Skip to content
Home » [NEW] วิธีการใช้ Past simple & Present perfect | การใช้present perfect – NATAVIGUIDES

[NEW] วิธีการใช้ Past simple & Present perfect | การใช้present perfect – NATAVIGUIDES

การใช้present perfect: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ได้เคยกล่าวถึง Present Perfect (เพเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ) และ Past Simple (พาสทฺ ซิมเพิล) มาแล้ว

เพื่อเป็นการทบทวนรูป (form ฟอม) ของทั้ง 2 tenses นี้จะขอสรุปเฉพาะ ภาคกริยาช่วย และกริยาแท้ไว้ดังนี้คือ
ก. Present Perfect
กริยาช่วย have / has
กริยาแท้ past participle (หรือ Verb ช่อง 3)
have/has + past participle

ข. Past Simple
กริยาช่วยช่อง 2/กริยาแท้ช่อง 2

ต่อไปนี้ จะขอกล่าวเชิงเปรียบเทียบการใช้ระหว่าง Past Perfect และ Past Simple เพื่อท่านผู้อ่านจะได้สามารถแยกแยะความแตกต่างได้โดยชัดเจน
1. การกระทำที่เริ่มเกิดขึ้นในอดีตและดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน (an activity which started in the past and continues up to the present) กับการกระทำที่เริ่มและจบสิ้นในอดีต (an activity which started and finished in the past)
ตัวอย่าง
I have lived in Bangkok for ten years.
ผมอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว (ตอนนี้ก็ยังอาศัยอยู่)
I lived in Bangkok for 10 years.
ผมได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ 10 ปี(ตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้ว)

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีตและ ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันครบ 10 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังอยู่ ยังมิได้ย้ายไปไหนจึงใช้ Present Perfect ส่วนในประโยคที่ 2 เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่เริ่มต้นและจบสิ้นไปแล้วในอดีต ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว จึงใช้ Past Simple

2. ผลของการกระทำในอดีตที่เกี่ยวเนื่องถึงปัจจุบัน (the result of a past action that is connected to the present)
ตัวอย่าง
I have lost my wallet.
ผมทำกระเป๋าเงินหาย(จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้คืนมา)
I lost my wallet, but I have got it back now.
ผมทำกระเป๋าเงินหาย แต่ตอนนี้ได้คืนมาแล้ว

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 กล่าวถึงผลของการกระทำที่ใด้เกิดขึ้นในอดีต และยังมีผลเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จึงใช้ Present Perfect ส่วนในตัวอย่างที่ 2 กล่าวถึงในอดีต และตอนนี้ได้คืนมาแล้ว จึงใช้ Past Simple

3. การแจ้งข่าว (to announce news) กับการให้รายละเอียดของข่าว (to give details of the news)
ตัวอย่าง
Someone has stolen my bike.
มีคนลักขโมยรถจักรยานยนต์ของดิฉันไป
I left the bike outside the Saveland Department Store for a few minutes and when I came back, it wasn’t there.
ดิฉันจอดจักรยานไว้นอกห้างสรรพสินค้าเซฟแลนด์เป็นเวลา 2-3 นาที พอดิฉันกลับออกมา จักรยานก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 ผู้หญิงรายหนึ่งแจ้งว่า “มีคนลักขโมยจักรยาน ของเธอไป” เธอยังไม่ได้จักรยานคืนมา จึงใช้ Present Perfect ส่วนในตัวอย่างที่ 2 ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ให้รายละเอียดกับตำรวจว่า เธอได้จอดจักรยานไว้นอกห้างเซฟแลนด์ พอกลับออกมาก็พบว่าจักรยานได้หายไปแล้ว จึงใช้ Past Simple

4. การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตถึงปัจจุบัน แต่ไม่ระบุเวลาแน่นอน (an action in the past up to the present with an indefinite time) กับการกระทำที่เกิดและจบสิ้นในอดีตที่ระบุเวลาแน่นอน (an action in the past with a definite time)
ตัวอย่าง
I have started taking driving lessons recently.
ผมเริ่มเรียนขับรถเมื่อเร็วๆ นี้
I started taking driving lessons a week ago.
ผมได้เรียนขับรถเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 คำว่า recently (ริเซ็นลิ) แปลว่า “เมื่อเร็วๆ นี้” มิได้ระบุเวลาแน่นอนว่าเมื่อไร จึงใช้ Present Perfect ซึ่งมีคำอื่นๆ อีกที่ไม่ระบุเวลาแน่นอน ที่ใช้ tense นี้เช่นเดียวกับ recently ได้แก่ ever (เอเวอะ = เคย นิยม ใช้ในรูปประโยคคำถาม), never (เนเวอะ =ไม่เคย), lately (เลทลิ = เมื่อเร็วๆ นี้), already (ออลริดิ = เรียบร้อยแล้ว), yet (เย็ท = หรือยัง ใช้เป็น adverb วาง ไว้ท้ายประโยคคำถามหรือปฏิเสธ) ส่วนในตัวอย่างที่ 2 คำว่า a week ago (เออะ วีค เออะโก) ระบุเวลาไว้แน่นอนแล้ว จึงใช้ Past Simple ซึ่งมีคำอื่นๆ ที่ระบุเวลา แน่นอนที่ใช้ tense นี้เช่นเดียวกับ ago ได้แก่ yesterday (เยสเทอะเดย์ = เมื่อ วานนี้), last week (ลาสทฺ วีค = สัปดาห์ที่แล้ว), last month (ลาสทฺ มันธฺ = เดือนที่แล้ว), last year (ลาสทฺ เยีย = ปีที่แล้ว) เป็นต้น

5. ช่วงเวลาของการกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด (the periods of time of that action are not finished) กับช่วงเวลาที่ได้เกิดการกระทำนั้นๆ ได้จบสิ้นไปแล้ว (the periods of time of that action are finished)
ตัวอย่าง
I have seen Peter this morning.
ผมได้เจอปีเตอร์เช้านี้ (ตอนนี้ก็ยังเป็นเวลาเช้าอยู่)
I saw Peter this morning.
ผมได้เจอปีเตอร์เช้านี้ (ตอนนี้เลยเวลาเช้าไปแล้ว อาจจะเป็นบ่าย,
เย็น, หรือค่ำ)

อธิบาย ในกรณีของตัวอย่างทั้งสองที่ยกมา อาจจะใช้รูป Present Perfect หรือ Past Simple ก็ได้ โดยปกติหากรู้แน่นอนว่ายังเป็นช่วงเวลานั้นๆ ตามที่เอ่ยขึ้นมา ก็ใช้ Present Perfect ได้ แต่ถ้าถามว่าจะใช้ Past Simple ได้ไหม คำตอบคือ ได้ด้วยเช่นกัน ดังเช่นกรณีตัวอย่างที่ 2 ทั้งนี้ต้องอาศัยช่วงเวลาเป็นตัวกำหนด

กล่าวโดยสรุป Present Perfect ใช้แสดงการกระทำที่มีการต่อเนื่อง (continuing actions) ส่วน Past Simple ใช้แสดงการกระทำที่ได้สิ้นสุดไปแล้ว (finished actions)

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 25,656 times, 1 visits today)

[NEW] หลักการใช้ Present Simple Tense ฉบับเข้าใจง่าย | การใช้present perfect – NATAVIGUIDES

Present Simple Tense

สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษนั้น การศึกษาเรื่องไวยากรณ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราทำข้อสอบและเข้าใจหลักการใช้ภาษาอังกฤษให้ง่ายขึ้น

Present Simple Tense เรียกได้ว่าเป็น Tense ที่สุดแสนจะเข้าใจง่าย เรามาดูหลักการใช้งานกันเลยครับ  

โครงสร้าง Present Simple Tense

โครงสร้างประโยค

Subject

Verb 1

ประโยคบอกเล่า

I/You/We/They

eat spicy food.

He/She/It

reads novels.

โครงสร้างประโยค

Subject

do/does

not

Verb 1

ประโยคปฏิเสธ

I/You/We/They

do

not

eat spicy food.

He/She/It

does

read novels.

โครงสร้างประโยค

Do/Does

Subject

Verb 1?

ประโยคคำถาม

Do

I/you/we/they

eat spicy food?

Does

he/she/it

read novels?

โครงสร้างประโยค

Wh questions

do/does

Subject

Verb 1?

ประโยคคำถาม Wh-

Why

do

I/you/we/they

eat spicy food?

When

does

he/she/it

read novels?

 

Note: Verb ในตารางเป็นเพียงตัวอย่างเฉยๆนะครับ บางครั้งไม่สามารถใช้ Verb นี้ได้กับ Subject บางตัว เพราะจะทำให้ประโยคไม่มีความหมาย หรืออ่านแล้วรู้สึกผิดเพี้ยน

Present Simple Tense มีโครงสร้างประโยคที่ง่ายที่สุดแล้วครับ เพียงแต่ต้องระวังการเติม s หรือ es ท้ายกริยาเท่านั้นเอง โดยมีวิธีจำง่ายๆคือ

  • ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ – เติม s หรือ es ท้ายคำกริยา

  • ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ – ไม่ต้องเติมอะไรท้ายคำกริยา

เราจะใช้ Present Simple Tense เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันในลักษณะต่อไปนี้

1. ใช้พูดถึงความจริงในชีวิตประจำวัน หรือความจริงตามธรรมชาติ

Examples

I live in Chiang Mai
ฉันอาศัยอยู่ในเชียงใหม่

Cats hate mice.
แมวเกลียดหนู

The Earth revolves around the Sun.
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์

2. ใช้พูดถึงนิสัย และการกระทำที่เป็นกิจวัตรประจำวัน

โดยเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เป็นประจำ มักจะมีคำวิเศษณ์แสดงความถี่ (Adverbs of Frequency) พ่วงเข้ามาด้วย มาดูตารางของ Adverbs of Frequency ที่เราเห็นได้บ่อยๆกันเลยครับ

Adverbs of Frequency

คำแปล

Adverbs of Frequency

คำแปล

always
เป็นประจำ สม่ำเสมอ
never
ไม่เคย
habitually
ทำประจำจนเป็นนิสัย
hardly
แทบจะไม่เคย
often
บ่อยๆ
rarely
แทบจะไม่เคย
frequently
บ่อยๆ
scarcely
แทบจะไม่เคย
sometimes
บางครั้ง
barely
แทบจะไม่เคย
naturally
โดยปกติแล้ว
seldom
นานๆครั้ง
usually
โดยปกติ
infrequently
นานๆครั้ง

นอกจากคำเหล่านี้แล้ว เรายังสามารถผสมคำเพื่อแสดงถึงความถี่ได้ เช่น every week, once a day, twice a month เป็นต้น

Examples

He usually gets up late on Sunday.
ปกติแล้วเขามักจะตื่นสายในวันอาทิตย์

She hardly ever hands in her homework on time.
เธอแทบจะไม่เคยส่งการบ้านตรงเวลาเลย

Jane always eats bread every morning.
เจนกินขนมปังเป็นประจำทุกเช้า

3. ใช้พูดถึงความชอบ หรือเมื่อแสดงความคิดเห็น

Examples

Tom likes to drink alcohol.
ทอมชอบดื่มเหล้า

I think that’s a good idea.
ฉันว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะ

4. ใช้พูดถึงตารางเวลา

Examples

The gym opens at 7 a.m. and closes at 9 p.m.
ฟิตเนสเปิดตอน 7 โมงเช้า และปิดตอน 3 ท่ม

The BTS sky train arrives at the station every 5 minutes.
รถไฟฟ้า BTS จะมาถึงสถานีทุกๆ 5 นาที

5. ใช้พูดถึงความสามารถ

Examples

He plays the guitar very well.
เขาเล่นกีตาร์เก่งมาก

Koon speaks English as well as she speaks her own language.
คูนพูดภาษาอังกฤษได้ดีราวกับเป็นภาษาแม่ของเธอเลย


ง่ายจัง! Present Perfect Tense


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ง่ายจัง! Present Perfect Tense

เผยทริค Present Perfect ใช้ยังไง ให้ไม่งง | Eng ลั่น [by We Mahidol]


ทำไม๊ ทำไม จำได้แต่ใช้ไม่เป็น! หลายคนจำโครงสร้างประโยคของ Present Perfect Tense ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ยังไง วันนี้พี่คะน้า เลยมีเทคนิคการใช้แบบเข้าใจบริบทและสถานการณ์มาแนะนำ แล้วสถาณการณ์แบบไหนที่ใช้ Present Perfect Tense ได้บ้าง ลองไปดูตัวอย่างประโยคกัน
ทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น. ทางช่อง We Mahidol
Learn WithMe WeMahidol Mahidol Engลั่น PresentPerfect
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

เผยทริค Present Perfect ใช้ยังไง ให้ไม่งง | Eng ลั่น [by We Mahidol]

Present Perfect และ Past Simple Tense ตอนที่ 4 ภาษาอังกฤษ ป.4 – ม.6


Present Perfect และ Past Simple Tense
ภาษาอังกฤษ ป.4 ม.6
มาตราฐาน ต 2.2
มาดูหลักการใช้และความแตกต่างระหว่าง Present Perfect และ Past Simple Tense กับ Bobby และผองเพื่อนกัน
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)
http://www.dlit.ac.th

Present Perfect และ Past Simple Tense ตอนที่ 4 ภาษาอังกฤษ ป.4 - ม.6

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.5 เรื่อง Past Simple or Present Perfect


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.5 เรื่อง Past Simple or Present Perfect

The funniest way to learn English grammar – Present Perfect


Learning English grammar is never easy. Therefore, studying grammar through examples will help you easily remember the sentence structure, use correct verbs, usage of the present perfect tense…
The examples are illustrated with funny cartoons.
Part1

The funniest way to learn English grammar - Present Perfect

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การใช้present perfect

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *