[NEW] 2 ศิษย์เก่า CMMU แชร์ประสบการณ์จากเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน โกอินเตอร์ทำงานที่บังกลาเทศ-ฝรั่งเศส | ประสบการณ์ นักเรียน แลกเปลี่ยน อเมริกา – NATAVIGUIDES

2 ศิษย์เก่า ปริญญาโท หลักสูตรนานาชาติ (International Program) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) จะมาแชร์เรื่องราวการเรียนในรั้ว ซีเอ็มเอ็มยู ประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน (Exchange Student) นักเรียนหลักสูตรสองปริญญา (Double Degree) ที่ต่างประเทศ ก่อนเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ต่อยอดสู่การโกอินเตอร์บินลัดฟ้าไปทำงานที่ต่างประเทศ ที่จะต้องปรับตัวรับมือกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่คุ้นชิน นิสัยของผู้คนใหม่ๆ และวัฒนธรรมของคนต่างเชื้อชาติที่เกินจินตนาการ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เหล่าศิษย์เก่ามีการหยิบกลยุทธ์การรับมือและองค์ความรู้จากสิ่งที่เรียนทั้งในรั้วซีเอ็มเอ็มยู และมหาวิทยาลัยต่างแดนที่สะสมมาเอาตัวรอดได้น่าสนใจอย่างไร วันนี้เราจะพาไปฟังเรื่องราวของพวกเขาพร้อมกัน

แชร์ประสบการณ์จากเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน โกอินเตอร์ทำงานที่บังกลาเทศ-ฝรั่งเศส

สำหรับใครที่มีเส้นทางฝันอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ หรือทำงานในองค์กรชั้นนำที่ต่างประเทศ เรื่องราวจากศิษย์เก่าปริญญาโท หลักสูตรนานาชาติทั้งสองท่านนี้น่าจะตอบโจทย์ได้มากทีเดียว ด้วยจุดแข็งของ ซีเอ็มเอ็มยู ที่มีเครือข่าย Global Partner ร่วมกับสถาบันชั้นนำทั่วโลกกว่า 36 สถาบัน ครอบคลุมทั้ง อเมริกา ยุโรป เอเชีย ยิ่งช่วยให้ผู้มีฝันสามารถขยายโอกาสทางการศึกษา และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ ทั่วโลกได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

เปิดใจนักเรียนแลกเปลี่ยน มหาวิทยาลัยติด TOP3 ที่ดีที่สุดของประเทศเยอรมนี สู่การเป็นเจ้านายคนไทยที่ต้องบู๊ บุกในอุตสาหกรรมวิศวกรรมที่บังกลาเทศ

“อะตอม” วรภัทร ก่อเกิด ศิษย์เก่าหลักสูตรนานาชาติ สาขา Marketing and Management (MM) เปิดเผยว่า หลังจากผมเรียนจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และทำงานวิศวกรซอฟต์แวร์สักพัก ได้ค้นพบว่าตนเองสนใจสายธุรกิจด้านการตลาดมากขึ้น โดยมองว่าการจะเติบโตในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศนั้น เราต้องเข้าใจกลยุทธ์การขาย และการจัดการด้านการตลาด ดังนั้นจึงเริ่มศึกษาข้อมูลหลักสูตร และบรรยากาศการเรียนการสอนของแต่ละมหาวิทยาลัย สุดท้ายตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาโท หลักสูตรนานาชาติ สาขา Marketing and Management ที่ซีเอ็มเอ็มยู ด้วย 3 สาเหตุหลัก คือ 1. ความสำเร็จของบุคคลต้นแบบ CMMU Alumni ผมได้รับอิทธิพลมาจาก Marketing Director ที่บริษัทเก่าของผม ซึ่งเขาเป็นศิษย์เก่าซีเอ็มเอ็มยูสาขา Marketing and Management ที่เก่งมาก สามารถขึ้นเป็น Director ได้ตอนอายุ 32 ปี และได้แนะนำให้ผมมาเรียนที่นี่ เพราะคณาจารย์และสังคมดี 2. หลักสูตรของ CMMU เอื้อต่อวิถีคนวัยทำงาน มีการเปิดสอนเวลาเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอบโจทย์ชีวิตผมที่ยังต้องทำงานประจำ และช่วยให้บริหารเงินมาใช้จ่ายค่าเล่าเรียนได้อย่างสะดวก และ 3. CMMU ตั้งอยู่ในพิกัดที่เดินทางสะดวก บนถนนวิภาวดีรังสิต สามารถเดินทางโดยรถยนต์หรือเดินทางจากเส้นรถไฟฟ้า BTS ได้

อีกหนึ่งประสบการณ์ล้ำค่าสมัยเรียน คือ การได้เข้าร่วมโปรแกรม Exchange Student ซึ่งซีเอ็มเอ็มยู มีพันธมิตรเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ต่างประเทศมากและหลากหลาย โดยผมได้ไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยลุดวิก แมกซิมิเลียน แห่ง มิวนิค (Ludwig Maximilian University of Munich (LMU Munich)) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยติด TOP3 ที่ดีที่สุดของประเทศเยอรมนี ที่โดดเด่นด้านกฎหมายและการบริหาร ผมได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหลายอย่างกับเพื่อนใหม่ที่เยอรมนี เช่น ทำอาหารไทยให้พวกเขาทาน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลังมหาวิทยาลัย เดินทางท่องเที่ยว 11 ประเทศ 18 เมือง

ไปชมนัดการแข่งขันฟุตบอลสำคัญร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยการเรียนที่เยอรมนีจะไม่หนักมาก เรียน 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มี 2 รูปแบบคือ 1. เรียนแบบ Lecture Class และ 2. เรียนแบบ Consulting มีผู้ช่วยอาจารย์มาติวให้เรา รวมทั้งหลักสูตรการเรียนก็ทันสมัย ทันเหตุการณ์มาก เช่น เรื่อง Disruptive Technology หรือการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาด ซึ่งที่เยอรมนีสอนเรื่องนี้ปี 2015 แต่ในประเทศไทยเริ่มสนใจเรื่องนี้ในปี 2018 เหล่านี้ผมและอาจารย์ ซีเอ็มเอ็มยู ก็ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและอัปเดตร่วมกันด้วย

หลังจากเรียนจบ ผมก็ได้รับโอกาสจากคนรู้จักที่บังเอิญเจอกันบนเครื่องบินขณะบินกลับไทย ชวนให้ไปทำงานที่ประเทศบังกลาเทศในอุตสาหกรรมวิศวกรรม ซึ่งเขาต้องการคนที่สามารถบริหารโปรเจกต์เกี่ยวกับวิศวกรรม บริหารคนในทีม และได้ภาษา ซึ่งวิศวกรไทยมักจะเสียเปรียบเรื่องภาษา แต่จุดนี้ผมมีความพร้อมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจบินไปทำงานทันที การทำงานที่บังกลาเทศช่วงแรกค่อนข้างลำบากมากและทำให้ผมช็อกทีเดียว เพราะวิธีการทำงานของเขาค่อนข้างเห็นแก่ตัว อาจจะเกิดจากสภาพแวดล้อมของประเทศเขาด้วยที่ต้องแข่งขันเพื่อเอาตัวรอด เพราะค่าแรงขั้นต่ำของคนบังกลาเทศคือ 70 บาทต่อวัน

และเวลาติดต่อธุรกิจกับคนบังกลาเทศ ผมต้องวางแผนเตรียมหลักฐานอย่างดี ต้องรู้ลึก รู้จริง และรู้ทัน เพราะคนบังกลาเทศมีอำนาจการต่อรองงานค่อนข้างเด่นทีเดียว ขณะเดียวกันการประชุมถ้าใครเถียงดังกว่าแปลว่าชนะ และการตบโต๊ะเสียงดังก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งผมในฐานะคนไทยก็ต้องปรับตัวกับวัฒนธรรมการทำงานของเขา รวมถึงผมมีโอกาสได้ดูแลและสอนงานลูกน้องชาวบังกลาเทศในทีมด้วย นับเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายมากๆ โดยการวางกลยุทธ์การบริหารคน และกลยุทธ์การบริหารงาน ถือเป็นจุดแข็งที่ผมได้เรียนรู้และต่อยอดมาจากการเรียนที่หลักสูตรนานาชาติ ซีเอ็มเอ็มยู และการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เยอรมนี รวมทั้งการกล้าแสดงความคิดเห็น และการบริหารจัดการความคิดด้วย สอนให้ผมเติบโตขึ้นและกลายเป็นคนที่พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในทุกวันเลยครับ

นักเรียนหลักสูตร Double Degree เรียนควบไทย-ฝรั่งเศส สู่การบุกทำงานบริษัทข้ามชาติฝรั่งเศส ให้บริการสำรวจแหล่งแผ่นดินไหวและแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพทั่วโลก

เอริน่า ซูซิกิ (Erina Suziki) ศิษย์เก่าหลักสูตรนานาชาติ สาขา General Management (GM) เผยว่า เมื่อตอนฉันวางแผนศึกษาเรียนต่อปริญญาโท ได้เปรียบเทียบข้อมูลมหาวิทยาลัยหลายแห่งมาก ซึ่งฉันต้องการมหาวิทยาลัยที่สามารถให้การเรียนรู้ที่มากกว่าในหนังสือ จนกระทั่งพบ ซีเอ็มเอ็มยู และได้ตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่ทันที ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. หลักสูตรการเรียนที่ใช้งานได้จริง 2. คณาจารย์มีประสบการณ์สูง และ 3. มีหลักสูตร Double Degree หรือหลักสูตรสองปริญญาเพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ โดยฉันเลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติ สาขา General Management ซึ่งเป็นหลักสูตร Double Degree เรียนที่ ซีเอ็มเอ็มยู 1 ปี และเรียนที่สถาบันดัง Toulouse School of Management ด้าน International Management ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งติดอันดับ 1 ที่นักศึกษาชาวฝรั่งเศสต้องการเรียนที่สุด อีก 2 ภาคการเรียนหรือประมาณ 7 เดือน

ในความเห็นของฉัน โครงการแลกเปลี่ยน Exchange Student และหลักสูตร Double Degree เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความสนใจเรียนในสภาพแวดล้อมที่เป็นสากลและต้องการอยู่ในวัฒนธรรมการทำงานระดับนานาชาติ รวมถึงเหมาะสำหรับผู้ที่อาจมีเวลาจำกัดเช่นฉัน ซึ่งการเลือกเรียนที่ ซีเอ็มเอ็มยู ก็ทำให้ฉันสามารถคว้าปริญญาโท 2 ใบได้ในระยะเวลาสั้นๆ และยิ่งตอกย้ำความคิดว่า โอกาสมีอยู่ทุกที่สำหรับทุกคน เพียงแค่เราจะใช้และคว้าโอกาสอย่างไร

โดยปัจจุบัน ฉันทำงานให้กับบริษัทฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบริษัทที่ให้บริการสำรวจแหล่งแผ่นดินไหวและแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพทั่วโลก ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่เป็นวิศวกร นักธรณีวิทยา และนักฟิสิกส์ที่มาจากทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สเปน โปแลนด์ โรมาเนีย สหราชอาณาจักร และตูนิเซีย ที่ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน เนื่องจากสถานที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมแบบข้ามชาติ วัฒนธรรมที่ฉันประสบที่นี่จึงเกินจินตนาการมาก ทั้งคำสั่งจากหัวหน้าที่มักจะสั้น

ดังนั้นหากไม่เข้าใจต้องถามทันทีเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด นอกจากนี้ทักษะการสื่อสารที่ไม่ใช่เฉพาะการฟังหรือการพูดก็จำเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อคุณทำงานในบริษัทข้ามชาติที่แต่ละคนมีภูมิหลังหรือความเชื่อแตกต่างกัน การเปิดใจและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นนั้นจึงเป็นทักษะที่สำคัญมาก ขณะเดียวกันบริษัทมี Saturday BBQ และ Sunday Brunch เมื่อเราต้องทำงานในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย ให้เชิญสมาชิกในครอบครัวของพนักงานทุกคนมาทานอาหารร่วมกันกัน ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจมาก ตอนนี้ฉันก็กำลังใช้ความรู้และประสบการณ์มากมายจากการเรียนปริญญาโททั้งที่ ซีเอ็มเอ็มยู และ Toulouse School of Management มาประยุกต์และต่อยอดการทำงาน เช่น การจัดการข้ามวัฒนธรรม การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ และความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ เป็นต้น

เรื่องราวเหล่านี้นับเป็นประสบการณ์ที่ต่อยอดมาจากการเรียนในมหาวิทยาลัย แม้ว่าการเรียนปริญญาโทในสายตาหลายคนอาจจะมองว่าเป็นกระแสสังคม ที่เราต้องมีไว้แข่งขันกับคนอื่นเพื่อหางานทำ แต่ฉันก็อยากให้ทุกคนแสวงหาสิ่งที่คุณกำลังมองหาในชีวิตและอนาคตอย่างแท้จริง ลองนึกภาพตัวเองอยู่ในองค์กรในฝันไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ และคิดว่ามหาวิทยาลัยใดที่สามารถช่วยให้เส้นทางที่คุณคิดนั้นกลายเป็นจริงได้ สำหรับฉัน ซีเอ็มเอ็มยู เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และการเลือกเรียนหลักสูตร Double Degree ก็ช่วยให้ฉันบรรลุเป้าหมายในการได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งฉันก็ได้รับคำแนะนำและความช่วยเหลือจากคณาจารย์หลายอย่างมาก ทั้งช่วยปรับประวัติการสมัครงานให้โดดเด่น แนะนำงานในบริษัทชั้นนำต่างๆ จากเครือข่ายที่ ซีเอ็มเอ็มยู มีทั่วโลก นับว่าได้รับความใส่ใจตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ เอริน่า กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตรไทย วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 ตุลาคม 2564 ที่ https://apply.cm.mahidol.ac.th/web หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-206-2000 หรือติดตามข้อมูลได้ที่เพจเฟซบุ๊ก CMMU Mahidol

แท็ก:

ประสบการณ์นักเรียนใหม่ Lane Community College

โดย เพ่ยเพ่ย
หลักสูตร : 2+2 University Transfer

ปัจจุบัน : โอนไปศึกษาต่อด้าน Economics
ที่ University of Minnesota – Twin Cities

สภาพแวดล้อมของ เมือง Eugene รัฐ Oregon เป็นยังไงบ้าง ?

ที่นี่ฝนตกบ่อยมากแต่ว่ามีธรรมชาติที่สวย ต้นไม้เยอะ เขียวขจีเวอร์ ผู้คนที่นี่ก็นิสัยดี เฟรนด์ลี่มาก การเดินทางก็สะดวกสบาย มีรถบัส ส่วนเรื่องอาหารก็หลากหลายมีทุกชาติเลย ตอนแรกก็คิดว่ามันเป็น Downtown ของ Eugene คิดว่าจะมีแสงสีนิดนึงแต่ก็รู้แหละว่ารัฐ Oregon มันก็ออกแนวธรรมชาติ แต่หนูก็ชอบแบบธรรมชาติ สงบๆแบบนี้ แต่มีกิจกรรมให้ทำเยอะ

การเดินทางไปรัฐ Oregon ลำบากรึเปล่า ?

ไม่ค่ะ ก็เปลี่ยนเครื่อง 2 รอบ คือ นั่งจากไทยไปลงเกาหลี แล้วก็จากเกาหลีไป Seattle แล้วก็ต่อมา Eugene

ทำไมถึงมาเรียนต่อที่อเมริกา ทั้งที่ยังไม่จบมัธยมปลายในไทย ?

คือ หนูเรียนไฮสคูลที่อเมริกามาสองปีค่ะ ม.4 – ม.5 และตัดสินใจเรียนต่อวิทยาลัยที่อเมริกาต่อเลย ได้ข้ามม.6 ไปจะได้เรียนจบเร็วๆ

ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ Lane Community College ?

ชอบตรงที่มันอยู่ในเมืองเล็กๆ ชอบที่เมืองนี้ไม่ค่อยมีแสงสี แต่มีกิจกรรมทำเยอะ มีอาหารหลากหลาย คือ เลือกจากที่ตั้งของสถาบันเลย และอยากลองอยู่หอบ้างเพราะไม่อยากอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ (เพราะเคยอยู่กับโฮสต์มาแล้วตอนไปแลกเปลี่ยน)

การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และการมาเป็นนักเรียนในวิทยาลัย แตกต่างกันมากรึเปล่า ?

แตกต่างมากค่ะ ตอนไปแลกเปลี่ยนเราจะอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ แต่พอมาอยู่ที่นี่ก็ได้มาอยู่หอ ซึ่งตอนอยู่กับโฮสต์เวลาทำอะไรเราก็ต้องเกรงใจเขา เชื่อฟังเขา เวลาเขาพาไปไหนก็ควรจะไปไหนกับเขา แต่พอมาอยู่เองก็รู้สึกว่าอิสระดี มีความสุข จะทำอะไร ไปไหนเองก็ได้ การได้อยู่กับเพื่อนก็สนุกดี

ตอนอยู่กับโฮสต์ โฮสต์เขาก็จะทำอาหารให้กินหรือพาไปกินข้าว แต่พอมาอยู่เองเราก็ต้องซื้ออาหารทุกอย่างเอง ทำอาหารเองทุกครั้ง และเรื่องเดินทาง เราก็ต้องนั่งรถบัสไปเอง แต่ตอนอยู่กับโฮสต์ โฮสต์ก็จะไปส่งค่ะ ตอนไปแลกเปลี่ยนเราไปตอนไฮสคูลซึ่งเราก็อยู่แค่ในโรงเรียน เรียนทุกวัน แต่พอขึ้นวิทยาลัยแล้ว กิจกรรมมันก็จะเยอะกว่า มีอะไรให้ทำเยอะกว่า เพื่อนก็จะหลากหลายอายุและหลากหลายเชื้อชาติมากกว่า

บรรยากาศวันแรกตอนไปถึง Lane Community College เป็นยังไงบ้าง ?

เขาก็มีปฐมนิเทศน์ให้นักเรียนแล้วก็ต้อนรับดีมาก มีกิจกรรมทำให้เรารู้จักเพื่อนใหม่ๆและก็แนะนำเรื่องการใช้ชีวิตใน Lane ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้ไปหา Advisor เขาก็ยินดีจะช่วยตลอดเวลา และมี Orientation Trip เหมือนพาเด็กใหม่ไปเที่ยว ก็อบอุ่นดี

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอยู่เลเวลไหน ?

ได้เลเวล F (สูงสุด) ถ้าได้เลเวล E หรือ F ก็จะมีสิทธิ์เรียน Bridge Program ได้ Take Credit Class 2 ตัวควบคู่กับ ESL ไปด้วย เขาจะมีบังคับวิชานึงให้เรา และมีอีกวิชานึงที่เราเลือกได้ วิชาที่บังคับก็จะเป็นพวกจริยธรรมและเชื้อชาติ ส่วนอีกวิชานึงที่เลือกเองก็คือ Math

วิชาเรียนที่บังคับเรียนเป็นยังไงบ้าง ?

ถ้ามาใหม่ๆแล้วมาเจอคลาสแบบนี้ก็ยากเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนที่นี่เขามี ESL ที่เตรียมตัวเพื่อเข้าเรียน Credit Class เขาจะสอนการเขียน การอ่าน การพูดภาษาอังกฤษ มันจะเชื่อมโยงกับวิชาจริยธรรมและเชื้อชาติ วิชานี้จะเขียนเยอะ ครูทาง ESL เขาก็จะช่วยสอนให้ค่ะ

สภาพแวดล้อมและสังคมของวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง ?

แคมปัสน่าเรียนมาก สวย และนักเรียนก็มาจากหลากหลายประเทศ เขาจะมีกิจกรรมพาไปเที่ยวตอลดเวลา ไม่ทำให้เราเหงาหรือเบื่อ กิจกรรมก็มีทั้งฟรีบ้าง เสียเงินบ้างแต่ก็เสียไม่เยอะ ประมาณ 10 ดอลล่าร์ก็ถือว่าคุ้ม แล้วก็มีแผนกด้าน International Advisor คอยช่วยนักเรียนต่างชาติตลอดเวลา สังคมเพื่อนที่นี่ก็เฟรนด์ลี่ค่ะ มาจากหลากหลายชาติ ทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่น เวียดนาม จะเจอคนเอเชียบ่อยเพราะเรียน ESL ด้วยกัน แต่คนอเมริกันก็มีในวิทยาลัยบ้างค่ะ

หอพัก Titan Court เป็นยังไงบ้าง ?

ครบครัน เขามีบริการดีและมีกิจกรรมด้วย ไม่ใช่แค่ทางวิทยาลัยที่ดี ทาง Titan Court ก็มีกิจกรรมด้วย มีบาร์บีคิว มีห้องให้ไปเล่นเกม มี Study Room และก็สะอาด ชอบ ส่วนเรื่องห้องก็ดีค่ะ เรื่องทำความสะอาดก็ถ้าเป็นห้องนอนของเรา เราก็ต้องทำเอง แต่พื้นห้องมันเป็นพรมก็ใช้แค่ที่ดูดฝุ่นไม่ต้องถู ไม่ต้องกวาด ห้องพักก็จะเป็นห้องนอนเดี่ยว แชร์แค่ห้องครัวและห้องนั่งเล่น

การได้อยู่กับรูมเมทชาวต่างชาติครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง ?

มีเมท 3 คน พวกเขาก็ดีกันทุกคน พวกเขาเหมือนแม่เลย ทำอาหารเก่งแล้วก็ทำความสะอาดด้วย นิสัยดี มีอะไรก็แชร์กัน เป็นคนญี่ปุ่นและฮ่องกงค่ะ อายุก็ใกล้ๆกันห่างกันแค่ปีสองปีแค่นั้น

การเรียนการสอนของครูที่ Lane Community Collge เป็นยังไงบ้าง ?

ครูแต่ละคนก็มีสไตล์การสอนแตกต่างกันไป ครูเขาก็สอนดีเพราะเพื่อนทุกคนก็ไม่มีใครบ่นเรื่องครูเท่าไหร่ วิชาที่หนูเรียนครูก็ดีหมดเลย

สังคมเพื่อนคนไทยที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ?

คนไทยที่นี่มีประมาณ 2-3 คนซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เราได้ Peer Mentor เป็นคนไทย พอมาถึงเขาก็อธิบายทุกอย่างเป็นภาษาไทย เราก็เข้าใจได้เร็วขึ้น เขาก็คอยช่วยเหลือ คอยถามไถ่ มีอะไรก็ถามได้ตลอดเวลา นอกจาก Peer Mentor ก็เจอคนไทยอยู่ 2 คน คือ พี่ฟ้า (นักเรียนที่ใช้บริการจากก้อปันกัน) และพี่ผู้หญิงอีกคนนึง ที่นี่ดีตรงที่ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยเท่าไหร่ค่ะ

เป้าหมายการมาเรียนที่อเมริกาในครั้งนี้คืออะไร ?

อยากพัฒนาภาษาอังกฤษและมาหาประสบการณ์ มีความฝันอยากต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกาด้วย แต่พอมาเรียนแบบ Community College ก่อนมันก็ประหยัดเงินกว่าไปเรียนมหาวิทยาลัยเลย พอจบ College ก็สามารถเลือกได้ว่าอยากโอนต่อไปที่ไหน อยากเรียนพวก Business หรือ Finance อยากเข้าที่ University of Southern California, University of Washington และก็ University of California, Los Angeles

เรื่องความปลอดในเมือง Eugene และในวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง ?

ก็ปลอดภัยมาก อยู่อย่างสบายใจ ทุกคนก็ดู Nice ไม่น่ากลัว ในหอก็มียามมีกล้องวงจรปิดครบ คนนอกเข้าไม่ได้เพราะต้องมี Access Card ถึงจะเข้าหอได้

ค่ายเตรียมความพร้อมที่เราเคยไปเข้ามาของก้อปันกันสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง ?

ช่วยได้เยอะเลย เรื่องธนาคาร การเปิดบัญชี การสอบ Placement Test และพวกข้อมูลพื้นฐานที่พอช่วยเราได้

มีอะไรแนะนำสำหรับคนอยากไปเรียนที่ Lane Community College มั๊ย ?

แนะนำให้มาเลย เป็นวิทยาลัยที่ดีมาก มีเพื่อนจากหลากหลายประเทศแน่นอน มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ที่นี่ก็สวย ปลอดภัย สะดวกสบาย มีอาหารไทยให้กินแน่นอน

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lane CC

คลิก

# ประสบการณ์นักเรียนใหม่ Lane Community College 

Photo Credits : เพ่ยเพ่ย