Skip to content
Home » [NEW] หลักการเติม s และ es หลังคำนาม พร้อมตัวอย่าง | คำนาม – NATAVIGUIDES

[NEW] หลักการเติม s และ es หลังคำนาม พร้อมตัวอย่าง | คำนาม – NATAVIGUIDES

คำนาม: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ในภาษาอังกฤษ การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ เรามักจะเติม s หรือ es ต่อท้าย อย่างเช่น boy เป็น boys, cat เป็น cats, dish เป็น dishes

แต่ก็มีบางคำที่ต้องเปลี่ยนตัวอักษรก่อนแล้วค่อยเติม es อย่างเช่น candy เป็น candies, fly เป็น flies หรือบางคำก็เปลี่ยนตัวอักษรอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องเติม s หรือ es อย่างเช่น foot เป็น feet, man เป็น men

จากที่เขียนมานี้ หลายๆคนก็คงสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่าคำไหนต้องใช้รูปพหูพจน์แบบไหน

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ก็ขอให้วางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับกฏการเติม s และ es หลังคำนาม มาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

ทบทวนความรู้
คำนามเอกพจน์ คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนหนึ่งหน่วย ซึ่งก็คือคำนามรูปปกติทั่วไป เช่น friend, pen, bus, foot, ox
คำนามพหูพจน์ คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนตั้งแต่สองหน่วยขึ้นไป มักจะเป็นคำนามรูปที่เติม s หรือ es ต่อท้าย เช่น friends, pens, buses แต่ก็มีบางคำที่ใช้การเปลี่ยนหรือเติมตัวอักษรอื่นแทน เช่น feet, oxen

หลักการเติม s และ es หลังคำนาม

การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ หลักๆแล้วจะแบ่งได้เป็น 5 แบบ คือ

  1. เติม s ได้เลย เช่น cat เป็น cats, girl เป็น girls
  2. เติม es ได้เลย เช่น dish เป็น dishes, potato เป็น potatoes
  3. เปลี่ยนตัวอักษรท้ายคำแล้วค่อยเติม es เช่น wolf เป็น wolves, enemy เป็น enemies
  4. เปลี่ยนหรือเพิ่มตัวอักษรบางตัวหรือเปลี่ยนทั้งคำ เช่น tooth เป็น teeth, ox เป็น oxen, person เป็น people
  5. บางคำก็ใช้รูปพหูพจน์เหมือนเอกพจน์ เช่น deer, sheep

ซึ่งถ้าเจาะรายละเอียด จะแบ่งได้เป็นหลักการ 10 ข้อดังนี้

1. คำนามทั่วไปเติม s ต่อท้ายได้เลย

คำนามที่ไม่เข้าข่ายหลักการข้ออื่น เราสามารถเติม s ต่อท้ายตรงๆได้เลย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAntAntsมดBookBooksหนังสือGirlGirlsเด็กผู้หญิงHouseHousesบ้านTableTablesโต๊ะ, ตารางTreeTreesต้นไม้

2. คำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x หรือ z ให้เติม es ต่อท้าย

คำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x หรือ z เราจะต้องเติม es ต่อท้ายแทน s ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBusBusesรถโดยสารประจำทางLensLensesเลนส์ClassClassesชั้นเรียน, คาบเรียนDressDressesชุดเดรสBrushBrushesแปรงDishDishesจานBeachBeachesชายหาดWatchWatchesนาฬิกาBoxBoxesกล่องFoxFoxesสุนัขจิ้งจอกBlitzBlitzesการโจมตีแบบสายฟ้าแลบBuzzBuzzesความรู้สึกตื่นเต้น, เสียงหึ่ง เช่น เสียงผึ้ง

3. คำนามบางคำที่ลงท้ายด้วย s หรือ z ต้องซ้ำ s หรือ z แล้วค่อยเติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย s หรือ z ปกติแล้วจะเติม es ได้เลย แต่ก็มีบางคำที่เราจะต้องซ้ำ s หรือ z ก่อน แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายGasGassesแก๊สQuizQuizzesแบบทดสอบWhizWhizzesผู้มากความสามารถในบางด้าน

4. คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วค่อยเติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เราจะเปลี่ยน f หรือ fe เป็น v ก่อน แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายLeafLeavesใบไม้ShelfShelvesชั้นวางของWolfWolvesหมาป่าKnifeKnivesมีดLifeLivesชีวิตWifeWivesภรรยา

แต่บางคำที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ก็จะเติม s โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน f หรือ fe เป็น v

คำพวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่หน้า f เป็นสระ 2 ตัวติดกัน (a, e, i, o, u) แต่บางคำก็ไม่ใช่ อย่างเช่น chef, safe

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBeliefBeliefsความเชื่อChefChefsเชฟทำอาหารProofProofsหลักฐานReefReefsแนวหินโสโครกใต้ทะเลRoofRoofsหลังคาSafeSafesตู้เซฟ

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es ยกเว้นถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ได้เลย

คำนามที่ลงท้ายด้วย y เราจะเปลี่ยน y เป็น i แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBabyBabiesเด็กทารกCityCitiesเมืองขนาดใหญ่EnemyEnemiesศัตรูFlyFliesแมลงวันLibraryLibrariesห้องสมุดPuppyPuppiesลูกสุนัข

แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) เราจะเติม s ได้เลย

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBoyBoysเด็กผู้ชายDayDaysวันMonkeyMonkeysลิงToyToysของเล่นTrayTraysถาดWayWaysหนทาง, วิธี

6. คำนามที่ลงท้ายด้วย o ให้เติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย o เราจะเติม es ต่อท้าย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายDominoDominoesโดมิโน่EchoEchoesเสียงสะท้อนHeroHeroesฮีโร่MosquitoMosquitoesยุงPotatoPotatoesมันฝรั่งTomatoTomatoesมะเขือเทศ

แต่ก็มีบางคำที่ใช้การเติม s แทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำที่หน้า o เป็นสระ (a, e, i, o, u) แต่บางคำก็ไม่ใช่ อย่างเช่น piano

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAudioAudiosเสียงBambooBamboosต้นไผ่, ไม้ไผ่PianoPianosเปียโนStudioStudiosสตูดิโอVideoVideosวิดีโอZooZoosสวนสัตว์

นอกจากนี้ ยังมีบางคำที่สามารถเติมได้ทั้ง s และ es คือใช้ได้ทั้ง 2 แบบเลย อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBuffalo*Buffalos
BuffaloesควายCargoCargos
Cargoesสินค้าที่บรรทุกโดยยานพาหนะขนาดใหญ่ เช่น เรือ เครื่องบินMangoMangos
Mangoesมะม่วงMottoMottos
Mottoesคติพจน์TornadoTornados
Tornadoesพายุทอร์นาโดVolcanoVolcanos
Volcanoesภูเขาไฟ

*คำว่า buffalo สามารถใช้รูปพหูพจน์ได้หลายแบบ ทั้ง buffalos (แบบเติม s), buffaloes (แบบเติม es) และ buffalo (เหมือนรูปเอกพจน์)

7. คำนามที่มาจากภาษาอื่น บางคำจะมีรูปพหูพจน์เฉพาะ

คำนามที่มาจากภาษากรีกที่ลงท้ายด้วย sis เมื่อเป็นรูปพหูพจน์ เราจะเปลี่ยนให้เป็น ses ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAnalysisAnalysesการวิเคราะห์, ผลวิเคราะห์BasisBasesหลักสำคัญ, ส่วนประกอบหลักCrisisCrisesช่วงวิกฤติNeurosisNeurosesโรคประสาทOasisOasesโอเอซิส, แหล่งน้ำกลางทะเลทรายThesisThesesวิทยานิพนธ์

คำนามที่มาจากภาษาลาตินที่ลงท้ายด้วย us เราจะเปลี่ยนให้เป็น i ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAlumnusAlumniศิษย์เก่าCactusCacti (หรือ cactuses)ต้นกระบองเพชรFungusFungiเห็ด, เชื้อรา

แต่คำที่มาจากภาษาอื่นบางคำก็ใช้รูปพหูพจน์ได้หลายแบบ อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAppendixAppendices
AppendixesภาคผนวกCactusCacti
Cactusesต้นกระบองเพชรCurriculumCurricula
CurriculumsหลักสูตรFormulaFormulae
Formulasสูตร เช่น สูตรคณิตฯStadiumStadia
Stadiumsสนามกีฬาขนาดใหญ่ThesaurusThesauri
Thesaurusesพจนานุกรมคำพ้อง

นอกจากตัวอย่างเหล่านี้แล้ว ยังมีคำต่างประเทศลักษณะอื่นอีก ที่มีรูปพหูพจน์เฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่พบเจอได้ไม่บ่อย หรือไม่ก็เป็นคำที่มักจะใช้รูปพหูพจน์เป็นปกติอยู่แล้ว (เช่น data, criteria ซึ่งเป็นรูปพหูพจน์ของ datum และ criterion ตามลำดับ)

8. คำนามบางคำใช้การเปลี่ยนหรือเติมตัวอักษรบางตัว โดยที่ไม่ต้องเติม s หรือ es

คำนามบางคำจะใช้การเปลี่ยนตัวอักษรที่เป็นสระ (a, e, i, o, u) เช่น เปลี่ยนจาก o เป็น e หรือเปลี่ยนจาก a เป็น e ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายFiremanFiremenพนักงานดับเพลิงFootFeetเท้าGooseGeeseห่านManMenผู้ชายToothTeethฟันWomanWomenผู้หญิง

และบางคำก็ใช้การเติมตัวอักษรอื่นที่ไม่ใช่ s หรือ es อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายChildChildrenเด็กOxOxenวัว

9. คำนามบางคำจะเปลี่ยนแทบทั้งคำ โดยที่ไม่ได้เติม s หรือ es

คำนามบางคำจะมีรูปพหูพจน์ที่แตกต่างจากเดิมมาก เหมือนเป็นคนละคำกันเลย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายMouseMiceหนูPersonPeopleคน

10. คำนามบางคำมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน

คำนามบางคำจะมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAircraftAircraftอากาศยานDeerDeerกวางDiceDiceลูกเต๋าFish*FishปลาSheepSheepแกะSpeciesSpeciesสายพันธุ์

*คำว่า fish จริงๆแล้วมีรูปพหูพจน์ 2 แบบ คือ fish และ fishes แต่ในกรณีทั่วไป เช่นการบอกว่ามีปลาหลายตัว เราจะนิยมใช้ fish มากกว่า ส่วน fishes นั้นมักจะใช้เมื่อพูดถึงปลาหลายๆสายพันธุ์

เป็นยังไงบ้างครับกับกฏการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถเปลี่ยนพจน์ของคำนามได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[Update] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | คำนาม – NATAVIGUIDES

noun2-opt

PART 2 คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

บทความนี้เราจะมาพูดถึงคำนามกลุ่มที่ 2 คือ  คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นั่นเอง

คำนามนับได้ (Countable Noun)

คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ

เช่น   ดินสอ 5 แท่ง     —— 5 pencils

หนังสือ  8  เล่ม   ——  8 books

บ้าน 1 หลัง        ——- a house

จะเห็นได้ว่าคำนามข้างต้นพวก ดินสอ หนังสือ บ้าน นี้ เป็นคำนามนับได้ค่ะ เพราะเราสามารถระบุจำนวนของสิ่งนั้นๆได้ว่ามีเท่าไหร่

ซี่งคำนามนับได้ (Countable Noun) จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ คำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์ ที่เราได้อธิบายไปแล้วใน part 1 นั่นเอง สามารถคลิ๊กและกลับไปอ่านดูได้เลยค่ะ

คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

คือ คำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ อาทิ ของเหลวต่างๆ  เช่น นม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม  ฟางหญ้า เป็นต้น  จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด ก็กระไรอยู่จริงมั้ยล่ะคะ ฝรั่งเลยกำหนดคำพวกนี้เป็นคำนามนับไม่ได้

ลองมาดูกันว่ามีคำนามใดบ้างที่ไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษ

UNcount1

Uncount2

 ข้อมูลจาก http://www.engvid.com/english-resource/countable-and-uncountable-nouns/

ซึ่งคำนามนับไม่ได้เหล่านี้ จะไม่สามารถเปลี่ยนรูปไปเป็นพหูพจน์ได้ค่ะ แบบ Milk เติม s ด้านท้าย กลายเป็น Milks นี่ไม่มีน้า ห้ามใช้เด็ดขาด ! แล้วที่นี้เวลาต้องการขอนมหลายแก้วต้องพูดว่าไงล่ะ?

โดยปกติแล้ว เวลาที่เราจะทำให้คำนามนับไม่ได้อยู่ในรูปพหพจน์ เพื่อบอกปริมาณที่เพิ่มขึ้น เราจะต้องหากลุ่มคำบอกปริมาณมาเติมด้านหน้า

ยกตัวอย่าง

A glass of milk    นม 1 แก้ว

A bar of soap       สบู่ 1 ก้อน

A bowl of soup     ซุป 1 ถ้วย

ถ้าเยอะกว่า 1 เราจะต้องเติม -s หรือ -es เข้าไปด้วย เพื่อทำให้อยู่ในรูปพหูพจน์ เช่น

5 glasses of milk    นม 5 แก้ว

11 bars of soap       สบู่ 11 ก้อน

2   bowls of soup     ซุป 2 ถ้วย

มาดูกันว่ามีกลุ่มคำใดบ้างที่เราสามารถใช้นำหน้าคำนามเพื่อบอกปริมาณ

countnoun-opt

นอกจากนี้แล้วเราสามารถใช้ Article หรือ Quantifiers ในการบอกปริมาณคำนามได้ด้วยค่ะ  เวลาที่เราต้องการบอกว่าของสิ่งนั้นมีมาก หรือ น้อย คำด้านล่างนี้ในการบอกปริมาณได้ค่ะ

Q1

a, many, few และ a few นั้น จะใช้กับคำนามนับได้เท่านั้นค่ะ เช่น

a ใช้กับคำนามนับได้ที่มีสิ่งเดียว อันเดียว หรือที่เดียว เช่น

a doctor        คุณหมอ

a pen            ปากกา

a meal          มื้ออาหาร

a class          ห้องเรียน

a college       โรงเรียน

many  แปลว่า เยอะ มาก หลาย ใช้เพื่อบอกปริมาณว่ามีหลายอย่าง เช่น

many cups              แก้วหลายใบ

many books            หนังสือหลายเล่ม

many libraries         ห้องสมุดหลายแห่ง

many flights            เที่ยวบินหลายไฟลท์

few และ a few แปลว่า เล็กน้อย นิดหน่อย ใช้เพื่อบอกปริมาณว่ามีไม่มาก เช่น

I got a few questions          ผมมีคำถามนิดหน่อย

He need few tables             เขาต้องการโต๊ะสัก 2-3 ตัว

She bought few apples       เธอซื้อแอปเปิ้ลมาไม่กี่ลูก

Chris had a few problems  คริสมีปัญหาเล็กน้อย

 

Q2

much, little and a little bit of  จะใช้ได้แค่กับคำนามนับไม่ได้เท่านั้นค่ะ เช่น

much แปลว่า มาก ใช้นำหน้านามนับไม่ได้ เช่น

much money

much time

much food

much water

much energy

little และ a little bit of แปลว่า น้อย ใช้นำหน้านามนับไม่ได้ เช่น

little trouble

little equipment

little meat

little patience

a little bit of confidence

a little bit of sleep

a little bit of snow

พอเข้าใจเรื่องคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) แล้วใช่มั้ยคะ? ลองมาฝึกทำแบบฝึกหัด และฝึกออกเสียงได้เลย (กำลังอัพเดท)

ทำแบบฝึกหัดคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คลิ๊ก (กำลังอัพเดท)

PART 1  คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) คลิ๊ก

PART 3  คำนามทั่วไป (Common Noun)  แบะคำนามเฉพาะ (Proper Noun)  คลิ๊ก

PART 4  คำนามที่ใช้บอกอาการ (Abstract Noun) คลิ๊ก


ติว TOEIC : วิธีสังเกตคำนาม (Noun) แบบง่ายๆ


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 ติว TOEIC กับครูดิวเลย (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ติว TOEIC : วิธีสังเกตคำนาม (Noun) แบบง่ายๆ

04 คำนาม (สามานยนาม)


04 คำนาม (สามานยนาม)

เรียนภาษาเยอรมัน | คำนามภาษาเยอรมันคำนาม-Namenwörter


เรียนภาษาเยอรมัน | คำนามภาษาเยอรมันคำนาม-Namenwörter

วิชาภาษาไทย ชั้น ป.6 เรื่อง คำนาม


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาไทย ชั้น ป.6 เรื่อง คำนาม

NHẠC SÓNG DELTA GIÚP NGỦ SÂU VÀ PHỤC HỒI CƠ THỂ


Tạo một giấc ngủ ngon, làm chậm quá trình lão hóa, tăng sự đồng cảm và quan tâm

NHẠC SÓNG DELTA   GIÚP NGỦ SÂU VÀ PHỤC HỒI CƠ THỂ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คำนาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *