Skip to content
Home » [NEW] | วัฒนธรรม อเมริกา – NATAVIGUIDES

[NEW] | วัฒนธรรม อเมริกา – NATAVIGUIDES

วัฒนธรรม อเมริกา: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

12th Journal

โดย ศิรตะวัน ทหารแกล้ว
Siratawan Thahanklaew

       ในต้นชั่วโมง อาจารย์ได้กล่าวถึงการสอบมิดเทอมที่ผ่านพ้นไปซึ่งทำให้ฉันได้รู้ว่าตนเองบกพร่องตรงไหนและควรแก้ไขให้ถูกต้องอย่างไร การที่เราได้รับความรู้ที่ถูกต้องทำให้เรามีพื้นฐานความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากบทเรียนที่เราจะศึกษากันในปลายภาคเรียนนี้เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระและรายละเอียดที่เข้มข้นขึ้น ดังนั้นฉันจึงตระหนักว่า พื้นฐานที่แข็งแรงย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราก้าวไปอย่างมั่นคง

 George Bernard Shaw นักวิจารณ์และนักเขียนบทอันเลื่องชื่อซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลและรางวัลออสการ์การันตีผลงานชั้นยอด ผู้กล่าวว่า “You see things; and you say, ‘Why?’ But I dream things that never were; and I say, “Why not?”   ประโยคนี้เองเป็นสิ่งแรกๆที่ฉันนึกถึงเมื่อชมเรื่องราวอันน่าทึ่งจบลง โดยเรื่องราวในYoutube ได้นำเสนอหนังสือ “The Secret” ที่เป็นแรงบันดาลใจให้อเมริกันชนจำนวนมากลุกขึ้นมาสร้างปาฏิหาริย์ในชีวิต โดยเชื่อว่าความคิดคือพลังสู่ความสำเร็จ มีการจัด Workshop ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้สึกที่มีต่อชีวิตใหม่ของตน  ทั้งการจัดWorkshopและหนังสือ How-to ที่มีเป็นจำนวนมากในตลาดอเมริกาก็เป็นสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิต ค่านิยมในสังคม รวมถึงวัฒนธรรม ความเป็นอเมริกันได้อย่างดีเยี่ยม ชาวอเมริกันให้ความสนใจในกฎแห่งการดึงดูด ( The Law of Attraction) ซึ่งเป็นกฎทองที่จะนำพาชีวิตให้ประสบความสำเร็จ  ไม่ใช่เพียงแค่การมองโลกในแง่ดีเท่านั้น แต่ต้องมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นและการรับก็เป็นอีกขั้นตอนที่ยากที่สุดในกุญแจทั้งสามที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จ Oprah Winfrey เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แต่ก่อนที่เธอจะมีชีวิตอย่างเช่นทุกวันนี้ เธอต้องผ่านสิ่งเลวร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน อย่างที่เราทราบกันดีว่าความสำเร็จไม่ใช่สิ่งสำเร็จรูปที่ได้มาโดยง่าย หากเธอไร้ความมั่นใจ ไม่มีทัศนคติที่ดีและปราศจากการเชื่อมั่น ความนับถือตนเองแล้ว เธอคงเป็นเพียงผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกัน- อเมริกันธรรมดาๆคนหนึ่งที่นั่งสงสารตัวเองที่เกิดมาเป็นเพียงลูกเป็ดขี้เหร่  แต่เธอไม่ใช่คนอย่างนั้น เธอรู้ว่าตนเองมีศักยภาพมากพอที่จะสร้างความมหัศจรรย์ให้แก่ชีวิต และเธอก็เลือกรับบทโซเฟีย ในภาพยนตร์เรื่อง The color purple ที่สะท้อนความยากลำบากของคนผิวดำ ความสามารถของเธอฉายแววขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าแม่ทอล์กโชว์แห่งรายการ The Oprah Winfrey Show” ที่กระชากเรตติ้งสูงในอเมริกาและถูกซื้อไปออกอากาศในนานาประเทศทั่วโลก เหตุที่เธอก้าวมาถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะเธอยึดหลัก The Law of Attraction มาตลอดนั่นเอง นอกจากนี้  Mark Zuckerberg หนุ่มกีคส์ ( Geek)  ผู้ก่อตั้งFacebook สังคมไซเบอร์สุดฮิตที่มีผู้ลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกกันอย่างล้นหลาม ก็ใช้กฎแห่งการดึงดูดหรือ “The Law of Attraction” เช่นกัน   Mark เป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จในขณะที่อายุเพียง24ปี และกลายเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับที่มีรายได้รองจากGoogle นอกจากนี้เขายังเป็นไอคอนแห่ง Silicon Valley อีกด้วย  เว็บสังคมออนไลน์อย่าง Facebook มีข้อดีหลายอย่างที่ดึงดูดให้ผู้คนร่วมลงทะเบียนเป็นสมาชิก ยกตัวอย่างเช่น การคำนึงถึงความปลอดภัยและสิทธิขั้นพื้นฐานของสมาชิก โดยดำเนินการปกป้อง ความเป็นส่วนตัว ( Privacy) ของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ  ฉันคิดว่าการได้เรียนรู้ชีวประวัติบุคคล ทั้งวิถีชีวิตและความเป็นมาก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล  การที่เราจะเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางได้นั้น ต้องเป็นคนที่มองพ้นตัวเองเสียก่อน กล่าวคือ หัดเรียนรู้จากผู้อื่นให้เป็น โดยเฉพาะวิธีการคิดอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน  ดังนั้นการได้ทราบเรื่องราวของคนๆหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อให้เรารู้ว่า ผู้นั้นประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แต่เพื่อให้เรารู้ว่าบุคคลนั้นประสบความสำเร็จอย่างไร เพราะสิ่งที่วัดความสำเร็จของคนไม่ใช่เพียงเงินตราหรือความเป็นวัตถุนิยมชั้นดีเท่านั้น  ฉันเรียนรู้ว่าการที่บุคคลทั้งหลายประสบความสำเร็จ เพราะเขาคิดว่าตัวเขาทำได้ เขามีความนับถือตนเองสูง เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของเรา หากเรามองว่าสิ่งนั้นเป็นไปได้ มันย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งความจริงแล้วความคิดเช่นนี้มิใช่ของใหม่แต่อย่างใด  พระพุทธเจ้าได้ค้นพบมาก่อนและเรียกว่า “พลังของการตั้งจิตมั่น” นั่นเอง

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่อยู่ร่วมกันโดยมีภาษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสารกันในสังคม โดยถ่ายทอดความคิด (Thinking) ความต้องการ และอารมณ์ (Emotive Expression) สื่อสิ่งที่อยู่ในใจให้ผู้อื่นได้รับรู้   แม้แต่ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเช่นการทักทายและการกล่าวอำลา ( Phatic Interaction) ก็ต้องอาศัยภาษาเช่นกัน นอกจากนี้การที่คนในสังคมใช้ภาษาเดียวกันก็ทำให้เกิดความรู้สึกเป็น “พวกพ้อง”  จึงสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกันได้ง่าย มีความสามัคคีและการร่วมมือกันมากขึ้น  นอกจากนี้เรายังใช้ภาษาแสดงอัตลักษณ์ ( identity Expression) และเก็บรักษาประวัติศาสตร์(Keeping of History) ยกตัวอย่างเช่น ชาวเมารี ซึ่งเป็นกลุ่มคนพื้นเมืองในประเทศนิวซีแลนด์ที่ยังคงรักษาเรื่องราวประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของตนไว้ได้โดยผ่านการสื่อสารนั่นเอง  พิธีHaka ของพวกเขาเป็นที่รู้จักและแสดงให้เห็น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ( Unity)  แสดงอัตลักษณ์ (Identity)  บ่งบอกสถานะหรือตำแหน่ง (Positon)  ภาษาที่ใช้พูดแสดงความเข้มแข็ง ดุดัน ปลุกเร้าให้เกิดความฮึกเหิม แสดงความเป็นนักรบและกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของพวกตน นับตั้งแต่แรกเริ่มที่เป็นผู้พิทักษ์ดินแดนเห่งนี้ (Guardian of The Land)  รวมถึงลักษณะการใช้ชีวิต ลักษณะการกินที่นิยมบริโภคเนื้อมนุษย์ (Cannibalism)  เป็นอาหาร นอกจากนี้ ในพิธีมิซซา ( Mass) ของชาวคริสต์ ยังแสดงการใช้พลังของภาษามาควบคุมความเป็นจริง ( Control of Reality)  โดยเรียกแทนขนมปังและเหล้าองุ่นว่า ร่างกายและเลือดของพระเยซู

จากคำกล่าวของ Federico Fellini’s   ว่า “ A different language is a different view of life”  หรือ ภาษาต่างกันย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ละเลยไปไม่ได้ในการสื่อสารคือ เราต้องทราบวัฒนธรรมของผู้อื่นด้วย นี่เป็นสิ่งที่อาจารย์คอยย้ำเตือนพวกเราอยู่เสมอว่าในการสนทนากับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรมต้องทราบว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ถึงแม้เราจะเป็นผู้ที่คล่องทักษะทั้งสี่แต่หากไร้ความรู้ด้านวัฒนธรรม เราคงไม่สามารถดำเนินบทสนทนาให้ต่อเนื่องและราบรื่นได้  และนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นนักสื่อสารที่ไร้ประสิทธิภาพ (A fluent fool)

[Update] เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อแคนาดา กับ North America Study | วัฒนธรรม อเมริกา – NATAVIGUIDES

Culture Shock!! ที่นักเรียนไทยต้องเจอ

เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ สิ่งที่ต้องเจอเป็นอันดับแรกคือ Culture หรือวัฒนธรรมการปฏบัติต่างๆที่แน่นอนว่าย่อมแตกต่างกันทุกที่ทั่วโลก วันนี้เราจะมาเจาะวัฒนธรรมของอเมริกาที่ถือได้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว น้องๆที่กำลังเดินทางไปเรียนต่ออเมริกาจะได้เตรียมรับมือเตียมพร้อมกับวัฒนธรรมเหล่านี้ได้ค่ะ
What is Culture Shock?
อาการช็อคหรือตกใจกับสิ่งที่เจอเมื่อไปเยือนยังสถานที่ใหม่ๆ ที่ต่างจากที่ๆตัวเองเคยอยู่ ซึ่งจะแปลกมากน้อยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ ซึ่งปกติการเดินทางไปยังต่างประเทศการเจอสิ่งๆใหม่แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก น้องๆควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ด้วยความเข้าใจค่ะ
การทักทาย
คนอเมริกาเป็นชาติที่ขึ้นชื่อในเรื่องวัฒนธรรมที่ตรงไปตรงมา พูดอย่างที่คิดโดยไม่ได้มองว่าเป็นการไม่รักษาน้ำใจ นักเรียนที่ไปอเมริกาควรทำใจและปรับตัวในเรื่องนี้ว่า นี้คือตัวตนของพวกเขาที่จะพูดตรงๆ เพราะไม่ชอบการปิดบัง การทักทายของคนอเมริกันจะเน้นสบายๆ ไม่มีพิธีหรูหราอะไรมาก แค่แนะนำตัวปกติ ส่วนเรื่องการทักทายกับคนแปลกหน้าเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ใช่แค่ประเทศอเมริกาแต่หลายๆประเทศทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ การพูดแสดงการทักทายอย่าง Hello กับคนแปลกหน้าที่เดินสวนทาง หรือพนักงานบริการต่างๆ แม้กระทั่งเวลาขึ้นรถเมย์ คนขับจะทักทายผู้โดยสารที่ขึ้นมา ผู้โดยสารก็จะทักทายกลับ ตอนลงรถก็ต้องกล่าวขอบคุณกับเป็นเรื่องปกติ ซึ่งแต่ต่างจากประเทศอย่างมาก
การขับรถ อเมริกาจะขับเลนส์ขวา  พวงมาลัยของคนขับอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศไทย นักเรียนที่แพลนไปขับรถที่อเมริกาคงต้องปรับตัวให้ชินกันสักพัก อเมริกายังมีป้ายจราจรแปลกๆที่ไม่เหมือนบ้านเราให้ต้องเรียนรู้ ดังนั้นควรศึกษาป้ายจราจรไว้บ้างเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
ห้องน้ำ และการเปลี่ยนเสื้อผ้า
อเมริกาเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดเผยในเรื่องการเปลี่ยนเสื้อผ้า นักเรียนอเมริกันสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ในตู้ล็อคเกอร์แบบไม่อายคนอื่นและการอาบน้ำรวมเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมากเพราะทุกคนไม่อายรูปร่างของตัวเอง และจะไม่มีการกล่าวหาว่าอ้วนหรือว่าหุ่นไม่ดี ดังนั้นน้องๆนักเรียนไทยสามารถสบายใจได้เลยค่ะ นอกจากนั้นแล้วห้องน้ำของอเมริกายังเป็นที่กล่าวขานอีกเรื่องนึง นั้นคือเป็นห้องน้ำที่มีไม่มีสายชำระ จะใช้กระดาษชำระแบบบางที่สามารถกดทิ้งลงชักโครกได้เลย ประตูจะเน้นการระบายอากาศที่ดีเพราะช่องเยอะมาก ประตูจะมีรูเล็ก และช่องตรงบานประตูก็จะมีปิดไม่หมด แรกๆจะเขินหน่อย แต่นานๆไปน้องๆก็จะชินค่ะ
ร้านค้า
ร้านค้าที่อเมริกาจะปิดเร็วมาก จะไม่ค่อยมีร้านอาหารที่เปิดโต้รุ่งแบบไทย ยิ่งร้านข้างทางก็ไม่มีให้เห็น จะมีร้านบ้างประเภทที่เปิด 24 ชั่วโมงอย่าง Walmart บางแห่งก็เปิด 24 ชั่วโมง และตามปั๊มน้ำมันต่างๆก็จะมีร้านสะดวกซื้อเล็กๆที่เปิด 24 ชั่วโมงตามเส้นทางหลวงต่างๆ
อาหาร และธรรมเนียมการให้ทิป
อาหารของอเมริกันจะเน้นเนื้อ นม ไข่ ชีสและแป้งเป็นส่วนใหญ่เพราะบ้านเมืองมีอากาศค่อนข้างหนาวการเพิ่มไขมันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นซึ่งทำให้อาการพื้นเมืองเป็นแบบนี้ อาหารโดยทั่วไปจะไม่มีรสชาติเผ็ด จะเน้นไปทางจืดหรือติดเค็มนิดๆ ส่วนเรื่องการให้ทิปของอเมริกานั้น เป็นเรื่องที่ต้องทำเพราะหากมีการบริการเกิดขึ้นการให้ทิปเป็นเรื่องที่แสดงถึงความขอบคุณ โดยปกติจะให้ทิปทั้งกับบริกรตามร้านอาหาร คนขับแท็กซี่ พนักงานโรงแรม ซึ่งจะต้องให้ 15-20% ของราคารวมทั้งหมด
การ Refund สินค้า
อเมริกาค่อนข้างให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าและคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก จึงได้มี นโยบาย Refund เกิดขึ้นสำหรับลูกค้าที่ไม่พอใจสินค้าเมื่อซื้อไปแล้ว ซึ่งสามารถนำมาขอเงินคืนได้เพียงแค่เก็บใบเสร็จและกล่องของสินค้าไว้เพียงเท่านั้น
การเรียนในห้องเรียน
บรรยากาศในการเรียนของอเมริกาจะเป็นไปในทางที่ค่อนข้างสบาย ไม่ได้เป็นทางการมากนัก นักเรียนและอาจารย์จะคุยกันเหมือนเพื่อน เน้นการเรียนการสอนแบบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงบทเรียนกันมากกว่า คนอเมริกันยังให้ความสำคัญกับการถามคำถามเป็นอย่างมากเพราะเป็นการแสดงออกซึ่งการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยจะเปิดกว้างด้านการต้อนรับนักเรียนต่างชาติที่เปิดรับนักเรียนด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทุกคนทั้งอาจารย์และเพื่อนจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ตลอด
โรงหนัง
โรงหนังในอเมริกาจะไม่มีการจองที่หนัง ใครมาถึงก่อนจะได้เลือกที่นั่งที่ต้องการก่อน ซึ่งสามารถเลือกนั่งได้ตามความชอบ ส่วนเรื่องราคาของตั๋วหนังก็จะแบ่งไปตามเวลา หากเป็นช่วงเวลากลางวันราคาตั๋วจะถูกมากประมาณ 9-10 เหรียญเพียงเท่านั้น หากเป็นช่วงเย็นเป็นต้นไปจะราคาสูงขึ้นประมาณ 12-13 เหรียญ
การอาบน้ำ
เนื่องจากหากเป็นช่วงหน้าหนาวอุณหภูมิจะหนาวมาก ทำให้พวกเขาอาบน้ำกันเพียงแค่ 2-3 วันครั้ง หากมากสุดก็จะเป็นตอนเช้าพอตอนเย็นกลับมาก็เปลี่ยนชุดเข้านอนเลย น้องๆไม่ต้องแปลกใจนะคะหากเจอเพื่อนอเมริกันบอกไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว
การข้ามถนน
ในอเมริกาจะค่อนข้างจะมีมารยาทในการให้คนข้ามถนน ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ตรงไฟแดง รถก็จะหยุดให้คนข้ามถนนก่อนเลย ซึ่งแน่นอนว่าแตกต่างจากไทยที่คนต้องรอให้รถไปก่อนนั้นเองค่ะ
ข้อมูลด้านบนน่าจะช่วยให้น้องๆได้เตรียมตัวเพื่อรับมือกับวัฒนธรรมใหม่ของอเมริกากันได้บ้างนะคะ การเปิดใจเป็นเรื่องสำคัญนะคะ น้องๆควรให้พยายามปรับตัวให้เข้ากับเมืองและคนใหม่ๆที่ได้เจอ เพียงเวลาสักระยะนึงน้องๆก็จะปรับตัวได้ค่ะ ส่วนน้องๆคนไหนอยากสัมผัสความรู้สึกน่าตื่นเต้นแบบนี้ อย่ารอช้านะคะ ติดต่อให้พี่ๆ Education For Life ช่วยดูแลเรื่องการเรียนต่อได้ที่

ตัวแทนของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ บริการฟรีทุกขั้นตอน

Tel. 02-129-3214, 091-742-5900

สมัครเรียน สมัครหอพักของมหาวิทยาลัย จองตั๋วเครื่องบิน รถรับ-ส่งสนามบิน รวมถึงเตรียมเอกสาร กรอกใบสมัคร On-line และทำการนัดหมายกับสถานฑูต อเมริกา แคนาดา ให้ฟรี


แต่ละรัฐในอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องอะไรบ้าง?


ไงพวก! อยากจะรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับอเมริกาบ้างหรือเปล่า? หึหึ ฉันจะบอกให้ฟังว่าแต่ละรัฐในอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องอะไรบ้าง? อย่างเช่น เมน เป็นรัฐที่ผู้คนมีความประพฤติดีที่สุด เวอร์ม้อนต์ รัฐที่ผู้คนมีอัตราการจ้างงาน และรายได้เยอะที่สุด แมสซาชูเซตเป็นรัฐที่มีอัตราการศึกษาเยอะที่สุดในสหรัฐอเมริกา ผู้คนกว่า 40% นั้น เรียนจบปริญญาตรี ผู้คนของ รัฐคอนเนตทิคัต มีฟันที่สะอาดที่สุด!
รัฐเวอร์จิเนีย เป็นรัฐที่มีอัตราโรคหอบหืดน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา ข้างๆ กันนั้น รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เป็นรัฐที่เท่าเทียมกันมากที่สุด เกี่ยวกับการศึกษาและระดับรายได้ รัฐนอร์ทแคโรไลนา เป็นรัฐที่มีคุณภาพของโรงเรียนอนุบาลสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา รัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นรัฐที่ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ต่อประชากร เยอะที่สุดในประเทศ และอีกมากมาย
TIMESTAMPS:
นิวอิงแลนด์ 0:20
ภูมิภาคแอตแลนติกตอนกลาง 0:55
ภูมิภาคทางใต้ 1:30
ภาคตะวันตกตอนกลาง 2:54
ภาคตะวันตกเฉียงใต้ 4:28
ภูมิภาคที่อยู่ด้านตะวันตกที่สุดn 4:53

สหรัฐอเมริกา อเมริกา ชีวิตสดใส

สรุป:
นิวยอร์ก ไม่เพียงแต่เป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่ยังเป็นรัฐที่เป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีที่เยอะที่สุด 7 คน และรองประธานาธิบดีที่เยอะที่สุด ถึง 11 คนอีกด้วย
รัฐแมรี่แลนด์ เป็นรัฐที่มีรายได้ครัวเรือนเยอะที่สุดในประเทศหรือประมาณ 80,000 ดอลลาร์ ต่อปีต่อครัวเรือน
รัฐอลาบามา เป็นรัฐที่มีทีมอเมริกันฟุตบอลในระดับวิทยาลัยที่เก่งที่สุด มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ คว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับชาติได้ถึง 16 ครั้งเชียวล่ะ
รัฐอาร์คันซอ เป็นรัฐสำหรับคนรักหมา เนื่องจากที่นั่นมีประชากรที่เลี้ยงหมาเยอะที่สุด มีครัวเรือนถึง 48% ที่เลี้ยงหมาหนึ่งตัว หรือมากกว่านั้น
รัฐเคนตั๊กกี้ เป็นอีกรัฐที่เหมาะสำหรับการสำรวจถ้ำ เพราะว่ามันเป็นที่ตั้งของถ้ำที่ยาวที่สุดในโลก อุทยานแห่งชาติถ้ำแมมมอธ
รัฐเท็กซัส เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ทั้ง 48 รัฐ และยังผลิตไฟฟ้าเยอะที่สุดอีกด้วย
รัฐโคโลราโด เป็นรัฐที่มีคนหุ่นดีเยอะที่สุด ด้วยอัตราผู้ป่วยจากภาวะอ้วน เพียงแค่ 22% เท่านั้น
รัฐไอดาโฮ เป็นรัฐที่มีผู้ประกอบการเยอะที่สุด และมีอัตราการผลิตที่สูงที่สุดต่อประชากร
รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่ทั้งมีจำนวนประชากรเยอะที่สุด และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา; ประชากรเกือบ 40 ล้านคนที่อยู่ในรัฐนี้ได้ผลิต GDP กว่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ ถ้าเทียบแคลิฟอร์เนียเป็นประเทศหนึ่งในโลก มันจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ในโลกเลยล่ะ!
เราจะลืม รัฐอลาสก้า ที่อยู่ทางเหนือไม่ได้เลย ใช่ไหมล่ะ? ที่นี่อยู่ในอันดับหนึ่งบนดัชนีชี้วัด จินี่ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการวัดค่าความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ

กดติดตามช่องชีวิตสดใส http://bit.do/brightside_thai

เพลงของ Epidemic Sound https://www.epidemicsound.com/
ของในสต๊อก (รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ):
https://www.depositphotos.com
https://www.shutterstock.com
https://www.eastnews.ru

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

แต่ละรัฐในอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องอะไรบ้าง?

พาไปส่อง life style ของวัยรุ่นอเมริกาที่ U.S.A.😎🇺🇸 จะเสรีภาพอะไรขนาดนี้!! | Thicha CK✨


สวัสดีค้า วันนี้ธิชาพาทุกๆคนไปสอดส่อง life style ของวัยรุ่นอเมริกานะคะ เเละในวันนี้ธิชาก็เตรียมคำถามเพื่อที่จะไปถามวัยรุ่นอเมริกาที่นี้ด้วย!! เเต่ละคำถาม รับลองว่าเด็ด!! ไปรับชมกันเลยค้า❤️😎🛹✨
————————————————————
🌈ติดตามธิชาช่องทางอื่นได้ที่👇
Instagram : https://www.instagram.com/thicha.ck/?hl=en
Facebook : https://www.facebook.com/thicha.ck.3
Facebook page : https://m.facebook.com/ThichaCK101482488619139/
————————————————————
🎵Hip Hop Rap Instrumental (Crying Over You) by christophermorrow
https://soundcloud.com/chrismorrow3
🎵Creative Commons — Attribution 3.0 Unported— CC BY 3.0
🎵Free Download / Stream: http://bit.ly/2AHA5G9
🎵Music promoted by Audio Library https://youtu.be/hiYs5z4xdBU
💖Thank you for watching and supporting me💖

พาไปส่อง life style ของวัยรุ่นอเมริกาที่ U.S.A.😎🇺🇸 จะเสรีภาพอะไรขนาดนี้!! | Thicha CK✨

สินค้าไทย ในซุปเปอร์มาร์เก็ตอเมริกา | Product of Thailand in Whole Foods Market LA, USA #มอสลา


สินค้าไทยอะไรบ้าง? ที่คนอเมริกันยอมรับ วางขายใน Whole Foods Market ซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่เน้นสินค้าเพื่อสุขภาพ
สินค้าไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
สินค้าไทยในอเมริกา ซุปเปอร์มาร์เก็ตอเมริกา ProductOfThailand
ขอบคุณทุกคนที่กด Like กดติดตาม Subscribed ให้มอร์สด้วยนะคะ 🙂
Thank you for supporting me
📍ช่องทางติดตาม
YouTube ➮https://m.youtube.com/c/MOSSALA101Channel
FaceBook ➮ https://www.facebook.com/Mossala101
Instagram ➮ Mossala101
Contact Email: [email protected]
Music
Ghost’n’Ghost:
https://soundcloud.com/iamghostnghost
https://twitter.com/iamGhostnGhost
https://www.facebook.com/iamghostnghost
https://www.youtube.com/channel/UCyQG…
Music from Soundcloud
Music provided by RFM: https://youtu.be/dRZJWll_9h4
Anikdote Which Direction?
Anikdote:
https://soundcloud.com/anikdotemusic
https://twitter.com/ANIKDOTE_MUSIC
https://www.facebook.com/D.H.Producti…
Music from Soundcloud
Music provided by RFM: https://youtu.be/FTnNfvWn28o

สินค้าไทย ในซุปเปอร์มาร์เก็ตอเมริกา | Product of Thailand in Whole Foods Market LA, USA #มอสลา

เดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 10


เดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 10
จะมีสักกี่โชว์ในประเทศที่สร้างความโกลาหลทุกครั้ง เดี่ยวไมโครโฟน 10ิ อุดมขุดเรื่องราวในอดีตให้กลับมาหัวเราะได้ในปัจจุบัน หยิบเรื่องเล้กๆประจำมาพูดกับกระแสสังคมและลากไปผสมกับการเมือง เดี่ยว 10 ถือเป็น Masterpiece และเป็น Art Piece นี้ไม่ใช่ศิลปะที่ติดตามฝาบ้าน แต่มันเป็นศิลปะการสร้างเสียงหัวเราะที่จะติดเข้าไปในใจคุณ….อีกนาน
เดี่ยวไมโครโฟน (อุดม แต้พานิช)
ติดตามผลงานได้ที่นี้
Facebook https://www.facebook.com/UdomNose/?nr
Youtube https://www.youtube.com/channel/UCFjpGGcFw0S0lQvNUncD1WQ

เดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 10

วัฒนธรรม และการส่งเวร พยาบาลในอเมริกา เป็นแบบไหน? | พยาบาลไทยสู่อเมริกา🇺🇸🇺🇸


พยาบาลอเมริกา ชีวิตในอเมริกา USAvlog
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำในอเมริกา + เผยทำกระดานแห่งความฝัน
https://youtu.be/FWvfbyAO2O8
เปิด!!อพาร์ตเมนต์ในอเมริกา🇺🇸//Apartmenr tour in Austin, Texas
https://youtu.be/EcFQkXUX76Y
เฟสบุ๊ค 👉 https://www.facebook.com/NewYork.USA….
หรือ ติดตามทาง Instagram 👉 https://www.instagram.com/phungzoozoo/
ขอขอบพระคุณทุกคนที่เข้ามารับชมและติดตามกันนะคะ💕

วัฒนธรรม และการส่งเวร พยาบาลในอเมริกา เป็นแบบไหน? | พยาบาลไทยสู่อเมริกา🇺🇸🇺🇸

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ วัฒนธรรม อเมริกา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *