Skip to content
Home » [NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | เครื่องหมายวรรคตอน – NATAVIGUIDES

[NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | เครื่องหมายวรรคตอน – NATAVIGUIDES

เครื่องหมายวรรคตอน: คุณกำลังดูกระทู้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

748 viewed

Punctuation หรือ เครื่องหมายวรรคตอน เราก็พอรู้กันคร่าวๆว่าเครื่องหมายเหล่านี้มี หน้าที่เพื่อให้การแบ่งวรรคตอนหรือประโยคในภาษาอังกฤษไม่ให้สับสน

 

1.Full Stops (British English) หรือ Periods (American English) (.)

           เป็นเครื่องหมายที่เราคุ้นเคยกันที่สุด และน่าจะเป็นตัวแรกที่ทุกคนรู้จัก คือเอาไว้ใช้เวลาจบประโยคที่ไม่ใช้ เครื่องหมายคำถามหรือเครื่องหมายตกใจ ดังนั้น ทุกการขึ้นต้นประโยคใหม่หลัง Full Stop นั้น เราจะต้องใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ  เช่น

We are discussing this issue. (เรากำลังถกปัญหา นี้กันอยู่)  นอกจากนี้ เรายังใช้  .  สำหรับตัวย่ออีกด้วย เช่น

I have an appointment at 10 a.m. (ฉันมีนัดตอนสิบโมงเช้า)

 

  1. Question Marks และ Exclamation Marks (?) (!)

            Question Mark หรือเครื่องหมาย ? จะเอาไว้ใช้จบประโยคที่เราต้องการเขียน เพื่อให้รู้ว่าประโยค นี้เป็นประโยคคำถาม แทนตำแหน่งของ Full Stop เช่น

Do you really want to go there? (เธอต้องการไปที่นั่นจริงๆหรอ)

ในขณะที่ Exclamation Mark หรือเครื่องหมาย ! ใช้ในประโยคที่ไม่เป็นทางการมาก เพื่อเน้น การแสดงอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าปกติในประโยค ไม่ว่าจะเป็นตื่นเต้น ตกใจ แสดงถึงคำสั่งหรือ การตะโกน เช่น Don’t talk to me like that! (อย่ามาพูดแบบนั้นกับฉันนะ!)

 

  1. Commas (,)

           Comma หรือ เครื่องหมาย , เอาไว้ใช้ในการแบ่งวลีหรือคำ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เช่น

I love singing, dancing, and playing guitar. (ฉันชอบร้องเพลง เต้น และเล่นกีต้าร์) หรือใช้ในการคั่นอนุประโยค (clauses) เช่น

If you were me, you would be upset too. (ถ้าเธอเป็นฉัน เธอก็ต้องกลุ้มเหมือนกันแหละ) นอกจากนี้ ยังใช้เวลาเขียน non-defining relative clause ที่บอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่สำคัญ เช่น

The accident, which happened 5 minutes ago, was caused by that reckless driver. (อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้ว เกิดขึ้นเพราะคนขับรถคนนั้นขับรถอย่างประมาท)

 

  1. Colons (:)

            Colon หรือเครื่องหมาย : มีไว้เพื่อขยายความของประโยคที่เขียนก่อนหน้า เช่น

I know why I failed this test: lack of preparation. (ฉันรู้ว่าทำไมฉันถึงสอบตก เพราะไม่ได้เตรียมตัวมากพอ) นอกจากนี้ ยังใช้ในการแสดงเวลาก็ได้ เช่น

The train leaves at 6:30 a.m. (รถไฟออกตอน หกโมงครึ่งในตอนเช้า) เป็นต้น

 

  1. Apostrophes (‘)

             Apostrophe หรือ เครื่องหมาย’ใช้เวลาลดรูปกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ เช่น

did not เป็น didn’t  เช่น I didn’t mean to make you mad. หรือ

I will เป็น I’ll             เช่น I’ll handle this for you.

นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องหมาย ’ ในการแสดงความเป็นเจ้าของโดยการใส่ ’s เข้าไป เช่น

We will hang out at John’s place. (เราจะไปนั่งเล่นที่บ้านของจอห์น) หรือถ้ามี s เป็นตัวสะกดอยู่แล้ว ก็ใส่แค่ ’ เช่น                              

 The princess’ dress looks so gorgeous. (ชุดของเจ้าหญิงสวยมากเลย)

 

  1. Semicolons (;)

             นับเป็นอันที่คนไม่ยอมใช้กันที่สุด เพราะหลายคนไม่รู้จะใช้ยังไง หน้าที่ของ Semicolons หรือ ; คือ การเชื่อมสองประโยคที่มีความเกี่ยวข้องกันมากๆเข้าด้วยกัน แทนที่จะใช้ Full Stop ก็ใช้ตัว นี้แทน เช่น

I don’t want to go back home now; the traffic is so bad. (ฉันไม่อยากกลับบ้าน ตอนนี้เลย เพราะรถมันติดเกินไป)

หรือใช้แทน Comma ในการเชื่อมวลีที่ซับซ้อนเข้าด้วยกันเพราะในวลีนั้นมี Comma อยู่แล้วเพื่อ ป้องกันความสับสน เช่น

I have two options for you; finish this before 2, and go to this meeting for me; or prepare yourself for this meeting, and drop everything you’re doing right now. (ฉันมีทางเลือกให้สองทาง: ทำนี่ให้เสร็จก่อนบ่ายสองแล้วเข้าประชุมแทนฉัน หรือ เตรียมตัวประชุมตั้งแต่ตอนนี้แล้วหยุดทุกอย่างที่กำลังทำอยู่)

 

 

  1. Hyphens และ Dashes (-) ( – )

              สองตัวนี้หน้าตาคล้ายกัน โดย Hyphens จะใช้เวลาเชื่อมคำสองคำเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความ หมายใหม่ เช่น time-consuming ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ในพจนานุกรมว่าคำใดบ้างที่ต้องมี Hyphen คั่น

 ในขณะที่ Dash จะใช้เวลาที่เราต้องการแยกคำ วลี ออกมาจากประโยค เพื่อให้ส่วน นั้นโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยต้องเว้นวรรคหน้าหลัง dash ด้วย เช่น

She ignores all remarks – good or bad ones – which makes her seem like a self-righteous person. (เธอไม่สนใจข้อคิด เห็นใดๆเลย ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี และนั่นมันทำให้เธอดูเป็นคนมั่นใจว่าตัวเองถูกอยู่คนเดียว)

 

  1. Quotation Marks (“ ”)

                Quotation marks หรือเครื่องหมายคำพูด ซึ่งมีทั้งแบบ ‘เดี่ยว’ หรือแบบ “คู่” ในประเทศอังกฤษใช้ทั้งสองแบบ ในขณะที่ในอเมริกานิยมใช้แบบคู่ แต่ทั้งสองแบบสามารถปรากฏตัวร่วมกันได้ เช่น

Tommy asked, ‘Do you know where the “Tower Bridge” is?’ ซึ่งเราสามารถใช้เครื่องหมาย คำถามแบบเดี่ยวได้เพื่อแสดงการพูดประโยคคำถาม และใส่เครื่องหมายแบบคู่ไปในส่วน ที่ต้องการเน้น เป็นต้น

 

  1. Brackets และ Parentheses ([ ]) (( ))

               แปลเป็นภาษาไทยก็คือ วงเล็บ นั่นเอง ความแตกต่างก็คือ Brackets คือเครื่องหมาย […] แบบ เหลี่ยม ในขณะที่ Parentheses คือวงเล็บ (…) แบบที่เราคุ้นเคย เราใช้วงเล็บเพื่อเพิ่มเติมข้อมูล เข้าไปในประโยค ที่ไม่ได้มีความสำคัญมากนัก และใช้ในการเขียนที่ไม่เป็นทางการ เช่น

She will fly to New York (with two stopovers) and will come back at the end of the month. (เธอจะ บินไปนิวยอร์ค (โดยต้องเปลี่ยนเครื่องสองรอบ) และจะกลับมาตอนสิ้นเดือน)      ส่วน   Brackets   มักใช้เวลาที่ผู้เขียนเขียนข้อมูลเติมลงไปนอกเหนือจากข้อมูลต้นฉบับ เช่น

The pedestrian said he [the robber] escaped through this small alley.

 

 

 

[NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | เครื่องหมายวรรคตอน – NATAVIGUIDES

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

748 viewed

Punctuation หรือ เครื่องหมายวรรคตอน เราก็พอรู้กันคร่าวๆว่าเครื่องหมายเหล่านี้มี หน้าที่เพื่อให้การแบ่งวรรคตอนหรือประโยคในภาษาอังกฤษไม่ให้สับสน

 

1.Full Stops (British English) หรือ Periods (American English) (.)

           เป็นเครื่องหมายที่เราคุ้นเคยกันที่สุด และน่าจะเป็นตัวแรกที่ทุกคนรู้จัก คือเอาไว้ใช้เวลาจบประโยคที่ไม่ใช้ เครื่องหมายคำถามหรือเครื่องหมายตกใจ ดังนั้น ทุกการขึ้นต้นประโยคใหม่หลัง Full Stop นั้น เราจะต้องใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ  เช่น

We are discussing this issue. (เรากำลังถกปัญหา นี้กันอยู่)  นอกจากนี้ เรายังใช้  .  สำหรับตัวย่ออีกด้วย เช่น

I have an appointment at 10 a.m. (ฉันมีนัดตอนสิบโมงเช้า)

 

  1. Question Marks และ Exclamation Marks (?) (!)

            Question Mark หรือเครื่องหมาย ? จะเอาไว้ใช้จบประโยคที่เราต้องการเขียน เพื่อให้รู้ว่าประโยค นี้เป็นประโยคคำถาม แทนตำแหน่งของ Full Stop เช่น

Do you really want to go there? (เธอต้องการไปที่นั่นจริงๆหรอ)

ในขณะที่ Exclamation Mark หรือเครื่องหมาย ! ใช้ในประโยคที่ไม่เป็นทางการมาก เพื่อเน้น การแสดงอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าปกติในประโยค ไม่ว่าจะเป็นตื่นเต้น ตกใจ แสดงถึงคำสั่งหรือ การตะโกน เช่น Don’t talk to me like that! (อย่ามาพูดแบบนั้นกับฉันนะ!)

 

  1. Commas (,)

           Comma หรือ เครื่องหมาย , เอาไว้ใช้ในการแบ่งวลีหรือคำ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เช่น

I love singing, dancing, and playing guitar. (ฉันชอบร้องเพลง เต้น และเล่นกีต้าร์) หรือใช้ในการคั่นอนุประโยค (clauses) เช่น

If you were me, you would be upset too. (ถ้าเธอเป็นฉัน เธอก็ต้องกลุ้มเหมือนกันแหละ) นอกจากนี้ ยังใช้เวลาเขียน non-defining relative clause ที่บอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่สำคัญ เช่น

The accident, which happened 5 minutes ago, was caused by that reckless driver. (อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้ว เกิดขึ้นเพราะคนขับรถคนนั้นขับรถอย่างประมาท)

 

  1. Colons (:)

            Colon หรือเครื่องหมาย : มีไว้เพื่อขยายความของประโยคที่เขียนก่อนหน้า เช่น

I know why I failed this test: lack of preparation. (ฉันรู้ว่าทำไมฉันถึงสอบตก เพราะไม่ได้เตรียมตัวมากพอ) นอกจากนี้ ยังใช้ในการแสดงเวลาก็ได้ เช่น

The train leaves at 6:30 a.m. (รถไฟออกตอน หกโมงครึ่งในตอนเช้า) เป็นต้น

 

  1. Apostrophes (‘)

             Apostrophe หรือ เครื่องหมาย’ใช้เวลาลดรูปกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ เช่น

did not เป็น didn’t  เช่น I didn’t mean to make you mad. หรือ

I will เป็น I’ll             เช่น I’ll handle this for you.

นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องหมาย ’ ในการแสดงความเป็นเจ้าของโดยการใส่ ’s เข้าไป เช่น

We will hang out at John’s place. (เราจะไปนั่งเล่นที่บ้านของจอห์น) หรือถ้ามี s เป็นตัวสะกดอยู่แล้ว ก็ใส่แค่ ’ เช่น                              

 The princess’ dress looks so gorgeous. (ชุดของเจ้าหญิงสวยมากเลย)

 

  1. Semicolons (;)

             นับเป็นอันที่คนไม่ยอมใช้กันที่สุด เพราะหลายคนไม่รู้จะใช้ยังไง หน้าที่ของ Semicolons หรือ ; คือ การเชื่อมสองประโยคที่มีความเกี่ยวข้องกันมากๆเข้าด้วยกัน แทนที่จะใช้ Full Stop ก็ใช้ตัว นี้แทน เช่น

I don’t want to go back home now; the traffic is so bad. (ฉันไม่อยากกลับบ้าน ตอนนี้เลย เพราะรถมันติดเกินไป)

หรือใช้แทน Comma ในการเชื่อมวลีที่ซับซ้อนเข้าด้วยกันเพราะในวลีนั้นมี Comma อยู่แล้วเพื่อ ป้องกันความสับสน เช่น

I have two options for you; finish this before 2, and go to this meeting for me; or prepare yourself for this meeting, and drop everything you’re doing right now. (ฉันมีทางเลือกให้สองทาง: ทำนี่ให้เสร็จก่อนบ่ายสองแล้วเข้าประชุมแทนฉัน หรือ เตรียมตัวประชุมตั้งแต่ตอนนี้แล้วหยุดทุกอย่างที่กำลังทำอยู่)

 

 

  1. Hyphens และ Dashes (-) ( – )

              สองตัวนี้หน้าตาคล้ายกัน โดย Hyphens จะใช้เวลาเชื่อมคำสองคำเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความ หมายใหม่ เช่น time-consuming ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ในพจนานุกรมว่าคำใดบ้างที่ต้องมี Hyphen คั่น

 ในขณะที่ Dash จะใช้เวลาที่เราต้องการแยกคำ วลี ออกมาจากประโยค เพื่อให้ส่วน นั้นโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยต้องเว้นวรรคหน้าหลัง dash ด้วย เช่น

She ignores all remarks – good or bad ones – which makes her seem like a self-righteous person. (เธอไม่สนใจข้อคิด เห็นใดๆเลย ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี และนั่นมันทำให้เธอดูเป็นคนมั่นใจว่าตัวเองถูกอยู่คนเดียว)

 

  1. Quotation Marks (“ ”)

                Quotation marks หรือเครื่องหมายคำพูด ซึ่งมีทั้งแบบ ‘เดี่ยว’ หรือแบบ “คู่” ในประเทศอังกฤษใช้ทั้งสองแบบ ในขณะที่ในอเมริกานิยมใช้แบบคู่ แต่ทั้งสองแบบสามารถปรากฏตัวร่วมกันได้ เช่น

Tommy asked, ‘Do you know where the “Tower Bridge” is?’ ซึ่งเราสามารถใช้เครื่องหมาย คำถามแบบเดี่ยวได้เพื่อแสดงการพูดประโยคคำถาม และใส่เครื่องหมายแบบคู่ไปในส่วน ที่ต้องการเน้น เป็นต้น

 

  1. Brackets และ Parentheses ([ ]) (( ))

               แปลเป็นภาษาไทยก็คือ วงเล็บ นั่นเอง ความแตกต่างก็คือ Brackets คือเครื่องหมาย […] แบบ เหลี่ยม ในขณะที่ Parentheses คือวงเล็บ (…) แบบที่เราคุ้นเคย เราใช้วงเล็บเพื่อเพิ่มเติมข้อมูล เข้าไปในประโยค ที่ไม่ได้มีความสำคัญมากนัก และใช้ในการเขียนที่ไม่เป็นทางการ เช่น

She will fly to New York (with two stopovers) and will come back at the end of the month. (เธอจะ บินไปนิวยอร์ค (โดยต้องเปลี่ยนเครื่องสองรอบ) และจะกลับมาตอนสิ้นเดือน)      ส่วน   Brackets   มักใช้เวลาที่ผู้เขียนเขียนข้อมูลเติมลงไปนอกเหนือจากข้อมูลต้นฉบับ เช่น

The pedestrian said he [the robber] escaped through this small alley.

 

 

 


บักจีเหลิน – จีเหลิน สายหมอบ【OFFICIAL MV】


เพลง บักจีเหลิน
ศิลปิน : จีเหลิน สายหมอบ
คำร้อง/ทำนอง : ธน ธนันธร
เรียบเรียง : ธน ธนันธร(0890770958)
…………………………………………………
Drum , Keyboard ,String : ธน ธนันธร
Records Guitar , Bass : ดุ๊ก คิมหมง
Producer : ธน ธนันธร
Mixdown\u0026Mastering : แฮปปี้สตูดิโอ
ห้องบันทึกเสียง : คนอินลำ เรคคอร์ด
เขียนบท/กำกับ : ธน ธนันธร
ลำดับภาพ/ตัดต่อ/ถ่ายทำ : ธน ธนันธร

ติดต่อคิวงานโชว์ โทร : 0890770958 ผู้จัดการ อ.ธน ธนันธร
ติดตามได้ที่
Facebook https://www.facebook.com/punsa.inlam
ห้องบันทึกเสียงติดต่อ : 0890770958
Facebook : ธน ธนันธร
Youtube : Khon in Lam Official
และเพจ : คนอินลำ เรคคอร์ด
เนื้อเพลง
Intro : D/Bm/G/A// D/Bm/D/A//
D Bm
เป็นผู้บ่าวขึ้นใหม่ จีบสาวบ่ทันเป็น
G D
เลิกเรียนแล่นเล่นเป็นหมู่เด็กน้อย
Bm
หมู่รุ่นเดียวกันกับอ้ายมันมีน้อย
G A
ผูกเสี่ยวกับเด็กน้อย ป.3 ป.4
D Bm
โรงเรียนบ่เคยขาด ขี้คล้านกะโทรไปตั๋วครู
G A D/A/
ว่าข่อยปวดหัว มื้อนี้ขอลาป่วย เด้อคุณครูเดอ…
D Bm
หัวแต่ขึ้น ม.2 โรงเรียนกะสาวหลาย
G A
อยากจีบกะอยากอายย้อนมีแต่คนส่า
D Bm
ว่าอ้ายเยี่ยวใส่บ่อน ว่าอ้ายนอนตื่นสาย
G A
เว้ามากะอยากอาย ว่าอ้ายใส่แพมเพิส
D A
จั่งแม่นเพิ่นคัก…คือบ่หลูโตนข่อยแหน่

G D
อยากมีผู้สาวคือกันเด้หล่ะ
A D/A/
มาฮักกันน้องหล่า อย่าหัวซาคำเพิ่น
D Bm
เซาเยี่ยวแล้วครับ เซาเยี่ยวใส่บ่อนแล้วครับ
D A
เซ่าใส่แล้วครับ เซาใส่แพมเพิสแล้วครับ…
D Bm
เอาซั่นเบ๊าะ เอาซั่นเบาะ มาเป็นแฟนกับอ้ายบ่
D A
เอาซั่นเบ๊าะ เอาซั่นเบาะ มาเป็นแฟนกับอ้ายบ่
SOLO : D/Bm/D/A// G/D/A/D/G/A//
(มาเป็นแฟนกับอ้ายบ่)
Outro : D/Bm/D/A/D//
บักจีเหลินจีเหลินสายหมอบคนอินลำ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

บักจีเหลิน - จีเหลิน สายหมอบ【OFFICIAL MV】

เครื่องหมายวรรคตอน – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4


พบสื่อการเรียนการสอนมากมายที่
http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4
เรื่อง เครื่องหมายวรรคตอน
ถ้าสื่อนี้ดีมีประโยชน์อยากให้ช่วยกดไลค์ หรือ กดติดตามครับ
จะได้มีคนเห็นสื่อการเรียนการสอนนี้มากขึ้น
เพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ในการเรียนการสอน
การทบทวน เป็นสื่อการสอน เป็นสื่อการเรียน ถือว่าท่าน
ได้ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนให้เด็กไทย หรือคนที่ยัง
ไม่รู้ว่ามีช่องเผื่อแพร่สื่อเหล่านี้ครับผม
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เครื่องหมายวรรคตอน - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4

เครื่องหมายวรรคตอน สื่อการเรียนรู้โดยครูหวานแชนเนล


สือการสอน สื่อการเรียนรู้
เรื่องเครื่องหมายวรรคตอน
===========================================
ติดตามครูหวานได้ที่
Facebook : http://gg.gg/cf1og
Youtube : http://gg.gg/cfdmj

Cr:ภาพจากGoogle
https://bit.ly/2QSbchf
https://bit.ly/2Dw3YvL
https://bit.ly/2KjPm3Q
https://bit.ly/2BoksVj
https://bbc.in/2R5EglT
https://bit.ly/2Ty6siW
https://bit.ly/2S6bbXg
https://bit.ly/2FzUl1P
https://bit.ly/2FuB7dM
https://bit.ly/2DQ5cCY
https://bit.ly/2KmMvr5

เครื่องหมายวรรคตอน สื่อการเรียนรู้โดยครูหวานแชนเนล

เครื่องหมายวรรคตอน – สื่อการสอนภาษาไทย หลักภาษาไทย ชั้น ป.2 | ครูกวาง


วันนี้ครูกวางจะพาเด็กๆมาเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายวรรคตอน
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และผู้ที่สนใจ
ไปเรียนรู้พร้อมๆกันนะคะ
==================================
ดูคลิปจบแล้วฝากกด Subscribe ด้วยนะคะ💕
✔สามารถกด Like กด Share ได้นะคะ
✔ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และสามารถคอมเม้นใต้คลิปได้เลยนะคะ
==================================
👉🏻สนใจติดต่อโฆษณาหรือสปอนเซอร์ ❤️💌
ช่องทางการติดต่อ ครูกวาง
Fanpage ► คุณครูกวาง
Youtube :► คุณครูกวาง
IG : ► kwangjiii
email : [email protected]

เพียงแค่ 1 Subscribe หรือ 1 Like ครูกวางก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ💕
ตัดต่อและเพลง : Kinemater
ภาพประกอบ : Pixabay, google
==================================

เครื่องหมายวรรคตอน - สื่อการสอนภาษาไทย หลักภาษาไทย ชั้น ป.2 | ครูกวาง

ถักเปียสวยแบบง่ายๆ : Easy \u0026 Beautiful Braid


ถักเปียสวยแบบง่ายๆ Easy and Beautiful Braid กรีดผม2ข้างรวบมารัดด้วยหนังยาง แล้วพลิกสอดกลับไปด้านหลังประมาณ45แถว ทำได้ง่ายๆ ส่วนดอกไม้ เกิดจากเปียสามThree Strand braid แล้วดึงให้ใหญ่ขึ้น จับเปียม้วนเป็นวงกลมก็จะกลายเป็นดอกไม้ประดับผม (เทคนิคถ้าจะให้ผมทำง่ายขึ้น ควรใส่มูสลงในผมแล้วเป่าให้แห้ง หวีผมให้เรียบแล้วฉีดสเปย์ให้ทั่ว แปรงผม แล้วค่อยลงมือทำ) ลองฝึกทำกันดูนะคะ และขอขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่ติดตามรับชม ถ้าคลิปนี้ทำง่ายและมีประโยชน์ฝากช่วยแชร์ ด้วยนะคะ
Music : Brandenburg Concerto No41 BWV1049
hairstyletutorial beautifulhairstyles ทรงผมทำง่ายๆ ถักเปีย สอนทำผม

ถักเปียสวยแบบง่ายๆ : Easy \u0026 Beautiful Braid

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เครื่องหมายวรรคตอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *