Skip to content
Home » [Update] การเขียน Resume / CV ภาษาอังกฤษ | ความ สามารถ ใน การ แข่งขัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] การเขียน Resume / CV ภาษาอังกฤษ | ความ สามารถ ใน การ แข่งขัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ความ สามารถ ใน การ แข่งขัน ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

มาเจาะลึกถึงเทคนิคการเขียน resume ภาษาอังกฤษกันสักหน่อย การเขียนเรซูเม่ให้ดีเป็นสิ่งที่ยากมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเขียนไม่ได้  หลักสำคัญคือ ต้องเขียนสิ่งที่เป็ฯตัวเราจริงๆ เนื้อความสั้น กระชับ และได้ใจความ ส่วนรูปแบบของเรซูเม่ จริงๆแล้วไม่มีใครรู้ว่าแบบไหนคือดีที่สุด เอาเป็นว่าอ่านง่ายสบายตา เท่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรซูเม่ที่ดีค่ะ การเขียนเรซูเม่ทั่วไปมีหลักการเช่นเดียวกับการเขียนออไลน์เรซูเม่ แต่ออนไลน์เรซูเม่มีความพิเศษกว่า เพราะสามารถใส่ลิ้ง (Link) เพื่อที่จะโชว์ความสามารถพิเศษหรือ portfolio ของเราให้นายจ้างดูได้ และยังสามารถใส่วีดีโอเรซูเม่ (VDO Resume) เพื่อแนะนำหรือพรีเซนต์ประวัติย่อของเราได้ด้วย ซึ่งนายจ้างที่เห็นวีดีโอเรซูเม่ก็จะสามารถเห็นบุคลิกภาพของเราก่อนเรียกเข้าสัมภาษณ์งาน ความพิเศษของออนไลน์เรซูเม่ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้เรซูเม่ของเราน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการเรียกเข้าสัมภาษณ์งานให้กับเราอีกด้วย ในบทความนี้เราจะแบ่ง resume ออกเป็น 6 ส่วนหลักๆ คือ  

 

Table of Contents

1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

3. ทักษะความสามารถ (Skills) 

4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

 

1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

 

ส่วนหัวกระดาษ (Heading) ต้องระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ที่สามารถติดต่อเราโดยตรงได้ อย่าลืมเช็คเบอร์โทรและอีเมล์ก่อนส่งเรซูเม่สมัครงานอีกครั้งเพราะเป็นส่วนที่สำคัญและไม่ควรจะเขียนผิดพลาด เนื่องจากถ้านายจ้างสนใจเรียกเข้าสัมภาษณ์งานแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อเราได้ เรซูเม่เราก็จะไม่มีความหมายไม่ต่างกับกระดาษเปล่านะคะ

ส่วนจุดมุ่งหมายในงาน (Career Objecting) คือการระบุเป้าหมายของการสมัครงานในตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร และควรระบุตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัครให้ชัดเจน อาจมีการระบุจำนวนเงินเดือนที่ต้องการด้วยก็ได้

 

การระบุจุดมุ่งหมายในการทำงานที่ชัดเจน และสอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เช่น ตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างไร หรือการตั้งเป้าหมายระยะยาวในช่วงเวลา 3-5 ปีข้างหน้าในเส้นทางอาชีพว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เป็นต้น ซึ่งการตั้งเป้าหมายในสายอาชีพให้ชัดเจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และสร้างแรงจูงใจที่สำคัญแก่องค์กรในการเลือกรับผู้สมัครคนดังกล่าวเข้าทำงานเพื่อสร้างผลงานและขับเคลื่อนองค์กรได้ต่อไป

 

ตัวอย่าง หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

 

MR. FISCHER PARTNERS

55 Wave Place Wireless Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok, 10330

Tel. 02-2541448-9  E-mail: [email protected]

CAREER OBJECTIVE: Seeking a position in the accounting field where excellent analytical and technical skills can be utilized to improve the company’s profitability 
EXPECTED SALARY:   15,000- 25,000 Baht

 

 

2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

 

ข้อมูลส่วนตัว (Personal  Information) ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในเรซูเม่  ประกอบไปด้วยรูปภาพ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ประวัติการศึกษา สำหรับรูปถ่ายควรเป็นรูปที่เห็นใบหน้าตรงชัดเจน และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากรูปถ่ายจะเป็นสิ่งแรกที่ HR เห็นจากเรซูเม่ของผู้สมัคร นอกจากนี้ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลติดต่อกลับทั้งเบอร์โทรศัพท์ และอีเมลที่ต้องดูเป็นทางการ เช่น ชื่อ.นามสกุล@xxx.com 

 

ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวกับสัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก ส่วนสูง และงานอดิเรกที่เราสนใจนอกเวลางาน บางคนอาจจะเลือกที่จะไม่ใส่ขอมูลเกี่ยวกับ สัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก และส่วนสูง ถ้าต้องการให้เรซูเม่ของเราดูเป็นมืออาชีพ และถ้าข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้องาน ดังนั้นในส่วนนี้ จะใส่เพียว ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ และงานอดิเรกที่สนใจนอกเวลางาน เท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเนื้องานก็จำเป็น เช่น ถ้าเราสมัครเป็นแอร์โฮสเตส ที่นายจ้างจะต้องรู้ความสูงและน้ำหนัก แบบนี้เราก็ควรระบุลงไปให้ชัดเจน เป็นต้น

 

ตัวอย่าง ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

 

PERSONAL INFORMATION 

Residential Address : 55 Wave Place Wireless Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok, 10330

Mobile : 084-752-5656

Email : [email protected]

Date of Birth : 15 May 1977

Nationality : Thai

Age : 41

Marital Status : Single

Interest and Activities : Volunteer at local Rescue Mission, Participant in various running events, Enjoy jogging, tennis, reading

 

 

3. ทักษะความสามารถ (Skills)

 

ทักษะความสามารถ เป็นหัวข้อที่เราควรใส่ลงในเรซูเม่ (Resume) ของเรา  เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสัมภาษณ์งาน เพราะช่วยให้เรซูเม่ของผู้สมัครดูน่าสนใจและได้เปรียบคู่แข่ง  เนื่องจากปัจจุบันนายจ้างจะเลือกดูประสบการณ์ทำงานและทักษะความสามารถของผู้สมัครเป็นหลัก ดังนั้น ใครมีความสามารถอะไร ควรใส่ให้ครบนะคะ โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นในตำแหน่งงานที่สมัครจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น อาทิ ทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 เช่น ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฯลฯ รวมไปถึงทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จำเป็นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้

 

ทักษะความสามารถแบ่งออกเป็น Hard Skill และ Soft Skill

 

Hard Skill หรือ Qualification คือ ทักษะที่จำเป็นในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ เช่น ถ้าเราเป็นนักบัญชี เราต้องรู้เกี่ยวกับการบันทึกบัญชี การสอบบัญชี และการยื่นภาษีต่างๆ  ถ้าเราเป็นวิศวกร คุณต้องรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการคำนวณ ว่ากันง่ายๆคือ ทักษะส่วนใหญ่ที่เราเรียนมาในมหาวิทยาลัย (อาจจะดูได้จากวิชาหลักที่เราเรียนในมหาวิทยาลัย) คือ Hard Skill

 

Soft Skill คือ มีขอบเขตที่กว้างกว่า โดยเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้กับทุกสายอาชีพ เป็นลักษณะส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence Quotient) เช่นทักษะการสื่อสารการแก้ปัญหาความขัดแย้ง การจูงใจ การจัดการอารมณ์ของตัวเอง การเจรจาต่อรอง การคิดเชิงกลยุทธ์ การสร้างทีมงาน ซึ่งแตกต่างจาก Hard Skills ที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางสติปัญญา (Intelligence Quotient)

 

ตัวอย่าง การเขียนทักษะความสามารถ (Skills)

 

QUALIFICATION

 

  • General accounting transaction and entering data to accounting system

  • Issue withholding tax certificate

  • prepare and record AR,AP payment 

  •  handle all VAT and TAX calculation 

  • issue Invoice, Debit note, Credit note

  • Good command of Written and Spoken English

 

Skill

 

  • Having analytical skills, leadership, highly responsible and results oriented. 

  • Ability to work under pressure conditions

  • Typing skills: Thai, 45 words per minute | English, 50 words per minute

 

 

4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

 

เขียนวุฒิการศึกษาที่เราได้รับมา และการฝึกอบรมต่างๆ หรือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เคยเข้าร่วม ถ้าให้ดีต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน สามารถใช้ประสบการณ์ระหว่างการศึกษาได้ เช่น ถ้าเคยเป็นเหรัญญิกของสมาคมหรือค่าอาสา ก็เขียนว่า ได้รับเลือกให้เป็นเหรัญญิกของโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบท มีหน้าที่จัดทำเอกสาร รวบรวมเอกสาร รวมถึงบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดของโครางการ เป็นต้น ส่วนคนที่เคยมีประสบการทำงานมาแล้วก็สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำมาได้เลย (อย่าลืมใส่ลิ้ง หรือเว็บไซต์ของที่ทำงานเก่า ลงไปในออนไลน์เรซูเม่ด้วย เพื่อให้นายจ้างตรวจเช็คได้สะดวก) การเขียนข้อมูลทางการศึกษา (Education) ให้เรียงจากวุฒิการศึกษสูงสุดไปวุฒติที่ต่ำที่สุด แต่ไม่ควรต่ำเกิดวุฒิมัธยมปลายหรือ ปวช. และถ้าเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน ให้เขียนเรียงลำดับจาก ช่วงเวลาที่เรียน วุฒิที่ได้รับ และชื่อสถาบัน

 

ตัวอย่าง ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)

 

EDUCATION HISTORY

May 2010 – Aug 2012                 Masters in  Accounting,University of ABC,  Bangkok THAILAND

May 2006 – Feb 2010                 Bachelor of Science – Accounting, University of ABC, Bangkok THAILAND

May 2000 – Feb 2006                High School Certificate equivalent, AAA High School, Bangkok THAILAND

 

ข้อสังเกต

 

  • เขียนชื่อวุฒิขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ

  • ชื่อสถาบัน ให้ใส่จังหวัดที่สถาบันตั้งอยู่ ยกเว้นสถาบันที่ใช้ชื่อจังหวัดเป็นชื่อสถาบัน (เช่น Chiang Mai University, Khon Kaen University)

  • เราสามารถเพิ่มหัวข้อการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับงานเข้าไปที่หัวข้อนี้ หรือเพิ่มหัวข้อการฝึกอบรมขึ้นมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้งานมากขึ้นด้วย วิธีเขียนก็เช่นเดียวกับการศึกษาหรือประสบการณ์ทำงาน คือ ให้เขียนเรียงลำดับ วันเดือนปีที่อบรม ระยะเวลา ชื่อหลักสูตรในการอบรม และสถาบันที่จัดการอบรม

 

 

5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

 

ในส่วนนี้จะคล้ายกับข้อมูลการศึกษา โดยเริ่มจาก ชื่อสถานประกอบการ ตำแหน่งงาน จังหวัด ประเทศ (ถ้าทำงานต่างประเทศมาก่อน) วันเดือนปีที่เริ่มทำงาน  และระยะเวลาที่ทำงานนั้น และควรใส่ขอบเขตหน้าที่ ที่เราได้รับผิดชอบขณะทำงานอยู่ด้วย หรืออาจจะจัดรูปแบบให้แตกต่างแต่อานแล้วสบายตา เข้าใจง่ายก็ได้ (ดูตัวอย่างข้างล่าง) นอกจากนั้น ถ้าเคยผ่านงานมาหลายที่ ให้เขียนงานที่ทำปัจจุบันก่อน แล้วเรียงไปจนถึงตำแหน่งงานแรก  และการอบรมที่เคยเข้าร่วม ส่วนนิสิต นักศึกษาจบใหม่ การระบุประสบการณ์พิเศษเป็นการช่วยให้เรซูเม่ดูน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร การออกค่าย การฝึกงาน ตลอดจนการทำงานล่วงเวลา (Part-Time) ทั้งนี้ประสบการณ์พิเศษจะเป็นปัจจัยสนับสนุนว่าผู้สมัครเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบด้าน และมีความรับผิดชอบ

 

ตัวอย่าง ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

 

WORK EXPEREINCE

FP RECRUITMENT, Bangkok THAILAND  (Feb 2013 – April 2014)

Accounting Assistant

 

  • Performed accounts payable functions for construction expenses.

  • Managed vendor accounts, generating weekly on demand cheques.

  • Managed financial departments with responsibility for Budgets, Forecasting, Payroll, Accounts Payable and Receivable.

  • Created budgets and forecasts for the management group.

  • Ensured compliance with accounting deadlines.

  • Prepared company accounts and tax returns for audit.

  • Coordinated monthly payroll functions for 200+ employees.

  • Liased with bankers, insurers and solicitors regarding financial transactions.

 

K FiSCHER & CO, Bangkok, THAILAND  (March 2010 – Dec 2012)

Administrative Assistant

 

  • Performed general office duties and administrative tasks.

  • Prepared weekly confidential sales reports for presentation to management.

  • Managed the internal and external mail functions.

  • Provided telephone support.

  • Scheduled client appointments and maintained up-to-date confidential client files.

 

 

6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

เรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ ที่เราเขียนจะดูมีความน่าเชื่อถือสูง ถ้าเรามีชื่อและข้อมูลการติดต่อของบุคคลที่นายจ้างสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเราได้ ประมาณ 2-3 คน (ไม่ควรทำงานที่เดียวกัน และต้องไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา) ดังนั้นบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (reference) ของเราควรเป็นหัวหน้างานเก่าหรือ หากคุณยังไม่มีประสบการณืทำงานเลย ก็ควรจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ในวงการธุรกิจ เช่น ต้องเป็นบุคคลที่มีงานมั่นคง หรือมีชื่อเสียง อาจเป็นข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน อาจารย์ หรือเจ้าของกิจการ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องรู้จักและเคยเห็นการทำงานของเราเป็นอย่างดี การเขียนให้เรียงจากชื่อ-นามสกุล (ถ้าเป็นอาจารย์ที่มีตำแหน่งต้องใส่คำนำหน้าด้วย เช่น ศาสตราจารย์ = Prof. , รองศาสตราจารย์ = Assoc.Prof) ตำแหน่ง ชื่อสถานประกอบการ และหมายเลขโทรศัพท์

 

ตัวอย่าง บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

REFERENCES

Mr. Chanin Kulkanjanatorn, Director, AEC Enlist Co.Ltd., Bangkok THAILAND Tel. 02-392-4186

อย่างไรก็ตาม resume ที่เราส่งไปนั้นยังไม่ต้องอ้าง reference ก็ได้แต่ให้เขียนว่า “References will be sent on request.” (หมายความว่า เอกสารอ้างอิงจะส่งให้กรณีที่ทางบริษัทร้องขอมา)

 

ตัวอย่างเรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ

[NEW] Vocabulary: 25 คำศัพท์และวลีเด็ดบอกทักษะความสามารถใน Resume ที่อาจทำให้คุณได้งาน!!! | ความ สามารถ ใน การ แข่งขัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เมื่อจะไปสมัครงานสิ่งที่ต้องมีติดตัวไปด้วยคือ Resume ซึ่งโดยส่วนใหญ่ Resume สมัครงานควรเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงขอนำคำศัพท์พร้อมวลีเด็ดบอกความสามารถใน Resume ที่อาจทำให้คุณได้งาน มาฝากทุกคนกันค่ะ

ทักษะการทำงานที่มีประสิทธิภาพย่อมส่งผลให้การทำงานประสบผลสำเร็จ ซึ่งขอยกตัวอย่างทักษะทั้งหมด 4 ด้านที่พนักงานที่ดีควรมีเพื่อการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

1. Communication skills : ทักษะการติดต่อสื่อสาร

ทักษะการติดต่อสื่อสารเป็นทักษะสำคัญที่ต้องใช้ในการทำงาน ซึ่งประกอบด้วยการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ถ้าหากพนักงานมีทักษะนี้ครบทั้ง 4 ด้านและมีคุณภาพ ย่อมส่งผลให้การติดต่องานหรือการสื่อสารกับลูกค้าสำเร็จผล โดยอาจประกอบด้วยความสามารถต่าง ๆ ดังนี้

writes clearly and concisely              : เขียนได้ชัดเจนและกระชับ (ทักษะนี้อาจจะเหมาะกับงานเลขานุการที่ต้องคอยจดบันทึกต่าง ๆ)
speaks effectively                           : พูดอย่างมีประสิทธิภาพ (พูดจาชัดเจน รู้เรื่อง และตรงประเด็น)
openly expresses ideas                   : แสดงความคิดอย่างเปิดเผย
negotiates/resolves differences        : เจรจาหรือไกล่เกลี่ยความแตกต่างทางด้านความคิดหรือกระบวนการทำงานได้
provides well-thought out solutions  : คิดแก้ปัญหาได้อย่างรอบคอบ
confidently speaks in public            : มีความมั่นใจในการพูดในที่สาธารณะ ในที่นี้อาจจะหมายถึงในที่ประชุม

2. Organizational skills : ทักษะการจัดระบบ

ทักษะการจัดระบบ เป็นทักษะที่สำคัญอีกประการหนึ่ง เนื่องจากคนที่มีระบบที่ดีในตัวเองย่อมสื่อให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีระเบียบวินัยและจริงจังมุ่งมั่นในการทำงาน ดังนั้นอย่าลืมเขียนทักษะนี้ลงไปใน Resume ของตัวเองด้วยนะคะ ตัวอย่างเช่น

punctual                               : ตรงต่อเวลา (ทักษะนี้แสดงถึงความรับผิดชอบและความมีระเบียบวินัย)
plans and arranges activities   : วางแผนและจัดกิจกรรมต่าง ๆ (ทักษะนี้ทำให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีระบบการจัดการที่ดี)
multi-tasks                            : สามารถทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน อาจจะทำให้สามารถทำงานได้เสร็จทันใจผู้สั่ง แต่ก็จะต้องทำให้ออกมามีคุณภาพด้วย
meets deadlines                     : ตรงตามกำหนดเวลา (สามารถทำงานเสร็จได้ตรงตามกำหนดเวลา ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบ)

3. Interpersonal skills : ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล

ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลหรืออาจเรียกอีกอย่างว่าทักษะสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนควรมีเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข อีกทั้งถ้าหากสามารถทำงานร่วมกันได้ดี ย่อมส่งผลโดยตรงต่องานที่ได้รับมอบหมาย ตัวอย่างทักษะในหัวข้อนี้ ได้แก่

works well with others   : ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี (คุณสมบัติข้อนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญเลยสำหรับงานที่มีลักษณะการทำเป็นทีม)
supportive                   : เป็นผู้สนับสนุน โดยให้คำแนะนำช่วยเหลือคนอื่น ๆ แสดงน้ำใจ
motivates others          : เป็นผู้กระตุ้นผู้อื่น เมื่อเกิดการเสริมพลังบวกย่อมทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
counsels                     : เป็นที่ปรึกษา คล้ายกับข้อ supportive คือเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นในจุดที่เรามีความรู้หรือความเชี่ยวชาญ
cooperates                 : ให้ความร่วมมือในการทำงาน
accepts responsibility   : มีความรับผิดชอบต่องานในส่วนที่ตนได้รับมอบหมาย

4. Management skills : ทักษะการจัดการ

ทักษะการจัดการเป็นทักษะสุดท้ายที่พนักงานทุกคนพึงมี เนื่องจากการจัดการที่ดีย่อมส่งผลโดยตรงต่อระบบการทำงานที่ดีและมีคุณภาพ เรียนรู้การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีย่อมทำให้การทำงานประสบความสำเร็จ ตัวอย่างทักษะในข้อนี้ เช่น

leads groups                  : เป็นผู้นำกลุ่ม เนื่องจากการทำงานทุกอย่างย่อมต้องการคนที่เป็นผู้นำเพื่อให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ
manages conflict            : สามารถจัดการกับความขัดแย้ง เนื่องจากในการทำงานย่อมมีการคิดเห็นแตกต่างกัน จึงควรมีผู้ที่สามารถช่วยจัดการไกล่เกลี่ยและหาทางออกให้กับความขัดแย้งนั้นได้
delegates responsibility   : กระจายความรับผิดชอบหรืองานให้กับผู้อื่นอย่างเหมาะสม
makes decisions            : เป็นผู้ตัดสินใจในการดำเนินการใด ๆ ก็ตาม โดยตัดสินใจอย่างรอบคอบและมั่นใจ

นอกจากนี้ยังมีทักษะและคุณสมบัติส่วนบุคคลอื่น ๆ อีกที่น่าสนใจดังนี้

Computer and technical literacy

มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคนิคต่าง ๆ โดยอาจจะเกี่ยวข้องกับการใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในการทำงาน เช่น MS office ซึ่งเป็นโปรแกรมพื้นฐานในการทำงาน หรืออาจจะสามารถใช้ Photoshop ตัดต่อตกแต่งรูปภาพได้ ก็อย่าลืมเขียนใส่ลงไปใน Resume ของเราด้วยนะคะ

Problem-solving/Creativity

มีทักษะการแก้ไขปัญหาและมีความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากการทำงานย่อมพบเจอกับอุปสรรคได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นพนักงานที่ดีควรมีทักษะการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน อีกทั้งอาจนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้จัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้อีกด้วยและทำให้งานของเราน่าสนใจแตกต่างกับงานอื่น ๆ

Planning and organizing

รู้จักการวางแผนและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทักษะข้อนี้จะทำให้เราดูเป็นผู้ที่สามารถจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดี มีระบบระเบียบ การดำเนินการตามขั้นตอนการทำงานที่มีคุณภาพ ซึ่งส่งผลให้การทำงานนั้นมีระบบและประสบผลสำเร็จ

Adaptability and flexibility

รู้จักการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นในการทำงาน คุณสมบัติหรือทักษะในข้อนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นจึงต้องเรียนรู้การปรับตัวและปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน นอกจากนี้การเป็นผู้มีความยืดหยุ่นในการทำงานย่อมส่งผลให้ไม่เกิดความตึงเครียดมากจนเกินไปอีกด้วย

Positive attitude and energy

การทำงานที่มีความสุขต้องเริ่มจากการมีทัศนคติในแง่บวกและมีพลังในการทำงาน โดยผู้ที่สามารถมองทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปในทางบวกได้นั้นย่อมทำให้มีความสุขและส่งผลต่อพลังกายพลังใจที่จะทำงานนั้น ๆ ต่อไป

ทุกคนลองสำรวจตัวเองและนำตัวอย่างวลีเด็ดบอกทักษะและความสามารถที่เรามีไปใส่ใน Resume กันดูนะคะ แต่อย่าลืมว่าอะไรที่เป็นข้อเสียของเราที่ส่งผลต่อการทำงานก็ไม่ควรใส่ลงไปนะ และอย่าลืมศึกษารูปแบบการเขียน Resume ที่ถูกต้องและการใช้ภาษากันด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ Resume ของทุกคนก็อาจจะเป็นใบเบิกทางให้ได้งานกันอย่างแน่นอน ^^

 
              
              
        

 


ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art


ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์
เกมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยวาชน
เพื่อเสริมทักษะความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
วิชาการทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และอื่นๆๆอีกมากมาย
อย่าลืมกดติดตาม Subscribe WAWA kids art กันนะค่ะ
เกม คณิตศาสตร์หรรษา ระดับประถมศึกษา (10 ข้อ) https://youtu.be/GhlHe6bjBCQ
เกม หาภาพตรงกับคำสั่ง หมวดวิทยาสาสตร์ https://youtu.be/nqoTcc0QV4
เกม ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดสัตว์ https://youtu.be/xcT9ntfaVk
วาดการ์ตูนปลาโลมา, เรือ, ผีเสือ, เห็ด | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สนุกกับการเรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/7_bjSKieC7c
วาดการ์ตูน ผีเสื้อ, ดอกไม้, บอลลูน, อ่างอาบน้ำ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ https://youtu.be/sfOUFKhNmwc
เกมหารูปภาพตามคำสั่ง หมวดคำราชาศัพท์ https://youtu.be/6yPm5YA2is
เกมหาอักษรที่หายไป หมวดภาษาอังกฤษ https://youtu.be/If5UsAS9ZYQ
เรียนรู้ผลไม้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เล่นไข่เซอร์ไพรส์และลุ้นถ้วยไอศครีม | wawa kids art https://youtu.be/m0b4bpQLBfY
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เรียนรู้เลข เล่นทำเลข 110 ผ่านแป้งโด เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดผลไม้ https://youtu.be/VzdFLOoiWs
เกม ทายคำศัพท์ยานพาหนะ หมวดภาษาอังกฤษhttps://youtu.be/dc4ApC1qn_w
เกม หาสุภาษิตไทยจากรูปภาพ เรียนรู้ความหมายของสุภาพษิตไทย https://youtu.be/JhqtK1qae_s

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ep.3 เกมทายเสียงสัตว์ 20 ข้อ | เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ | WAWA kids art

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการดำเนินธุรกิจแบบคลัสเตอร์


การพัฒนาองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแบบคลัสเตอร์และการจัดตั้งคลัสเตอร์ไม้ดอกไม้ประดับ หลักการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจ โดยการจัดตั้งคลัสเตอร์ โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ภาสกร นันทพานิช

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการดำเนินธุรกิจแบบคลัสเตอร์

ยุทธศาสตร์ชาติที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน


ยุทธศาสตร์ชาติที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน

เกมส์การแข่งขันความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ตอนที่ 5


พบกับพิธีกรสุดฮาแต่มากด้วยความรู้ในเกมส์ประลองความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ พิชิตการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในด้านภาษาอังกฤษ พร้อมเคล็ดลับความรู้ที่จะนำไปใช้ได้จริงทั้งในห้องเรียนและห้องสอบ

เกมส์การแข่งขันความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ตอนที่ 5

เกมส์การแข่งขันความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ตอนที่ 6


พบกับพิธีกรสุดฮาแต่มากด้วยความรู้ในเกมส์ประลองความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ พิชิตการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในด้านภาษาอังกฤษ พร้อมเคล็ดลับความรู้ที่จะนำไปใช้ได้จริงทั้งในห้องเรียนและห้องสอบ
สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

เกมส์การแข่งขันความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ตอนที่ 6

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ความ สามารถ ใน การ แข่งขัน ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *