Skip to content
Home » [NEW] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | ตัวอย่างประโยค คํานามภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | ตัวอย่างประโยค คํานามภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ตัวอย่างประโยค คํานามภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค และชนิตต่างๆ ของ คําสรรพนามถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

Pronoun คืออะไร ??

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

ตัวอย่างประโยคการใช้สรรพนาม
*I: I am a teacher. แปลว่า ฉันเป็นครู
*You: You are the teacher. แปลว่า คุณเป็นครู
*She: She is the teacher. แปลว่า หล่อนเป็นครู ใช้ She ทำหน้าที่เป็นประธาน วางไว้หน้าสุดของประโยค ตามด้วยคำกริยา
*It: It’s your turn แปลว่า มันถึงคราวของคุณแล้ว หรือ ถึงตาคุณแล้ว
*We:   We come from Thailand. แปลว่า พวกเรามาจากประเทศไทย 
*They: They have two kids  แปลว่า พวกเขา มี ลูก สองคน  สรรพนาม They/เดย์ ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยควางไว้หน้าคำกริยา

ตัวอย่างความหมายของคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

Pronoun มีอะไรบ้าง??

คําสรรพนาม หรือ Pronoun มี 7 ชนิด ประกอบด้วย

  1. บุรุษสรรพนาม(Personal pronouns)
  2. สรรพนามแสดงตนเอง (Reflexive pronouns)
  3. สรรพนามบ่งชี้  (Demonstrative pronouns)
  4. สรรพนามเจ้าของ(Possessive pronoun)
  5. สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค (Relative pronouns)
  6. สรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronouns)
  7. และ Intensive pronouns

รายละเอียดวิธีการใช้งานของคําสรรพนาม แต่ละชนิดดังต่อไปนี้

1. Personal Pronouns

หรือบุรุษสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนบุคคล ปกติจะได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือเรียกได้ว่า The first person ที่จะอยู่ในรูปแบบของ I (ฉัน, ข้าพเจ้า), We (พวกเรา→หลายคน) สองคือ สรรพนามบุรุษที่ 2 หรือได้เรียกว่า The second person ที่อยู่ในรูปแบบของ You (คุณ, พวกคุณ→หลายคน) ประเภคที่สามคือ สรรพนามบุรุษที่ 3 หรือได้เรียกว่า The third person ที่อยู่ในรูปแบบของ He (เขา→ผู้ชาย), She (เธอ,หล่อน→ผู้หญิง), It (มัน), They (พวกเขา→หลายคน)

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Personal Pronouns สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Personal
pronoun ที่เป็นประธานPersonal
pronoun ที่เป็นกรรมความหมายรายละเอียดการใช้IMeผม, ฉัน, ดิฉันใช้แทนตัวผู้พูดYouYouคุณ, พวกคุณใช้แทนตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHeHimเขาใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายSheHerเธอใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItItมันใช้แทนสัตว์ สิ่งของ สิ่งที่เป็นนามธรรมWeUsพวกเราใช้แทนกลุ่มของผู้พูดTheyThemพวกเขา, พวกมันใช้แทนกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มสิ่งของ กลุ่มของสิ่งที่เป็นนามธรรม

2. Reflexive pronoun

ได้แก่ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves ที่ใช้เพื่อแทนประธานในประโยคหรือวลีเดียวกัน เข้าใจได้ง่ายคือคำว่า reflexive แปลว่า “สะท้อน” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม”

Reflexive pronoun นี้สามารถใช้ในกรณี
1.ใช้เมื่อประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน
2. ใช้ “by + reflexive pronoun” เพื่อสื่อความหมายว่า “คนเดียว”
ตัวอย่างเช่น I did all the housework by myself  แปลว่า ฉันทำงานบ้านทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
3. ใช้เพื่อเน้น เราสามารถใช้ reflexive pronoun เพื่อเน้นว่าใครบางคนได้ทำสิ่งใดด้วยตัวเขาเอง
4. ใช้เพื่อความสุภาพ บางครั้งเราอาจใช้ reflexive pronoun แทน pronoun ที่เป็นกรรม เพื่อให้สุภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น We are grateful for the support of people like yourself แปลว่า พวกเรารู้สึกยินดีกับการสนับสนุนของผู้คนอย่างคุณ

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Reflexive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Subject pronounความหมายReflexive pronounความหมายIฉันMyselfตนเอง, ฉันเองYou (เอกพจน์)คุณYourself (เอกพจน์)คุณเองHeเขาHimselfเขาเองSheเธอHerselfเธอเองItมันItselfมันเองWeพวกเราOurselvesพวกเราเองTheyพวกเขาThemselvesพวกเขาเอง

3. Demonstrative pronouns

คือ สรรพนามชี้เฉพาะ หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม (Noun) เพื่อแสดงการชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน อันไหน หรือว่าคนไหน โดย Demonstrative Pronoun สามารถเป็นได้ทั้งประธานและกรรมของประโยค โดยคำสรรพนามในกลุ่มนี้ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษมักจะพบเห็นบ่อยๆ มี 4 ตัว ได้แก่ this that these those ซึ่งมีการใช้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

Demonstrative pronounความหมายเอกพจน์/พหูพจน์ระยะห่างจากผู้พูดThisนี่เอกพจน์ใกล้Thatนั่นเอกพจน์ไกลTheseนี่
พวกนี้
เหล่านี้พหูพจน์ใกล้Thoseนั่น
พวกนั้น
เหล่านั้นพหูพจน์ไกล

ยกตัวอย่างเช่น
This is my pen. แปลว่า นี่คือปากกาของฉัน
Those are my pens. แปลว่า พวกนั้นคือปากกาของฉัน

4. Possessive pronoun

คือคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหลักๆได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs  possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม เวลาใช้ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Possessive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Possessive adjectivePossessive pronounความหมายความหมายรายละเอียดการใช้MyMineของฉันใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวผู้พูดYourYourของคุณ, ของพวกคุณใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHisHisของเขาใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายHerHerของเธอ
ใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItsItsของมันใช้กับสิ่งที่เป็นของสัตว์หรือสิ่งของOurOurของพวกเราใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มผู้พูดTheirTheirของพวกเขา, ของพวกมันใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ หรือกลุ่มสิ่งของ

ยกตัวอย่างเช่น
These books are mine. แปลว่า หนังสือพวกนี้เป็นของฉัน
My shoes are more dirty than yours.แปลว่า รองเท้าของฉันสกปรกกว่าของคุณ

เรียนรู้วิธีการใช้ Pronoun หรือคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

5. Relative pronouns

ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
who : ใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย) whom: ใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ) whose: ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ) which: ใช้กับสัตว์และสิ่งของ that:ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ) where: ใช้กับสถานที่ when: ใช้กับเวลา why: ใช้กับเหตุผล Relative pronouns  นี้จะเป็นคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ

ตัวอย่างประโยค:
This is Anne, whom you met at the seminar last week. แปลว่านี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อน
This is the same bag that my mom has. แปลว่า นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลย
Do you recognise the girl who sat next to me in cinema yesterday ? แปลว่า คุณจำผู้หญิงที่นั่งข้างฉันในโรงหนังเมื่อวานนี้ได้ไหม?
Did she take my computer which I put on the table ? แปลว่า เธอเอาคอมพิวเตอร์ของฉันที่วางไว้บนโต๊ะหรือเปล่า
I love the kinds of flower that smell gentle. แปลว่า ฉันชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเบาๆ

6. Indefinite pronouns

Indefinite แปลว่า “ไม่เจาะจง” ส่วน pronoun แปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามนั่นเองคือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน สิ่งไหน หรือสถานที่ไหน อย่างเช่น anybody, anyone, anything, anywhere, everybody, somebody, both, all, none เป็นต้น
วิธีการใช้งานของ Indefinite pronouns Indefinite ขึ้นอยู่กับสภานณการและยกตัวอย่างให้เห็นภำพง่ายๆ คือ ถ้าจะใช้กล่าวรวมทั้งหมด: Everyone/everybody is checking their phones. แปลว่า ทุกคนกำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเอง
– ใช้กล่าวถึงแค่บางสิ่ง: Someone/somebody is waiting for you. แปลว่า มีใครบางคนรอคุณอยู่
– ใช้สื่อว่าสิ่งใดก็ได้: Anyone/anybody is welcome.แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยินดีต้อนรับ
– ใช้บอกว่าไม่มี: Nobody want to be lonely.แปลว่า ไม่มีใครอยากโดดเดี่ยว

7.Intensive pronouns

คำสรรพนามที่ใช้เมื่อประธานและกรรม เป็นคนเดียวกัน หรือสิ่งเดียวกัน ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves ( รูป –self /-selves ของคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคล)

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม, คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ, คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

–  Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
–  Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
–  Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

ในข้อสอบต่างๆ คุณอาจจะเจอคำถามเกี่ยวกับวิธีการใช้ Pronoun แล้ววิธีที่ช่วยคุณได้คะแนนเต็มสำหรับหัวข้อนั้นก็คือต้องใช้เวลาทำแบบฝึกหัดให้เยอะขึ้น ทำข้อไหนต้องสามารถอธิบายทำไมคุณถึงจะเลือกคำตอบนั้น มันจะช่วยคุณเข้าใจลึกๆ เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและมีความรู้ได้แนน

ว่าอย่างไรคะกับบทความรวบรวม A-Z ความรู้เกี่ยวกับ Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยคและวิธีการใช้งานของ Pronoun นี่เป็นส่วนเนื้อหาที่สำคัญเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้เรียนอย่ามองข้ามส่วนเนื้อหานี้นะคะ เรียนไปแล้วต้องเอามาใช้งานจริงด้วยการทำแบบฝึกหัดหรือตั้งประโยคด้วย จะช่วยให้คุณจำได้นานขึ้นและมีความรู้แน่นขึ้นนะคะ

[NEW] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | ตัวอย่างประโยค คํานามภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค และชนิตต่างๆ ของ คําสรรพนามถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Pronoun คืออะไร ??

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

ตัวอย่างประโยคการใช้สรรพนาม
*I: I am a teacher. แปลว่า ฉันเป็นครู
*You: You are the teacher. แปลว่า คุณเป็นครู
*She: She is the teacher. แปลว่า หล่อนเป็นครู ใช้ She ทำหน้าที่เป็นประธาน วางไว้หน้าสุดของประโยค ตามด้วยคำกริยา
*It: It’s your turn แปลว่า มันถึงคราวของคุณแล้ว หรือ ถึงตาคุณแล้ว
*We:   We come from Thailand. แปลว่า พวกเรามาจากประเทศไทย 
*They: They have two kids  แปลว่า พวกเขา มี ลูก สองคน  สรรพนาม They/เดย์ ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยควางไว้หน้าคำกริยา

ตัวอย่างความหมายของคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

Pronoun มีอะไรบ้าง??

คําสรรพนาม หรือ Pronoun มี 7 ชนิด ประกอบด้วย

  1. บุรุษสรรพนาม(Personal pronouns)
  2. สรรพนามแสดงตนเอง (Reflexive pronouns)
  3. สรรพนามบ่งชี้  (Demonstrative pronouns)
  4. สรรพนามเจ้าของ(Possessive pronoun)
  5. สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค (Relative pronouns)
  6. สรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronouns)
  7. และ Intensive pronouns

รายละเอียดวิธีการใช้งานของคําสรรพนาม แต่ละชนิดดังต่อไปนี้

1. Personal Pronouns

หรือบุรุษสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนบุคคล ปกติจะได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือเรียกได้ว่า The first person ที่จะอยู่ในรูปแบบของ I (ฉัน, ข้าพเจ้า), We (พวกเรา→หลายคน) สองคือ สรรพนามบุรุษที่ 2 หรือได้เรียกว่า The second person ที่อยู่ในรูปแบบของ You (คุณ, พวกคุณ→หลายคน) ประเภคที่สามคือ สรรพนามบุรุษที่ 3 หรือได้เรียกว่า The third person ที่อยู่ในรูปแบบของ He (เขา→ผู้ชาย), She (เธอ,หล่อน→ผู้หญิง), It (มัน), They (พวกเขา→หลายคน)

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Personal Pronouns สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Personal
pronoun ที่เป็นประธานPersonal
pronoun ที่เป็นกรรมความหมายรายละเอียดการใช้IMeผม, ฉัน, ดิฉันใช้แทนตัวผู้พูดYouYouคุณ, พวกคุณใช้แทนตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHeHimเขาใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายSheHerเธอใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItItมันใช้แทนสัตว์ สิ่งของ สิ่งที่เป็นนามธรรมWeUsพวกเราใช้แทนกลุ่มของผู้พูดTheyThemพวกเขา, พวกมันใช้แทนกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มสิ่งของ กลุ่มของสิ่งที่เป็นนามธรรม

2. Reflexive pronoun

ได้แก่ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves ที่ใช้เพื่อแทนประธานในประโยคหรือวลีเดียวกัน เข้าใจได้ง่ายคือคำว่า reflexive แปลว่า “สะท้อน” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม”

Reflexive pronoun นี้สามารถใช้ในกรณี
1.ใช้เมื่อประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน
2. ใช้ “by + reflexive pronoun” เพื่อสื่อความหมายว่า “คนเดียว”
ตัวอย่างเช่น I did all the housework by myself  แปลว่า ฉันทำงานบ้านทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
3. ใช้เพื่อเน้น เราสามารถใช้ reflexive pronoun เพื่อเน้นว่าใครบางคนได้ทำสิ่งใดด้วยตัวเขาเอง
4. ใช้เพื่อความสุภาพ บางครั้งเราอาจใช้ reflexive pronoun แทน pronoun ที่เป็นกรรม เพื่อให้สุภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น We are grateful for the support of people like yourself แปลว่า พวกเรารู้สึกยินดีกับการสนับสนุนของผู้คนอย่างคุณ

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Reflexive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Subject pronounความหมายReflexive pronounความหมายIฉันMyselfตนเอง, ฉันเองYou (เอกพจน์)คุณYourself (เอกพจน์)คุณเองHeเขาHimselfเขาเองSheเธอHerselfเธอเองItมันItselfมันเองWeพวกเราOurselvesพวกเราเองTheyพวกเขาThemselvesพวกเขาเอง

3. Demonstrative pronouns

คือ สรรพนามชี้เฉพาะ หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม (Noun) เพื่อแสดงการชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน อันไหน หรือว่าคนไหน โดย Demonstrative Pronoun สามารถเป็นได้ทั้งประธานและกรรมของประโยค โดยคำสรรพนามในกลุ่มนี้ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษมักจะพบเห็นบ่อยๆ มี 4 ตัว ได้แก่ this that these those ซึ่งมีการใช้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

Demonstrative pronounความหมายเอกพจน์/พหูพจน์ระยะห่างจากผู้พูดThisนี่เอกพจน์ใกล้Thatนั่นเอกพจน์ไกลTheseนี่
พวกนี้
เหล่านี้พหูพจน์ใกล้Thoseนั่น
พวกนั้น
เหล่านั้นพหูพจน์ไกล

ยกตัวอย่างเช่น
This is my pen. แปลว่า นี่คือปากกาของฉัน
Those are my pens. แปลว่า พวกนั้นคือปากกาของฉัน

4. Possessive pronoun

คือคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหลักๆได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs  possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม เวลาใช้ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Possessive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Possessive adjectivePossessive pronounความหมายความหมายรายละเอียดการใช้MyMineของฉันใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวผู้พูดYourYourของคุณ, ของพวกคุณใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHisHisของเขาใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายHerHerของเธอ
ใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItsItsของมันใช้กับสิ่งที่เป็นของสัตว์หรือสิ่งของOurOurของพวกเราใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มผู้พูดTheirTheirของพวกเขา, ของพวกมันใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ หรือกลุ่มสิ่งของ

ยกตัวอย่างเช่น
These books are mine. แปลว่า หนังสือพวกนี้เป็นของฉัน
My shoes are more dirty than yours.แปลว่า รองเท้าของฉันสกปรกกว่าของคุณ

เรียนรู้วิธีการใช้ Pronoun หรือคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

5. Relative pronouns

ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
who : ใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย) whom: ใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ) whose: ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ) which: ใช้กับสัตว์และสิ่งของ that:ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ) where: ใช้กับสถานที่ when: ใช้กับเวลา why: ใช้กับเหตุผล Relative pronouns  นี้จะเป็นคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ

ตัวอย่างประโยค:
This is Anne, whom you met at the seminar last week. แปลว่านี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อน
This is the same bag that my mom has. แปลว่า นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลย
Do you recognise the girl who sat next to me in cinema yesterday ? แปลว่า คุณจำผู้หญิงที่นั่งข้างฉันในโรงหนังเมื่อวานนี้ได้ไหม?
Did she take my computer which I put on the table ? แปลว่า เธอเอาคอมพิวเตอร์ของฉันที่วางไว้บนโต๊ะหรือเปล่า
I love the kinds of flower that smell gentle. แปลว่า ฉันชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเบาๆ

6. Indefinite pronouns

Indefinite แปลว่า “ไม่เจาะจง” ส่วน pronoun แปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามนั่นเองคือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน สิ่งไหน หรือสถานที่ไหน อย่างเช่น anybody, anyone, anything, anywhere, everybody, somebody, both, all, none เป็นต้น
วิธีการใช้งานของ Indefinite pronouns Indefinite ขึ้นอยู่กับสภานณการและยกตัวอย่างให้เห็นภำพง่ายๆ คือ ถ้าจะใช้กล่าวรวมทั้งหมด: Everyone/everybody is checking their phones. แปลว่า ทุกคนกำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเอง
– ใช้กล่าวถึงแค่บางสิ่ง: Someone/somebody is waiting for you. แปลว่า มีใครบางคนรอคุณอยู่
– ใช้สื่อว่าสิ่งใดก็ได้: Anyone/anybody is welcome.แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยินดีต้อนรับ
– ใช้บอกว่าไม่มี: Nobody want to be lonely.แปลว่า ไม่มีใครอยากโดดเดี่ยว

7.Intensive pronouns

คำสรรพนามที่ใช้เมื่อประธานและกรรม เป็นคนเดียวกัน หรือสิ่งเดียวกัน ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves ( รูป –self /-selves ของคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคล)

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม, คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ, คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

–  Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
–  Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
–  Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

ในข้อสอบต่างๆ คุณอาจจะเจอคำถามเกี่ยวกับวิธีการใช้ Pronoun แล้ววิธีที่ช่วยคุณได้คะแนนเต็มสำหรับหัวข้อนั้นก็คือต้องใช้เวลาทำแบบฝึกหัดให้เยอะขึ้น ทำข้อไหนต้องสามารถอธิบายทำไมคุณถึงจะเลือกคำตอบนั้น มันจะช่วยคุณเข้าใจลึกๆ เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและมีความรู้ได้แนน

ว่าอย่างไรคะกับบทความรวบรวม A-Z ความรู้เกี่ยวกับ Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยคและวิธีการใช้งานของ Pronoun นี่เป็นส่วนเนื้อหาที่สำคัญเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้เรียนอย่ามองข้ามส่วนเนื้อหานี้นะคะ เรียนไปแล้วต้องเอามาใช้งานจริงด้วยการทำแบบฝึกหัดหรือตั้งประโยคด้วย จะช่วยให้คุณจำได้นานขึ้นและมีความรู้แน่นขึ้นนะคะ


เรียนภาษาอังกฤษ parts of speech คำนาม Noun คืออะไร ใช้อย่างไร


PartofSpeech​ คืออะไร ?
วันนี้ขอเสนอหัวข้อที่ถือว่าเป็นหัวใจของภาษาอังกฤษเลยก็ว่าได้ คือ Part of Speech
1. ทำไมเราต้องทำความรู้จัก Part of Speech
2. Part of Speech คืออะไร ?
3. Part of Speech มีกี่ชนิด
4. แต่ละชนิดคืออะไร พร้อมตัวอย่าง
CR.Ajarn Suparada
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuKZYgki4\u0026t=5s
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv47gnc8
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r51ZLFA\u0026t=10s
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1QS7O6s
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5sPRefdA\u0026t=82s
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot65xu6k
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK2AAi9Q\u0026t=3s
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKYd2YFzg\u0026t=2s

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เรียนภาษาอังกฤษ parts of speech คำนาม Noun คืออะไร ใช้อย่างไร

การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE


การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
ในวีดีโอนี้เราจะมาดูการผันคำนามจากรูปเอกพจน์เป็นพหูพจน์กัน ไม่ว่าจะเป็น การ เติม s หรือ es รวมไปถึงคำนามที่คงรูป และ เปลี่ยนรูป แบบในคลิปเดียวรู้ละเอียดเลย
คำนามคืออะไร กดลิงก์นี้ได้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=exx4VjSn6W0
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์  เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE

คำสรรพนาม Pronoun | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร


Pronoun ( คำสรรพนาม ) คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง
CR.Ajarn Suparada
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
📌 เรียนภาษาอังกฤษ parts of speech คำนาม Noun คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=ViNTwawK5Bc\u0026t=512s
📌 คำคุณศัพท์ Adjective | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=C2k11x38yQc\u0026t=1s
📌 คำกริยา Verb | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=rAV5k89HOtM
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…​
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…​
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…​
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…​
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…​
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…​
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…​
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…​

คำสรรพนาม Pronoun  | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย


100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย
กริยาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ verb
ภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
กริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
คำกริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษ,
กริยาอังกฤษใช้บ่อย,

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย

การใช้คำสรรพนามภาษาอังกฤษ I They He She


การใช้ คำสรรพนามและการใช้ แบบกระชับ จำง่าย

การใช้คำสรรพนามภาษาอังกฤษ I  They  He She

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่างประโยค คํานามภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *