Skip to content
Home » [NEW] 7 วิธี ฝึกพูดภาษาอังกฤษเอง ง่าย ๆ ที่บ้าน ใครก็ทำตามได้ | วิธี ฝึก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 7 วิธี ฝึกพูดภาษาอังกฤษเอง ง่าย ๆ ที่บ้าน ใครก็ทำตามได้ | วิธี ฝึก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

วิธี ฝึก ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

อยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง ต้องไปเรียนถึงต่างประเทศหรือเปล่า?

หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามนี้ในใจ แต่สำหรับเบญคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องไปเรียนถึงต่างประเทศค่ะ แต่เราสามารถทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเรา เหมือนอยู่ต่างประเทศได้

ด้วย 7 วิธีที่เบญนำมาฝาก ข้างล่างนี้ จะช่วยให้คุณได้เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง

และไม่ใช้ข้ออ้างที่บอกว่า เราไม่ได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศเราจะพูดภาษาอังกฤษเก่งได้ยังไง มาหยุดความฝันของคุณ ที่อยากเก่งภาษาอังกฤษค่ะ

เป็นวิธีที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้ ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษมานานขนาดไหน แต่ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักที

หรือว่าอาจจะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษครั้งแรก แต่ไม่อยากข้ามขั้นตอนในการพูดภาษาอังกฤษไป

เบญรับรองได้เลยค่ะ ว่าถ้าคุณ มีวินัย และขยันในการทำตามวิธีที่เบญได้แนะนำไปนั้น อีกไม่นานก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างแน่นอนค่า

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเล้ยยย!!

Table of Contents

1. เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วซื้อหนังสือที่สอนภาษาอังกฤษมาอ่านเองไม่ดีกว่าหรอ? หรือว่าไปลงเรียนที่โรงเรียนไม่ดีกว่าหรอ?

ถ้าคุณจะฝึกพูดภาษาอังกฤษ และเป้าหมายของคุณ คือการพูดภาษาอังกฤษให้เก่งด้วยตัวเอง เบญคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

เพราะว่าถ้าเป็นในเรื่องการพูดและการฟังภาษาอังกฤษแล้ว ต้องฝึกบ่อยเลยค่ะ ถ้าไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา ก็อาจจะเรียนได้แค่อาทิตย์ละ 1-2 ชั่วโมง

อาจจะเนื่องด้วยระยะทางที่ไกล หรือค่าเรียนที่สูง หรือตารางว่างไม่ตรงกับคุณครูที่สอน

แต่การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ทำให้คุณจัดตารางเองได้ ว่าอยากเรียนกี่วันต่ออาทิตย์ และวันละกี่ชั่วโมง ในราคาที่ถูกมาก ๆ และก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วยจ้า

เพราะฉะนั้น เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จะเป็นวิธีนึง ที่ทำให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบเต็ม ๆ แน่นอนค่ะ

และถ้าคุณไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ หรือว่าไม่รู้จักคอร์สออนไลน์ดี ๆ เลย เบญมีคอร์สที่เบญใช้เพื่อฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองมาแนะนำค่ะ

EnglishClass101 เป็นคอร์สเรียนหนึ่งที่เบญแนะนำ ถ้าคุณอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองค่ะ เพราะว่า เป็นบทเรียนที่สอนโดยเจ้าของภาษา

ถ้าเราอยากจะเรียนพูดภาษาอังกฤษทั้งที เราก็ควรฝึกสำเนียงภาษาอังกฤษจริง ๆ ด้วยใช่มั้ยคะ

ในคอร์สนี้ เน้นการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ในบทเรียนจะมีประโยค และบทสนทนาที่คุณ ฝึกพูดตามได้

แอพเรียนภาษาอังกฤษ EnglishClass101

และเพื่อน ๆ ยังสามารถบันทึกเสียงตัวเองในขณะที่พูดตาม และก็เอาไปเปรียบเทียบฟังกับสำเนียงของเจ้าของภาษาโดยตรงได้เลยค่ะ

เบญได้เขียนรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ EnglishClass101 ว่าดีไหม เรียนยังไง ราคาเท่าไหร่ เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลย

หรือว่าดูวีดีโอข้างล่างนี้ที่เบญฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองกับคอร์สนี้ และรู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษของตัวเองได้พัฒนาขึ้นเยอะเลยค่ะ

เผื่อคุณจะสนใจ และก็ลองเอาวิธีที่เบญใช้เรียนไปทำตามดูได้เลยจ้า

หรือว่าถ้ายังไม่แน่ใจว่าชอบคอร์สนี้มั้ย เบญมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เรียนกับเจ้าของภาษาอีกหลายคอร์สที่เบญได้รวบรวมไว้ให้ค่ะ

บอกได้เลยว่าเป็นคอร์สที่เน้นการพูดภาษาอังกฤษตามสำเนียงเจ้าของภาษา และราคาถูกด้วยจ้า

2. อ่านภาษาอังกฤษแบบออกเสียง

การฝึกพูดภาษาอังกฤษเอง ก็ต้องฝึกการอ่านออกเสียง และฝึกลิ้นของเราให้คุ้นเคยกับการออกเสียงภาษาอังกฤษค่ะ

เพราะจริง ๆ ในภาษาอังกฤษมีหลายตัวเองเลย ที่ในอักษรเสียงภาษาไทยของเราไม่มี เช่นตัว r, l, v ซึ่งไม่ได้ออกเสียงอย่างที่เราเอาไปเทียบในอักษรภาษาไทย

คุณสามารถหาซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบมานั่งอ่านเล่น ๆ อาจจะเริ่มจากการอ่านวันละ 5 นาที และก็ค่อย ๆ เพิ่มไปเป็น 10, 15, 20 นาทีค่ะ

อาจจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับกีฬา เกมส์ แฟชั่น หนังสือการ์ตูน หรืออะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ

เพราะเราอยากทำให้การฝึกอ่านออกเสียงนี้ เป็นเหมือนงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่ทำแล้วมีความสุข ไม่งั้นมันจะทำได้ไม่นาน และก็จะเบื่อไปซะก่อน

เราอาจจะเริ่มจากง่าย ๆ ก่อน เช่น หนังสือนิทานของเด็ก หนังสือกีฬาของเด็ก และค่อย ๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นไปค่ะ

ซึ่งจริง ๆ แล้ว หนังสือจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน หรือมีภาษาไทยควบคู่ไปด้วยก็ได้ค่ะ แต่เป้าหมายของการหยิบหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมาอ่านในข้อนี้ก็คือ…

เราได้ฝึกลิ้นของเราในการออกเสียงภาษาอังกฤษ จะได้ช่วยให้เราพูดภาษาอังกฤษแบบไม่ติดขัดค่ะ ไม่ได้เน้นเรื่องทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง

ถ้าคุณไม่รู้ว่าคำนี้ออกเสียงยังไง ก็สามารถเข้าไปที่ Google Translate ใส่คำนั้น และกดฟังเวลาเค้าออกเสียง และออกเสียงตามได้ค่า

ส่วนหนังสือภาษาที่เบญชอบอ่านเพื่อช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้านก็คือ หนังสือนิทานภาษาอังกฤษออนไลน์ค่ะ

ถ้าคุณไม่มีหนังสือในดวงใจ หรือยังเลือกไม่ได้ ก็ลองเริ่มจากหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ แบบเบญได้ค่ะ เพราะมันอ่านง่ายจริง ๆ และก็มีหลายเรื่องให้เลือกด้วยจ้า

3. ฟังและร้องเพลงภาษาอังกฤษ

เบญเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนชอบฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นบน YouTube, Spotify หรือว่าโหลดลงบนโทรศัพท์ของเราเอง

เบญจะบอกข่าวดีให้ว่า นั่นเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เช่นกันค่ะ

เย้ ๆ สาวกชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษคงจะกำลังกรี๊ดอยู่ใช่มั้ยคะ ที่รู้ว่าสิ่งตัวเองทำเพลิน ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษเก่งได้เหมือนกัน

ลองสังเกตดูนะคะ ว่าต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้จักภาษาอังกฤษเท่าไหร่ ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนเลย เค้าก็สามารถร้องเพลงภาษาอังกฤษได้

แถมยังร้องสำเนียงได้เป๊ะมากกว่าคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาป็นปี ๆ ด้วยซ้ำ

เพราะว่าเค้าฟังและก็ร้องตามค่ะ เพราะฉะนั้นคุณเองก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่อาจจะทำ Playlist เพลงภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบฟัง และลองร้องออกเสียงตามไป

และสิ่งที่เบญจะแนะนำอีกอย่างนึงก็คือการร้องคาราโอเกะเพลงภาษาอังกฤษค่ะ เบญเชื่อว่าหลาย ๆ คนชอบร้องคาราโอเกะ

ต่อให้ตอนนี้จะไม่มีตู้คาราโอเกะเหมือนสมัยที่เบญยังเด็กแล้ว เค้าก็มีบน Youtube ค่ะ ที่คุณฝึกร้องที่บ้านได้ และเรียนภาษาอังกฤษไปในเวลาเดียวกันได้

ช่องที่เบญชอบบน YouTube ก็จะมี Sing King ค่ะ เค้าอัพเดทคาราโอเกะเพลงใหม่ ๆ ตลอดเลย และก็ฟรีด้วยจ้า

ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบร้องคาราโอเกะ เพลงภาษาอังกฤษ หรือมีช่องไหนที่ตัวเองชอบ ก็มาแบ่งปันกันไว้ในคอมเม้นได้เลยนะคะ

จะได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ยังไม่ได้ลองทำ ให้รู้ว่ามันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย ที่จะช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านได้จ้า

4. เรียนประโยคภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่คำศัพท์

เบญเคยเห็นหลายคน ที่เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ด้วยการท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะ ๆ ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

เพราะว่าแค่รู้คำศัพท์ ไม่สามารถทำให้เราสนทนาแบบเป็นประโยค หรือสนทนารู้เรื่องทั้งหมดได้ค่ะ

ถ้าคุณกำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าต้องฝึกประโยคภาษาอังกฤษด้วย ไม่ใช่แค่คำศัพท์ภาษาอังกฤษแค่ 1 คำ

เพราะว่ารู้แค่คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ไม่ช่วยให้เราแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้

และสิ่งที่เราต้องใช้ในการพูดสนทนาภาษาอังกฤษจริง ๆ ก็คือ ประโยคภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเลือกที่จะจำคำว่า take แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องเอามันไปใช้ยังไงตอนที่ตัวเองต้องพูดสื่อสารกับคนต่างชาติจริง ๆ

เบญแนะนำให้เลือกเรียนเป็นประโยคดีกว่าค่ะ เช่น Take it easy. หรือ Take your time. อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่านี่คือประโยคที่พูดไปแล้วเค้าเข้าใจแน่นอน

คอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษ EnglishClass101 ที่เบญแนะนำไปข้างต้น ก็เป็นอีกคอร์สนึงที่เบญรู้สึกว่า ช่วยให้เพื่อน ๆ พูดภาษาอังกฤษเป็นประโยคได้จริง ๆ ค่ะ

อ่านภาษาอังกฤษ

เพราะเค้าไม่ได้เน้นให้แค่คำศัพท์ แต่เค้าเน้นให้เราเรียนเป็นประโยค การสนทนาในแต่ละสถานการณ์ต่าง ๆ เราจะได้ไม่ต้องงงว่า ประโยคนี้ฉันเรียนไปแล้วต้องใช้ยังไง

5. ฝึกพูดสิ่งที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

คุณควรเรียนประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเรียนพูดภาษาอังกฤษของแต่ละคน

ถ้าเกิดว่าคุณอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษครั้งนี้ เพื่อไปใช้ที่ทำงาน ก็อาจจะหาประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในที่ทำงานมาฝึกพูดค่ะ

หรือว่าถ้าเกิดว่าอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษไปคุยกับเพื่อนต่างชาติ หรือแฟน ก็ควรเรียนประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ

หรือว่าถ้าจะฝึกพูดภาษาอังกฤษไปเพื่อท่องเที่ยว ก็ควรเรียนประโยคที่จะได้ใช่ในการท่องเที่ยวค่ะ

เช่นประโยคการถามหาสถานที่ ที่เราอยากไป ประโยคการบอกทาง ประโยคถามให้เค้าแนะนำสิ่งที่อร่อย ๆ ให้เราทาน ประมาณนั้นค่ะ

เพราะถ้าเรียนประโยคภาษาอังกฤษ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะนำไปใช้ สุดท้ายเมื่อออกไปใช้จริง ๆ คุณก็จะรู้สึกว่าประโยคที่เราเรียนมาไม่เห็นช่วยอะไรเลย

และนั่นเป็นที่มาของความคิดที่ว่า “ทำไมฉันเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ยังพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งสักที”

6. ฟังและพูดภาษาอังกฤษตามเรื่องสั้น ๆ

ถ้าคุณชอบดูหนังไม่ว่าจะเป็นบน Netflix หรือเว็บดูหนังสือ อยากแนะนำให้เลือกดูเป็นภาษาอังกฤษ และเปิดซัพภาษาอังกฤษตามไปด้วยค่ะ

ทำไมถึงเปิดซัพภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาไทย?

เพราะว่าถ้าเป็นคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เราอาจจะฟังภาษาอังกฤษจากหนังไม่ทัน 100% และการเปิดซัพภาษาอังกฤษคู่กันไปด้วย จะทำให้เรารู้ได้ว่าเค้าพูดว่าอะไร

แต่การเปิดซัพไทยเวลาดูหนัง จะทำให้เราเข้าใจว่าเค้าพูดว่าอะไรก็จริง แต่จะไม่ได้ช่วยให้เราเรียนภาษาอังกฤษได้มาก เหมือนกับดูหนังเป็นภาษาอังกฤษและก็เปิดซัพภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กันค่ะ

และคุณหาเรื่องสั้นภาษาอังกฤษจากบนอินเตอร์เน็ตก็ได้ ที่จะฝึกฟังภาษาอังกฤษ และพูดตามประโยคสั้น ๆ ตามเนื้องเรื่องนั้นค่ะ

เบญมีช่องยูทูปช่องนึงที่ตัวเองชอบ และก็ยังฟังอยู่ค่ะ เป็นนิทานภาษาอังกฤษ และก็มีซับภาษาอังกฤษให้เราอ่านตามอีกด้วยค่ะ

เป้าหมายของเราก็คือ การฝึกฟังเรื่องราวสั้น ๆ เราอาจจะหยุดหลังจากจบหนึ่งบรรทัด และฝึกพูดตาม

อีกหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การฝึกแต่งประโยคของเราเองจากเรื่องที่เราฟังค่ะ เช่น

ถ้าในเรื่องบอกว่า There were 3 little pigs living in the woods. เราก็อาจจะลองเปลี่ยนเป็น There was a fox living in the big house.

ซึ่งเราใช้หลักการแต่งประโยคเหมือนกับในเรื่องเลย แต่เอามาเปลี่ยนตัวละคร หรือสถานที่ค่ะ

หรือฝึกฟังเรื่องภาษาอังกฤษสั้น ๆ และลองจับประโยค และคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ว่าเราฟังมาเป็นคำว่าอะไร และถูกมั้ย

เหมือนกับในช่อง YouTube ของ Fight For Fluency ที่จะมีประโยคภาษาอังกฤษมาให้ฝึกพูดตามเรื่อย ๆ ค่ะ อย่าลืมเข้าไปติดตามกันด้วยนะคะ

และก็อย่าลืมที่จะฝึกเล่าเรื่องภาษาอังกฤษ ที่ตัวเองได้เขียนใหม่ด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณฝึกพูด และแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น

7. หาเพื่อนที่จะพูดภาษาอังกฤษด้วยได้

และวิธีสุดท้ายนี้เป็นวิธีที่ทุกคนน่าจะชอบมากที่สุดค่ะ 555 ก็คือการหาแฟน เอ้ย หาเพื่อนต่างชาติ ที่จะช่วยให้เราได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยได้

แต่ถ้าเกิดคุณรู้สึกว่า เอ๊ะ เราเหมือนไปหลอกใช้เค้าหรือเปล่านะ ไปเป็นเพื่อน เพื่อที่จะอยากฝึกภาษาอังกฤษ จริง ๆ ก็ไม่นะคะ

เพราะว่าเราจริงใจจริง ๆ ที่อยากจะรู้จักเค้า และการใช้ภาษาอังกฤษนั้นเป็นการสื่อสาร ระหว่างเราและเพื่อนต่างชาติ ก็เข้าใจได้ค่ะ

เพราะถ้าเราไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลย และเค้าก็ไม่พูดภาษาไทย เราควรคุยกันในภาษาอะไรดีคะ

แต่ว่าถ้าคุณไม่มีเพื่อนที่ช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยได้ เบญเองก็มีคอร์สที่จะมาแนะนำค่ะ เป็นคอร์สที่คุณเลือกเพื่อนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง และราคาถูก

เป็นเหมือนการเรียนภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยค่ะ แต่เราได้พูด-คุยสนทนาภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาจริง ๆ

คอร์สนี้มีเชื่อว่า iTalki เป็นอีกคอร์สที่เบญชอบมาก ๆ และรู้สึกว่ามันช่วยพัฒนาการพูด และการฟังภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นมาก

เพราะคุณจะได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวผ่านวีดีโอคอล

เข้าไปลองหาคนที่อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้เลยนะคะ บอกได้เลยว่ามีให้เลือกเยอะมาก และมาจากหลายประเทศด้วยค่ะ ที่ iTalki.com

หรือว่าเข้าไปอ่านรีวิวที่เบญได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับ iTalki ให้ดูก็ได้

แค่ฝึกพูดภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมง 2-3 ครั้ง/อาทิตย์ ก็จะพูดภาษาอังกฤษได้เก่งแบบติดจรวจเลยจ้า

ถ้าวิธีที่เบญนำมาฝากกันวันนี้เป็นประโยชน์กับคุณ ก็อย่าลืมเอาไปทำ และคอมเม้นบอกกันไว้บ้างนะคะ

หรือว่าถ้ามีวิธีอื่นที่คุณทำแล้วได้ผล ก็แบ่งปันเบญกับเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย

ขอให้คุณพูดภาษาอังกฤษเก่งเร็ว ๆ นะคะ สู้ ๆ 🙂

[NEW] ถอด 4 เทคนิคเรียนภาษาให้เป๊ะเวอร์ สไตล์ ‘คิมนัมจุน’ หรือ RM แห่งวง BTS | วิธี ฝึก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

Dek-D

ถ้าพูดถึงไอดอลที่มีความโดดเด่นด้านวิชาการ และมีความสามารถด้านภาษาที่เป็นเลิศ แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของ ‘คิม นัมจุน’ หรือ RM แห่งวง BTS บอยกรุ๊ปจากเกาหลีที่ตอนนี้ดังไกลระดับโลก ซึ่งต้องบอกเลยว่าเค้าเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษมากๆ ยิ่งการออกเสียงและสำเนียงคือเหมือน native speaker มาเองเลยครับ ในตอนแรกพี่เองก็คิดว่าเค้าน่าจะเติบโตที่ต่างประเทศ หรือไม่ก็เรียนจบจากนอกแน่ๆ แต่ความจริงแล้วคือ เค้าเรียนจบมัธยมและมหาวิทยาลัยที่เกาหลี และไม่ใช่โรงเรียนอินเตอร์ด้วย ว่าแล้วเรามาย้อนประวัติการศึกษาของนัมจุนกันสักหน่อยว่าเค้าเรียนที่ไหนบ้างนะ    

 

ประวัติการศึกษา & ผลงานวิชาการ

ป.ตรี: เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยออนไลน์ ‘Global Cyber University (글로벌사이버대학교)’ ในสาขา Entertainment and Broadcasting (ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยนี้เพิ่มเติมที่
 

: เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยออนไลน์ ‘Global Cyber University (글로벌사이버대학교)’ ในสาขา Entertainment and Broadcasting (ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยนี้เพิ่มเติมที่ www.dek-d.com/studyabroad/55082/

ป.โท: เมื่อไม่นานมานี้ นัมจุนได้เข้าเรียนต่อระดับ MBA หรือ ปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจที่ Hanyang Cyber University (한양사이버대학교 대학원) ในสาขา Advertising Media ซึ่งหนุ่มๆ วง BTS อีก 6 ทั้ง จิน ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี ก็เรียนต่อที่นี่อยู่เช่นกัน (ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยนี้เพิ่มเติมที่
 

: เมื่อไม่นานมานี้ นัมจุนได้เข้าเรียนต่อระดับ MBA หรือ ปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจที่ Hanyang Cyber University (한양사이버대학교 대학원) ในสาขา Advertising Media ซึ่งหนุ่มๆ วง BTS อีก 6 ทั้ง จิน ชูก้า, เจโฮป, จีมิน, วี ก็เรียนต่อที่นี่อยู่เช่นกัน (ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยนี้เพิ่มเติมที่ www.dek-d.com/studyabroad/50490/

สอบ TOEIC ตอนเรียนอยู่ม.2 โดยได้คะแนนไป 850 จาก 990 ซึ่งเค้าเองไม่เคยเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมาก่อน อาศัยเรียนในห้องเรียนและศึกษาด้วยตัวเอง และนอกจากนี้แล้วนัมจุนยังเคยสอบ TEPS (The Test of English Proficiency developed by Seoul National University) ซึ่งเป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษแบบหนึ่งซึ่งนิยมใช้ในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในเกาหลีใต้ โดยนัมจุนได้คะแนนไปถึง 797 คะแนน จากคะแนนเต็ม 990 หรืออยู่ในระดับ 2+ ซึ่งถือว่าสูงมากๆ สำหรับเด็กมัธยม (สูงสุดคือระดับ 1+)
 

– นัมจุนเคยตอนเรียนอยู่ม.2 โดยได้คะแนนไป 850 จาก 990 ซึ่งเค้าเองไม่เคยเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมาก่อน อาศัยเรียนในห้องเรียนและศึกษาด้วยตัวเอง และนอกจากนี้แล้วนัมจุนยังเคยสอบ TEPS (The Test of English Proficiency developed by Seoul National University) ซึ่งเป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษแบบหนึ่งซึ่งนิยมใช้ในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในเกาหลีใต้ โดยนัมจุนได้คะแนนไปถึง 797 คะแนน จากคะแนนเต็ม 990 หรืออยู่ในระดับ 2+ ซึ่งถือว่าสูงมากๆ สำหรับเด็กมัธยม (สูงสุดคือระดับ 1+)

1. ดูซีรีส์/ภาพยนตร์เพื่อฝึกภาษา


         ถือว่าเป็นวิธีสุดคลาสสิกสำหรับคนที่เริ่มเรียนภาษาเลยก็ว่าได้ นัมจุนเคยเผยในรายการ “ตอนที่ผมเป็นเด็ก บรรดาผู้ใหญ่ เหล่าผู้ปกครองที่บ้านเกิดผม มักชอบให้เด็กๆ หรือลูกๆ ของเค้าดูซีรีส์เรื่อง Friends ซึ่งจริงๆ ในตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะว่าผมไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวละครนั้นพูดว่าอะไรบ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณแม่ของผมที่ให้ผมดูแบบมีซับภาษาเกาหลีและมีซับภาษาอังกฤษด้วย     หลังจากนั้นผมก็เริ่มติดซีรีส์เรื่องนี้แบบงอมแงม หลงใหลทั้งเนื้อเรื่องและคาแรกเตอร์ตัวละครมากขึ้น ซึ่งแม่ของผมก็ซื้อ DVD ของซีรีส์เรื่องนี้ให้ผมดูครบทุกซีซั่น และผมก็ดูมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนับไม่ถ้วน และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ผมเรียนภาษาอังกฤษได้ดี เพราะบทละครนั้นไม่ซับซ้อนและฟังเข้าใจได้ง่ายด้วย” 
 

ถือว่าเป็นวิธีสุดคลาสสิกสำหรับคนที่เริ่มเรียนภาษาเลยก็ว่าได้ นัมจุนเคยเผยในรายการ The Ellen Show รวมถึงให้สัมภาษณ์กับ Yahoo! Music ว่า เค้าเริ่มฝึกภาษาจากการดูซีรีส์อเมริกันเรื่อง Friends

ซีรีส์เรื่อง Friends

 

2. เพราะ #นัมจุนอ่าน หนังสือนอกเวลา


 

1984 โดย จอร์จ ออร์เวล (George Orwell

) เป็นอีกเล่มที่นัมจุนเคยแนะนำตอนให้สัมภาษณ์กับ KBS  ซึ่งเล่มนี้เป็นนิยายแนวตีแผ่สังคมแบบดิสโทเปีย (Dystopia) หรือสังคมที่มีการปกครองด้วยระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ รัฐบาลจะคอยจับตาดูประชาชนทุกฝีก้าวประชาชนไม่ต้องคิดเป็น แค่ทำตามคำสั่งที่รัฐบาลสั่งให้ทำก็พอ… และเหตุผลที่หนังสือเล่มนี้มักใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับเด็กอเมริกัน เพราะว่าจะช่วยทำให้เด็กๆ จะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีอิสระในการแสดงความเห็นและการตัดสินใจด้วยตัวเอง หลายคนจึงมักได้แรงบันดาลจากเรื่องนี้ไปสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง เช่นเดียวกับวง BTS ที่เคยหยิบข้อความจากหนังสือ 1984 เป็น background ลงในโปสเตอร์คอนเสิร์ต BTS Begins Concert เมื่อปี 2015 โดยข้อความนั้นบรรยายไว้ว่า “War is Peace, Freedom is Slavery, Ignorance is Strength” มีความหมายว่า “สงครามคือสันติภาพ, เสรีภาพคือความเป็นทาส, ความเขลาคือพลัง” (เรื่อง 1984 มีเวอร์ชันภาพยนตร์ด้วยนะ ลองไปหาดูกันได้)
 


 

Catcher in the Rye

หรือชื่อในไทย ‘จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น’ โดย เจ.ดี. ซาลิงเจอร์ (J.D.Salinger) ต้องบอกว่าหนังสือนอกเวลาอเมริกันเล่มนี้เป็นเล่มที่โดนแบนจากห้องสมุดมากที่สุด โดนผู้ปกครองร้องเรียนมากที่สุด และได้รับเลือกให้เป็นหนังสือนอกเวลามากที่สุดอีกเช่นกัน แค่ประวัติก็คือน่าสนใจมากๆ แล้วใช่มั้ยครับ 5555 นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาคร่าวๆ เล่าถึงชีวิตเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังสับสนในชีวิต และต้องก้าวผ่านระหว่างความเป็นวัยรุ่น ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ โดยระหว่างทางก็เผลอทำเรื่องเหลวไหลไปบ้าง และที่โดนแบนบ่อยๆ เพราะว่ามีการใช้คำหยาบเยอะ และยังมีเรื่องเพศเข้ามาด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกเล่มที่น่าอ่านมากๆ และให้ข้อคิดที่ดีเลยล่ะ เพราะนิยายเรื่องนี้มันเป็นแนว coming of age ที่พูดถึงการก้าวผ่านระหว่างความเป็นวัยรุ่นเข้าสู่วัยที่ต้องรับผิดชอบอะไรมากขึ้น และต้องคิดให้ได้มากขึ้น และทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น
 

 เห็นแต่ละเรื่องที่นัมจุนอ่านแล้วไม่แปลกใจเลยที่ผลงานแต่ละเพลงของวง BTS ที่นัมจุนและเหล่าเมมเบอร์สร้างสรรค์นั้นล้วนแฝงไปด้วยปรัชญาดีๆ ทั้งนั้น เพราะนอกจากความบันเทิงแล้วยังช่วยให้เราได้ข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตอีกด้วย น่าชื่นชมมากๆ เลยครับ (แนะนำ 10 หนังสืออ่านนอกเวลาที่เด็กมัธยมอเมริกันทุกคนต้องเคยเจอ
 

(แนะนำ 10 หนังสืออ่านนอกเวลาที่เด็กมัธยมอเมริกันทุกคนต้องเคยเจอ www.dek-d.com/studyabroad/43012/

3. มีเวลาว่างก็ฝึกทำข้อสอบ For Fun!

Credit: Weverse และ TMI News

4. เทคคอร์สสั้นที่ต่างประเทศ

RM @นิวซีแลนด์ (ไม่ใช่สมัยไปเรียนภาษานะครับ ^^)
Credit: BTS’ official Twitter


 “What’s your name? Speak yourself.”  ของนัมจุนนั้นดีมากๆ และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนที่กำลังมีปัญหาชีวิต คนที่อาจหลงทางผิด และเรียนรู้ที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่และยอมรับในข้อผิดพลาดและการเป็นตัวของตัวเอง  
 

ยอมรับตามตรงเลยว่าพี่อาจไม่ได้เป็นแฟนคลับของ BTS แบบจริงจัง แต่ก็คอยติดตามผลงานของหนุ่มๆ อยู่ตลอด (หรือเป็น ARMY แล้วนะ555) และก็ชอบดูและฟังตอนที่นัมจุนให้สัมภาษณ์หรือพูดเป็นภาษาอังกฤษมากๆ การออกเสียงคือชัดเจนและดูโปรเหมือน native speaker มากๆ และชื่นชอบเป็นพิเศษตอนที่นัมจุนได้เป็นตัวแทนของวงพูดกล่าวสุนทรพจน์ใน

งานประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อปี 2018

ซึ่งคำสุนทรพจน์ของนัมจุนนั้นดีมากๆ และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนที่กำลังมีปัญหาชีวิต คนที่อาจหลงทางผิด และเรียนรู้ที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่และยอมรับในข้อผิดพลาดและการเป็นตัวของตัวเอง


Learn English through story Beauty and the Beast (level 1)


A rich merchant had three sons and three daughters. One of the children, daughter Beauty, was very special. She had a kind heart and was so beautiful, that everybody loved her…
…It was a terrible mistake because it angered the owner of this castle. Now old man had to pay by his death. Watching video now!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Learn English through story Beauty and the Beast (level 1)

เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)


แม็กซ์มีวิธีเก่งภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ และสนุกๆมาบอกต่อครับ
รับร้องพูดและเก่งได้เลย แต่ต้องทำทุกวันนะ ทำให้สม่ำเสมอ
แม็กซ์เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^
ขอขอบคุณร้านสวยๆ : ON TIME CUISINE ชั้น3 Siamdiscovery
maxedout สอนแต่งตัวผู้ชาย เก่งอังกฤษ
ติดตามกันครับ อัปเดททุกสัปดาห์!!
facebook : https://www.facebook.com/maxedoutstyle/
instagram : https://www.instagram.com/maxedout_style/?hl=th
: https://www.instagram.com/maxdetter_/?hl=th

เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)

ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1


ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน
นักเรียนจะได้ยินเสียงประโยคสนทนาภาษาอังกฤษสั้นๆที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำ 2 ครั้ง (แบบไม่มีซับ) แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินอีกครั้งแบบมีซับ
นักเรียนลองฝึกฟังดูนะคะ ว่าพอจะฟังออกไหม ตรงกับที่เราเข้าใจไหม

ฝึกพูด 100 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://www.youtube.com/watch?v=NEOO6wgqZMw\u0026t=837s
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ประโยคสั้นๆง่ายๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน miniconversation
https://www.youtube.com/watch?v=_mdqpBLMEkA
Playlist ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษคล่องด้วยตนเอง: ระดับ Beginner (พื้นฐานในชีวิตประจำวัน)
https://www.youtube.com/playlist?list=PLMfgvKgVmGD7V56x_zgAIPsF0fdrLmF5x

สนใจเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษกับ Kru.First
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.krufirst.com
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @englishkrufirst

ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1

เทคนิคฝึก \”ภาษาอังกฤษ\”


Cambly เปลี่ยน promotion code ที่ให้มานะครับ
รบกวนใช้สองตัวนี้แทนนะครับ:
khunaug สำหรับลองเรียนฟรี 15 นาที
khunaug10 สำหรับลด 10% ทุกแผนที่เลือกเรียน
สามารถใส่ในคอมหรือ app cambly ในมือถือก็ได้นะครับ
(มีขั้นตอนให้ดู ในนาทีที่ 12:32 ของวิดีโอครับ)

เทคนิคฝึก \

วิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ!


การฝึกฟังภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่คนเรียนภาษาอังกฤษเกือบทุกคนบอกว่ามันยาก ฟังเท่าไหร่ก็ฟังไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มต้นฟังยังไงถึงจะรู้เรื่อง คลิปนี้ผมเลยเอาเทคนิควิธีฝึกการฟังภาษาอังกฤษที่ผมเคยทำตั้งแต่ตอนที่ยังเริ่มฝึกใหม่ๆ มาฝาก มันง่ายจริงๆ และทำให้เราฟังออกได้เลยตั้งแต่ครั้งแรก
ฝึกฟังภาษาอังกฤษ ฝึกฟังอังกฤษ
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
Facebook: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Instagram: https://www.instagram.com/lactawarakorn
ติดต่องาน
Email: [email protected]
สมัครเรียน
Line: https://lin.ee/5uEdKb7h

วิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ วิธี ฝึก ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *