Skip to content
Home » [NEW] 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 3 เดือน | เรียน รู้ ได้ เร็ว ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 3 เดือน | เรียน รู้ ได้ เร็ว ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เรียน รู้ ได้ เร็ว ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

การสื่อสารมีความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารจะมีทั้งการฟังและพูด เพื่อสร้างบทสนทนาและสามารถโต้ตอบได้อย่างเข้าใจ แต่ปัญหาของผู้เรียนส่วนใหญ่จะเจอในการสื่อสารคือฟังได้แต่ตอบไม่ได้ พูดไม่ออก เรียนไปตั้งนานแต่ไม่เห็นการพัฒนา ทำให้รู้สึกว่าเรียนไปก็เสียเวลาไปเปล่า ๆ ดังนั้นวันนี้ทาง EngBreaking.co.th จะเปิด 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือน จริงหรือไม่ ? ต้องดู !

Table of Contents

1.เปลี่ยนจากการคิดเป็นภาษาไทยเป็นคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อนพูดทุกครั้ง

ถ้าผู้เรียนคนใดอยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง เราต้องคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อน เช่น เมื่ออยากจะพูดกับเพื่อนว่า

  • นานแล้วไม่เจอเธอเลย สบายดีไหม ?

เราจะคิดเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่มีความหมายเดียวกันคือ

  • “Hi, Long time no see, How are you?”

จากนั้นลองคิดเกี่ยวกับคำตอบที่จะได้รับ ฝึกคิดตั้งแต่ประโยคสั้น ๆ ก่อน ถึงจะลองฝึกคิดประโยคยาว ตั้งแต่ง่ายจนถึงยากเพื่อท้าทายตัวเอง และเป็นการฝึกฝนที่จะช่วยได้หลายอย่าง ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณเอง เช่น การโต้ตอบเร็วขึ้นเพราะจะไม่ต้องแปลหรือคิดเป็นภาษาไทยก่อนพูดเหมือนเดิม และสามารถเดาไว้ก่อนคำถามหรือคำตอบที่คุณอาจจะเจอในแต่ละกรณี ทำให้ตอนที่เราสื่อสารกับใครเราก็มั่นใจ พูดได้เร็วเพราะสมองได้ฝึกและคุ้นเคยกับศัพท์หรือประโยคเหล่านั้นอยู่แล้ว

Eng Breaking แนะนำวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ

2.ต้องกล้าพูดภาษาอังกฤษ

ผู้เรียนบางคนชอบคิดว่าเมื่อเราเรียนแกรมมาเก่งแล้วเราถึงจะพูดก็ได้ แต่ความคิดแบบนี้ผิดมากเพราะตอนที่เราพูด ไม่จำเป็นที่ต้องพูดให้ถูกไวยากรณ์ 100% และถ้าเราไม่ฝึกพูดบ่อยและยิ่งมีความล่าช้าในการฝึกพูด ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเมื่อต้องพูด เราคิดว่าเราจะพูดได้นะเพราะเราเคยเรียนศัพท์และไวยากรณ์นั้นไปแล้ว แต่เราไม่เคยได้ฝึกพูดจริง ๆ เมื่อถึงเวลาใช้งาน พอถึงเวลากลับพูดไม่ออก ดังนั้นอย่าลังเลในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ต้องกล้าพูด กล้าท้าทายตัวเอง ถึงจะเก่งได้

3. ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษในหลายกรณีที่แตกต่างกัน

“Use It or Lose It” เป็นสำนวนอังกฤษที่มีความหมายว่า สิ่งใดไม่ได้ใช้ กำลังก็จะลูญหาย คุณค่าก็จะลดลง เช่นเดียวกันกับการฝึกฝนเรียนภาษาอังกฤษ หากไม่มีการนำออกมาใช้พัฒนา ความสามารถที่มีก็จะหายไปในที่สุด ดังนั้นต้องหมั่นเติมความรู้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะให้ไม่ถูกลดทอนไปและใช้งานไม่ได้ในที่สุด

หมั่นฝึกพูดให้หลากหลายและบ่อยขึ้น ถ้าเรียนรู้คำศัพท์มามากมาย แต่ไม่ทำไปใช้งาน การพัฒนาก็ไม่เกิดขึ้น ควรที่จะรู้จักการเรียนรู้ในรูปแบบอื่น ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่มากขึ้น รู้จักการท้าทาย อย่ากลัวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่ก้าวหน้า ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากความกลัวที่จะก้าวข้ามมานั่นเอง

4.เรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างสร้างสรรต์

ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอะไรก็ตามถ้าเรามีความสร้างสรรค์ในการเรียน รู้จักประยุกต์การเรียน ถึงแม้จะเรียนคนเดียวแต่รู้จักออกแบบการเรียนให้ดูสนุกก็ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ เช่น ฝึกฝนกับกระจก หรือร้องเพลงตามศิลปินที่ชอบ

และในปัจจุบัน ก็มีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยในการเรียนรู้ควบคู่ไปการสร้างความบันเทิง เช่น Tiktok ที่มักจะมีชาเลนจ์ คอนเทนต์ที่น่าสนใจที่อัปเดตอยู่เสมอ ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษดูไม่ยากและน่าเรียนมากขึ้น การเรียนรู้ไปกับเพื่อน ๆ ก็จะช่วยเพิ่มความสนุกได้มากขึ้น กับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น บอร์ดเกม ที่เป็นที่นิยม หรือแอปพลิเคชั่นที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็นำมาเล่นสนุกด้วยกันเป็นทีมได้เช่นกัน

ฝึกพูดภาษาอังกฤษถูกต้องสามารถเก่งได้ในสามเดือน

5.มีแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษที่ดี น่าเชื่อถือใช้ตลอดการเรียน

ตอนนี้เราสามารถหาได้ทุกอย่างได้ในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Blog, Vlog, Youtube เว็บไซต์ต่าง ๆ แต่ก็ใช่ว่าแต่ละแหล่งจะเชื่อถือได้และได้ผล ดังนั้นก็ควรศึกษาแหล่งข้อมูลเหล่านั้นให้ดี ๆ ว่ามีประโยชน์จริง ๆ อย่างเว็บ EngBreaking.co.th ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษในแบบฉบับสมบูรณ์ รองรับผู้เรียนทุกระดับตั้งแต่ง่ายไปจนถึงยาก มีการจัดสรรเนื้อหาในบทเรียนให้เหมาะสมแก่ผู้เรียนแต่ละคน

6.เลียนแบบตามคนอื่นเป็นวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม

ถ้าคุณชอบน้ำเสียงของใคร คุณสามารถเรียนตามเขาได้หรือเรียกได้ว่าวิธีการเลียนแบบตามคนอื่นที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายคนที่เคยใช้และประสบความสำเร็จได้ การเรียนแบบนี้ง่ายมาก ๆ กับสามขั้นตอนคือ

  • ขั้นตอนที่หนึ่ง คุณต้องเลือกคนที่คุณชอบ มีน้ำเสียงดี ออกเสียงภาษาอังกฤษแบบชัดเจน
  • ขั้นตอนที่สอง พูดตามคำพูดของเขาแบบที่ละประโยคสั้นๆ 
  • ขั้นตอนที่สาม ปรับความเร็ว การขึ้นลงของเสียงตามคนพูดในวิดีโอ แล้วฝึกพูดตามประโยคยาวๆ ถ้าตอนแรกเราฟังก่อนแล้วพูดตาม แต่ถึงขึ้นตอนที่สามนี้เราลองพูดตามไปเลยเหมาะกับจังหวะ ถ้าขยันใช้วิธีแบบนี้เราจะสามารถเลียนสำเนียงต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว

7.ลองฝึกใช้วิธี Tongue Twisters แบบสนุกๆ เพื่อฝึกพูดไว

ในภาษาอังกฤษมักจะมีศัพท์ที่อ่านออกเสียงยาก แต่ผู้เรียนจะไม่ต้องกังวลอีกแล้วเพราะเรามีเทคนิคเพื่อช่วยให้คุณปรับการออกเสียงให้ดียี่งขึ้นที่ได้เรียกว่า “Tongue Twisters” ที่หมายถึงสิ่งที่ทำให้ลิ้นบิดเบี้ยว หรือจริงๆ ก็คือเจ้าสิ่งนี้มันทำให้ลิ้นของเราอ่อน พูดได้เพราะมากขึ้นนั้นเอง
คุณสามารถฝึกออกเสียงตามวิธี “Tongue Twisters” โดยการอ่านประโยคละสามถึงห้ารอบหรือจนถึงเมื่อไหร่รู้สึกว่าโอเคแล้วเพื่อฝึกทักษะการพูดของตัวเองให้ดีขึ้นดังนี้

  • How can a clam cram in a clean cream can? ที่หมายถึง “หอยตลับเข้าไปแออัดยัดกันอยู่ในกระป๋องครีมสะอาด ๆ ได้ยังไงกัน” ช่วยคุณแยกระหว่างการออกเสียง /kl/ กับ /kr/ 
  • Send toast to ten tense stout saints’ ten tall tents. ที่หมายถึง “เอาขนมปังอบไปส่งที่เต็นท์สูงสิบหลังของพวกนักบุญอวบอ้วนที่ดูเคร่งเครียดสิบคน” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง /s/ กับเสียง /t/ ซึ่งเป็นพยัญชนะฐานฟันทั้งคู่
  • If Stu chews shoes, should Stu choose the shoes he chews? ที่หมายถึง “ถ้าสตูเคี้ยวรองเท้า มันก็ควรจะเลือกรองเท้าที่มันเคี้ยวหรือเปล่า” ช่วยคุณแยกระกว่างการออกเสียง sh กับ ch ให้ชัดเจน กับหลายประโยคที่ผู้เรียนสามารถเก็บเอาไว้ฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านได้เช่น
  • Can you can a can as a canner can can a can? ฝึกออกเสียง เสียง /k/
  • I wish to wish the wish you wish to wish, but if you wish the wish the witch wishes, I won’t wish the wish you wish to wish. ฝึกออกเสียง sh กับ ch 
  • Santa’s short suit shrunk. ฝึกเสียง s กับ sh ซึ่งเป็นเสียงประเภท sibilant ทั้งคู่
  • Big purple bags were bought by the big picky people from

    Bilbao

    . ฝึกออกเสียง /b/ กับ /p/

8. เรียนรู้วลีแทนการเรียนรู้แต่ละคำ

การที่เราเรียนรู้เพิ่มวลีจะช่วยคุณในการพูดภาษาอังกฤษอย่างกล้วยๆ คำพูดจะออกมาแบบธรรมชาติมากขึ้น ดังนั้นเราควรทราบวลีที่ต่างชาติมักจะใช้กันบ่อยดังนี้

come up /kʌm/ with something แปลว่า ก่อให้เกิด, ปรากฏ
clean up /kliːn/ แปลว่า
ทำความสะอาด
come about  แปลว่า
สิ่งที่เกิดขึ้น
bring in something /brɪŋ/ แปลว่า
นำบางสิ่งบางอย่าง, เอามาให้
turn off /tɜːn/  แปลว่า ปิด
turn on something แปลว่า
เปิดบางสิ่งบางอย่าง
grow up /ɡrəʊ/  แปลว่า
โตขึ้น
keep up /kiːp/  แปลว่า
ทำต่อไป
look after /lʊk/ sb/sth แปลว่า
ดูแล
show up /ʃəʊ/ แปลว่า
แสดงขึ้นมา
stay behind /steɪ/  แปลว่า
อยู่ข้างหลัง
look up to sb แปลว่า
เคารพ
find out (something) /fɑɪnd/ แปลว่า
หา (บางสิ่งบางอย่าง)
wake up /weɪk/ แปลว่า 
ตื่นนอน

ยกตัวอย่างเช่น

:

What do you want to be when you grow up? แปลว่า คุณอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น?
How did you find out about the party? แปลว่า คุณทราบเกี่ยวกับปาร์ตี้ได้อย่างไร?
How many people showed up to the meeting? แปลว่า มีคนเข้าร่วมประชุมกี่คน

จากตัวอย่างดังนี้เราจะเห็นเลยว่าในภาษาอังกฤษเราก็มีหลากหลายวิธีเพื่อจะตั้งคำถามหรือตอบโดยการใช้ศัพท์หรือวลีที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคำที่ต่างชาตินิยมกันใช้ เราควรทราบเพื่อเลียนแบบตามได้ถูก มีความก้าวหน้าสำหรับทักษะการพูดภาษาอังกฤษของตนเอง

9. ไม่หยุดการเก็บกศัพท์ใหม่

สำหรับการพูดภาษาอังกฤษถ้าเราไม่ขยันเสริมสร้างคลังคำศัพท์ของตัวเราเอง เราก็จะพูดไม่ได้แน่นอน เพราะตอนที่ขาดศัพท์จะฟังไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดว่าหมายความว่าอะไร จากการฟังไม่ออกก็ทำให้จะตอบไม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากพูดเก่งนอกจากต้องฝึกฟังและหัดสำเนียงตามให้เก่ง นอกจากนี้ก็ต้องหมั่นเก็บตกศัพท์ใหม่ไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีคลังศัพท์เยอะยิ่งใช้คำพูดได้ธรรมชาติและพูดได้คล่อง ได้ไวเหมือเจ้าของภาษา

10. ต้องพัฒนาทักษะการพูดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

อย่าพึ่งหยุดการพัฒนาในทักษะการพูดของตัวเองโดยคิดว่าเราสื่อสารได้แล้ว หรือแค่นั้นแค่นี้คือพอแล้ว เพราะสำหรับการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เราต้องขยันอัปเดตศัพท์ใหม่ถ้าจากพื้นฐานเราพูดได้แล้วแต่เรื่องแกรมมายังไม่ค่อยมั่นใจ ถึงจุดใดจุดหนึ่งถ้าคุณอยากเป็นช่างพูด พูดเก่งคุณควรใช้เวลาเพิ่มสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ “part of speech” หรือเข้าใจกันง่ายๆ คือชนิดของศัพท์เพื่อได้รู้ว่าคำไหนเป็น คำนาม คำกริยา หรือ คำคุณศัพท์ เพื่อใช้ในการพูดหรือเขียนให้ถูก เพราะตอนสื่อสารทั่วไปคุณไม่ต้องใส่ใจแกรมมามาก แต่เมื่อคุณอยากสอบพูดแน่นอนว่าคุณต้องการทราบไวยากรณ์และเรียงศัพท์ให้ถูกถึงจะได้คะแนนสูงสุด คุณสามารถเข้า google translater หรือ youTube เพื่อดูวิธีการออกเสียงของศัพท์แต่ละคำที่คุณต้องการ ฝึกออกเสียงตามและตั้งประโยคกับศัพท์นั้นด้วยเพื่อจดจำได้ยาวนานขึ้น

11. เรียนจากทุกคน และหาเพื่อนใหม่เพื่อช่วยกันฝึกพูด

“Make a new friend” หรือเข้าใจได้ว่าการหาเพื่อนใหม่ผู้ที่ก็ชอบการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกับคุณ จะเป็นคนต่างชาติหรือเป็นคนไทยที่เก่งภาษาอังกฤษก็ได้ คุณสามารถเรียนรู้ตามวิธีการออกเสียงหรือวิธีการตั้งประโยคของเพื่อนคนเก่ง เป็นวิธีการฝึกทักษะการพูดได้เร็วอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผล

มีหลากหลายหัวข้อให้คุณกับเพื่อนสามารถหยิบมาใช้ สร้างเป็นบทสนทนากันเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น

หัวข้อเกี่ยวกับ Hobbies ที่เสามารถถามตอบเกี่ยวกับเรื่องงานอดิเรกของเพื่อนหรือพูดเกี่ยวกับงานอดิเรกของเราเช่น

  • What are your hobbies?
  • Why do you like your hobbies so much?
  • How often do you do these hobbies?
  • How long have you been doing these hobbies, and how did you get started?

หัวข้อเกี่ยวกับ Work การทำงาน หรือที่ทำงานที่คุณสามารถเลือกถามตอบเกี่ยวกับ

  • What work do/did you do?
  • How do/did you like the work?
  • What is your dream job?
  • What is your general view about work? Why?

หัวข้อเกี่ยวกับ Shopping ใช้ในการเดินเล่นที่ตลาด หรืออยากหค้นหา ซื้ออะไรบางอย่างคุณสามรถฝึกพูดภาษาอังกฤษกับประโยคคำถามเหล่านี้

  • Do you enjoy shopping? Why/why not?
  • What is your favorite shop? Why?
  • In your city, where is a good place to go shopping?

ถ้าไม่มีสภาพแวดล้อมสำหรับการสื่อสารเลยส่งผลมให้พูดไม่เก่ง งั้นคุณลองหาหรือสร้างสภาพแวดล้อมเองโดยวิธีการลองหาเพื่อนสักคนที่เก่งภาษาอังกฤษเพื่อให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ยังมีหลากหลายหัวข้อที่เราสามารถเอามาใช้กันได้ไม่ยากเมื่อคุณมีการเตรียมพร้อมในหลากหลายหัวข้อทั้งศัพท์และวิธีการตั้งคำถามและตอบรับรองว่าเมื่อคุณพูดคุณจะพูดได้ไว เพราะได้ผ่านการฝึกใช้มาก่อน และฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษมาก่อนแล้ว

12. อยากพูดดีต้องฟังให้ดีก่อน (จริงไหม?)

คุณเชื่อไหมว่าถ้าเราฟังไม่ดีเราก็จะพูดไม่ดีเหมือนกัน ? เพราะตอนที่เราฟังไม่ออกเราก็จะโต้ตอบแบบมั่นใจไม่ได้ แถมฟังไม่ออกจะไม่รู้วิธีการออกเสียงของศัพท์ให้ถูกต้องโดยซ้ำ ดังนั้นทักษะการพูดกับฟังต้องการฝึกใช้กันบ่อยๆ ฝึกไปพร้อมกันถึงจะเก่งได้
วิธีการฝึกฟังดีๆ ที่ทำที่ไหนก็ได้คือ

การพูดเป็นหนึ่งในสี่ทักษะสำคัญมากในเรียนภาษาใดภาษาหนึ่ง

13. จดจำเทคนิคการตอบคำถาม / คำตอบจะฝังอยู่ในคำถามเสมอ

คุณรู้ไหมว่าทักษะการตอบที่ดีคือจับ Keyword และคำตอบจะมีอยู่ในคำถามตลอด ดังนั้นตอนที่เราสื่อสารเราควรตั้งใจฟังคำถามที่คนอื่นเขาถามเราว่าเป็นประเภทคำถามแบบไหน ถึงจะหาคำตอบที่ตรงกันอย่างเช่น

ถ้าเขาถามคำถามโดยคำแรกเป็น “Does he…” เราจะตอบเป็นแบบ Yes, He does.

หรือถามแบบ Can she…?  เราจะตอบเป็นแบบ  Yes, she can.

หรือถามแบบ  It is…? เราจะตอบเป็นแบบ   Yes, it is. ง่ายๆ ที่แค่เราตั้งใจและจับใจความหมายของคำถาม หรือประเภคของคำถามเราจะตอบได้ถูกต้องเสมอเป็นอย่างไรกันบ้างกับ 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในสามเดือนจาก Eng Breaking อย่าลืมกดติดตามเว็บไซต์ของเราเพื่อได้รับโปรโมชั่นคอรสเรียนดี ๆ แถมเคล็ดลับเด็ดต่าง ๆ เพื่อช่วยคุณพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีที่สุด Eng Breaking เชื่อว่าคุณทำได้แน่นอน ยินดีที่จะตอบทุกข้อสงสัยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับผู้เรียนทั่วประเทศ

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[NEW] “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ภาษาอังกฤษคืออะไร | เรียน รู้ ได้ เร็ว ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

หลายๆคนที่กำลังทำเรซูเม่หรือไปสัมภาษณ์งานก็คงต้องการทำให้นายจ้างเห็น ว่าเรานั้นเป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าประโยค “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ในภาษาอังกฤษนั้นต้องใช้อะไร ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงมาให้ทุกคนได้เรียนรู้กันแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

“สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ภาษาอังกฤษคืออะไร

ในภาษาอังกฤษ ถ้าเราจะบอกใครว่า “เราสนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” เราสามารถใช้ประโยค

I am interested in learning new things.
ฉันสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

หรือถ้าเราต้องการเปลี่ยนคำว่า “สนใจ” เป็น “พร้อม/เต็มใจ/อยาก” เราก็สามารถเปลี่ยนไปใช้

I am willing to learn new things.
ฉันพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

หรือถ้าเราต้องการเน้นถึงความกระตือรือร้นให้มากขึ้น เราอาจใช้ประโยคนี้แทน

I am eager to learn new things.
ฉันต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
(คำว่า eager แปลว่า “ต้องการ, กระหาย”)

ถ้าเราอยากระบุว่าเราต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม เราสามารถใช้ “more about…” แทนที่คำว่า new things อย่างเช่น

I am interested in learning more about marketing.
ฉันสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาด

I am willing to learn more about technology.
ฉันพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี

I am eager to learn more about accounting and finance.
ฉันต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน

บางครั้งเราอาจไม่ได้แยกมันออกมาเป็นประโยคเดี่ยวๆ แต่ใส่รวมไว้ในประโยคที่มีใจความอย่างอื่นอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น

I gain the most satisfaction at work when I am challenged, have the opportunity to learn and develop, and meet the organisation’s goals and customer expectations.
ฉันจะรู้สึกพอใจมากที่สุดเมื่อได้เจอกับความท้าทาย มีโอกาสได้เรียนรู้และพัฒนา และสามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กร และความคาดหวังของลูกค้า

ทำไมความสนใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆถึงสำคัญ

งานวิจัยจากบริษัท Robert Half ในสหรัฐอเมริกาพบว่า 84% ของบริษัทยินดีที่จะรับและฝึกทักษะเพิ่มเติมให้กับลูกจ้าง ที่มีทักษะความรู้ต่ำกว่าที่บริษัทต้องการ

นอกจากนี้ งานวิจัยเดียวกันนี้ยังพบอีกว่า 62% ของลูกจ้างยังถูกรับเข้าทำงาน แม้ว่าจะมีคุณสมบัติต่ำกว่าที่บริษัทกำหนด

งานวิจัยนี้ช่วยให้เราเห็นว่า การขาดทักษะความรู้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นตัวปิดกั้นโอกาสในการได้งานของเราเสมอไป

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบรรดาบริษัทต่างก็รู้ดีว่า ทักษะความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติมกันได้ ขอแค่เรามีความสนใจและความพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่มากพอเท่านั้นเอง

ด้วยเหตุผลนี้ การแสดงให้นายจ้างเห็น ว่าเรามีความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แค่คำพูดอาจไม่พอ

ในการสมัครงาน ลำพังแค่การเขียนในเรซูเม่หรือการพูดปากเปล่า ว่าเราสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนั้น อาจจะไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้นายจ้างเชื่อ

ถ้าจะให้ดี เราควรมีหลักฐานหรือสิ่งอื่นๆที่ช่วยยืนยัน ให้เค้าเห็นว่าเราสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจริง อย่างเช่น

1. แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในอดีต

การแสดงให้นายจ้างเห็นว่าที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง จะเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงความใฝ่รู้ของเราได้เป็นอย่างดี

โดยเราอาจแสดงให้นายจ้างเห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในเวลาส่วนตัว เช่น

I am curious and am constantly learning. I spend 30 minutes a day on my personal learning. I have learned basic Mandarin, how to play the guitar, and how to code in Python, just in the last four months. I did this by reading, watching videos, and seeking out experts.
ฉันมีนิสัยชอบเรียนรู้ และมักจะเรียนรู้อะไรอยู่ตลอด ฉันใช้เวลา 30 นาทีต่อวันในการเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจ อย่างในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ฉันได้เรียนภาษาจีนกลางระดับพื้นฐาน วิธีการเล่นกีตาร์ และการเขียนโค้ดด้วย Python โดยเรียนจากการอ่าน จากวิดีโอ และจากผู้เชี่ยวชาญ

หรือแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากงานเก่า อย่างเช่น

When I started my last job, I only had a basic understanding of sales, but now I have learned how to sell effectively. I also didn’t have much experience with public speaking, but at my last job, I had to give several group presentations, and as a result, I feel I have become much better at delivering information efficiently.
ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มทำงานที่เก่า ฉันรู้แค่พื้นฐานการขายนิดๆหน่อยๆ แต่พอมาถึงตอนนี้ ฉันก็ได้เรียนรู้ถึงวิธีการขายอย่างมีประสิทธิภาพ อีกอย่างก็คือ เมื่อก่อนฉันไม่ค่อยมีประสบการณ์การพูดต่อหน้าคนเยอะๆเท่าไร แต่ในที่ทำงานเก่า ฉันได้พรีเซนต์งานต่อหน้าผู้คนบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ทักษะการสื่อสารของฉันนั้นดีขึ้นกว่าเดิมมาก

2. แสดงให้เห็นว่าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

การแสดงให้นายจ้างเห็น ว่าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนายจ้าง ว่าเรานั้นพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจริง

I think continuous learning is important because it helps us to be more capable and confident.
ฉันคิดว่าการหมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันช่วยทำให้เรามีความสามารถและความมั่นใจมากขึ้น

3. ถามคำถามตอนสัมภาษณ์งาน

การถามคำถามกับผู้สัมภาษณ์งานก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงความใฝ่รู้ของเรา แต่เราต้องระวังไม่ให้คำถามนั้นดูไม่เหมาะสมหรือยากจนเกินไป

ตัวอย่างคำถามที่เราอาจถามผู้สัมภาษณ์งานก็อย่างเช่น

What does success look like in this position, and how do you measure it?
ภาพความสำเร็จของตำแหน่งนี้คืออะไร และคุณวัดผลมันอย่างไร

What training programs are available to your employees?
บริษัทนี้มีโปรแกรมฝึกอบรมอะไรให้กับลูกจ้างบ้าง

What do you see as the most challenging aspect of this job?
คุณคิดว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้คืออะไร

Do you expect the main responsibilities for this position to change in the next six months to a year?
คุณคิดว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งนี้จะเปลี่ยนไปในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้านี้หรือไม่

Is there anything about my background or resume that makes you question whether I am a good fit for this role?
มีอะไรเกี่ยวกับตัวฉันหรือในเรซูเม่มั้ยที่ทำให้คุณไม่มั่นใจว่าฉันจะเหมาะกับตำแหน่งนี้

จบแล้วนะครับกับประโยค “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้กันแล้วว่าต้องเขียนและใช้ยังไง

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


ขันหมากมาแล้ว งานแต่งเช้าเจนนี่ยิว ยินดีด้วยจ้าา🥰


เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
งานแต่งเจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
ยิวเจนchanel
เจนนี่แต่งงาน
งานแต่งเจนนี่
เจนนี่ลิลลี่
เจนนี่
ลิลลี่
เจนนี่ยิว
ลิลลี่เจนนี่
ลิลลี่ได้หมดถ้าสดชื่น
เจนยิว
ยิวเจนนี่
ยิวเจน
ยิวเจนchanel
เจนนี่รัชนก
ยิวฉัตรมงคล
ค่าเพลงได้หมดถ้าสดชื่น
เลิกคุยทั้งอำเภอ
ได้หมดถ้าสดชื่น
ข่าวบันเทิง
เจนนี่ท้อง
ฝากครรภ์
ฝากท้อง
ฝากกดติดตาม
ฝากกดไลค์
หนูแพรวได้หทดถ้าสดชื่น
ถ่ายพรีเวดดิ้ง
พรีเวดดิ้ง
เจนนี่แต่งงาน
งานแต่งงาน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ขันหมากมาแล้ว งานแต่งเช้าเจนนี่ยิว ยินดีด้วยจ้าา🥰

Work in the metaverse


Imagine connecting with colleagues beyond 2D screens. Welcome to the metaverse.

Work in the metaverse

3 วิธีเร่ง speed ให้เราเก่งภาษาได้เร็วขึ้น | 21-Day English Transformation


หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่อยากพัฒนาภาษาอยู่ตอนนี้
ให้ฝึกได้อย่างสนุก ให้ได้ผลจริงในระยะยาว กันนะค้า 🥰🎉
.
ใครสนใจมาเรียนด้วยกันใน 21Day English Transformation รุ่น 2
อ่านรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่นี่เลยนะค้า 👇https://forms.gle/3NHNChEqtb86CMMG6
(สมัครก่อน 11 ก.ค. นี้เพื่อให้ทันส่วนลด 2000 บาทนะค้า 😍)
.
เป็นกำลังใจให้ทุกโค๊นนนน ❤️
_________________________
ดีใจจัง ที่คุณตั้งใจพัฒนาทักษะ
และพร้อมเก่งขึ้นไปด้วยกัน ! 🧠🌟
อยากมาเรียนออนไลน์ด้วยกัน? 📚 📖
📋 วัดระดับภาษา เพื่อวางแผนการเรียนได้ ที่ selfassessment form ฟรี !
https://www.farangangmor.com/selfassessmentform/
หลักสูตรต่างๆ ของฝรั่งอั่งม้อ
Think in English คิดเป็นภาษาอังกฤษ พูดได้คล่องไม่ต้องท่องจำ
https://www.farangangmor.com/course/thinkinenglish/
พูดฝรั่งได้ดั่งเสก Online Course
https://www.farangangmor.com/course/speaklikemagic/
PRONUNCIATION พูดเหมือนเด๊ะ ออกเสียง เป๊ะเวอร์
https://www.farangangmor.com/course/pronunciation/
CONVERSATION สนทนาลื่นไหล มั่นใจร้อยเปอร์
https://www.farangangmor.com/course/conversation/
English for Career Development เรียนอังกฤษ ติดเทอร์โบ พูดได้โปรเติบโตในงาน
https://www.farangangmor.com/course/englishforcareerdevelopment/
Speak Brilliantly Excel at Public Speaking \u0026 Presentation in English
พรีเซ้นต์เป็นภาษาอังกฤษ ได้โดดเด่น โดนใจ เป็นมืออาชีพ!
https://www.farangangmor.com/course/speakbrilliantly/
Teach English It’s Cool สอนภาษาออนไลน์ได้ด้วยหลักสูตรนี้
https://forms.gle/WzX8gZdwyS3QhM7s5
_______________________________________________
เมนูหลัก:
1. จากใจครูคะน้า
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/photos/a.681816342274311/681816408940971?type=3\u0026sfns=mo
2. ความปลื้มใจของคุณครู (ข้อความจากนักเรียนที่น่ารักของเรา)
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/photos/?tab=album\u0026album_id=682186882237257
_______________________________________________
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ให้ไม่พลาด content แบบนี้📱❤️
Facebook: ฝรั่งอั่งม้อ
https://www.facebook.com/KanaFarangAngmor/
IG: farang_angmor
https://www.instagram.com/farang_angmor/
LINE: @farangangmor
https://lin.ee/cjP5cGv
Tiktok: @farangangmor
https://vt.tiktok.com/A5GEg6/
Website:
http://farangangmor.com/
ผิดพลาดประการใดให้อภัยข้าน้อยด้วย
ติดตามหนูทีหนูอยากมีแฟนคลับ

3 วิธีเร่ง speed ให้เราเก่งภาษาได้เร็วขึ้น | 21-Day English Transformation

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.7 Greetings and Introductions


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องฝึกพูด เริ่มต้นฝึกเหมือนเด็กทารกที่ค่อยๆหัดพูดตามพ่อแม่ทีละคำสองคำ เป็นกลุ่มคำ เป็นประโยค จนพูดได้ตามที่ใจนึกอยากจะพูด วิธีการเรียนรู้แบบธรรมชาตินี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ และที่สำคัญไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย แค่ทำความเข้าใจผ่านภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับเสียงที่ได้ยิน เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่เราเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างธรรมชาติ
Playlist สำหรับเรียนตอนต่อๆไป
https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk9TP14p0TWjl7bs84Ow1aC
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.7 Greetings and Introductions

วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบได้ผล | Tina Academy Ep.241


♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบได้ผล | Tina Academy Ep.241

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เรียน รู้ ได้ เร็ว ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *