีค่า เราเลยพาให้ทุกคนมาเจอกันอีกครั้ง… ซีรีส์จบ แต่พวกเค้าขอยังไม่จบ! มาฟังเพลงเพราะๆ ฟินๆ จากเหล่านักแสดงซีรีส์ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ที่ทุกคนคิดถึง
ติดตาม เพราะเราเล่นกัน Play2gether
ทุกวันจันทร์ เวลา 20:00 น. ทาง YouTube : GMMTV
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ GMMTV ได้ที่
FB | https://www.facebook.com/GMMTVOFFICIAL
IG | https://www.instagram.com/GMMTV
Twitter | https://www.twitter.com/GMMTV
TikTok | http://vm.tiktok.com/RLrVAC
YouTube | https://www.youtube.com/GMMTV
LINETV | https://tv.line.me/st/gmmtv
Dailymotion | https://www.dailymotion.com/gmmtv
Weibo | http://www.weibo.com/u/6146914790
Website | http://www.gmmtv.com
ติดต่อโฆษณา
คุณชนิดา วงศ์ธนาภักดี โทร 026698330
[email protected]
Play2gether GMMTV

เพราะเราเล่นกัน #Play2gether | EP.2

TÔ MÀU TRANH CÁT CÔNG CHÚA XINH ĐẸP – Colored sand painting princess beauty (Chim Xinh)


Cchị Chim Xinh TÔ MÀU TRANH CÁT CÔNG CHÚA XINH ĐẸP theo yêu cầu của thành viên kênh Chim Xinh channel, xem video chị Chim Xinh tô tranh cát và đóng góp ý kiến dưới video nhé .
Colored sand painting princess beauty (Chim Xinh)

© Bản quyền thuộc về Chim Xinh Channel
© Copyright by Chim Xinh Channel ☞ Do not Reup

TÔ MÀU TRANH CÁT CÔNG CHÚA XINH ĐẸP - Colored sand painting princess beauty (Chim Xinh)

Move ไปไหน (Unmovable) – BRIGHT VACHIRAWIT | BOYS DON’T CRY


Song : Move ไปไหน (Unmovable) | BOYS DON’T CRY
Artist : ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี BRIGHT VACHIRAWIT
Producer : Achariya Dulyapaiboon, Chonlatas Chansiri
Lyrics / Melody : Achariya Dulyapaiboon
Arranged : Chonlatas Chansiri
Guide Vocals : Achariya Dulyapaiboon
Background Vocals : Amp, Bright
Vocal Director : Achariya Dulyapaiboon, Chonlatas Chansiri, Kru Green
Recording at DBS Studio, Chonlatas studio
Digital Editor : Chonlatas Chansiri
Mixed and Mastered : Rawee Kangsanarak
Digital Download 1232323
Spotify | iTunes | JOOX
ฉันไม่รู้นานเท่าไร ที่ในใจฉันเหมือนเวลาหยุดไป
ฉันไม่รู้ว่าต้องทำ ทำยังไง ให้ไปต่อได้สักที
ฉันก็รู้ว่าต้องลืม ต้องไม่จำ แต่สมองมันจำอยู่ดี
ทั้งที่รู้ว่าอะไรควรจะทำ แต่ทำไม่ได้ทุกที
Move on คำที่ใครก็บอกฉัน
Move on เคยได้ยินแหละคำนั้น
คำพูดง่าย ๆ ที่ฉันยังทำไม่ได้
จะให้ฉัน Moveไปไหน ก็ใจมันยังอยู่ตรงที่เธอ
กี่ทีที่ฉัน Move ก็ยังเผลอ เผลอเดินถอยหลังไป
พยายาม Move on แล้ว ฉันพยายามจะทำเท่าไหร่
ก็ยังคง Move วนไปเพราะใจยังอยู่ที่เดิม
I’ll keep on moving on
ก็รู้ต้องเดินต่อไป ต้องเจออะไรอีกเยอะในชีวิต
แต่ลืมใครสักคน มันก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิด
ให้ลบเธอจากใจมันไม่ได้ง่าย ไม่ใช่กด Delete
ก็ขอเวลาให้แผลในใจมันจางไปอีกนิด
Move onไม่ว่าใครก็บอกฉัน
Move on ก็เคยได้ยินแหละคำนั้น
คำพูดง่าย ๆ ที่ฉันยังทำไม่ได้
จะให้ฉันMove ไปไหน ก็ใจมันยังอยู่ตรงที่เธอ
กี่ทีที่ฉัน Move ก็ยังเผลอ เผลอเดินถอยหลังไป
พยายาม Move onแล้ว ฉันพยายามจะทำเท่าไหร่
ก็ยังคง Move วนไปเพราะใจยังอยู่ที่เดิม
I’ll keep on moving on
จะให้ฉัน Moveไปไหน ก็ใจมันยังอยู่ตรงที่เธอ
กี่ทีที่ฉัน Move ก็ยังเผลอ เผลอเดินถอยหลังไป
พยายาม Move on แล้ว ฉันพยายามจะทำเท่าไหร่
ก็ยังคง Move วนไปเพราะใจยังอยู่ที่เดิม
I’ll keep on moving on
I’ll keep on moving on
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่\r
FB | https://www.facebook.com/GMMTVOFFICIAL \r
Twitter | https://www.twitter.com/GMMTV \r
IG | https://www.instagram.com/GMMTV \r
Weibo | http://www.weibo.com/u/6146914790 \r
YouTube | https://www.youtube.com/GMMTV \r
YouTube | https://www.youtube.com/GMMTVRECORDS\r
Website | http://www.gmmtv.com\r
\r
Moveไปไหน BOYSDONTCRYPROJECT GMMTV GMMTVRECORDS GMMGRAMMY
Subtitles
Korean : @brightly_j
Turkish : haneul @ Bright \u0026 Win Turkey
Spanish : @14TORXE
Japanese : @BrightJapanFC
Chinese (Simplified) : Bbrightvc Translate team
Chinese (Hong Kong) : kongjiproduction (Instagram)
French : FranceBrights
Chinese (Taiwan) : Yuan
Vietnamese : Nguyen Mai Nguyen (บอล)

Move ไปไหน (Unmovable) - BRIGHT VACHIRAWIT | BOYS DON'T CRY

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ pajamas คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *