Skip to content
Home » [NEW] Grammar: Subject – Verb Agreement หลักการใช้คำกริยาให้สอดคล้องกับประธานในภาษาอังกฤษ | เอกพจน์ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] Grammar: Subject – Verb Agreement หลักการใช้คำกริยาให้สอดคล้องกับประธานในภาษาอังกฤษ | เอกพจน์ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เอกพจน์ ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

ประโยคมีองค์ประกอบหลักคือ ประธาน (Subjects) กริยา (Verbs) กรรม (Objects) โดยแต่ละภาษามีกฎไวยากรณ์แตกต่างกันไป ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ที่จะมีกฎในการใช้ประธานและกริยาร่วมกันในประโยค ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรู้ 

 

กฎการใช้ประธาน (Subjects) และ กริยา (Verbs) ร่วมกันในประโยค
 

กฎข้อที่ 1 : ประธานเอกพจน์ อยู่ใน Present Simple Tense กริยาต้องเป็นเอกพจน์ คือเติม s/es  เช่น

She speaks English very well.
(เธอพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก)
 

The dog barks at the cat.
(สุนัขเห่าแมว)
 

ถ้าประธานพหูพจน์หรือหลายคน หลายสิ่ง กริยาต้องเป็นพหูพจน์ด้วย คือ กริยารูปปกติไม่ต้องเติม s/es เช่น

The dogs bark at the cat.
(พวกสุนัขเห่าแมว)
 

These children live in Tokyo.
(เด็ก ๆ เหล่านี้อาศัยอยู่ในโตเกียว) 

กฎข้อที่ 2 : ประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and ให้ถือเป็นพหูพจน์ กริยาก็นับเป็นพหูพจน์ด้วย เช่น

Tom and I work until 7:00 p.m. each day.
(ทอมและฉันทำงานจนกระทั่งถึงหนึ่งทุ่มในแต่ละวัน) 
 

Nid and her Japanese husband are moving back to Japan.
(นิดและสามีชาวญี่ปุ่นของเธอกำลังย้ายกลับญี่ปุ่น) 
 

Sugar and Fish sauce are needed for the Thai recipe.
(น้ำตาลและน้ำปลาจำเป็นสำหรับสูตรอาหารไทย) 

กฎข้อที่ 3 : ประธาน 2 ตัวเชื่อมด้วย and แต่คิดเป็นสิ่งเดียวกันหรือเป็นหน่วยเดียวกัน ให้นับเป็นเอกพจน์ กริยาก็เป็นเอกพจน์ เช่น

Rice and omelet is my favorite breakfast.
(ข้าวและไข่เจียวเป็นอาหารเช้าสุดโปรดของฉัน : ในที่นี้หมายถึงข้าวที่มีไข่เจียววางอยู่ในจานเดียวกันคือของชิ้นเดียวกันจึงนับเป็นเอกพจน์) 

กฎข้อที่ 4 : ประธานที่มีคำนามมากกว่า 1 เชื่อมด้วย and ถ้าเป็นคนหรือสิ่งเดียวกัน จะใช้ article ที่ประธานตัวหน้าที่เดียวเท่านั้น เช่น 

The manager and owner of this restaurant is my brother.
(ผู้จัดการและเจ้าของร้านนี้เป็นพี่ชายของฉัน : The manager and owner = ผู้จัดการกับเจ้าของเป็นคนเดียวกัน) 
 

The black and white dog under the table is my girlfriend’s dog.
(สุนัขดำขาวที่อยู่ใต้โต๊ะเป็นสุนัขของแฟนฉันเอง : The black and white dog = สุนัขตัวเดียวมีสองสีคือดำ-ขาว) 
 

ข้อควรระวัง!! ถ้าเป็นคนละคนหรือคนละสิ่งต้องใส่ article ที่หน้าคำนามทั้งสองคำ เช่น

     The manager and the owner of this restaurant are my brothers. (ผู้จัดการและเจ้าของเป็นคนละคนกัน)

     The black and the white dog under the table are my girlfriend’s dogs. (มีหมาสีดำและหมาสีขาว)

กฎข้อที่ 5 : ประธานที่มีคำขยายหรือวลีเหล่านี้ต่อท้าย กริยาจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ให้ยึดประธานหรือคำนามที่อยู่ข้างหน้าเป็นหลัก เช่น
 

  accompanied by (พร้อมด้วย)        

  along with (พร้อมด้วย)        

  as well as (เช่นเดียวกับ, และ)   

  besides (นอกจาก)            

  but (ยกเว้น)                       

  except (ยกเว้น)       

  excluding (ไม่นับ)                        

  in addition to (นอกจาก)

  in company with (พร้อมด้วย)         

  including (รวมทั้ง)

  together with (พร้อมด้วย)

 

 

Ploy as well as her parents is going to Europe.
(พลอยและพ่อแม่ของเธอกำลังจะไปยุโรป)
 

My brothers, in addition to my sister, are famous basketball players.
(นอกจากน้องสาวของฉันบรรดาพี่ชายของฉันก็เป็นนักบาสเกตบอลชื่อดังเหมือนกัน)

กฎข้อที่ 6 : ประโยคหรือวลีที่ขยายประธาน ไม่มีผลต่อการใช้กริยาของประธาน เช่น

Zico, with all his players, was on the field.
(ซิโก้กับนักเตะของเขาอยู่ในสนาม)
 

Mr. Clark, like our other neighbors, is very helpful.
(มิสเตอร์คาร์กเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ของพวกเราคือให้การช่วยเหลือเกื้อกูลมาก ๆ) 

กฎข้อที่ 7 : คำต่อไปนี้เมื่อเป็นประธานให้ถือเป็นเอกพจน์ กริยาก็เป็นเอกพจน์เสมอ เช่น
 

  anybody   

  everybody

  someone

  anyone

  everyone

  somebody

  anything

  everything    

  something

  anywhere 

  everywhere 

  somewhere

  each + singular N.          

  either + singular N.         

  neither + singular N.

  each of + Plural N.         

  either of + Plural N.        

  neither of + plural N.

 

Everyone is in the room.
(ทุกคนอยู่ในห้อง) 
 

Someone in the office likes you.
(บางคนในที่ทำงานแอบชอบคุณ)

กฎข้อที่ 8 :  ประธานที่เชื่อมด้วย or, either….or, neither… nor, not only……but also กริยาให้ถือตามประธานตัวหลัง เช่น   

Neither Nantanach nor Naphat likes fish.
(ไม่ว่าจะนันทนัชหรือณภัทรก็ไม่ชอบปลา)
 

Neither Pim nor her friends are leaving.
(ไม่ว่าจะพิมหรือเพื่อน ๆ ของเธอไม่ได้กำลังจะออกไป) 
 

Not only Mark but also his friends are coming to the party tonight.
(ไม่ใช่แต่มาร์กเท่านั้น แต่เพื่อน ๆ ของเขากำลังจะมาปาร์ตี้คืนนี้ด้วยเช่นกัน) 
 

** หมายเหตุ ในกรณีประธาน 2 ตัว มักเอาประธานที่เป็นพหูพจน์ไว้ข้างหลังมากกว่า

กฎข้อที่ 9 : คำต่อไปนี้ถ้าใช้แทนคำนามนับได้ ให้ถือเป็นพหูพจน์เสมอ เช่น

  all     

  both                 

  (a) few

  many   

  several              

  some

 

All were ready to leave the party by midnight.
(ทุกคนพร้อมออกจากงานปาร์ตี้ตอนเที่ยงคืน)
 

 

Many were invited to the lunch but only twelve showed up.
(มีหลายคนถูกเชิญมาทานอาหารกลางวันแต่มีมาแค่ 12 คนเท่านั้น) 

กฎข้อที่ 10 :  จำไว้ว่า ‘There’ และ ‘Here’ ที่ขึ้นต้นประโยคไม่ใช่ประธาน แต่เราจะเจอประธานหลังคำเหล่านี้ในประโยคเสมอ เช่น

There are books in my bag.
(มีหนังสืออยู่ในกระเป๋าของฉัน : are สอดคล้องกับ books ซึ่งเป็นประธานของประโยค)
 

Here is the report you wanted.
(นี่คือรายงานที่คุณต้องการ : is สอดคล้องกับ report ซึ่งเป็นประธานของประโยค)     

กฎข้อที่ 11 : คำนามบางคำที่อยู่ในรูปพหูพจน์ให้ถือเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นเอกพจน์ เช่น

mumps, home economics, social studies economics, measles, calisthenics, statistics, civics, physics, gymnastics, phonics, news, acrobatics, aesthetics, thesis, mathematics
 

Mathematics is an easy subject for some people.
(คณิตศาสตร์เป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน) 
 

Measles is a dangerous disease for pregnant women.
(โรคหัดเป็นโรคอันตรายสำหรับผู้หญิงท้อง) 

กฎข้อที่ 12 :  การใช้วลีบอกปริมาณ มีหลักดังนี้
 

12.1. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ถ้าตามด้วยนามเอกพจน์ กริยาต้องใช้เอกพจน์ ถ้าตามด้วยนามพหูพจน์กริยาต้องใช้พหูพจน์ เช่น
 

  a lot of

  plenty of

  most of

  some of

  lots of

  all of

  none of

  percent of

เช่น

Some of my jewelry is missing.
(เครื่องประดับบางชิ้นของฉันหายไป) 
 

A lot of books were left on the table.
(หนังสือจำนวนมากเหลืออยู่บนโต๊ะ)        
 

Most of my friends live in Milan.
(เพื่อนของฉันส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่มิลาน)
 

12.2. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ และกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ เช่น
 

  a number of                               

  many

  a large number of                       

  a good many

  a great number of                       

  a great many

 

A number of students were studying very hard in the classroom even after school.
(นักเรียนจำนวนมากกำลังเรียนอย่างคร่ำเคร่งในห้องเรียนแม้จะเป็นหลังโรงเรียนเลิกแล้วก็ตาม)   
  

There are still a large number of problems to be solved.
(ยังมีปัญหาอีกมากให้แก้ไข) 
 

12.3. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ เมื่อใช้กับนามนับไม่ได้ กริยาต้องใช้รูปเอกพจน์ตลอดไป เช่น
 

  much      

  a large number of

  a great deal of               

  a large amount of

  a good deal of               

  a large quantity of

 

A large amount of money was stolen from the bank.
(เงินจำนวนมากถูกขโมยไปจากธนาคาร) 

กฎข้อที่ 13 :  ประโยคที่มี who, which, that เป็น Relative Pronoun กริยาของ Relative Pronoun จะใช้รูปของเอกพจน์หรือพหูพจน์ให้ถือเอาตามคำที่มันแทนซึ่งอยู่ข้างหน้า who, which, that เช่น 

There is a boy who is running in the park.
(มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งคนที่กำลังวิ่งอยู่ในสวน : who = a boy)
 

No houses that were made of wood survived the fire.
(ไม่มีบ้านสักหลังที่สร้างจากไม้แล้วจะรอดจากไฟไหม้ได้ : that = houses) 

กฎข้อที่ 14 :  ประธานที่ขึ้นต้นด้วยวลีที่นำหน้าด้วย to (Infinitive Phrase) หรือ gerund (V.ing) ถือว่าเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นรูปเอกพจน์ เช่น 

To study English is fun.

Studying English is fun.

กฎข้อที่ 15 : ประธานที่เป็นจำนวนเงิน, มาตราต่าง ๆ และช่วงเวลา ถือเป็นเอกพจน์ กริยาจึงเป็นเอกพจน์ เช่น

Ten million bahts is too high for this car.
(สิบล้านบาทมันแพงเกินไปสำหรับรถคันนี้) 
 

Twenty years is a long time to wait.
(ยี่สิบปีเป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับการรอคอย) 
 

Sixty-five miles is all we have left to drive.
(หกสิบห้าไมล์คือระยะทั้งหมดที่พวกเราเหลือในการขับรถ)

กฎข้อที่ 16 : ประธานที่เป็นเศษส่วนของคำนามพหูพจน์ กริยาจะเป็นพหูพจน์ และประธานที่เป็นเศษส่วนของคำนามเอกพจน์ กริยาจะเป็นเอกพจน์ เช่น

Two-thirds of the boys are playing football.
(สองส่วนสามของเหล่าเด็กผู้ชายกำลังเล่นฟุตบอล) 
 

One-third of the cheese is moldy.
(หนึ่งส่วนสามของชี้สขึ้นรา) 

กฎข้อที่ 17 :  ชื่อหนังสือ, บทความ, หนัง และเพลง เป็นเอกพจน์เสมอ เช่น

Harold and the Purple Crayon was my favorite book as a child. (Harold and the Purple Crayon คือหนังสือเล่มโปรดของฉันตอนเด็ก ๆ) 

 

 

 

 

 

[NEW] หลักการใช้ AGREEMENT | เอกพจน์ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

agreement ออกเสียง เออะ-กรีเม้นทฺ
*agreement บางคนใช้คำว่า concord ออกเสียง คองคอด *agreement คือ ความสัมพันธ์สอดคล้องระหว่างประธาน (subject) และกริยา (verb)
*หลักการง่ายๆ ของ agreement ก็คือ
-ประธานเอกพจน์ (singular subject) กริยาเอกพจน์ (singular verb) –ประธานพหูพจน์ (plural subject) กริยาพหูพจน์ (plural verb)
หมายเหตุ
ก. หลักการนี้บังคับใช้เฉพาะ Present Simple Tense
ข. กริยาเอกพจน์ คือ กริยาที่เติม -s/-es
ค. กริยาพหูพจน์ คือ กริยาที่ไม่เติม -s/-es
รายละเอียดการใช้
1. ความสัมพันธ์สอดคล้องระหว่างประธานและกริยาใน Present Simple Tense ก็คือ
-ถ้าประธานเป็นคำนามหรือสรรพนามบุรุษที่ 3 เอกพจน์ กริยาจะ ต้องเติม -s/-es
-ถ้าประธานเป็นคำนามหรือสรรพนามบุรุษที่ 1, 2 หรือสรรพนาม บุรุษที่ 3 พหูพจน์ กริยาจะไม่เติม -s/-es
นาม                         กริยา
เอกพจน์
พหูพจน์                      –                           +s/es
+s/es                        –
ตัวอย่าง
ประธานเอกพจน์ – กริยาเอกพจน์
The carpet needs cleaning.
พรมต้องการการทำความสะอาด
He always works hard.
เขาทำงานหนักเสมอ
Laura studies at the University of Sydney.
ลอร่าเรียนที่มหาวิทยาลัยซิดนี่ย์
ประธานพหูพจน์-กริยาพหูพจน์
The carpets need cleaning.
พรมหลายผืนต้องการการทำความสะอาด
They always work hard.
พวกเขาทำงานหนักเสมอ
Laura and Tracy study at the University of Sydney.
ลอร่าและเทรซี่เรียนที่มหาวิทยาลัยซิดนี่ย์
ข้อยกเว้น
คำนามซึ่งทำหน้าที่ประธานของประโยคบางคำแม้จะมีลักษณะตามที่กล่าวมาข้างต้น คำกริยาก็ไม่ได้เป็นไปตามรายละเอียดการใช้ข้างต้น ได้แก่
1.1 คำนามที่ลงท้ายด้วย s ต่อไปนี้ถือว่าเป็นเอกพจน์ ฉะนั้นกริยาใน ประโยคจะต้องเป็นเอกพจน์ด้วย เช่น
politics รัฐศาสตร์    economics เศรษฐศาสตร์
physics วิชาฟิสิกส์    mathematics คณิตศาสตร์
ethics จริยศาสตร์    news    ข่าว
measles โรคหัด        mumps โรคคางทูม
billiards กีฬาบิลเลียด
ตัวอย่าง
Measles is a disease.
หัดเป็นโรคซนิดหนึ่ง
Physics is very difficult.
วิชาฟิสิกส์ยากมาก
Billiards is a game.
บิลเลียดเป็นการเล่นชนิดหนึ่ง
1.2 คำนามบางคำเป็นรูปพหูพจน์โดยไม่ได้ลงท้ายด้วย s ฉะนั้นกริยาในประโยคจะต้องเป็นพหูพจน์ด้วย เช่น
men        ผู้ชาย    women     ผู้หญิง
children     เด็กๆ        mice        หนู
lice        หมัด
ตัวอย่าง
Mice are found everywhere.
เราสามารถพบเห็นหนูได้ทุกหนทุกแห่ง
Women are sensitive.
ผู้หญิงเป็นเพศที่รับรู้สึกสิ่งต่างๆ ไว
A lot of men are on the road.
มีคนจำนานมากบนถนน
2. คำนามกลุ่มก้อน (group nouns) เช่น audience (ผู้ชม) committee (คณะกรรมการ) family (ครอบครัว) government (รัฐบาล) team (ทีม) เมื่อทำหน้าที่ประธานของประโยค กริยาอาจเป็นรูปเอกพจน์ ถ้าหากให้ความหมายเป็นหน่วยหนึ่งๆ แต่ถ้าแทนมวลสมาชิก กริยาจะเป็นพหูพจน์
ตัวอย่าง
The commitee /meets, meet every week.
ความหมาย
(1) ในกรณีที่เติม s ท้ายกริยา ซึ่งถือเป็นเอกพจน์ แสดงว่า The committee หมายถึง “คณะกรรมการ’’
(2) ในกรณีที่กริยาเป็นรูปพหูพจน์ไม่มี s แสดงว่า The committee หมายถึง “มวลสมาชิกที่เป็นคณะกรรมการ”
The audience were clapping and waving their hands in excitement. ความหมาย – กรณีนี้ audience หมายถึง “ผู้เข้าชม” กริยาจึงเป็นพหูพจน์
3. กรณีที่ประธานของประโยคมีตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ถูกเชื่อมด้วย and ถือว่าเป็นพหูพจน์ กริยาจึงต้องเป็นพหูพจน์ด้วย
ตัวอย่าง
My husband and I have a job.
สามีของดิฉันและดิฉันมีงานทำ
Nichada and Aree are friends.
นิชาดาและอารีเป็นเพื่อนกัน
4. ถ้าหากประโยคขึ้นต้นด้วยคำว่า there กริยาที่ใช้จะต้องสอดคล้องกับนามที่อยู่ถัดไป โดยดูว่าเป็นนามเอกพจน์หรือพหูพจน์
ตัวอย่าง
There is one thing that keeps worrying me.
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมกังวลตลอด
There are many tall buildings in New York City.
มีอาคารสูงมากมายในกรุงนิวยอร์ก
There has been tremendous progress within this century.
มีความก้าวหน้ามากในศตวรรษนี้
There have been a few changes in recent years.
มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
5. ในกรณีที่ประธานของอนุประโยคเป็น who, which, that ให้ใช้กริยา โดยคำนึงถึงการทดแทนคำนามของ who, which, that ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์
ตัวอย่าง
It is I who am wrong.
ผมนั่นแหละคือผู้ผิด
I am the one who is wrong.
ผมเป็นคนหนึ่งที่กระทำผิด
The article is one of the best sketches that have ever been
written.
บทคาามนี้เป็นร่างที่ดีที่สุดอันหนึ่งที่ถูกเขียนออกมา
6. กรณีที่ประธานของประโยคเป็นจำนวนหน่ายหรือปริมาณ อาทิ เวลา เงินตรา หน่วยการวัด นํ้าหนัก ปริมาตร เสษส่าน ถ้าหากเราพิจารณา เห็นว่าเป็นหน่วยหนึ่งๆ กริยาในประโยดจะเป็นเอกพจน์ แต่ถ้าพิจารณา แล้วเห็นว่าเป็นจำนวนหน่ายที่แยกออกจากกัน กริยาในประโยคจะเป็น พหูพจน์
ตัวอย่าง
Five years is a long time to be imprisoned.
ระยะเวลา 5 ปี ถือว่ายาวนานทีเดียวที่ถูกขังคุก
The last five years have been busy years.
ช่วง 5 ปีสุดท้ายนับเป็นช่วงปีที่ยุ่งวุ่นวายมาก
7. กรณีที่ประธานของประโยคเชื่อมด้วย and แต่หมายถึงบุคคลคนเดียวกันหรือสิ่งเดียวกันถือว่าเป็นประธานเอกพจน์ กริยาก็จะต้องเป็น เอกพจน์ด้วย
ตัวอย่าง
Spaghetti and meatballs is one of Susie’s favourite dishes.
สปาเก็ตตี้กับลูกชิ้นเนื้อเป็นอาหารจานโปรดของซูซี่
(ทั้ง spaghetti และ meatballs ผสมกันเป็นอาหารจานเดียว)
The president and secretary is Mr. Brown.
ประธานและเลขานุการคือ นายบราวน์
(นายบราวน์ ดำรงตำแหน่งทั้งเป็นประธานและเลขานุการ)
8. ถ้าประธานของประโยคมีมากกว่า 1 ตัว ถูกเชื่อมด้วย or หรือ nor กริยาจะใช้ตามปรานตัวที่อยู่ใกล้มันมากที่สุด
ตัวอย่าง
Either Jim or Jane was responsible for mailing the letter.
จิมหรือเจนก็ได้ช่วยรับผิดชอบส่งจดหมายให้ที
Neither Ray nor George has finished his work.
ไม่ว่าจะเป็นเรีย์หรือจอร์จต่างก็ทำงานไม่เสร็จ
Either the judge or the two witnesses were wrong.
ผู้พิพากษาหรือไม่ก็พยาน 2 คนที่ผิด
9. กรณีที่ประธานของประโยคมีคำว่า some, any, none, all และ most คำกริยาจะใช้ตามคำนามที่อยู่ถัดจากประธานเหล่านี้
ตัวอย่าง
Some of my work has been lost.
งานของผมบางชิ้นหายไป
Some of my papers have been lost.
หนังสือพิมพ์ของผมบางฉบับหายไป
Has any of the work been found?
มีงานชิ้นใดบ้างที่ถูกพบ
Have any of the letters been found?
มีจดหมายฉบับใดบ้างที่ถูกพบ
None of the work has been found.
ยังไม่พบงานชิ้นใดเลย
None of the letters have been found.
ยังไม่พบจดหมายสักฉบับเลย
10. กรณีที่ประธานของประโยคถูกเชื่อมด้วย and แต่หน้าประธานมีคำว่า each, every หรือ many a ถือว่าประธานตัวนั้นเป็นเอกพจน์ กริยาก็จะเป็นเอกพจน์ด้วย
ตัวอย่าง
Each dog and cat has been missing.
สุนัขและแมวแต่ละตัวหาย ไป
Every man, woman and child was evacuated from the burning building.
บุรุษ สตรี และเด็กถูกอพยพออกไปจากอาคารที่ไฟกำลังลุกไหม้
Many a paper and report has been written on the subject. หนังสือพิมพ์และรายงานถูกเขียนตามหัวข้อที่กำหนด
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 34,965 times, 7 visits today)


คำนามพหูพจน์ที่ไม่ต้องเติม S หรือ ES l คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน


ชวนน้องๆ มาเรียนรู้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับ คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป กันครับ
Man l Men
Woman l Women
Child l Children
Person l People
Foot l Feet
Tooth l Teeth
Goose l Geese
Louse l Lice
Ox l Oxen
Mouse l Mice
เยี่ยมชม Blog ของเรา: https://goo.gl/JthDFX
ติดตามช่องของเราได้ที่: https://goo.gl/Svd65u
============================================
แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ เพิ่มเติม
============================================
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ: https://goo.gl/EUg17d
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน: https://goo.gl/cFosez
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/pv6srr
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nYNBAx
คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: http://bit.ly/2nYJBA2
เกมส์ผ่อนคลายสมอง: https://goo.gl/TE4kJS
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สัตว์ต่างๆ: https://goo.gl/o7LmPY
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/nxPQEj
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ รูปร่าง รูปทรงเรขาคณิต: https://goo.gl/qpbF3q
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สี color: https://goo.gl/ZuE2YB
เกมส์ฝึกภาษาอังกฤษ: https://gooXgl/Z7uE8G
แอพเรียนภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nsZE7Y

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำนามพหูพจน์ที่ไม่ต้องเติม S หรือ ES l คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

EP 11 :: เอกพจน์ พหูพจน์


เรื่องเอกพจน์ พหูพจน์

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook คนไทยเก่งอังกฤษ
กดลิ้งค์ http://bit.ly/2XY40mR

EP 11 :: เอกพจน์  พหูพจน์

The Plural and Singular Song by Teacher Ham!


Follow me online:
https://sambarbour.hearnow.com/
Subscribe to Teacher Ham HERE for more English teaching and music resources: www.youtube.com/user/englishtv123
This is a fun and easy song for children to assist students in learning more about plural and singular nouns. Is there an ‘s’ at the end of the word or no ‘s’?
Written, performed \u0026 recorded by Samuel Alexander Barbour
Copyright 2018. All Rights Reserved.

The Plural and Singular Song by Teacher Ham!

English-ป.3-ป.5-วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์-Singular and Plural Noun


English-ป.3-ป.5-วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์-Singular and Plural Noun

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์


เล่า Grammar แบบเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ ได้ฝึกฝนจริงจัง
ติดตามผลงานอื่นๆ ของทีมเราได้ที่
http://www.proudbookshop.com
IG : https://www.instagram.com/proudbook
Facebook : https://www.facebook.com/proudbook
twitter : https://www.twitter.com/proudbook

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เอกพจน์ ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *