Skip to content
Home » [Update] คำกริยาภาษาอังกฤษ เอาไว้ใช้แต่งประโยค รวม 90 คำ แบ่งเป็น 9 หมวด | แต่ง ประโยค will – NATAVIGUIDES

[Update] คำกริยาภาษาอังกฤษ เอาไว้ใช้แต่งประโยค รวม 90 คำ แบ่งเป็น 9 หมวด | แต่ง ประโยค will – NATAVIGUIDES

แต่ง ประโยค will: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย เพียงแค่เรารู้เทคทิคในการท่องจำ การเขียน และการนำไปใช้อย่างไรให้ถูกต้อง ฝรั่งฟังแล้วจะได้ไม่งง แล้วจะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่สนุกสำหรับเราแน่นอน สำหรับบทความนี้เรามีตัวช่วยที่จำให้เพื่อนๆ สามารถแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ง่ายๆ มาฝากกัน จัดเต็มไปเลย 90 คำกริยาภาษาอังกฤษ ที่เอาไว้ใช้ในการแต่งประโยค ที่ยังไงเราก็ได้ใช้ชัวร์ๆ ซึ่งเราได้แบ่งออกเป็น 9 หมวดด้วยกัน เราลองไปศึกษากันเลยทีละหมวด เรียนรู้แล้วนำไปใช้กันให้ถูกวิธีกันค่ะ

90 คำกริยาภาษาอังกฤษ ใช้แต่งประโยค

1. หมวดทักษะการจัดการ

คำศัพท์ Administer : จัดการ, ดำเนินงาน, บริหาร, ดูแล

As a president, I helped the principal administer the school. (ในฐานะประธาน ฉันช่วยครูใหญ่ดูแลโรงเรียน)

คำศัพท์ Analyze : วิเคราะห์

I am good at analyzing the situation. (ฉันเก่งในการวิเคราะห์สถานการณ์)

คำศัพท์ Assign : มอบหมาย, กำหนด, สั่งให้

During the Work and Travel program last year, I was assigned to supervise my friends. (ช่วงโครงการเวิร์คแอนด์ทราเวลปีที่แล้ว ฉันได้รับมอบหมายให้ดูแลเพื่อนๆ)

คำศัพท์ Attain : ถึง, ได้มา, สำเร็จ, บรรลุเป้าหมาย

I have attained the highest grade in the Biology exams. (ฉันได้เกรดสูงสุดในข้อสอบชีววิทยา)

คำศัพท์ Coordinate : ประสานงาน, ทำงานด้วยกัน

I coordinated the school activity. (ฉันประสานงานกิจกรรมโรงเรียน)

คำศัพท์ Develop : พัฒนา, เติบโต, ทำให้เจริญ

I want to develop my country?s economy. (ฉันอยากจะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศฉัน)

คำศัพท์ Improve : ทำให้ดีขึ้น, ปรับปรุง

I still have one more semester; I will improve my grade to meet the school requirements. (ฉันยังเหลืออีกหนึ่งเทอม ฉันจะทำเกรดให้ดีขึ้นเพื่อให้ถึงเกณฑ์สมัครเข้าเรียนคณะนี้)

คำศัพท์ Increase : เพิ่ม, เพิ่มขึ้น, มากขึ้น

Due to the increasing of the unemployment rate, better education is not the only solution. (เนื่องจากอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น การศึกษาที่ดีขึ้นจึงไม่ใช่ทางแก้เพียงทางเดียว)

คำศัพท์ Organize : จัดตั้ง, จัดระบบ, จัดระเบียบ

My student committee organized a meeting between the teachers and students. (คณะกรรมการนักเรียนได้จัดการประชุมระหว่างอาจารย์และนักเรียน)

คำศัพท์ Prioritize : จัดลำดับความสำคัญ

I have an ability to prioritize work. (ฉันสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้)

คำศัพท์ Arrange : จัดเตรียม, เตรียมการ, ตกลง

Last year I arranged an informal visit to the Ministry of Commerce. (ปีที่แล้วฉันเตรียมการไปเยี่ยมชมที่กระทรวงพาณิชย์อย่างไม่เป็นทางการ)

คำศัพท์ Author : เขียน, แต่งหนังสือ, ประพันธ์

I always wanted to be somebody so someone could author my biography. (ฉันอยากเป็นคนดัง/มีค่าเพื่อที่จะได้มีคนเขียนหนังสือชีวประวัติของฉัน)

คำศัพท์ Correspond : เขียนโต้ตอบกัน, เหมือนกัน, สอดคล้อง

Your curriculum exactly corresponds with my study plan. (หลักสูตรของคุณสอดคล้องกับแผนการเรียนของฉัน)

คำศัพท์ Edit : แก้ไข, ตรวจแก้, ทำให้ถูกต้อง, เรียบเรียง, เป็นบรรณาธิการ

As a president of the school newspaper club, one of my duties was to edit the school newspaper. (ในฐานะที่เป็นประธานชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน หนึ่งในหน้าที่ของฉันคือตรวจแก้หนังสือพิมพ์โรงเรียน)

คำศัพท์ Influence : มีอิทธิพลต่อ, ชักจูง

Influenced by Mozart, I produced this piece. (ฉันสร้างผลงานชิ้นนี้โดยได้อิทธิพลจากโมสาร์ท)

คำศัพท์ Interpret : เข้าใจ, ตีความ, อธิบาย, แปลความ

I interpreted the quantum physics textbook to my classmate. (ฉันอธิบายหนังสือเรียนเรื่องควอนตัมฟิสิกส์ให้เพื่อนร่วมชั้นฟัง)

90 คำกริยาภาษาอังกฤษ เอาไว้ใช้แต่งประโยค

2. หมวดทักษะการสื่อสาร

คำศัพท์ Mediate : ไกล่เกลี่ย, ทำให้ประนีประนอม, ทำให้ตกลงกันได้

In many students? fights, I was appointed to mediate the arguments. (ในการทะเลาะเบาะแว้งของนักเรียนหลายๆ ครั้ง ฉันจะได้รับมอบหมายให้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท)

คำศัพท์ Motivate : กระตุ้น, ให้แรงบันดาลใจ, ดลใจ, จูงใจ

My action was motivated by a desire to make a better community. (ความต้องการที่จะทำให้ชุมชนดีขึ้นเป็นแรงกระตุ้นให้ฉันทำลงไป)

คำศัพท์ Negotiate : เจรจาต่อรอง, เจรจาตกลง

I have good negotiating skills. (ฉันมีทักษะการต่อรองที่ดี)

คำศัพท์ Persuade : ชักจูง, ชักนำ, เกลี้ยกล่อม, โน้มน้าว

Nothing could persuade me to change my mind. (ไม่มีอะไรมาทำให้ฉันเปลี่ยนใจได้)

3. หมวดทักษะงานธุรการ

คำศัพท์ Classify : จัดกลุ่ม, แบ่งประเภท, จำแนก, จัดหมวดหมู่

No matter what they say about his work, I classify his music as rock. (ไม่ว่าคนจะว่ายังไงกับผลงานของเขา ฉันจัดให้เพลงของเขาเป็นเพลงร็อค)

คำศัพท์ Collect : เก็บ, รวบรวม, สะสม, ได้มา

We were collecting money for the homeless. (เราเรี่ยไรเงินให้คนไร้บ้าน)

คำศัพท์ Dispatch : ส่งออก, จ่ายงาน, รีบทำ, เดินหนังสือ, ส่งอย่างรวดเร็ว, กำจัด

I resigned from being a messenger because sometimes I got a call to dispatch the parcel during my class. (ฉันลาออกจากการเป็นพนักงานส่งของ เพราะบางครั้งฉันถูกเรียกตัวออกไปส่งพัสดุในเวลาเรียน)

คำศัพท์ Execute : ดำเนินการ, ปฏิบัติการ, กระทำการ, สร้าง

I carefully execute the plan. (ฉันปฏิบัติตามแผนด้วยความระมัดระวัง)

คำศัพท์ Inspect : ตรวจสอบ, พินิจ, สำรวจ

I want to learn how to inspect counterfeit bank notes. (ฉันอยากเรียนวิธีตรวจสอบธนบัตรปลอม)

คำศัพท์ Operate : ปฏิบัติงาน, ปฏิบัติการ

My final project is making a wireless router that can operate underwater. (โปรเจ็คต์จบของฉันคือสร้างไวร์เลสเราเทอร์ที่ทำงานใต้น้ำได้)

คำศัพท์ Prepare : จัดเตรียม, เตรียมตัว, เตรียมพร้อม

I prepared well for exams. (ฉันเตรียมตัวมาสอบอย่างดี)

คำศัพท์ Process : ดำเนินการ, ลงมือปฏิบัติ

I would like to have this film processed. (ฉันอยากให้ลงมือทำหนังเรื่องนี้)

คำศัพท์ Screen : ปกปิด, กลั่นกรอง, คัดเลือก, แยกออก, ปกป้องคนผิด

I want to join the movie committee to help screening kids? movies. (ฉันอยากทำงานในคณะกรรมการภาพยนตร์เพื่อที่จะได้ช่วยกรองภาพยนตร์สำหรับเด็ก)

คำศัพท์ Specify : กำหนด, ระบุ, เจาะจง

I can specify the cause of the problem. (ฉันสามารถระบุสาเหตุของปัญหานี้ได้)

4. หมวดทักษะการวิจัย

คำศัพท์ Clarify : ทำให้เข้าใจง่าย, ทำให้ชัดเจน

Allow me to clarify my statement. (ขออนุญาตอธิบายคำพูดของฉันให้ชัดเจน)

คำศัพท์ Critique : วิจารณ์, ถกประเด็นอย่างจริงจัง

I critiqued their paintings. (ฉันวิจารณ์ภาพเขียนของพวกเขา)

คำศัพท์ Diagnose : วินิจฉัย, วิเคราะห์, พิจารณา

More than 30,000 women are diagnosed with skin cancer every year. (ทุกปีผู้หญิงกว่าสามหมื่นคนวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง)

คำศัพท์ Extract : สกัด, ดึง, คัดลอก, ได้มาจาก

The following table is extracted from my report. (ตารางต่อไปนี้ดึงมาจากรายงานของฉัน)

คำศัพท์ Identify : แยกแยะ, ชี้ตัว, ระบุ

Because of my personality, my classmates identified me as a happy nerd. (บุคลิกของฉันทำให้เพื่อนร่วมชั้นระบุว่าฉันเป็นเด็กเรียนที่มีความสุข)

คำศัพท์ Interview : สัมภาษณ์

After I interviewed your alumni for my school presentation, I knew that I had to further my study here. (หลังจากที่ฉันได้สัมภาษณ์ศิษย์เก่าของคุณเพื่อการนำเสนอที่โรงเรียน ฉันก็รู้เลยว่าฉันต้องมาเรียนต่อที่นี่)

คำศัพท์ Investigate : สอบสวน, สืบสวน, สำรวจ, เจาะลึก

The course syllabus of Bioethics 101 said that the student will investigate the use of the cloning technology. (ใบประมวลรายวิชาชีวจริยธรรม101 บอกว่านักศึกษาจะได้สำรวจการใช้เทคโนโลยีการโคลน)

คำศัพท์ Review : ทบทวน, พิจารณาใหม่

My book has been published for more than 500,000 copies. I also reviewed others? books. (หนังสือของฉันตีพิมพ์ไปแล้วกว่าห้าแสนเล่ม และฉันยังพิจารณาผลงานของคนอื่นด้วย)

คำศัพท์ Summarize : สรุป, ย่อ, รวมความ

I summarized the lectures. (ฉันสรุปย่อเล็กเชอร์ในห้อง)

คำศัพท์ Survey : สำรวจ, ตรวจสอบ

I believe in surveying the problem in wide perspective. (ฉันเชื่อในการตวจสอบปัญหาให้แง่มุมต่างๆ)

5. หมวดทักษะทางเทคนิค

คำศัพท์ Assemble : รวบรวม, ชุมนุม, ประชุม, เอามารวมกัน

I love building furniture. I assembled every bookcase myself. (ฉันชอบสร้างเฟอร์นิเจอร์ ฉันประกอบตู้หนังสือด้วยตัวเองทุกตู้)

คำศัพท์ Calculate : คำนวณ, คาดคะเน, คิดเงิน

After calculating the living expenses, I am going to apply for a loan. (หลังจากคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว ฉันจะต้องสมัครขอเงินกู้ยืม)

คำศัพท์ Design : ออกแบบ, จงใจ, วางแบบแผน

I had designed the future eco-house. (ฉันได้ออกแบบบ้านประหยดพลังงานอนาคต)

คำศัพท์ Engineer : วางแผน, จัดโครงสร้าง, กำหนดโครงงาน, สร้าง

I want to engineer a unique ride for the theme parks. (ฉันอยากทำเครื่องเล่นที่ไม่เหมือนใครในสวนสนุก)

คำศัพท์ Fabricate : ประดิษฐ์, คิดค้น, สร้างบางอย่างโดยนำหลายสิ่งมารวมกัน, สร้างข้อมูลเท็จ

I confirm that the information was not fabricated. (ฉันยืนยันว่าข้อมูลนี้ไม่ได้ถูกปลอมแปลงขึ้นมา)

คำศัพท์ Maintain : เก็บ, รักษา, ยืนยัน, สานต่อ, ประคับประคอง

I believe I can maintain good grades while playing sports for the college. (ฉันเชื่อว่าฉันสามารถรักษาเกรดให้ดีพร้อมๆ กับเล่นกีฬาให้มหาวิทยาลัย)

คำศัพท์ Program : วางวิธีการให้, เขียนโปรแกรม

I have programmed for 5 years. (ฉันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาห้าปีแล้ว)

คำศัพท์ Remodel : ปรับปรุง, เปลี่ยนแปลง, สร้างใหม่

I noticed that the library has been remodeled. (ฉันสังเกตว่าห้องสมุดปรับปรุงใหม่แล้ว)

คำศัพท์ Solve : แก้, แก้ปัญหา, ตีความ, คิดออก

Solving Sudoku puzzles is my favorite hobby. (การแก้ปริศนาซูโดกุเป็นงานอดิเรกที่ฉันชอบที่สุด)

คำศัพท์ Train : ฝึกอบรม, ฝึกฝน, ฝึกหัด, กล่อมเกลา

I trained three times a week. (ฉันฝึกสัปดาห์ละสามครั้ง)

6. หมวดทักษะการสอน

คำศัพท์ Adapt : ประยุกต์ใช้, ปรับ, ดัดแปลง, ทำให้เหมาะสม

The college’s motto can be adapted for everyday use. (คติพจน์ของมหาวิทยาลัยสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้)

คำศัพท์ Advise : แนะนำ, ให้คำปรึกษา, ตักเตือน

While I was a university student, I usually advised high school students. (ตอนที่ฉันเป็นนักศึกษา ฉันให้คำปรึกษาแก่นักเรียนมัธยมปลายบ่อยครั้ง)

คำศัพท์ Coach : ฝึก, สอน, อบรม

I coached the freshmen in French. (ฉันสอนภาษาฝรั่งเศสให้เด็กปีหนึ่ง)

คำศัพท์ Communicate : สื่อสาร, ติดต่อสื่อสาร, ถ่ายทอด, แจ้ง, ให้ความรู้

I can communicate in Japanese, Spanish and Arabic. (ฉันสามารถสื่อสารได้ด้วยภาษาญี่ปุ่น สเปนและอาหรับ)

คำศัพท์ Enable : ทำให้สามารถ, มอบอำนาจ, ให้สิทธิ, ให้อำนาจ, ทำให้เป็นไปได้

This scholarship will enable me to study abroad. (ทุนนี้จะทำให้ฉันสามารถเรียนต่อต่างประเทศได้)

คำศัพท์ Encourage : ส่งเสริม, สนับสนุน, ให้กำลังใจ, เชียร์

My family encourages me in my studies. (ครอบครัวสนับสนุนการเรียนของฉัน)

คำศัพท์ Guide : แนะนำ, แนะแนว, ชี้แนะ, ชักนำ

My life was guided by the family tradition. (ชีวิตของฉันถูกชี้นำโดยประเพณีของครอบครัว)

คำศัพท์ Initiate : ริเริ่ม, ประเดิม, ก่อเกิด, เริ่มต้น, พาไปให้รู้จัก, สอนทางประเพณี

I was initiated into the art of video games by my brother at the age of ten. (พี่ชายทำให้ฉันได้รู้จักศิลปะในวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกเมื่อตอนฉันอายุสิบปี)

คำศัพท์ Instruct : สั่ง, แนะนำ, ชี้นำ, สั่งสอน

I was in the school library club instructing people the use of computer system. (ฉันอยู่ชมรมห้องสมุดโรงเรียน คอยสอนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก่คนอื่น)

คำศัพท์ Set goals : ตั้งเป้า

I have already set my goal since I was 15. (ฉันตั้งเป้าหมายไว้แล้วตั้งแต่ตอนอายุสิบห้าปี)

7. หมวดทักษะทางการเงิน

คำศัพท์ Allocate : จัดสรร, จัดแบ่ง, แบ่งปันสัดส่วน

The school allocates funds to improve the gym. (โรงเรียนจัดสรรเงินทุนไปพัฒนาโรงยิม)

คำศัพท์ Appraise : ประเมินค่า, ประเมินราคา, ตีราคา, ประเมิน

Teachers are asked to appraise their own performance after each class. (ครูถูกขอให้ประเมินผลการสอนของตนหลังจบแต่ละคาบ)

คำศัพท์ Audit : ตรวจสอบบัญชี

As a treasurer, I audited the account of the class. (ในฐานะเหรัญญิก ฉันตรวจสอบบัญชีห้อง)

คำศัพท์ Balance : คิดงบดุล, ทำให้สมดุล

I will change my lifestyle so the expenses could balance my budget. (ฉันจะเปลี่ยนการดำเนินชีวิตเพื่อให้รายจ่ายสมดุลกับงบที่มี)

คำศัพท์ Budget : ให้งบประมาณ, ทำงบประมาณ

My scholarship came from the fund that has been budgeted from the school committee. (ทุนการศึกษาของฉันมาจากกองทุนที่คณะกรรมการโรงเรียนให้งบประมาณมาณ)

คำศัพท์ Forecast : ทำนาย, พยากรณ์, คาดการณ์, คำนวณล่วงหน้า

The popularity of this major is forecast to increase. (ความเป็นที่นิยมของสาขาเอกนี้ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น)

คำศัพท์ Market : ขาย, วางตลาด, โฆษณาขาย, ทำการตลาด

Their products are very cleverly marketed. (สินค้าของพวกเขาทำการตลาดไว้อย่างชาญฉลาดมาก)

คำศัพท์ Plan : วางแผน, วางแผนงาน,วางโครงการ, ออกแบบ

I am planning to visit my sister in Egypt next year. (ฉันวางแผนไปเยี่ยมพี่สาวที่อียิปต์ปีหน้า)

คำศัพท์ Project : คำนวนตัวเลขในอนาคตจากข้อมูลปัจจุบัน, เสนอ, เสนอผลงาน, ทำให้เห็น, ทำให้ได้ยินชัดเจน

Government spending is projected to rise by 10% in 2 years. (รายจ่ายของรัฐบาลคำนวนไว้ว่าจะสูงขึ้นถึงร้อยละสิบในสองปี)

คำศัพท์ Research : วิจัย, ศึกษา, ค้นคว้า, สืบค้น

Last year I was here researching my new novel. (ปีที่แล้วฉันมาที่นี่เพื่อค้นคว้าหาข้อมูลเขียนนิยายเล่มใหม่)

8. หมวดทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์

คำศัพท์ Act : ปฏิบัติ, ทำตัว, ประพฤติตัว

Don’t act without thinking? is my motto. (อย่าทำโดยไม่คิดเป็นคติพจน์ของฉัน)

คำศัพท์ Create : สร้าง, แต่งตั้ง, สร้างสรรค์

I created the main characters based on my family. (ฉันสร้างตัวละครเอกขึ้นมาจากครอบครัว)

คำศัพท์ Direct : กำกับ, สั่งการ, จัดการ

I directed the school plays. (ฉันกำกับละครโรงเรียน)

คำศัพท์ Establish : ก่อตั้ง, จัดตั้ง, สร้าง, สถาปนา

I established the charity club with my best friends. (ฉันก่อตั้งชมรมการกุศลกับเพื่อนสนิท)

คำศัพท์ Found : ก่อตั้ง, สถาปนา, จัดตั้ง, สร้าง

My school was founded in 1955. (โรงเรียนของฉันก่อตั้งขึ้นในปี 1955)

คำศัพท์ Illustrate : แสดงให้เห็นภาพ, ตกแต่งด้วยภาพ

I illustrated the yearbook with funny pictures. (ฉันตกแต่งหนังสือรุ่นด้วยภาพตลกๆ)

คำศัพท์ Introduce : แนะนำ, เพิ่ม, เสริม, ทำให้รู้จัก, ใส่เข้าไป

I was introduced to computer science by my brother. (พี่ชายแนะนำให้ฉันรู้จักกับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์)

คำศัพท์ Invent : ประดิษฐ์, คิดค้น, สร้างสรรค์

Within 5 years, I will invent the world’s cheapest solar car. (ภายในห้าปีฉันจะประดิษฐ์รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ถูกที่สุดในโลก)

คำศัพท์ Perform : แสดง

My goal is to perform live in Kodak Theatre. (เป้าหมายของฉันคือได้แสดงสดที่โรงละครโกดัก)

คำศัพท์ Shape : ทำให้เป็นรูปร่าง, ทำให้เกิดขึ้น, มีอิทธิพลต่อ

My childhood was shaped by a loving relationship with my grandparents. (ความสัมพันธ์อันดีกับปู่ย่าตายายมีอิทธิพลต่อชีวิตในวัยเด็กของฉัน)

90 คำกริยาภาษาอังกฤษ เอาไว้ใช้แต่งประโยค

9. ทักษะการช่วยเหลือ

คำศัพท์ Assess : กำหนดค่า, ประเมิน, ตีค่า

I dislike the college that assesses a student?s ability based on grades. (ฉันไม่ชอบมหาวิทยาลัยที่ตีค่าความสามารถของนักเรียนตามเกรด)

คำศัพท์ Assist : ช่วย, ช่วยเหลือ

I do not believe that academic record will assist me in my work. (ฉันไม่เชื่อว่าผลการเรียนจะช่วยฉันในการทำงาน)

คำศัพท์ Counsel : ให้คำแนะนำ, ให้คำปรึกษา

My father was being counseled for depression. (พ่อของฉันเคยเข้ารับคำปรึกษาเรื่องโรคซึมเศร้า)

คำศัพท์ Demonstrate : ทดลองให้เห็น, สาธิต

I demonstrated how to use the new software to my juniors. (ฉันสาธิตวิธีใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ให้รุ่นน้องปีสาม)

คำศัพท์ Expedite : เร่ง, กระตุ้น, ทำให้เร็วขึ้น

With all the knowledge I will gain from here, I can expedite economic reforms in my country. (ฉันสามารถเร่งการปฏิรูปทางเศรษฐกิจในประเทศให้เกิดเร็วขึ้นได้ด้วยความรู้ต่างๆ ที่ฉันจะได้รับจากที่นี่)

คำศัพท์ Educate : ให้การศึกษา

I was educated from both school and church. (ฉันได้รับการศึกษาทั้งจากโรงเรียนและโบสถ์)

คำศัพท์ Facilitate : ทำให้สะดวกขึ้น, ทำให้ง่ายขึ้น

I like the fact that all schools here were located in the same campus to facilitate the sharing of resources. (ฉันชอบความจริงที่ว่าคณะทั้งหมดที่นี่อยู่ในวิทยาเขตเดียวกันทำให้การแบ่งปันแหล่งข้อมูลง่ายขึ้น)

คำศัพท์ Familiarize : ทำให้คุ้นเคย, ทำให้เคยชิน

I love exercises because they help familiarize with the technical terms. (ฉันชอบแบบฝึกหัดเพราะพวกมันช่วยให้คุ้นเคยกับคำศัพท์เฉพาะทาง)

คำศัพท์ Refer : อ้างถึง, กล่าวถึง, พูดถึง, อ้างอิง

America is often referred as a melting pot. So are you. (อเมริกามักถูกอ้างว่าเป็นเหมือนหม้อที่หลอมรวมวัฒนธรรมต่างๆ คุณ (มหาวิทยาลัยคุณ) ก็เช่นกัน)

คำศัพท์ Represent : ทำหน้าที่แทน, เป็นตัวแทน

I represented my school. (ฉันเป็นตัวแทนโรงเรียน)

บทความแนะนำ

[Update] การใช้งาน IF – Clauses ในแบบต่างๆ | แต่ง ประโยค will – NATAVIGUIDES

Conditional sentences หรือที่หลายคนรู้จักในนาม if-clause คือ ประโยคเงื่อนไข ประกอบด้วยประโยคย่อย สองประโยค ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า If กับอีกประโยคหนึ่งมีหน้าตาเหมือนประโยคสมบูรณ์ทั่วไป สังเกตว่า ประโยคสองประโยคนี้สลับที่กันได้ จะยกประโยคไหนขึ้นต้นก็ได้ แล้วแต่การเน้นและความหมาย

conditional-clauses

1. ZERO Conditional Sentences

วิธีใช้: ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง

Zero conditional sentences ใช้สำหรับพูดถึงความจริงทั่วไป โดยใช้ present simple ในประโยคทั้งสองประโยค (ประโยคหนึ่งจะอยู่ในรูปของ if-clause ส่วนอีกประโยคจะอยู่ในรูปของ main-clause ค่ะ)

  • If + present simple, …. present simple. (คนไทยมักจะเขียนว่า If + subject + V1, subject + V1)

ประโยคแบบ zero conditional sentences ใช้พูดถึงกรณีที่ถ้าเกิดสิ่งหนึ่ง ต้องเกิดอีกสิ่งหนึ่งเสมอ เช่น If water reaches 100 degrees, it boils. เมื่ออุณหภูมิน้ำสูงเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส น้ำจะเดือดเสมอ หรือ If I eat peanuts, I am sick. ถ้าฉันกินถั่วลิสงฉันจะแพ้ ซึ่งประโยคลักษณะนี้ เราจะใช้คำว่า when (เมื่อ) แทน if ก็ได้

ตัวอย่างเพิ่มเติม

  • If people eat too much, they get fat. ถ้ากินมากจะอ้วน
  • If you touch a fire, you get burned. ถ้าแตะไฟก็จะโดนลวก
  • People die if they don’t eat. คนเราจะตายถ้าไม่กินอาหาร
  • You get water if you mix hydrogen and oxygen. ถ้ารวมไฮโดรเจนกับอ๊อกซิเจนจะได้น้ำ
  • Snakes bite if they are scared. งูจะกัดเวลารู้สึกกลัว
  • If babies are hungry, they cry. ทารกจะร้องไห้ถ้ารู้สึกหิว

Zero conditional sentences จะใช้พูดถึงเรื่องจริงทั่วๆไป แต่ conditional sentences แบบต่อไปจะพูดถึงเหตุการณ์เฉพาะค่ะ

 

2. FIRST Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน

First conditional sentences ใช้สำหรับพูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น โดยใช้ If + present simple แล้วตามด้วย future simple

  • if + present simple, … will + infinitive (คนไทยมักจะเขียนว่า If + subject + V1, subject + will/be going to + V1)

ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจเป็นไปได้ หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น

  • If it rains, I won’t go to the park. ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปสวนสาธารณะ
  • If I study today, I‘ll go to the party tonight. ถ้าวันนี้ฉันอ่านหนังสือ คืนนี้จะไปปาร์ตี้
  • If I have enough money, I‘ll buy some new shoes. ถ้ามีเงินพอ ฉันจะซื้อรองเท้าใหม่
  • She‘ll be late if the train is delayed. เธอจะไปสายถ้ารถไฟมาช้า
  • She‘ll miss the bus if she doesn’t leave soon. เธอจะไม่ทันรถเมล์ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้
  • If I see her, I‘ll tell her. ถ้าพบเขาฉันจะบอกเขา

Zero conditional กับ first conditional ต่างกันตรงที่ใช้กับสถานการณ์คนละประเภทดังได้กล่าวไปแล้ว ดูตัวอย่างชัดๆอีกทีนะคะ

 

Zero conditional: If you sit in the sun, you get burned. (ใครก็ตามที่) นั่งตากแดดจะผิวไหม้

First conditional: If you sit in the sun, you’ll get burned. ถ้าเธอนั่งตากแดดผิวเธอจะไหม้นะ

 

3. SECOND Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต

First conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคาดคะเนว่าจะเกิดขึ้น แต่ Second conditional จะใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น

First conditional: If she studies harder, she’ll pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอจะสอบผ่าน (คิดว่าเป็นไปได้)

Second conditional: If she studied harder, she would pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคงสอบผ่าน (แต่ผู้พูดไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ คือ คิดว่าเธอคงไม่ตั้งใจมากขึ้น และเธอคงสอบไม่ผ่าน)

ประโยคแบบ second conditional นี้ใช้ If + past simple คู่กับ would + infinitive ค่ะ

  • if + past simple, …would + infinitive

(สังเกต ว่าอนุประโยคที่ต่อหลัง if ถ้าคำกิริยาเป็น verb to be จะใช้ were ได้กับประธานทุกตัว เช่น If I were you… ถ้าฉันเป็นเธอ… แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้ค่ะ)

วิธีใช้

– ใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตแต่อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่น

  • If I won the lottery, I would buy a big house. ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่หรอก)
  • If I met the Queen of England, I would say hello. ถ้าได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี
  • She would travel all over the world if she were rich. เขาจะเที่ยวรอบโลกถ้ามีเงินมากๆ
  • She would pass the exam if she ever studied. เธอคงจะสอบผ่านหรอกถ้าเธอได้เคยอ่านหนังสือบ้าง (ซึ่งจริงๆไม้อ่านเลย)

 

– ใช้พูดถึงเหตการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย ไม่จริงเลย เช่น

 

  • If I had his number, I would call him. ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)
  • If I were you, I wouldn’t go out with that man. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา

 

ประโยค second conditional ต่างกับ first conditional ตรงที่แบบนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก เช่น

 

Second conditional: If I had enough money I would buy a house with twenty bedrooms and a swimming pool. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อบ้านที่มีห้องยี่สิบห้องกับสระว่ายน้ำ (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นแค่ฝัน)

 

First conditional: If I have enough money, I’ll buy some new shoes. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อรองเท้าใหม่ (มีความเป็นไปได้มากกว่ามาก)

 

4. THIRD Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต

ประโยค conditional แบบสุดท้ายใช้ If + past perfect (subject + had + V3) คู่กับ would have + V3 ค่ะ

  • if + past perfect, …would + have + past participle

ประโยคแบบนี้ใช้พูดเกี่ยวกับอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ว่าถ้าเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไร

  • If she had studied, she would have passed the exam. ถ้าเขาอ่านหนังสือ เขาคงสอบผ่านไปแล้ว (ซึ่งจริงๆผู้พูดรู้ว่าไม่ได้อ่านและสอบตก)
  • If I hadn’t eaten so much, I wouldn’t have felt sick. ถ้ากินไม่มากฉันคงไม่ป่วย (แต่จริงๆฉันกินเยอะ จึงป่วย)
  • If we had taken a taxi, we wouldn’t have missed the plane. ถ้าเราขึ้นแท็กซี่มาเราคงไม่ตกเครื่องบิน
  • She wouldn’t have been tired if she had gone to bed earlier. เธอจะไม่เพลียถ้าเข้านอนเร็วกว่านี้
  • She would have become a teacher if she had gone to university. เธอคงจะเป็นครูถ้าเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
  • He would have been on time for the interview if he had left the house at nine. เขาคงมาสัมภาษณ์ทันเวลาถ้าออกจากบ้านตอนเก้าโมง

 

5. MIXED Conditional Sentences

นอก จากนั้นยังมีการนำ conditional sentences สองแบบมาผสมกันอีกด้วยค่ะ โดยมากใช้เวลาพูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นความจริงในอดีตที่มีความสัมพันธ์กับ ปัจจุบัน เช่น

  • She would be a rich widow now if she’d married him. เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้าเธอแต่งงานกับเขา (ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)
  • If I’d studied law, I’d be an attorney now. ถ้าตอนนั้นเรียนนิติตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นทนายความแล้ว

หากน้องคนไหนอ่านแล้วสงสัยอะไร เมลมาถามหรือทิ้งคำถามไว้ที่ Webboard สถาบันได้เลยนะคะ ^^

IELTS Institute Team


Day 14 แต่งประโยคพูดถึงอนาคต | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | Future tense | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


คลิปนี้จะพูดถึงโครงสร้างประโยคเหตุการณ์ในอนาคตหรือ Future Tense แล้วก็จะทบทวนทั้ง 5 แทนที่เรียนไปแล้วสำหรับโครงสร้างในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด 5 โครงสร้าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Day 14 แต่งประโยคพูดถึงอนาคต | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | Future tense | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

Be ใช้ยังไง พาแปลละเอียดประโยคตัวอย่าง


Be ใช้ยังไง พาแปลละเอียดประโยคตัวอย่าง

ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษ Lesson 9 โครงสร้างการใช้ Will


เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองในคลิปนี้จะเน้นการเรียนการฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษในโครงสร้าง will+verb (Future Simple Tense) เป็นการฝึกแปลหรือฝึกแต่งประโยคจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษสำหรับคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษได้ในเวลาอันสั้น พร้อมกันนี้ยังเป็นการเรียนหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Grammar) ไปในตัวด้วย

ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษ Lesson 9 โครงสร้างการใช้ Will

ฝึกแต่งประโยค การใช้กริยาช่วย will – [ Tammy English ]


เพจ: สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น จนอ่านออก เขียนได้ ใช้เป็น
https://www.facebook.com/TammyEasyEnglish/
LINE: @tammystore (มี@นำหน้า)
https://lin.ee/xd5kEin

ฝึกแต่งประโยค การใช้กริยาช่วย will - [ Tammy English ]

🔻Would you like และ 🔻Would you like to I แอดLINE @englishfitandfirm


คอร์สออนไลน์ปูพื้นฐานเทนส์ + ฝึกสร้างประโยคแบบSpeaking
สอบถามADD LINE @englishfitandfirm
Thanks for following
IG: https://www.instagram.com/chutamas_sommy/
FB: https://web.facebook.com/EnglishFitandFirm/

🔻Would you like และ  🔻Would you like to I แอดLINE @englishfitandfirm

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ แต่ง ประโยค will

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *