Skip to content
Home » [Update] การใช้ if clause (Conditional Sentences) ฉบับอธิบายเข้าใจง่ายๆ กระจ่างสุด | clause คือ – NATAVIGUIDES

[Update] การใช้ if clause (Conditional Sentences) ฉบับอธิบายเข้าใจง่ายๆ กระจ่างสุด | clause คือ – NATAVIGUIDES

clause คือ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

258

SHARES

Facebook

Twitter

การใช้ if clause บ้างก็เรียก Conditional sentences เป็นเรื่องที่จะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่ายากมันก็ยากนะ เพราะมันต้องใช้ทำความเข้าใจ จินตนาการและการจดจำ ดังนั้นหลักการใช้ if-clause หรือ ประโยคเงื่อนไข จึงถือว่าเป็นไวยากรณ์ในขั้นแอดวานซ์สำหรับผู้เรียนหลักภาษา

การใช้ if clause
if clause คืออะไร

  • if แปลว่า ถ้า
  • clasue แปลว่า อนุประโยค

ดังนั้น if clause คือ อนุประโยค ถ้า…..

conditional sentences คืออะไร

  • conditional แปลว่า เงื่อนไข
  • sentences แปลว่า ประโยค

conditional sentences คือ ประโยคเงื่อนไข

สรุปว่า เรารู้จัก if clause กับ ประโยคเงื่อนไข แต่ความหมายไปคนละทางเลย เอาเป็นว่าวันนี้เรามาเรียนเรื่อง IF CLAUSE – ประโยคเงื่อนไขกันนะครับ ว่ามีกี่แบบ เอาไปใช้อย่างไรบ้าง

ที่มันได้ชื่อว่า if clause เพราะว่าหลังคำว่า if….. จะเป็นอนุประโยค คือ ประโยคที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง เช่น ถ้าคุณพบเจน, ถ้าคุณรวย, ถ้าคุณถูกล็อตเตอรี่ เป็นต้น

หลักการใช้ if clause

โครงสร้างประโยค if clause

โครงสร้างของประโยคสามารถที่จะเอา If clause นำหน้า Main clause หรือ เอา Main clause นำหน้า If clause ก็ได้ เช่น

  • If clause , Main clause 
    If you love me, I will love you.
  • Main clause If clause
    I will love you if you love me.

if clause มีทั้งหมด 4 แบบ

จริงๆแล้วมันมี 3 นะ คือ Type 1, Type 2, Type 3 แต่ที่เพิ่ม เป็น 4 เพราะเอา Type 0 เข้ามาเรียนเสริมก็แค่นั้นเอง บางตำรามีถึง 5 อันก็มี

  1.  Zero Conditional Sentences  หรือ  if clause type 0 
  2.  First Conditional Sentences หรือ  if clause type 1
  3.  Second Conditional Sentences  หรือ  if clause type 2
  4.  Third Conditional Sentences หรือ  if clause type 3

หลักการใช้ Zero Conditional Sentences  หรือ  If clause type 0

Zero Conditional แปลว่า ประโยคเงื่อนไขชนิด 0 ไม่ต้องสนใจชื่อชนิดของมันให้มากนะครับ ให้โฟกัสไปที่หลักการนำไปใช้แล้วกัน

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับข้อเท็จริงทั่วไปบนโลกและในจักรวาล

โครงสร้างของประโยค

type
if-clause
main clause

0
Simple Present
Simple Present

If I +V1 ., I V1

ถ้าฉันเหนื่อย ฉันนอน

ตัวอย่างประโยค if clause type 0

  • If I am tired, I go to sleep.
    ถ้าฉันเหนื่อน ฉันนอน – ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า ฉันนอนเอาแรงก่อน
  • Your wife gets angry if you smoke.
    แฟนนายโกรธ ถ้านายสูบบุหรี่ – เห็นหล่อนวีนทุกครั้งที่นายสูบ
  • If you go to the park, you can see Jo in the shop.
    ถ้าคุณไปสวน คุณสามารถพบโจได้ในร้าน – โจทำงานที่นั่น ไปก็เจอเลย
  • You must pay 100 baht if you want to watch this movie.
    คุณต้องจ่าย 100 บาท ถ้าคุณต้องการชมหนังเรื่องนี้ – ราคาตั๋วระบุว่า 100 ก็ต้องจ่าย 100 สิ

ในบางกรณีสามารถใช้คำว่า When ก็ได้ เพราะมีความหายเดียวกัน เช่น

  • If I am tired, I go to sleep.
    ถ้าฉันเหนื่อย ฉันไปนอน
  • When  I am tired, I go to sleep.
    เมื่อฉันเหนื่อย ฉันไปนอน

หลักการใช้ First Conditional Sentences  หรือ  If clause type 1

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 1

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นจริงได้ หรือคาดว่าน่าจะเป็นไปได้ สรุปก็คือว่า มีความเป็นไปได้สูงเลยหล่ะ

โครงสร้างของประโยค

type
if-clause
main clause

1
Simple Present

will-future

 

or 

(Modal + infinitive)

If I +V1 ., I  will + V1

If I +V1 ., I  may + V1

ถ้าฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน

Modal ก็คือคำกริยาช่วยนั่นแหละครับ เช่น can, may, shall, should, must etc…

ตัวอย่างประโยค if clause type 1

  • If I study hard, I will pass the exam.
    ถ้าฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน – ฉันมั่นใจว่าอย่างนั้น (อาจไม่ผ่านก็ได้)
  • Your wife will get angry if you smoke.
    แฟนนายจะโกรธเอานะ ถ้านายสูบบุหรี่ – ฉันเป็นเพื่อนหล่อนรู้จักนะสัยเธอดี (อาจไม่โกรธก็ได้ อันนั้นมันแต่ก่อน)
  • If you go to the park, you will see Jo in the shop.
    ถ้าคุณไปสวน คุณอาจจะพบโจได้ในร้านก็ได้ – ฉันไปสวนแล้วเห็นโจกินข้าวร้านนั้นบ่อยๆ (ไปอาจไม่เจอ)
  • You must pass this test if you read this book.
    นายต้องผ่านการทดสอบแน่ๆ ถ้านายอ่านหนังสือเล่มนี้ – ฉันมั่นใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ (ฮ่าๆ อาจตกอีกก็ได้)
  • If I see John, I’ll tell him.
    ถ้าฉันเจอจอห์น ฉันจะบอกเขาเอง – อาจไม่เจอก็ได้ หรือเจออาจลืมบอกอีกก็ได้
  • You will feel better if you sleep enough.
    คุณจะรู้สึกดึขึ้น ถ้าคุณนอนเพียงพอ – อาจจริงของคุณ หรือไม่จริงก็ได้
  • If it rains, we will play inside.
    ถ้าฝนตกเราจะเล่นข้างใน  – เราคิดไว้อย่างนั้น พอฝนตกจริงอาจวิ่งเล่นข้างนอกก็ได้
  • If I have enough money, I will buy a BMW.
    ถ้าฉันมีเงินพอ ฉันจะซื้อ BWM – ตอนนี้กำลังเก็บเงิน คาดว่าถ้าเงินครบน่าจะได้ออกสักคัน

หลักการใช้ Second Conditional Sentences  หรือ  If clause type 2

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 2

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่เพ้อฝัน หรือไม่เป็นจริง

โครงสร้างของประโยค

type
if-clause
main clause

2
Simple Past

would + infinitive

could  กับ might ใช้แทน would ได้นะ

If I +V2 ., I  woud+ V1

ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ ฉันจะท่องเที่ยวรอบโลก

ตัวอย่างประโยค if clause type 2

  • If I won the lottery, I would travel around the world.
    ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่นะ ฉันจะเดินทางรอบโลกเลย – เพ้อไป ชาตินี้จะมีโอกาศไหม
  • If I had time, I would learn more English.
    ถ้าฉันมีเวลานะ ฉันจะเรียนอังกฤษให้มากขึ้น –  เรียนเอาแค่ผ่านก่อนเถอะ เวลาแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว
  • I would be happy if I had 1 billion baht.
    ฉันคงมีความสุขมากเลย ถ้าฉันมีเงินสักพันล้าน – รอชาติหน้าบ่ายๆเหอะ งานการก็ไม่ทำ คงเป็นไปได้หรอก
  • If I were you, I would take the offer.
    ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะรับข้อเสนอนะ – นายเป็นฉันไม่ได้หรอก คนละคนกัน
  • I would leave early if the boss allowed.
    ฉันจะกลับเร็วหน่อย ถ้าเจ้านายอนุญาต – ฝันไปเหอะ นายเขี้ยวจะตายไป
  • I would ask for the numbers if I saw a ghost.
    ฉันจะขอหวย ถ้าฉันเจอผี – ฮ่า….พูดเป็นเล่นไป
  • If I had money, I would buy a BMW.
    ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะซื้อ BMW – แต่ฉันไม่มีอ่ะ ทำงานได้มาก็ใช้หมด

หลักการใช้ Third Conditional Sentences  หรือ  If clause type 3

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่ ตรงข้ามกับความเป็นจริง ณ ตอนนั้น ส่วนมากจะเป็นการรำพึงรำพันเสียดายภายหลัง ณ ตอนนี้

โครงสร้างของประโยค

type
if-clause
main clause

3
Past Perfect
would + have + past participle

could  กับ might ใช้แทน would ได้นะ

If I +had + V3 ., I  woud+ have+ V3

ถ้าฉันเรียนหนัก ฉันก็สอบผ่านไปแล้ว

ตัวอย่างประโยค if clause type 3

  • If I had studied hard, I would have passed the test.
    ถ้าฉันเรียนหนักนะ ฉันคงสอบผ่านไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เรียนหนัก แล้วสอบตก
  • If you had taken medicine, you wouldn’t have got a headache.
    ถ้านายกินยานะ นายคงไม่ปวดหัวหรอก – ความจริง ตอนนั้นไม่ได้กิน แล้วปวดอยู่ตอนนี้
  • If he had won the singing contest, he would have got a BMW.
    ถ้าเขาชนะการประกวดร้องเพลง เขาคงได้ BMW ไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนั้นแพ้ ขับเก๋งคันเก่าต่อไปเถอะ
  • If she had known that I was sick, she wouldn’t leave me alone.
    ถ้าหล่อนรู้ว่าฉันป่วยนะ หล่อนคงไม่ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวหรอก – ความจริงคือ ตอนนั้นหล่อนไม่รู้ ฉันต้องอยู่คนเดียวดูแลตัวเอง
  • We would have played football if It hadn’t rained.
    พวกเราคงได้เล่นฟุตบอลแล้วแหล่ะ ถ้าฝนไม่ตกหน่ะ – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เล่นเพราะฝนตก
  • If I had had money, I would have bought a BMW.
    ถ้าฉันมีเงินนะ ฉันคงจะซื้อ BMW ไปแล้ว – เหตุการณ์คือไปมอเตอร์โชว์ตอนนั้น เงินร่อยหรอ ไม่อาจซื้อได้ แต่ตอนนี้มีเงินเป็นฟ่อน

จบบทเรียนการใช้ If Clause แล้ว ไปทำแบบฝึกหัดดูครับ

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 828

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[NEW] [Grammar Tips] หลักการใช้ Relative Clause แบบจัดเต็ม | clause คือ – NATAVIGUIDES

มีน้องๆอยากให้อธิบายเกี่ยวกับ Relative clause และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง น้องคนใดที่กำลังงงๆกับเรื่องนี้ แวะเข้ามาก่อนนะคะ

Relative Clause

Relative clause คืออะไร?

Relative clause คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกับ Adjective นั่นคือขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า, relative clause จะช่วยให้เรารู้ว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ คือ สิ่งใด หรือ ใครกันแน่ ทั้งนี้ Relative Clause เวลาใช้จะตามหลัง Relative Pronoun (who, whom, which, that, whose) และสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ

  1. Defining Relative Clause

  2. Non-defining Relative Clause

วิธีสร้างประโยคในรูปแบบ Relative Clause

ลองสมมุติว่า มีชายคนหนึ่งกำลังพูดกับเจนนี่ ถ้าน้องๆอยากรู้ว่าใครที่กำลังพูดกับเจนนี่ หากจะลองถามเพื่อน น้องๆอาจจะถามว่า

A man is talking to Jenny. Do you know the man?

ผู้ชายกำลังคุยกับเจนนี่ คุณรู้จักผู้ชายคนนั้นไหม?

ฟังดูแปลกไหมคะ? งานนี้ relative clause จะมาเป็นพระเอกช่วยให้ประโยคฟังดูราบรื่นขึ้นค่ะ โดยปกติเวลาจะเปลี่ยนประโยค 2 ประโยคให้เป็น Relative Clause เราจะดึงเอาส่วนที่เป็นประโยคหลักมาก่อนในที่นี้ก็คือ เราอยากรู้ว่าผู้ชายคือใคร ดังนั้น ประโยคหลักคือ :

Do you know the man…

จากประโยคข้างต้น เราไม่มีทางรู้เลยว่าผู้ชายที่พูดถึงเป็นใคร ดังนั้นเราจึงต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติม A man is talking to Jenny ใช้ A man เฉพาะในส่วนประโยคแรก และในส่วนที่สองเราแทนที่ด้วย relative pronoun (ใช้ who ในกรณีอ้างถึงบุคคล) ดังนั้นประโยคจะเปลี่ยนเป็น

Do you know the man who is talking to Jenny?

คุณรู้จักผู้ชายที่กำลังคุยกับเจนนี่ไหม?

พอเห็นภาพของการใช้งาน Relative Clause แล้วใช่ไหมคะ? ทีนี้ลองมาดูว่า Relative Clause ทั้งสองประเภท ใช้ต่างกันอย่างไรกันดีกว่าค่ะ

 

Defining and non defining

Defining และ Non-defining

เราใช้ defining relative clause เพื่อบอกถึงสิ่งที่เรากำลังพูดถึง (หากขาดไปก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าพูดถึงอะไร) เช่น

  • I like the woman who lives next door.

    (ถ้าเราไม่บอกว่า

    ‘who lives next door’

    ก็จะไม่ทราบเลยว่าหมายถึงผู้หญิงคนไหน).

 

เราใช้ non-defining relative clause บอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมของสิ่งที่เรากำลังพูดถึง (เราไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลนี้เพื่อที่จะเข้าใจว่าพูดถึงอะไร) เช่น

  • I live in London, which has some fantastic parks.

    (ทุกคนทราบดีว่าลอนดอนอยู่ที่ไหน ดังนั้น

    ‘which has some fantastic parks’

    ถือเป็นข้อมูลเพิ่มเติม จะมีหรือไม่มีก็ได้).

 

ลองมาดูรูปแบบการใช้ Defining relative clauses กันค่ะ
Defining Relative Clause โดยปกติแล้วจะมีลักษณะดังนี้
1. ทำหน้าที่คล้ายคำคุณศัพท์ (Adjective) เพื่อไปขยายนามที่อยู่ข้างหน้า ให้ได้ใจความสมบูรณ์และชัดเจนว่า หมายถึง ใคร สิ่งไหน หรือ ของใคร เป็นต้น
2. ไม่มีเครื่องหมาย comma (,) คั่นระหว่างนามกับ Defining Relative Clause
3. จะขึ้นต้นด้วยคำสรรพนาม (Relative Pronoun) ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับนามที่ขยาย เช่น ถ้าขยายนามที่เป็นคน Relative Pronoun ก็ต้องเป็นคำที่ใช้แทนคน ฯลฯ

 หน้าที่ของ Relative Pronoun จะมีหน้าที่อยู่ 3 ประการหลัก คือ

  1. ทำหน้าที่เป็นประธาน มี 2 แบบ คือ

1.1  ถ้าเป็นคนใช้ who เช่น

  • I’m looking for a secretary who can use a computer well.

ฉันกำลังมองหาเสมียนที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ดี

  • She has a son who is a doctor.

เธอมีลูกชายคนหนึ่งที่เป็นหมอ

1.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของใช้ which หรือ that เช่น

  • We bought a house which / that is 200 years old.

เราซื้อบ้านซึ่งอายุ 200 ปี

  • The iPad which / that is on the table is from America.

ไอแพด ตัวที่อยู่บนโต๊ะ มาจากอเมริกา

2 ทำหน้าที่เป็นกรรม มี 2 แบบ คือ

2.1 ถ้าเป็นคนใช้ whom เช่น

  • The woman whom I talked to yesterday is our new boss.

ผู้หญิงที่ฉันคุยด้วยเมื่อวานคือเจ้านายใหม่ของเรา

 

2.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของ ใช้ which หรือ that เช่น

  •  

    I like the puppy which Gabriel bought last week.

ฉันชอบลูกสุนัขที่กาเบรียลซื้อมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

3 ทำหน้าที่เป็นเจ้าของ มี 2 แบบ คือ

3.1 เป็นคน ใช้ whose เช่น

  • The man whose car is blue is Mark.

ผู้ชายที่รถของเขาสีน้ำเงินคือ มาร์ค

 

3.2 ถ้าเป็นสัตว์หรือสิ่งของให้ใช้ of which เช่น

  • The cabinet of which drawer is broken has already been repaired.

ตู้ที่ลิ้นชักเสียมีคนมาซ่อมแล้ว

 

คราวนี้มาดู Relative อีกตัวที่เหลือ ก็คือ Non-defining relative Clause มีลักษณะที่สำคัญ อยู่ 3 ประการนะคะ
    1. เป็น clause ที่เพิ่มเข้ามา ไม่มีความจำเป็น แก่ใจความในประโยค เพียงแต่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้ความละเอียดมากขึ้น
    2. ต้องมีเครื่องหมาย comma ข้างหน้าและข้างหลัง clause เสมอ
    3. ต้องใช้ relative pronouns ซึ่งไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น who, whom ,whose หรือ which เท่านั้น จะใช้ that ไม่ได้เลย

ตัวอย่างเช่น 

  • My boss, who is very nice, lives in Manchester.

  • My sister, who I live with, knows a lot about cars.

  • My bicycle, which I’ve had for more than ten years, is falling apart.

 

ตัวอย่างและรูปแบบการใช้งาน Relative Pronouns

relative pronoun
use
example

who
subject or object pronoun for people
I told you about the woman who lives next door.

which
subject or object pronoun for animals and things
Do you see the cat which is lying on the roof?

which
referring to a whole sentence
He couldn’t read which surprised me.

whose
possession for people animals and things
Do you know the boy whose mother is a nurse?

whom
object pronoun for people, especially in non-defining relative clauses (in defining relative clauses we colloquially prefer who)
I was invited by the professor whom I met at the conference.

that
subject or object pronoun for people, animals and things in defining relative clauses (who or which are also possible)
I don’t like the table that stands in the kitchen.

ตัวอย่างและรูปแบบการใช้งาน Relative Adverbs 

Relative adverb (where/when/why) จะถูกใช้แทนที่ Relative Pronoun และ Preposition ลองดูประโยคตัวอย่างจะเห็นภาพชัดขึ้นนะคะ

That’s the restaurant in which we had dinner last night.
→ That’s the restaurant where we had dinner last night. 

relative adverb
meaning
use
example

when
in/on which
refers to a time expression
the day when we met him

where
in/at which
refers to a place
the place where we met him

why
for which
refers to a reason
the reason why we met him

OXBRIDGE

Institute


ติว TOEIC ครูเคน : ดูอย่างไรว่าเป็น Adjective Clause ?


Adjective Clause คือ อนุประโยคใจความไม่สมบูรณ์
ที่ทำหน้าที่เป็น Adjective และมีวิธีสังเกตอย่างไร ในคลิปนี้ครูเคนมีคำตอบ
🆓รับเอกสาร+แบบฝึกหัด ฟรี!! แค่พิมรหัส KKT001 ➙ ได้ที่ http://m.me/krukentoeic
✦ทดลองเรียนฟรี หรือสมัครเรียน คอร์ส KruKen TOEIC ได้ที่ ➙ https://www.opendurian.com/toeic_kruken/

คลิปติวสั้น อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา ทั้งหลักภาษา และแบบฝึกหัด
ที่ครูเคนตั้งใจเรียบเรียง เพื่อมอบความรู้ให้ผู้เรียนทุกคน

คอร์ส KruKen TOEIC ของครูเคนจะรวบรวมเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ
และรูปแบบคำถามไว้ครบหมดแล้ว มีทั้งแบบปัจจุบัน และแบบใหม่
เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่สุดในการทำข้อสอบ TOEIC

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ติว TOEIC ครูเคน : ดูอย่างไรว่าเป็น Adjective Clause ?

Save The Fish Levels 1511 – 1334 IOS Android Gameplay Walkthrough Puzzle Spy Fishdom Part – #61


Save The Fish Levels 1511 1334 IOS Android Gameplay Walkthrough Puzzle Spy Fishdom Part 61

Download Game.
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mesibagames.SaveTheFish

Copyright Disclaimer Under Section 107 of the Copyright Act 1976, allowance is made for \”fair use\” for purposes such as criticism, comment, news reporting, teaching, scholarship, and research. Fair use is a use permitted by copyright statute that might otherwise be infringing. Nonprofit, educational or personal use tips the balance in favor of fair use.
VIDEO GAME DISCLAIMER:
The Content in this video is for educational use only. The game play is just a video game.

SaveTheFish

Save The Fish Levels 1511 - 1334 IOS Android Gameplay Walkthrough Puzzle Spy Fishdom Part - #61

Phrases / Clauses / Sentences คืออะไร มีกี่ประเภท


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Phrases / Clauses / Sentences คืออะไร มีกี่ประเภท

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง Noun clause


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง Noun clause

KruKen TOEIC : Subordinating Conjunctions คำสันธาน ที่มักออกสอบ TOEIC


คำสันธาน ในภาษาอังกฤษมีหลายแบบ คลิปนี้ครูเคนจะมาอธิบายเรื่อง
Subordinating Conjunctions ซึ่งมีออกในข้อสอบ TOEIC อยู่เสมอ
📚รับเอกสาร+แบบฝึกหัด ฟรี!! แค่พิมรหัส ☀ KKT006 ☀ ➙ ส่งมาที่ http://m.me/krukentoeic
🔖ทดลองเรียนฟรี หรือสมัครเรียน คอร์ส KruKen TOEIC ได้ที่ ➙ https://www.opendurian.com/toeic_kruken/

คลิปติวสั้น อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา ทั้งหลักภาษา และแบบฝึกหัด
ที่ครูเคนตั้งใจเรียบเรียง เพื่อมอบความรู้ให้ผู้เรียนทุกคน

คอร์ส KruKen TOEIC ของครูเคนจะรวบรวมเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ
และรูปแบบคำถามไว้ครบหมดแล้ว มีทั้งแบบปัจจุบัน และแบบใหม่
เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่สุดในการทำข้อสอบ TOEIC

KruKen TOEIC : Subordinating Conjunctions คำสันธาน ที่มักออกสอบ TOEIC

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ clause คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *