Skip to content
Home » [NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | แปลประโยคอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | แปลประโยคอังกฤษ – NATAVIGUIDES

แปลประโยคอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

1721

SHARES

Facebook

Twitter

ประโยคภาษาอังกฤษ 108 ประโยคพื้นฐาน สำหรับผู้เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันกันนะครับ  เนื้อหาต่อไปนี้มีทั้งภาษาอังกฤษ คำอ่าน พร้อมทั้งคำแปลให้เรียบร้อย เผื่อบางคนที่ยังอ่านไม่คล่องนั่นเอง

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวันสำรับเจ้าของภาษาอาจจะยาวๆ หรือว่ายากๆหน่อย ซึ่งเขาก็ใช้ในแบบฉบับของเขานั่นแหละครับ สำหรับพวกเราแล้ว ถ้ายังเพิ่งเริ่มเรียนใหม่ๆ ขอแนะนำให้ศึกษาประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ และเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วค่อยๆศึกษาอะไรที่มันยากขึ้นหลังจากที่เราพอมีพื้นฐานแล้ว

ประโยคภาษาอังกฤษ

Table of Contents

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่จะได้เรียนรู้กันต่อไปนี้ เป็นแนวคําถามและคำตอบคู่กัน ซึ่งแต่งประโยคโดยใช้คำพูดง่ายๆ พร้อมคำแปล เพื่อทุกคนไม่ต้องพะวงกับการเปิดดิกชันนารี ถ้าสามารถเรียนรู้และจดจำได้ทั้ง 108 ประโยค รับรองว่าสามารถฟุดฟิดฟอไฟได้ในระดับหนึ่งเลยแหล่ะ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับการทักทาย ถามตอบทุกข์สุข

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

ประโยคถามตอบทุกข์สุขก็จะเป็นการทักทาย การแนะนำตัว การกล่าวลา ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Greetings นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 ประโยคด้วยกัน

1.Hello, my name is Sam.
เฮ็ลโล มายเนม อิส แซม
สวัสดี ชื่อ ของผม คือ แซม (ผมชื่อแซม)

2. Hey, I’m Jane.
เฮ้ ไอม เจน
หวัดี ฉัน คือ เจน (ฉันชื่อเจน)

3. Nice to meet you.
ไนซ ทุ มีท ยู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ (ยินดีที่ได้รู้จัก)

4. Nice to meet you, too.
ไนซ ทุ มีท ยู ทู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ เช่นกัน (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)

5. It was nice meeting you.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ (ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณ)

6. It was nice meeting you, too. Bye.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู ทู บาย
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ เช่นกัน ลาก่อน

7. Goodbye.
กุ๊ดบาย
ลาก่อน

8. Nice to see you again.
ไนซ ทู ซี ยู อะเกน
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ อีกครั้ง

 9.You too.
ยูทู
เช่นกัน

10.How are you?
ฮาว อา ยู
คุณ สบายดี ไหม

11. Fine thanks, and you?
ไฟน แธงส แอน ยู๊
สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ

12.I’m okay, thank you.
ไอม โอเค แธงคิว
ฉัน สบายดี ขอบคุณ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล

ฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามข้อมูลส่วนบุคคลในด้านต่างๆ เช่น ถิ่นกำเนิด อาชีพ สถานศึกษาเป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Personal Information นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 35 ประโยคด้วยกัน

13. Where are you from?
แว อา ยู ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

14. I’m from England.
ไอม ฟรอม อิ๊งเลินด
ฉัน มา จาก ประเทศอังกฤษ

15. Where do you come from?
แว ดู ยู คัม ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

16. I come from America.
ไอ คัม ฟรอม อเม๊ริเคอะ
ฉัน มา จาก ประเทศ อเมริกา

17. What do you do?
ว็อท ดู ยู ดู
คุณ ทำงาน อะไร

18. I’m a student.
ไอม อะ สตู๊เดินท
ผม เป็น นักศึกษา

19.What’s your job?
ว็อทส ยัว จอบ
คุณ ทำงาน อะไร

20. I work in a bank.
ไอ เวิค อิน อะ แบ็งค
ฉัน ทำงาน ใน ธนาคาร

21. Where do you work?
แว ดู ยู เวิค
คุณ ทำงาน ที่ไหน

22. I work for the Smile Bank.
ไอ เวิค ฟอ เดอะ สไมล แบ็งค
ฉัน ทำงาน ให้กับ ธนาคาร สไมล์

23. Do you like your job?
ดู ยู ไลค ยัว จอบ
คุณ ชอบ งาน ของคุณ ใช่ไหม

24. Yes. I like it very much.
เย็ส ไอ ไลค อิท เว๊ริ มัช
ใช่ค่ะ ฉัน ชอบ มัน มาก

25. Where do you go to school?
แว ดู ยู โก ทู สกูล
คุณ ไป โรงเรียน ที่ไหน (คุณเรียนอยู่ที่ไหน)

26. I go to King School.
ไอ โก ทู คิง สกูล
ผม ไป โรงเรียน คิง (ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนคิง)

27. What subjects do you like?
ว็อท ซับเจ็คส ดู ยู ไลค
วิชา อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบวิชาอะไร)

28. I like math and English.
ไอ ไลค แม็ธ แอน อิ๊งลิช
ผม ชอบ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ

29. How tall are you?
ฮาว ทอล อา ยู
คุณ สูง เท่าไหร่

30. I’m 165 centimetres tall.
ไอม วัน ฮั๊นเดริด แอนด ซิกสติ เซ็นทิมี๊เทอส ทอล
ฉัน สูง 165 เซ็นติเมตร

31. What is your weight?
ว็อท อิส ยัว เวท
น้ำหนัก ของคุณ คือ อะไร (คุณ หนัก เท่าไหร่)

32.I wiegh 42 kilograms.
ไอ เว ฟ๊อทิ ทู คิ๊ละแกรมส
ฉัน หนัก 42 กิโลกรัม

33. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

34. I’m twenty-three.
ไอม เทว็นทิ ธรี
ฉัน อายุ 23

35. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

36. I’m twenty years old.
ไอม เทว็นทิ เยียส โอลด
ฉัน อายุ ยี่สิบ ปี

37. When is your birthday?
เว็น อิส ยัว เบิ๊ธเด
เมื่อไหร่ คือ วันเกิด ของคุณ (วันเกิดของคุณวันไหน)

38. Fourth of July.
ฟอธ ออฟ จุล๊าย
วันที่ 4 ของ เดือนกรกฎาคม ( 4 กรกฎาคม)

39. When were you born?
เว็น เวอ ยู บอน
เมื่อไหร่ คุณ ถูกให้กำเนิด (คุณเกิดวันไหน)

40. December 6th, 1994.
ดิเซ็มเบอะ เดอะ ซิกส์ ไนนทีน ไนนทิฟอ
เดือนธันวาคม วันที่ 6 ปี 2537 (6 ธันวาคม 2537)

41. Do you have a mobile phone?
ดู ยู แฮฝ อะ โม๊ไบล โฟน
คุณ มี โทรศัพท์ มือถือ ใช่ไหม

42. Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ ฉัน มี

43.What’s your phone number?
ว็อทส ยัว โฟน นั๊มเบอะ
เบอร์ โทรศัพท์ ของคุณ คือ อะไร

44. 086 123 3129
โอ เอท ซิกส วัน ทู ธรี ธรี ทู วัน ไนน
ศูนย์ แปด หก หนึ่ง สอง สาม สาม หนึ่ง สอง เก้า

45.What nationality are you?
ว็อท แน๊ชแน็ลเลอะทิ อา ยู
คุณ คือ สัญชาติ อะไร (คุณมีสัญชาติอะไร)

46. I’m American.
ไอม อะเม๊ริเคิน
ผม คือ สัญชาติอเมริกัน (ผมมีสัญชาติอเมริกัน)

47. What’s your nationality?
ว็อทส ยัว แน๊ชแนลเลอะทิ
สัญชาติ ของ คุณคือ อะไร

48. I’m English.
ไอม อิ๊งลิช
ฉัน คือ สัญชาติอังกฤษ (ฉันมีสัญชาติอังกฤษ)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ ก็จะเป็นการถามเกี่ยวกับ บุคคล สิ่งของ กิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ เช่น นักร้อง สี กีฬา ผลไม้ เป็นต้น  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Favourites นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 30 ประโยคด้วยกัน

49. Who is your favourite singer?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ
นักร้อง ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (นักร้องคนโปรดของคุณคือใคร)

50. My favorite singer is Justin Bieber?
มาย เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ อิส จั๊สติน บี๊เบอะ
นักร้อง คนโปรด ของฉัน คือ จัสติน บีเบอร์

51.I like Lady Gaga.
ไอ ไลค เล๊ดิ ก๊ากะ
ฉัน ชอบ เลดี้ กาก้า

52. Who is your favourite star?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สตา
ดารา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (ดาราคนโปรดของคุณคือใคร)

53. I like Brad Pitt. And you?
ไอ ไลค แบรด พิท แอนด ยู๊
ฉัน ชอบ แบรด พิตต์ แล้ว คุณล่ะ

54. My favourite is David Beckham.
มาย เฟ็ฝเวอะริท อิส เด๊วิด เบ็คแฮม
คนที่โปรดปราน ของฉัน คือ เดวิด เบ็คแฮม

55. What kind of music do you like?
ว็อท ไคด ออฟ มิ๊วสิค ดู ยู ไลค
ดนตรี ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบดนตรีแนวไหน)

56. I like pop music.
ไอ ไลค พ็อพ มิ๊วสิค
ฉัน ชอบ ดนตรีแนวป็อป

57. I don’t like pop music. I like rock.
ไอ ด้นท ไลค พ็อพ มิ๊วสิค ไอ ไลค ร็อค
ฉัน ไม่ชอบ ดนตรี แนวป็อป ฉัน ชอบ แนวร็อก

58. What kind of food do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟูด ดู ยู ไลค
อาหาร ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบอาหารชนิดไหน)

59. I like chicken.
ไอ ไลค ชิ๊คเคิน
ฉัน ชอบ ไก่

60. What’s your favorite food?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ฟูด
อาหาร ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

61. My favorite food is steak.
มาย เฟ็ฝเวอะริท ฟูด อิส สเต๊ค
อาหาร ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สเต็ก

62. What colour do you like?
ว็อท คั๊ลเลอะ ดู ยู ไลค
สี อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบสีอะไร)

63. I like blue.
ไอ ไลค บลู
ฉัน ชอบ สีฟ้า

64. What’s your favorite color?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ
สี ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

65.My favorite colour is white.
มาย เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ อิส ไวท
สี ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สีขาว

66.What movie do you like?
ว็อท มู๊วิ ดู ยู ไลค
หนัง อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบหนังเรื่องไหน)

67.  I like Harry Potter.
ไอ ไลค แฮ๊ริ พ็อทเทอะ
ฉัน ชอบ แฮรี่ พ็อตเตอร์

68. What’s your favorite movie?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท มู๊วิ
หนัง ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

69. Spider Man.
สไป๊เดอะ แมน
สไปเดอร์ แมน

70. What’s your favorite sport?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สปอท
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ อะไร

71. My favourite sport is football.
มาย เฟ็ฝเวอะริท สปอท อิส ฟุทบอล
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ ฟุตบอล

72. What sport do you like?
ว็อท สปอท ดู ยู ไลค
คุณ ชอบ กีฬา อะไร

73. I like golf.
ไอ ไลค กอฟ
ฉับ ชอบ กอล์ฟ

74. What animals do you like?
ว็อท แอ๊นเนอะเมิลส ดู ยู ไลค
สัตว์ อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบสัตว์ชนิดไหน)

75.  I like cats. Do you like cats?
ไอ ไลค แค็ทส ดู ยู ไลค แค็ทส
ผม ชอบ แมว คุณ ชอบ แมว ใช่ไหม

76.  Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ค่ะ (ํฉัน ชอบ แมว)

77.  What kind of fruit do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟรูท ดู ยู ไลค
ผลไม้ ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบผลไม้ชนิดไหน)

78. I like bananas.
ไอ ไลค บะน๊านัส
ฉัน ชอบ กล้วย

79. Do you like bananas?
ดู ยู ไลค บะนานั๊ส
คุณ ชอบ กล้วย ไหม

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบความสามารถส่วนบุคคล

ประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ

ประโยคถามตอบความสามารถส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามว่าคุณมีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง เช่น การพูดภาษาต่างประเทศ การร้องเพลง การเล่นดนตรี เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Special Ability นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 14 ประโยคด้วยกัน

80. Can you speak French?
แคน ยู สปีค เฟร็นช
คุณ สามารถ พูด ภาษาฝรั่งเศส ไหม (คุณพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไหม)

81. Yes, I can. I speak English and French.
เย็ส ไอ แคน ไอ สปีค อิ๊งลิช แอนด เฟร็นช
ใช่ ฉัน สามารถ (พูดได้) ฉัน พูด ภาษาอังกฤษ และ ภาษาฝรั่งเศส

82. How many languages can you speak?
ฮาว เม็นนิ แล๊งกวิจเจ็ส แคน ยู สปีค
คุณ สามารถ พูดได้ กี่ ภาษา

83. I can speak two languages; English and Chinese.
ไอ แคน สปีค ทู แล๊งกวิจเจ็ส อิ๊งลิช แอนด ไชนี๊ส
ฉัน สามารถ พูดได้ สอง ภาษา ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน

84. Can you play the football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอลล ไหม (คุณเล่นฟุตบอลเป็นไหม)

85. Yes, I can.
เย็ส ไอ แคน
ใช่ ฉัน สามารถ (เล่นเป็น)

86. Can you play football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอล ไหม (เล่นฟุตบอลเป็นไหม)

87. No, I can’t play football. I can play golf.
โน ไอ แค๊นท ไอ แคน เพล กอฟ
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ เล่น ฟุตบอล(เล่นฟุตบอลไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น กอฟ (เล่นกอล์ฟเป็น)

88. Can you play the piano?
แคน ยู เพล เดะ พิแอโน๊
คุณ สามารถ เล่น เปียโน ไหม (คุณเล่นเปียโนเป็นไหม)

89. No, I can’t. I can play the violin.
โน ไอ แค้นท ไอ แคน เพล เดอะ ไว๊เออะลิน
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ (เล่นไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น ไวโอลิน (เล่นไวโอลินเป็น)

90. Can you play the guitar?
แคน ยู เพล เดอะ กิท๊า
คุณ สามารถ เล่น กีตาร์ ไหม (เล่นกีตาร์เป็นไหม)

91. Yes, I can play the guitar and the piano?
เย็ส ไอ แคน เพล เดอะ กิท๊า แอนด เดอะ พิแอ๊โน
ใช่ ฉัน สามารถ เล่น กีตาร์ และ เปียโน (เล่นกีตาร์และเปียโนได้)

92. Can you sing?
แคน ยู ซิง
คุณ สามารถ ร้องเพลง ไหม (คุณร้องเพลงเป็นไหม)

93. Yes, I can. And you?
เย็ส ไอ แคน แอนด ยู๊
ใช่ ฉัน สามารถ (ร้องเป็น) แล้ว คุณล่ะ

94. I can’t sing but I can dance.
ไอ ค้านท ซิง บัท ไอ แคน ด๊านซ
ฉัน ไม่สามารถ ร้องเพลง (ร้องไม่เป็น) แต่ ฉัน สามารถ เต้นรำ(เต้นรำเป็น)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว ก็จะเป็นการถามข้อมูลเกี่ยบกับบุคคลในครอบรัว  เช่น ในครอบครัวมีกี่คน มีพี่น้องกี่คน เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Family นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

95. How many people are there in your family?
ฮาว เม็นนิ พี๊เพิล อา แด อิน ยัว แฟ๊มลิ
ใน ครอบครัว ของคุณ มี กี่ คน

96. There are five people. What about you?
แด อา ไฟฝ พี๊เพิล ว็อท อะเบ๊า ยู
มี ห้า คน แล้วคุณล่ะ

97. There are three people in my family.
แด อา ธรี พี๊เพิล อิน มาย แฟ๊มลิ
มี สาม คน ใน ครอบครัว ของฉัน

98. How many brothers and sisters do you have?
ฮาว เม็นนิ บรั๊ดเดอส แอนด ซิ๊สเตอส ดู ยู แฮฝ
คุณ มี พี่ชายน้องชาย และ พี่สาวน้องสาว กี่คน

99. I have one sister and two brothers.
ไอ แฮฝ วัน ซิสเตอะ แอนด ทู บรั๊ดเดอส
ฉัน มี พี่สาวน้องสาว หนึ่งคน และ พี่ชายน้องชาย สองคน

100. Do you have any brothers or sisters?
ดู ยู แฮฝ เอ็นนิ บรัดเดอส ออ ซิ๊สเตอส
คุณ มี พี่ชายน้องชาย หรือ พี่สาวน้องสาว บ้างไหม

101. Yes, I have one brother.
เย็ส ไอ แฮฝ วัน บรั๊ดเดอะ
ใช่ ผม มี พี่ชายน้องชาย หนึ่งคน

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบทั่วไป

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

ประโยคถามตอบทั่วไป ก็จะเป็นการถามทั่วๆไปไม่จำกัด  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า General Topics นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

102. What do you do after school?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ สกูล
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกเรียน

103. I play football.
ไอ พเล ฟุทบอล
ผม เล่น ฟุตบอล

104. what do you do after work?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ เวิค
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกงาน

105. I read books.
ไอ รีด บุคส
ฉัน อ่าน หนังสือ

106. How often do you play football?
ฮาว อ๊อฟึน ดู ยู เพล ฟุ๊ทบอล
คุณ เล่น ฟุตบอล บ่อยแค่ไหน

107. I play football twice a week. And you?
ไอ เพล ฟุ๊ทบอล ไทว๊ซ อะ วีค
ผม เล่น ฟุตบอล สองครั้ง ต่อ สัปดาห์

108. I don’t play football.
ไอ ด๊น เพล ฟุ๊ทบอล
ฉันไม่เล่นฟุตบอล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คิดว่าถ้าใครเรียนจนจบทั้ง 108 ประโยคแล้ว คิดว่าสามารถที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่งแน่นอน เพราะประโยคที่นำมาเสนอ เป็นประโยคง่ายที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.4 / 5. Vote count: 658

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[NEW] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | แปลประโยคอังกฤษ – NATAVIGUIDES

Idioms หมายถึง สำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีคำศัพท์ หรือประโยค ที่มีความหมายไม่ตรงตัว พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เปรียบเหมือนสำนวนไทย หรือคำสุภาษิต ในบ้านเรานั่นเองค่ะ อาทิเช่น ไก่ได้พลอย ก็ไม่ได้หมายถึงไก่ได้พลอยจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ คนที่ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ในภาษาอังกฤษเองก็เช่นกัน เขาจะมีสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบซึ่งเรียกว่า idiom นั่นเองค่ะ

สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms)

วันนี้เรามีสำนวน idiom พร้อมภาพประกอบเป็นการ์ตูนน่ารักๆ มาฝากเพื่อนๆ อ่านสนุกๆ ไปด้วยกันนะคะ

head in the clouds

1. head in the clouds

หมายถึง เพ้อฝัน,ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง, อยู่ในโลกแห่งความฝัน (ตื่นค่ะซิสสสส)

heart in your mouth

2. heart in your mouth

หมายถึง  อาการประหม่า ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก (ประมาณว่าตื่นเต้นตอนพูดบนเวที หรือตอนออกไปพูดหน้าห้องเรียน)

hold your horses

3. hold your horses

ไม่ได้หมายถึง จับม้าเอาไว้นะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษนี้ หมายถึงว่า  เดี๋ยวก่อน แปบนึงก่อน (ประมาณว่า เดี๋ยวแปบนึง ขอทำสิ่งนี้ก่อนนะ)
เพราะม้าคือตัวแทนของความเร็วค่ะ เค้าเลยเปรียบเปรยว่า จับม้าของคุณไว้ก่อน

kick the bucket

4. kick the bucket

แปลตรงๆ คือ เตะถัง แต่เมื่อกลายเป็นสำนวน Kick the bucket แปลว่า ตาย

**สำนวนนี้มันมาจากในอดีตที่มีการลงโทษด้วยการแขวนคอ ซึ่งผู้ที่จะถูกแขวนคอ มักจะต้องยืนบนถังใบเล็กที่วางคว่ำอยู่ ทันทีที่เท้าเตะถังออก นั่นก็หมายถึง ผู้ถูกลงโทษก็จะถูกแขวนคอค่ะ

dead as a doornail

5. dead as a doornail

หมายถึง ลาโลกไปแล้วไม่ต้องสงสัย (ถ้าจะบอกว่าตายแหงแก๋ ฝรั่งเขาเปรียบไว้กับคำว่า ตะปูที่ตอกตรึงประตู ที่เรียกว่า door nail )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

6. Bob’s your uncle.

หมายถึง ง่ายๆ แค่นั้นเอง, เท่านั้นแหละ, เรียบร้อย (สำนวนนี้จะไว้ใช้ ตอนนี้เราต้องการบอกว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นมันง่ายมากๆ ทำได้แน่นอน ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว)

blue in the face

7.  blue in the face

ไม่ได้หมายถึงว่าหน้าสีนำ้เงินตามภาพนะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษ blue in the face จะหมายถึง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว (เหมือนเวลาที่พูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หรือเจอสถานการณ์ที่พูด อธิบายอะไรไป แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ฟัง หรืออาจจะฟังแต่ไม่เกิดปฏิกิริยาตอบกลับ จนทำให้เราเพลียที่จะพูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

8. a storm in a teacup

หมายถึง เรื่องขี้ปะติ๋ว, เรื่องเล็กน้อย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (คนที่ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้บานปลาย)
(สำนวนนี้ใช้กันในหมู่คนอังกฤษ คนออสเตรเลีย)

"as cool as a cucumber"

9.”as cool as a cucumber”

หมายถึง คนที่ใจเย็นมากๆ (ยิ่งเอาไปแช่เย็นแล้วล่ะก็… อูยยย เย็นมากฝุดๆ ฮ่าๆ)

a piece of cake

10. a piece of cake

หมายความว่า เรื่องหมูๆ ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

ˇ﹏ˇ ˇ△ˇ ˇ▽ˇ ˙▂˙ ˙0˙ ˙︿˙ ˙ω˙ ˙﹏˙ ˙△˙

สำนวนภาษาอังกฤษอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีสำนวนภาษาอังกฤษมาให้เพื่อนๆ อีกมากมายเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีภาพประกอบแล้วนะคะ ไปอ่านแล้วจำไว้ใช้กันได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เลย

11. A great deal – จำนวนมาก มากมาย

12. After all – อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

13. After one’s own heart – ได้ดังใจ สมใจคิด ถูกใจจริงๆ

14. Aim at – เล็ง(ปืน)ไปที่ มุ่งหมายเพื่อ มุ่งไปยัง มุ่งมั่นเพื่อ ตั้งเป้า เล็ง เพ่งมอง

15. All over the place – ทั่วทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง กระจัดกระจาย เกลื่อน

16. Around the corner – อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว

17. As a matter of fact – อันที่จริง ตามที่จริง จริงๆ แล้ว

18. As far as I am concerned – ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ

19. Ask after –  ถามถึง ถามสารทุกข์สุกดิบ ไปเยี่ยมเยียนถามอาการ ทักทายปราศรัย

20. A dead end – หมดหวัง, ภาวะที่ไร้ความหวัง

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

21. Ask for trouble – หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แส่หาเรื่อง

22. Back and forth – ไปๆ มาๆ เดินกลับไปกลับมา

23. Be concerned about – เป็นห่วง กังวลเกี่ยวกับ

24. Be fond of – ชอบ ชื่นชอบ โปรดปราน

25. Be in charge of – ดูแล รับผิดชอบ

26. Be in the same boat – ลงเรือลำเดียวกัน ประสบปัญหาหรือความยุ่งยากเหมือนกัน

27. Be mad at – โกรธ

28.  Be my guest – ตามสบายเลย เชิญตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ

29. Be on a diet  / go on a diet – กำลังลดน้ำหนัก (ด้วยการคุมอาหาร)

30. Be out of order – เสีย ใช้การไม่ได้ ไม่เข้าท่า ไม่เป็นระเบียบ

31. Be supposed to – น่าจะ ควรจะ

32. Bear in mind – จำใส่ใจไว้ จำไว้ว่า จดจำ รำลึก สังวรไว้

33. Better than nothing – ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

34. Bottom line – ท้ายที่สุด ส่วนที่สำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุด ผลที่ปรากฏออกมาในที่สุด

35. Break a promise – ผิดสัญญา ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามสัญญา

36. Break one’s heart – ทำให้หัวใจสลาย ทำร้ายความรู้สึก ทำให้อกหัก หักอก

37. Break up – เลิกคบ ตัดขาดจากกัน แตกหัก แยกทางกัน ทำให้แหลกละเอียด

38. By all means – แน่นอน ใช่เลย ได้เลย เชิญเลย

39. By no means – ไม่ด้วยประการใดเลย ไม่ใช่ใดๆ เลย ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีทาง

40. Calm down – สงบสติอารมณ์ สงบใจ ทำใจให้สงบ ทำให้สงบ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

41. Carry out – ทำให้สำเร็จ ทำให้ลุล่วง ทำให้บรรลุ ปฎิบัติ ดำเนินการ

42. Catch up with – ตามทัน ไล่ทัน พบ

43. Cheer up – ให้กำลังใจ ปลอบใจ ทำให้รู้สึกดีขึ้น ทำให้ร่าเริงขึ้น

44. Come out of the closet – เปิดเผยตัวตน หรือประกาศตัวออกมาว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน

45. Come over – แวะเยี่ยม ไปมาหาสู่

46.Cope with – จัดการกับ รับมือกับ

47.Count on – ไว้วางใจ เชื่อใจ เชื่อถือ พึ่งพาอาศัย

48.Cross the line – ล้ำเส้น ข้ามเส้น ข้ามแดน

49.Day in and day out – ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุด

50.Deal with – ติดต่อกับ จัดการกับ เกี่ยวข้องกับ รับมือกับ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

51.Don’t get me wrong – อย่าเข้าใจฉันผิด

52.Dress up – แต่งกาย แต่งตัวเป็น ปรุงแต่ง

53.Drive someone crazy – ทำให้บ้าคลั่ง ทำให้เสียสติ

54.Drive someone nuts – ทำให้หงุดหงิดมาก ทำให้โมโหมาก

55.End up – สิ้นสุดด้วย ลงท้ายด้วย ลงเอยด้วย จบลง ในที่สุด

56.Every now and again – เป็นครั้งคราว

57.Every now and then – เป็นครั้งคราว

58.Face to face – ซึ่งๆ หน้า จะๆ ต่อหน้า ประจันหน้า

59.Fade away – ค่อยๆ จางหายไป ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้หายไปอย่างลับๆ เลือนหายไป เสื่อม

60.Figure out – คิดออก คิดให้ออก คิดได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

61.Finish up – ทำให้เสร็จสิ้น จบลง ยุติ

62.Focus on – เพ่งเล็งไปที่ มีสมาธิจดจ่อกับ มุ่งเป้าไปที่ พุ่งความสนใจไปที่

63.Fool oneself – หลอกตัวเอง

64.For the sake of – เพื่อ เพื่อเห็นแก่ เพื่อเป็นเกียรติกับ

65.From now on – จากนี้ไป จากนี้เป็นต้นไป ต่อแต่นี้ไป นับจากนี้ไป

66.From time to time – บางครั้ง

67.Get along – เข้ากันได้ เป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน มุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน

68.Get lost – หลงทาง แต่ถ้าเป็นคำสั่งจะเป็นในเชิงการไล่ แปลว่า ไปให้พ้น ไปให้ห่างๆ ไสหัวไป

69.Get out of – ออกไปจาก ได้มาจาก เอาออกจาก ทำให้ออกไปจาก นำออก คัดลอกจาก ลงจากรถ ยกเลิก ยุติ

70.Get out of hand – ควบคุมไม่ได้ เกินกว่าจะควบคุมได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

72.Get rid of – ขจัด กำจัดออกไป จำหน่ายออกไป ขจัดปัญหา กวาดล้าง โค่น ฆ่า

73.Get the most out of – ใช้ประโยชน์สูงสุดจากบางสิ่งบางอย่าง

74.Get together – พบปะ รวมตัวกัน รวมกลุ่มกัน พบปะสังสรรค์กัน

75.Get used to – เคยชิน รู้สึกเคยชิน

76.Give someone a hard time – นำความยุ่งยากมาให้ ทำให้ยุ่งยาก สร้างความลำบากให้

77.Give up on someone/something – ตัดหางปล่อยวัด เลิกคาดหวังในคนๆ นั้นอีกต่อไป หมดหวังต่อบุคคลนั้นแล้ว

78.Give way to – ยอมตาม เออออห่อหมก ตามใจ

79.Go for a walk – เดินเล่น ไปเดินเล่น ไปกินลมชมวิว

80.Good-for-nothing – เปล่าประโยชน์ ซึ่งไร้ประโยชน์ ไม่เอาถ่าน บุคคลไร้ประโยชน์ คนไม่เอาไหน คนไม่มีค่า

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

คลิปอื่นๆ https://seeme.me/ch/adambradshaw

81.Hand in (something) – ส่ง (รายงาน การบ้าน) ยื่นเสนอ มอบให้(ด้วยมือ) ส่งให้เมื่อถึงกำหนด

82.Hang out – ออกไปข้างนอก ออกไปสังสรรค์

83.Have a crush on someone – หลงรักหรือคลั่งไคล้ใครคนใดคนหนึ่ง แอบรักหรือปิ้ง

84.Have a date (with) – มีนัด ติดนัด ไปเที่ยว (กับ)

85.Have a good time – สนุกสนาน เพลิดเพลิน ขอให้สนุกนะ

86.Have a word with – ต้องการคุยด้วยเป็นส่วนตัว

87.Hit the books – อ่านหนังสืออย่างหนัก ติววิชา ติวเข้ม ตั้งใจเรียน

88.Hold one’s ground – ยึดมั่นอยู่ที่เดิม ไม่ถอย ตั้งรับ ตั้งมั่น รักษาสถานะไว้

89.In advance – ล่วงหน้า ก่อนหน้า ก่อนเวลา

90.In any case – ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ตาม

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

91.In case of – ในกรณีที่เป็น ในแง่ของ

92.In no time – รวดเร็ว ในเวลาไม่นาน

93.In vain – เปล่าประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ สูญเปล่า

94. It/that goes without saying – ชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า

95.Jot down – จดอย่างเร็ว บันทึกอย่างเร็ว รีบจด

96.Jump the gun – ทำอะไรก่อนเวลาอันควร

97.Jump to conclusions – ด่วนตัดสินใจ รีบสรุป รีบตัดสินใจเร็วเกินไป

98.Jump up – กระโดดขึ้น กระโจนขึ้น รีบลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ลุกขึ้นทันที

99.Keep a promise – รักษาสัญญา ทำตามสัญญา

100.Keep an eye on  – เฝ้าดู เฝ้ามอง จับตาดู

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

101.Keep away from – อยู่ห่างจาก หลีกหนีจาก หลีกเลี่ยงจาก

102.Keep calm – ตั้งสติ ทำใจให้สงบ

103. Keep on – ทำต่อไป ดำเนินต่อไป กระทำ…อย่างต่อเนื่อง

104.Keep one’s eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จัดตาดู

105. Keep one’s word – รักษาคำพูด รักษาสัจจะ ทำตามที่พูดไว้

106. Keep your shirt on! – คอยเดี๋ยว คอยก่อน อารมณ์เสีย

107.Lay a finger on – แตะต้อง หรือ ทำร้าย

108.Leave someone in peace – หยุดรบกวน

109.Let go of – ปล่อย ปล่อยตัว ปล่อยไป

110.Let someone down – ทำให้ผิดหวัง

111.Once in a blue moon – ไม่บ่อย นานๆ ครั้ง แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

112.Out of the blue – ทันทีทันใด ไม่ได้บอกล่วงหน้า จู่ๆ ก็เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก englishidiomsaday , ภาพประกอบน่ารักๆ www.rosha.ie

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

บทความแนะนำ


ฝึกการแปลภาษาอังกฤษเบื้องต้น อย่างง่ายๆ โดยครูวสันต์ อายุบเคน


ติดตามครูวสันต์ อายุบเคนได้ทางแฟนเพจ: https://www.facebook.com/wasan.aryubken/?ref=aymt_homepage_panel

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ฝึกการแปลภาษาอังกฤษเบื้องต้น อย่างง่ายๆ โดยครูวสันต์ อายุบเคน

\”Reading\” ฝึกอ่านฝึกแปลภาษาอังกฤษ เรื่อง Marry is my dog.


ฝึกอ่านและแปลภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัดจับคู่คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails\u0026data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTI1ODE2MSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjczMzYwIjt9

\

ฝึกการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย คำต่อคำ สำหรับคนไทย / สำหรับ นักเรียนชั้น ม. 3 – ม. 4 – ม. 5 – ม. 6


หรือ ติดตาม ครูวสันต์ อายุบเคน ได้ทาง Facebook Fan page ได้อีกช่องทางหนึ่ง:
https://www.facebook.com/wasan.aryubken/

ฝึกการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย คำต่อคำ สำหรับคนไทย / สำหรับ นักเรียนชั้น ม. 3 - ม. 4 - ม. 5 - ม. 6

แปลภาษาอังกฤษยังไง ไม่ต้องเปิดดิกชันนารี | Tina Academy Ep.111


♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ดูตัวอย่างหนังสือ www.tinaacademy.com/easyenglish
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

แปลภาษาอังกฤษยังไง ไม่ต้องเปิดดิกชันนารี | Tina Academy Ep.111

เรียนภาษาอังกฤษขณะนอนหลับ ||| คำและวลีภาษาอังกฤษที่สำคัญที่สุด ||| 8 ชั่วโมง


เรียนภาษาอังกฤษอย่างไร? เรียนภาษาอังกฤษในขณะที่คุณนอนหลับ
วิดีโอนี้มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดและวลีที่สอนไวยากรณ์โดยอัตโนมัติ และสร้างเป็นการเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่เริ่มเรียนภาษานี้ และมันจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดและการฟังของคุณ
ใช้เพียงแค่เล่นวิดีโอก่อนนอน …

นี่คือภาษาอื่นอื่นที่คุณสามารถเรียนรู้!
Learn English
เรียนภาษาอังกฤษ: 1) https://youtu.be/Yt7KsBn_SKo
2) https://www.youtube.com/watch?v=M
A2yJQLiWI\u0026list=PLkry8pUG1m4tJ1tbY
4HO1azkfTAaQT8u
Learn French
เรียนภาษาฝรั่งเศส: https://youtu.be/Vh3wc6SeHQ
Learn Spanish
เรียนภาษาสเปน: https://youtu.be/TdjlsJm4i4w
Learn Chinese (Mandarin)
เรียนภาษาจีน (แมนดาริน): https://youtu.be/Im0liiEczXo
Learn Japanese
เรียนภาษาญี่ปุ่น: https://youtu.be/ZeWMxfjufTE
Learn Korean
เรียนภาษาเกาหลี: https://youtu.be/0KCAo_L5c8
Learn Thai
เรียนภาษาไทย: https://youtu.be/szRnfJAHebI

เป้าหมายคือเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ผ่อนคลายและสงบ ใช้หูฟังถ้าคุณต้องการ เวลาที่ดีที่สุดคือก่อนที่คุณจะเข้านอน แผนคือ :
ฟังคำศัพท์นี้บ่อยเท่าที่เป็นไปได้จนกว่าคำและวลีจะเป็นธรรมชาติกับคุณ คุณควรจะรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีถ้าคุณฟังบ่อยๆ

วลีและคำเหล่านี้มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ฉันชื่อเอโก้ เรียนรู้อย่างเป็นสุข
แจ้งให้เราทราบหากคุณต้องการเรียนรู้อะไรที่เฉพาะเจาะจง 🙂

\”Untold Depths\” by Christopher Lloyd Clarke. http://www.christopherlloydclarke.com

เรียนภาษาอังกฤษขณะนอนหลับ ||| คำและวลีภาษาอังกฤษที่สำคัญที่สุด ||| 8 ชั่วโมง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แปลประโยคอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *