Skip to content
Home » [NEW] | 25 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] | 25 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

25 ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษเป็นอีกสิ่งที่เราควรรู้ไว้ เวลาเราต้องสื่อสารเรื่องเวลากับคนต่างชาติ เราจะได้สื่อสารได้ถูก ไม่เกิดความผิดพลาดจนทำให้เสียการเสียงาน

สำหรับคนที่ยังไม่แม่นเรื่องการบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษก็สามารถวางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้รวบรวมคำอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ

การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษหลักๆแล้วทำได้
2 แบบ คือ

1. บอกชั่วโมงก่อน แล้วตามด้วยนาที

วิธีนี้เราสามารถอ่านตัวเลขได้ตรงๆเลย

6.19 – It’s six nineteen.

9.05 – It’s nine oh-five. (oh อ่านว่า โอ)

8.40 – It’s eight forty.

7.54 – It’s seven fifty-four.

2. บอกนาทีก่อน แล้วตามด้วยชั่วโมง

สำหรับช่วง 1 – 30 นาที เราจะใช้คำว่า after (นิยมใช้ใน American English) หรือ past (นิยมใช้ใน British English) แล้วตามด้วยชั่วโมงปัจจุบัน (เป็นการบอกว่าผ่านชั่วโมงปัจจุบันมากี่นาทีแล้ว)

สำหรับช่วง 31 – 59 นาที เราจะใช้คำว่า to แล้วตามด้วยชั่วโมงถัดไป (เป็นการบอกว่าอีกกี่นาทีจะถึงชั่วโมงถัดไป)

วิธีที่ 2
นี้อาจสับสนเล็กน้อยสำหรับคนที่ยังไม่คุ้น

6.19 – It’s nineteen after/past six. (ผ่าน 6 โมงมา 19 นาทีแล้ว)

9.05 – It’s five after/past nine. (ผ่าน 9 โมงมา 5 นาทีแล้ว)

8.40 – It’s twenty to nine. (อีก 20 นาทีจะถึง 9 โมง)

7.54 – It’s six to eight. (อีก 6 นาทีจะถึง 8 โมง)

กรณี 15, 30, 45, 0 นาที

ตอน 15, 30, 45 และ 0 นาที เราจะอ่านเวลาต่างจากปกติ

ถ้าเป็นตอน 15 นาที เราจะใช้ quarter after/past แล้วตามด้วยชั่วโมงปัจจุบัน (quarter แปลว่า หนึ่งในสี่ส่วน ในที่นี้จะหมายถึง 1/4 ของ 60 นาที ซึ่งก็คือ 15 นาทีนั่นเอง)
9.15 – It’s quarter after/past nine. (ผ่าน 9 โมงมา 15 นาทีแล้ว)

ถ้าเป็นตอน 45 นาที เราจะใช้ quarter to แล้วตามด้วยชั่วโมงถัดไป
9.45 – It’s quarter to ten. (อีก 15 นาทีจะถึง 10 โมง)

ตอน 30 นาที เรานิยมใช้ half past (เราจะไม่ใช้ half after)
6.30 – It’s half past six.

ตอน 0 นาที เรานิยมใช้ o’clock (อ่านว่า โอ-คล็อก ย่อมาจาก of the clock)
6.00 – It’s six o’clock.

เพิ่มเติม

ในการบอกเวลา เราจะใช้ a หน้า quarter หรือไม่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นบางที่ใช้ It’s quarter… แต่บางที่ก็ใช้ It’s a quarter…

ในภาษาพูด บางครั้งเราอาจได้ยินคนใช้คำว่า till และ before แทนคำว่า to โดยเฉพาะใน American English เช่น It’s ten till six. หรือ It’s ten before six. (มีความหมายเหมือน It’s ten to six. ซึ่งก็คือ 5.50 น.)

การถามเวลาในภาษาอังกฤษ

การถามเวลาปัจจุบัน

What time is it? หรือ What is the time?
ตอนนี้กี่โมง

ถ้าอยากให้สุภาพขึ้น เราอาจถามว่า

Could you tell me the time please?
กรุณาบอกเวลาหน่อยได้มั้ยครับ/คะ

การถามเวลาสำหรับเหตุการณ์หรือกิจกรรมต่างๆจะใช้
what
time หรือ when เช่น

What time will he arrive?
เขาจะมาถึงตอนกี่โมง

What time is the meeting?
การประชุมเริ่มกี่โมง

When will you finish working?
คุณจะเลิกงานเมื่อไหร่

When did you sleep yesterday?
เมื่อวานคุณนอนเมื่อไหร่

การใช้ a.m. และ p.m.

a.m. ย่อมาจาก ante meridiem เป็นภาษาลาติน แปลว่า ก่อนเที่ยง
p.m. ย่อมาจาก post meridiem เป็นภาษาลาติน แปลว่า หลังเที่ยง

ทั้งชาวอเมริกันและบริติชจะนิยมใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง ดังนั้น เพื่อป้องกันการสับสน (เช่น 2.00 อาจหมายถึงบ่ายสอง หรือ ตีสองก็ได้) จึงมีการใช้ a.m. และ p.m. เพื่อเป็นตัวบอก ว่าเป็นช่วงเวลาก่อนหรือหลังเที่ยง

ระบบ 24 ชั่วโมงระบบ 12 ชั่วโมง23.5911.59 p.m.24.00 หรือ 0.00 – midnight (เที่ยงคืน)12.00 a.m. หรือ 0.00 a.m.1.001.00 a.m.2.002.00 a.m.3.003.00 a.m.4.004.00 a.m.5.005.00 a.m.6.006.00 a.m.7.007.00 a.m.8.008.00 a.m.9.009.00 a.m.10.0010.00 a.m.11.0011.00 a.m.12.00 – noon (เที่ยง)12.00 p.m.13.001.00 p.m.14.002.00 p.m.15.003.00 p.m.16.004.00 p.m.17.005.00 p.m.18.006.00 p.m.19.007.00 p.m.20.008.00 p.m.21.009.00 p.m.22.0010.00 p.m.23.0011.00 p.m.

ปกติถ้าเราถามตอบเวลาในปัจจุบัน
เราไม่จำเป็นต้องบอกว่าเป็น a.m. หรือ p.m.
เพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาไหน

แต่ถ้าเป็นการพูดถึงเวลาในอดีตหรืออนาคต
เราอาจต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาใด เพื่อป้องกันการสับสน เช่น

Tomorrow I have to be at the airport before 5 a.m.
พรุ่งนี้ฉันต้องถึงสนามบินก่อนตีห้า

หรือเราอาจใช้คำอื่น อย่างเช่น in the morning (แทน a.m.), in the afternoon (แทน p.m.), at night (แทน p.m. ในช่วงเวลาดึกๆ) แทน a.m. และ p.m. ก็ได้ เช่น

Tomorrow I have to be at the airport before 5 o’clock in the morning.
พรุ่งนี้ฉันต้องถึงสนามบินก่อนตีห้า

จบแล้วสำหรับการบอกและการถามเวลาเป็นภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปฝึกใช้กันได้แล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[Update] การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ และนับชั้นของตึกเป็นภาษาอังกฤษ มีหลักการดังนี้ | 25 ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

30

SHARES

Facebook

Twitter

การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ และนับชั้นของตึกเป็นภาษาอังกฤษใช้วิธีการเดียวกันเลยนะครับ เพราะการนับวันที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็คือการนับลำดับที่นั่นเองครับ   แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าลำดับที่มันคืออะไรก็จะงงเพิ่มอีกอยู่ดี งั้นมาดูคำอธิบายกันดีกว่านะครับ

การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ

ตัวเลข (Number) ในภาษาอังกฤษมีสองชนิด

1. Cardinal Number ตัวเลขจำนวนนับ  เช่น one – หนึ่ง two – สอง  three – สาม  four – สี่  five – ห้า…… เอาไว้นับว่า คนมีกี่คน สัตว์กี่ตัว สิ่งของมีกี่อัน เช่น  two boys (เด็กชายสองคน)  three cats (แมวสามตัว) five cars (รถยนต์ 5 คัน) เป็นต้น

2. Ordinal Number ตัวเลขลำดับที่ เอาไว้บอกลำดับของสิ่งต่างๆ ที่เห็นบ่อยๆคือ วันที่ กับชั้นของตึก ซึ่งเราจะมาเรียนรู้กันวันนี้ครับ เดี๋ยวจะยกตัวอย่างการนำไปใช้ให้ดูแล้วกัน

การขียนวันที่ภาษาอังกฤษ

การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษมี 2 แบบนะครับ นั่นคือแบบอังกฤษและแบบอเมริกัน

แบบอังกฤษ : วัน เดือน ปี
แบบอเมริกัน : ปี เดือน วัน

the Fourth of July, 2020
July the Fourth, 2020

4th July 2020
July 4th, 2020

4 July 2020
July 4, 2020

4/3/2020
3/4/2020

4/3/20
3/4/20

วันที่ของไทยเราจะยึดแบบอังกฤษครับ คือ วัน เดือน ปี

ปัญหาในการอ่านวันเดือนปีแบบที่ 4 และ 5 จะสร้างความสับสนได้ เพราะต้องดูให้ดีก่อนว่าเขาเขียนแบบอังกฤษหรือเอมริกัน ส่วนสามแบบแรกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ในการนำไปใช้ แบบที่ 1 นั้น ส่วนมากนำไปเขียนในรูปแบบที่เป็นทางการ และในการ์ดเชิญต่างๆ ปกติเราจะใช้แบบที่สองและสามกันมากกว่า

ส่วนแบบที่ 4 และ 5 จะใช้ในการจดโน๊ต การเขียนบันทึกความจำ การเขียนหาเพื่อนฝูง ซึ่งไม่ต้องเน้นพิธีการอะไรมากมาย

การขียนและอ่านวันที่ภาษาอังกฤษ

ถึงแม้ตอนเขียนจะเขียนสั้นๆ แต่วลาอ่านต้องอ่านเต็มๆนะครับ ขอยกตัวอย่างภาษาไทยก่อน ยกตัวอย่างเช่น

1/11/2560  อ่านว่า   1 พฤศจิกายน สองพันห้าร้อยหกสิบ

ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ถึงแม้จะเขียนสั้นๆ แต่เวลาอ่านต้องอ่านให้เต็ม เช่น

  • January 1st

อ่านว่า แจ๊นยัวริ เดอะ เฟิสท หรือ เดอะ เฟิสท ออฟ แจ๊นยัวริ

  • 2nd February

อ่านว่า เฟ็บรุเออะริ เดอะเซ๊เคินดึ หรือ เดอะ เซ๊เคินดึ ออฟ เฟ็บรุเออะริ

  • 15th March

อ่านว่า มาช เดอะ ฟิฟที๊นธ หรือ เดอะ ฟิฟที๊นธ ออฟ มาช

แต่ภาษาพูด บางทีจะละ เดอะ นะครับ เช่น

  • 15th March อ่านว่า มาช ฟิฟที๊นธ หรือ ฟิฟที๊นธ ออฟ มาช

ตัวอย่างการเขียนวันเกิด

  • I was born on 1st of July, 1999.

อ่านว่า ไอ เวิส บอน ออน เดอะ เฟิสท์ ออฟ จุล๊าย ไน๊นทีน ไน๊ทิ ไนน์

ฉันเกิดวัน(ลำดับ)ที่หนึ่งของเดือนกรกฎาคม

การนับลำดับที่

  • I live on the third floor.
  • I live on 3rd floor.

ฉันอาศัยอยู่ชั้น(ลำดับ)ที่สาม

  • The third boy is my brother.

เด็กชายลำดับที่ 3 คือ พี่ชายของฉัน

  • It is my first day here.

มันคือวันที่หนึ่ง (วันแรก) ของผมที่นี่

หมายความว่า ผมมาที่นี่เป็นวันแรก

 

ทีนี้มาดูการนับนะครับว่าเขานับกันอย่างไร ถ้าเขียนเป็นเลขอารบิคต้องมีอักษรสองตัวท้ายพ่วงเข้าไปด้วย และเวลาอ่านให้เติม the นำหน้าด้วยนะครับ เช่น 1st อ่านว่า เดอะ เฟิสท เป็นต้น

 วันที่ภาษาอังกฤษพร้อมตัวย่อ

ถ้าเป็นการนับลำดับที่ให้เปลี่ยนจากวันที่ เป็นลำดับที่นะครับ   เหตุที่เขียนวันที่เพราะส่วนใหญ่เราจะนับวันที่กันเป็นส่วนใหญ่

วันที่/ลำดับที่
ตัวย่อ
ตัวเต็ม
คำอ่าน

วันที่ 1
1st
first
เฟิสท

วันที่ 2
2nd
second
เซ๊เคินดี

วันที่ 3
3rd
third
เธิด

วันที่ 4
4th
fourth
ฟอธ

วันที่ 5
5th
fifth
ฟิฟธ

วันที่ 6
6th
sixth
ซิกซธ

วันที่ 7
7th
seventh
เซ็ฝเวินธ

วันที่ 8
8th
eighth
เอทธ

วันที่ 9
9th
ninth
ไนนธ

วันที่ 10
10th
tenth
เท็นธ

วันที่ 11
11th
eleventh
อิเล็ฝเวินธ

วันที่ 12
12th
twelfth
เทว็ลฟธ

วันที่ 13
13th
thirteenth
เธอที๊นธ

วันที่ 14
14th
fourteenth
ฟอที๊นธ

วันที่ 15
15th
fifteenth
ฟิฟที๊นธ

วันที่ 16
16th
sixteenth
ซิกซที๊นธ

วันที่ 16
17th
seventeenth
เซ็ฝเวินที๊นธ

วันที่ 18
18th
eighteenth
เอทที๊นธ

วันที่ 19
19th
nineteenth
ไนนที๊นธ

วันที่ 20
20th
twentieth
เทว็นทิเอ็ธ

วันที่ 21
21st
twenty-first
ทเว็นทิเฟิสท

วันที่ 22
22nd
twenty-second
เทว็นทิเซ๊เคินดึ

วันที่ 23
23rd
twenty-third
เทว็นทิเธิด

วันที่ 24
24th
twenty-fourth
เทว็นทิฟอธ

วันที่ 25
25th
twenty-fifth
เทว็นทิฟิฟธ

วันที่ 26
26th
twenty-sixth
เทว็นทิซิกซธ

วันที่ 27
27th
twenty-seventh
เทว็นทิเซ็ฝเวินธ

วันที่ 28
28th
twenty-eighth
เทว็นทิเอทธ

วันที่ 29
29th
twenty-ninth
เทว็นทิไนนธ

วันที่ 30
30th
thirtieth
เธ๊อทิเอ็ธ

วันที่ 31
31st
thirty-first
เธ๊อทิเฟิสท

การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ ก็มีหลักการง่ายๆแค่นี้เอง อย่าสับสนกับจำนวนนับนะครับ เพราะใช้ตัวเลขคนละชุดกัน

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 172

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


25 Phrases Every English Intermediate Learner Must-Know


This is the best video to get started with English language https://goo.gl/HQTf3N Click here to learn the English twice as fast with FREE PDF! ↓Check how below↓
Step 1: Go to https://goo.gl/HQTf3N
Step 2: Sign up for a Free Lifetime Account No money, No credit card required
Step 3: Achieve Your Learning Goal and master English the fast, fun and easy way!
In this video, we will teach you 25 English phrases, 25 English nouns, 25 English verbs and 25 adjectives that you must know if you’re an absolute beginner. This is THE place to start if you want to start learning English, and improve both your listening and speaking skills.
Get started with English language now! https://goo.gl/HQTf3N
Follow and write to us using hashtag EnglishClass101
Facebook : https://www.facebook.com/EnglishClass101
Twitter : https://twitter.com/EnglishClass101
Alisha’s Instagram: https://www.instagram.com/arishaintokyo
Alisha’s Twitter: https://twitter.com/arishaintokyo

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

25 Phrases Every English Intermediate Learner Must-Know

Day 25 ฝึกแปลอังกฤษเป็นไทยเบื้องต้น | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


วีดีโอจะสอนการแปลภาษาอังกฤษเบื้องต้นนะคะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิงโจ้ค่ะมีศัพท์ใหม่เกี่ยวกับสัตว์ด้วย

Day 25 ฝึกแปลอังกฤษเป็นไทยเบื้องต้น | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

25 สถานที่ คำศัพท์ / คำถาม / วลี ภาษาอังกฤษ


สมัครเป็นสมาชิกช่องนี้!!
กดปุ่ม \”สมัคร\” ข้างล่างวีดีโอใน Youtube หรือกดลิงค์นี้ได้เลยนะครับ https://www.youtube.com/channel/UC93A91EZTtZW55WEKCz_jYA/join
สั่งซื้อหนังสือได้จากแอดมินไลน์
@LINE ID = @EnglishbyChris
รับสอนตัวต่อตัว ติดต่อผมได้ที่
@LINE ID = @TeacherChris
http://www.englishbychris.com/portfolioitems/25places/
https://www.facebook.com/englishbychris
สนามบิน Airport 01:55
ธนาคาร Bank 08:38
ร้านบาร์ Bar 13:15
สถานีรถเมล์ Bus station 17:29
ร้านกาแฟ Café 22:45
โบสถ์ Church 28:08
โรงหนัง Cinema 32:07
ห้าง Shopping center 37:57
ร้านตัดผม Hairdressers 44:06
โรงพยาบาล Hospital 49:25
โรงแรม Hotel 56:09
ตรวดคนเข้าเมือง Immigration 01:01:21
ห้องสมุด Library 01:06:05
ตลาด Market 01:10:20
ร้านนวด Massage parlor 01:14:22
พิพิธภัณฑ์ Museum 01:21:34
สวนสาธารณะ Park 01:26:47
ปั๊มน้ำมัน Petrol station 01:32:10
ไปรษณีย์ Post office 01:36:32
ร้านอาหาร Restaurant 01:41:37
โรงเรียน School 01:45:48
ร้านสะดวกซื้อ Shop 01:51:28
วัด Temple 01:58:49
สถานีรถไฟ Train station 02:04:05
มหาวิทยาลัย University 02:09:00

25 สถานที่ คำศัพท์ / คำถาม / วลี ภาษาอังกฤษ

25 คำศัพท์ที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ (คำนาม) | Tina Academy Ep.54


♡ดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือได้ที่ https://www.tinaacademy.com/books
♡ ติดต่อซื้อหนังสือ Line ID: @linetina (พิมพ์ @ ด้วย)
♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathancha…
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @hxr4999x https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
Category
Education

25 คำศัพท์ที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ (คำนาม) | Tina Academy Ep.54

Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue


http://www.youtube.com/user/EnglishSingsing9
Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue
★ Subscribe us on YouTube: http://goo.gl/gDa963
★ More Our Compilation: https://goo.gl/Ghy0W5
Click on the link below to see each video in this compilation video.
The each video, that has sound \u0026 mute version, is accompanied by English subtitles.
01_Good morning. How are you? : 00:05
https://goo.gl/UgaCbo
02_Nice to meet you. I’m great. : 00:45
https://goo.gl/suLwDL
03_What’s this? What’s that? : 01:36
https://goo.gl/rWtxEc
04_Who is he? Who is she? : 02:48
https://goo.gl/NSUPfO
05_Whose bike is this? What a nice bike! : 04:02
https://goo.gl/Jwi031
06_Happy birthday! This is for you. : 04:52
https://goo.gl/1DU33X
07_How old are you? I’m five years old. : 06:20
https://goo.gl/4Su6m8
08_I like soccer. Let’s go! : 07:13
https://goo.gl/BwV0HO
09_Do you like cheese? Do you like ham? : 08:20
https://goo.gl/xaGsGJ
10_Do you have crayon? You’re welcome. : 09:50
https://goo.gl/jlXPXc
11_How many bears? Three bears. : 10:53
https://goo.gl/MVoa6p
12_How much is it? I want it. : 12:08
https://goo.gl/RC9SEg
13_It’s snowing. Do you like snow? : 13:21
https://goo.gl/i1xRiE
14_What color is it? It’s red. : 14:35
https://goo.gl/p8FOkm
15_It’s green and white. It’s raining. : 15:21
https://goo.gl/NH6Cqj
16_What does she look like? She has short curly hair. : 16:05
https://goo.gl/2whHE0
17_Watch out! Are you okay? : 17:07
https://goo.gl/0QjdXO
18_What’s wrong? I have a toothache. : 17:53
https://goo.gl/bBzrQu
19_What’s your favorite subject? My favorite subject is P.E. : 18:41
https://goo.gl/CekgrT
20_What a wonderful! What a nice day! : 19:46
https://goo.gl/KUxwPp
21_What a big tree! Don’t touch that! : 20:47
https://goo.gl/vOlfcL
22_Let’s go camping. Let’s go fishing. : 21:53
https://goo.gl/zbOel4
23_Wash your hands. Let’s eat pizza! : 23:04
https://goo.gl/erG5mc
24_Put on your coat. It’s cold and windy. : 24:16
https://goo.gl/SPlLxm
25_Put on your pants. Is this yours? : 23:44
https://goo.gl/Najvzp
26_May I take your order? I’d like a pizza and spaghetti. : 23:32
https://goo.gl/X86wCI
27_Where is it? Go straight. : 26:12
https://goo.gl/epYDec
28_Where is the post office? Go straight. : 27:02
https://goo.gl/mJpVwH
29_Where is the restroom? Go straight and turn left. : 27:48
https://goo.gl/KM3NFA
30_Where is my cap? Where is it? : 28:41
https://goo.gl/afzpwp
31_Where is my pencil? It’s on the chair. : 29:24
https://goo.gl/VgmAqE
32_What time is it? Time for breakfast. : 30:02
https://goo.gl/Q6eakx
33_Time for lunch. What time is it? : 30:59
https://goo.gl/8mynjx
34_What are you doing? I’m jumping. : 31:46
https://goo.gl/VR4C2i
35. What are you doing? I’m making cookies. : 33:16
https://goo.gl/4ZZxQ6
36_What’s he doing? He’s dancing. : 34:23
https://goo.gl/YUj0RG
37_What did you do? We went to the park. : 35:11
https://goo.gl/kqVfRR
38_How was your summer vacation? It was great. : 36:25
https://goo.gl/nyGvib

Thanks for checking out the \”English Singsing\”.
© Amanta Inc.

Good morning+More Kids Dialogues | Learn English for Kids | Collection of Easy Dialogue

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ 25 ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *