Skip to content
Home » [NEW] หลักการเติม s และ es หลังคำนาม พร้อมตัวอย่าง | คำ ศัพท์ คำ นาม – NATAVIGUIDES

[NEW] หลักการเติม s และ es หลังคำนาม พร้อมตัวอย่าง | คำ ศัพท์ คำ นาม – NATAVIGUIDES

คำ ศัพท์ คำ นาม: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ในภาษาอังกฤษ การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ เรามักจะเติม s หรือ es ต่อท้าย อย่างเช่น boy เป็น boys, cat เป็น cats, dish เป็น dishes

แต่ก็มีบางคำที่ต้องเปลี่ยนตัวอักษรก่อนแล้วค่อยเติม es อย่างเช่น candy เป็น candies, fly เป็น flies หรือบางคำก็เปลี่ยนตัวอักษรอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องเติม s หรือ es อย่างเช่น foot เป็น feet, man เป็น men

จากที่เขียนมานี้ หลายๆคนก็คงสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่าคำไหนต้องใช้รูปพหูพจน์แบบไหน

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ก็ขอให้วางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับกฏการเติม s และ es หลังคำนาม มาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

ทบทวนความรู้
คำนามเอกพจน์ คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนหนึ่งหน่วย ซึ่งก็คือคำนามรูปปกติทั่วไป เช่น friend, pen, bus, foot, ox
คำนามพหูพจน์ คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนตั้งแต่สองหน่วยขึ้นไป มักจะเป็นคำนามรูปที่เติม s หรือ es ต่อท้าย เช่น friends, pens, buses แต่ก็มีบางคำที่ใช้การเปลี่ยนหรือเติมตัวอักษรอื่นแทน เช่น feet, oxen

หลักการเติม s และ es หลังคำนาม

การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ หลักๆแล้วจะแบ่งได้เป็น 5 แบบ คือ

  1. เติม s ได้เลย เช่น cat เป็น cats, girl เป็น girls
  2. เติม es ได้เลย เช่น dish เป็น dishes, potato เป็น potatoes
  3. เปลี่ยนตัวอักษรท้ายคำแล้วค่อยเติม es เช่น wolf เป็น wolves, enemy เป็น enemies
  4. เปลี่ยนหรือเพิ่มตัวอักษรบางตัวหรือเปลี่ยนทั้งคำ เช่น tooth เป็น teeth, ox เป็น oxen, person เป็น people
  5. บางคำก็ใช้รูปพหูพจน์เหมือนเอกพจน์ เช่น deer, sheep

ซึ่งถ้าเจาะรายละเอียด จะแบ่งได้เป็นหลักการ 10 ข้อดังนี้

1. คำนามทั่วไปเติม s ต่อท้ายได้เลย

คำนามที่ไม่เข้าข่ายหลักการข้ออื่น เราสามารถเติม s ต่อท้ายตรงๆได้เลย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAntAntsมดBookBooksหนังสือGirlGirlsเด็กผู้หญิงHouseHousesบ้านTableTablesโต๊ะ, ตารางTreeTreesต้นไม้

2. คำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x หรือ z ให้เติม es ต่อท้าย

คำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x หรือ z เราจะต้องเติม es ต่อท้ายแทน s ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBusBusesรถโดยสารประจำทางLensLensesเลนส์ClassClassesชั้นเรียน, คาบเรียนDressDressesชุดเดรสBrushBrushesแปรงDishDishesจานBeachBeachesชายหาดWatchWatchesนาฬิกาBoxBoxesกล่องFoxFoxesสุนัขจิ้งจอกBlitzBlitzesการโจมตีแบบสายฟ้าแลบBuzzBuzzesความรู้สึกตื่นเต้น, เสียงหึ่ง เช่น เสียงผึ้ง

3. คำนามบางคำที่ลงท้ายด้วย s หรือ z ต้องซ้ำ s หรือ z แล้วค่อยเติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย s หรือ z ปกติแล้วจะเติม es ได้เลย แต่ก็มีบางคำที่เราจะต้องซ้ำ s หรือ z ก่อน แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายGasGassesแก๊สQuizQuizzesแบบทดสอบWhizWhizzesผู้มากความสามารถในบางด้าน

4. คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วค่อยเติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เราจะเปลี่ยน f หรือ fe เป็น v ก่อน แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายLeafLeavesใบไม้ShelfShelvesชั้นวางของWolfWolvesหมาป่าKnifeKnivesมีดLifeLivesชีวิตWifeWivesภรรยา

แต่บางคำที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ก็จะเติม s โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน f หรือ fe เป็น v

คำพวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่หน้า f เป็นสระ 2 ตัวติดกัน (a, e, i, o, u) แต่บางคำก็ไม่ใช่ อย่างเช่น chef, safe

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBeliefBeliefsความเชื่อChefChefsเชฟทำอาหารProofProofsหลักฐานReefReefsแนวหินโสโครกใต้ทะเลRoofRoofsหลังคาSafeSafesตู้เซฟ

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es ยกเว้นถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ได้เลย

คำนามที่ลงท้ายด้วย y เราจะเปลี่ยน y เป็น i แล้วค่อยเติม es ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBabyBabiesเด็กทารกCityCitiesเมืองขนาดใหญ่EnemyEnemiesศัตรูFlyFliesแมลงวันLibraryLibrariesห้องสมุดPuppyPuppiesลูกสุนัข

แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) เราจะเติม s ได้เลย

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBoyBoysเด็กผู้ชายDayDaysวันMonkeyMonkeysลิงToyToysของเล่นTrayTraysถาดWayWaysหนทาง, วิธี

6. คำนามที่ลงท้ายด้วย o ให้เติม es

คำนามที่ลงท้ายด้วย o เราจะเติม es ต่อท้าย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายDominoDominoesโดมิโน่EchoEchoesเสียงสะท้อนHeroHeroesฮีโร่MosquitoMosquitoesยุงPotatoPotatoesมันฝรั่งTomatoTomatoesมะเขือเทศ

แต่ก็มีบางคำที่ใช้การเติม s แทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำที่หน้า o เป็นสระ (a, e, i, o, u) แต่บางคำก็ไม่ใช่ อย่างเช่น piano

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAudioAudiosเสียงBambooBamboosต้นไผ่, ไม้ไผ่PianoPianosเปียโนStudioStudiosสตูดิโอVideoVideosวิดีโอZooZoosสวนสัตว์

นอกจากนี้ ยังมีบางคำที่สามารถเติมได้ทั้ง s และ es คือใช้ได้ทั้ง 2 แบบเลย อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายBuffalo*Buffalos
BuffaloesควายCargoCargos
Cargoesสินค้าที่บรรทุกโดยยานพาหนะขนาดใหญ่ เช่น เรือ เครื่องบินMangoMangos
Mangoesมะม่วงMottoMottos
Mottoesคติพจน์TornadoTornados
Tornadoesพายุทอร์นาโดVolcanoVolcanos
Volcanoesภูเขาไฟ

*คำว่า buffalo สามารถใช้รูปพหูพจน์ได้หลายแบบ ทั้ง buffalos (แบบเติม s), buffaloes (แบบเติม es) และ buffalo (เหมือนรูปเอกพจน์)

7. คำนามที่มาจากภาษาอื่น บางคำจะมีรูปพหูพจน์เฉพาะ

คำนามที่มาจากภาษากรีกที่ลงท้ายด้วย sis เมื่อเป็นรูปพหูพจน์ เราจะเปลี่ยนให้เป็น ses ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAnalysisAnalysesการวิเคราะห์, ผลวิเคราะห์BasisBasesหลักสำคัญ, ส่วนประกอบหลักCrisisCrisesช่วงวิกฤติNeurosisNeurosesโรคประสาทOasisOasesโอเอซิส, แหล่งน้ำกลางทะเลทรายThesisThesesวิทยานิพนธ์

คำนามที่มาจากภาษาลาตินที่ลงท้ายด้วย us เราจะเปลี่ยนให้เป็น i ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAlumnusAlumniศิษย์เก่าCactusCacti (หรือ cactuses)ต้นกระบองเพชรFungusFungiเห็ด, เชื้อรา

แต่คำที่มาจากภาษาอื่นบางคำก็ใช้รูปพหูพจน์ได้หลายแบบ อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAppendixAppendices
AppendixesภาคผนวกCactusCacti
Cactusesต้นกระบองเพชรCurriculumCurricula
CurriculumsหลักสูตรFormulaFormulae
Formulasสูตร เช่น สูตรคณิตฯStadiumStadia
Stadiumsสนามกีฬาขนาดใหญ่ThesaurusThesauri
Thesaurusesพจนานุกรมคำพ้อง

นอกจากตัวอย่างเหล่านี้แล้ว ยังมีคำต่างประเทศลักษณะอื่นอีก ที่มีรูปพหูพจน์เฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่พบเจอได้ไม่บ่อย หรือไม่ก็เป็นคำที่มักจะใช้รูปพหูพจน์เป็นปกติอยู่แล้ว (เช่น data, criteria ซึ่งเป็นรูปพหูพจน์ของ datum และ criterion ตามลำดับ)

8. คำนามบางคำใช้การเปลี่ยนหรือเติมตัวอักษรบางตัว โดยที่ไม่ต้องเติม s หรือ es

คำนามบางคำจะใช้การเปลี่ยนตัวอักษรที่เป็นสระ (a, e, i, o, u) เช่น เปลี่ยนจาก o เป็น e หรือเปลี่ยนจาก a เป็น e ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายFiremanFiremenพนักงานดับเพลิงFootFeetเท้าGooseGeeseห่านManMenผู้ชายToothTeethฟันWomanWomenผู้หญิง

และบางคำก็ใช้การเติมตัวอักษรอื่นที่ไม่ใช่ s หรือ es อย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายChildChildrenเด็กOxOxenวัว

9. คำนามบางคำจะเปลี่ยนแทบทั้งคำ โดยที่ไม่ได้เติม s หรือ es

คำนามบางคำจะมีรูปพหูพจน์ที่แตกต่างจากเดิมมาก เหมือนเป็นคนละคำกันเลย ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายMouseMiceหนูPersonPeopleคน

10. คำนามบางคำมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน

คำนามบางคำจะมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น

เอกพจน์พหูพจน์ความหมายAircraftAircraftอากาศยานDeerDeerกวางDiceDiceลูกเต๋าFish*FishปลาSheepSheepแกะSpeciesSpeciesสายพันธุ์

*คำว่า fish จริงๆแล้วมีรูปพหูพจน์ 2 แบบ คือ fish และ fishes แต่ในกรณีทั่วไป เช่นการบอกว่ามีปลาหลายตัว เราจะนิยมใช้ fish มากกว่า ส่วน fishes นั้นมักจะใช้เมื่อพูดถึงปลาหลายๆสายพันธุ์

เป็นยังไงบ้างครับกับกฏการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถเปลี่ยนพจน์ของคำนามได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[Update] Adjectives (คำคุณศัพท์) กับ ชนิดของคุณศัพท์ | คำ ศัพท์ คำ นาม – NATAVIGUIDES

โดยทั่วไปแบ่งออกได้

8

ชนิดคือ


1. Proper adjective


5. Demonstrative adjective


2. Descriptive adjective


6. Distributive adjective


3. Quantitative adjective


7. Possessive adjective


4. Numeral adjective


8. Interrogative adjective

1. Proper adjective (

คุณศัพท์แสดงสัญชาติ
)

เป็นคำคุณศัพท์ที่ขยายนามเพื่อบอกสัญชาติ
มีรูปเปลี่ยนแปลงมาจาก

Proper noun

และต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่เสมอ
เช่น


Proper noun


Proper Adjective

China =

ประเทศจีน

Chinese =

แห่งประเทศจีน

,

ชาวจีน

France =

ประเทศฝรั่งเศส

French =

แห่งประเทศฝรั่งเศส

,

ชาวฝรั่งเศส

Italy =

ประเทศอิตาลี

Italian =

แห่งประเทศอิตาลี

,

ชาวอิตาลี

เช่นประโยค

We learn the

French


literature every Monday.

เราเรียนวรรณคดีฝรั่งเศสทุกวันจันทร์

I like

Chinese

food.

ฉันชอบอาหารจีน


Proper adjective

จะมีวิธีการเขียนไม่เหมือนกันดังนี้


1.1 Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย –

ese

เช่น


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Burma


Burmese


Lebanon


Lebanese


Bhutan


Bhutanese


Nepal


Nepalese


China


Chinese


Portugal


Portuguese


Congo


Congolese


Taiwan


Taiwanese


Japan


Japanese


Vietnam


Vietnamese


1.2 Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย

-an


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Algeria


Algerian


Libya


Libyan


Angola


Angolan


Malaysia


Malaysian


Argentina

Argentinean

หรือ

Argentinian


Mexico


Mexican


Australia


Australian


Morocco


Moroccan


Belgium


Belgian


Mozambique


Mozambican


Brazil


Brazilian


Nicaragua


Nicaraguan


Canada


Canadian


Niger


Nigerian


Cuba


Cuban


Norway


Norwegian


Egypt


Egyptian


Panama


Panamanian


Fiji


Fijian


Paraguay


Paraguayan


Germany


German


Peru


Peruvian


Ghana


Ghanaian


Rhodesia


Rhodesian


Haiti


Haitian


Romania


Romanian


Honduras


Honduran


Russia


Russian


Indonesia


Indonesian


Singapore


Singaporean


Iran


Iranian


Syria


Syrian


Italy


Italian


Tahiti


Tahitian


Jordan


Jordanian


Tibet


Tibetan


Laos


Laotian


Zaire


Zairean,Zairian


1.3

คำ

Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย

– i


Proper noun


proper adjective


proper noun


proper adjective


Bahrain


Bahraini


Oman


Omani


Iraq


Iraqi


Pakistan


Pakistani


Israel


Israeli


Yemen


Yemeni


Kuwait


Kuwaiti


1.4

คำพิเศษ


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Thailand


Thai


Malaya


Malay


Greece


Greek


Sri Lanka


Ceylonese


Afghanistan


Afghan


1.5

ประเทศซึ่งคำคุณศัพท์

กับคำที่เรียกคนของประเทศนั้นไม่เหมือนกัน


Proper Noun


Proper adjective


person


Botswana

Setswana (

ภาษา)

Motswana (

เอกพจน์

)

Batswana(

พหูพจน์

)


Cyprus


Cyprian


Cypriot


Czechoslovakia


Czech


Czechoslovakian


Denmark


Danish


Dane


Finland


Finnish


Finn


Holland ( The Netherlands)


Dutch


Hollander


Iceland


Icelandic


Icelander


Ireland


Irish


Irishman


Luxemburg


Luxemburg


Luxemburger


Mongolia


Mongolian


Mongol


New Zealand


New Zealand


New Zealander


The Philippines


Philippine

Filipina (

หญิง

)

Filipino (

ชาย

)


Poland


Polish


Pole


Somalia


Somalian


Somali


Spain


Spanish


Spaniard


Sweden


Swedish


Swede


Turkey


Turkish


Turk


Yugoslavia


Yugoslavian


Yugoslav


2. Descriptive Adjective (

คุณศัพท์แสดงคุณสมบัติ

)

เป็นคำคุณศัพท์บอกลักษณะ
คือจะไปขยายนามเพื่อบอกให้รู้ว่า

นามนั้นมีลักษณะ คุณสมบัติ
หรือความพิเศษอย่างไร เป็นชนิดที่ใช้มากที่สุด เช่น


large


fat


big


huge


heavy


light


thin


small


cheap


expensive


brave


coward


white


dark


tall


handsome

ตัวอย่าง
เช่น

a dark, tall and handsome man, an expensive car


3. Quantitative Adjective (

คุณศัพท์แสดงปริมาณที่นับไม่ได้
)

เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ
คือไปขยายนามที่นับไม่ได้ (

uncountable
noun )

เพื่อบอกให้ทราบปริมาณของสิ่งนั้น
ว่ามีมากหรือน้อย แต่ไม่บอก จำนวนแน่นอน

เช่น


much


any


half


enough


little


all


whole


some


great


sufficient

ตัวอย่างเช่น

We needed

some


money.

เราต้องการเงินจำนวนหนึ่ง

He showed

great

patience.

เขาแสดงให้เห็นว่ามีความอดทนสูง


4. Numeral Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ที่บอกจำนวนมากน้อยของนามที่นับได้
(

countable noun )

หรือบอกลำดับก่อนหลัง
(

order )

ของคำนาม แบ่งเป็น

2

พวก

1.

บอกจำนวนที่แน่นอน

(

Definite
Numeral )

อาจจะแบ่งออกได้เป็น

3

ชนิด

(1)

บอกจำนวนนับ

(

Cardinal) one, two, three, four ………..

(2)

บอกลำดับที่

(

Ordinal ) first, second, third…………….

(3)

บอกจำนวนเท่า

(

Multiplicative ) single, double, triple……………

2.

บอกจำนวนที่ไม่แน่นอน

(

Indefinite
Numeral )

เช่น

many

no

few

some

several

any

all

enough


5. Demonstrative Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ชี้เฉพาะคำนาม

ซึ่งระบุเจาะจงไปโดยชัดแจ้งว่าเป็นคำนามอันไหน
สิ่งไหน หรือคนใด แบ่งเป็น

2

ชนิด

1. Definite Demonstrative

ชี้เฉพาะโดยชัดแจ้ง

ได้แก่

the

this

these

that

those

such

the same

the other

2. Indefinite Demonstrative

ชี้ให้เห็นอย่างกว้าง

ได้แก่

a

one

such

any other

an

a certain

some

other

any

certain

another


6. Distributive Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ซึ่งไปขยายคำนามเพื่อแยกคำนามนั้นๆออกจากกัน
เช่น

each

แต่ละ ใช้สำหรับ

2

สิ่งหรือมากกว่าขึ้นไป

every

ทุกๆ ใช้เฉพาะนามที่มากกว่า

2

สิ่งขึ้นไป

either

อันใดอันหนึ่งใน

2

สิ่ง

neither

ไม่ใช่ทั้ง

2

สิ่ง


7. Possessive Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ประกอบหน้านามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
เช่น

my , your, his , her, its, their our


8. Interrogative Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนามเพื่อแสดงคำถาม
เช่น

what which whose


หมายเหตุ

คำคุณศัพท์เหล่านี้จะต้องมีคำนามตามหลังเพราะหากไม่มีคำนามตามหลัง

จะกลายเป็นสรรพนาม (

pronoun )

ไม่ใช่คุณศัพท์ เช่น


Pronoun


Adjective


What

did you see ?


What

book did you read?

Adjectives

Formation (

การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )

คำคุณศัพท์นอกจากเป็นด้วยตัวของมันเองแล้ว

ยังสามารถนำชนิดของคำอื่นมาทำให้เป็นคำคุณศัพท์ได้ด้วย
เช่น

1.

คำคุณศัพท์ที่มาจากคำนามโดยการเติม

Suffix

ท้ายคำเช่น

คำนาม


คำคุณศัพท์


education

การศึกษา


educational

เกี่ยวกับการศึกษา


gold

ทอง


golden

ทำด้วยทอง


fool

ความโง่


foolish

อย่างโง่ๆ


care

ระมัดระวัง


careless

ไม่ระมัดระวัง


friend

เพื่อน


friendly

เป็นเพื่อน


danger

อันตราย


dangerous

เป็นอันตราย


trouble

ยุ่งยาก


troublesome

ความยุ่งยาก


dust

ฝุ่น


dusty

เต็มไปด้วยฝุ่น

2.

คำคุณศัพท์ที่มาจากคำกริยา

(

Verb)

โดยการเติม

suffix

ท้ายคำ

เช่น

คำกริยา


คำคุณศัพท์


talk

พูด


talkative

ช่างพูด


sleep

หลับ


sleepy

ง่วงนอน


differ

แตกต่าง


different

ความแตกต่าง


accept

ยอมรับ


acceptable

เป็นที่ยอมรับได้


wash

ซัก


washable

ซักได้


111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

mini vlog | แกะพัสดุ เรียนภาษาอังกฤษ #GrammarGO แนะนำหนังสือ Grammar GO! | K.Kwon


สำหรับใครที่สนใจหนังสือ Grammar GO! สามารถสั่งซื้อได้ที่
👉🏻 Facebook Page KruDew English https://bit.ly/3i7K263
สามารถแจ้งโค้ดส่วนลดกับแอดมินเพจได้เลยครับ
👉🏻 Shopee ร้าน OpenDurian https://bit.ly/3kobihV
สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ตรงส่วนลดร้านค้านะครับ
เรียนภาษาอังกฤษ GrammarGO
📍Instagram
@sungjun02_
https://instagram.com/sungjun02_?igshid=1hdpbnr9rzw19
| FOR WORK
Email : [email protected]

| CAMERA
iPhone 13
Samsung galaxy S10+

| EQUIPMENT
iPad 7th Generation 128gb
MacBook Pro M1
| EDIT
VLLO ( Mac M1 )
Picsart/Studio/VSCO
| MUSIC

| FAQ
Age 19
Country Thailand
Study Chinese language and Culture 2nd year student
University Mae Fah Luang University

Thank you for watching 🙏🏻💕
| 2021 made by K.Kwon

mini vlog | แกะพัสดุ เรียนภาษาอังกฤษ #GrammarGO แนะนำหนังสือ Grammar GO! | K.Kwon

การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE


การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
ในวีดีโอนี้เราจะมาดูการผันคำนามจากรูปเอกพจน์เป็นพหูพจน์กัน ไม่ว่าจะเป็น การ เติม s หรือ es รวมไปถึงคำนามที่คงรูป และ เปลี่ยนรูป แบบในคลิปเดียวรู้ละเอียดเลย
คำนามคืออะไร กดลิงก์นี้ได้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=exx4VjSn6W0
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

การผันคำนามเอกพจน์ พหูพจน์  เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE

คำศัพท์ | คำกริยาภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน EP.1


ฝึกพูด ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี!
คำศัพท์ | รวมคำกริยา ฟังบ่อย | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuKZYgki4\u0026t=5s
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv47gnc8
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r51ZLFA\u0026t=10s
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1QS7O6s
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5sPRefdA\u0026t=82s
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot65xu6k
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK2AAi9Q\u0026t=3s
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKYd2YFzg\u0026t=2s

คำศัพท์ | คำกริยาภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยค ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน EP.1

N๕๕: ศัพท์ 500 คำที่จำเป็น+วิธีนำไปใช้ | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง


อ่านบทความเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ (ฟรี) \u0026 ดูรายละเอียดคอร์สเรียน Eng ได้ที่
www.NakedEnglish.net หัวข้อ: บทความที่น่าสนใจ
ติดตามเราได้ที่ Facebook.com/EnglishWithPiboon
เราเน้นเรียน+สอนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ให้สนทนาและเข้าใจหลักการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
[จัดทำและสอนโดย อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง] Piboon Jangsawang

N๕๕: ศัพท์ 500 คำที่จำเป็น+วิธีนำไปใช้ | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คำ ศัพท์ คำ นาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *