Skip to content
Home » [Update] คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ [Weather Vocabulary] | อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ [Weather Vocabulary] | อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ [Weather Vocabulary]

เกณฑ์ในคำพยากรณ์และรายงานอากาศ

เกณฑ์อากาศร้อน ใช้อุณหภูมิสูงสุดประจำวันและใช้ในเฉพาะในฤดูร้อน
อากาศร้อน (Hot) อุณหภูมิสูงสุดประจำวันและใช้เฉพาะในฤดูร้อน
อากาศร้อนจัด (Very Hot) อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0 องศาเซลเซียสขึ้นไป

เกณฑ์อากาศหนาว ใช้อุณหภูมิต่ำที่สุดประจำวันและใช้เฉพาะฤดูหนาว

อากาศเย็น (Cool) อุณหภูมิตั้งแต่ 18.0 – 22.9 องศาเซลเซียส
อากาศค่อนข้างหนาว (Moderately Cold) อุณหภูมิตั้งแต่ 16.0 – 17.9 องศาเซลเซียส
อากาศหนาว (Cold) อุณหภูมิตั้งแต่ 8.0 – 15.9 องศาเซลเซียส
อากาศหนาวจัด (Very Cold) อุณหภูมิตั้งแต่ 7.9 องศาเซลเซียส

เกณฑ์การกระจายของฝน

  1. ฝนบางพื้นที่ (Isolated) หมายถึง มีฝนตกน้อยกว่า 20 % ของพื้นที่

  2. ฝนกระจายเป็นแห่ง (Widely Scattered) หมายถึง มีฝนตกตั้งแต่ 20 % ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 40 % ของพื้นที่

  3. ฝนกระจาย (Scattered) หมายถึง มีฝนตกตั้งแต่ 40 % ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 % ของพื้นที่

  4. ฝนเกือบทั่วไป (Almost Widespread) หมายถึง มีฝนตกตั้งแต่ 60 % ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80% ของพื้นที่

  5. ฝนทั่วไป (Widespread) หมายถึง มีฝนตกตั้งแต่ 80 % ของพื้นที่ขึ้นไป

เกณฑ์ปริมาณน้ำฝน

  1. ฝนเล็กน้อย (Light Rain) ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 0.1 มิลลิเมตร ถึง 10.0 มิลลิเมตร

  2. ฝนปานกลาง (Moderate Rain) ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 10.1 มิลลิเมตร ถึง 35.0 มิลลิเมตร

  3. ฝนหนัก (Heavy Rain ) ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 35.1 มิลลิเมตร ถึง 90.0 มิลลิเมตร

  4. ฝนตกหนักมาก (Very Heavy Rian) ฝนตกมีปริมารตั้งแต่ 90.1 มิลลิเมตร ขึ้นไป

เกณฑ์จำนวนเมฆในท้องฟ้า โดยแบ่งท้องฟ้าเป็น 10 ส่วน

  1. ท้องฟ้าแจ่มใส (Fine) ท้องฟ้าไม่มีเมฆหรือมีแต่น้อยกว่า 1 ส่วนของท้องฟ้า

  2. ท้องฟ้าโปร่ง (Fair) ท้องฟ้ามีเมฆตั้งแต่ 1 ส่วน ถึง 3 ส่วนของท้องฟ้า

  3. ท้องฟ้ามีเมฆบางส่วน (Partly Cloudy Sky ) ท้องฟ้ามีเมฆเกินกว่า 3 ส่วนถึง 5 ส่วนของท้องฟ้า

  4. ท้องฟ้ามีเมฆเป็นส่วนมาก (Cloudy Sky) ท้องฟ้ามีเมฆเกินกว่า 5 ส่วนถึง 8 ส่วนของท้องฟ้า

  5. ท้องฟ้ามีเมฆมาก (Very Cloudy Sky) ท้องฟ้ามีเมฆเกินกว่า 8 ส่วนถึง 9 ส่วนของท้องฟ้า

  6. ท้องฟ้ามีเมฆเต็มท้องฟ้า (Overcast Sky) ท้องฟ้ามีเมฆเกินกว่า 9 ส่วน ถึง 10 ส่วนของท้องฟ้า

เกณฑ์ความเร็วลมผิวพื้น ความเร็วลมที่ระดับสูงมาตรฐาน 10 เมตรเหนือพื้นดินในบริเวณที่โล่งแจ้ง

ขนาดของลม

สัญลักษณ์ที่แสดงบนบก

Knots

Km./hr

ลมสงบ

CALM

ลมเงียบ ควันลอยขึ้นตรงๆ

น้อยกว่า 1

น้อยกว่า 1

ลมเบา

LIGHT AIR

ควันลอยตามลม แต่ศรลมไม่ทันไปตามทิศลม

1-3

1-5

ลมอ่อน

LIGHT BREEZE

รู้สึกลมพัดที่ใบหน้า ใบไม้แกว่งไกว ศรลมหันไปตามทิศลม

4-6

6-11

ลมโชย

GENTLEBREEZE

ใบไม้และกิ่งไม้เล็ก ๆ กระดิก ธงปลิว

7-10

12-19

ลมปานกลาง

MODERATEBREEZE

มีฝุ่นตลบ กระดาษปลิว กิ่งไม้เล็กขยับเขยื้อน

11-16

20-28

ลมแรง

FRESHBREEZE

ต้นไม้เล็กแกว่งไกวไปมา มีระลอกน้ำ

17-21

29-38

ลมจัด

STRONGBREEZE

กิ่งไม้ใหญ่ขยับเขยื้อน ได้ยินเสียงหวีดหวิว ใช้ร่มลำบาก

22-27

39-49

พายุเกล อ่อน

GALE

ต้นไม้ใหญ่ทั้งต้นแกว่งไกว เดินทวนลมไม่สะดวก

28-33

50-61

พายุเกล แรง

STRONGGALE

อาคารที่ไม่มั่นคงหักพัง หลังคาปลิว

41-47

75-88

พายุ

STORM

ต้นไม้ถอนรากล้ม เกิดความเสียหายมาก (ไม่ปรากฏบ่อยนัก)

48-55

89-102

พายุใหญ่

VIOLENTSTORM

เกิดความเสียหายทั่วไป (ไม่ค่อยปรากฏ)

56-63

103-117

พายุไต้ฝุ่น

รือ เฮอร์ริเคน

TYPHOON or

HURRICANE

มากกว่า

63

มากกว่า

117

เกณฑ์สถานะของทะเล

  1. ทะเลสงบ (Calm) ความสูงของคลื่น 0.0 เมตร ถึง 0.10 เมตร

  2. ทะเลเรียบ (Smooth) ความสูงของคลื่น 0.10 เมตร ถึง 0.50 เมตร

  3. ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย (Slight) ความสูงของคลื่น 0.50 เมตร ถึง 1.25 เมตร

  4. ทะเลมีคลื่นปานกลาง (Moderate) ความสูงของคลื่น 1.25 ถึง 2.50 เมตร

  5. ทะเลมีคลื่นจัด (Rough) ความสูงของคลื่น 2.50 เมตร ถึง 4.00 เมตร

  6. ทะเลมีคลื่นจัดมาก (Very Rough) ความสูงของคลื่น 4.00 เมตร ถึง 6.00 เมตร

  7. ทะเลมีคลื่นใหญ่ (High) ความสูงของคลื่น 6.00 เมตร ถึง 9.00 เมตร

  8. ทะเลมีคลื่นใหญ่มาก (Very High) ความสูงของคลื่น 9.00 เมตร ถึง 14.00 เมตร

  9. ทะเลมีคลื่นใหญ่และจัดมาก (ทะเลบ้า – Phenomenal) ความสูงของคลื่นมากกว่า 14 เมตร

บริเวณความกดอากาศสูง (High Pressure Area หรือ High) หรือแอนติไซโคลน (Anitcyclone)

    บริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลน คือ บริเวณที่มีความกดอากาศสูงกว่าบริเวณใกล้เคียงที่อยู่รอบๆ ในแผนที่อากาศผิวพื้น แสดงด้วยเส้นความกดอากาศเท่าเป็นวงกลมหรือเป็นวงรีรูปไข่ล้อมรอบ บริเวณที่มีความกดอากาศสูง นั่นคือบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลน จะเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศสูงขึ้นจากขอบนอกเข้าสู่ศูนย์กลาง บริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนนี้จะมีกระแสลมพัดออกจากศูนย์กลางในทิศทางตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และทิศทางทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้ การเคลื่อนไหวของอากาศรอบศูนย์กลางบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนเช่นนี้ เรียกว่า Anitcyclonic Circulation
โดยทั่วไปในบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนลมอ่อนและลมมักสงบในบริเวณใกล้ศูนย์กลาง มีเมฆเพียงเล็กน้อย แต่อาจมีเมฆมากกับฝนได้ตามขอบของบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโ๕ลนที่อยู่ใกล้กับแนวปะทะอากาศ
ในซีกโลกเหนือทางตะวันออกของบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโ๕ลน อากาศจะเย็นที่ผิวพื้นและเป็นลมฝ่ายเหนือพัดผ่าน เรียกบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนชนิดนี้ว่า Cold High ส่วนทางด้านตะวันตก อากาศจะค่อนข้างร้อนและเป็นลมฝายใต้พัดผ่าน เรียกบริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนชนิดนี้ว่า Warm High บริเวณความกดอากาศสูงหรือแอนติไซโคลนชนิด Cold High แผ่ลงมาเมื่อไรอากาศจะหนาวเย็น ส่วน Warm High อากาศจะร้อนเนื่องจากลมพัดมาจากทางใต้ แม้ว่าจะมีความชื้นสูงแต่ไม่มีฝนตก จะทำให้อากาศร้อนอบอ้าว บางครั้งเรียกว่า คลื่นความร้อน (Heat Wave)

บริเวณความกดอากาศต่ำ ( Low Pressure Area หรือ Low )

    บริเวณความกดอากาศต่ำ คือ บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียงที่อยู่รอบๆในแผนที่
อากาศผิวพื้นแสดงด้วยเส้นความกดอากาศเท่าเป็นวงกลมล้อมรอบบริเวณทีทมีความกดอากาศต่ำ นั่นคือ บริเวณความกดอากาศต่ำจะเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำลงจากขอบนอกเข้าสู่ศูนย์กลาง บริเวณความกดอากาศต่ำนี้จะมีกระแสลมพัดเข้าหาศูนย์กลางในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และในทิศทาง ตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้ การเคลื่อนไหวของอากาศรอบศูนย์กลางบริเวณความกดอากาศต่ำเช่นนี้ เรียกว่า Cyclonic Circulation ตามปกติในบริเวณความกดอากาศต่ำจะมีเมฆมากและมีฝนตกด้วยบริเวณความกดอากาศต่ำ แบ่งออกได้ 2 ชนิด
1.Cold Core ที่แกนกลางของความกดอากาศต่ำชนิดนี้ อุณหภูมิจะต่ำกว่าภายนอก และเกิดในแถบละติจูดสูงๆ ที่อากาศเย็น เมื่อเกิดขึ้นแล้วการหมุนเวียนจะต่อเนื่องกัน ความชันของความกดจะเพิ่มมากขึ้นตามความสูงซึ่งสัมพันธ์กับกระแสลม นั่นคือ บริเวณความกดอากาศต่ำชนิด Cold Core จะมีลมพัดแรงขึ้นตามความสูง และมักมีแนวปะทะอากาศขึ้นร่วมด้วยเสมอ
2.Warm Core ที่แกนกลางของความกดอากาศต่ำชนิดนี้ อุณหภูมิจะร้อนกว่าภายนอก การหมุนเวียนจะเหมือนกับชนิด Cold Core และมีเฉพาะในเขตร้อนเท่านั้น เนื่องจากแกนกลางร้อน ฉะนั้นอากาศที่เย็นกว่าจะพัดเข้าแทนที่จมเข้าหาศูนย์กลาง ทำให้เกิดกระแสลมพัดเวียนเป็นก้นหอยเข้าหาศูนย์กลาง ขณะเดียวกันอากาศตรงกลางจะลอยตัวขึ้น ความชันของความกดตามระดับความสูงจะลดลง นั่นคือ ลมที่พัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางรอบบริเวณความกดอากาศต่ำชนิด Warm Core ความเร็วลมจะลดลงตามความสูง พายุจะรุนแรงที่สุดที่ผิวพื้นเท่านั้น สูงขึ้นไปลมกำลังอ่อนลง
บริเวณความกดอากาศต่ำทั้ง 2 ชนิด เกิดฝนตกหนักเท่าๆ กัน แต่ความเร็วลมจะต่างกัน

ร่องความกดอากาศต่ำ (Intertropical Convergence Zone – ITCZ ) หรือ ร่องมรสุม (Monsoon Trough)

       ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมนี้ มีชี่อเรียกในภาษาอังกฤษหลายชื่อด้วยกัน เช่น Intertropical Convergence Zone , Equatorial Trough หรือ Monsoon Trough เป็นต้น เป็นโซนหรือแนวแคบๆ ที่ลมเทรดหรือลมค้าในเขตร้อนของทั้ง 2 ซีกโลกมาบรรจบกัน คือลมค้าตะวันออกเฉียงเหนือของซีกโลกเหนือกับลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ของซีกโลกใต้
ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสม มีลักษณะเป็นแนวพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตก ในร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมเป็นบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ มีกระแสอากาศไหลขึ้น-ลงสลับกัน ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมจะอยู่ในเขตร้อนใกล้ๆ เส้นศูนย์สูตร และจะมีการเลื่อนข้น –ลงตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์โดยจะล้าหลังประมาณ 1-2 เดือน ความกว้างของร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมประมาณ 6-8 องศาละติจูด เป็นบริเวณที่มีเมฆมากและฝนตกอย่างหนาแน่น ฉะนั้น เมื่อร่องนี้ประจำอยู่ที่ใดหรือผ่านที่ใดก็จะทำให้ที่นั้นฝนตกอย่างหนาแน่นได้

พายุฟ้าคะนอง (Thunderstorm)

    พายุฟ้าคะนอง บางครั้งเรียกว่า พายุไฟฟ้า (Electrical Storm) โดยทั่วไปเป็นพายุที่เกิดเฉพาะท้องถิ่นเกิดจกเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus-Cb) มีฟ้าแลบ (Lightning) กับฟ้าร้อง (Thunder) รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้มักจะมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักเกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บตกลงมาด้วย พายุฟ้าคะนองนี้เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น มีน้อยครั้งที่เกิดขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง
พายุฟ้าคะนองเป็นผลเนื่องมาจากในเขตร้อนอากาศมีความชื้นมากและมีอุณหภูมิสูงทำให้อากาศไม่มีเสถียรภาพ (Instability) หรือบรรยากาศมีอาการไม่ทรงตัว เกิดการผสมคลุกเคล้าจากล่างขึ้นข้างบนและจาก ข้างบนลงข้างล่าง ในชั้นแรกอากาศหรือบรรยากาศเกิดการไหลขึ้นอย่างรุนแรง (Strong Convective Updraft) และในขั้นต่อมาซึ่งเป็นขั้นการสลายตัว (Dissipating Stage) จะมีกระแสอากาศไหลลงอย่างรุนแรง (Strong Downdraft ) ภายในคอลัมน์ (ช่วง) ของฝนพายุฟ้าคะนองนี้บ่อยครั้งที่ก่อตัวได้สูงถึง 40,000 – 50,000 ฟุต ในบริเวณละติจูดกลางและสูงมากกว่านี้ในเขตร้อน บรรยากาศตอนล่างของชั้นสตราโตสเฟียร์ที่มีเสถียรภาพดีมาก (Great Stability) เท่านั้นที่สามารถยับยั้งการก่อตัวของพายุฟ้าคะนอง

มรสุม (Monsoon)

         มรสุม เป็นการหมุนเวียนส่วนหนึ่งของลมที่พัดตามฤดูกาล คือลมประจำฤดู เป็นลมแน่ทิศและสม่ำเสมอ คำว่า “มรสุม” หรือ Mosoon มาจากคำ Mausim ในภาษาอาหรับ แปลว่า “ฤดูกาล” (Season) ในครั้งแรกได้นำคำนี้มาใช้เรียกลมที่เกิดในทะเลอาหรับก่อน ในทิศตะวันออกเฉลียงเหนือเข้าสู่ทะเลอาหรับเป็นระยะเวลา 6 เดือน แล้วเลี่ยนกลับไปในทิศทางตรงข้าม คือ จากทะเลอาหรับเข้าสู่ภาคพื้นทวีปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะเวลา 6 เดือน เช่นกัน ต่อมาได้นำคำนี้ไปเรียกลมที่มีลักษณะอย่างเดียวกันแต่เกิดขึ้นในส่วนอื่นของโลกด้วย
มรสุม เกิดจากสาเหตุใหญ่ๆ คือเกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของพื้นดินและพื้นน้ำทำนองเดียวกับลมบกลมทะเล ในฤดูหนาวอุณหภูมิของดินภาคพื้นทวีปเย็นกว่าอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่อยู่ใกล้เคียง อากาศเหนือพื้นน้ำจึงมีอุณหภูมิสูงกว่าและลอยตัวขึ้นสู่เบื้องบน อากาศเหนือทวีปซึ่งเย็นกว่าไหลเข้าไปแทนที่ ทำให้เกิดเป็นลมพัดออกจากทวีป พอถึงฤดูร้อนอุณหภูมิของดินภาคพื้นทวีปร้อนกว่าน้ำในมหาสมุทร เป็นเหตุให้เกิดลมพัดไปในทิศทางตรงกันข้าม
มรสุมหรือลมประจำฤดูที่มีกำลังแรงจัดที่สุด ได้แก่มรสุมที่เกิดในบริเวณภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย อันเป็นที่ตั้งของประเทศเวียดนาม กัมพูชา ลาว ไทย มาเลเซีย พม่า บังคลาเทศ อินเดีย และปากีสถาน โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของมรสุมลมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มต้น พัดเข้าสู่ภาคกลางของประเทศประมาณกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระยะของฤดูฝน ต่อจากนั้นลมจะแปรปรวนและเริ่มเปลี่ยนทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณปลายเดือน ตุลาคมไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระยะเวลาของฤดูหนาว

พายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone)

        เป็นคำทั่วๆ ไปที่ใช้เรียกพายุหมุนหรือพายุไซโคลน (Cyclone) ที่มีถิ่นกำเนิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนแถบละติจูดต่ำ บริเวณที่พายุหมุนปกคลุมแคบกว่าบริเวณพายุหมุนในเขตอบอุ่น พายุดังกล่าวเมื่ออยู่ในสภาวะที่เจริญเติบโตเต็มที่จะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดชนิดหนึ่งในบรรดาพายุที่เกิดขึ้นในโลก มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ใหญ่นักประมาณตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้นไป เกิดขึ้นพร้อมกับลมที่พัดรุนแรงมาก ระบบการหมุนเวียนของลมเป็นไปโดยพัดเวียนเป็นวงทวนเข็มนาฬิกา (Cyclonically) ในซีกโลกเหนือ ส่วนทางซีกโลกใต้พัดเวียนตามเข็มนาฬิกาเข้าสู่ศูนย์กลาง ยิ่งใกล้ศูนย์กลางลมจะหมุนเกือบเป็นวงกลมและมีความเร็วสูงที่สุด ลมที่ใกล้ศูนย์กลางมีความเร็วตั้งแต่ 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ( 64 นอต) ขึ้นไป บางครั้งมีความเร็วลมเกินกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (175 นอต) ความกดอากาศต่ำสุดที่บริเวณศูนย์กลางพายุโดยทั่วไปต่ำกว่า 1,00 มิลลิบาร์ มีความชันของความกดอากาศ (Pressure Gradient ) และความเร็วลมแรงกว่าพายุหมุนนอกเขตร้อน (Extratropical Storm) มีลักษณะอากาศร้ายติดตามมาด้วย เช่นฝนตกหนักมากกว่าฝนปกติธรรมดาที่เกิดในเขตร้อนมาก บางครั้งมีพายุฟ้าคะนองเกิดขึ้นด้วย ฝนและเมฆมีลักษณะไม่เหมือนกันนักในพายุแต่ละลูกส่วนใหญ่จะเห็นเป็นแนวโค้งหมุนเข้าหาศูนย์กลางหรือตาพายุ มีเมฆประเภทคิวมูลัส (Cumulus) และคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ที่มีฝนอยู่ด้วย เกิดคลื่นสูงใหญ่ในทะเลและน้ำขึ้นสูง
ตรงบริเวณศูนย์กลางพายุมีลักษณะคล้ายกับมีตาเป็นวงกลมอยู่มองเห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายจากดาวเทียมเรียกว่า “ตาพายุ” (Eye) เป็นบริเวณเล็กๆ เส้นผ่าศูนย์กลางของตาพายุเพียงเป็นสิบๆ กิโลเมตรเท่านั้น (ประมาณ 15-60 กิโลเมตร) ภายในตาพายุนี้เป็นบริเวณที่มีอากาศแจ่มใส มีเมฆบ้างเล็กน้อยเท่านั้นและมีลมพัดอ่อน
พายุหมุนเขตร้อนนี้เกิดขึ้นหลายแห่งโลก โดยทั่วไปเกิดทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรในเขตร้อนบริเวรใกล้ศูนย์สูตร (ยกเว้นมหาสมุทรแอตแลนติกใต้และทางด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกใต้) เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก ทำความเสียหายให้แก่ทวีปต่างๆ ทางด้านตะวันออก พายุหมุนเขตร้อนนี้มีชื่อเรียกต่างๆ กันแล้วแต่ละท้องถิ่นที่เกิด เช่น
ถ้าเกิดในบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกและในทะเลจีนใต้ เรียกชื่อว่า “พายุไต้ฝุ่น (Typhoon) ”
ถ้าเกิดในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลคาริบเบียนและในอ่าวเม็กซิโก เรียกชื่อว่า “พายุเฮอร์ริเคน (Hurricane) ”
ถ้าเกิดในอ่าวเบงกอลและทะเลอาราเบียนในมหาสมุทรอินเดีย เรียกชื่อว่า “พายุไซโคลน ( Cyclone)
และถ้าเกิดในทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า “วิลลี่-วิลลี่ (Willy-willy)”
หรือมีชื่อเรียกไปต่างๆกันถ้าเกิดในบริเวณอื่น

ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ได้จัดแบ่งชั้นของพายุหมุนเขตร้อนตามความรุนแรงของพายุได้เป็น 3 ชั้นดังนี้

  1. ดีเปรสชันเขตร้อน (Tropical Depression) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางน้อยกว่า 34 นอต( 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

  2. พายุโซนร้อน (Tropical Storm) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 34 ถึง 64 นอต(63 ถึง 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

  3. พายุไต้ฝุ่น หรือ เฮอร์ริเคน (Typhoon or Hurricane) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 65 นอต หรือมากกว่า หรือ ตั้งแต่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นไป

 
เครดิต : http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/om/om8.htm
—————————————————————————-
ตัวอย่าง Weather Vocabulary จาก YOUTUBE
Could not parse XML from YouTube

—————————————————————————-

[Update] รวม 9 ประโยคภาษาอังกฤษควรจำไปใช้เวลาพูดถึง “ฝนตก” | อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

     ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากๆ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อน แต่ฝนก็ดันตกอยู่ตลอดเวลา เจอแบบนี้ก็รู้สึกงงๆ เหมือนกัน 555 วันนี้

พี่วุฒิ

และ

English Issues

ได้รวบรวม 9 ประโยคภาษาอังกฤษที่ควรจำไปใช้เวลาพูดถึง

“ฝนตก”

มาฝากน้องๆ ชาว

Dek-D.com

เรามาดูกันว่า ควรจะพูดอย่างไรให้เหมือนเจ้าของภาษาเค้าพูดกัน

 

1. “What’s it like outside? Is it raining?” 

 

แปล: ข้างนอกเป็นไงบ้าง ฝนตกหรือเปล่า?

 

     ถ้าน้องๆ อยากจะถามใครสักคนว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไรบ้าง ฝนกำลังตกอยู่หรือเปล่า? น้องๆ สามารถนำประโยคนี้ไปใช้ได้เลยครับ และยังมีประโยคอื่นๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น 
 

What’s the weather like?  (สภาพอากาศเป็นไงบ้าง?)

How is it outside? Is it raining?  (ข้างนอกเป็นไง ฝนตกปะ?)

Is it still raining out?  (ข้างนอกฝนตกอยู่ปะ?)
 

Note:

 

     เวลาถามถึงสภาพอากาศ เราจะไม่ใช้ประโยค “How is the weather like?” และเวลาที่เราพูดถึงสภาพอากาศ เราใช้คำว่า It แทน ได้เลย เช่น 
 

It’s 39 degrees today. (วันนี้มีอุณหภูมิ 39 องศา)  

 

จะไม่ใช้ We have 16 degrees. หรือ There are 16 degrees.

2. “It’s raining.”

แปล: ฝนกำลังตก 

 

     หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับประโยคนี้เวลาที่บอกว่าฝนกำลังตก เพราะว่าเป็นประโยคที่ดูพูดง่ายสุด และไม่ซับซ้อนอะไร แต่ถ้าน้องๆ อยากจะบอกถึงลักษณะของฝนที่กำลังตกอยู่ บางทีฝนอาจจะตกปรอยๆ หรือตกหนักมาก น้องๆ สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆ ได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น 
 

“It’s spitting.” (ฝนตกเบาๆ)

“It’s drizzling.” (ฝนตกปรอยๆ)

“It’s been raining on and off all day.”
(on and off แปลว่าเดี๋ยวเริ่มเดี๋ยวหยุด พอมาใช้ในประโยคนี้ จึงแปลว่า ฝนตกๆ หยุดๆ ตลอดทั้งวัน)

“It’s pouring outside.” (ข้างนอกฝนตกหนักมาก) 
 

     นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกประโยคนึงที่น่าสนใจ เป็นสำนวนที่เอาไว้ใช้พูดเกี่ยวกับฝนที่ตกหนักมากๆ ตกแบบฟ้ารั่วเลย นั่นก็คือ “It’s raining cats and dogs.” ไม่ได้แปลว่าฝนตกหมาแมวนะครับ 5555  

 

3. “It’s really coming down out there!”

แปล: ฝนตกลงมาหนักมากกกก!

 

     เชื่อว่าหลายคนอาจเคยชินกับประโยค “Rain is falling.” เวลาจะบอกว่าฝนตก แต่น้องๆ รู้มั้ยครับว่าฝรั่งเค้าไม่ใช้กัน ในประโยคนี้พวกเค้าจะเข้าใจว่าเรากำลังบอกถึงการเคลื่อนไหวของฝน ไม่ได้บอกว่าฝนกำลังตก แต่ก็ยังมี phrasal verb ตัวหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะบอกถึงการเคลื่อนไหวของฝน แต่คำนี้สามารถนำไปใช้เพื่อบอกถึงฝนตกได้ ซึ่งก็คือคำว่า come down พอนำมาใช้ในประโยคนี้จะหมายถึง ฝนตกลงมาจากฟ้าหนักมากกก ภาษาพูดก็คือ ฝนตกห่าใหญ่นั่นเองครับ
 

4. “Take your umbrella. It looks like it’s going to rain.”

แปล: พกร่มไปด้วยนะ ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตก

 

     เวลาที่เราจะบอกว่า ฝนกำลังจะตก น้องๆ หลายคนอาจจะนึกถึงประโยคว่า “It will rain.” กันใช่มั้ยล่ะครับ แต่จริงๆ แล้วเราจะไม่ใช้ประโยคนี้ครับ เราจะใช้กริยา “be going to” แทนการใช้กริยา will เพราะเราต้องการจะบอกว่า เหตุการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าแน่ๆ เหมือนเป็นการคาดเดามากกว่า ดังนั้น จึงใช้ประโยคว่า “It’s going to rain.” แทนครับ และเวลาที่ฝนจะตก ก็อย่าลืม “Take your umbrella or raincoat.” พกร่มหรือชุดกันฝนกันไว้ด้วยนะครับ เดี๋ยวตากฝนขึ้นมาจะไม่สบาย >< 

 

 5.“I’ve had enough of all this rain!”

แปล: ฉันรู้สึกสุดจะทนกับฝนที่ตกจะแย่แล้ว! 

 

     จะว่าไปแล้วเวลาฝนตกมันอาจทำเรารู้สึกดี เวลาได้ฟังเสียงฝนที่ตกลงกระทบหลังคาพร้อมนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มในวันหยุด มันก็คงจะฟินไม่น้อย >< แต่บางทีเราก็เลือกเวลาที่ฝนตกไม่ได้ บางครั้งฝนก็ตกลงมาไม่เป็นใจเอาซะเลย โดยเฉพาะเวลาจะทำงานหรือจะกลับบ้านเนี่ย มันน่าหงุดหงิดสุดๆ! และถ้าน้องอยากจะบ่นว่า ฉันเต็มทีกับฝนที่ตกจะแย่แล้ว! ก็สามารถพูดว่า “I’ve had enough of all this rain.”ได้เลยครับ และยังมีประโยคอื่นๆ ที่สามารถใช้ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
 

It’s been raining non-stop for 3 days! 

It’s been raining for 3 days straight!
 

     2 ประโยคนี้มีความหมายเหมือนกันก็คือ “ฝนตกไม่หยุดมา 3 วันแล้ว” ซึ่งจากประโยคเราจะใช้ Present Perfect Tense เพราะว่า เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอาจลากยาวไปถึงอนาคต เพราะว่าฝนมันยังตกไม่หยุดมาตั้ง 3 วันแล้ว หงุดหงิดๆ!  
 

6. “We got caught in a downpour.”

แปล: เราติดฝนอยู่ 

 

     มันเป็นเรื่องที่น่าเซ็งมากๆ เวลาที่เราจะออกไปไหน แล้วดันไปติดฝนแบบที่เราไม่คาดคิดมาก่อน จู่ๆ ก็ตกลงมาซะงั้น และเวลาเราจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดมาก่อน เราจะใช้กริยาวลีคำว่า “get caught in (something)” และถ้าจะบอกถึงฝนที่ตกมาหนักมากๆ ฝนตกห่าใหญ่ ก็จะใช้คำว่า “downpour” ได้เลยครับ นอกจาก get caught เราก็ยังสามารถใช้กริยาในรูป passive อย่าง “be caught” ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น “We were caught in a downpour.” ซึ่งมีความหมายเดียวกัน นั่นก็คือ เรากำลังติดฝนที่ตกมากหนักมากๆ อยู่

 

7.“Let’s stay inside until the rain lets up.”

แปล: รอข้างในนี้จนกว่าฝนจะหยุดตก

 

     พอเราติดฝนแล้ว จะให้ลุยตากฝนไปเลยมันก็คงจะเสี่ยงไปหน่อย เดี๋ยวจะไม่สบายเอา (อนามัยสุดๆ แต่จริงๆ คือกลัวเปียกน้ำแล้วสภาพเยินมากกว่า 5555) ประโยคนี้ก็เป็นอีกประโยคที่ใช้บ่อยมากกก และเวลาเราจะพูดว่า “ฝนหยุดตก” น้องๆ หลายคนอาจคุ้นชินกับคำว่า “Rain stops.” กันใช่มั้ยครับ จริงๆ ฝรั่งไม่ค่อยใช้คำนี้ครับ ถ้าเราอยากจะพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาจริงๆ จะใช้กริยาวลีว่า “let up” ซึ่งแปลว่า “หยุด, เบาลง, น้อยลง” มักนำมาใช้เวลาพูดว่าฝนหยุดตกครับ 
 

8. “I got soaking wet.”

แปล: ฉันเปียกฝนไปหมดเลย

 

     บางครั้งเวลาฝนตก จู่ๆ มันก็ตกแบบไม่บอกไม่กล่าวกันเลยก็มี จึงไม่แปลกที่เราจะหาที่หลบไม่ทัน และอาจทำให้เราเปียกฝนจนชุ่มฉ่ำไปหมดทุกอณูเลยก็ว่าได้ และถ้าจะบอกว่าเรากำลังเปียกฝน น้องๆ ก็สามารถพูดว่า “I got soaking wet.” ได้เลยครับ 
 

*Note

 

     Wet เป็นคำคุณศัพท์ที่สามารถใช้เพื่ออธิบายลักษณะของอากาศและน้ำได้ทั้งคู่  ยกตัวอย่างประโยคอื่นๆ เช่น
 

It’s going to be a wet one tommorrow! (พรุ่งนี้ฝนจะตกอีกวัน)
 

     Soaking มีความหมายว่า เปียกชุ่ม เหมือนกับคำว่า wet ตัวอย่างประโยคอื่นๆ เช่น
 

I got soaking wet while I was walking home in the rain.

(ฉันตัวเปียกเพราะว่าฉันเดินกลับบ้านตอนฝนตก)

 

9. “The forecast calls for scattered showers.”

แปล: พยากรณ์อากาศคาดว่าฝนจะตกกระจายบางแห่ง 

 

     ถ้าพูดถึงเรื่องอากาศ ก็ต้องมีการพยากรณ์มาก่อนใช่มั้ยครับ ซึ่งคำว่าพยากรณ์ในภาษาอังกฤษ ก็คือคำว่า “forecast” นั่นเอง สามารถนำมาใช้ในบริบทเกี่ยวกับการพูดถึงสภาพอากาศได้ และกริยาวลี “call for” นั้นมีความหมายถึงสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น หรือคาดการณ์สิ่งหนึ่ง ส่วนคำว่า “scattered shower” นั้นมีความหมายว่า ฝนที่ตกกระจายในบางแห่ง 

 

     แต่ละประโยคนั้นมีประโยชน์มากๆ เลย และในช่วงที่ฝนตกบ่อยแบบนี้ น้องๆ สามารถนำไปใช้พูดในชีวิตประจำวันได้เลยนะครับ พอใช้บ่อยๆ เราจะชินและติดปากไปเอง และช่วงที่อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตกแบบนี้ ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ พกร่มเอาไว้ด้วย เผื่อฝนตก  ^___^  

 

Source: http://www.englishteachermelanie.com


How’s The Weather? Weather Song For Kids


How’s the weather song for kids! Teach and learn weather for children with this weather music video. How’s the weather? It is sunny, rainy, windy, cloudy, hot, cold, stormy, and snowy! How’s the weather where YOU are!? What’s your favourite kind of weather?
More Weather Songs: https://youtu.be/qUXB2qZfvs
Music and animation written, performed, and made by Adam WilliamsWalters.
Copyright 2017 Adam WilliamsWalters/English Tree TV, All rights reserved.

Teaching and learning English should be fun!
English Tree TV creates high quality animated music videos to help children and students around the world learn English, using the best and catchiest songs we can possibly write!
Perfect for young English learners, ESL or EFL students, kids, toddlers, and babies.
Subscribe to our YouTube Channel for a great new music video every month!
http://www.youtube.com/channel/UC4GaQ9fCH5IpAq1AImj7XuQ?sub_confirmation=1
Visit our website for more great, free teaching materials
http://www.englishtreetv.com
Like us on Facebook and interact with the community, too.
https://www.facebook.com/englishtreetv
Happy learning and singing, and see you soon!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

How's The Weather? Weather Song For Kids

Weather and season | คำศัพท์เกี่ยวกับอากาศและฤดูกาล


จัดหนักจัดเต็มกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ ฤดูกาล และพายุต่างๆ ไปลองฟังกันดูเลยค่ะ ดูซิว่าเรารู้จักคำเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไปกันเลยยย

Weather and season | คำศัพท์เกี่ยวกับอากาศและฤดูกาล

ฤดูกาล Seasons | เรียน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ | Learn Thai \u0026 English for Kids by Little Rabbit


[ LITTLE RABBIT ] พี่วิกกี้ ชวนคุณหนูๆ มาฝึกภาษาสำหรับเด็ก ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 6 ปี ด้วย พี่วิกกี้และการ์ตูนเสริมสร้างจินตนาการ เรียนรู้ภาษาสองภาษา (Bilingual Learning) เรียนภาษาไทย และ เรียนภาษาอังกฤษ และทำให้น้องๆสนุกและเพลิดเพลินไปกับพี่วิกกี้
ฤดูกาล | Seasons
ฤดูร้อน The Summer 00:00:12
ฤดูฝน The Rainy Season 00:00:40
ฤดูหนาว The Winter 00:01:07

We hope our videos can make your kids and family happy 🙂
Enjoy! Learn and have fun!
Subscribe Now! : https://goo.gl/uLoS5H
กดติดตาม : https://goo.gl/uLoS5H
Facebook : https://www.facebook.com/LittleRabbit…
================================================

ฤดูกาล Seasons | เรียน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ | Learn Thai \u0026 English for Kids by Little Rabbit

อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ | The Nad Class (เจ้าของเดียวกับ Daily English ใครๆก็พูดได้)


จะหน้าหนาวแล้ว ดีใจล่ะสิ จะได้พูดคำว่าอากาศดีมากสักที
หลังจากที่ทนอากาศร้อนมาหลายเดือน
The weather is so nice today วันนี้อากาศดีมาก
Nice weather today วันนี้อากาศดีมาก
(ความหมายเดียวกับประโยคแรก แต่อันนี้พูดแบบรวบๆ ไม่เป็นทางการ)
It’s quite breezy outside ข้างนอกมีลมเย็นๆนิดหน่อย
ขออภัยในความเสียงแหบและพูดเร็วไปนิดนึงนะคะ คลิปหน้าแก้ตัวใหม่จ้า

อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ | The Nad Class (เจ้าของเดียวกับ Daily English ใครๆก็พูดได้)

รถไฟบ๊อบเรียนผลไม้ | เพลงผลไม้ | ผลไม้สำหรับเด็กที่จะเรียนรู้ | Kids Learn | Bob Fruits Train


บ๊อบผลไม้เพลงรถไฟและวิดีโอสำหรับเด็กที่จะจะเรียนรู้และร้องเพลงในประเทศไทย
Visit our website http://www.uspstudios.co/ for more Children’s Nursery Rhymes \u0026 Kids Videos
============================================
Music and Lyrics: Copyright USP Studios™
Video: Copyright USP Studios™
============================================
KIDS FIRST Kids Videos \u0026 Nursery Rhymes | Free App Download: http://m.onelink.me/1e8f6c16
Bob The Train App Download Now https://goo.gl/6euK1b

รถไฟบ๊อบเรียนผลไม้ | เพลงผลไม้ | ผลไม้สำหรับเด็กที่จะเรียนรู้ | Kids Learn | Bob Fruits Train

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ อากาศดีมาก ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *