Skip to content
Home » [Update] กริยา 3 ช่อง | กริยาช่องที่ 3 – NATAVIGUIDES

[Update] กริยา 3 ช่อง | กริยาช่องที่ 3 – NATAVIGUIDES

กริยาช่องที่ 3: คุณกำลังดูกระทู้




คำกริยาในภาษาอังกฤษ

 

ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น

3

ช่อง

เรียกว่า

กริยา

3

ช่อง

ซึ่งแต่ละ

ช่องก็บอกถึง

เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย

             

คำที่แสดงถึงอาการต่าง

  

หรือเหตุการณ์ต่าง

ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็

คือ

คำพูดที่แสดง

ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค

หรือคำที่ทำหน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง

 

กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ

ในแต่ละประโยค

 

ถ้าในประโยคนั้น

ขาดคำกิริยา

 

ความหมายก็ไม่เกิด

และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง

ๆได้เลย

หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์

คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น

 

3

ประเภท

คือ

           1.

สกรรมกริยา

(

Transitive  Verb ) 

คือ

คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม

หรือคำอื่นเข้ามารองรับความ

หมายจึง

จะสมบูรณ์

เช่น

The  boys  kick  football  in  the  field.

หมายความว่า

 

พวกเด็ก

เตะ

ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า

 

คำว่า

“kick “  

เป็น

คำกิริยา

บอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน

นี้เด็ก

กำลังเล่นกันอยู่

ส่วนคำว่า

“ football ”

เป็นตัวกรรม

หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ

หมายสมบูรณ์ขึ้น

เพราะถ้าใช้คำว่า

“ kick “

คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์

ไม่

รู้ว่าเตะอะไร

นั่นเอง

           2.

อกรรมกริยา

(

Intransitive  Verb )  

คือ

คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้

ความหมายสมบูรณ์

เช่น

 

The  dogs  run  in  the  field.  

ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ

ก็ได้ใจ

ความสมบูรณ์ดี

 

ซึ่งคำว่า

“run “

แปลว่า

วิ่ง

คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่ง

           3.  

กริยาช่วย

(  

Helping  Verb

หรือ

 

Auxiliary  Verb ) 

คือ

กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วย

กันมีความหมายดีขึ้น

และ

ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย

 

เช่น

She  studies  in  Lamp – Tech  college .  Does she study in Lamp – Tech College?

            

คำ

 

กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น

3

ช่อง

เรียกว่า

กริยา

3

ช่อง

ซึ่งแต่ละ

ช่องก็บอกถึง

เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย

กริยาช่องที่

1 

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

กริยาช่องที่

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

กริยา

ช่องที่

3 

ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต

เรียก

อีกอย่างหนึ่งว่า

ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา

หรือ

Complement




Base Form(

ช่อง

 

1)

Simple Past Tense(

ช่อง

 

2)

Past Participle(

ช่อง

 

3)

Meaning (

ความหมายเทียบเคียง

)


awake

awoke

awoken

ตื่น


be

was, were

been

เป็น

,

อยู่

,

คือ


bear

bore

born

ทน


beat

beat

beat

ตี


become

became

become

กลายเป็น


begin

began

begun

เริ่ม


bend

bent

bent

หัก

งอ


beset

beset

beset

โอบล้อมรอบด้าน


bet

bet

bet

พนัน


bid

bid/bade

bid/bidden

ประมูล


bind

bound

bound

ผูกติดกัน


bite

bit

bitten

กัด


bleed

bled

bled

เลือดออก


blow

blew

blown

เป่า


break

broke

broken

แตก

หัก


breed

bred

bred

ผสมพันธ์


bring

brought

brought

นำมา


broadcast

broadcast

broadcast

ออกอากาศ


build

built

built

สร้าง


burn

burned/burnt

burned/burnt

เผา


burst

burst

burst

ระเบิดออก


buy

bought

bought

ซื้อ


cast

cast

cast

หล่อ


catch

caught

caught

จับ


oose

chose

chosen

เลือก


cling

clung

clung

พิง


come

came

come

มา


cost

cost

cost

มีราคา


creep

crept

crept

คืบคลาน


cut

cut

cut

ตัด


deal

dealt

dealt

จัดการ


dig

dug

dug

ขุด


dive

dived/dove

dived

กระโดดน้ำ


do

did

done

ทำ


draw

drew

drawn

วาด

ล่อ

ชักดาบ

ถอนเงิน


dream

dreamed/dreamt

dreamed/dreamt

ฝัน


drive

drove

driven

ขับรถ


drink

drank

drunk

ดื่ม


eat

ate

eaten

กิน


fall

fell

fallen

ล้ม


feed

fed

fed

ให้อาหารสัตว์


feel

felt

felt

รู้สึก


fight

fought

fought

ต่อสู้


find

found

found

พบ


fit

fit

fit

พอเหมาะ


flee

fled

fled

หลบหนี


fling

flung

flung

เขวี้ยง


fly

flew

flown

บิน

นั่งเครื่องบิน


forbid

forbade

forbidden

ห้าม


forget

forgot

forgotten

ลืม


forego (forgo)

forewent

foregone

ยอม

ไม่เอา


forgive

forgave

forgiven

ให้อภัย


forsake

forsook

forsaken

สละ

ละทิ้ง


freeze

froze

frozen

หยุด

เป็นน้ำแข็ง


get

got

gotten

ได้


give

gave

given

ให้


go

went

gone

ไป


grind

ground

ground

บด


grow

grew

grown

เจริญงอกงาม


hang

hung

hung

แขวน


hang

hunged

hanged

แขวนคอ


hear

heard

heard

ได้ยิน


hide

hid

hidden

ซ่อน


hit

hit

hit

ตี


hold

held

held

ถือ


hurt

hurt

hurt

ทำร้าย


keep

kept

kept

เก็บรักษา


kneel

knelt

knelt

คุกเข่า


knit

knit

knit

ถัก


know

knew

know

รู้จัก


lay

laid

laid

วางไข่


lead

led

led

นำ


leap

leaped/lept

leaped/lept

กระโดด


learn

learned/learnt

learned/learnt

เรียน


leave

left

left

ออกจาก


lend

lent

lent

ให้ยืม


let

let

let

อนุญาต


lie

lay

lain

นอนลง


light

lighted/lit

lighted

จุดไฟ


lose

lost

lost

ทำหาย


make

made

made

ทำ


mean

meant

meant

หมายถึง


meet

met

met

พบ


misspell

misspelled /misspelt

misspelled/ misspelt

สะกดผิด


mistake

mistook

mistaken

ทำผิด


mow

mowed

mowed/mown

ตัดหญ้า


overcome

overcame

overcome

เอาชนะ


overdo

overdid

overdone

ทำมากเกินไป


overtake

overtook

overtaken

ตามทัน


overthrow

overthrew

overthrown

ปลดจากตำแหน่ง


pay

paid

paid

จ่าย


plead

pled

pled

อ้อนวอน

ขอโทษ


prove

proved

proved/proven

พิสูจน์


put

put

put

วาง


quit

quit

quit

เลิก


read

read

read

อ่าน


rid

rid

rid

ขจัด


ride

rode

ridden

ขี่


ring

rang

rung

กรดกริ่ง


rise

rose

risen

ลุกขึ้น


run

ran

run

วิ่ง


saw

sawed

sawed/sawn

เลื่อย


say

said

said

พูด


see

saw

seen

เห็น


seek

sought

sought

ค้นหา


sell

sold

sold

ขาย


send

sent

sent

ส่ง


set

set

set

จัดวาง


sew

sewed

sewed/sewn

เย็บ


shake

shook

shaken

สั่น


shave

shaved

shaved/shaven

โกน


shear

shore

shorn

ตัดขนแกะ


shed

shed

shed

เท

กันน้ำ

ทิ้ง


shine

shone

shone

เปล่งแสง


shoe

shoed

shoed/shod

ซ่อมรองเท้า


shoot

shot

shot

ยิง


show

showed

showed/shown

แสดง


shrink

shrank

shrunk

หด


shut

shut

shut

ปิด


sing

sang

sung

ร้องเพลง


sink

sank

sunk

จม


sit

sat

sat

นั่ง


sleep

slept

slept

นอน


slay

slew

slain

ฆ่า


slide

slid

slid

เลื่อน


sling

slung

slung

slit

slit

slit

สอดกรีดตามยาว


smite

smote

smitten

ตีอย่างแรง


sow

sowed

sowed/sown

หว่านพืช


speak

spoke

spoken

พูด


speed

sped

sped

เร่งความเร็ว


spend

spent

spent

ใช้จ่าย


spill

spilled/spilt

spilled/spilt

ทำหก


spin

spun

spun

ปั่น


spit

spit/spat

spit

บ้วนน้ำลาย


split

split

split

แยกออกจากกัน


spread

spread

spread

แผ่


spring

sprang/sprung

sprung

กระโดด


stand

stood

stood

ยืน


steal

stole

stolen

ขโมย


stick

stuck

stuck

ติดอยู่กับ


sting

stung

stung

ปล่อยเหล็กไน


stink

stank

stunk

เหม็น


stride

strod

stridden

เดินก้าวยาว

 


strike

struck

struck

ตี


string

strung

strung

ขึ้นสาย

ร้อยลูกปัด


strive

strove

striven

ดิ้นรน

 

ต่อสู้


swear

swore

sworn

สาบาน


sweep

swept

swept

กวาด


swell

swelled

swelled/swollen

บวม


swim

swam

swum

ว่ายน้ำ


swing

swung

swung

แกว่ง


take

took

taken

นำไป


teach

taught

taught

สอน


tear

tore

torn

ฉีก


tell

told

told

บอก


think

thought

thought

คิด


thrive

thrived/throve

thrived

เติบโต


throw

threw

thrown

ขว้าง


thrust

thrust

thrust

เสือกเข้าไป


tread

trod

trodden

เดิน


understand

understood

understood

เข้าใจ


uphold

upheld

upheld

ยกไว้


upset

upset

upset

เสียใจ


wake

woke

woken

ตื่น


wear

wore

worn

สวม


weave

weaved/wove

weaved/woven

ทอ


wed

wed

wed

แต่งงาน


weep

wept

wept

ร้องไห้


wind

wound

wound

ไขลาน


win

won

won

ชนะ


withhold

withheld

withheld

เก็บไว้


withstand

withstood

withstood

ทนฟ้าทนฝน


wring

wrung

wrung

บิด


write

wrote

written

เขียน


[Update] กริยา 3 ช่อง | กริยาช่องที่ 3 – NATAVIGUIDES




คำกริยาในภาษาอังกฤษ

 

ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น

3

ช่อง

เรียกว่า

กริยา

3

ช่อง

ซึ่งแต่ละ

ช่องก็บอกถึง

เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย

             

คำที่แสดงถึงอาการต่าง

  

หรือเหตุการณ์ต่าง

ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็

คือ

คำพูดที่แสดง

ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค

หรือคำที่ทำหน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง

 

กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ

ในแต่ละประโยค

 

ถ้าในประโยคนั้น

ขาดคำกิริยา

 

ความหมายก็ไม่เกิด

และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง

ๆได้เลย

หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์

คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น

 

3

ประเภท

คือ

           1.

สกรรมกริยา

(

Transitive  Verb ) 

คือ

คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม

หรือคำอื่นเข้ามารองรับความ

หมายจึง

จะสมบูรณ์

เช่น

The  boys  kick  football  in  the  field.

หมายความว่า

 

พวกเด็ก

เตะ

ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า

 

คำว่า

“kick “  

เป็น

คำกิริยา

บอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน

นี้เด็ก

กำลังเล่นกันอยู่

ส่วนคำว่า

“ football ”

เป็นตัวกรรม

หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ

หมายสมบูรณ์ขึ้น

เพราะถ้าใช้คำว่า

“ kick “

คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์

ไม่

รู้ว่าเตะอะไร

นั่นเอง

           2.

อกรรมกริยา

(

Intransitive  Verb )  

คือ

คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้

ความหมายสมบูรณ์

เช่น

 

The  dogs  run  in  the  field.  

ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ

ก็ได้ใจ

ความสมบูรณ์ดี

 

ซึ่งคำว่า

“run “

แปลว่า

วิ่ง

คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่ง

           3.  

กริยาช่วย

(  

Helping  Verb

หรือ

 

Auxiliary  Verb ) 

คือ

กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วย

กันมีความหมายดีขึ้น

และ

ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย

 

เช่น

She  studies  in  Lamp – Tech  college .  Does she study in Lamp – Tech College?

            

คำ

 

กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น

3

ช่อง

เรียกว่า

กริยา

3

ช่อง

ซึ่งแต่ละ

ช่องก็บอกถึง

เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย

กริยาช่องที่

1 

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

กริยาช่องที่

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

กริยา

ช่องที่

3 

ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต

เรียก

อีกอย่างหนึ่งว่า

ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา

หรือ

Complement




Base Form(

ช่อง

 

1)

Simple Past Tense(

ช่อง

 

2)

Past Participle(

ช่อง

 

3)

Meaning (

ความหมายเทียบเคียง

)


awake

awoke

awoken

ตื่น


be

was, were

been

เป็น

,

อยู่

,

คือ


bear

bore

born

ทน


beat

beat

beat

ตี


become

became

become

กลายเป็น


begin

began

begun

เริ่ม


bend

bent

bent

หัก

งอ


beset

beset

beset

โอบล้อมรอบด้าน


bet

bet

bet

พนัน


bid

bid/bade

bid/bidden

ประมูล


bind

bound

bound

ผูกติดกัน


bite

bit

bitten

กัด


bleed

bled

bled

เลือดออก


blow

blew

blown

เป่า


break

broke

broken

แตก

หัก


breed

bred

bred

ผสมพันธ์


bring

brought

brought

นำมา


broadcast

broadcast

broadcast

ออกอากาศ


build

built

built

สร้าง


burn

burned/burnt

burned/burnt

เผา


burst

burst

burst

ระเบิดออก


buy

bought

bought

ซื้อ


cast

cast

cast

หล่อ


catch

caught

caught

จับ


oose

chose

chosen

เลือก


cling

clung

clung

พิง


come

came

come

มา


cost

cost

cost

มีราคา


creep

crept

crept

คืบคลาน


cut

cut

cut

ตัด


deal

dealt

dealt

จัดการ


dig

dug

dug

ขุด


dive

dived/dove

dived

กระโดดน้ำ


do

did

done

ทำ


draw

drew

drawn

วาด

ล่อ

ชักดาบ

ถอนเงิน


dream

dreamed/dreamt

dreamed/dreamt

ฝัน


drive

drove

driven

ขับรถ


drink

drank

drunk

ดื่ม


eat

ate

eaten

กิน


fall

fell

fallen

ล้ม


feed

fed

fed

ให้อาหารสัตว์


feel

felt

felt

รู้สึก


fight

fought

fought

ต่อสู้


find

found

found

พบ


fit

fit

fit

พอเหมาะ


flee

fled

fled

หลบหนี


fling

flung

flung

เขวี้ยง


fly

flew

flown

บิน

นั่งเครื่องบิน


forbid

forbade

forbidden

ห้าม


forget

forgot

forgotten

ลืม


forego (forgo)

forewent

foregone

ยอม

ไม่เอา


forgive

forgave

forgiven

ให้อภัย


forsake

forsook

forsaken

สละ

ละทิ้ง


freeze

froze

frozen

หยุด

เป็นน้ำแข็ง


get

got

gotten

ได้


give

gave

given

ให้


go

went

gone

ไป


grind

ground

ground

บด


grow

grew

grown

เจริญงอกงาม


hang

hung

hung

แขวน


hang

hunged

hanged

แขวนคอ


hear

heard

heard

ได้ยิน


hide

hid

hidden

ซ่อน


hit

hit

hit

ตี


hold

held

held

ถือ


hurt

hurt

hurt

ทำร้าย


keep

kept

kept

เก็บรักษา


kneel

knelt

knelt

คุกเข่า


knit

knit

knit

ถัก


know

knew

know

รู้จัก


lay

laid

laid

วางไข่


lead

led

led

นำ


leap

leaped/lept

leaped/lept

กระโดด


learn

learned/learnt

learned/learnt

เรียน


leave

left

left

ออกจาก


lend

lent

lent

ให้ยืม


let

let

let

อนุญาต


lie

lay

lain

นอนลง


light

lighted/lit

lighted

จุดไฟ


lose

lost

lost

ทำหาย


make

made

made

ทำ


mean

meant

meant

หมายถึง


meet

met

met

พบ


misspell

misspelled /misspelt

misspelled/ misspelt

สะกดผิด


mistake

mistook

mistaken

ทำผิด


mow

mowed

mowed/mown

ตัดหญ้า


overcome

overcame

overcome

เอาชนะ


overdo

overdid

overdone

ทำมากเกินไป


overtake

overtook

overtaken

ตามทัน


overthrow

overthrew

overthrown

ปลดจากตำแหน่ง


pay

paid

paid

จ่าย


plead

pled

pled

อ้อนวอน

ขอโทษ


prove

proved

proved/proven

พิสูจน์


put

put

put

วาง


quit

quit

quit

เลิก


read

read

read

อ่าน


rid

rid

rid

ขจัด


ride

rode

ridden

ขี่


ring

rang

rung

กรดกริ่ง


rise

rose

risen

ลุกขึ้น


run

ran

run

วิ่ง


saw

sawed

sawed/sawn

เลื่อย


say

said

said

พูด


see

saw

seen

เห็น


seek

sought

sought

ค้นหา


sell

sold

sold

ขาย


send

sent

sent

ส่ง


set

set

set

จัดวาง


sew

sewed

sewed/sewn

เย็บ


shake

shook

shaken

สั่น


shave

shaved

shaved/shaven

โกน


shear

shore

shorn

ตัดขนแกะ


shed

shed

shed

เท

กันน้ำ

ทิ้ง


shine

shone

shone

เปล่งแสง


shoe

shoed

shoed/shod

ซ่อมรองเท้า


shoot

shot

shot

ยิง


show

showed

showed/shown

แสดง


shrink

shrank

shrunk

หด


shut

shut

shut

ปิด


sing

sang

sung

ร้องเพลง


sink

sank

sunk

จม


sit

sat

sat

นั่ง


sleep

slept

slept

นอน


slay

slew

slain

ฆ่า


slide

slid

slid

เลื่อน


sling

slung

slung

slit

slit

slit

สอดกรีดตามยาว


smite

smote

smitten

ตีอย่างแรง


sow

sowed

sowed/sown

หว่านพืช


speak

spoke

spoken

พูด


speed

sped

sped

เร่งความเร็ว


spend

spent

spent

ใช้จ่าย


spill

spilled/spilt

spilled/spilt

ทำหก


spin

spun

spun

ปั่น


spit

spit/spat

spit

บ้วนน้ำลาย


split

split

split

แยกออกจากกัน


spread

spread

spread

แผ่


spring

sprang/sprung

sprung

กระโดด


stand

stood

stood

ยืน


steal

stole

stolen

ขโมย


stick

stuck

stuck

ติดอยู่กับ


sting

stung

stung

ปล่อยเหล็กไน


stink

stank

stunk

เหม็น


stride

strod

stridden

เดินก้าวยาว

 


strike

struck

struck

ตี


string

strung

strung

ขึ้นสาย

ร้อยลูกปัด


strive

strove

striven

ดิ้นรน

 

ต่อสู้


swear

swore

sworn

สาบาน


sweep

swept

swept

กวาด


swell

swelled

swelled/swollen

บวม


swim

swam

swum

ว่ายน้ำ


swing

swung

swung

แกว่ง


take

took

taken

นำไป


teach

taught

taught

สอน


tear

tore

torn

ฉีก


tell

told

told

บอก


think

thought

thought

คิด


thrive

thrived/throve

thrived

เติบโต


throw

threw

thrown

ขว้าง


thrust

thrust

thrust

เสือกเข้าไป


tread

trod

trodden

เดิน


understand

understood

understood

เข้าใจ


uphold

upheld

upheld

ยกไว้


upset

upset

upset

เสียใจ


wake

woke

woken

ตื่น


wear

wore

worn

สวม


weave

weaved/wove

weaved/woven

ทอ


wed

wed

wed

แต่งงาน


weep

wept

wept

ร้องไห้


wind

wound

wound

ไขลาน


win

won

won

ชนะ


withhold

withheld

withheld

เก็บไว้


withstand

withstood

withstood

ทนฟ้าทนฝน


wring

wrung

wrung

บิด


write

wrote

written

เขียน



กริยา 3 ช่อง V1ปัจจุบัน V2อดีต V3อดีตเพิ่งผ่านไป ฝึกฟังในคลิป15-16 ตามครูมาจะพาพูดได้15ครูโจ


ถ้าต้องการเรียนพื้นฐานเริ่มจาก 0 ให้กดเรียนฟรีได้ ที่ลิ้งก์ หลังประโยคนี้ได้เลยครับhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWcMfV8SWEJAHqPy12ur3bo แต่ถ้าต้องการเห็นวีดีโอเพลย์ลิสทั้งหมด ให้กดไปที่รูปหน้าครูโจ 1 ครั้งแล้วกด เพลย์ลิสต์ 1ครั้ง แล้วเลื่อนลงไปเลือกกดดูคลิปที่เราสนใจฝึกฟรีได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นให้เราเองโดยอัตโนมัติ สามารถเปิดฟังยาวๆแล้วก็ทำงานบ้าน หรือทำงานอื่นๆในกิจวัตรประจำวันของเราได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นยาวๆไปเองครับ ฟังบ่อยๆ แล้วหูของเราก็จะชินกับภาษาอังกฤษไปเอง
……………………………………………………………………
และถ้าผู้เรียนท่านใด ต้องการจะฝึกเฉพาะเรื่องที่เราสนใจ
ก็สามารถ กดเข้าไปที่ลิ้งก์ ที่ครูโจได้จัดทำไว้ให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว
เพื่อฝึกภาษาอังกฤษฟรี ด้านล่างที่ครูได้จัดไว้ให้ตามหัวข้อต่างๆ
ที่ผู้เรียนต้องการได้เลยครับ เรามาดูหัวข้อต่างๆ กันได้เลยครับ
…………………………………………………………………..
ฝึกพูดประโยคบอกเล่า และปฏิเสธ จะมีให้ฝึกในคลิปที่ 17 ถึง 24
ครูได้จัดเรียงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะดีที่สุดและ ง่ายที่สุดเลยครับ ให้กดที่ลิ้งก์นี้ได้เลยครับเพราะวีดีโอที่ 1724 จะเล่นเองโดยอัตโนมัติครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfqwEaDT36Ac29bPqPSl2gZ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 17
ตามครูมาจะพาพูดได้ 18
ตามครูมาจะพาพูดได้ 19
ตามครูมาจะพาพูดได้ 20
คามครูมาจะพาพูดได้ 21
ตามครูมาจะพาพูดได้ 22
ตามครูมาจะพาพูดได้ 23
ตามครูมาจะพาพูดได้ 24
…………………………………………………………………..
การฝึกพูดประโยคคำถามที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตจริงแตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน
เช่น คุณ …………..ไหม?จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป25 ถึง 38 การแต่งประโยคคำถามที่ใช้ถามบ่อยที่สุดในชีวิตจริง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWd8dbI0Z3Py_peBym5U1r2
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคคำถามพิเศษ What Where When Why จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป39 ถึง 48 คำถาพิเศษ 15 คำที่ใช้บ่อย กดที่ลิ้งก์นี้เพื่อเรียนฟรีได้เลยครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfgjRaHU_iHwNyNjcKA57
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคบอกเล่า การเติม s , es , ies , มีให้ฝึกอยู่ในคลิป
คามครูมาจะพาพูดได้ 49 ถึง 62 การเติม s, es ies
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWf2Sm6fbR_n83cqRaZtAX_w
………………………………………………………………..
การใช้ Do และ Does มาขึ้นต้นในการแต่งประโยคคำถาม มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 63 ถึง 74 การใช้ Do และ Does มาแต่งประโยคคำถาม
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWep608Cm4xysOUUV1jQApql
……………………………………………………………….
การใช้ would , would like to อยาก อยากจะ เป็นคำสุภาพกว่า
want และ want to
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 75 ถึง 82 การใช้ Would = อยาก
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWezhQjjHTG9QAKNbpP0r5
……………………………………………………………..
การใช้ สำนวนที่ควรจำ : ฉัน ต้องการให้คุณ…: ฉัน ไม่ต้องการให้คุณ… : คุณ ต้องการให้ฉัน…ไหม?
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้83 ถึง 84 สำนวน ที่ควรจะ ในภาษาอังกฤษ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWeh_Dqx1devHZ14ymPMMVC
…………………………………………………………….
ตามครูมาจะพาพูดได้ 85 การใช้ Should = ควรจะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 86 การใช้ Let’s…= …กันเถอะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 87 การใช้ Don’t…= อย่า …
……………………………………………………………
รวมการใช้ can คลิปที่ 8891
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdM1XYSlqFi_e6FOtO5lMy
ตามครูมาจะพาพูดได้ 88 การใช้ Can= สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 89 การใช้ cannot…= ไม่สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 90 การใช้ Can you ….? คุณ …ได้ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 91 การใช้ คำถามพิเศษ Wh + can +กริยา …?
………………………………………………………
รวมการใช้will
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdCGpFETjnj_cgi_hs_436L
ตามครูมาจะพาพูดได้ 92 การใช้ will = จะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 93 การใช้ will not = จะไม่
ตามครูมาจะพาพูดได้ 94 การใช้ Will you….? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 95 การใช้ Will you…? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 96 การใช้ คำถามพิเศษ + will + you……?
………………………………………………………..
รวมการใช้Am Are Is มีอยู่ในคลิปที่57 , 97, 98
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWek2G6y8t7Kxs1BdOw4DmZM
ตามครูมาจะพาพูดได้ 97 การใช้ Are you…..? ความรู้สึกต่างๆ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 98 การใช้ Are you…? ความรู้สึกต่างๆ , และสถานที่ , วัน เวลาลงท้าย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

กริยา 3 ช่อง  V1ปัจจุบัน    V2อดีต    V3อดีตเพิ่งผ่านไป  ฝึกฟังในคลิป15-16 ตามครูมาจะพาพูดได้15ครูโจ

กริยา 3 ช่อง ประมาณ 200 คำ ที่จำเป็นต้องใช้_ครูบุ๋ม (irregular verbs)


วัดทุ่งธงไชย ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ 67120

กริยา 3 ช่อง ประมาณ 200 คำ ที่จำเป็นต้องใช้_ครูบุ๋ม (irregular verbs)

ติว TOEIC ครูดิว : กริยา 3 ช่อง ท่องตั้งเเต่ประถม ไม่เคยจำได้!!


คะแนน TOEIC สร้างงาน สร้างเงิน ใครยังไม่รู้จะติวที่ไหนมาติวกับครูดิวได้นะคะ
✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 ติว TOEIC กับครูดิวเลย (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

Adverbs of Frequency คือ Adverb กลุ่มที่ใช้บอกความถี่ของการกระทำค่ะ เช่นพวก always, usually, often, sometimes, rarely เป็นต้น จะมีวิธีจำยังไงให้ง่ายๆ นะ? มาครูดิวไปดูกันค่ะ

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ
ติวTOEIC สอบTOEIC

ติว TOEIC ครูดิว :  กริยา 3 ช่อง ท่องตั้งเเต่ประถม ไม่เคยจำได้!!

Verb ช่อง 3 ใช้ยังไง?


Verb ช่อง 3 ใช้ยังไง?
LINE ID: @krubirdhome

Verb ช่อง 3 ใช้ยังไง?

Common Irregular Verbs กริยา 3 ช่อง 60 คำที่ใช้บ่อย


This is a list of 60 most common irregular verbs. I will read the base form, the simple past, the past participle, and the meaning of the verb.
กริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อยจำนวน 60 คำที่ควรรู้ เหมาะสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและบุคคลทั่วไปที่สนใจ มาฝึกท่องกันนะคะ
Thank you for watching our video!
Please share and like if you enjoyed it.

Common Irregular Verbs กริยา 3 ช่อง 60 คำที่ใช้บ่อย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยาช่องที่ 3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *