Skip to content
Home » [NEW] “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ภาษาอังกฤษคืออะไร | เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ภาษาอังกฤษคืออะไร | เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

หลายๆคนที่กำลังทำเรซูเม่หรือไปสัมภาษณ์งานก็คงต้องการทำให้นายจ้างเห็น ว่าเรานั้นเป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าประโยค “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ในภาษาอังกฤษนั้นต้องใช้อะไร ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงมาให้ทุกคนได้เรียนรู้กันแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

“สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ภาษาอังกฤษคืออะไร

ในภาษาอังกฤษ ถ้าเราจะบอกใครว่า “เราสนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” เราสามารถใช้ประโยค

I am interested in learning new things.
ฉันสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

หรือถ้าเราต้องการเปลี่ยนคำว่า “สนใจ” เป็น “พร้อม/เต็มใจ/อยาก” เราก็สามารถเปลี่ยนไปใช้

I am willing to learn new things.
ฉันพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

หรือถ้าเราต้องการเน้นถึงความกระตือรือร้นให้มากขึ้น เราอาจใช้ประโยคนี้แทน

I am eager to learn new things.
ฉันต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
(คำว่า eager แปลว่า “ต้องการ, กระหาย”)

ถ้าเราอยากระบุว่าเราต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม เราสามารถใช้ “more about…” แทนที่คำว่า new things อย่างเช่น

I am interested in learning more about marketing.
ฉันสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาด

I am willing to learn more about technology.
ฉันพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี

I am eager to learn more about accounting and finance.
ฉันต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน

บางครั้งเราอาจไม่ได้แยกมันออกมาเป็นประโยคเดี่ยวๆ แต่ใส่รวมไว้ในประโยคที่มีใจความอย่างอื่นอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น

I gain the most satisfaction at work when I am challenged, have the opportunity to learn and develop, and meet the organisation’s goals and customer expectations.
ฉันจะรู้สึกพอใจมากที่สุดเมื่อได้เจอกับความท้าทาย มีโอกาสได้เรียนรู้และพัฒนา และสามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กร และความคาดหวังของลูกค้า

ทำไมความสนใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆถึงสำคัญ

งานวิจัยจากบริษัท Robert Half ในสหรัฐอเมริกาพบว่า 84% ของบริษัทยินดีที่จะรับและฝึกทักษะเพิ่มเติมให้กับลูกจ้าง ที่มีทักษะความรู้ต่ำกว่าที่บริษัทต้องการ

นอกจากนี้ งานวิจัยเดียวกันนี้ยังพบอีกว่า 62% ของลูกจ้างยังถูกรับเข้าทำงาน แม้ว่าจะมีคุณสมบัติต่ำกว่าที่บริษัทกำหนด

งานวิจัยนี้ช่วยให้เราเห็นว่า การขาดทักษะความรู้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นตัวปิดกั้นโอกาสในการได้งานของเราเสมอไป

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบรรดาบริษัทต่างก็รู้ดีว่า ทักษะความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติมกันได้ ขอแค่เรามีความสนใจและความพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่มากพอเท่านั้นเอง

ด้วยเหตุผลนี้ การแสดงให้นายจ้างเห็น ว่าเรามีความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แค่คำพูดอาจไม่พอ

ในการสมัครงาน ลำพังแค่การเขียนในเรซูเม่หรือการพูดปากเปล่า ว่าเราสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนั้น อาจจะไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้นายจ้างเชื่อ

ถ้าจะให้ดี เราควรมีหลักฐานหรือสิ่งอื่นๆที่ช่วยยืนยัน ให้เค้าเห็นว่าเราสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจริง อย่างเช่น

1. แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในอดีต

การแสดงให้นายจ้างเห็นว่าที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง จะเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงความใฝ่รู้ของเราได้เป็นอย่างดี

โดยเราอาจแสดงให้นายจ้างเห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในเวลาส่วนตัว เช่น

I am curious and am constantly learning. I spend 30 minutes a day on my personal learning. I have learned basic Mandarin, how to play the guitar, and how to code in Python, just in the last four months. I did this by reading, watching videos, and seeking out experts.
ฉันมีนิสัยชอบเรียนรู้ และมักจะเรียนรู้อะไรอยู่ตลอด ฉันใช้เวลา 30 นาทีต่อวันในการเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจ อย่างในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ฉันได้เรียนภาษาจีนกลางระดับพื้นฐาน วิธีการเล่นกีตาร์ และการเขียนโค้ดด้วย Python โดยเรียนจากการอ่าน จากวิดีโอ และจากผู้เชี่ยวชาญ

หรือแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากงานเก่า อย่างเช่น

When I started my last job, I only had a basic understanding of sales, but now I have learned how to sell effectively. I also didn’t have much experience with public speaking, but at my last job, I had to give several group presentations, and as a result, I feel I have become much better at delivering information efficiently.
ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มทำงานที่เก่า ฉันรู้แค่พื้นฐานการขายนิดๆหน่อยๆ แต่พอมาถึงตอนนี้ ฉันก็ได้เรียนรู้ถึงวิธีการขายอย่างมีประสิทธิภาพ อีกอย่างก็คือ เมื่อก่อนฉันไม่ค่อยมีประสบการณ์การพูดต่อหน้าคนเยอะๆเท่าไร แต่ในที่ทำงานเก่า ฉันได้พรีเซนต์งานต่อหน้าผู้คนบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ทักษะการสื่อสารของฉันนั้นดีขึ้นกว่าเดิมมาก

2. แสดงให้เห็นว่าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

การแสดงให้นายจ้างเห็น ว่าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนายจ้าง ว่าเรานั้นพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจริง

I think continuous learning is important because it helps us to be more capable and confident.
ฉันคิดว่าการหมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันช่วยทำให้เรามีความสามารถและความมั่นใจมากขึ้น

3. ถามคำถามตอนสัมภาษณ์งาน

การถามคำถามกับผู้สัมภาษณ์งานก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงความใฝ่รู้ของเรา แต่เราต้องระวังไม่ให้คำถามนั้นดูไม่เหมาะสมหรือยากจนเกินไป

ตัวอย่างคำถามที่เราอาจถามผู้สัมภาษณ์งานก็อย่างเช่น

What does success look like in this position, and how do you measure it?
ภาพความสำเร็จของตำแหน่งนี้คืออะไร และคุณวัดผลมันอย่างไร

What training programs are available to your employees?
บริษัทนี้มีโปรแกรมฝึกอบรมอะไรให้กับลูกจ้างบ้าง

What do you see as the most challenging aspect of this job?
คุณคิดว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้คืออะไร

Do you expect the main responsibilities for this position to change in the next six months to a year?
คุณคิดว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งนี้จะเปลี่ยนไปในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้านี้หรือไม่

Is there anything about my background or resume that makes you question whether I am a good fit for this role?
มีอะไรเกี่ยวกับตัวฉันหรือในเรซูเม่มั้ยที่ทำให้คุณไม่มั่นใจว่าฉันจะเหมาะกับตำแหน่งนี้

จบแล้วนะครับกับประโยค “สนใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้กันแล้วว่าต้องเขียนและใช้ยังไง

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] Vocabulary: “เริ่มต้น” ในภาษาอังกฤษ “Begin กับ Start” ใช้ต่างกันอย่างไร | เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

คำว่า “Begin กับ Start” แปลว่า “เริ่มต้น” เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นคำกริยาเหมือนกันด้วย แต่ในความเหมือนก็มีความต่าง มาดูกันค่ะว่า คำว่า “เริ่มต้น” ในภาษาอังกฤษ “Begin กับ Start” ใช้ต่างกันอย่างไร 

ใช้ Begin เท่านั้น ในเหตุการณ์เหล่านี้

เราควรใช้ Begin ในกรณีที่ต้องการความเป็นทางการ เป็นแบบแผน หรือใช้ในภาษาเขียนมากกว่าภาษาพูด และจะใช้กับรูปประโยคดังต่อไปนี้

เมื่อต้องการกล่าวว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไร

     The September 11 attacks began in New York City. 
     (เหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน เริ่มต้นขึ้นที่เมืองนิวยอร์ก)

     The French Revolution began on 5 May 1789.
     (การปฎิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1789)

เมื่อต้องการเริ่มต้นการพูด 

     The president began to deliver a speech in the meeting.
     (ท่านประธานเริ่มต้นให้โอวาทในการประชุม)

เริ่มต้นใช้ Start เมื่อไรดี

เราจะใช้ Start ในภาษาพูด และในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

เมื่อเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างและต่อเนื่องไป เช่น

     I’ve started a job as an accountant.
     (ฉันเริ่มต้นงานด้วยการเป็นนักบัญชี)

     She started a new life in Paris.
     (เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปารีส)

เมื่อก่อตั้งบริษัทหรือเริ่มทำธุรกิจ

     She was starting her online business when she quit her job.
     (เธอเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของเธอเมื่อเธอออกจากงาน)

     Steve Jobs started the company in April 1976.
     (สตีฟ จ็อบส์เริ่มเปิดบริษัทในเดือนเมษายน 1976)

เมื่อเริ่มต้นเหตุการณ์ เช่น เริ่มต้นเกมการแข่งขัน โรงเรียนเปิด การประชุมเริ่มขึ้น เช่น

     While everybody was sitting in front of the TV, the football game started.
     (ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งอยู่หน้าทีวี การแข่งขันฟุตบอลก็ได้เริ่มต้นขึ้น)

     The school started at 8 A.M.
     (โรงเรียนเริ่มเรียนเมื่อเวลา 8 นาฬิกา)

     While the meeting was starting, the president arrived.
     (ขณะที่การประชุมเริ่มต้นขึ้น ท่านประธานก็มาถึง)

คงได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการใช้คำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกันสองคำนี้แล้วนะคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้านะคะ สวัสดี

 


เริ่มต้นฝึก ภาษาอังกฤษ ด้วยตัวเอง ยังไงให้ได้ผล เร็วที่สุดในโลก


วิดีโอนี้จัดทำขึ้นเพื่อความบันเทิงและการศึกษาเท่านั้น หากมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ควรมีผู้ปกครองชมอยู่ด้วย
Like share comment subscribe
IG: turktk
FB: it’s English

ภาษาอังกฤษหยาบๆ สายฝอ ฝึกภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เริ่มต้นฝึก ภาษาอังกฤษ ด้วยตัวเอง ยังไงให้ได้ผล เร็วที่สุดในโลก

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.3 Language Basics


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องฝึกพูด เริ่มต้นฝึกเหมือนเด็กทารกที่ค่อยๆหัดพูดตามพ่อแม่ทีละคำสองคำ เป็นกลุ่มคำ เป็นประโยค จนพูดได้ตามที่ใจนึกอยากจะพูด วิธีการเรียนรู้แบบธรรมชาตินี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ และที่สำคัญไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย แค่ทำความเข้าใจผ่านภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับเสียงที่ได้ยิน เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่เราเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างธรรมชาติ
Playlist สำหรับเรียนตอนต่อๆไป
https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk9TP14p0TWjl7bs84Ow1aC
ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่าย แต่เราอย่าไปทำให้มันยาก
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.3 Language Basics

ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1


ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน
นักเรียนจะได้ยินเสียงประโยคสนทนาภาษาอังกฤษสั้นๆที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำ 2 ครั้ง (แบบไม่มีซับ) แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินอีกครั้งแบบมีซับ
นักเรียนลองฝึกฟังดูนะคะ ว่าพอจะฟังออกไหม ตรงกับที่เราเข้าใจไหม

ฝึกพูด 100 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://www.youtube.com/watch?v=NEOO6wgqZMw\u0026t=837s
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ประโยคสั้นๆง่ายๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน miniconversation
https://www.youtube.com/watch?v=_mdqpBLMEkA
Playlist ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษคล่องด้วยตนเอง: ระดับ Beginner (พื้นฐานในชีวิตประจำวัน)
https://www.youtube.com/playlist?list=PLMfgvKgVmGD7V56x_zgAIPsF0fdrLmF5x

สนใจเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษกับ Kru.First
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.krufirst.com
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @englishkrufirst

ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ควรเริ่มยังไง? | ติว Tuesday


เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ควรเริ่มยังไง? | ติว Tuesday by เรียนเหอะ อยากสอน
วันนี้ครูอายจะมาบอกขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษ
00.35 โครงสร้างภาษาอังกฤษ
01.30 Tense สำคัญไหม
01.59 คำเชื่อมภาษาอังกฤษ
02.31 การท่องศัพท์อังกฤษ
02.56 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
03.18 ฝึกฟังภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
03.46 หนังฝรั่ง ฝึกภาษาอังกฤษ
05.05 ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ ทำอย่างไรดี

เจอกันกับ ติว Tuesday ทุกวันอังคาร
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองฟรี กับครูอาย เรียนเหอะ อยากสอน ได้ที่ไหนบ้าง?
▸ Youtube : https://www.youtube.com/เรียนเหอะอยากสอน
▸ Facebook : https://www.facebook.com/reanher
▸ Instagram : https://www.instagram.com/reanher.ig
กดที่นี่เพื่อ Subscribe ช่องนี้กันได้นะคะ ^^
https://www.youtube.com/channel/UCRX0VwKduaOHqlGeIdeOAUg?sub_confirmation=1
ติดต่อสปอนเซอร์
▸ Email : [email protected]
ครูอาย สอนภาษาอังกฤษ เรียนเหอะอยากสอน

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ควรเริ่มยังไง? | ติว Tuesday

เรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยวลีพื้นฐาน


มาเรียนรู้วลีพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ซึ่งใช้กันทั่วไปในการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน!
ติดตามเสียงภาษาไทยและเสียงภาษาอังกฤษจะเล่มตามมา
โดยการฟังเสียงที่ได้ยินซ้ำ ๆ หลายครั้ง วลีที่คุณได้เรียนรู้จะยังคงอยู่ในหัวของคุณต่อไป
คุณต้องการที่จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องหรือไม่ หากต้องการแบบนั้นให้ลองอ่านออกเสียงไปพร้อม ๆ กับวิดีโอและเสียงที่ได้ยิน! หากคุณฝึกฝนซ้ำ ๆ วลีและคำศัพท์ต่าง ๆ ที่คุณจำได้จะเริ่มออกมาจากปากของคุณเองโดยธรรมชาติ
—————————————
600 วลีสำคัญในภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/TfXHrAfVEQo
บ่งบอกตัวตนของคุณเป็นภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/nAVk_KU_1Mw แบบฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบช้าและง่าย

เรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยวลีพื้นฐาน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *