Skip to content
Home » [NEW] 27 ประโยค บอกว่า “ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ” ที่พลาดมากถ้าไม่รู้ | พูดไม่เก่ง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 27 ประโยค บอกว่า “ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ” ที่พลาดมากถ้าไม่รู้ | พูดไม่เก่ง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

พูดไม่เก่ง ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

ถ้าคุณคิดว่า การบอกว่า ฉันไม่เข้าใจ เป็นภาษาอังกฤษ พูดได้แบบเดียวคือ I don’t understand คุณก็พลาดประโยคอื่น ๆ ที่มีความหมายเหมือนกันไปหลายประโยคเลยค่ะ

การพูดว่า ไม่เข้าใจ ในภาษาอังกฤษนั้น มีอยู่หลายประโยค หลายวลี และหลายสำนวนเลยค่ะ แต่มันแค่อาจจะไม่ได้แปลได้ตรงตัวขนาดนั้น เราก็เลยไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า

แต่วันนี้เบญได้รวบรวมมาให้ถึง 27 ประโยคเลยค่ะ ที่มีความหมายว่าฉันไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ มาให้คุณเก็บไว้ไปฝึกพูด ใช้กับฝรั่งตอนที่คุยกัน เบญเชื่อเลยว่า เค้าจะต้องอึ้งแน่ ๆ ว่าคุณรู้ประโยคพวกนี้

และจริง ๆ แล้วประโยคพวกนี้ ก็เป็นประโยคที่เราได้ยินบ่อยค่ะ แต่เราอาจจะแค่ไม่เคยคิดว่า ในบริบทนี้ มันแปลว่าไม่เข้าใจนะ แต่หลังจากอ่านโพสต์ของวันนี้แล้ว รับรองว่าเราจะเข้าใจแน่นอนจ้า

ประโยคที่เบญเอามาฝากวันนี้ เป็นแค่ประโยคแค่เสี้ยวเล็ก ๆ ของประโยคภาษาอังกฤษทั้งหมดที่เราควรรู้ ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษนะคะ

แต่ถ้าคุณสนใจประโยคภาษาอังกฤษหัวข้ออื่น ๆ ที่ใช้ได้จริงใจชีวิตประจำวันแบบนี้ เบญขอแนะนำคอร์สฝึกประโยคภาษาอังกฤษทั่วไป ให้คุณได้ไปฝึกเพิ่มกันด้วยค่ะ

คอร์สนี้มีชื่อว่า Glossika.com เป็นคอร์สที่เน้นประโยคภาษาอังกฤษจริง ๆเน้นให้เราฝึกพูดตาม และฝึกหูของเราให้ชินกับสำเนียงเข้าของภาษาค่ะ

ลองเรียนกับ Glossika ฟรีเลยแค่คลิกเดียว >>

หรืออ่านรีวิวเรียนกับคอร์ส Glossika เพิ่มเติมได้เลยนะคะ รับรองว่า Glossika จะช่วยให้การพูด-ฟังประโยคภาษาอังกฤษของคุณไปอีกเลเวลนึงแน่นอนค่ะ

แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนประโยคภาษาอังกฤษ ฉันไม่เข้าใจ ที่เบญเอามาฝากกันแล้ววันนี้ ก็ไปเริ่มฝึกอ่าน และทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลยจ้า…

Table of Contents

1. I don’t understand it.

2. I can’t understand.

สองประโยคแรกนี้ เป็นประโยคที่เราคุ้นหูกันอยู่แล้ว ที่มีคำว่า understand ที่แปลว่าเข้าใจอยู่ด้วย แต่เราสามารถเพิ่มดีกรีความดราม่าเข้าไปได้นะคะ

โดยการใส่คำว่า at all ข้างหลังสุด เพื่อบอกว่า ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด เช่น

I don’t understand you at all. ฉันไม่เข้าใจคุณเลยสักนิด

I can’t understand this at all. ฉันไม่เข้าใจสิ่งนี้เลยสักนิด

อย่าลืมลองเอาคำว่า at all ไปในข้างหลังประโยค ไม่เข้าใจ ตามนี้ดูนะคะ ทำให้ประโยคดูมีสีสันขึ้นค่ะ อิอิ

ข้างล่างนี้จะเป็นประโยคที่ไม่ได้แปลตรงตัวว่า ไม่เข้าใจ ในภาษาอังกฤษนะคะ แต่หลายประโยค เป็นวลีภาษาอังกฤษที่แปลทีละคำไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันเป็นประโยค แต่ก็มีความหมายว่า ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ

ถ้าประโยคไหนที่มีความหมายเบื้องหลังน่าสนใจ เบญจะเขียนคำอธิบายความหมายไว้ให้ใต้ประโยคด้วยนะคะ คุณจะได้เข้าใจเวลาที่เอาไปใช้จริงว่า ความหมายลึก ๆ ของมันคืออะไร พร้อมแล้วไปดูด้วยกันเลยจ้า

3. I don’t get it.

get เป็นอีกคำที่มีแปลว่า เข้าใจค่ะ ซึ่งแปลตรงตัวว่า ได้รับ ซึ่งจริง ๆ แล้วในข้อนี้ สามารถแปลได้ทั้งสองอย่าง ที่พูดถึงสิ่งของ ถ้าฉันยังไม่ได้รับมันนะ หรือถ้าในบริบทที่พูดถึงความเข้าใจ จะแปลว่า ฉันไม่เข้าใจ ค่ะ

แต่เราก็เพิ่มความดราม่าเข้าไปในประโยคนี้ได้เหมือนกันค่ะ (เบญชอบดราม่า อิอิ) ก็คือการใส่คำว่า just เข้าไปหลังประธาน เช่น

I just don’t get it. ฉันนี่ไม่เข้าใจเลย

He just doesn’t get it. เขานี่ไม่เข้าใจเลยนะ

4. I still don’t get it.

ประโยคนี้จะเหมือนกับประโยคข้างบนเลยค่ะ แต่เราเพิ่มคำว่า still ซึ่งมีความหมายว่า อยู่เลย/ยัง…อยู่ ใช้ในการสนทนาที่เราอาจจะบอกเค้าไม่แล้วว่าไม่เข้าใจ และเค้าพยายามอธิบายให้ฟัง แต่เราก็ยังไม่เข้าใจค่ะ เช่น

I said it 3 times and he still doesn’t get it! ฉันพูดไปตั้ง 3 ครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ

5. I cant’ figure it out.

ถ้าแปลตรงตัวของประโยคนี้ จะเป็นประมาณว่า ฉันยังคิดมันไม่ออกเลย / ฉันยังหาคำตอบเรื่องนี้ไม่ได้เลย แบบว่าสิ่งที่เราพูดถึงเป็นเหมือนโจทย์หรือคำว่า แต่เราก็ยังไม่เข้าใจ และยังแก้ไม่ได้ค่ะ

6. I have no clue.

7. I have no idea.

ประโยคที่ 6 และ 7 นี้ จะเป็นประโยคที่มีความหมายคล้าย ๆ กับว่าฉันไม่รู้ แต่เราก็สามารถใช้ในบริบทที่พูดถึงว่าเราไม่เข้าใจได้ค่ะ โดยที่เราสามารถใส่สิ่งที่เราไม่เข้าใจไว้ข้างหลังประโยคนี้ได้ เช่น

I have no clue what he’s talking about. ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

He has no idea why I’m doing this to him. เขาไม่เข้าใจเลยว่า ฉันทำแบบนี้กับเขาทำไม

You have no idea what I just said. คุณไม่เข้าใจเลย ว่าฉันเพิ่งพูดอะไรไป

ป.ล. ถ้าประธานเป็น I, you, we, they หรือ พหูพจน์ ให้ใช้ have นะคะ แต่ถ้าประธานเป็น he, she, it หรือ เอกพจน์ ให้ใช้ has จ้า

ส่วนใหญ่เรื่องที่ไม่เข้าใจ ที่ต่อหลังประโยค จะขึ้นด้วย คำเริ่มคำถาม what, where, when, why, how จ้า

8. It makes no sense to me.

9. It doesn’t make any sense.

10. It’s a mystery to me!

ข้อนี้แปลรวม ๆ ประมาณว่า มันเป็นเหมือนปริศนาสำหรับฉัน ก็คือว่าเราไม่เข้าใจมันเลยนั่นเอง

11. What’s the point?

มาดูข้อนี้กันค่ะ คุณอ่านแล้วอาจจะบอกว่า แล้วมันเกี่ยวกับว่าไม่เข้าใจยังไง จริง ๆ แล้วมันเป็นประโยคที่พูดถึงว่า สรุปเธอหมายถึงอะไร ทำไปทำไม พูดไปทำไม

แต่ความหมายลึก ๆ ในบริบท ก็คือ ฉันไม่เข้าใจ ประมาณนั้นค่ะ เช่น

What’s the point of saying this? ฉันไม่เข้าใจ ว่าพูดไปทำไม

What’s the point of being nice to you? ฉันไม่เข้าใจ ว่าฉันจะทำดีกับเธอไปทำไม

ซึ่งมันก็จะไม่ได้แปลตรงตัวขนาดนั้น ไม่ต้องใช้ of และสิ่งที่พูดถึงข้างหลังก็ได้ ก็จะเป็นประโยคที่ประมาณว่า เวลามีคนทำอะไร หรือพูดอะไร แล้วเราไม่เข้าใจ ก็ใช้คำพูดนี้ได้

12. Can I ask why?

13. Could you explain it, please?

ประโยคข้อที่ 12, 13 เป็นประโยคคำถามในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ และเราอยากจะขอให้เค้าอธิบายอีกรอบ ซึ่งก็เป็นการที่เราบอกเค้าแล้วค่ะ ว่าฉันไม่เข้าใจ เรื่องที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป

14. It’s over my head.

15. It’s completely beyond me!

ข้อ 12 และ 13 นี้แปลว่า มันลอยข้ามหัวฉันไปเลย / มันเกินความเข้าใจของฉัน แปลว่าเราไม่เข้าใจนั่นแหละค่ะ แบบมันไม่ได้เข้ามาในความเข้าใจในสมองหรือความคิดของฉันเลย มันอาจจะยาก หรือซับซ้อนเกินไป เช่น

Japanese is so hard and it’s completely beyond me! ภาษาญี่ปุ่นยากมากเลย และมันเกินความเข้าใจของฉันไปเลย

16. What are you on about?

นี่เป็นอีกประโยคนึงที่เป็นเหมือนคำถาม แต่มีความหมายว่า ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไรอยู่ สำหรับเบญแล้ว รู้สึกว่าประโยคนี้ค่อนข้างแรงค่ะ

เพราะฉะนั้นถ้าคุณเอาไปใช้ อาจจะต้องระวังโทนเสียง และดูสถานการณ์นิดนึง ว่าเหมาะสมหรือเปล่า

17. I can’t make head or tail of it.

18. I can’t get my head around it!

19. I can’t wrap my head around it!

20. I fail to understand

21. It beats me.

ข้อนี้พูดถึงเวลาที่เราไม่เข้าใจบางสถานการณ์ หรือการกระทำบางอย่าง เช่น

It beats me how Harry got this job. ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแฮร์รี่ได้งานนี้ได้ยังไง

What beats me is why she talks with Jenny. สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ก็คือทำไมเขาถึงคุยกับเจนนี่

นี่เป็นอีกหนึ่งประโยคที่จะมาพร้อมกับ why, how และ why ค่ะ ตามหลัง และพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

22. It’s all Greek to me.

Greek ในที่นี้ หมายถึงภาษากรีกค่ะ ในความหมายของประโยคนี้ก็คือว่า ฉันไม่เข้าใจเลย มันเหมือนภาษากรีกสำหรับฉัน ก็คือภาษาที่เราไม่รู้จักค่ะ (แต่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้กับคนที่พูดภาษากรีกได้หรือเปล่านะคะ อิอิ)

23. None the wiser

ความหมายในข้อนี้ก็คือ ไม่ได้เข้าใจมากขึ้นกว่าก่อนเลย และถ้าเมื่อก่อนไม่เข้าใจ ตอนนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะ เช่น

It’s been months, and he’s still none the wiser about the true cause of the accident. มันผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดจากอะไร

เป็นประโยคที่พูดเดี่ยว ๆ เลยไม่ได้ค่ะ ต้องใส่เหตุการณ์ที่ไม่เข้าใจลงไปด้วย

24. What’s going on?

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย! ประโยคนี้จะแปลเป็นไทยประมาณนี้ค่ะ พูดถึงการแสดงความไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จะเป็นประโยคคำถามค่ะ

25. What’s so funny about it?

อันนี้เป็นอีกประโยคคำถามภาษาอักฤษ ที่พูดถึงว่าเราไม่เข้าใจกับสถานการณ์นี้ ในประโยคนั้นจะแปลว่า มันตลกตรงไหนหรอ และมันเป็นได้ทั้งคำถามที่จริงใจ แบบเราไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามันตลกตรงไหน

หรือมันก็สามารถเป็นประโยคที่พูดประชดได้ เมื่อเราไม่เห็นด้วยว่ามันตลกค่ะ และคุณก็เปลี่ยนคำว่า funny เป็นคำอื่นได้นะคะ เช่น

What’s so sad about it? มันน่าเศร้าตรงไหนหรอ

What’s so special about it? มันพิเศษตรงไหนหรอ

ซึ่งเราใส่จะกับประโยคอื่น ๆ ที่แปลว่าไม่เข้าใจไปข้างหน้าด้วยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีคนฟังก็เข้าใจอยู่แล้วค่ะว่า เราไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

26. Why not?

ประโยคนี้จะแปลตรงตัวเลยค่ะว่า ทำไมล่ะ พูดถึงในสถานการณ์ที่คนที่คุยกับเราพูดประโยคปฏิเสธ และเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลือกแบบนั้น หรือคิดแบบนั้นค่ะ เช่น

Q: I’m not going to the party tonight. ฉันไม่ไปงานปาร์ตี้คืนนี้นะ

A: Why not? ทำไมล่ะ

และก็สามารถเปลี่ยนคำว่า not เป็นอย่างอื่นได้ด้วยค่ะ เช่น me, him, you, her เป็นต้น ก็จะหมายความว่า ฉันไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นฉัน ตัวอย่างประโยคเช่น

Q: Boss said you’re going to Bangkok tomorrow. หัวหน้าบอกว่าเธอต้องไปกรุงเทพพรุ่งนี้

A: Why me? ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ

หรือจะเป็นในแนวประโยคคำถามแบบปฏิเสธก็ได้ค่ะ โดยเป็นการรวมกันของทั้งสองประโยคข้างบน เช่น

Q: Shes’ going to pick up my husband from the airport. เขาจะไปรับสามีฉันที่สนามบิน

A: Really? Why not you? จริงหรอ ทำไมเธอไม่ไปล่ะ

เป็นอีกประโยคนึงที่ใช้แทนคำว่า ฉันไม่เข้าใจได้ แต่ก็ยังมีความหมายเหมือนเดิมค่ะ อย่าลืมของเอาไปใช้ดูนะคะ

27. This is as clear as mud to me.

ข้อนี้พูดถึง mud ที่แปลว่าโคลนค่ะ และก็พูดถึงคำว่า clear ที่แปลว่าชัดเจน หรือใส และในประโยคนี้แปลว่า มันใสเหมือนโคลนเลยแหละ

เบญชอบประโยคนี้มาก เพราะว่าฟังแล้วค่อนข้างตลก และก็ทำให้เราเห็นภาพเลย ว่าเวลาเราไม่เข้าใจเป็นยังไง บวกความประชดประชันนิดหน่อย

แต่โดยความหมายรวม ๆ และก็คือบอกว่าเราเข้าไม่เข้าใจค่ะ เราไม่เห็นภาพเลย เพราะว่าพยายามมองผ่านโคลนไรงี้ เป็นอีกประโยคที่น่ารัก และเปรียบเทียบได้กวนดีค่ะ อิอิ

ถ้าประโยคข้างบนนี้เป็นประโยชน์กับคุณ ก็อย่าลืมคอมเม้นบอกกันไว้บ้างนะคะ หรือว่ามีประโยคไหนอีกที่คุณเคยได้ยิน แล้วเบญไมไ่ด้เขียนไว้ในลิสต์นี้ ก็มาแบ่งปันกันได้เลยจ้า

อย่าลืมไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ไว้ฝึกคำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษเพิ่มเติมนะคะ จะได้พัฒนาภาษาอังกฤษของเราไปเรื่อย ๆ และไม่ย่ำอยู่กับที่ สู้ ๆ จ้า 🙂

[NEW] 7 วิธี ฝึกพูดภาษาอังกฤษเอง ง่าย ๆ ที่บ้าน ใครก็ทำตามได้ | พูดไม่เก่ง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

อยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง ต้องไปเรียนถึงต่างประเทศหรือเปล่า?

หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามนี้ในใจ แต่สำหรับเบญคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องไปเรียนถึงต่างประเทศค่ะ แต่เราสามารถทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเรา เหมือนอยู่ต่างประเทศได้

ด้วย 7 วิธีที่เบญนำมาฝาก ข้างล่างนี้ จะช่วยให้คุณได้เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง

และไม่ใช้ข้ออ้างที่บอกว่า เราไม่ได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศเราจะพูดภาษาอังกฤษเก่งได้ยังไง มาหยุดความฝันของคุณ ที่อยากเก่งภาษาอังกฤษค่ะ

เป็นวิธีที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้ ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษมานานขนาดไหน แต่ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักที

หรือว่าอาจจะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษครั้งแรก แต่ไม่อยากข้ามขั้นตอนในการพูดภาษาอังกฤษไป

เบญรับรองได้เลยค่ะ ว่าถ้าคุณ มีวินัย และขยันในการทำตามวิธีที่เบญได้แนะนำไปนั้น อีกไม่นานก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างแน่นอนค่า

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเล้ยยย!!

1. เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วซื้อหนังสือที่สอนภาษาอังกฤษมาอ่านเองไม่ดีกว่าหรอ? หรือว่าไปลงเรียนที่โรงเรียนไม่ดีกว่าหรอ?

ถ้าคุณจะฝึกพูดภาษาอังกฤษ และเป้าหมายของคุณ คือการพูดภาษาอังกฤษให้เก่งด้วยตัวเอง เบญคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

เพราะว่าถ้าเป็นในเรื่องการพูดและการฟังภาษาอังกฤษแล้ว ต้องฝึกบ่อยเลยค่ะ ถ้าไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา ก็อาจจะเรียนได้แค่อาทิตย์ละ 1-2 ชั่วโมง

อาจจะเนื่องด้วยระยะทางที่ไกล หรือค่าเรียนที่สูง หรือตารางว่างไม่ตรงกับคุณครูที่สอน

แต่การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ทำให้คุณจัดตารางเองได้ ว่าอยากเรียนกี่วันต่ออาทิตย์ และวันละกี่ชั่วโมง ในราคาที่ถูกมาก ๆ และก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วยจ้า

เพราะฉะนั้น เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จะเป็นวิธีนึง ที่ทำให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบเต็ม ๆ แน่นอนค่ะ

และถ้าคุณไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ หรือว่าไม่รู้จักคอร์สออนไลน์ดี ๆ เลย เบญมีคอร์สที่เบญใช้เพื่อฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองมาแนะนำค่ะ

EnglishClass101 เป็นคอร์สเรียนหนึ่งที่เบญแนะนำ ถ้าคุณอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองค่ะ เพราะว่า เป็นบทเรียนที่สอนโดยเจ้าของภาษา

ถ้าเราอยากจะเรียนพูดภาษาอังกฤษทั้งที เราก็ควรฝึกสำเนียงภาษาอังกฤษจริง ๆ ด้วยใช่มั้ยคะ

ในคอร์สนี้ เน้นการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ในบทเรียนจะมีประโยค และบทสนทนาที่คุณ ฝึกพูดตามได้

แอพเรียนภาษาอังกฤษ EnglishClass101

และเพื่อน ๆ ยังสามารถบันทึกเสียงตัวเองในขณะที่พูดตาม และก็เอาไปเปรียบเทียบฟังกับสำเนียงของเจ้าของภาษาโดยตรงได้เลยค่ะ

เบญได้เขียนรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ EnglishClass101 ว่าดีไหม เรียนยังไง ราคาเท่าไหร่ เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลย

หรือว่าดูวีดีโอข้างล่างนี้ที่เบญฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองกับคอร์สนี้ และรู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษของตัวเองได้พัฒนาขึ้นเยอะเลยค่ะ

เผื่อคุณจะสนใจ และก็ลองเอาวิธีที่เบญใช้เรียนไปทำตามดูได้เลยจ้า

หรือว่าถ้ายังไม่แน่ใจว่าชอบคอร์สนี้มั้ย เบญมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เรียนกับเจ้าของภาษาอีกหลายคอร์สที่เบญได้รวบรวมไว้ให้ค่ะ

บอกได้เลยว่าเป็นคอร์สที่เน้นการพูดภาษาอังกฤษตามสำเนียงเจ้าของภาษา และราคาถูกด้วยจ้า

2. อ่านภาษาอังกฤษแบบออกเสียง

การฝึกพูดภาษาอังกฤษเอง ก็ต้องฝึกการอ่านออกเสียง และฝึกลิ้นของเราให้คุ้นเคยกับการออกเสียงภาษาอังกฤษค่ะ

เพราะจริง ๆ ในภาษาอังกฤษมีหลายตัวเองเลย ที่ในอักษรเสียงภาษาไทยของเราไม่มี เช่นตัว r, l, v ซึ่งไม่ได้ออกเสียงอย่างที่เราเอาไปเทียบในอักษรภาษาไทย

คุณสามารถหาซื้อหนังสือภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบมานั่งอ่านเล่น ๆ อาจจะเริ่มจากการอ่านวันละ 5 นาที และก็ค่อย ๆ เพิ่มไปเป็น 10, 15, 20 นาทีค่ะ

อาจจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับกีฬา เกมส์ แฟชั่น หนังสือการ์ตูน หรืออะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ

เพราะเราอยากทำให้การฝึกอ่านออกเสียงนี้ เป็นเหมือนงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่ทำแล้วมีความสุข ไม่งั้นมันจะทำได้ไม่นาน และก็จะเบื่อไปซะก่อน

เราอาจจะเริ่มจากง่าย ๆ ก่อน เช่น หนังสือนิทานของเด็ก หนังสือกีฬาของเด็ก และค่อย ๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นไปค่ะ

ซึ่งจริง ๆ แล้ว หนังสือจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน หรือมีภาษาไทยควบคู่ไปด้วยก็ได้ค่ะ แต่เป้าหมายของการหยิบหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมาอ่านในข้อนี้ก็คือ…

เราได้ฝึกลิ้นของเราในการออกเสียงภาษาอังกฤษ จะได้ช่วยให้เราพูดภาษาอังกฤษแบบไม่ติดขัดค่ะ ไม่ได้เน้นเรื่องทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง

ถ้าคุณไม่รู้ว่าคำนี้ออกเสียงยังไง ก็สามารถเข้าไปที่ Google Translate ใส่คำนั้น และกดฟังเวลาเค้าออกเสียง และออกเสียงตามได้ค่า

ส่วนหนังสือภาษาที่เบญชอบอ่านเพื่อช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้านก็คือ หนังสือนิทานภาษาอังกฤษออนไลน์ค่ะ

ถ้าคุณไม่มีหนังสือในดวงใจ หรือยังเลือกไม่ได้ ก็ลองเริ่มจากหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ แบบเบญได้ค่ะ เพราะมันอ่านง่ายจริง ๆ และก็มีหลายเรื่องให้เลือกด้วยจ้า

3. ฟังและร้องเพลงภาษาอังกฤษ

เบญเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนชอบฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นบน YouTube, Spotify หรือว่าโหลดลงบนโทรศัพท์ของเราเอง

เบญจะบอกข่าวดีให้ว่า นั่นเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เช่นกันค่ะ

เย้ ๆ สาวกชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษคงจะกำลังกรี๊ดอยู่ใช่มั้ยคะ ที่รู้ว่าสิ่งตัวเองทำเพลิน ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษเก่งได้เหมือนกัน

ลองสังเกตดูนะคะ ว่าต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้จักภาษาอังกฤษเท่าไหร่ ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนเลย เค้าก็สามารถร้องเพลงภาษาอังกฤษได้

แถมยังร้องสำเนียงได้เป๊ะมากกว่าคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาป็นปี ๆ ด้วยซ้ำ

เพราะว่าเค้าฟังและก็ร้องตามค่ะ เพราะฉะนั้นคุณเองก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่อาจจะทำ Playlist เพลงภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบฟัง และลองร้องออกเสียงตามไป

และสิ่งที่เบญจะแนะนำอีกอย่างนึงก็คือการร้องคาราโอเกะเพลงภาษาอังกฤษค่ะ เบญเชื่อว่าหลาย ๆ คนชอบร้องคาราโอเกะ

ต่อให้ตอนนี้จะไม่มีตู้คาราโอเกะเหมือนสมัยที่เบญยังเด็กแล้ว เค้าก็มีบน Youtube ค่ะ ที่คุณฝึกร้องที่บ้านได้ และเรียนภาษาอังกฤษไปในเวลาเดียวกันได้

ช่องที่เบญชอบบน YouTube ก็จะมี Sing King ค่ะ เค้าอัพเดทคาราโอเกะเพลงใหม่ ๆ ตลอดเลย และก็ฟรีด้วยจ้า

ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบร้องคาราโอเกะ เพลงภาษาอังกฤษ หรือมีช่องไหนที่ตัวเองชอบ ก็มาแบ่งปันกันไว้ในคอมเม้นได้เลยนะคะ

จะได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ยังไม่ได้ลองทำ ให้รู้ว่ามันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย ที่จะช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านได้จ้า

4. เรียนประโยคภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่คำศัพท์

เบญเคยเห็นหลายคน ที่เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ด้วยการท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะ ๆ ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

เพราะว่าแค่รู้คำศัพท์ ไม่สามารถทำให้เราสนทนาแบบเป็นประโยค หรือสนทนารู้เรื่องทั้งหมดได้ค่ะ

ถ้าคุณกำลังฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าต้องฝึกประโยคภาษาอังกฤษด้วย ไม่ใช่แค่คำศัพท์ภาษาอังกฤษแค่ 1 คำ

เพราะว่ารู้แค่คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ไม่ช่วยให้เราแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้

และสิ่งที่เราต้องใช้ในการพูดสนทนาภาษาอังกฤษจริง ๆ ก็คือ ประโยคภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเลือกที่จะจำคำว่า take แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องเอามันไปใช้ยังไงตอนที่ตัวเองต้องพูดสื่อสารกับคนต่างชาติจริง ๆ

เบญแนะนำให้เลือกเรียนเป็นประโยคดีกว่าค่ะ เช่น Take it easy. หรือ Take your time. อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่านี่คือประโยคที่พูดไปแล้วเค้าเข้าใจแน่นอน

คอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษ EnglishClass101 ที่เบญแนะนำไปข้างต้น ก็เป็นอีกคอร์สนึงที่เบญรู้สึกว่า ช่วยให้เพื่อน ๆ พูดภาษาอังกฤษเป็นประโยคได้จริง ๆ ค่ะ

อ่านภาษาอังกฤษ

เพราะเค้าไม่ได้เน้นให้แค่คำศัพท์ แต่เค้าเน้นให้เราเรียนเป็นประโยค การสนทนาในแต่ละสถานการณ์ต่าง ๆ เราจะได้ไม่ต้องงงว่า ประโยคนี้ฉันเรียนไปแล้วต้องใช้ยังไง

5. ฝึกพูดสิ่งที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

คุณควรเรียนประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเรียนพูดภาษาอังกฤษของแต่ละคน

ถ้าเกิดว่าคุณอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษครั้งนี้ เพื่อไปใช้ที่ทำงาน ก็อาจจะหาประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในที่ทำงานมาฝึกพูดค่ะ

หรือว่าถ้าเกิดว่าอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษไปคุยกับเพื่อนต่างชาติ หรือแฟน ก็ควรเรียนประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ

หรือว่าถ้าจะฝึกพูดภาษาอังกฤษไปเพื่อท่องเที่ยว ก็ควรเรียนประโยคที่จะได้ใช่ในการท่องเที่ยวค่ะ

เช่นประโยคการถามหาสถานที่ ที่เราอยากไป ประโยคการบอกทาง ประโยคถามให้เค้าแนะนำสิ่งที่อร่อย ๆ ให้เราทาน ประมาณนั้นค่ะ

เพราะถ้าเรียนประโยคภาษาอังกฤษ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะนำไปใช้ สุดท้ายเมื่อออกไปใช้จริง ๆ คุณก็จะรู้สึกว่าประโยคที่เราเรียนมาไม่เห็นช่วยอะไรเลย

และนั่นเป็นที่มาของความคิดที่ว่า “ทำไมฉันเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ยังพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งสักที”

6. ฟังและพูดภาษาอังกฤษตามเรื่องสั้น ๆ

ถ้าคุณชอบดูหนังไม่ว่าจะเป็นบน Netflix หรือเว็บดูหนังสือ อยากแนะนำให้เลือกดูเป็นภาษาอังกฤษ และเปิดซัพภาษาอังกฤษตามไปด้วยค่ะ

ทำไมถึงเปิดซัพภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาไทย?

เพราะว่าถ้าเป็นคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เราอาจจะฟังภาษาอังกฤษจากหนังไม่ทัน 100% และการเปิดซัพภาษาอังกฤษคู่กันไปด้วย จะทำให้เรารู้ได้ว่าเค้าพูดว่าอะไร

แต่การเปิดซัพไทยเวลาดูหนัง จะทำให้เราเข้าใจว่าเค้าพูดว่าอะไรก็จริง แต่จะไม่ได้ช่วยให้เราเรียนภาษาอังกฤษได้มาก เหมือนกับดูหนังเป็นภาษาอังกฤษและก็เปิดซัพภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กันค่ะ

และคุณหาเรื่องสั้นภาษาอังกฤษจากบนอินเตอร์เน็ตก็ได้ ที่จะฝึกฟังภาษาอังกฤษ และพูดตามประโยคสั้น ๆ ตามเนื้องเรื่องนั้นค่ะ

เบญมีช่องยูทูปช่องนึงที่ตัวเองชอบ และก็ยังฟังอยู่ค่ะ เป็นนิทานภาษาอังกฤษ และก็มีซับภาษาอังกฤษให้เราอ่านตามอีกด้วยค่ะ

เป้าหมายของเราก็คือ การฝึกฟังเรื่องราวสั้น ๆ เราอาจจะหยุดหลังจากจบหนึ่งบรรทัด และฝึกพูดตาม

อีกหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การฝึกแต่งประโยคของเราเองจากเรื่องที่เราฟังค่ะ เช่น

ถ้าในเรื่องบอกว่า There were 3 little pigs living in the woods. เราก็อาจจะลองเปลี่ยนเป็น There was a fox living in the big house.

ซึ่งเราใช้หลักการแต่งประโยคเหมือนกับในเรื่องเลย แต่เอามาเปลี่ยนตัวละคร หรือสถานที่ค่ะ

หรือฝึกฟังเรื่องภาษาอังกฤษสั้น ๆ และลองจับประโยค และคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ว่าเราฟังมาเป็นคำว่าอะไร และถูกมั้ย

เหมือนกับในช่อง YouTube ของ Fight For Fluency ที่จะมีประโยคภาษาอังกฤษมาให้ฝึกพูดตามเรื่อย ๆ ค่ะ อย่าลืมเข้าไปติดตามกันด้วยนะคะ

และก็อย่าลืมที่จะฝึกเล่าเรื่องภาษาอังกฤษ ที่ตัวเองได้เขียนใหม่ด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณฝึกพูด และแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น

7. หาเพื่อนที่จะพูดภาษาอังกฤษด้วยได้

และวิธีสุดท้ายนี้เป็นวิธีที่ทุกคนน่าจะชอบมากที่สุดค่ะ 555 ก็คือการหาแฟน เอ้ย หาเพื่อนต่างชาติ ที่จะช่วยให้เราได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยได้

แต่ถ้าเกิดคุณรู้สึกว่า เอ๊ะ เราเหมือนไปหลอกใช้เค้าหรือเปล่านะ ไปเป็นเพื่อน เพื่อที่จะอยากฝึกภาษาอังกฤษ จริง ๆ ก็ไม่นะคะ

เพราะว่าเราจริงใจจริง ๆ ที่อยากจะรู้จักเค้า และการใช้ภาษาอังกฤษนั้นเป็นการสื่อสาร ระหว่างเราและเพื่อนต่างชาติ ก็เข้าใจได้ค่ะ

เพราะถ้าเราไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลย และเค้าก็ไม่พูดภาษาไทย เราควรคุยกันในภาษาอะไรดีคะ

แต่ว่าถ้าคุณไม่มีเพื่อนที่ช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยได้ เบญเองก็มีคอร์สที่จะมาแนะนำค่ะ เป็นคอร์สที่คุณเลือกเพื่อนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง และราคาถูก

เป็นเหมือนการเรียนภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยค่ะ แต่เราได้พูด-คุยสนทนาภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาจริง ๆ

คอร์สนี้มีเชื่อว่า iTalki เป็นอีกคอร์สที่เบญชอบมาก ๆ และรู้สึกว่ามันช่วยพัฒนาการพูด และการฟังภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นมาก

เพราะคุณจะได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวผ่านวีดีโอคอล

เข้าไปลองหาคนที่อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้เลยนะคะ บอกได้เลยว่ามีให้เลือกเยอะมาก และมาจากหลายประเทศด้วยค่ะ ที่ iTalki.com

หรือว่าเข้าไปอ่านรีวิวที่เบญได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับ iTalki ให้ดูก็ได้

แค่ฝึกพูดภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมง 2-3 ครั้ง/อาทิตย์ ก็จะพูดภาษาอังกฤษได้เก่งแบบติดจรวจเลยจ้า

ถ้าวิธีที่เบญนำมาฝากกันวันนี้เป็นประโยชน์กับคุณ ก็อย่าลืมเอาไปทำ และคอมเม้นบอกกันไว้บ้างนะคะ

หรือว่าถ้ามีวิธีอื่นที่คุณทำแล้วได้ผล ก็แบ่งปันเบญกับเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย

ขอให้คุณพูดภาษาอังกฤษเก่งเร็ว ๆ นะคะ สู้ ๆ 🙂


เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)


แม็กซ์มีวิธีเก่งภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ และสนุกๆมาบอกต่อครับ
รับร้องพูดและเก่งได้เลย แต่ต้องทำทุกวันนะ ทำให้สม่ำเสมอ
แม็กซ์เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^
ขอขอบคุณร้านสวยๆ : ON TIME CUISINE ชั้น3 Siamdiscovery
maxedout สอนแต่งตัวผู้ชาย เก่งอังกฤษ
ติดตามกันครับ อัปเดททุกสัปดาห์!!
facebook : https://www.facebook.com/maxedoutstyle/
instagram : https://www.instagram.com/maxedout_style/?hl=th
: https://www.instagram.com/maxdetter_/?hl=th

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เทคนิคลับ! เก่งอังกฤษง่ายๆแค่ 3 อาทิตย์ สไตล์แม็กซ์!! (สอนวิธีเก่งภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วและสนุกมากๆ)

เธอยัง – Potato


ฉันยังเป็นคนที่รักเธอหมดใจ
ฉันยังได้แต่คิดถึงเธอเรื่อยไป
ฉันยังดูรูปถ่ายที่เราชิดใกล้อยู่ทุกวัน
ฉันยังรอคอยให้เธอนั้นกลับมา
ฉันยังกาปฏิทินทุกคืนวัน
เพราะคำเดียว ระยะทาง
ที่มาขวางกั้นเราไว้
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
อยู่ตรงนั้นเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
ฝากเพลงนี้ให้ไปถามเธอดู
อยากจะรู้ในความเป็นไป
เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีรึเปล่า
เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
ช่วยบอกให้รู้ที
ฉันกลัวใครทำให้เธอนั้นเปลี่ยนไป
ฉันกลัวสิ่งที่ไม่แน่นอนมากมาย
ฉันกลัวคำว่าเสียใจ เธอรอฉันได้ใช่ไหม
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
อยู่ตรงนั้นเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
ฝากเพลงนี้ให้ไปถามเธอดู
อยากจะรู้ในความเป็นไป
เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีรึเปล่า
เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
เธอยังคิดถึงฉันทุกเวลาอยู่รึเปล่า
เธอยังดูรูปเราใบเดิมๆ อยู่หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังรักกันเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
ช่วยบอกให้รู้ที
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
อยู่ตรงนั้นเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
ฝากเพลงนี้ให้ไปถามเธอดู
อยากจะรู้ในความเป็นไป
เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีรึเปล่า
เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
เธอยังคิดถึงฉันทุกเวลาอยู่รึเปล่า
เธอยังดูรูปเราใบเดิมๆ อยู่หรือไม่
เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว ยังรอฉันแค่คนเดียว
เธอยังรักกันเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม
ช่วยบอกให้รู้ที . .

เธอยัง  -  Potato

ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร

สิงโต นำโชค x เขียนไขและวานิช – บทกวีไม่เก่ง (An Imperfect Poem) [Studio Session]


สิงโต นำโชค x เขียนไขและวานิช บทกวีไม่เก่ง (An Imperfect Poem) [Studio Session]
เพลง: บทกวีไม่เก่ง (An Imperfect Poem)
ศิลปิน: สิงโต นำโชค X เขียนไขและวานิช
เนื้อร้อง: สิงโต นำโชค (นำโชค ทะนัดรัมย์), เขียนไขและวานิช
ทำนอง: สิงโต นำโชค, เขียนไขและวานิช
เรียบเรียง: Kijjaz (กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์), สิงโต นำโชค, เขียนไขและวานิช
โปรดิวเซอร์เพลง: Kijjaz, สิงโต นำโชค
เขียนไขและวานิช: สาโรจน์ ยอดยิ่ง (โจ้), ประชา หลุยจำวัน (เรย์), ณพล ประสพ (โอ๊ต)
ร้องนำ: สาโรจน์ ยอดยิ่ง (โจ้), สิงโต นำโชค
ร้องประสาน: สิงโต นำโชค
ออกแบบกีตาร์ ริทึ่ม: ณพล ประสพ (โอ๊ต)
กีตาร์ โซโล่: ประชา หลุยจำวัน (เรย์)
เชลโล่: วิชญ์วิน สุรีย์รัตนากร
โปรแกรมมิ่ง, กีตาร์โปร่ง, กีตาร์ไฟฟ้า: Kijjaz
อัดเสียง มิกซ์ และมาสเตอร์ที่ Pollen Sound Studio โดย Kijjaz
Lyrics:
:
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง แต่ร้องเพลงพอได้
พยายามอ่านหนังสือบ่อย ๆ แค่ 7 บรรทัดที่อ่านไหว
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง อยากแต่งเพลงให้เธอเก็บไว้
ฝากเป็นบทความในใจ ชื่อ “บทกวีไม่เก่ง”
แม่น้ำ ต้นไม้ ทะเล เรือใบ
ลำธาร ต้นน้ำ แล้วอะไรต่อ?
คิดถึง นวลน้อง แก้มแดง ดีไหมละหนอ?
ก็เขียนมาแล้วเมื่อหลายปี
:
ยิ่งคิด ยิ่งไม่ออก
ได้แต่เขียน เขียนไปก่อน
:
ดารา เด่นสวย แสงนวล จันทร์ผ่อง
ดั่งน้องนางสวยกว่าใคร
เพลงนี้อาจไม่เพราะ บทกวีไม่ค่อยสวย
แต่ฉันจะร้องด้วยใจ
ซ้ำ: ,
(instrumental, solo)
ซ้ำ: ,
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง แต่ร้องเพลงพอได้
พยายามอ่านหนังสือบ่อย ๆ 7 บรรทัดที่อ่านไหว
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง อยากแต่งเพลงให้เธอเก็บไว้
ฝากเป็นบทความในใจ ให้เธอเก็บเอาไว้ข้างใน
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง แต่ร้องเพลงพอได้
พยายามอ่านหนังสือบ่อย ๆ แค่ 7 บรรทัดที่อ่านไหว
ฉันเขียนบทกวีไม่เก่ง อยากแต่งเพลงให้เธอเก็บไว้
ฝากเป็นบทความในใจ ชื่อ “บทกวีไม่เก่ง”

What The Duck
T. 026196099 F. 026185983
_____________________________________________________
ติดต่องาน : หลุยส์ 081 8570572 | แฟรงค์ 0631926456
_____________________________________________________
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : เฟิร์ส 0955538052
_____________________________________________________
ติอต่องาน Marketing, Sponsorship and other:
ฝน 0615639915 | หุย 0629145946
_____________________________________________________
https://www.facebook.com/whattheduckmusic
https://www.facebook.com/singtonumchok
บทกวีไม่เก่ง สิงโตนำโชค เขียนไขและวานิช whattheduckmusic

สิงโต นำโชค x เขียนไขและวานิช - บทกวีไม่เก่ง (An Imperfect Poem) [Studio Session]

เริ่มพูดประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆง่ายๆ | ไม่เกิน 3 คำ | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


เรียนภาษาอังกฤษ เรียนภาษา ภาษาอังกฤษ
คลิปนี้เป็นคลิปสั้นๆนะคะฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆง่ายๆไม่เกิน 3 คำนะคะสำหรับผู้เริ่มต้นให้จำและลองไปใช้กันดูค่ะ

เริ่มพูดประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆง่ายๆ | ไม่เกิน 3 คำ | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ พูดไม่เก่ง ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *