Skip to content
Home » [NEW] เรียนฟรีที่เยอรมัน กับ Sprachcaffe Languages Plus เรียนภาษาเยอรมัน | โรงเรียนสอนภาษาเยอรมัน – NATAVIGUIDES

[NEW] เรียนฟรีที่เยอรมัน กับ Sprachcaffe Languages Plus เรียนภาษาเยอรมัน | โรงเรียนสอนภาษาเยอรมัน – NATAVIGUIDES

โรงเรียนสอนภาษาเยอรมัน: คุณกำลังดูกระทู้

เรียนฟรีที่เยอรมัน กับ Sprachcaffe Languages Plus

Sprachcaffe Languages PLUS German Pathways

ข้อดีของ German Pathways to University Program ของโรงเรียน Sprachcaffe คือ?

–          โรงเรียน Sprachcaffe จะช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะภาษาเยอรมันให้สามารถสอบ TestDaF ได้คะแนนสูงถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยที่เยอรมนีกำหนดไว้ ทั้งป.ตรี และ ป.โท

–          แค่นักเรียนมีภาษาเยอรมันระดับ beginner-A1 ก็สมัครเรียนหลักสูตรนี้ได้เลย

–          ได้เรียนฟรี ไม่มีค่าเทอม ขณะเรียน ป.ตรี และป.โท ที่มหาวิทยาลัยของรัฐบาล สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้

–          เมื่อเรียนจบ สามารถหางานและขอ EU Blue Card เพื่ออาศัยที่เยอรมนี

–          มีสิทธิ์ขอ Permanent Resident ภายใน 2 ปีหลังทำงาน

–          สายงานมาแรง อนาคตไกล ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (โดยเฉพาะ ไอที) วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาตร์

มีงานรองรับมากมาย รายได้ดี มีความก้าวหน้าสูง

 

ภาษาเยอรมันเป็นหนึ่งในข้อกำหนดการรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี

นักเรียนต้องยื่นผลการทดสอบภาษาเยอรมัน DSH (Deutsche Sprachprüfung für den Hochschulzugang ausländischer Studienbewerber) หรือ TestDaF (Test für Deutsch als Fremdsprache) ในการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยที่เยอรมัน ซึ่งทั้ง DSH และ TestDaF เป็นแบบทดสอบที่มหาวิทยาลัยในเยอรมนียอมรับ นักเรียนที่จะสอบ TestDaF ควรมีระดับภาษาเยอรมันขั้นต่ำอยู่ที่ B2

ระดับภาษาเยอรมัน คือ A1 – C1 (Common European Framework)

Common European Framework (CEFR หรือ CEF) เป็นแนวทางจำแนกระดับภาษาออกเป็นลำดับสำหรับผู้เรียนภาษาต่างๆในแถบยุโรปดังนี้  

Level Group

Level Group

Name

Level

 

Courses

Description

A

Basic user

 

A1

A2

A1.1&A1.2

A2.1&A2.2

Breakthrough or beginner

Way stage or elementary

B

 

 

Independent user

 

 

B1

B1.1&B1.2

B2.1&B2.2

Threshold or intermediate

Vantage or upper intermediate

นักเรียนที่มีสิทธิ์สอบ TestDaF ควรมีภาษาระดับ B2แล้ว

C

 

Proficient user

C1

C2

C1.1&C1.2

C2.1&C2.2

proficiency or advanced

Mastery or proficiency

 โดยเฉลี่ยนักเรียนจะใช้เวลาประมาณ 9 สัปดาห์ต่อการเรียน 1 ระดับ ตัวอย่างเช่นหากนักเรียนเป็นผู้เริ่มเรียน (complete beginner) ก็จะต้องใช้เวลาประมาณ 36 สัปดาห์เพื่อที่จะเรียนจบ B2 (คือเรียน A1, A2, B1 และ B2) เมื่อเรียนจบ B2 แล้วจึงพร้อมเข้าเรียนคอร์ส

เตรียมสอบ TestDaF (TestDaF Exam Preparation Course)

TestDaF – กุญแจสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี

ผลสอบ TestDaF แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้

TestDaF-level 5 (TDN 5 – TestDaF level 5)

TestDaF-level 4 (TDN 4 – TestDaF level 4)

TestDaF-level 3 (TDN 3 – TestDaF level 3)

นักเรียนควรได้ผลทดสอบอย่างน้อยระดับ 4 ซึ่งนอกจากระดับภาษาเยอรมันแล้วการตอบรับจากมหาวิทยาลัยยังต้องพิจารณาถึงผลการศึกษาที่นักเรียนเรียนจบมาและกฎเกณฑ์ต่างๆที่มหาวิทยาลัยตั้งไว้อีกด้วย

หากนักเรียนได้ผลสอบระดับ 5 ถือว่าระดับภาษาดีเยี่ยม ทั้งนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีเกณฑ์การรับสมัครนักเรียนแตกต่างกัน ผลพิจารณาจะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ในกรณีที่นักเรียนได้ผลสอบที่ระดับ 3 อาจต้องดูว่ามหาวิทยาลัยพิจารณารับเข้าเรียนหรือไม่ และหากรับเข้าเรียนมีเงื่อนไขในการรับอย่างไรบ้าง

TestDaF Dates in 2017

Sprachcaffe TestDaF Exam Prep

Course Start Date

Application Deadline

2017

Exam Date

Result Date

27-Feb-17

01-Mar-17  to  29-Mar-17

26-Apr-17

Result on 7-Jun-17

17-Apr-17

19-Apr-17  to  17-May-17

14-Jun-17

Result on 26-Jul-17

22-May-17

24-May-17  to  21-Jun-17

19-Jul-17

Result on 30-Aug-17

24-Jul-17

26-Jul-17  to  23-Aug-17

20-Sep-17

Result on 31-Oct-17

18-Sep-17

21-Sep-17  to  19-Oct-17

16-Nov-17

Result on 28-Dec-17

 

กรอบของเวลาเรียน German Pathways to University Program ที่โรงเรียน Sprachcaffe Languages PLUS

Level – Course Type

Time

A1 – Intensive Course

9 สัปดาห์

A2 – Intensive Course

9 สัปดาห์

B1 – Intensive Course

9 สัปดาห์

B2 – Intensive Course  หรือ หากจำนวนนักเรียนที่เรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน) โรงเรียนจะจัดให้เรียนคลาส Pathways B2 – Standard Course เน้นเรียนแบบ academic เพื่อเตรียมภาษาสำหรับเข้ามหาวิทยาลัย

8 สัปดาห์

TestDaF- Exam Preparation Course

8 สัปดาห์

 

การสมัครเรียน German Pathways to University กับโรงเรียน Sprachcaffe มี 2 Options สำหรับนักเรียนไทย

Option 1: สมัครวีซ่านักเรียน (สำหรับผู้สนใจเรียนป.ตรีที่ EAH Jena เท่านั้น)

EAH Jena เป็น partner university ของโรงเรียน Sprachcaffe – Frankfurt

Option 1 นี้ นักเรียนต้องได้ภาษาระดับ A1 นักเรียนเลือกคณะที่ EAH Jena เปิดสอน

ส่งใบสมัครและเอกสารสมัครเรียนให้ EAH Jena โดยเจ้าหน้าที่ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานให้

เมื่อมหาลัยตอบรับ จะออก Conditional LOA มาให้ พร้อมกับ Sprachcaffe LOA >>> นักเรียนยื่นขอวีซ่านักเรียน

(หากมหาวิทยาลัยไม่ตอบรับ ให้ดู Option 2 แทนค่ะ หรือ หาก EAH Jena ไม่มีคณะที่นักเรียนสนใจ ให้ดู Option 2 ค่ะ)

 ระยะเวลาที่นักเรียนจะเรียนกับ Sprachcaffe เพื่อเตรียมตัวด้านภาษาเยอรมันสำหรับสอบ TestDaF โดยประมาณคือ

เรียน A2, B1, B2 หลักสูตร Intensive โดย A2 กับ B1 ระดับละ 9 สัปดาห์ ส่วน B2 เรียน 8 สัปดาห์ และต่อด้วย TestDaF Exam Preparation Course 8 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 34 สัปดาห์  >>> จากนั้นสอบ TestDaF

หมายเหตุหากมีจำนวนนักเรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน ในช่วงเวลานั้นๆ) โรงเรียนจะจัดคลาส Pathways B2 หลักสูตร Standard แทนที่จะเป็น Intensive Course B2เพื่อให้นักเรียนได้เรียนและฝึกภาษาแนว academic เพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย  

ค่าใช้จ่ายมีดังนี้ค่ะ (ราคานี้ยังไม่รวมที่พัก และยังไม่รวมค่าสอบ TestDaF ที่นักเรียนต้องไปชำระที่แฟรงก์เฟิร์ตคือ 175€ ค่ะ)

เมื่อสอบ TestDaF และได้ผล level 4 ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่เยอรมันตั้งไว้ 

ในกรณีที่นักเรียนสมัครเรียน ป.ตรี Conditional LOA ของ Jena จะระบุไว้ว่านักเรียนต้องเรียน Bridging Course ซึ่งตามปกติจะต้องเรียน 1ปี (Bridging Course จะเหมือนกับ Foundation Course ค่ะ) 

หากต้องการเรียนมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ใช่ EAH Jena ก็สามารถทำได้ค่ะ แม้ว่าเราจะได้ Conditional LOA จาก Jena แล้วก็ตาม

โดยนักเรียนสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจสมัครเรียนมา 5 แห่ง เจ้าหน้าที่ Pathways ของ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานส่งใบสมัครให้ค่ะ

Option 2: สมัครวีซ่าเรียนระยะยาว National Visa สำหรับเรียนภาษา (อยู่ได้ไม่เกิน ปี)  — ต้องได้ภาษาเยอรมันระดับ A1 เพื่อยื่นขอวีซ่า

(สำหรับผู้ที่สนใจเรียนป.ตรี และป.โท) Option 2 นี้ นักเรียนไม่ต้องยื่นใบสมัครกับ EAH Jena เพราะ EAH Jena ไม่มีคณะที่นักเรียนสนใจ หรือหากนักเรียนสมัครกับ EAH Jena แล้วแต่ไม่ได้ใบตอบรับ ให้ยื่นขอวีซ่าระยะยาวแบบเรียนภาษา ซึ่งอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี แล้วต้องกลับไทย

กรณีที่นักเรียนมีระดับภาษาเยอรมันอยู่ที่ A1 แล้ว ระยะเวลาเรียนจะเป็นดังนี้

เรียน A2, B1, B2 หลักสูตร Intensive โดย A2 กับ B1 ระดับละ 9 สัปดาห์ ส่วน B2 เรียน 8 สัปดาห์ และต่อด้วย TestDaF Exam Preparation Course 8 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 34 สัปดาห์  >>> จากนั้นสอบ TestDaF

หมายเหตุหากมีจำนวนนักเรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน ในช่วงเวลานั้นๆ) โรงเรียนจะจัดคลาส Pathways B2 หลักสูตร Standard แทนที่จะเป็น Intensive Course B2เพื่อให้นักเรียนได้เรียนและฝึกภาษาแนว academic เพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย  

นักเรียนสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจสมัครเรียนมา 5 แห่ง เจ้าหน้าที่ Pathway ของ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานส่งใบสมัครให้ค่ะแล้วบินกลับไทยเพื่อรอฟังผลตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่ส่งใบสมัครไว้

หากมีมหาวิทยาลัยตอบรับ มหาวิทยาลัยจะส่ง Conditional LOA มาให้ที่ไทย >>> นักเรียนสมัครวีซ่านักเรียนเพื่อเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ

ค่าใช้จ่ายมีดังนี้ค่ะ (ราคานี้ยังไม่รวมที่พัก และยังไม่รวมค่าสอบ TestDaF ที่นักเรียนต้องไปชำระที่แฟรงก์เฟิร์ตคือ 175€ ค่ะ)

 

FAQ 

คำถามที่ 1  –  ถ้าหาก Conditional Letter of Acceptance ระบุว่าหลังจากที่สอบ TestDaF ผ่านแล้ว นักเรียนต้องเรียน Foundation Course หรือที่เยอรมันเรียกว่า bridging course หรือ “Studienkolleg” มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

คำตอบ ค่าใช้จ่ายสำหรับ Studienkolleg จะไม่แพงเลยค่ะ สำหรับที่ EAH Jena University จะอยู่ที่ €114/ เทอม (ค่าเทอมของที่อื่นก็จะไม่ค่อยต่างกันมากเท่าไหร่ค่ะ) ซึ่งต้องดูว่า Conditional letter of acceptance มักระบุว่าให้เรียน 1 ปี ซึ่งมี 2 เทอม และจะมีสอบ entrance exam เพื่อเข้าเรียน Studienkolleg  ซึ่งค่าใช้จ่ายของ entrance exam ได้รวมอยู่ใน €114 แล้วค่ะ

คำถามที่ 2 –   เมื่อนักเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว สามารถทำงานอย่างถูกกฎหมายได้หรือไม่

คำตอบ นักเรียนจะได้รับอนุญาติให้ทำงานได้ภายใต้เงื่อนไขคือ สามารถทำงานครึ่งวันได้ 240 วันใน 1 ปี (ครึ่งวันคือ 4 ชั่วโมง) หรือ ทำงานเต็มวันได้ 120 วันใน 1 ปี (เต็มวันคือ 8 ชั่วโมง) โดยงานที่สามารถสมัครได้จะต้องอยู่ในหมวดหมู่ “Student jobs” เท่านั้น ไม่สามารถสมัครงานแบบ Full time job ได้ค่ะ เพราะถือว่ายังเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ ตัวอย่างงานที่สามารถทำได้ได้แก่ งานในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ limited hour contract ค่ะ นักเรียนสามารถทำงานที่ bar หรือ restaurant ค่าแรงจะอยู่ที่ประมาณ 8.50 – 11 ยูโร/ชั่วโมง หรือจะเลือกทำงานเป็น babysitting ส่งหนังสือพิมพ์ ทำงานในห้างสรรพสินค้าก็ได้ค่ะ

คำถามที่ 3 –   เมื่อนักเรียนต้องการ Blue Card เพื่อใช้ทำงานและอาศัยในเยอรมัน โรงเรียนจะเป็นฝ่ายขอให้หรือนักเรียนขอเอง

คำตอบ นักเรียนจะสามารถสมัครขอ Blue Card หลังจากศึกษามหาวิทยาลัยจบแล้วค่ะ เมื่อมีบริษัทที่ต้องการจ้างนักเรียนเข้าทำงาน และเป็นสาขางานที่กำลังมีความต้องการบุคคลากร นักเรียนสามารถสมัครขอ Blue Card ได้เองค่ะ โดยโรงเรียนจะช่วยให้ข้อมูลต่างๆเพื่อให้นักเรียนเข้าใจขั้นตอนรายละเอียดการสมัครค่ะ

คำถามที่ 4 –   มหาวิทยาลัยที่เยอรมันมีรอบรับนักศึกษาอย่างไรบ้าง

คำตอบ มหาวิทยาลัยที่เยอรมัน จะเปิดรับนักเรียน 2 รอบดังนี้ค่ะ

Winter semester = มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเปิดรับนักเรียนต่างชาติเพื่อเข้าเรียนในเทอมนี้ เริ่มเรียนปลายเดือน September หรือต้นเดือน October เรียนจนถึง March โดยช่วงที่ควรส่งใบสมัครเรียนคือระหว่าง April – June ช้าสุดไม่เกิน July

Summer semester = เริ่มเรียน April จนถึง September มีมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เปิดรับนักเรียนต่างชาติช่วงนี้ค่ะ สามารถสมัครได้ตั้งแต่ December-January เริ่มเรียน March

คณะที่มหาวิทยาลัย EAH Jena เปิดสอนในระดับปริญญาตรี มีดังนี้ค่ะ

http://www.eah-jena.de/fhj/fhjena/en/studium/Studienangebot/Bachelorstudiengaenge/Seiten/default.aspx

Bachelor’s Studies

–          Automation Engineering/Information Technology International, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Biotechnology, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Business Administration, Bachelor of Arts (B.A.), 7 semesters (Limit number of students)

–          Business Administration & Engineering (Industry), Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters (Limit number of students)

–          Business Administration & Engineering (Information Technology), Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Business Information Systems, Bachelor of Arts (B. A.), 7 semesters (Limit number of students)

–          E-Commerce, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Electrical Engineering/Information Technology, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

Majoring in:

  Automation Engineering

  Communication and Media Technology

  Computer Engineering

  International/ Intercultural Communication

  Economy

–          Electrical Engineering/Information Technology (For Women of Vision), Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Environmental Engineering, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Environmental Engineering and Development, Bachelor of Science (B. Sc.), 8 semesters

–          Laser- and Optotechnologies, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Materials Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Mechanical Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Mechatronics, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Medical Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Optoelectronics, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Optometry/Ophthalmic Optics, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Physics Engineering, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Precision Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Social Work, Bachelor of Arts (B. A.), 7 semesters (Limit number of students)

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณขณะศึกษาในมหาวิทยาลัย (ข้อมูลจาก DAAD: www.daad.co.th)

ค่าใช้จ่ายซึ่งรวมถึงค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าซักรีด ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลสุขลักษณะ การเดินทาง อุปกรณ์การศึกษา และสำหรับการประกันสุขภาพ ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมยามว่างต่าง ๆ ทั้งหมดโดยประมาณอยู่ระหว่าง 800 – 900 ยูโรต่อเดือน

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายรายเดือนโดยเฉลี่ยของนักศึกษาต่างชาติ

ค่าที่พัก
250 – 350   ยูโร

ค่าประกันสุขภาพ (สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี)
85   ยูโร

ค่าอาหาร
110 – 165   ยูโร

ค่าเสื้อผ้า
55   ยูโร

ค่าเดินทาง
85   ยูโร

ค่าอุปกรณ์การศึกษา
30   ยูโร

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต หรือกิจกรรมยามว่าง
100   ยูโร

– เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคน

เดือนละ
800 – 900   ยูโร
ปีละ
9,600 – 10,800   ยูโร

ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคล อาจแตกต่างกันไป เช่น ถ้าอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น มิวนิค หรือฮัมบวร์ก คุณก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอยู่ในเมืองเล็ก ๆ

คุณสามารถขอคำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการเงิน การใช้ชีวิต การดูแลสุขภาพ และความรู้ทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้จากกองบริการนักศึกษา หรือ Studentenwerk โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.internationale-studierende.de/en/prepare_your_studies/

 

Powered by Facebook Comments free add-on for most feature packed social sharing plugin for WordPress Easy Social Share Buttons

[NEW] เรียนฟรีที่เยอรมัน กับ Sprachcaffe Languages Plus เรียนภาษาเยอรมัน | โรงเรียนสอนภาษาเยอรมัน – NATAVIGUIDES

เรียนฟรีที่เยอรมัน กับ Sprachcaffe Languages Plus

Sprachcaffe Languages PLUS German Pathways

ข้อดีของ German Pathways to University Program ของโรงเรียน Sprachcaffe คือ?

–          โรงเรียน Sprachcaffe จะช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะภาษาเยอรมันให้สามารถสอบ TestDaF ได้คะแนนสูงถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยที่เยอรมนีกำหนดไว้ ทั้งป.ตรี และ ป.โท

–          แค่นักเรียนมีภาษาเยอรมันระดับ beginner-A1 ก็สมัครเรียนหลักสูตรนี้ได้เลย

–          ได้เรียนฟรี ไม่มีค่าเทอม ขณะเรียน ป.ตรี และป.โท ที่มหาวิทยาลัยของรัฐบาล สามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้

–          เมื่อเรียนจบ สามารถหางานและขอ EU Blue Card เพื่ออาศัยที่เยอรมนี

–          มีสิทธิ์ขอ Permanent Resident ภายใน 2 ปีหลังทำงาน

–          สายงานมาแรง อนาคตไกล ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (โดยเฉพาะ ไอที) วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาตร์

มีงานรองรับมากมาย รายได้ดี มีความก้าวหน้าสูง

 

ภาษาเยอรมันเป็นหนึ่งในข้อกำหนดการรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี

นักเรียนต้องยื่นผลการทดสอบภาษาเยอรมัน DSH (Deutsche Sprachprüfung für den Hochschulzugang ausländischer Studienbewerber) หรือ TestDaF (Test für Deutsch als Fremdsprache) ในการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยที่เยอรมัน ซึ่งทั้ง DSH และ TestDaF เป็นแบบทดสอบที่มหาวิทยาลัยในเยอรมนียอมรับ นักเรียนที่จะสอบ TestDaF ควรมีระดับภาษาเยอรมันขั้นต่ำอยู่ที่ B2

ระดับภาษาเยอรมัน คือ A1 – C1 (Common European Framework)

Common European Framework (CEFR หรือ CEF) เป็นแนวทางจำแนกระดับภาษาออกเป็นลำดับสำหรับผู้เรียนภาษาต่างๆในแถบยุโรปดังนี้  

Level Group

Level Group

Name

Level

 

Courses

Description

A

Basic user

 

A1

A2

A1.1&A1.2

A2.1&A2.2

Breakthrough or beginner

Way stage or elementary

B

 

 

Independent user

 

 

B1

B1.1&B1.2

B2.1&B2.2

Threshold or intermediate

Vantage or upper intermediate

นักเรียนที่มีสิทธิ์สอบ TestDaF ควรมีภาษาระดับ B2แล้ว

C

 

Proficient user

C1

C2

C1.1&C1.2

C2.1&C2.2

proficiency or advanced

Mastery or proficiency

 โดยเฉลี่ยนักเรียนจะใช้เวลาประมาณ 9 สัปดาห์ต่อการเรียน 1 ระดับ ตัวอย่างเช่นหากนักเรียนเป็นผู้เริ่มเรียน (complete beginner) ก็จะต้องใช้เวลาประมาณ 36 สัปดาห์เพื่อที่จะเรียนจบ B2 (คือเรียน A1, A2, B1 และ B2) เมื่อเรียนจบ B2 แล้วจึงพร้อมเข้าเรียนคอร์ส

เตรียมสอบ TestDaF (TestDaF Exam Preparation Course)

TestDaF – กุญแจสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่เยอรมนี

ผลสอบ TestDaF แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้

TestDaF-level 5 (TDN 5 – TestDaF level 5)

TestDaF-level 4 (TDN 4 – TestDaF level 4)

TestDaF-level 3 (TDN 3 – TestDaF level 3)

นักเรียนควรได้ผลทดสอบอย่างน้อยระดับ 4 ซึ่งนอกจากระดับภาษาเยอรมันแล้วการตอบรับจากมหาวิทยาลัยยังต้องพิจารณาถึงผลการศึกษาที่นักเรียนเรียนจบมาและกฎเกณฑ์ต่างๆที่มหาวิทยาลัยตั้งไว้อีกด้วย

หากนักเรียนได้ผลสอบระดับ 5 ถือว่าระดับภาษาดีเยี่ยม ทั้งนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีเกณฑ์การรับสมัครนักเรียนแตกต่างกัน ผลพิจารณาจะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ในกรณีที่นักเรียนได้ผลสอบที่ระดับ 3 อาจต้องดูว่ามหาวิทยาลัยพิจารณารับเข้าเรียนหรือไม่ และหากรับเข้าเรียนมีเงื่อนไขในการรับอย่างไรบ้าง

TestDaF Dates in 2017

Sprachcaffe TestDaF Exam Prep

Course Start Date

Application Deadline

2017

Exam Date

Result Date

27-Feb-17

01-Mar-17  to  29-Mar-17

26-Apr-17

Result on 7-Jun-17

17-Apr-17

19-Apr-17  to  17-May-17

14-Jun-17

Result on 26-Jul-17

22-May-17

24-May-17  to  21-Jun-17

19-Jul-17

Result on 30-Aug-17

24-Jul-17

26-Jul-17  to  23-Aug-17

20-Sep-17

Result on 31-Oct-17

18-Sep-17

21-Sep-17  to  19-Oct-17

16-Nov-17

Result on 28-Dec-17

 

กรอบของเวลาเรียน German Pathways to University Program ที่โรงเรียน Sprachcaffe Languages PLUS

Level – Course Type

Time

A1 – Intensive Course

9 สัปดาห์

A2 – Intensive Course

9 สัปดาห์

B1 – Intensive Course

9 สัปดาห์

B2 – Intensive Course  หรือ หากจำนวนนักเรียนที่เรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน) โรงเรียนจะจัดให้เรียนคลาส Pathways B2 – Standard Course เน้นเรียนแบบ academic เพื่อเตรียมภาษาสำหรับเข้ามหาวิทยาลัย

8 สัปดาห์

TestDaF- Exam Preparation Course

8 สัปดาห์

 

การสมัครเรียน German Pathways to University กับโรงเรียน Sprachcaffe มี 2 Options สำหรับนักเรียนไทย

Option 1: สมัครวีซ่านักเรียน (สำหรับผู้สนใจเรียนป.ตรีที่ EAH Jena เท่านั้น)

EAH Jena เป็น partner university ของโรงเรียน Sprachcaffe – Frankfurt

Option 1 นี้ นักเรียนต้องได้ภาษาระดับ A1 นักเรียนเลือกคณะที่ EAH Jena เปิดสอน

ส่งใบสมัครและเอกสารสมัครเรียนให้ EAH Jena โดยเจ้าหน้าที่ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานให้

เมื่อมหาลัยตอบรับ จะออก Conditional LOA มาให้ พร้อมกับ Sprachcaffe LOA >>> นักเรียนยื่นขอวีซ่านักเรียน

(หากมหาวิทยาลัยไม่ตอบรับ ให้ดู Option 2 แทนค่ะ หรือ หาก EAH Jena ไม่มีคณะที่นักเรียนสนใจ ให้ดู Option 2 ค่ะ)

 ระยะเวลาที่นักเรียนจะเรียนกับ Sprachcaffe เพื่อเตรียมตัวด้านภาษาเยอรมันสำหรับสอบ TestDaF โดยประมาณคือ

เรียน A2, B1, B2 หลักสูตร Intensive โดย A2 กับ B1 ระดับละ 9 สัปดาห์ ส่วน B2 เรียน 8 สัปดาห์ และต่อด้วย TestDaF Exam Preparation Course 8 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 34 สัปดาห์  >>> จากนั้นสอบ TestDaF

หมายเหตุหากมีจำนวนนักเรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน ในช่วงเวลานั้นๆ) โรงเรียนจะจัดคลาส Pathways B2 หลักสูตร Standard แทนที่จะเป็น Intensive Course B2เพื่อให้นักเรียนได้เรียนและฝึกภาษาแนว academic เพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย  

ค่าใช้จ่ายมีดังนี้ค่ะ (ราคานี้ยังไม่รวมที่พัก และยังไม่รวมค่าสอบ TestDaF ที่นักเรียนต้องไปชำระที่แฟรงก์เฟิร์ตคือ 175€ ค่ะ)

เมื่อสอบ TestDaF และได้ผล level 4 ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่เยอรมันตั้งไว้ 

ในกรณีที่นักเรียนสมัครเรียน ป.ตรี Conditional LOA ของ Jena จะระบุไว้ว่านักเรียนต้องเรียน Bridging Course ซึ่งตามปกติจะต้องเรียน 1ปี (Bridging Course จะเหมือนกับ Foundation Course ค่ะ) 

หากต้องการเรียนมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ใช่ EAH Jena ก็สามารถทำได้ค่ะ แม้ว่าเราจะได้ Conditional LOA จาก Jena แล้วก็ตาม

โดยนักเรียนสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจสมัครเรียนมา 5 แห่ง เจ้าหน้าที่ Pathways ของ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานส่งใบสมัครให้ค่ะ

Option 2: สมัครวีซ่าเรียนระยะยาว National Visa สำหรับเรียนภาษา (อยู่ได้ไม่เกิน ปี)  — ต้องได้ภาษาเยอรมันระดับ A1 เพื่อยื่นขอวีซ่า

(สำหรับผู้ที่สนใจเรียนป.ตรี และป.โท) Option 2 นี้ นักเรียนไม่ต้องยื่นใบสมัครกับ EAH Jena เพราะ EAH Jena ไม่มีคณะที่นักเรียนสนใจ หรือหากนักเรียนสมัครกับ EAH Jena แล้วแต่ไม่ได้ใบตอบรับ ให้ยื่นขอวีซ่าระยะยาวแบบเรียนภาษา ซึ่งอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี แล้วต้องกลับไทย

กรณีที่นักเรียนมีระดับภาษาเยอรมันอยู่ที่ A1 แล้ว ระยะเวลาเรียนจะเป็นดังนี้

เรียน A2, B1, B2 หลักสูตร Intensive โดย A2 กับ B1 ระดับละ 9 สัปดาห์ ส่วน B2 เรียน 8 สัปดาห์ และต่อด้วย TestDaF Exam Preparation Course 8 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 34 สัปดาห์  >>> จากนั้นสอบ TestDaF

หมายเหตุหากมีจำนวนนักเรียน German Pathways เพียงพอ (อย่างน้อย 4 คน ในช่วงเวลานั้นๆ) โรงเรียนจะจัดคลาส Pathways B2 หลักสูตร Standard แทนที่จะเป็น Intensive Course B2เพื่อให้นักเรียนได้เรียนและฝึกภาษาแนว academic เพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย  

นักเรียนสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่สนใจสมัครเรียนมา 5 แห่ง เจ้าหน้าที่ Pathway ของ Sprachcaffe จะช่วยประสานงานส่งใบสมัครให้ค่ะแล้วบินกลับไทยเพื่อรอฟังผลตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่ส่งใบสมัครไว้

หากมีมหาวิทยาลัยตอบรับ มหาวิทยาลัยจะส่ง Conditional LOA มาให้ที่ไทย >>> นักเรียนสมัครวีซ่านักเรียนเพื่อเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ

ค่าใช้จ่ายมีดังนี้ค่ะ (ราคานี้ยังไม่รวมที่พัก และยังไม่รวมค่าสอบ TestDaF ที่นักเรียนต้องไปชำระที่แฟรงก์เฟิร์ตคือ 175€ ค่ะ)

 

FAQ 

คำถามที่ 1  –  ถ้าหาก Conditional Letter of Acceptance ระบุว่าหลังจากที่สอบ TestDaF ผ่านแล้ว นักเรียนต้องเรียน Foundation Course หรือที่เยอรมันเรียกว่า bridging course หรือ “Studienkolleg” มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

คำตอบ ค่าใช้จ่ายสำหรับ Studienkolleg จะไม่แพงเลยค่ะ สำหรับที่ EAH Jena University จะอยู่ที่ €114/ เทอม (ค่าเทอมของที่อื่นก็จะไม่ค่อยต่างกันมากเท่าไหร่ค่ะ) ซึ่งต้องดูว่า Conditional letter of acceptance มักระบุว่าให้เรียน 1 ปี ซึ่งมี 2 เทอม และจะมีสอบ entrance exam เพื่อเข้าเรียน Studienkolleg  ซึ่งค่าใช้จ่ายของ entrance exam ได้รวมอยู่ใน €114 แล้วค่ะ

คำถามที่ 2 –   เมื่อนักเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว สามารถทำงานอย่างถูกกฎหมายได้หรือไม่

คำตอบ นักเรียนจะได้รับอนุญาติให้ทำงานได้ภายใต้เงื่อนไขคือ สามารถทำงานครึ่งวันได้ 240 วันใน 1 ปี (ครึ่งวันคือ 4 ชั่วโมง) หรือ ทำงานเต็มวันได้ 120 วันใน 1 ปี (เต็มวันคือ 8 ชั่วโมง) โดยงานที่สามารถสมัครได้จะต้องอยู่ในหมวดหมู่ “Student jobs” เท่านั้น ไม่สามารถสมัครงานแบบ Full time job ได้ค่ะ เพราะถือว่ายังเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ ตัวอย่างงานที่สามารถทำได้ได้แก่ งานในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ limited hour contract ค่ะ นักเรียนสามารถทำงานที่ bar หรือ restaurant ค่าแรงจะอยู่ที่ประมาณ 8.50 – 11 ยูโร/ชั่วโมง หรือจะเลือกทำงานเป็น babysitting ส่งหนังสือพิมพ์ ทำงานในห้างสรรพสินค้าก็ได้ค่ะ

คำถามที่ 3 –   เมื่อนักเรียนต้องการ Blue Card เพื่อใช้ทำงานและอาศัยในเยอรมัน โรงเรียนจะเป็นฝ่ายขอให้หรือนักเรียนขอเอง

คำตอบ นักเรียนจะสามารถสมัครขอ Blue Card หลังจากศึกษามหาวิทยาลัยจบแล้วค่ะ เมื่อมีบริษัทที่ต้องการจ้างนักเรียนเข้าทำงาน และเป็นสาขางานที่กำลังมีความต้องการบุคคลากร นักเรียนสามารถสมัครขอ Blue Card ได้เองค่ะ โดยโรงเรียนจะช่วยให้ข้อมูลต่างๆเพื่อให้นักเรียนเข้าใจขั้นตอนรายละเอียดการสมัครค่ะ

คำถามที่ 4 –   มหาวิทยาลัยที่เยอรมันมีรอบรับนักศึกษาอย่างไรบ้าง

คำตอบ มหาวิทยาลัยที่เยอรมัน จะเปิดรับนักเรียน 2 รอบดังนี้ค่ะ

Winter semester = มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเปิดรับนักเรียนต่างชาติเพื่อเข้าเรียนในเทอมนี้ เริ่มเรียนปลายเดือน September หรือต้นเดือน October เรียนจนถึง March โดยช่วงที่ควรส่งใบสมัครเรียนคือระหว่าง April – June ช้าสุดไม่เกิน July

Summer semester = เริ่มเรียน April จนถึง September มีมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เปิดรับนักเรียนต่างชาติช่วงนี้ค่ะ สามารถสมัครได้ตั้งแต่ December-January เริ่มเรียน March

คณะที่มหาวิทยาลัย EAH Jena เปิดสอนในระดับปริญญาตรี มีดังนี้ค่ะ

http://www.eah-jena.de/fhj/fhjena/en/studium/Studienangebot/Bachelorstudiengaenge/Seiten/default.aspx

Bachelor’s Studies

–          Automation Engineering/Information Technology International, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Biotechnology, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Business Administration, Bachelor of Arts (B.A.), 7 semesters (Limit number of students)

–          Business Administration & Engineering (Industry), Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters (Limit number of students)

–          Business Administration & Engineering (Information Technology), Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Business Information Systems, Bachelor of Arts (B. A.), 7 semesters (Limit number of students)

–          E-Commerce, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Electrical Engineering/Information Technology, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

Majoring in:

  Automation Engineering

  Communication and Media Technology

  Computer Engineering

  International/ Intercultural Communication

  Economy

–          Electrical Engineering/Information Technology (For Women of Vision), Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Environmental Engineering, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Environmental Engineering and Development, Bachelor of Science (B. Sc.), 8 semesters

–          Laser- and Optotechnologies, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Materials Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Mechanical Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Mechatronics, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Medical Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Optoelectronics, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 7 semesters

–          Optometry/Ophthalmic Optics, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Physics Engineering, Bachelor of Science (B. Sc.), 7 semesters

–          Precision Engineering, Bachelor of Engineering (B. Eng.), 6 semesters

–          Social Work, Bachelor of Arts (B. A.), 7 semesters (Limit number of students)

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณขณะศึกษาในมหาวิทยาลัย (ข้อมูลจาก DAAD: www.daad.co.th)

ค่าใช้จ่ายซึ่งรวมถึงค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าซักรีด ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลสุขลักษณะ การเดินทาง อุปกรณ์การศึกษา และสำหรับการประกันสุขภาพ ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมยามว่างต่าง ๆ ทั้งหมดโดยประมาณอยู่ระหว่าง 800 – 900 ยูโรต่อเดือน

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายรายเดือนโดยเฉลี่ยของนักศึกษาต่างชาติ

ค่าที่พัก
250 – 350   ยูโร

ค่าประกันสุขภาพ (สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี)
85   ยูโร

ค่าอาหาร
110 – 165   ยูโร

ค่าเสื้อผ้า
55   ยูโร

ค่าเดินทาง
85   ยูโร

ค่าอุปกรณ์การศึกษา
30   ยูโร

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต หรือกิจกรรมยามว่าง
100   ยูโร

– เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคน

เดือนละ
800 – 900   ยูโร
ปีละ
9,600 – 10,800   ยูโร

ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคล อาจแตกต่างกันไป เช่น ถ้าอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น มิวนิค หรือฮัมบวร์ก คุณก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอยู่ในเมืองเล็ก ๆ

คุณสามารถขอคำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการเงิน การใช้ชีวิต การดูแลสุขภาพ และความรู้ทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้จากกองบริการนักศึกษา หรือ Studentenwerk โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.internationale-studierende.de/en/prepare_your_studies/

 

Powered by Facebook Comments free add-on for most feature packed social sharing plugin for WordPress Easy Social Share Buttons


ข่าวใหม่ News!!!เสี่ย ใช้เครื่องบินขนของไปเยอรมันหมดวังไม่กลับมาไทยอีกนานปล่อยอำนาจให้ประยุทธ์บริหาร


โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ไม่พาดพิง บุคคลที่สาม
ขอบคุณครับ
ข่าวใหม่ล่าสุด​ ข่าวใหม่วันนี้​ ข่าว​ ข่าวล่าสุด​ ข่าววันนี้​ ข่าววันนี้ล่าสุด​ ข่าวล่าสุดวันนี้​ ทนายเดชา​ ทนายคลายทุกข์ ข่าวเด่น TV ข่าวใหม่News ข่าวเด่นวันนี้ Burn chanel ThaiNews lllข่าวดังวันนี้ ออนไลน์Top10newsข่าวการชุมนุม ล่าสุด
ข่าว NewsGood channel
ข่าวการชุมนุม ล่าสุดวันนี้
ข่าวการชุมนุม
ข่าวการประท้วงล่าสุด
ข่าวการเมืองล่าสุดวันนี้
ข่าวการประท้วง
ข่าวการเมืองวันนี้ล่าสุด
ข่าวการเมือง
ข่าวการเมืองวันนี้ล่าสุด 2563
ข่าวการเมืองล่าสุด
ข่าวการเมืองวันนี้
ข่าวการเมืองไทยวันนี้ล่าสุด 2564
ข่าวการเมืองไทยล่าสุด
ข่าวการเมืองไทยวันนี้

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ข่าวใหม่ News!!!เสี่ย ใช้เครื่องบินขนของไปเยอรมันหมดวังไม่กลับมาไทยอีกนานปล่อยอำนาจให้ประยุทธ์บริหาร

ร.10 สั่งแก้กฏหมายขนเงินกลับเยอรมัน


ข่าวเด่นวันนี้
โปรดแสดง ความคิดเห็น อย่างสุภาพ
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวการชุมนุม
ข่าวการประท้วงล่าสุด
ข่าวการเมืองล่าสุดวันนี้
ข่าวการประท้วง
ข่าวการเมืองวันนี้ล่าสุด
ข่าวการเมือง
ข่าวการเมืองวันนี้ล่าสุด 2564
ข่าวการเมืองล่าสุด
ข่าวการเมืองวันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวการชุมนุม
ข่าวการชุมนุมล่าสุด
ข่าวการชุมนุมล่าสุดวันนี้

ร.10 สั่งแก้กฏหมายขนเงินกลับเยอรมัน

เรียนภาษาเยอรมัน abc 1


เรียนภาษาเยอรมัน บทที่ 1 ไวยากรณ์ ออกเสียงเเละสะกดตัวอักษรอย่างถูกต้อง สำหรับพื้นฐานจำเป็นอย่างมากเพื่อต่อยอดในการพูดเขียนฟังอ่าน ในภาษาเยอรมันมีตัวอักษร (Das Alphabet) ทั้งหมด 26 ตัว นอกจากนี้ยังมีตัวอักษรพิเศษอีก 4 ตัว ซึ่งเป็นตัวที่มี อุมเล้าท์ (umlaut) หมายถึงจุดข้างบน ตัวอักษร Ä Ö Ü (ในภาษาเยอรมัน) 3 ตัว และอีกหนึ่งตัวคือ ß (เอสเซ็ท)
สนใจเรียนภาษาเยอรมัน มาดูเว็บนี้เลยครับ http://germanbasic.com/

เรียนภาษาเยอรมัน abc 1

ตัวอย่าง เรียนภาษาเยอรมัน A1 / ภาษาเยอรมันสำหรับผู้เริ่มต้น


คลิปตัวอย่างนี้ตัดมาจากการเรียนเนื้อหาวันสุดท้ายของในคอร์ส Intensiv A1 รอบมีนาคม มิถุนายน 2563 เป็นคอร์สเริ่มต้นสำหรับคนที่ไม่เคยมีความรู้ภาษาเยอรมันมาก่อน สำหรับใครที่สนใจมาเรียนด้วยกันสามารถติดตามข้อมูลการเปิดรับสมัครคอร์สต่างๆ ได้ทาง facebook page / group และ website ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
___________________________________________________________________________
ติดตามครูดาว และพวกเรา EINS by DAO ตามช่องทางต่างๆได้ที่
Facebook Fanpage: EINS by DAO
Facebook Group: ภาษาเยอรมัน Deutsch by DAO
Instagram: einsbydao
Youtube: EINS by DAO
Line ID: einsbydao
Web: www.einsbydao.com

ตัวอย่าง เรียนภาษาเยอรมัน A1 / ภาษาเยอรมันสำหรับผู้เริ่มต้น

4 เคล็ดลับเรียนภาษาเยอรมัน!! เริ่มเรียนยังไง? สิ่งสำคัญที่ต้องรู้??!! | JINS CHANNEL


ช่องทางในการติดตาม:
https://www.instagram.com/naritsaarah/

4 เคล็ดลับเรียนภาษาเยอรมัน!! เริ่มเรียนยังไง? สิ่งสำคัญที่ต้องรู้??!! | JINS CHANNEL

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ โรงเรียนสอนภาษาเยอรมัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *