[NEW] PANTIP.COM : H3246516 ขอเล่าประสบการณ์สอบสัมภาษณ์อเมริกันซิติเซ่นของดิฉันวันนี้(ยาว) [แม่บ้านต่างแดน] | vg,ibdk – NATAVIGUIDES

เล่าให้ฟัง เผื่อใครไปสัมภาษณ์จะได้เตรียมรับสถานการณ์ถูก

ยื่นจดหมายนัด นั่งรอเรียกชื่อไปสัมภาษณ์ (นานเป็นชั่วโมงๆ)
พอเจ้าหน้าที่เรียกไปในห้อง เห็นเก้าอี้แล้วอย่าเพิ่งถลาเข้าไปนั่งนะคะ ตะแคง
หูฟังให้ดีๆว่าเขาพูดหรือให้ทำอะไร –เขาให้ยืน ชูมือขวาสาบานตนว่าจะไม่โกหกค่ะ
ที่เตือนเพราะว่า มีคนโดนไล่กลับบ้านเพราะฟังไม่ถนัดมาแล้ว
เธอเล่าให้ดิฉันฟังประมาณนี้
เจ้าหน้าที่  “อ้อ คุณเป็นมุสลิมหรือครับ…”
              “โปรถยืนยกมือขวาสาบานตน…”

สาวโชคร้ายฟังไม่ถนัด “ขอโทษเถอะค่ะ  พูดใหม่ได้ไหมคะ”
เจ้าหน้าที่     ” อีกสามเดือนคุณกลับมาใหม่ละกัน”
สาวโชคร้าย ” ขอโอกาสดิฉันอีกสักครั้งเถอะนะคะ”
เจ้าหน้าที่     ” No”
—————– เศร้าไหม
พอนั่งแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะขอเอกสาร ตรงนี้ดิฉันโดนด่าค่ะ เพราะเรียงเอกสาร
มาไม่ดี ค้นซะนาน (ความที่สามีเป็นคนจัดให้ แล้วดิฉันก็ไม่ได้สนใจดู)
เจ้าหน้าที่ถามว่า เอาใบเกิดของลูกมาหรือเปล่า  ดิฉันก็ว่าเปล่า เพราะมันไม่ได้
อยู่ในลิสส์ที่เขาให้มานี่หว่า  ดิฉันก็พูดว่า “เด็กเกิดที่นี่ได้สัญชาติอเมริกันนี่คะ”
เจ้าหน้าที่ก็โบ้ย มั่วไป เธอว่า “y’know” แล้วเธอก็ไม่ว่าอะไร  เธอเอาเอกสารแผ่นก๊อปปี้ไป  
เจ้าหน้าที่ถามว่า ออกนอกประเทศครั้งสุดท้ายเมื่อไร นานแค่ไหน และเคยออก
นอกอเมริกานานกว่า 6 เดือนหรือเปล่า  ตรงนี้ดิฉันก็แป่ว เพราะจำได้ว่าไปไหนแต่ไม่รู้ว่าเดือนไหนนะซิ เธอก็ช่วยนะ ตอกย้ำดิฉันว่า ใช่เดือนกันยาหรือเปล่า เราก็คิดๆๆ เออ ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ กันยาก็กันยา
และเธอก็ คืนเอกสารตัวจริง พร้อมพาสปอร์ทไทย และ ใบเขียว

แล้วก็ยิงคำถามในเช็คลิสส์ประเภท คุณเป็นคอมมิวนิสถ์ หรือเปล่า เคยเลือกตั้งหรือเปล่า
เคยโดนจับหรือเปล่า  ถ้าอเมริกามีสงครามคุณจะช่วยหรือไม่….บางคนเจ้าหน้าที่ไม่ถาม
ให้เอามากรอกเองข้างนอกค่ะ คงจะกลัวเรื่องฟังไม่ถนัดแล้วตอบผิดๆมังคะ อันนี้ดิฉันก็ไม่ทราบแน่

แล้วเธอก็ให้เซ็นต์ชื่อค่ะ บังเอิญเธอสะดุดตาที่ดิฉันอยู่ๆก็เอา นามสกุลก่อนแต่งงานมา
เป็นชื่อกลาง เธอถามว่าดิฉันแดะใช้เองหรือว่า ไปเปลี่ยนที่ศาล  ฮี่ๆๆ ใช้เองซิคะ
เธอก็บ่นตั้งนาน ว่าดิฉันไม่มีสิทธิเปลี่ยนเอง  อ้าวก็แต่งงานแล้วก็ไปใช้นามสกุลสามี
แล้วมันผิดตรงไหนที่เราจะไม่ทิ้ง นามสกุลเก่า   ดีที่ ใบอะไรๆแม้แต่ใบเขียวของดิฉันก็เป็นแบบนี้หมด
เธอเลยไม่เอาเรื่องต่อ  แล้วเน้นว่าวันนี้ทั้งวันให้เซ็นต์แบบนี้เท่านั้น

ต่อมาก็ถึงนาทีระทึกใจ สอบปากเปล่า ความรู้ประวัติศาตร์ การเมือง การปกครอง อเมริกัน
อันนี้ที่ผ่านมาได้ต้องให้เครดิตน้องเปิ้ล (little apple)เพราะเธอให้ลิงค์นี้มา

http://uscis.gov/graphics/exec/natz/natztest.asp?FormMode=INPROCESS
คำถามที่ดิฉันโดนถามมีดังนี้
Which countries were our enemies during World War II?
Can the Constitution be changed?
What is the name of the ship that brought the Pilgrims to America?
Where does Congress meet?
What do we call a change to the Constitution?
Who makes the laws in the United States?
Can the Constitution be changed?

จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย ยากก็ไม่ยาก ที่แปลกใจคือเดาว่าคงต้องเจอคำถาม
เหตุการณ์ปัจจุบันบ้าง อย่างอาทิตย์ที่แล้วก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของ
Martin Luther King, Jr และวันนี้ก็เป็นวันที่ประธานาธิปดีสาบานตน  แต่ไม่เจอเลยค่ะ
เจ้าหน้าที่เลือกคำถามจากคอมพิวเตอร์ตามปกติ
แล้วก็เขียนตามคำบอก I want to live and work in U.S.A. เธอบอกให้สองครั้ง

รูปค่ะ มีปัญหาอีก เธอไม่ชอบรูปที่ดิฉันส่งไป บอกว่าเล็กไป แล้วก็ตะแคงข้าง
เธอไล่ไปถ่ายใหม่ค่ะ  อ้อ ตรงนี้เราจะได้หนังสือคู่มือซิติเซ่นเล่มเล็กๆพร้อมใบแนบสีส้มมาด้วย  

เซย์กู๊ดบายเธอชาตินี้คงไม่ได้พบกันอีก  แล้วดิฉันก็วิ่งออกนอกตึก พร้อมลูกในรถเข็น และสามี
หนาวจับจิต ไปถ่ายรูป แล้วก็วิ่งกลับ  คราวนี้ได้หน้าตรง มีขอบขาวไว้เขียนชื่อเต็มๆ
สมใจเธอ เอาไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ต้อนรับ หน้าต่างแรก แล้วก็นั่งรอชะตากรรมต่อ

คราวนี้พนักงาน(ท่านอื่น)เรียกชื่อดิฉันเพื่อไปตรวจดูความถูกต้องของชื่อ และรายละเอียดอื่นๆ
บนใบ certificate of naturalization  แล้วก็เซ็นต์  โดนยึดใบเขียวคืนก็ตรงนี้แหละค่ะ

แล้วทุกคนที่มาสัมภาษณ์วันนี้ ร้อยกว่าคน ก็ถูกต้อนไปห้องอีกห้องเพื่อทำพิธีสาบาน พนักงานมาเก็บใบสีส้ม

พิธีก็ไม่หรูหราอะไรไม่มีโต๊ะจีน ไวน์ คอกเทล (เอาญาติเข้าไปได้)
ประเภทยกมือขวาและว่าตาม ฟังท่านบุชกล่าว(วีดีโอจ๊ะตัวจริงมาไม่ได้ติดธุระสาบานตนเหมือนกัน)  ดูมิวสิควีดีโอเพลง
I’m proud to be American (จริงๆนะ สามีบอกว่าชีสซี่สุดๆ) และก็แจกใบ certificate of naturalization  เป็นอันเสร็จพิธี

หิวข้าวจนเกือบเป็นลม แต่ก็คุ้มค่ะ ต่อไปจะได้เที่ยวได้หลายประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า (เสียอย่างเดียวต่อไปคงด่าอเมริกา-กัน ไม่ได้เต็มปาก)

จากคุณ :
ปรารถนา
– [
21 ม.ค. 48 10:25:15

]

I urge you to support a strong alliance between the United States and Thailand.

Thailand is the oldest friend of the United States in Asia and a major non-NATO ally. Thai troops had fought shoulder to shoulder with American troops in many battles in the past. U.S. and Thai intelligence and security communities have worked together to counter common threats and protect our peoples.

Trade and investment between the United States and Thailand have continued to grow, bringing jobs and opportunities to the peoples of both countries. The largest Thai community overseas is in the United States while a large number of Americans visited Thailand each year.

After months of political paralysis and violence early last year, Thailand is now moving forward with necessary reforms in order to achieve a stronger and sustainable democracy with better checks and balances, good governance and the rule of law.

The Thai economy is now moving ahead with many infrastructure development projects which will help increase the country’s competitiveness in the long run.

The draft of Thailand’s new constitution should be completed by September this year and elections should be held by 2016.

Thailand’s stability and contribution to ASEAN will benefit the United States. A strong alliance between the United States and Thailand will serve the strategic interest of the United States and the success of the Rebalance policy in Asia.

I therefore urge you to give understanding and support for a sustainable democracy in Thailand.

SENDER’S NAME”