Skip to content
Home » [NEW] สรุป ! โครงสร้าง Present simple tense พร้อมตัวอย่าง | past simple tense โครงสร้าง – NATAVIGUIDES

[NEW] สรุป ! โครงสร้าง Present simple tense พร้อมตัวอย่าง | past simple tense โครงสร้าง – NATAVIGUIDES

past simple tense โครงสร้าง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

โครงสร้าง Present simple tense

ในเนื้อหาบทนี้เราจพูดถึง โครงสร้าง Present simple tense โดยมีโครงสร้างที่เราควรรู้ได้แก่

บอกเล่า

S + V.1

S + is/am/are

S + Aux.* + V.inf **

 
They play.
They are fun.
They can play.

ปฏิเสธ

S + do/does + not + V.inf

S + is/am/are + not

S + Aux. + not + V.inf

 
They do not play.
They are not fun.
They cannot*** play.

คำถามทั่วไป

Do/Does + S + V.inf + ?

Is/Am/Are + S + V.inf + ?

Aux. + S + V.inf + ?

 
Do they play?
Are they fun?
Can they play?

Wh- Question

นำคำมาไว้ด้านหน้าคำถาม

How are they?
How can they play?

 
Where do they play?
How is it?
How can you do it?

 

* Aux. = Auxiliary Verb หรือ Helping Verb คือกริยาที่วางด้านหน้ากริยาหลักเพื่อช่วยทำให้ประโยคสมบูรณ์

** V.inf = Verb infinitive คือกริยาที่เป็น base form (รากหรือต้นฉบับของกริยา) ห้ามเติมแต่ง

ไม่เหมือนกับ V.1 เพราะกริยาช่องที่หนึ่งจะมีการเติม s/es หลังคำกริยา เมื่อประธานเป็นเอกพจน์

*** cannot ห้ามเว้นวรรคระหว่างคำ

สถานการณ์ที่ใช้ Present Simple Tense

1) ใช้กับเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง, กฎธรรมชาติ, กฎทางวิทยาศาสตร์, ข้อมูลข่าวสาร คือ ต้องเป็นจริงเสมอ 

• Light travels faster than sound.  (แสงเดินทางเร็วกว่าเสียง)

• Dinosaurs are extinct. (ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว)

• Water boils at 100 degrees Celsius. (น้ำเดือดที่หนึ่งร้อยองศาเซลเซียส)

• I am fifteen years old girl. (ฉันเป็นเด็กสาวอายุสิบห้าปี)

 

2) ใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น เทศกาลต่าง ๆ

• We celebrate Christmas on December 25. (เราเฉลิมฉลองคริสต์มาสกันวันที่ 25 ธันวาคม)

• I wash my hair every other day. (ฉันสระผมวันเว้นวัน)

• They go to London once a year. (พวกเขาไปลอนดอนปีละครั้ง)

** ให้ดู adverb of frequency ประกอบด้วย เพื่อดูความถี่ของเหตุการณ์ (เรียนเพิ่มเติมในบท adverb)

แถม! everyday VS every day แตกต่างกันยังไง?

everyday (adj.) ต้องการคำนามตามหลังเสมอ

ex. He wants to wear an everyday outfit to the ceremony.

every day (adj. + n.) ไม่ต้องมีคำนามตามหลังแล้ว

ex. He wears the same outfit every day.

 

3) ใช้กับนิสัยหรือรสนิยมความชอบส่วนตัว

• She likes cats. (เราเฉลิมฉลองคริสต์มาสกันวันที่ 25 ธันวาคม)

• I am not a morning person. (ฉันไม่ใช่คนชอบตื่นเช้า)

• We hate homework. (พวกเราเกลียดการบ้าน)

 

4) ใช้กับสุภาษิต คำพังเพย หรือคำคมต่าง ๆ

Don’t bite the hand that feeds you. (อย่ากินบนเรือนขี้รดบนหลังคา)

Don’t count your chickens before they are hatched. (สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร)

• As you sow, so you reap. (ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว)

• Actions speak louder than words. (การกระทำสำคัญกว่าคำพูด)

 

5) ใช้กับเรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ มักวางแผนไว้แล้ว ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว (มักเป็นเรื่องการเดินทาง)

• The bus leaves tonight at 8:30 pm. (รถเมล์ออกเดินทางคืนนี้สองทุ่มครึ่ง)

• The movie starts in 20 minutes. (หนังเริ่มอีกยี่สิบนาทีข้างหน้า)

• What time does the conference start tomorrow? (พรุ่งนี้การประชุมเริ่มกี่โมง)

 

การทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ และ ประโยคคำถาม

กรณีที่ 1 : เป็นคำถาม yes/no

ถ้าในประโยคมี Verb to be ( is,  am,  are หรือ was, were)

ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง verb to be ได้เลย เช่น

– I am a good cook. 🡪 I am not a good cook.

ทำให้เป็นคำถามโดยการเอา verb to be มาไว้หน้าสุด เช่น

– I am a good cook. 🡪 Am I a good cook? **อย่าลืมใส่ ? ท้ายคำถามนะคะทุกคน

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, you are. / No, you are not.

 

ถ้าในประโยคมี Verb to have (have, has, had)

ให้เอา Do กับ Does มาช่วยโดยการเอามาวางไว้หน้า verb to have (จะใช้ do หรือ does ก็ขึ้นอยู่กับประธาน)

Do + ประธานพหูพจน์

Does + ประธานเอกพจน์

** ยกเว้นในกรณีถามประสบการณ์ใน Perfect tense จะใช้

S + verb to have + never… ในปฏิเสธ

verb to have + S + ever + …? ในคำถาม

ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง do/does ได้เลย เช่น

– He has a big house. 🡪 He does not have a big house.

ทำให้เป็นคำถามโดยการเอา do/does มาไว้หน้าสุด เช่น

– He has a big house. 🡪 Does he have a big house?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, he does. / No, he doesn’t.

 

ถ้าในประโยคมี Modal verb (can, should, must)

ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง Modal verb ได้เลย เช่น

– This bird can fly. 🡪 This bird cannot fly.  **ไม่ต้องเว้นวรรคระหว่าง can กับ not

– I should go outside. 🡪 I should not go outside.

ทำให้เป็นคำถามโดยการเอา Modal verb มาไว้หน้าสุด เช่น

– This bird can fly. 🡪 Can this bird fly?

– I should go outside. 🡪 Should I go outside?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, it can. / No, it can’t.

 

ถ้าในประโยคมีกริยาอื่น ๆ นอกเหนือจากข้างบน

ให้เอา Do กับ Does มาช่วยโดยการเอามาวางไว้หน้าคำกริยา (จะใช้ do หรือ does ก็ขึ้นอยู่กับประธาน)

ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง do/does ได้เลย เช่น

– We go to school together. 🡪 We do not go to school together.

ทำให้เป็นคำถามโดยการเอา do/does มาไว้หน้าสุด เช่น

– I love you. 🡪 Do you love me?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, I do. / No, I don’t.

 

กรณีที่ 2 : เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นข้อมูลไม่ใช่ yes/no

ให้นำคำถามขึ้นต้นประโยค (Wh- question) มาไว้ด้านหน้าประโยคคำถามแบบ yes/no ได้เลย

  • What = อะไร มักใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ เวลาวันที่

    เช่น

What is your favorite animal?

What time is it?

  • Where = ที่ไหน มักใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่

    เช่น

Where do we meet?

Where are you?

  • When = เมื่อไร มักใช้ถามเกี่ยวกับวันเวลา

    เช่น

When is Christmas?

When will they sleep?

  • Why = ทำไม มักใช้ถามเกี่ยวกับเหตุผล

    เช่น

Why are you so cute?

Why did you do that?

  • Who = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคน

    เช่น

Who does he like?

Who is she?

  • Whose = ของใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ (ถามว่าเป็นของใคร)

    เช่น

Whose pen is it?

Whose are these?

  • Whom = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคนเหมือน who แต่คนที่ถูกพูดถึงจะต้องเป็นกรรม

    เช่น

Whom are you waiting for?

Whom do you serve?

  • Which = อันไหน/สิ่งไหน มักใช้ถามเวลาให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

    เช่น

Which dress do you like?

Which is nicer?

  • How = อย่างไร/เท่าไร มักใช้ถามเรื่องราคา จำนวน สุขภาพ อายุ ความถี่ วิธีการทำ

    เช่น

How much is this?

How many pets do you have?

How do you do? หรือ How are you?

How old are you?

How often do you exercise?

How do you go to work?

 

[NEW] Grammar: สรุป 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ | past simple tense โครงสร้าง – NATAVIGUIDES

Tense คือ การเปลี่ยนรูปของคำกริยา เพื่อแสดงช่วงเวลาต่าง ๆ ในประโยคภาษาอังกฤษ ใช้บอกว่าเหตุการณ์นั้นอยู่ในช่วงใด แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา คือ

Past = อดีต
Present = ปัจจุบัน
Future = อนาคต

โดยแต่ละช่วงเวลาแบ่งเป็น 4 แบบและมีโครงสร้างประโยค รวมถึงหลักการใช้ที่แตกต่างกันดังนี้

Past Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต มี 4 แบบ คือ

Past Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและจบแล้วในอดีต
โครงสร้าง : S + V2
ข้อสังเกต : yesterday, in the past, last + day/month/year, in + ช่วงเวลาในอดีต เช่น in 1989
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Simple Tense เล่าเรื่องอดีต ฉบับอ่านปุ๊บ เข้าใจปั๊บ

Past Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้าง : S + was/were + V.ing
ข้อสังเกต : at this time yesterday, at that moment, at this time in the past
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past continuous tense อดีตที่กำลังเกิดขึ้น

Past Perfect Tense

หลักการใช้ : ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีตเหตุการณ์หนึ่ง
โครงสร้าง : S + had + V3
ข้อสังเกต : by the time, before, after, when, before last week, by….o’clock yesterday และที่สำคัญ Past Perfect จะใช้คู่กับ Past Simple เสมอ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Perfect Tense เรื่องหนึ่งจบอีกเรื่องหนึ่งเกิด

Past Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
โครงสร้าง : S + had + been + V.ing
ข้อสังเกต : for, since, how long, before, after
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense เรื่องราวดำเนินมาเรื่อย ๆ ก่อนเจออีกเรื่องหนึ่ง

Present Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน มี 4 แบบ คือ

Present Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบัน, ทำเป็นประจำ, เป็นจริงทางวิทยาศาสตร์
โครงสร้าง : S + V1 (s, es)
ข้อสังเกต : always, usually, often, never, today, nowadays, every + day/month/year, normally, habitually, naturally
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Simple Tense : เรื่องจริงในชีวิตประจำวัน

Present Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + V. to be + V.ing
ข้อสังเกต : now, right now, at this moment, at the moment, at present
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> สรุปหลักการใช้ Present Continuous Tense : กำลังทำยังไม่จบ

Present Perfect Tense

หลักการใช้ : เล่าเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและดำเนินมาถึงปัจจุบัน หรือส่งผลถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + have/has + V3
ข้อสังเกต : since, for, just, yet, already, never, ever
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Perfect Tense อดีตถึงปัจจุบันยังคงอยู่

Present Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + have/has + been + V.ing
ข้อสังเกต : for an hour, for a week, for a long time, for….years, all day, all morning, since, how long
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Perfect Continuous จากอดีตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

Future Tenses ใช้เล่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มี 4 แบบ คือ

Future Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไปในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + V1
ข้อสังเกต : tomorrow, next week/month/year, soon
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Simple Tense อนาคตแสนธรรมดา

Future Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + be + V.ing
ข้อสังเกต : at…(time)…tomorrow, at this time tomorrow
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future continuous tense ส่องดูอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่ ๆ

Future Perfect Tense

หลักการใช้ : ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่จะทำเสร็จสมบูรณ์ ณ เวลาหนึ่งในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + have + V3
ข้อสังเกต : by the end of this year, by this time tomorrow, in….years time, in…(month)…next year
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Perfect Tense อนาคตที่คาดว่าจะทำเสร็จแล้ว

Future Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะได้ทำไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่งและกำลังทำอยู่
โครงสร้าง : S + will have + been + V.ing
ข้อสังเกต : for, by, the time
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense ดำเนินมาและดำเนินต่ออีกระยะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
>>> ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense และ Past Simple Tense
>>> เทียบชัด ๆ ให้เคลียร์ หลักการใช้ Present simple กับ Present continuous
>>> หลักการใช้ Past Tense : เล่าอดีตได้อย่างมือโปรเหมือนเจ้าของภาษา

 

 

 

 


Past Simple และ Past Perfect Tense ตอนที่ 7 ภาษาอังกฤษ ป.4 – ม.6


Past Simple และ Past Perfect Tense
ภาษาอังกฤษ ป.4 ม.6
มาตราฐาน ต 2.2
มาดูหลักการใช้และความแตกต่างระหว่าง Past Simple และ Past Perfect กับ Bobby และผองเพื่อนกัน
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)
http://www.dlit.ac.th

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Past Simple และ Past Perfect Tense ตอนที่ 7 ภาษาอังกฤษ ป.4 - ม.6

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ


สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ
คลิปนี้แยกมาจากคลิป \”Past Simple Tense ใช้ตอนไหน \u0026 แบบฝึกหัดท้ายบท\” เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ชมที่ต้องการแยกศึกษาเฉพาะหลักการใช้ในคลิปเดียวค่ะ

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ

โครงสร้างและการใช้ Past Simple Tense


ผู้จัดทำ นางสาวชนัดดา สุขีนาค โรงเรียนคณะราษร์บำรุงปทุมธานี สพม.4 วิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง โครงสร้างและการใช้ Past Simple Tense
นักเรียนจะต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่อง กริยาสามช่อง การเติมและการออกเสียง ed ท้ายคำกริยา
นักเรียนจะแต่งฝึกแต่งประโยคบ่อย ๆ และนำไปใช้พูดหรือเขียนนะคะ

โครงสร้างและการใช้ Past Simple Tense

What were you doing? – Past Continuous


Learn how to use Past Continuous/Progressive through a short story in this video. We use this tense 1. for a continuous action in the past which was interrupted by another action \”I was reading the label, when the jar slipped out of my hands\”; 2. to describe the atmosphere \”The sun was shining\”; 3. for two actions which happened in the same time in the past \”I was sitting in the living room and she was taking a shower\”

What were you doing? - Past Continuous

Simple Past or Past Continuous Tense (when-while)


Simple Past or Past Continuous Tense (when-while)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ past simple tense โครงสร้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *