49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา

49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา   

1. คุณไม่จำเป็นต้องสอบ TOEFL, GRE, GMET ให้ถึงเกณฑ์ก็ได้  ยังมีมหาวิทยาลัยอีกมากให้คุณเรียนภาษาที่นั่นก่อน  แล้วสอบให้ผ่านในระดับที่เขาพอใจ  ซึ่งเป็นการสอบของมหาวิทยาลัยเอง
            ดังนั้นคุณอาจคิดว่าไปแล้วน่าจะสอบไม่ได้หรือเปล่า  แต่ในความจริงแล้ว  เมื่อเราไปอยู่เราก็จะซึมซับมันไปเองตลอด  ภาษาเราจะแกร่งขึ้นเอง  ดีกว่าอยู่เมืองไทย  แล้วเรียนภาษาอังกฤษ  ออกจากห้องไม่มีภาษาอังกฤษเลย ไทยล้วนๆ แล้วมันจะซึมได้ไง
   
            2. การหาที่พักล่วงหน้าใช่ว่าจะดีเสมอไป  เพราะต้องยอมรับว่า  เราไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน  ดังนั้นไม่แน่ว่าเมื่อไปถึงที่อยู่แถบนั้น  ถูกกว่า  ดีกว่า  อาจรออยู่ตรึม  ที่เราจองไว้เป็นแบบห่วยๆ ก็ได้
            ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดน่าจะยังไม่ต้องจอง  แต่เข้าไปแล้วหาที่พักชั่วคราวราคาไม่แพง  อย่างเช่น Dorm ของมหาวิทยาลัย  หรือโรงแรมถูกๆ ก่อน  ค่อยหาที่พักจริง
   
            3. อย่าแปลกใจถ้าคุณไปถึงที่นั่นแล้วพบว่ามีแต่คนเอเชีย  อย่าลืมว่าคนเอเชียที่ไปเรียนต่ออเมริกามีจำนวนมาก (เผลอๆ มากกว่า คนอเมริกาที่มหาวิทยาลัยอีก!!)
   
            4. การทำงานแบบลักลอบทำ เช่น ทำร้านอาหารไทย  อาจให้ค่าตอบแทนที่พอจ่ายค่าห้องพัก  แต่ต้องแลกมาด้วยการพบกับปัญหามากมาย  เช่น  ปัญหาจากเจ้าของร้านขี้บ่น  ปากจัด หรือจากลูกค้างี่เง่า
   

5. การทำงานแบบลักลอบทำบางอย่าง  ถ้าคุณรู้จักคนที่เคยทำอยู่ก่อนหน้า  คุณอาจจะได้ค่าเล่าเรียนแถมมาด้วย  เช่น  การทำงานในปั๊มน้ำมันมีทุนการศึกษาให้ด้วย (ค่าเทอม ค่าหนังสือ จ่ายให้หมดเลย)
   
          6. อาหารจีนแบบซื้อกลับบ้าน  จะใส่กล่องกระดาษ  และมีหูหิ้วเป็นลวด
   
            7. อย่าแปลกใจ? คนไปเรียนอเมริกาแล้วอ้วนกลับมา  เพราะอาหารในอเมริกาให้เยอะมาก  ถ้าคุณเป็นคนกินง่าย  กินเก่ง  อ้วนชัวร์!
   
          8. ถึงแม้อาหารของอเมริกาจะทำให้อ้วนได้ง่าย  แต่ก็ผ่านการควบคุมคุณภาพสูง  ดังนั้นจึงปลอดภัย  สะอาด  แม้แต่เรื่องสารพิษในผัก  หรือผลไม้ก็มีมาตรการเข้มงวด
           

10. ถ้าคุณได้มีโอกาสไปนิวยอร์ก  คุณจะได้เห็น Starbuck เยอะ  และถี่เหมือนเห็น Seven11 บ้านเราเลย
   
            11. ถ้าเมืองที่คุณอยู่หิมะตก  คุณอาจเห็นวันที่รถจอดอยู่เต็มถนน  หิมะสูงจนเปิดประตูรถไม่ได้!!!
   
            12. ถ้าเมืองที่คุณอยู่ติดทะเล  คุณอาจจะได้กินกุ้งลอปเสตอร์ตัวโต  ราคาไม่แพงมากเท่าเมืองไทย  แต่น้ำจิ้มเป็นเนยเหลว!!

            13. การตัดผมในอเมริกาคิดค่าตัดแพง  บางคนที่ไปอยู่จึงมักไม่ตัดผม  ปล่อยให้ยาว หรือให้เพื่อนตัดให้  หรือแม้กระทั่งตัดเอง  เบี้ยวๆ ไปบ้าง  ตามแต่ละคน

14. เน็ตไฮสปีดของอเมริกา  เร็วมาก!

            15. ถ้าคุณติด Cable TV แล้วคุณอยากดูช่องได้เยอะๆ คุณสามารถหาซื้อตัว Box ที่ถอดสัญญาณช่องที่กันไว้ได้ตามเวบไซต์
   
          16. ร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ในอเมริกา  จะคล้ายๆ โรงจำนำเมืองไทย  คือมีกระจกปิดเข้าไปสั่ง  มีช่องส่งอาหาร  คนซื้อกับคนขายมีกำแพงกั้น (เพื่อความปลอดภัย)

            17. รถมือสองที่อเมริการาคาถูกมาก  ควรหาซื้อตามที่ประกาศในหนังสือพิมพ์ แล้วไปลองขับเองก่อนการตัดสินใจ
   
            18. การสอบใบขับขี่ที่อเมริกา  ถ้าเจอสี่แยกแล้วไม่มี Stop Sign อย่าหยุด  หรือแม้แต่ชะลอ  เพราะจะทำให้คุณสอบตก  เพราะเขาถือว่าไม่มี  ไม่ต้องหยุด  แต่คนไทยขืนไม่หยุดโดนชนได้ง่ายๆ
   
            19. การขับรถที่อเมริกา  เมื่อเป็นป้าย Stop ให้หยุด  แม้ถนนจะโล่งมากก็ตาม

   
            20. เมื่อมีคนเดินสวนแล้วแบมือให้แสดงว่ามันมาขอตังค์  สังเกตแววตา  ถ้าตาแข็งกร้าวก็ระวังตัวหน่อย  เพราะถ้าไม่ให้อาจเกิดอันตรายถึงชีวิต
   
            21. การไปอยู่ต่างถิ่น  ทำให้มีโอกาสพบประสบการณ์แปลกๆ มากมาย  ดังนั้นถ้ามีแฟนอยู่แล้ว  และไม่อยากเลิกกัน  ก็ต้องหมั่นโทรกลับไทยบ่อยๆ ค่าโทรถูกกว่าไทยโทรไปอเมริกา (ยิ่งตอนนี้น่าจะยิ่งโคตรถูก)
   
            22. อย่ากิเลสเยอะ  เช่น  เวลาไปพกโน้ตบุ้คไป 1 เครื่องเนี่ย  รู้ไหม? ทำได้ทุกอย่างเลย โน้ตบุ้คต่อเข้า Port แปลงสัญญาณทีวีเอาไว้ดูทีวีก็ได้  ทำงานก็ได้  เล่นเกมส์ก็ได้  เล่นเน็ตก็ได้ (ยกเว้นจะทำหลายอย่างพร้อมๆ กันก็ต้องซื้อเพิ่ม)

            23. สวรรค์ของคนกินเก่งคือบุฟเฟต์อาหารจีน  ราคาไม่แพงมาก ในแต่ละเมืองมักมี
   
            24. ระวังคนไต้หวันยืมเงิน  เพราะคุณอาจไม่ได้คืน

25. ระวังคนอินเดียตีสนิท  เพราะเขาอาจหวังพึ่งคุณขับรถไป Mall ต่างๆ (เพราะคุณมีรถ)
   
            26. ควรหมั่นเข้าห้องสมุด  เพราะบรรยากาศดี  เงียบ  และมักเปิดจนดึกดื่น (บางที่อาจเปิด 24 ชั่วโมง)
   
            27. การไปเที่ยวเมื่อมีโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ  คนเราไม่ได้มีสิทธิ์ไปอยู่ต่างประเทศบ่อยๆ ถ้าได้ไป  ก็อย่าได้เสียดายเงินมาก  ไปเที่ยวบ้าง (เลือกประหยัดได้)
      
            28. ถ้าคุณได้มีโอกาสทำงานแคชเชียร์ปั๊มน้ำมัน  คุณจะได้มีโอกาสฝึกการพูด “Hello”, “Have a nice day”, “Over there” บ่อยๆ -*-
   
            29. ถ้าคุณได้มีโอกาสกวาดหิมะ  คุณจะรู้ว่าการใส่เสื้อหนาวหนาๆ ถือพลั่ว  สวมบู้ต เพื่อออกไปกวาดหิมะเปิดถนนนั้นเหนื่อยมากกกก  แต่เหงื่อไม่ออกซักหยด!
   
            30. ถ้าคุณได้มีโอกาสไปเดินตาม Outlet ต่างๆ ที่มีอยู่ชานเมืองมากมาย  คุณจะได้ของมียี่ห้อ  แต่ตกรุ่น  และขายราคาถูกกว่าปกติ  และมักใหญ่มากๆ
   
            31. ถ้าคุณชอบซื้อของแบบประมูล  หรือของจากบ้าน  เมื่ออยู่อเมริกา  จงใช้ ebay เหมือนเป็นห้างส่วนตัว
   
            32. ถ้าที่ที่คุณเรียนมีโรงยิม  ควรไปใช้บริการบ่อยๆ เพราะจะได้ออกกำลัง  แลกกับอาหารที่ทำให้คุณอ้วนมากมาย
   
            33. ถ้าคุณอยากทานสเต็กส์ทำเอง  คุณไปหาซื้อเนื้อดีๆ มาปิ้งกินด้วยเครื่องปิ้ง ยี่ห้อ George Foreman ได้
   
            34. ถ้าคุณชอบเล่นดนตรี  เมื่อคุณได้ที่พักแล้ว  คุณสามารถออกไปหาซื้อพวกกีตาร์ หรืออะไร  มาไว้ใช้ผ่อนคลายความเครียดต่างแดนได้  พวกมือสองมีวางขาย
   
            35. ถ้าคุณชอบดูหนัง  คุณซื้อตั๋วสำหรับดูเรื่องเดียว  ตั๋วที่อเมริกาไม่มีที่นั่งกำหนด  คุณนั่งตรงไหนก็ได้  ไม่มีคนตรวจข้างในด้วย  ดูจบคุณก็เดินออกแล้วเข้าอีกโรงนึงก็ได้  ไม่มีคนคอยว่า (โกงนั่นเอง)
   
            36. ถ้าคุณชอบเดินร้านหนังสือ  ขอบอกว่าร้านหนังสือที่อเมริกา  อย่าง Barns and Nobel ใหญ่มากๆ
   
            37. การเดินทางไปอเมริกา นั่งเครื่องบินนานมาก

            38. Redbull (กระทิงแดงของไทย) หาซื้อได้ทั่วไปในอเมริกา!!!  แต่ว่าแก้ง่วงได้แรงกว่าของไทยนะ
 
            39. คุณไปนั่งริมทะเลที่อเมริกา  เอาอะไรไปทำบาร์บีคิวได้  แต่ห้ามเอาเหล้าไปกิน ผิดกฎหมาย  โดนจับได้
           
            40. เวลาที่คนอเมริกาเปลี่ยนของใหญ่ๆ เช่น เตียง เก้าอี้โยก โซฟา  เขาจะเอาวางไว้หน้าบ้านเลย  เพื่อรอให้คนมาเก็บ  เราคนไทยก็ขับรถตระเวนเก็บมา (ใช้ต่อ) ฮาๆ

            41. บางครั้ง  ถ้าไม่อยากทิ้งของเก่าๆ คนอเมริกาจะเอามาขาย  เรียก Garage Sales หรือ Flee Market เหมือนเปิดท้ายขายของบ้านเรา
   
            42. ร้านอาหารไทยในอเมริการาคามักแพง  และหารสเผ็ดไม่ค่อยได้

            43. ถ้าคุณมีเพื่อนมาช่วยแชร์ค่าเช่าห้องจะดีมาก (ควรเป็นเพศเดียวกันนะ)
      
            44. ไม่ผิดปรกติ  ถ้าพบว่าคนบางคนที่เช่าห้องอยู่ในอเมริกา  แล้วไม่เคยทำความสะอาดห้องเลยเป็นปี
   
            45. คนอเมริกันโดยมากมักอ้วน

          46. การใช้รถอย่าลืมไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วย  เดี๋ยวเครื่องพัง  แต่น้ำกลั่นไม่ค่อยเติม  เพราะแบตเตอรี่ที่อเมริกาเป็นแบบแห้ง  ไม่ต้องเติมน้ำ

            47. รถคุณต้องเติมน้ำยา Coolant ด้วย  เพราะจะช่วยรักษาอุณหภูมิของเหลว  เนื่องจากอากาศในอเมริกา มีหนาวมาก ร้อนมาก

            48. อเมริกามีบริการขนของเช่ารถ  เช่น  บริษัทยูฮอ  คนนิยมทำอะไรเอง  เพราะค่าแรงแพงมากๆ ค่าครองชีพสูง

            49. ถ้าคุณมีโอกาสได้มาเรียนที่อเมริกา … จงมา! มันคือประสบการณ์ที่ดีของชีวิตแน่นอน

————————————————————–

PS.   หากมีรัก..ย่อมมีหวัง

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน เชื่อว่าถ้าพูดถึงการเรียนต่อต่างประเทศ ‘สหรัฐอเมริกา’ คงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลายคนสนใจและใฝ่ฝันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นประเทศใหญ่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมแล้ว อเมริกายังมีธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของคุณภาพการศึกษาที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก แถมทางรัฐบาล มหาวิทยาลัย รวมไปถึงสถาบันชั้นนำ เขาก็ต่างพากันจัดหาทุนเรียนฟรีมาให้นักศึกษาต่างชาติกันเพียบ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตาม พี่ปุณ ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีทุนเรียนต่ออเมริกาไหนถูกใจน้องๆ บ้าง!

Photo credit: unsplash.com

Fulbright Foreign Student Program in USA

ทุนแรกนี้เป็นทุนเต็มจำนวนจากทางรัฐบาลอเมริกาที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีความสนใจอยากเรียนต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกได้มาศึกษาหาความรู้ในหลักสูตรการเรียนการสอนหลากหลายสาขาวิชา รวมถึงหาประสบการณ์จากงานวิจัยที่สามารถนำไปต่อยอดให้เป็นประโยชน์ได้ในอนาคตอีกด้วย ทุนนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือค่าประกันสุขภาพ เขาก็จัดมาให้ครบ เรียกได้ว่าไปตัวเปล่าแทบจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลยก็ว่าได้ค่ะ

ใครที่ยังลังเลและไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสู้คนอื่นไหวไหม พี่ก็ขอบอกเลยว่าทางรัฐบาลเขามีทุนมอบให้มากถึง 4,000 ทุนต่อปี โอกาสมาถึงหน้าประตูขนาดนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้แล้วค่ะ

สมัครทุน คลิก

New York City
Photo credit: unsplash.com

Humphrey Fellowship Program

อีกหนึ่งทุนดีๆ จากรัฐบาลอเมริกาที่มองหานักศึกษาต่างชาติผู้มีความผู้นำและคำนึงถึงจุดมุ่งหมายและปัญหาที่อเมริกากำลังประสบอยู่เพื่อเข้ามาศึกษาและร่วมพัฒนาไปพร้อมกัน โดยทุนนี้จะมีหนึ่งเงื่อนไขว่าเมื่อน้องๆ สมัครทุนไปแล้วจะไม่สามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่จะไปศึกษาต่อได้ แต่ผู้ประเมินทุนจะเป็นคนคัดสรรสถาบันที่มีความเหมาะสมทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสาขาวิชาที่น้องๆ สนใจมาให้เอง ซึ่งสาขาที่เปิดรับสมัครก็จะมีทั้ง Agriculture and Rural Development, Communications, Finance and Banking, Law and Human Rights, Technology Policy and Management และอีกหลากหลายสาขาที่น่าสนใจ 

ใครกำลังเตรียมตัวเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีและมองหาทุนเต็มจำนวนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้เกือบครบทุกด้านแบบทุนนี้ พี่แนะนำให้เข้าไปติดตามการเปิดรับสมัครทุนรอบต่อไปทางเว็บไซต์ได้เลย!

สมัครทุน คลิก

Photo credit: Berea College website

Berea College Scholarships 

มาต่อกันกับทุนเรียนฟรีจากหนึ่งในมหาวิทยาลัยดังของอเมริกาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1855 หนึ่งในความพิเศษของสถาบันนี้ก็คือการมอบ “ทุนเต็มจำนวน” ซึ่งจะครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก และค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกคนตลอด 1 ปีแรกที่เข้ามาเรียน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาในประเทศหรือนักศึกษาต่างชาติก็ได้รับโอกาสเท่ากันหมด ขอเพียงแค่ผู้รับทุนจะต้องมีผลสอบ ACT อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 และได้เกรดเฉลี่ย (GPA) 3.0 ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ

สำหรับใครที่ยังกังวลเรื่องค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในปีถัดๆ ไป ทางมหาวิทยาลัยเขาก็จะมีเงินสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับคนที่มีผลการเรียนดี แถมยังมีการจัดหางานพิเศษให้ทำในช่วงซัมเมอร์อีกด้วยนะคะ น้องคนไหนเริ่มเปิดใจให้ทุนนี้ก็สามารถเข้าไปศึกษาหลักสูตรการเรียนการสอนและวิธีการสมัครรอไว้ได้เลย

สมัครทุน คลิก

Photo credit: Columbia College website

Columbia College Scholarships 

ใครเรียนดีมีความสามารถจะต้องถูกใจกับทุนนี้เป็นที่สุด! เพราะทาง ‘Columbia College’ เขามีทุนเรียนฟรีตั้งแต่ 15 – 100% ให้กับเด็กเก่งที่มีคะแนนสอบสูงขึ้นไปตามลำดับ โดยในเดือนมกราคมของทุกปีทางมหาวิทยาลัยจะจัดการแข่งขันวัน ‘Scholarship Day’ เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักศึกษา 10 คนที่จะได้รับทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนในปีการศึกษาแรกที่เข้าเรียน 

การคัดเลือกจะแบ่งออกเป็นพาร์ตข้อเขียนและการสัมภาษณ์ ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าชิงที่นั่งได้จะต้องมีเกรดเฉลี่ย (GPA) 3.6 ขึ้นไปและต้องทำคะแนน SAT ให้ถึง 1260 ด้วย น้องคนไหนมีผลการเรียนและผลสอบตามเกณฑ์ต่อไปนี้แล้ว อย่าทิ้งโอกาสไปตามล่าหาประสบการณ์ที่อเมริกากันนะคะ

สมัครทุน คลิก

Photo credit:  New York University Wagner website

New York University Wagner Scholarships 

‘นครนิวยอร์ก’ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและจัดว่าเป็นศูนย์กลางทั้งในทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม และความบันเทิง เรียกได้ว่าใครชอบบรรยากาศเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้ารับรองว่าไม่ผิดหวัง และหนึ่งในมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองนี้ก็คือ ‘New York University Wagner หรือ NYU Wagner’ มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีทุนเรียนฟรีให้นักศึกษาต่างชาติเลือกสมัครกันได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นทุนค่าเล่าเรียนบางส่วนหรือทุนเต็มจำนวนก็ตาม

‘Dean’s Scholarship’ ก็เป็นอีกหนึ่งทุนเต็มจำนวนที่น่าจับตามอง ทุนนี้จะอาศัยการคัดเลือกจากการกรอกใบสมัคร โดยน้องๆ สามารถเลือกระดับการศึกษาและสาขาวิชาที่สนใจและต้องการเรียนต่อได้ตามใจชอบ ใครสนใจก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลของทุนประเภทนี้หรือเลือกสมัครทุนประเภทอื่นที่เหมาะกับความสามารถของตนเองได้ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเลย!

สมัครทุน คลิก

Photo credit:  Wesleyan University  website

Wesleyan University Scholarships 

ในทุกๆ ปี ‘Wesleyan University’ จะมีการจัดหาเงินสนับสนุนกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐไว้ให้เป็นทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติที่ต้องการจะมาหาความรู้และล่าใบปริญญาในดินแดนแห่งเสรีภาพอย่างอเมริกา ซึ่งหนึ่งในทุนที่เป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจอย่างมากก็คือ ‘Freeman Asian Scholars Program’ ทุนนี้เป็นทุนเต็มจำนวนที่จะมอบให้แก่นักศึกษาปริญญาตรีตลอด 4 ปี ซึ่งผู้ที่มีโอกาสได้รับทุนจะต้องเป็นนักเรียนจาก 11 ประเทศที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้เท่านั้น และที่สำคัญคือประเทศไทยก็เป็น 1 ใน 11 ประเทศเหล่านั้นด้วย เรียกได้ว่าชะตาฟ้าลิขิตมาให้เด็กไทยก้าวไกลสู่อเมริกาแล้ววว

สมัครทุน คลิก

New  York City
Photo credit: unsplash.com

AAUW International Fellowships 

ปิดท้ายกันไปกับทุนจากสถาบัน ‘AAUW หรือ American Association of University Women’ ทุนนี้แตกต่างจากทุนอื่นๆ ตรงที่เป็นทุนสนับสนุนค่าเล่าเรียนที่มอบให้กับ “นักศึกษาหญิง” ที่ไม่ได้อาศัยหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ที่จะได้รับทุนต้องมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ โดยมีคะแนน TOEFL มาเป็นหลักฐานยืนยัน 

และถึงแม้ว่าทุนนี้จะไม่ใช่ทุนเต็มจำนวน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทุนที่ซัปพอร์ตเด็กรุ่นใหม่ให้เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้แบบจัดเต็ม ซึ่งในแต่ละระดับการศึกษาก็จะมีการมอบเงินสนุนลดหลั่นกันไป อย่างในระดับปริญญาโทก็จะมีเงินสนับสนุนให้ปีละ 18,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระดับปริญญาเอกปีละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และหลักสูตรการศึกษาด้านงานวิจัยอีกปีละ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ น้องคนไหนกำลังมองหาทุนเรียนต่อประเภทนี้ก็เตรียมตัวให้ดี เพราะทุนรอบต่อไปจะเปิดรับสมัครในช่วงกลางปีนี้แล้วค่ะ

สมัครทุน คลิก

Statue of Liberty
Photo credit: unsplash.com

เป็นยังไงกันบ้างคะ เจอทุนที่ใช่ที่ถูกใจกันแล้วหรือยัง? ใครมีความใฝ่ฝันว่าสักวันฉันจะต้องได้ไปล่องเรือชมตึก Empire State พร้อมถ่ายรูปคู่เทพีเสรีภาพแล้วละก็ พี่ขอเชียร์ให้ตามไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทั้ง 7 ทุนนี้ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันต่างๆ เอาไว้ ถึงเวลาเปิดรับสมัครเมื่อไหร่ ก็เตรียมคะแนนสอบ เตรียมตัวเตรียมใจ แล้วออกไปเผชิญประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อเมริกากันได้เลย!