Skip to content
Home » [NEW] 20 คำถามต้องรู้ก่อนเป็น “นักเรียนแลกเปลี่ยน” | นักเรียน ทุน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 20 คำถามต้องรู้ก่อนเป็น “นักเรียนแลกเปลี่ยน” | นักเรียน ทุน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

นักเรียน ทุน ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

   


 

 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

…. เจอกับ

พี่เป้

และ “

Q&A(broad) อยากเรียนนอก จะบอกให้

” ที่จะ

มาช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาการเรียนต่อต่างประเทศเช่นเคยค่ะ

      

 
    ตอนนี้ก็เข้าเดือนเมษายนแล้ว เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูของ

“โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน”

เพราะหลายๆ โครงการจะเริ่มออกระเบียบและรับสมัครตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปยาวถึงเดือนสิงหาคมทีเดียว แต่เชื่อว่าก็ยังมีน้องๆ หลายคนไม่ค่อยเข้าใจโครงการนี้ ว่าเป็นมาอะไรยังไง เสียเงินเท่าไหร่ อยากสมัครต้องทำไง? วันนี้

พี่เป้

รวบรวมคำถามข้อสงสัยน่ารู้มาตอบแล้ว!


 

  

      

     

Question # 7 : อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนักเรียน
     แลกเปลี่ยน

 

 

เด็กดีดอทคอม :: รู้จัก

Q : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร?

A : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน คือโครงการที่ให้เด็กมัธยมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม โดยจะได้เข้าเรียนโรงเรียนรัฐตามหลักสูตร รวมถึงพักอยู่กับโฮสท์แฟมิลี่หรือครอบครัวอุปถัมภ์ตลอดเกือบ 1 ปีที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ค่ะ เรียกว่าใช้ชีวิตเหมือนเป็นคนในประเทศนั้นๆ เลยล่ะ

Q : ค่าใช้จ่ายโครงการแลกเปลี่ยนตกประมาณเท่าไหร่?

A : สำหรับค่าโครงการนั้

น ส่วนมากขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทค่ะ

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่ต้องจ่ายเพิ่มก็เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ากินอยู่(อาจไม่เสียมาก เพราะพักอยู่กับโฮสท์
แฟมิลี่อยู่แล้ว) ดังนั้นหากคิดจะไปแลกเปลี่ยน แนะนำว่าควรมีเงินสำรองไว้ประมาณ
4-5 แสนบาทค่ะ

Q : โห เสียตั้งหลายแสน แล้วมันเป็นทุนยังไง? ต่างจากไปเองยังไงเหรอ?

A : ลองดูตารางต่อไปนี้นะคะ

ข้อแตกต่าง

ไปเอง
ไปกับโครงการแลกเปลี่ยน

ค่าโครงการ/
ค่าเล่าเรียน

เรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน
ค่าเทอมปีละ 3-4 แสน(ขั้นต่ำ)

เรียนโรงเรียนรัฐ
ค่าโครงการ 3-4 แสนบาท

ค่าที่พัก

ขั้นต่ำปีละ 2 แสน

ไม่เสีย อยู่กับโฮสท์แฟมิลี่

ค่ากิน

แล้วแต่ค่าครองชีพ
ขั้นต่ำปีละ 150,000 บาท

แทบไม่เสีย อยู่กับ
โฮสท์แฟมิลี่


พอเห็นภาพกันแล้วเนาะ ^^ นอกจากนี้ การมีประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
ยังช่วยเพิ่มเครดิตให้ตัวเราเองด้วยค่ะ สามารถเอาไปใส่พอร์ตฟอลิโอหรือเขียนเป็นประสบการณ์เวลาสมัครเรียนต่อหรือขอทุนได้ด้วยนะเออ จะบอกให้

Q : มีโครงการไหนมีแจกทุนเต็มจำนวนมั้ย?

A : โครงการที่มีแจกทุนเต็มจำนวน(อ้างอิงจากปีที่ผ่านมา) ได้แก่


โครงการ SEA จำนวน 1 ทุน 

โครงการ YFU รอบที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
จำนวน 4-5 ทุน 

โครงการ YES จำนวน 3 ทุน 

โครงการ AFS แบ่งย่อยได้แก่

>> ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับนักเรียนที่บิดามารดาหรือผู้ปกครอง
ตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท จำนวน 10 ทุน

>> ทุน Corporate Scholar Program (CSP) โดยบริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนทุนให้เยาวชนที่เป็นบุตร-ธิดาของพนักงานได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ (ต้องตรวจสอบอีกทีว่าในปีนั้นๆ มีบริษัทหรือหน่วยงานไหนเข้าร่วมบ้าง)

>> ทุนรัฐบาลอเมริกา  รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดสรรทุนเต็มจำนวนให้แก่นักเรียนไทยมุสลิม โดยบิดามารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 50,000 บาท

โครงการ EF จำนวน 1 ทุน
โครงการ IEE จำนวน 1 ทุน


ใครอยากได้ก็ต้องทำคะแนนสอบข้อเขียนให้ได้เยอะๆ นะคะ เพราะเค้าใช้คะแนนสอบ
เป็นหลักค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: ไฮสคูลญี่ปุ่น ณ เมืองฮิโรชิม่า กฏระเบียบเยอะอย่าบอกใคร!!

Q : คุณสมบัติผู้สมัครเป็นยังไงบ้าง?

A : โดยทั่วไปต้องกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3-5 ค่ะ บางโครงการอาจกำหนดวันเกิด
ด้วยค่ะ 

Q : หาใบสมัครได้จากไหน?

A : ถ้าเป็นโครงการใหญ่ๆ เช่น AFS แต่ละเขตพื้นที่ก็จะมีโรงเรียนที่เป็นศูนย์ AFS ค่ะ น้องสามารถไปเอาใบสมัครได้ที่นั่น แต่หากเป็นโครงการอื่นที่ไม่มีอาจารย์คอยประสานงาน
น้องก็สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของโครงการเลยค่ะ

Q : ต้องมีผลการเรียนเท่าไหร่ถึงจะสมัครได้?

A : แต่ละโครงการจะกำหนดเกรดเฉลี่ยสะสมไว้ต่างกันค่ะ เช่น


โครงการ AFS มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.30 ขึ้นไปและไม่มีผลการเรียนติด 0  ร  และ
มส

โครงการ SEA มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป

โครงการ FTW มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป

โครงการ YES มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไป ไม่มีเกรด 1 หรือ 0 ในผลการ
เรียน 3 ปีล่าสุด 

โครงการ AYC มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.3 ขึ้นไปในรายวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ภาษาไทย ส่วนวิชาภาษาอังกฤษต้องได้เกรดเฉลี่ย 2.5  ขึ้นไป   

โครงการ ICE  มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 2.00 ขึ้นไป  

โครงการ EF มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดเฉลี่ยแต่ละรายวิชาไม่ต่ำกว่า 2.0
โครงการ IEE มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไปและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 3.00
ขึ้นไป  


โดยส่วนมากจะพิจารณาเกรดเฉลี่ยสะสม

2-3 ปีย้อนหลัง

น้องๆ ก็เอาเกรดที่ได้ทั้งหมด
มาหารจำนวนเทอม ก็จะออกมาเป็นเกรดเฉลี่ยสะสมค่ะ

Q : อยากไปประเทศที่ใช้ภาษาที่สาม แต่ไม่มีความรู้ภาษานั้นๆ เลย จะไปได้มั้ย?

A : ไม่ต้องห่วงค่ะ ส่วนมากก็ไปเรียนกันเอาที่นั่น แต่ก็มีบางโครงการ เช่น AYC มีข้อกำหนดเหมือนกันสำหรับบางประเทศ อย่างเช่น ใครจะไปสวิส ต้องมีพื้นฐานภาษาเยอรมันมา 2 ปี รวมถึงใครจะไปญี่ปุ่น ก็ต้องเรียนญี่ปุ่นมาอย่างน้อย 2 ปีเหมือนกัน ดังนั้นต้องเช็คกับทางโครงการอีกทีค่ะ แต่โดยรวมแล้วไม่ต้องซีเรียสค่ะ 

Q : ไปประเทศไหนดีถึงจะดีที่สุด?

A : เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกที่น้องๆ ถามเยอะมากค่ะว่า จะไปประเทศไหนดี จะเรียนภาษาอะไรดี ซึ่งแต่ละคนก็คงมีคำตอบในใจไม่เหมือนกัน บางคนที่รู้สึกว่าอยากพัฒนา
ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีเลิศเลย ก็จะเลือกไปประเทศอเมริกา หรือบางคนเป็นเด็กศิลป์ฝรั่งเศสอยู่แล้ว ก็อยากไปฝรั่งเศสไม่ก็เบลเยี่ยม หรือบางคนชอบเที่ยวไกลๆ ก็อาจจะเลือก
ไปอเมริกาใต้ เพราะคิดว่าชีวิตนี้ให้ไปเที่ยวอเมริกาใต้เองคงจะลำบาก เลยไปแลกเปลี่ยนซะเลยดีกว่า

ดังนั้นแต่ละคนก็มีแนวทางที่ต่างกันค่ะ ลองถามตัวเองนี่แหละง่ายสุด!

Q : แล้วเราสามารถเลือกเมืองและโรงเรียนที่อยากไปได้มั้ย?

A : ไม่ได้จ้า

Q : โครงการไหนมีไปประเทศอังกฤษบ้าง?

A : ใครอยากไปอังกฤษ มีโครงการของ EF กับ AYC ค่ะ

Q : แล้วโครงการไหนมีไปเกาหลีใต้บ้าง?

A : มีโครงการเดียวค่ะคือ YFU รับปีละ 1-2 คนเท่านั้นและรับเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น (แข่งกันตาเหลือก)

Q : ไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะไปได้มั้ย?

A : น้องจะต้องสอบข้อเขียนค่ะ ซึ่งตัวข้อเขียนนั้นก็พอจะเป็นตัววัดได้แล้วว่าเราเก่งพอที่
จะไปได้หรือไม่

Q : สอบข้อเขียนยากมั้ย? เนื้อหาเป็นยังไง?

A : ข้อสอบของโครงการแลกเปลี่ยนเป็นข้อสอบแบบ SLEPT TEST ที่เน้นการฟังและอ่าน ขอบอกว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน เน้นท่องศัพท์ไว้เยอะๆ ค่ะ ส่วนใครอยากลองทำข้อสอบย้อนหลัง ก็มีมาฝากเหมือนกันค่ะ 

โหลดเลย! ข้อสอบ AFS ย้อนหลัง 3 ปี 

Q : แลกเปลี่ยนครบ 1 ปีแล้ว อยากเรียนที่นั่นต่อเลยได้มั้ย?

A : ไม่ได้ค่ะ น้องต้องกลับมาที่ไทยก่อนเพราะไปในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน จากนั้น
ถ้าอยากกลับไปเรียนต่อที่นั่น ก็ต้องเดินเรื่องต่อเองค่ะ เช่น ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาตอน
ม.6 น้องต้องกลับมาสอบที่ไทยและทำเรื่องจบม.6 (ปกติไปแลกเปลี่ยน เค้ามักไม่ค่อย
ออกใบจบการศึกษาให้) จากนั้นค่อยเอาวุฒิม.6 ที่จบสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ที่อเมริกาค่ะ

Q : กลับมาต้องซ้ำชั้นมั้ย?

A : ขึ้นอยู่กับโครงการและโรงเรียนที่น้องจะได้ไปค่ะ บางโรงเรียนอาจจะบังคับให้ซ้ำ บางโรงเรียนอนุโลมไม่ต้องซ้ำ น้องควรติดต่อกับทางโรงเรียนดูเป็นกรณีพิเศษค่ะ แต่ส่วน
มากเด็กสายศิลป์จะไม่ซ้ำ แต่สายวิทย์จะซ้ำ เพราะว่าสายวิทย์เนื้อหาเยอะและหนักกว่าสายศิลป์ แต่ก็มีน้องๆ สายวิทย์บางคนไม่ซ้ำชั้นเหมือนกันนะ ได้ยินว่ามีน้องสายวิทย์ไม่ซ้ำ
และสอบกสพท.ติดหมอด้วยล่ะค่ะ ชาบู ชาบู

Q : แล้วจะกลับมาสอบแอดมิชชั่นหรือสอบตรงได้มั้ย?

A : ไม่มีปัญหาค่ะ อย่างสอบตรงมีเกรดกี่เทอมก็ใช้เท่านั้น(ควรติดต่อสอบถามคณะเพิ่มเติมด้วย) มีน้องหลายๆ คนที่ไปแลกเปลี่ยนมาก็สอบตรงติดค่ะ

Q : อยากอ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน จะหาอ่านได้จากไหน?

ตรงนี้ แรงๆ เลยค่ะ รวมประสบการณ์เด็กนอกของนักเรียนแลกเปลี่ยนไว้เป็นร้อย
เรื่องเลยจ้า

A : ใครสงสัยข้อนี้นี่งอนตายเลย ฮ่าๆ แสดงว่าไม่เคยอ่านประสบการณ์เด็กนอกแน่ๆ >__< คลิกแรงๆ เลยค่ะ รวมประสบการณ์เด็กนอกของนักเรียนแลกเปลี่ยนไว้เป็นร้อยเรื่องเลยจ้า

Q : จะรู้ได้ยังไงว่าโครงการไหนเริ่มเปิดรับสมัครแล้วบ้าง?

พี่เป้

จะรีบนำระเบียบการมา
ลงเลยจ้า

หรืออีกวิธีหนึ่งที่สะดวกมากคือ น้องๆ สามารถเข้าไปค้นหาทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้
จากโปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกที่
พี่ก็จะอัพเดททุนใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมค้นหาทุนนี้เหมือนกันค่ะ

A : สบายใจหายห่วงค่ะ น้องๆ สามารถติดตามได้ที่ www.dek-d.com/studyabroad ตรงหมวดนักเรียนแลกเปลี่ยน ถ้าโครงการไหนเปิดรับสมัครแล้วจะรีบนำระเบียบการมาลงเลยจ้าหรืออีกวิธีหนึ่งที่สะดวกมากคือ น้องๆ สามารถเข้าไปค้นหาทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้จากโปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกที่ www.dek-d.com/studyabroad/scholarship พี่ก็จะอัพเดททุนใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมค้นหาทุนนี้เหมือนกันค่ะ

Q : ไปแลกเปลี่ยน เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง?

A : โอ้โห เยอะแยะมากมายค่ะ หลักๆ ก็คือภาษา เชื่อเถอะว่าภาษาน้องจะต้องดีมาก พี่รู้จักน้องคนนึงไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 1 ปี กลับมานี่เก่งญี่ปุ่นขั้นเทพ และหลังจากนั้นอีก 2 ปี
น้องเค้าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นได้ระดับ N1 หรือระดับสูงสุดนั่นเองค่ะ!! นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสลองไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากกกกกก บางคนไปแลกเปลี่ยนที่ยุโรป 1 ก็มีโอกาสได้ตะลุยเที่ยวเกือบทั่วทวีปยุโรปแล้ว อิจฉาปะล่ะ อิอิ (ตาร้อน)

เด็กดีดอทคอม :: หนึ่งปีชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ เยอรมัน ย้ายบ้านมาแล้ว 5 หลัง!!

     

   
    หวังว่าน้องๆ ที่อ่านจนจบคงพอเข้าใจโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนมากขึ้นนะคะ
ใครอยากติดโครงการไหน อยากไปประเทศไหน ก็ขอเอาใจช่วยให้ได้ตามที่ตั้งใจ
ไว้ หรือใครอยากชิงทุนเต็มล่ะก็ ฟิตภาษาอังกฤษกันด่วนเลยจ้า!! ส่วนใครมีคำถาม
อยากรู้เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก ก็ส่งอีเมลมาถามได้ที่ [email protected] เลยค่ะ
คำถามไหนน่าสนใจ เดี๋ยวเลือกนำมาตอบแน่นอน

    


ย้อนอ่าน Q&A(broad) ตอนที่ผ่านมา

Q&A 6 สิ่งต้องทำ!! หากอยากได้ทุนไปเรียนนอกฟรีๆ

Q&A How to สมัครทุน Asean Scholarship ทุนในฝันของเด็กมัธยม

Q&A เจาะลึกระบบแอดมิชชั่น ณ อังกฤษ! ระบบนี้ดีติดอันดับโลก

เด็กดีดอทคอม :: 28 วันใน
TWITTER @PAYDEKD

[NEW] 20 คำถามต้องรู้ก่อนเป็น “นักเรียนแลกเปลี่ยน” | นักเรียน ทุน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

   


 

 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

…. เจอกับ

พี่เป้

และ “

Q&A(broad) อยากเรียนนอก จะบอกให้

” ที่จะ

มาช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาการเรียนต่อต่างประเทศเช่นเคยค่ะ

      

 
    ตอนนี้ก็เข้าเดือนเมษายนแล้ว เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูของ

“โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน”

เพราะหลายๆ โครงการจะเริ่มออกระเบียบและรับสมัครตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปยาวถึงเดือนสิงหาคมทีเดียว แต่เชื่อว่าก็ยังมีน้องๆ หลายคนไม่ค่อยเข้าใจโครงการนี้ ว่าเป็นมาอะไรยังไง เสียเงินเท่าไหร่ อยากสมัครต้องทำไง? วันนี้

พี่เป้

รวบรวมคำถามข้อสงสัยน่ารู้มาตอบแล้ว!


 

  

      

     

Question # 7 : อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนักเรียน
     แลกเปลี่ยน

 

 

เด็กดีดอทคอม :: รู้จัก

Q : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร?

A : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน คือโครงการที่ให้เด็กมัธยมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม โดยจะได้เข้าเรียนโรงเรียนรัฐตามหลักสูตร รวมถึงพักอยู่กับโฮสท์แฟมิลี่หรือครอบครัวอุปถัมภ์ตลอดเกือบ 1 ปีที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ค่ะ เรียกว่าใช้ชีวิตเหมือนเป็นคนในประเทศนั้นๆ เลยล่ะ

Q : ค่าใช้จ่ายโครงการแลกเปลี่ยนตกประมาณเท่าไหร่?

A : สำหรับค่าโครงการนั้

น ส่วนมากขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทค่ะ

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่ต้องจ่ายเพิ่มก็เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ากินอยู่(อาจไม่เสียมาก เพราะพักอยู่กับโฮสท์
แฟมิลี่อยู่แล้ว) ดังนั้นหากคิดจะไปแลกเปลี่ยน แนะนำว่าควรมีเงินสำรองไว้ประมาณ
4-5 แสนบาทค่ะ

Q : โห เสียตั้งหลายแสน แล้วมันเป็นทุนยังไง? ต่างจากไปเองยังไงเหรอ?

A : ลองดูตารางต่อไปนี้นะคะ

ข้อแตกต่าง

ไปเอง
ไปกับโครงการแลกเปลี่ยน

ค่าโครงการ/
ค่าเล่าเรียน

เรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน
ค่าเทอมปีละ 3-4 แสน(ขั้นต่ำ)

เรียนโรงเรียนรัฐ
ค่าโครงการ 3-4 แสนบาท

ค่าที่พัก

ขั้นต่ำปีละ 2 แสน

ไม่เสีย อยู่กับโฮสท์แฟมิลี่

ค่ากิน

แล้วแต่ค่าครองชีพ
ขั้นต่ำปีละ 150,000 บาท

แทบไม่เสีย อยู่กับ
โฮสท์แฟมิลี่


พอเห็นภาพกันแล้วเนาะ ^^ นอกจากนี้ การมีประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
ยังช่วยเพิ่มเครดิตให้ตัวเราเองด้วยค่ะ สามารถเอาไปใส่พอร์ตฟอลิโอหรือเขียนเป็นประสบการณ์เวลาสมัครเรียนต่อหรือขอทุนได้ด้วยนะเออ จะบอกให้

Q : มีโครงการไหนมีแจกทุนเต็มจำนวนมั้ย?

A : โครงการที่มีแจกทุนเต็มจำนวน(อ้างอิงจากปีที่ผ่านมา) ได้แก่


โครงการ SEA จำนวน 1 ทุน 

โครงการ YFU รอบที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
จำนวน 4-5 ทุน 

โครงการ YES จำนวน 3 ทุน 

โครงการ AFS แบ่งย่อยได้แก่

>> ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับนักเรียนที่บิดามารดาหรือผู้ปกครอง
ตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท จำนวน 10 ทุน

>> ทุน Corporate Scholar Program (CSP) โดยบริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนทุนให้เยาวชนที่เป็นบุตร-ธิดาของพนักงานได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ (ต้องตรวจสอบอีกทีว่าในปีนั้นๆ มีบริษัทหรือหน่วยงานไหนเข้าร่วมบ้าง)

>> ทุนรัฐบาลอเมริกา  รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดสรรทุนเต็มจำนวนให้แก่นักเรียนไทยมุสลิม โดยบิดามารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 50,000 บาท

โครงการ EF จำนวน 1 ทุน
โครงการ IEE จำนวน 1 ทุน


ใครอยากได้ก็ต้องทำคะแนนสอบข้อเขียนให้ได้เยอะๆ นะคะ เพราะเค้าใช้คะแนนสอบ
เป็นหลักค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: ไฮสคูลญี่ปุ่น ณ เมืองฮิโรชิม่า กฏระเบียบเยอะอย่าบอกใคร!!

Q : คุณสมบัติผู้สมัครเป็นยังไงบ้าง?

A : โดยทั่วไปต้องกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3-5 ค่ะ บางโครงการอาจกำหนดวันเกิด
ด้วยค่ะ 

Q : หาใบสมัครได้จากไหน?

A : ถ้าเป็นโครงการใหญ่ๆ เช่น AFS แต่ละเขตพื้นที่ก็จะมีโรงเรียนที่เป็นศูนย์ AFS ค่ะ น้องสามารถไปเอาใบสมัครได้ที่นั่น แต่หากเป็นโครงการอื่นที่ไม่มีอาจารย์คอยประสานงาน
น้องก็สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของโครงการเลยค่ะ

Q : ต้องมีผลการเรียนเท่าไหร่ถึงจะสมัครได้?

A : แต่ละโครงการจะกำหนดเกรดเฉลี่ยสะสมไว้ต่างกันค่ะ เช่น


โครงการ AFS มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.30 ขึ้นไปและไม่มีผลการเรียนติด 0  ร  และ
มส

โครงการ SEA มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป

โครงการ FTW มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป

โครงการ YES มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไป ไม่มีเกรด 1 หรือ 0 ในผลการ
เรียน 3 ปีล่าสุด 

โครงการ AYC มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.3 ขึ้นไปในรายวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ภาษาไทย ส่วนวิชาภาษาอังกฤษต้องได้เกรดเฉลี่ย 2.5  ขึ้นไป   

โครงการ ICE  มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 2.00 ขึ้นไป  

โครงการ EF มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดเฉลี่ยแต่ละรายวิชาไม่ต่ำกว่า 2.0
โครงการ IEE มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไปและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 3.00
ขึ้นไป  


โดยส่วนมากจะพิจารณาเกรดเฉลี่ยสะสม

2-3 ปีย้อนหลัง

น้องๆ ก็เอาเกรดที่ได้ทั้งหมด
มาหารจำนวนเทอม ก็จะออกมาเป็นเกรดเฉลี่ยสะสมค่ะ

Q : อยากไปประเทศที่ใช้ภาษาที่สาม แต่ไม่มีความรู้ภาษานั้นๆ เลย จะไปได้มั้ย?

A : ไม่ต้องห่วงค่ะ ส่วนมากก็ไปเรียนกันเอาที่นั่น แต่ก็มีบางโครงการ เช่น AYC มีข้อกำหนดเหมือนกันสำหรับบางประเทศ อย่างเช่น ใครจะไปสวิส ต้องมีพื้นฐานภาษาเยอรมันมา 2 ปี รวมถึงใครจะไปญี่ปุ่น ก็ต้องเรียนญี่ปุ่นมาอย่างน้อย 2 ปีเหมือนกัน ดังนั้นต้องเช็คกับทางโครงการอีกทีค่ะ แต่โดยรวมแล้วไม่ต้องซีเรียสค่ะ 

Q : ไปประเทศไหนดีถึงจะดีที่สุด?

A : เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกที่น้องๆ ถามเยอะมากค่ะว่า จะไปประเทศไหนดี จะเรียนภาษาอะไรดี ซึ่งแต่ละคนก็คงมีคำตอบในใจไม่เหมือนกัน บางคนที่รู้สึกว่าอยากพัฒนา
ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีเลิศเลย ก็จะเลือกไปประเทศอเมริกา หรือบางคนเป็นเด็กศิลป์ฝรั่งเศสอยู่แล้ว ก็อยากไปฝรั่งเศสไม่ก็เบลเยี่ยม หรือบางคนชอบเที่ยวไกลๆ ก็อาจจะเลือก
ไปอเมริกาใต้ เพราะคิดว่าชีวิตนี้ให้ไปเที่ยวอเมริกาใต้เองคงจะลำบาก เลยไปแลกเปลี่ยนซะเลยดีกว่า

ดังนั้นแต่ละคนก็มีแนวทางที่ต่างกันค่ะ ลองถามตัวเองนี่แหละง่ายสุด!

Q : แล้วเราสามารถเลือกเมืองและโรงเรียนที่อยากไปได้มั้ย?

A : ไม่ได้จ้า

Q : โครงการไหนมีไปประเทศอังกฤษบ้าง?

A : ใครอยากไปอังกฤษ มีโครงการของ EF กับ AYC ค่ะ

Q : แล้วโครงการไหนมีไปเกาหลีใต้บ้าง?

A : มีโครงการเดียวค่ะคือ YFU รับปีละ 1-2 คนเท่านั้นและรับเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น (แข่งกันตาเหลือก)

Q : ไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะไปได้มั้ย?

A : น้องจะต้องสอบข้อเขียนค่ะ ซึ่งตัวข้อเขียนนั้นก็พอจะเป็นตัววัดได้แล้วว่าเราเก่งพอที่
จะไปได้หรือไม่

Q : สอบข้อเขียนยากมั้ย? เนื้อหาเป็นยังไง?

A : ข้อสอบของโครงการแลกเปลี่ยนเป็นข้อสอบแบบ SLEPT TEST ที่เน้นการฟังและอ่าน ขอบอกว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน เน้นท่องศัพท์ไว้เยอะๆ ค่ะ ส่วนใครอยากลองทำข้อสอบย้อนหลัง ก็มีมาฝากเหมือนกันค่ะ 

โหลดเลย! ข้อสอบ AFS ย้อนหลัง 3 ปี 

Q : แลกเปลี่ยนครบ 1 ปีแล้ว อยากเรียนที่นั่นต่อเลยได้มั้ย?

A : ไม่ได้ค่ะ น้องต้องกลับมาที่ไทยก่อนเพราะไปในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน จากนั้น
ถ้าอยากกลับไปเรียนต่อที่นั่น ก็ต้องเดินเรื่องต่อเองค่ะ เช่น ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาตอน
ม.6 น้องต้องกลับมาสอบที่ไทยและทำเรื่องจบม.6 (ปกติไปแลกเปลี่ยน เค้ามักไม่ค่อย
ออกใบจบการศึกษาให้) จากนั้นค่อยเอาวุฒิม.6 ที่จบสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ที่อเมริกาค่ะ

Q : กลับมาต้องซ้ำชั้นมั้ย?

A : ขึ้นอยู่กับโครงการและโรงเรียนที่น้องจะได้ไปค่ะ บางโรงเรียนอาจจะบังคับให้ซ้ำ บางโรงเรียนอนุโลมไม่ต้องซ้ำ น้องควรติดต่อกับทางโรงเรียนดูเป็นกรณีพิเศษค่ะ แต่ส่วน
มากเด็กสายศิลป์จะไม่ซ้ำ แต่สายวิทย์จะซ้ำ เพราะว่าสายวิทย์เนื้อหาเยอะและหนักกว่าสายศิลป์ แต่ก็มีน้องๆ สายวิทย์บางคนไม่ซ้ำชั้นเหมือนกันนะ ได้ยินว่ามีน้องสายวิทย์ไม่ซ้ำ
และสอบกสพท.ติดหมอด้วยล่ะค่ะ ชาบู ชาบู

Q : แล้วจะกลับมาสอบแอดมิชชั่นหรือสอบตรงได้มั้ย?

A : ไม่มีปัญหาค่ะ อย่างสอบตรงมีเกรดกี่เทอมก็ใช้เท่านั้น(ควรติดต่อสอบถามคณะเพิ่มเติมด้วย) มีน้องหลายๆ คนที่ไปแลกเปลี่ยนมาก็สอบตรงติดค่ะ

Q : อยากอ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน จะหาอ่านได้จากไหน?

ตรงนี้ แรงๆ เลยค่ะ รวมประสบการณ์เด็กนอกของนักเรียนแลกเปลี่ยนไว้เป็นร้อย
เรื่องเลยจ้า

A : ใครสงสัยข้อนี้นี่งอนตายเลย ฮ่าๆ แสดงว่าไม่เคยอ่านประสบการณ์เด็กนอกแน่ๆ >__< คลิกแรงๆ เลยค่ะ รวมประสบการณ์เด็กนอกของนักเรียนแลกเปลี่ยนไว้เป็นร้อยเรื่องเลยจ้า

Q : จะรู้ได้ยังไงว่าโครงการไหนเริ่มเปิดรับสมัครแล้วบ้าง?

พี่เป้

จะรีบนำระเบียบการมา
ลงเลยจ้า

หรืออีกวิธีหนึ่งที่สะดวกมากคือ น้องๆ สามารถเข้าไปค้นหาทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้
จากโปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกที่
พี่ก็จะอัพเดททุนใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมค้นหาทุนนี้เหมือนกันค่ะ

A : สบายใจหายห่วงค่ะ น้องๆ สามารถติดตามได้ที่ www.dek-d.com/studyabroad ตรงหมวดนักเรียนแลกเปลี่ยน ถ้าโครงการไหนเปิดรับสมัครแล้วจะรีบนำระเบียบการมาลงเลยจ้าหรืออีกวิธีหนึ่งที่สะดวกมากคือ น้องๆ สามารถเข้าไปค้นหาทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้จากโปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกที่ www.dek-d.com/studyabroad/scholarship พี่ก็จะอัพเดททุนใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมค้นหาทุนนี้เหมือนกันค่ะ

Q : ไปแลกเปลี่ยน เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง?

A : โอ้โห เยอะแยะมากมายค่ะ หลักๆ ก็คือภาษา เชื่อเถอะว่าภาษาน้องจะต้องดีมาก พี่รู้จักน้องคนนึงไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 1 ปี กลับมานี่เก่งญี่ปุ่นขั้นเทพ และหลังจากนั้นอีก 2 ปี
น้องเค้าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นได้ระดับ N1 หรือระดับสูงสุดนั่นเองค่ะ!! นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสลองไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากกกกกก บางคนไปแลกเปลี่ยนที่ยุโรป 1 ก็มีโอกาสได้ตะลุยเที่ยวเกือบทั่วทวีปยุโรปแล้ว อิจฉาปะล่ะ อิอิ (ตาร้อน)

เด็กดีดอทคอม :: หนึ่งปีชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยน ณ เยอรมัน ย้ายบ้านมาแล้ว 5 หลัง!!

     

   
    หวังว่าน้องๆ ที่อ่านจนจบคงพอเข้าใจโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนมากขึ้นนะคะ
ใครอยากติดโครงการไหน อยากไปประเทศไหน ก็ขอเอาใจช่วยให้ได้ตามที่ตั้งใจ
ไว้ หรือใครอยากชิงทุนเต็มล่ะก็ ฟิตภาษาอังกฤษกันด่วนเลยจ้า!! ส่วนใครมีคำถาม
อยากรู้เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก ก็ส่งอีเมลมาถามได้ที่ [email protected] เลยค่ะ
คำถามไหนน่าสนใจ เดี๋ยวเลือกนำมาตอบแน่นอน

    


ย้อนอ่าน Q&A(broad) ตอนที่ผ่านมา

Q&A 6 สิ่งต้องทำ!! หากอยากได้ทุนไปเรียนนอกฟรีๆ

Q&A How to สมัครทุน Asean Scholarship ทุนในฝันของเด็กมัธยม

Q&A เจาะลึกระบบแอดมิชชั่น ณ อังกฤษ! ระบบนี้ดีติดอันดับโลก

เด็กดีดอทคอม :: 28 วันใน
TWITTER @PAYDEKD


คำถามสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค Part 1


สวัสดีค่ะ มาตามที่ขอไว้นะคะ วันนี้เจน่าห์รวบรวมคำถามและประโยคตัวอย่างที่ใช้ในการสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย หรือเข้าเรียนที่โรงเรียนต่างๆ โดยเจน่าห์แบ่งคลิปคำถาม 11 ข้อเป็น 2 parts ค่ะเนื่องจากคลิปยาวเกิน คลิปที่ 2 จะโพสสัปดาห์หน้านะคะ ขอชี้แจงนิดนึงนะคะ คำถาม 11 ข้อนี้เป็นเพียงแค่ 11 ข้อในร้อยๆข้อที่เขาอาจดึงมาถามเรา และ wording ในการถามอาจแต่งต่างกันบ้าง ไว้รอบต่อๆไปเจน่าห์จะรวบรวมนำคำถามอื่นๆมาแชร์นะคะ สำหรับคำตอบในคลิปนี้ เจน่าห์เตรียมมาแบบ pattern และเป็นตัวอย่างเท่านั้น เจน่าห์แนะนำให้เพื่อนๆเตรียมตัวและฝึกฝนเยอะๆเพื่อเตรียมความพร้อมค่ะ หากสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าจะตอบว่าอะไรให้ลองถามคนใกล้ตัวที่มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ถามครู ถามเพื่อนต่างชาติ หรือถามเจน่าห์ก็ได้ค่ะ ถ้าชอบก็กด Like ชอบมากๆก็ช่วย share, subscribe และกด bell และอยากเรียนภาษาตากาล็อกเพิ่มฝาก comment ไว้ให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ Cheers!
——————————————————————————————————————
สำหรับการ Subscribe
เพื่อนๆจะต้อง sign up หรือสมัครอีเมล์ของ Gmail ก่อนค่ะ แล้วเข้าไปที่หน้าหลักของ YouTube พิมพ์ “Learn English with TextAndTalk” ที่ช่องค้นหา และเมื่อเข้า page ของเจน่าห์แล้ว ตรงข้างบนทางขวามือจะเห็นปุ่ม Subscribe หรือเมนูภาษาไทยเรียกว่า ‘สมัครสมาชิก’ FREE! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ทำไมต้อง Subscribe ก็เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆค่ะ และเมื่อสมัครแล้วอย่าลืมกดรูป bell หรือกระดิ่ง Notification Bell ด้วยนะคะ เพราะทุกๆครั้งที่เจน่าห์ up clip ใหม่ๆ Clip ของเจน่าห์จะขึ้นที่ page ของเพื่อนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องมา Search หากันทุกครั้ง และจะได้ไม่ลืมกันนะอิอิ ^^
——————————————————————————————————————
ตามหาเจน่าห์ที่อื่นๆได้ที่ Follow me:
Instagram: exchangeswithjeynah
Facebook: https://www.facebook.com/Exchangeswit…

สนใจเรียน at my school: TextAndTalk Academy
Facebook: English Training Thailand (รับเป็นวิทยากรและจัดเทรนนิ่งให้หน่วยงานและองค์กร) https://www.facebook.com/EnglishTrain…
Website: www.textandtalk.com

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำถามสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค Part 1

ormTV : ประสบการณ์ภาษาอังกฤษ จากชีวิตที่1 นักเรียนทุน


ภีม เลิศพุทธิพงศ์พร
ที่1 ทุนเล่าเรียนหลวง ปี2559 ศึกษาต่อสหรัฐอเมริกา
กับประสบการณ์ชีวิต และทัศนคติต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษควรเป็นอย่างไร
เราฝันว่าวันหนึ่ง ซึ่งไม่ช้านี้
นักเรียนไทยทุกคนจะเก่งภาษาอังกฤษได้
ออมความรู้ ออมวิชา ออมปัญญา ออมสกูล

ormTV : ประสบการณ์ภาษาอังกฤษ จากชีวิตที่1 นักเรียนทุน

วิธีการเก่งภาษาอังกฤษใน 1 เดือน (ฉบับนักเรียนทุนรัฐบาล)


แนะนำวิธีฝึกภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากพัฒนาสกิลการพูดนะครับ 😘
FB: TATA’s DIARY ไดอารี่ของตาต้า

วิธีการเก่งภาษาอังกฤษใน 1 เดือน (ฉบับนักเรียนทุนรัฐบาล)

ormTV : นักเรียนทุน เขาเรียนภาษาอังกฤษกันยังไง


จากภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนคว้าทุนไปศึกษาต่ออเมริกา
ประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษอันน่าตื่นเต้นของ
สิปาง ฉายศิลป์รุ่งเรือง
นักเรียนทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ศึกษาต่อประเทศสหรัฐอเมริกา
คะแนนสูงสุด ที่1 คณะบัญชี จุฬาฯ ปี2559
ขอให้ผู้ที่มีความมุ่งมั่น ประสบความสำเร็จ
ออมความรู้ ออมวิชา ออมปัญญา ออมสกูล

ormTV : นักเรียนทุน เขาเรียนภาษาอังกฤษกันยังไง

ฝึกพูดภาษาอังกฤษ 300 ประโยคพร้อมตัวอย่าง


เป็นวิดิโอที่ครูแนะนำให้แชร์เก็บไว้ฟังตอนขับรถหรือทำการบ้านหรืองานบ้านได้เลยค่ะ เพราะครูได้รวบรวม 300 ประโยคที่ต้องรู้หากอยากพูดภาษาอังกฤษได้มาฝาก มีตัวอย่างประโยคพร้อมกับครูที่พูดออกเสียงให้ฟังด้วยนะคะ

ฝึกพูดภาษาอังกฤษ 300 ประโยคพร้อมตัวอย่าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ นักเรียน ทุน ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *