Skip to content
Home » [NEW] Pronoun (คำสรรพนาม) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | กล่าวถึง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] Pronoun (คำสรรพนาม) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | กล่าวถึง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

กล่าวถึง ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

Pronoun (คำสรรพนาม)

Pronoun อ่านว่า โพร’เนานฺ หมายถึง คำสรรพนาม ก็คือคำที่ใช้แทนคำนาม (Noun) และทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนามในภาษาอังกฤษ

คำสรรพนามในภาษาอังกฤษประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง, ตัวอย่างประโยค

Pronoun  (คำสรรพนาม) แบ่งออกเป็น 5 ประเภท

ก่อนอื่น เรามาดูตารางสรุปรูปแบบของ Pronoun หรือคำสรรพนามในภาษาอังกฤษกันก่อนครับ

รูปประธาน
รูปกรรม
รูปแสดงความเป็นเจ้าของ
รูปความเป็นเจ้าของ
รูป self-form

I
me
my
mine
myself

You
you
your
yours
yourself

We
us
our
ours
ourselves

They
them
their
theirs
themselves

He
him
his
his
himself

She
her
her
hers
herself

It
it
its
(its)
itself

ข้อควรรู้
การใช้ Pronoun คำว่า you เป็นได้ทั้ง pronoun (คำสรรพนาม) เอกพจน์และ pronoun พหูพจน์ (คุณ 1 คน หรือ พวกคุณหลายคน)

1. Personal Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Personal Pronouns หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้แทนนามบุรุษที่ 1 (ผู้พูด)  นามบุรุษที่ 2 (ผู้ฟัง)  นามบุรุษที่ 3 (ผู้ที่ถูกกล่าวถึง อาจเป็นคน สัตว์ และสิ่งของ)

Personal Pronouns  แบ่งได้ 2 รูป  คือ
1. Personal Pronouns  รูปประธาน หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นประธาน ได้แก่  I, You, We, They, He, She, It  เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
We are students.
= พวกเราเป็นนักเรียน
He is a teacher.
= เขา (ผู้ชาย) เป็นครู

2. Personal Pronouns รูปกรรม  หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นกรรมของประโยค

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
She asks me to teach her homework.
= หล่อนขอให้ฉันสอนการบ้านให้
She asks him to teach her homework.
= หล่อนขอให้เขาสอนการบ้านให้

หลักการใช้ Personal Pronouns

1. หลัง than , as….as  จะใช้รูปประธานหรือรูปกรรม  ต้องดูความหมายของประโยค  ถ้ามี verb ตามมาใช้รูปประธาน  ถ้าเป็นกรรมของ verb ที่อยู่ข้างหน้าใช้รูปกรรม เช่น

รูปประธาน (ไม่นิยมใช้)
He is smarter than she is.
He is as smart as she is.

รูปกรรม
He likes you more than me.
He likes you as much as me.

2. หลังกิริยาที่บอกสภาพ ได้แก่ be , seem , look , like , appear มักจะใช้รูปกรรม เช่น
His father looks like him.

3. หลัง between …and …., let, except ใช้ในรูปกรรม เช่น
Let us go out.
There are some problems between you and me.

การใช้  He , She , It
1. เพศชายและไม่บ่งเพศ ใช้ He
2. He, She นอกจากใช้แทนคนแล้วยังใช้แทนสัตว์เลี้ยงได้
3. She อาจใช้แทนสิ่งไม่มีชีวิตได้เมื่อกล่าวถึงคุณสมบัติหรือความรู้สึก เช่น เรือ, รถไฟ, เครื่องบิน
4. She ใช้แทนประเทศในแง่ของหน่วยหนึ่งทางการเมืองและวัฒนธรรม
5. It ใช้กับสัตว์และเด็กเล็กที่ไม่ทราบเพศหรือไม่คำนึงถึงเพศ

2. Possessive Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Possessive Pronouns  หมายถึง คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ  เช่น his , hers , theirs , mine , ours , yours

หลักการใช้ Possessive Pronouns

1. ใช้เป็นประธานของกิริยาหรือเป็นกรรมของกิริยา หรือของบุพบท
Her car is red, but yours is blue.  (yours แทน your car)

ย้อนดูที่ตารางด้านบน สำหรับรูปแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องตามด้วยคำนาม แต่รูปความเป็นเจ้าของ ไม่ต้องมีคำนามตามมา (เนื่องจากรู้กันอยู่แล้ว) ลองดูตัวอย่าง 2 ประโยคนี้

He is my boyfriend.
= เขาเป็นแฟน(ชาย)ของฉัน
He is mine.
= เขาเป็นของฉัน

2. ใช้หลัง of  หมายถึง หนึ่งในบรรดา (คน , ตัว , สิ่ง , อัน) ทั้งหลายเหล่านี้
John is a teacher of  mine.  (mine แทน my teacher)

3. Reflexive and Emphasizing Pronouns
Reflexive and Emphasizing Pronouns หมายถึง Pronouns ที่ลงท้ายด้วย self  และ selves   โดยทำหน้าที่แตกต่างกัน

เอกพจน์                  พหูพจน์
himself                        themselves
herself                         themselves
itself                            themselves
myself                         ourselves
yourself                       yourselves
oneself                              –

หลักการใช้ Reflexive Pronouns และ Emphasizing Pronouns

1. Reflexive Pronouns ใช้เป็นกรรมของประโยค เมื่อการกระทำนั้นสะท้อนถึงประธานหรือผู้พูดเป็นผู้รับการกระทำนั้นเอง  ประธานและกรรมจะเป็นคน หรือสิ่งเดียวกัน
I saw myself in the mirror.

2. ใช้เน้นประธาน  ซึ่งจะอยู่หลังประธานหรือท้ายประโยค
I go to school by myself.

อ่านต่อแบบละเอียด คลิก >> Reflexive Pronoun

4. Indefinite Pronouns
Indefinite Pronouns  คือ คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร สิ่งใดหรืออันใด  จะมีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์

1. Indefinite Pronouns แบบเอกพจน์  ได้แก่
a person    anybody    one              someone       anyone
each          either         neither        everybody     everyone
another      anything    something   the other       nothing
much         everything   nobody      no one          somebody

หมายเหตุ – การใช้ one….another , one… the other

1.1. ถ้าหมายความว่า “ไม่…ใดก็…หนึ่ง” หรือ “อีกหนึ่ง” ใช้ one คู่กับ another  ได้
1.2. ถ้ามีเพียงสองจำนวน หรือ สองส่วนเท่านั้น   ใช้ one คู่กับ the other ได้
เช่น Mary buys two bicycles, one for her daughter , and the other for her son.

2. Indefinite Pronouns  แบบพหูพจน์  ใช้คำสรรพนามรูปพหูพจน์  กิริยาจะเป็นพหูพจน์ด้วย
เช่น  both , few, many several.

5. Relative Pronouns
Relative Pronouns  คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า  โดยทำหน้าที่เชื่อม clauses เข้าด้วยกัน
เช่น who , whom , whose , which , that , as

Relative Pronouns  แบ่งตามหน้าที่ได้ดังนี้

1. Personal  (คน) ได้แก่

–  who  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
A student who pays attention in the class gets a good grade.
People who live in Bangkok cope with the traffic problem.

– whom ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
The teacher whom I met yesterday is your uncle.

–  whose  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ
This woman whose purse was lost  is going to  see the police.

2. Non-Personal (สัตว์, สิ่งของ) ได้แก่

– which  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรม
The gift which I bought yesterday is so expensive.

ในกรณีที่ which เป็น กรรมของ preposition จะต้องเอาpreposition มาไว้ข้างหน้า which ด้วย
This is the house in which Mary lives.
This is the thesis to which John refer.

หากเป็นการใช้ เกี่ยวกับสถานที่ in which , to which เช่น
This is the house in which Mary lives. เป็น
This is the house where Mary lives.

[NEW] 12 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่คุณอาจใช้ผิดไม่รู้ตัว | กล่าวถึง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

แชร์บทความนี้

Where you go, madam? เป็นประโยคเบสิกที่ได้ยินบ่อยๆจากคนขับรถตุ๊กๆหรือรถแท็กซี่ เวลาถามจุดหมายปลายทางของผู้โดยสารชาวต่างชาติ ทำให้รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้จะมองไปทางไหนใครๆก็พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ก็มีอยู่หลายคำหลายประโยคที่คนไทยเราใช้กันอย่างผิดๆแบบไม่แคร์สื่อ เพราะถือว่ายังไงฝรั่งก็เข้าใจ จริงๆแล้วชาวต่างชาติเค้าก็รู้สึกตลกกับการใช้ภาษาอังกฤษผิดๆนี้ของคนไทย แต่เขาไม่รู้จะอธิบายให้ฟังได้อย่างไรต่างหากค่ะ เรามาดูกันดีกว่ามีคำไหนที่ควรเลิกใช้บ้าง

Same same

“เหมือนๆกันแหละ”

เป็นคำที่คนไทยคุ้นเคยกันดี คนไทยเราจึงนำคำนี้มาแปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงตัวกันไปเลย ทำให้คำนี้ผิดแกรมม่าอย่างรุนแรง เพราะคำว่า same (เหมือนกัน, อย่างเดียวกัน, คล้ายกัน) เป็น คำคุณศัพท์ (adj.) ที่ใช้เป็นคำขยายคำนาม

คำที่ควรใช้

ถ้าจะเปรียบเทียบว่าอะไรเหมือนหรือคล้ายกับอะไร ให้ใช้ Similar to เช่น

My phone is similar to your phone.

โทรศัพท์ของฉันคล้ายกับของเธอเลยอะ

แต่หากต้องการสื่อว่า ที่เดิม เวลาเดิม อันเดิม สามารถใช้ same ได้ แต่ใช้แค่ same เท่านั้นนะคะ ไม่ต้อง same same เช่น

I will see you here at the same time tomorrow.

พรุ่งนี้ฉันจะมาเจอเธอที่นี่เวลาเดิม

หรือถ้าจะบอกว่า ทำอะไรเหมือนๆเดิมที่เคยทำอยู่เป็นประจำ ให้ใช้ as usual เช่น

Yesterday, Pam went to the park as usual.

เมื่อวานนี้แพมก็ไปที่สวนสาธารณะเหมือนเดิมน่ะแหละ

Same same but different

“เหมือนๆกันแหละ แต่ก็ไม่เหมือนกันนะ”

แน่นอนว่าคำนี้ต้องมา คือตกลงเหมือนหรือไม่เหมือนยังไงกันแน่ ความหมายที่ต้องการจะสื่อในที่นี้คือ มันดูเหมือนกัน แต่ก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันนั่นเอง

คำที่ควรใช้

คำนี้ต้องยกทั้งวลีไปเลยค่ะ similar but different in some ways นั่นคือ เหมือน/คล้ายกันนะ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เหมือน/ไม่คล้ายกันอยู่ เวลาใช้ อย่าลืมใส่ v. to be หรือ seem/look ก่อนวลีนี้นะคะ เช่น

Jane and her sister look similar but different in some ways.

แจนกับน้องสาวของเธอรูปร่างหน้าตาคล้ายกันแต่ก็มีบางส่วนที่ไม่คล้าย

Open/close the light

“เปิด/ปิดไฟให้หน่อยสิ”

เปิด/ปิดไฟของคนไทยเราคือการเดินไปกดสวิซไฟให้หลอดไฟมันทำงานส่องแสงสว่างออกมา แต่การเปิดในภาษาอังกฤษมันหมายถึงการเปิดจริงๆค่ะ เช่น เปิดประตู เปิดกล่อง ส่วนการทำให้หลอดไฟสว่างขึ้นมา ในภาษาอังกฤษจะไม่ใช้ “เปิด/ปิด” เหมือนในภาษาไทย

คำที่ควรใช้

การทำให้อะไรสักอย่างทำงานขึ้นมา ไม่ว่าการทำให้ไฟสว่าง หรือการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์(ให้คอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน) เราจะใช้ turn on/turn off ค่ะ เช่น

Can you turn on the light, please?

คุณคะ เปิดไฟให้หน่อยได้ไหมคะ

No have …

“ไม่มีหรอก”

ประโยคนี้เหมือนเป็นประโยคอำมตะหรือเปล่า เป็นประโยคตลอดกาลที่ไม่ว่านานแค่ไหนแล้วก็ยังได้ยินคนไทยใช้กันอยู่ คือเล่นแปลกันตรงตัวเลยนะ no-ไม่/have-มี รวมกันก็ “ไม่มี” ไง เป็นงั้นไป…

คำที่ควรใช้

ถ้าจะแค่บอกว่า ไม่มี(สิ่งของ/สิ่งที่ไม่มี) ให้ใช้ There is no + สิ่งที่ไม่มี เช่น

There is no money in the wallet.

ไม่มีเงินอยู่ในกระป๋าตังค์สักบาท

หรือถ้าต้องการสื่อว่า ฉันน่ะ ไม่มีไอนั่นไอนี่นะ ให้ใช้ I do not have + สิ่งที่ไม่มี เช่น

I don’t have money.

ฉันไม่มีเงินเลย

I very like it.

“ฉันชอบมากเลย”

คือเข้าใจว่าอยากจะเน้นว่าชอบมาก ชอบจริงๆ แต่การจะเน้นว่าชอบมากในภาษาอังกฤษเค้าไม่ได้เอา very วางหน้า like กันหรอกนะคะ

คำที่ควรใช้

ถ้าจะบอกว่า ชอบมาก ก็ให้นำ very much วางหลังประโยคเลยค่ะ เช่น

I like it very much.

ฉันชอบมันมากเลย

ถ้าอยากเปลี่ยนเป็น ชอบจริงๆนะ ชอบจริงๆไม่ได้โกหกไรงี้ ก็ใช้ really วางหน้า like เลย เช่น

I really like you.

ฉันชอบเธอจริงๆนะ

Take a bath.

“อาบน้ำ”

จะว่าอาบน้ำไหมก็ใช่ค่ะ แต่อาบน้ำคำนี้ฝรั่งเค้าหมายถึง อาบน้ำในอ่าง หรือการนอนแช่น้ำในอ่าง ซึ่งคนไทยเราไม่ค่อยมีบ้านไหนที่มีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำไว้นอนแช่เลย เราจะนิยมใช้ฝักบัวอาบน้ำมากกว่า ดังนั้นคำนี้จึงไม่ถูกต้องนักค่ะ เพราะเวลาสื่อสารไปแล้ว ฝรั่งเค้าจะเข้าใจว่าเรากำลังจะไปนอนแช่น้ำ เป็นงั้นไป

คำที่ควรใช้

อาบน้ำโดยใช้ฝักบัวอาบน้ำ ภาษาอังกฤษเรียกว่าtake a shower ค่ะ เช่น

I will go to take a shower.

ฉันจะไปอาบน้ำละนะ

Are you spicy?

“คุณเผ็ดไหม?”

การใช้ Are you spicy? เพื่อถามว่า อาหารของคุณน่ะเผ็ดไหม? เห็นจะไม่ถูกต้อง เพราะการใช้ are ถามถึง you มันเป็นการถามถึงตัวบุคคลผู้นั้น แทนที่น่าจะเป็นการถามว่าอาหารเผ็ดรึเปล่า กลายเป็นถามว่าตัวของคุณน่ะเผ็ดหรือเปล่าไปซะงั้น

คำที่ควรใช้

เพราะเราจะถามถึงอาหาร เพราะงั้นเราจึงต้องกล่าวถึงอาหารค่ะ ไม่ใช่ตัวของคนๆนั้น เช่น

Is your food spicy?

อาหารของเธอเผ็ดไหมอะ?

Are you boring?

“คุณเบื่อไหม?”

เวลาเราไปเที่ยวหรือทำอะไรด้วยกันกับเพื่อนชาวต่างชาติ เราก็อยากรู้ว่า เขาเบื่อหรือเปล่า? ที่มาเที่ยวนี่สนุกไหมอะไรอย่างนี้ แต่มันมีความแตกต่างอยู่ระหว่าง boring กับ bored ค่ะ ถ้าใช้ boring หมายความว่าสิ่งนั้นหรือคนๆนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ หรือเป็นคนน่าเบื่อนั่นเอง ส่วนถ้าใช้ bored จะเป็นการถามถึงอารมณ์/ความรู้สึกของคนๆนั้นว่ารู้สึกเบื่อไหม

คำที่ควรใช้

ต้องใช้คำว่า bored ค่ะ เช่น

Are you bored?

คุณเบื่อไหมคะ?

I like to play Internet.

“หนูชอบเล่นเน็ตค่ะ”

นี่เป็นอีกหนึ่งคำตอบยอดฮิต เวลาอาจารย์ฝรั่งถามว่า เวลาว่างชอบทำอะไร? นักเรียนยุคไอทีอย่างเราๆก็มักจะตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า อ๋อ หนูชอบเล่นเน็ตค่ะจารย์ ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดค่ะ ในภาษาอังกฤษ เค้าไม่มีการเล่นอินเตอร์เน็ตนะคะ มีแต่การใช้อินเตอร์เน็ต

คำที่ควรใช้

use Internet ก็จะหมายถึงการที่เราใช้อินเตอร์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เล่นเน็ต” ทุกวันนี้นั่นเอง เช่น

I like to use Internet on my free time.

เวลาว่างหนูชอบใช้อินเตอร์เน็ตค่ะ

I want to play yoga.

“อยากไปเล่นโยคะจัง”

ในภาษาไทยเราการไปออกกำลังกายด้วยโยคะ เราเรียกว่าการไปเล่นโยคะ แต่ในภาษาอังกฤษนั้น เราใช้ play กับ เกมส์กีฬา(เช่น ฟุตบอล วอลเลบอล เทนนิส เป็นต้น) เกมส์ต่างๆ และเครื่องดนตรีเท่านั้น

คำที่ควรใช้

ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า do yoga ค่ะ เช่น

I want to do yoga this Friday.

วันศุกร์นี้อยากไปเล่นโยคะจัง

Check bill

“เก็บเงินด้วยค่ะ”

เราคงจะคุ้นเคยกับการบอกพนักงานร้านอาหารว่า “น้องคะ เช็คบิลด้วยค่ะ” ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าเราต้องการจ่ายค่าอาหารแล้ว แต่ในภาษาอังกฤษมันจะฟังดูไม่เข้าท่านัก เมื่อ check = การตรวจสอบ ชาวต่างชาติอาจจะงงได้ว่าเราจะให้เขาตรวจสอบบิลไปทำไมกัน

คำที่ควรใช้

ใช้แค่คำว่า the bill ก็พอแล้วค่ะ เช่น

The bill, please.

คิดเงินด้วยค่ะ

หรือถ้าอยากพูดให้สุภาพมากขึ้นอีกหน่อย โดยมีความหมายเดียวกัน ก็ใช้ Could I have the bill please?

Where you go?

“เธอจะไปไหนอะ?”

ในเมืองท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ เราอาจจะได้ยินประโยคนี้กันบ่อยๆ เพราะเป็นประโยคที่รถตุ๊กๆที่วิ่งในตัวเมืองถามหาผู้โดยสารชาวต่างชาตินั่นเอง

คำที่ควรใช้

การถามคำถามที่ขึ้นต้นด้วย where จะต้องตามด้วย คำกริยาค่ะ อาจจะเป็น v. to be หรือ modal verb (เช่น can could may might will เป็นต้น) ก็ได้ เช่น

Where are you going?

คุณกำลังจะไปไหนเหรอ?

Where will you go?

เธอจะไปไหนล่ะ?

การใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นของแต่ละคนที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตนเองให้ดีขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงแค่เห็นว่ายังไงชาวต่างชาติก็เข้าใจจนเลือกที่จะใช้คำผิดๆไปเพราะมันง่าย หลายคนต้องการที่จะนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยการนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้อย่างถูกต้องนั้น ผู้ใช้ต้องมีความตั้งใจในการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ย่อท้อ และต้องฝึกฝนอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและน่าชื่นชมมากค่ะ

ติดตามเราเพื่อได้รับความรู้มากขึ้น

แชร์บทความนี้


การแข่งขัน กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม. 4-6


การแข่งขัน กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม. 4 6 ในวันที่ 9 ส.ค. 62 ณ ห้อง ประดับเดือน อาคารศูยน์ประชุม โรงแรมเพชรัชต์การ์เด้น จ.ร้อยเอ็ด

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

การแข่งขัน กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม. 4-6

กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม 1 3


การแข่งขัน กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม. 13 ในวันที่ 8 ส.ค. 62 ณ ห้องประดับเดือน อาคารศูนย์ประชุม โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น จ.ร้อยเอ็ด

กล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ระดับ ม 1 3

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล


ฝึกพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคพื้นฐาน | สำหรับผู้เริ่มเรียน | สามารถจำนำไปใช้ได้เลย
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน ฝึกแบบนี้ได้แน่นอน
👉https://www.youtube.com/watch?v=kxZAU…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน วลีต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ
👉https://www.youtube.com/watch?v=AT2p…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.2
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cZqpc…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.3
👉 https://www.youtube.com/watch?v=uQ3k…
📌 เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ การใช้ This, That, These, Those พร้อมประโยคตัวอย่าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=qS1MH…
📌 คำศัพท์ ที่เราคิดว่าเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียกว่าแบบนี้หรอ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cAa9v…
📌สรุปการใช้ Verb to be ( is , am , are, was ,were) เข้าใจง่าย | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉https://www.youtube.com/watch?v=b9M76…
📌 50 คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=19Two…

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล

คุณเดึยร์กล่าวถึง ร.9 ภาคภาษาอังกฤษ


คุณเดึยร์กล่าวถึง  ร.9 ภาคภาษาอังกฤษ

คำศัพท์อังกฤษ อารมณ์ความรู้สึก Emotion and Feeling


คำศัพท์อังกฤษ อารมณ์ความรู้สึก Emotion and Feeling
ภาษาอังกฤษ คำศัพท์ อารมณ์

คำศัพท์อังกฤษ อารมณ์ความรู้สึก Emotion and Feeling

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กล่าวถึง ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *