[NEW] รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 8 เดินชิลๆที่เมืองนีซ ชมเมืองพักตากอากาศสวยจี๊ด ที่ได้สมญานามว่า เฟรนซ์ริเวียร่า | เมืองนีซ ฝรั่งเศส – NATAVIGUIDES

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องที่น่ารักสดใส งามไฉไลสดสี รื่นฤดีความหวานร้านรานสุขใจกันทุกๆคนนะค่ะ
ดิฉันคุณนายเว่อร์ ขอมาทักทาย สหยายผมโป่งเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ต ระเหินระเห็ดกับคุณผู้อ่านทุกๆคนเข้าสู่เว็ปบล็อกเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวๆโกโรโกโส สับปะรังเคนี้อีกครั้งนะคะ…และสำหรับบทความในเว็ปบล็อกวันนี้ ก็ขอมารีวิวเที่ยวต่อจ้า หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี้คือตอนที่ 7 ได้มารีวิวพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่รัฐโมนาโค เดินแอ๊บไฮโซชมวิวรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกกันไปในช่วงเช้าแล้วนะค่ะ…..และสำหรับรีวิวทุกตอน ดิฉันจะทยอยเขียนไปเรื่อยๆให้ครบทุกตอนค่ะ รูปภาพในบล็อกอาจไม่ได้สวยชะลูดบาดตา เพราะไม่ตกแต่งแอ๊ปเอิ๊ปอะไรทั้งนั้นเนื่องจากไม่มีเวลา แต่ยังไงต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาสไลด์ดูกัน แม้จะมีผู้อ่านมาคลิ๊กดูแค่ 1 คน เพียงแค่นี้ก็เยอะแล้วจ้า

มาตอนนี้ ดิฉันจะขอจรลีหนีจากโมนาโค นั่งรถไฟเฮโลไปเที่ยวเมืองนีซต่อค่ะ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เฟรนรีเวียร่า เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของยุโรป ใหนๆคุณนายเว่อร์เองก็อุตสาห์ตีตั๋วรถไฟ Eurail Pass จากเมืองไทยมาลั๊นลาถึงฝรั่งเศสตอนใต้แล้ว ยังไงก็ขอให้ใช้ให้คุ้มค่าเลยคะ ทริปวันนี้พึ่งเข้าสู่วันที่ 7 เองนะค่ะ โอ้ย…ทริปนี้อีกยาวไกลมากกว่าจะไปถึงประเทศกรีซ

เอาเป็นว่า ขอมารีวิวเที่ยวเมืองนีซให้เพื่อนได้ดูก่อนแล้วกันค่ะ มาดูสิว่า ณ ดินแดนฝรั่งเศสตอนใต้ อย่างเมืองนีซ เมืองพักตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เนียนแห่งนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ไปสไลด์ดูรีวิวกันเลยค่ะ

อย่าพึงข้ามนะจ๊ะ….ก่อนจะเข้าสู่รีวิว เรามารู้จักเมืองนีซกันก่อนนะค่ะ ว่าเมืองนี้อยู่ที่ใหน ลองอ่านดูเพื่อเปิดโลกกว้างค่ะ (อารมณ์ประมาณ ย้อนวัยไปเรียนวิชาโลกของเราเลยนะคะ)

รีวิวตอนที่ 8 เดินทางจากรัฐโมนาโคไปเที่ยวที่เมืองนีซ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมืองนีซ (์Nice France) 

สำหรับนิส (ฝรั่งเศส: Nice) เป็นเมืองในแคว้นพรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างเมืองมาร์แซย์ของฝรั่งเศสกับเมืองเจนัวของอิตาลี มีประชากรอยู่ 347,060 คนโดยประมาณ ตามข้อมูลปี 2006 ถือเป็นเมืองการท่องเที่ยวและถือเป็นเมืองชั้นนำของรีสอร์ตแถบเฟรนช์ริเวียรา
โดยเมืองนีซแห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ของการล่องเรือยอช์ตและเดินเรือของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นสถานที่ที่มีแสงแดด 300 วันต่อปี มีชายหาดยาวไปถึง 115 กิโลเมตร มีสนามกอล์ฟ 18 สนาม รีสอร์ตสกี 14 แห่ง และร้านอาหาร 3,000 ร้านเลยทีเดียว

และมารู้จัก French Riviera (เฟรนซ์ ริเวียร่า)คืออะไร คำนี้มาจากใหน

สำหรับคำว่า เฟรนช์ริเวียร่า french Riviera เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ โกตดาซูร์ (เขียนเป็นฝรั่งเศส: Côte d’Azur) โดยเฟรนซ์ริเวียร่า เป็นชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงโมนาโก ไม่มีขอบเขตแน่ชัดแต่มักจะกล่าวถึงว่า มีขอบเขตตั้งแต่ม็องตงไปจนถึงชายแดนอิตาลี ทางตะวันออกของแซ็ง-ทรอเป, อีแยร์ หรือกาซี ทางตะวันตก

ชายหาดเป็นหนึ่งในบริเวณที่มีรีสอร์ตสมัยใหม่แรก ๆ โดยเริ่มจากการเป็นที่พักตากอากาศฤดูหนาวของคนชั้นสูงอังกฤษในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และเมื่อทางรถไฟมาถึงในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จึงเป็นจุดพักผ่อนของ ชาวอังกฤษ รัสเซีย และสมาชิกราชวงศ์ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร

ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของศวรรษที่ 20 เหล่าศิลปินและนักเขียนยังมาเยี่ยมเยียนประจำ เช่น ปาโบล ปีกัสโซ, อ็องรี มาติส, อีดิธ วอร์ทัน, ซอเมอร์เซต เมาม์, และอัลดุส ฮักซ์ลีย์ เช่นเดียวกับชาวอเมริกันและชาวยุโรปที่ร่ำรวย หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีคนผู้มีชื่อเสียงหลายคนมีบ้านอยู่แถบนี้ เช่น เอลตัน จอห์น และบรีฌิต บาร์โด โกตดาซูร์เป็นบ้านชาวต่างชาติ 83,962 ครัวเรือน กว่า 163 สัญชาติ และประมาณว่า มีชาวต่างชาติที่มิใช่ฝรั่งเศสอาศัยมากกว่าชาวฝรั่งเศสอย่างมาก ด้วยภูมิอากาศและบรรยากาศที่ดึ ติดริมชายหาดทะเลเมดิเตอร์เรีเนียน ซึ่งมีสภาพอากาศที่อบอุ่น ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป ทำให้แถบชายหาด ณ ดินแดนฝรั่งเศสตอนใน ยกให้เป็น Frence Riviera
เคดดิตข้อมูลอ้างอิง จาก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนีซ มีที่ใหนบ้างล่ะ
ในเมืองนีซถือเป็นเมืองพักตากอากาศริมชายหาดทะเลเก่าแก่ แหล่งท่องเที่ยวแนะนำดังนี้คะ
– Fontaine du Soleil ย่านลานน้ำพุ จตุรัสมาเซนา
– Vieille Ville (Old Town) ย่านเมืองเก่า
–  Promenade des Anglais ถนนเลียบชายหาดยาวหลายกิโลเมตร
– Parc de la Colline du Château (Castle Hill Park)
– Musée Matisse พิพิธภัณฑ์ Mutisse
– Cathédrale Orthodoxe Russe Saint-Nicolas มหาวิหาร

และเมื่อรู้จักเมืองนีซกันแล้ว ดิฉันก็ขอมาร่ายบทความรีวิวตามรูปภาพให้คุณผู้อ่านทุกคนได้สไลดดูกันดังนี้คะ
 
ต่อจากบทความบล็อกรีวิวตอนที่ 7 : ตามเว็ปไซต์ลิงค์ :
 หลังจากที่ช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค.2561 ได้แวะเดินชิลเที่ยวรัฐโมนาโค ซึ่งเป็นรัฐหรือประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกไปแล้ว ดิฉันก็นั่งรถไฟ TER จากเมืองโมนาโคมาลงที่เมืองนีซต่อค่ะ สำหรับการเดินทางไปเมืองนีซ ก็นั่งรถไฟขบวน TER เหมือนเดิมค่ะ

หากขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ก็พยายามเลือกที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งติดเลียบริมทะเลนะค่ะ จะได้ชมวิวทะเลสวยๆฆ่าเวลาระหว่างนั่งรถไฟได้ หรือหากใครที่ถ่ายรูปเก่งๆ ก็ซูมเล็งไปที่บ้านพักตากอากาศสุดหรูได้เลยจ้า

นั่งรถไฟมาไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟ gare de nice ville

นั่งรถไฟจากสถานี Monaco-Monte-Carlo มาไม่นานประมาณ 30 นาที ก็ถึงสถานีรถไฟ nice ville แล้วค่ะ โดยสถานีรถไฟค่อนข้างสวยงาม ตามภาพเลยคะ เวลาจะเดินข้ามไปแต่ละชานชลาต้องเดินข้ามสะพานลอยไปนะค่ะ

สถานีรถไฟเมืองนีซ gare de nice ville

 เดินออกมาด้านหน้าสถานีรถไฟก็เป็นแบบนี้ค่ะ สถานีไฟสวยงามตามแบบฉบับศิลปะแบบฝรั่งเศส ดูหรูหรานะคะ

พอเดินออกมาแล้ว ก็อย่าพึ่งจรลีเดินหนีไปก่อนนะค่ะ ให้แวะไปที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวประจำเมืองนีซก่อนค่ะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟเลย เพื่อจะได้ไปเอาโบว์ชัวร์หรือแผนที่ท่องเที่ยว และขอคำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ค่ะ

ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ หยิบมาแค่แผนที่ท่องเที่ยว หรือข้อมูลที่ต้องการก็พอ
ตอนเดี๊ยนเข้าไป ก็หยิบเอาแต่แผนที่ท่องเที่ยวนะค่ะ จะหยิบเอาโบว์ชัวร์อย่างอื่นด้วยก็ได้นะค่ะ แต่ไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เห็นมีแต่ฝรั่งเศสทั้งนั้นเลย หรือหากมีข้อสงสัยก็ไปกดบัตรคิว เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่ที่นี้พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟแล่บเลย ทำเดี๊ยนงงไปหมดเลย เพราะตัวเองก็ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆมากๆ

แผนที่ท่องเที่ยวได้มาแล้วค่ะ ดูงงๆหน่อยๆ แต่ยังไงก็เปิดมือถือดูควบคู่ไปด้วยนะค่ะ

 เมื่อหยิบแผนที่ท่องเที่ยวมาแล้วก็กางดูก่อนเลยค่ะ ว่าจะแวะไปเที่ยวที่ใหน
สำหรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณนายเว่อร์ เธอเป็นบ้าในครั้งก็ไม่มีอะไรบ้า
ดิฉันกะจะไปเดินชิล รับวิวทะเลอย่างเดียว และตอนนี้ก็หิวมากๆแล้วด้วยคะ กะว่าจะซัดของกินให้เรียบเลย แต่ก็ต้องดูตังในกระเป๋าด้วยนะ ไม่งั้นงบบานแน่ๆ

เริ่มต้นที่สถานีรถไฟเมืองนีซ เดินเท้าตรงไปยังชายหาดค่ะ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เดินตรงอย่างเดียวไม่ต้องเลี้ยวไปใหนเลยนะคะ

เมื่อเปิดดูแผนที่พอเข้าใจแล้ว จากนั้นก็เดินออกจากสถานีรถไฟเลี้ยวซ้ายเดินชิดตามถนนติดไปเรื่อยๆจะเจอถนนใหญ่คะ

พอเดินมาก็จะเดินถนนใหญ่ โดยถนนมีชื่อว่า Ave Jean Médecin ซึ่งเป็นถนนมีเส้นทางของรถรางหรือรถทรัมวิ่งตรงกลางค่ะ

เดินผ่านโบสถ์ Basilica of Our Lady of the Assumption

 เดินมาได้ประมาณ 300 เมตร ก็ผ่านโบสถ์คริศประจำเมืองนีซ สวยงามเชียวค่ะ
สำหรับโบสถ์วิหารแห่งนี้ ดูในแผนที่แล้ว มีชื่อว่า Basilica of Our Lady of the Assumption

เดินเลาะไปตามฟุตบาทอันกว้างขวางของถนน Ave Jean Médecin, นีซ ฝรั่งเศส

ระหว่างเดินตรงดิ่งไปเที่ยวยังทะเลเมืองนี้ ก็ลืมดูทรัพย์สินของมีค่าตัวเองให้ครบด้วยนะค่ะ เนื่องจากมีในเมืองนีซมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะกว่าเมืองคานส์ และโมนาโคมากๆเลยค่ะ ถือเป็นเมืองที่คึกคักที่สุดอีกแห่ง พอๆกับเมืองมาร์เซย์ที่ได้ไปเที่ยวมาเลยนะ ต้องระวังของมีค่า อย่าพกตังมาเยอะเลยนะค่ะ เพราะถ้าเห็นของอยากได้ ก็จะต้องเสียตังตลอด ดังนั้นเอามาพอที่ใช้ก็พอ

ตอนไปเที่ยว เดี๊ยนเห็นนักท่องเที่ยวและชาวฝรั่งเศสหลายคน จูงน้องหมา พาน้องแมวมาเที่ยวกันเยอะเชียว

หรือไม่ก็คงต้องนั่งแท๊กซี่เอานะ แต่ต้องเผื่อสตังไว้เยอะหน่อยนะ เพราะราคาสูงลิ่บ เหมือนเงินปลิวหายไปในอากาศเลย สำหรับคนแบกเป้มาเที่ยวแบบดิฉัน คงต้องรำพึงรำพันประหยัดแบบสุดฤทธิ์เลยจ้า

ย่าน LA PLANETA Events Nice

โดยในย่าน LA PLANETA Events Nice ก็เป็นลานกว้าง ปูนด้วยกระเบื้องอิตาลีลายกราฟฟิกสีขาวดำ สวยงามแปลกตาเชียว และมีศูนย์การค้าเป็นตึกสีสันสวยงาม ให้ได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย

รถรางวิ่งผ่านจอดตรงย่านนี้ เพื่อรับส่งผู้โดยสาร ดิฉันเองก็ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่นะค่ะ น่าจะไม่แพงมาก แต่คนที่มาเที่ยวที่นี้ส่วนใหญ่ก็เห็นจะขยันเดินกันเยอะเสียมากกว่า แต่ถ้าไประยะไกลคงต้องนั่งรถรางในเมืองนีซน่าจะช่วยผ่อนแรงขาได้เยอะเลย

อุทยาน Promenade du Paillon

 และใกล้ๆกับย่านลาน LA PLANETA Events Nice จะเป็นอุทยาน Promenade du Paillon เป็นลานแสดงน้ำพุ  Miroir d’eau ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นด้วย

ลานน้ำพุ Fontaine du Soleil อีกหนึ่งมุมมหาชนที่นักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูป

และที่พลาดไม่ได้ถ้ามาในย่านนี้ ก็คือน้ำพุ Fontaine du Soleil เป็นอีกหนึ่งจุดมหาชนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน

น้ำพู Fontaine du Soleil ย่านจัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองนีซน้ำพุ Fontaine du Soleil จัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)

น้ำพู Fontaine du Soleil ย่านจัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)

 นอกนี้ยังมีรถไฟนำเที่ยวชมเมืองให้บริการด้วยเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่นที่ดิฉันได้ไปมาเลยคะ
รถไฟน่ารักดีนะ โดยราคานั่งรถไฟชมเมือง น่าอยู่ที่ประมาณ 8 ยูโร เหมือนๆกับที่เมืองมาร์เซย์ โพรวองซคะ 

 เดินมาที่ย่าน Vieille Ville (Old Town) ย่านเมืองเก่า ก็จะเป็นตลาดขายของเก่า ให้เดินช็อปปิ้งกันด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านค้าริมทางมากมายเลยคะ

 เดินมาที่ย่าน Vieille Ville (Old Town)

 บรรยากาศที่ย่านเมืองเก่า Vieille Ville (Old Town) ก็เป็นตลาดถนนคนเดิน Saleya Market Shopping

ตลาด Saleya Walking Road Market at Nice

 เป็นตลาดเปิดท้ายขายของ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือและของเก่าคะ

หากใครที่ชอบสินค้าแนววินเทจ หรือของเก่าๆแก่ก็มาแลเดินดู ซื้อไปเก็บสะสมได้นะค่ะ
วันที่ดิฉันเดินไป ก็มีเห็นของอยากได้ด้วยนะค่ แต่เกรงว่าซื้อไปแล้ว ต้องโดนคุณแม่เดี๊ยนกระซวกแน่ๆว่าซื้อของอะไรมาให้รกบ้านอีกล่ะ…เฮ้อเพลีย ก็เลยได้แต่เดินเที่ยวชมอย่างเดียว

ร้านขายของส่วนใหญ่ที่ตลาด Saleya ก็เป็นของเก่า แนววินเทจ

ช้อนกับส้อมก็มีนะค่ะ อยากได้มากๆ เพราะกำลังหาซื้อชุดช้อนส้อมพอดี แต่ก็อย่างว่า ซื้อไปก็โดนคุณแม่ที่บ้านกระซวกเอาคะ

ใกล้ๆกับตลาดถนนคนเดิน Saleya Market เลย

ได้เวลาทานอาหารมื้อเที่ยงแล้วค่ะ มาทานเอาตอนบ่าย 2 เลยนะ

 เดินช็อปปิ้งดูสินค้าอยู่นาน เริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ ขอเติมพลังทานอาหารมื้อเที่ยงนี้ที่ร้านอาหาร ณ ย่านตลาด Saleya แล้วกันค่ะ

เดี๊ยนเลยขอสั่งสลัดมาทานล่ะกัน ราคา 15.50 ยูโร น้ำดื่มอีก 3 ยูโร รวม 18.5 ยูโร

เปิดดูเมนูอาหารมื้อนี้สิทานอะไร คงหนีไม่พ้นสลัดคะ
เดี๊ยนเลยขอสั่งสลัดมาทานล่ะกัน ราคา 15.50 ยูโร น้ำดื่มอีก 3 ยูโร รวม 18.5 ยูโร

 ระหว่างรออาหาร เดี๊ยนเริ่มรอไม่ไหวแล้วค่ะ ท้องร้องหนักมากๆ กว่าอาหารจะมาเสริฟอีกนานเลย เดี๊ยนขอเป็นคนเสียมารยาท หยิบขนมขึ้นมาทานแก้หิวนะค่ะ

 ทานขนมคุ๊กกี้จนหมด ในที่สุดอาหารมื้อเที่ยงนี้ก็มาแล้ว สลัดไก่สไตล์เมืองนีซ เป็นแบบนี้นะค่ะ

หากใครที่เป็นคนรักสุขภาพ คงจะทานลำบากนิดนึงนะค่ะ เพราะต้องแทะเลมเอาไอ้ที่ใหม้ของไก่ออกให้หมดก่อนจะทาน

เวลาทานสลัดที่นี่ ก็ไม่ได้หยิบทานใส่ปากเลยค่ะ
ถ้าจะถ้าให้สะดวกก็หยิบผักรวมมิตรและไก่ใส่แป้งฟัฟแผ่นห่อที่เตรียมมาให้ แล้วยัดใส่ปากทานได้เลยจ้า
แต่อย่าลืมนะคะ ถ้าไก่ใหม้ก็แทะไอ้ที่ไหม้ออกก่อนนะ

สลัดไก่ที่ร้านนี้รสชาติอร่อยดีค่ะ น้ำสลัดไม่เค็มจนเกินไป น่าจะเอาใจคนเอเชียได้ดี แต่เสียอย่าง ลูกค้าที่มานั่งทาน สูบบุหรี่กันจัดเหลือเกิน ทานสลัดไปก็สูดดมกลิ่นบุหรี่ไป ได้บรรยากาศเหลือเกินนะ รู้สึกว่าเดี๊ยนจะกินอาหารกึ่งๆเพื่อสุขภาพนะค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมคึกคักไปด้วยควันบุหรี่ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วเชียว

 และหลังจากทานข้าวอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวต่อ สำหรับสถานที่ต่อไปที่อยากแนะนำเพื่อนๆไปชมก็คือ ชายหาดและจุดชมวิว Castle Hill Park คะ

เดินออกไปชมชายหาดเมืองนีซ สถานพักตากอากาศยอดนิยมที่ได้รับสมญานามว่า French Riviera

 เดินออกไปชมชายหาด

 แต่ร้านขายเครื่องดื่มเค้าน่าเข้าไปนั่งนะค่ะ มีระเบียงยื่นออกมาให้นั่งชมวิวอีกด้วยล่ะ
น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบดื่มไป ชมวิวไปอะไรประมาณนี้นะ

นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีโรงแรม บ้านพักตากอากาศให้บริการด้วยนะค่ะ ห้องพักมีระเบียง ไว้นอนชมวิวทะเล

 หลังจากได้เดินดูบ้านม่านชานเรือน และตลาดในเมืองนีซแล้ว ทีนี้ก็มาดูชายหาดและทะเลในเมืองนีซสิว่าสวยงาม สมกับเป็น ริเวียร่าแห่งเมดิเตอร์เรเนียนใหม๊

 ชายหาดที่เมืองนีซไม่ได้เป็นหาดทรายสีขาวเหมือนชายหาดในเมืองไทยเรานะค่ะ จะเป็นก้อนกรวด ก้อนหินเรียงรายเต็มหาดไปหมดค่ะ แต่ก็ถือว่าสวยงามแปลกตาดีนะค่ะ ดูเป็นเอกลักษณ์ของชายหาดแห่งนี้ และดูแล้ว คนที่แวะมาเที่ยวที่นี่ก็น่าจะชอบใจไม่น้อย

 แต่น้ำทะเลเมดเตอร์เรนียนค่อนข้างใสสะอาดสวยงามมากๆนะคะ ถือว่าเปิดหูเปิดตาดูชายหาดทะเลในต่างแดน ก็สวยเริ่ดสะแมนแตนไม่แพ้ทะเลในบ้านเรา  ลักษณะของกรวดและก้อนหินก็นวลๆ น่าจะนอนนัวตัวได้ดี แต่ถ้าแดดร้อนจัดกว่านี้ เดี๊ยนว่าคงนอนไม่ได้แน่ๆคงจะร้อนก้อน

ดูสองหนุ่มฝรั่งสองคนนี้สิ กำลังนอนอาบแดดเพลิน ริมชายหาดเมืองนีซ หุ่นนี้แซ๋บซี๊ดมากๆ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเมืองนี้ ต่างก็นิยมมานอนพักอาบแดดริมชายหาดกันนะ โดยเฉพาะผู้หญิงแต่ละคน ใส่ชุดว่ายน้ำหุ่นเซี๊ยะมากๆ ส่วนผู้ชายก็หุ่นล้ำบึก ตาน้ำข้าว ดูออกสาวหน่อยๆ แต่ก็น่ารักดี

อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวถ่ายภาพที่สวยงามที่สุดอีกแห่งเมื่อมาเที่ยวเมืองนีซก็ถือ การเดินออกกำลังขึ้นไปยังจุดชมวิว Site de’ Ancien Chateau ตามป้ายบอกทางเลยค่ะ หรือ Great Panorama Nice จุดชมวิวเมืองนีซ

เดินขึ้นมายังจุดชมวิว Site de’ Ancien Chateau

เมื่อเดินขึ้นมาถึงก็จะเป็นลานชมวิวตามภาพเลยคะ

 มองจากจุดชมวิวไปก็จะเห็นวิวชายหาดและวิวเมือง ดูสวยงามตามแบบฉบับฝรั่งเศสค่ะ ถ้าแดดและท้องฟ้าใสกว่านี้ น่าจะงดงามกว่านี้มากค่ะ

ย่านเมืองเก่า Vieille Ville (Old Town)

 หันมาดูวิวเมืองบ้านสิ บ้านเมืองก็สวยงาม หลังคาสีส้มสดปี๊ด สวยงามจี๊ดถึงใจ กับย่านเมืองเก่า Vieille Ville (Old Town)

 ซูมกล้องไปไกลก็เห็นนักท่องเที่ยวกำลังไฉไลกันริมทะเล

ยังไงก็ได้เห็นเป็นบุญตาแล้วคะ

ท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงบ่ายๆที่จุดชมวิวบนเขา Castle Hill park

อยากบอกว่า บรรยากาศตรงจุดชมวิวเมืองนีซด้านบน ลมพัดเย็นดีมากๆ สมแล้วค่ะที่เป็น ริเวียร่าแห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ที่ริมชายทะเลมีประดับธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นธงที่เปิดกว้างในเรื่องความหลากหลายทางเพศวิถีมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร คุณก็มาเที่ยวเมืองนีซนี้ได้อย่างสบายใจ  จะเห็นได้ว่าทั้งคู่รักชายหญิง หรือคู่รักชายชาย หรือคู่รักหญิงหญิง ก็จูงมือกันมาสวิงกิ้งเที่ยวเมืองนีซกันมากมาย

แต่วันที่ดิฉันไปเที่ยว ก็ไม่ได้เดินเหินไปไกลมากนัก เนื่องจากด้วยเวลาจำกัด เพราะต้องเผื่อเวลาไว้เดินทางกลับเมืองคานส์ด้วยคะ

 หากใครที่ไม่อยากเดิน ก็นั่งรถชมเมืองนีซเพลินๆได้นะคะ
รถบริการนำเที่ยวชมเมือง ก็จะช่วยย่นระยะเวลาชมเมืองได้เยอะทีเดียวเลย

เมื่อมาถึงดิฉันก็ไม่รีรอ รีบเดินเท้าไปยังโรงแรมต่อค่ะ ยังดีนะค่ะที่พักโรงแรมใกล้สถานีรถไฟ ถ้าพักไกลกว่านี้มีหวังเดินขาลากแน่ๆนะคะ

เดินมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรมคะ

หลังจากได้กระเป๋าแล้วนะค่ะ
ดิฉันก็เดินแบกเป้ใบใหญ่ด้านหลังและเป้ใบเล็กเอาไว้ด้านหน้ารวมมูลค่าไม่กี่ร้อยบาท
แต่น้ำหนักรวมๆน่าจะ 15 กิโลกรัม แต่เอาว่ะ ใหนๆก็มาเที่ยวทั้งที
ก็ไปให้ไปหลุดโลกเลย

เดินแบกเป้มาต่อกดบัตรคิวเข้าแถว เพื่อจองตั๋วรถไฟความเร็วสูง เดินทางไกลไปยังเมืองท่องเที่ยวถัดไปก็คือเมืองลียงคะ สำหรับเพื่อนคนใหนที่จะต้องเดินทางไกล และต้องใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูง หากมีบัตร Eurail Pass แล้ว ยังไงก็ต้องมาเสียเงินค่าจองที่นั่งอีกนะคะ

สำหรับราคาค่าธรรมเนียมจองที่นั่งรถไฟ TGV เดินทางจากเมือง Cannes ไปยังเมือง Lyon อยู่ที่ 20 ยูโร แต่ถ้าใครที่ไม่มีบัตรยูโรพาส เดี๊ยนว่าราคาตั๋วแพงลิบลิ่วแน่ๆ

วันที่ 21 พ.ค.2018 เวลา 17.52 น. ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงขบวน TGV จากเมือง Cannes มุ่งหน้าสู่เมือง Lyon โดยสวัสดิภาพ

รู้สึกว่าตอนนั่งรถไฟจากเมืองปารีสลงมาที่เมืองมาเซย์ สัญญาณ WiFi ก็ใช่ได้นะ แต่หลุดบ่อยเหมือนกัน

มี WiFi ให้ใช่ด้วยนะ แต่สัญญาณอินเตอร์เน็ต ไม่ค่อยเสถียรเลย

 มาดูสิว่ารถไฟ TGV ขบวนนี้ สัญญาณ WiFi ใช้ได้หรือเปล่า
ลองเปิดดูแล้ว ค่อนข้างง่อยมากๆจ้า หลุดบ่อยแบบสุดๆ เรียกว่าใช้งานไม่ได้เลยล่ะค่ะ
ดิฉันเลยอดตอบเมลล์งานที่บริษัทเลย จะโดนลูกค้ากินหัวใหม๊เนี่ย

ในเมือง WiFi ใช้งานไม่ค่อยได้ ดิฉันเลยหยิบอาหารเย็นขึ้นมาซัดทานพอประทังท้องไปคะ

 ในเมื่อ WiFi ใช่ไม่ค่อยได้ เดี๊ยนเลยขอหยิบอาหารเย็นมาทานล่ะกัน
อาหารเย็นมื้อนี้ก็ง่ายๆ สลัดอีกเหมือนเดิมทานคู่กับครัวซองอีกล่ะ คิดถึงผัดกระเพราไข่ดาว แต่ก็ต้องอดทนไว้นะ เพราะหนทางอีกยาวไกลจากคุณนาย

ในที่สุดก็ถึงสถานีรถไฟ Gare De Lyon Part Dieu

 นั่งรถไฟมาเกือบ 4 ชั่วโมงในที่สุดก็ถึงสถานีรถไฟ Gare De Lyon Part Dieu
ออกจากเมือง Cannes เวลา 17.52 มาถึงเมือง Lyon เกือบ 4 ทุ่มเลยนะค่ะ

ระหว่างเดินไป ก็ต้องเปิดมือถือนำทางไปยังที่พักคะ ก็แอบกลัวๆบ้างนิดหน่อย เกรงจะมีมิจฉาชีพมาดักปล้นระหว่างทาง แต่ถ้าจะโจรจะปล้นก็ปล้นไปเถอะคะ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว ถ้ามัวแต่กลัว เดียวจะเกิดอาการนอยส์ เที่ยวไม่สนุกเอานะ

คืนนี้พักค้างแรมคืนนึงที่ โรงแรม Ibis Lyon

ดิฉันเดินตามทางฟุตบาทเปิดมือถือนำทางมาเรื่อยก็ถึงโรงแรม Ibis Lyon คะ
โรงแรมคืนนี้พักใกล้ๆสถานีรถไฟ แต่ก็ไม่ใกล้ทีเดียวนะค่ะ เดินมาไกลพอสมควร น่าจะประมาณเกือบ 1 โลเมตรได้

Check in เข้าห้องพักก็หลับแบบสลบไสลเลยค่ะ จบทริปรีวิวเที่ยวเมืองนีซและโมนาโค

พอมาถึงดิฉันก็รีบ Checkin เข้าพักจากนั้นก็นอนพักสลบไสล หลังจากที่วันนี้ เมื่อยล้าจากการเดินทางเที่ยวทั้งวัน

สรุปวันที่ 21 พ.ค.ไปใหนบ้าง
ตอนเช้า นั่งรถไฟจาเมืองคานส์แวะไปเที่ยวประเทศโมนาโค
ตอนบ่าย นั่งรถไฟจากโมนาโค มาเที่ยวเมืองนีซ
ตอนเย็น นั่งรถไฟจากเมืองนีซกลับมาที่เมืองคานส์ จากนั้นก็นั่งรถไฟ TGV ความเร็วสูงเพื่อเดินทางมายังเมืองลียง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวถัดไปคะ

เป็นไปตามแผนครบจบกระบวนการ แต่ตอนที่รู้สึกปวดหลังแบบสุดๆ ก็ตอนแบกเป้เดินหาโรงแรมไอบีสเนี่ยแหละค่ะ กว่าจะมาถึงเล่นเอาซ่ะหลังแทบหักเลยจ้า

จบทริปเที่ยวเมืองนีซ ได้ชมดินแดดแห่งริเวียร่าของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตามที่ตั้งใจไว้ และไปเดินไฉไลรัฐโมนาโคตอนเช้า และทริปต่อจากนี้ไป คุณนายเว่อร์ จะขอเป็นคนบ้ามารีวิวพาทุกท่านแวะเดินทางเที่ยวเมืองลียงต่อค่ะ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของฝรั่งเศสค่ะ

สำหรับทริปรีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 8 แวะไปเมืองนีซในบล็อกนี้ ดิฉันก็ขอจบการร่ายพรรณา บ้าๆบอๆแต่เพียงเท่านี้นะค่ะ หวังว่าคงกระตุ้นต่อมเพื่อนที่รักการเดินทางออกมาตะลุยเที่ยวเปิดโลกกว้างกันไม่น้อย หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เสียสละเวลาคลิีกเข้ามาลั๊ลลาเปิดอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ…จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
—————————————————————————————————————–

บทความรีวิวท่องเที่ยวเมืองอื่นๆ มีดังนี้คะ

จะไปเที่ยวกรุงปารีส พักโซนใหนดี

ขอแนะนำ 8 เขตโซนที่พักพร้อมแผนที่มาให้เพื่อนๆได้เลือกกันจ้า

หรือดูข้อมูลโซนในปารีสที่เว็ปไซต์ :

http://bit.ly/2z6cOxa

แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ย

ว

สวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 10 แวะเมืองเจนีวา-โลซาน ยลตระการศาลาไทย ตามรอยในหลวง

สวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 10 แวะเมืองเจนีวา-โลซาน ยลตระการศาลาไทย ตามรอยในหลวง คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางคะ>>>

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/e6o4UL

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/4tuuke

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/Bxaq9X

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/XCFzYC

หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :

 

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/7ZB3pt

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/eL6fHw

หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :

บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือน มี.ค.61 แวะเที่ยวสัตหีบ ไปนอนงีบที่เกาะแสมสาร ทะเลสวยหวาน ร้าวรานจับใจ

คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>> 

หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องที่น่ารักสดใส งามไฉไลสดสี รื่นฤดีความหวานร้านรานสุขใจกันทุกๆคนนะค่ะดิฉันคุณนายเว่อร์ ขอมาทักทาย สหยายผมโป่งเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ต ระเหินระเห็ดกับคุณผู้อ่านทุกๆคนเข้าสู่เว็ปบล็อกเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวๆโกโรโกโส สับปะรังเคนี้อีกครั้งนะคะ…และสำหรับบทความในเว็ปบล็อกวันนี้ ก็ขอมารีวิวเที่ยวต่อจ้า หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี้คือตอนที่ 7 ได้มารีวิวพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่รัฐโมนาโค เดินแอ๊บไฮโซชมวิวรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกกันไปในช่วงเช้าแล้วนะค่ะ…..และสำหรับรีวิวทุกตอน ดิฉันจะทยอยเขียนไปเรื่อยๆให้ครบทุกตอนค่ะ รูปภาพในบล็อกอาจไม่ได้สวยชะลูดบาดตา เพราะไม่ตกแต่งแอ๊ปเอิ๊ปอะไรทั้งนั้นเนื่องจากไม่มีเวลา แต่ยังไงต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาสไลด์ดูกัน แม้จะมีผู้อ่านมาคลิ๊กดูแค่ 1 คน เพียงแค่นี้ก็เยอะแล้วจ้ามาตอนนี้ ดิฉันจะขอจรลีหนีจากโมนาโค นั่งรถไฟเฮโลไปเที่ยวเมืองนีซต่อค่ะ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เฟรนรีเวียร่า เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของยุโรป ใหนๆคุณนายเว่อร์เองก็อุตสาห์ตีตั๋วรถไฟ Eurail Pass จากเมืองไทยมาลั๊นลาถึงฝรั่งเศสตอนใต้แล้ว ยังไงก็ขอให้ใช้ให้คุ้มค่าเลยคะ ทริปวันนี้พึ่งเข้าสู่วันที่ 7 เองนะค่ะ โอ้ย…ทริปนี้อีกยาวไกลมากกว่าจะไปถึงประเทศกรีซเอาเป็นว่า ขอมารีวิวเที่ยวเมืองนีซให้เพื่อนได้ดูก่อนแล้วกันค่ะ มาดูสิว่า ณ ดินแดนฝรั่งเศสตอนใต้ อย่างเมืองนีซ เมืองพักตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เนียนแห่งนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ไปสไลด์ดูรีวิวกันเลยค่ะอย่าพึงข้ามนะจ๊ะ….ก่อนจะเข้าสู่รีวิว เรามารู้จักเมืองนีซกันก่อนนะค่ะ ว่าเมืองนี้อยู่ที่ใหน ลองอ่านดูเพื่อเปิดโลกกว้างค่ะ (อารมณ์ประมาณ ย้อนวัยไปเรียนวิชาโลกของเราเลยนะคะ)สำหรับนิส (ฝรั่งเศส: Nice) เป็นเมืองในแคว้นพรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างเมืองมาร์แซย์ของฝรั่งเศสกับเมืองเจนัวของอิตาลี มีประชากรอยู่ 347,060 คนโดยประมาณ ตามข้อมูลปี 2006 ถือเป็นเมืองการท่องเที่ยวและถือเป็นเมืองชั้นนำของรีสอร์ตแถบเฟรนช์ริเวียราโดยเมืองนีซแห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ของการล่องเรือยอช์ตและเดินเรือของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นสถานที่ที่มีแสงแดด 300 วันต่อปี มีชายหาดยาวไปถึง 115 กิโลเมตร มีสนามกอล์ฟ 18 สนาม รีสอร์ตสกี 14 แห่ง และร้านอาหาร 3,000 ร้านเลยทีเดียวสำหรับคำว่า เฟรนช์ริเวียร่า french Riviera เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ โกตดาซูร์ (เขียนเป็นฝรั่งเศส: Côte d’Azur) โดยเฟรนซ์ริเวียร่า เป็นชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงโมนาโก ไม่มีขอบเขตแน่ชัดแต่มักจะกล่าวถึงว่า มีขอบเขตตั้งแต่ม็องตงไปจนถึงชายแดนอิตาลี ทางตะวันออกของแซ็ง-ทรอเป, อีแยร์ หรือกาซี ทางตะวันตกชายหาดเป็นหนึ่งในบริเวณที่มีรีสอร์ตสมัยใหม่แรก ๆ โดยเริ่มจากการเป็นที่พักตากอากาศฤดูหนาวของคนชั้นสูงอังกฤษในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และเมื่อทางรถไฟมาถึงในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จึงเป็นจุดพักผ่อนของ ชาวอังกฤษ รัสเซีย และสมาชิกราชวงศ์ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรซึ่งในช่วงครึ่งแรกของศวรรษที่ 20 เหล่าศิลปินและนักเขียนยังมาเยี่ยมเยียนประจำ เช่น ปาโบล ปีกัสโซ, อ็องรี มาติส, อีดิธ วอร์ทัน, ซอเมอร์เซต เมาม์, และอัลดุส ฮักซ์ลีย์ เช่นเดียวกับชาวอเมริกันและชาวยุโรปที่ร่ำรวย หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีคนผู้มีชื่อเสียงหลายคนมีบ้านอยู่แถบนี้ เช่น เอลตัน จอห์น และบรีฌิต บาร์โด โกตดาซูร์เป็นบ้านชาวต่างชาติ 83,962 ครัวเรือน กว่า 163 สัญชาติ และประมาณว่า มีชาวต่างชาติที่มิใช่ฝรั่งเศสอาศัยมากกว่าชาวฝรั่งเศสอย่างมาก ด้วยภูมิอากาศและบรรยากาศที่ดึ ติดริมชายหาดทะเลเมดิเตอร์เรีเนียน ซึ่งมีสภาพอากาศที่อบอุ่น ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป ทำให้แถบชายหาด ณ ดินแดนฝรั่งเศสตอนใน ยกให้เป็น Frence Rivieraเคดดิตข้อมูลอ้างอิง จาก https://th.wikipedia.org/wiki/โกตดาซูร์ และ https://th.wikipedia.org/wiki/นิส  สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนีซ มีที่ใหนบ้างล่ะในเมืองนีซถือเป็นเมืองพักตากอากาศริมชายหาดทะเลเก่าแก่ แหล่งท่องเที่ยวแนะนำดังนี้คะ- Fontaine du Soleil ย่านลานน้ำพุ จตุรัสมาเซนา- Vieille Ville (Old Town) ย่านเมืองเก่า- Promenade des Anglais ถนนเลียบชายหาดยาวหลายกิโลเมตร- Parc de la Colline du Château (Castle Hill Park)- Musée Matisse พิพิธภัณฑ์ Mutisse- Cathédrale Orthodoxe Russe Saint-Nicolas มหาวิหารและเมื่อรู้จักเมืองนีซกันแล้ว ดิฉันก็ขอมาร่ายบทความรีวิวตามรูปภาพให้คุณผู้อ่านทุกคนได้สไลดดูกันดังนี้คะต่อจากบทความบล็อกรีวิวตอนที่ 7 : ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://goo.gl/e6o4UL หลังจากที่ช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค.2561 ได้แวะเดินชิลเที่ยวรัฐโมนาโค ซึ่งเป็นรัฐหรือประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกไปแล้ว ดิฉันก็นั่งรถไฟ TER จากเมืองโมนาโคมาลงที่เมืองนีซต่อค่ะ สำหรับการเดินทางไปเมืองนีซ ก็นั่งรถไฟขบวน TER เหมือนเดิมค่ะแนะนำเพื่อนๆที่วางแผนมาเที่ยวที่ซื้อบัตร Eurail Pass มายังไงก็แสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ทุกครั้งด้วยนะค่ะ จะได้ไม่ได้ปรับหรือเสียสตางค์ เพราะตอนที่ดิฉันขึ้นรถมา มีนักท่องเที่ยวคนนึง นางลืมบัตร Eurail Pass ไว้ที่โรงแรม ก็โดนเจ้าหน้าที่เรียกเก็บตังไปคะหากขึ้นมาบนขบวนรถไฟ ก็พยายามเลือกที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งติดเลียบริมทะเลนะค่ะ จะได้ชมวิวทะเลสวยๆฆ่าเวลาระหว่างนั่งรถไฟได้ หรือหากใครที่ถ่ายรูปเก่งๆ ก็ซูมเล็งไปที่บ้านพักตากอากาศสุดหรูได้เลยจ้านั่งรถไฟจากสถานี Monaco-Monte-Carlo มาไม่นานประมาณ 30 นาที ก็ถึงสถานีรถไฟ nice ville แล้วค่ะ โดยสถานีรถไฟค่อนข้างสวยงาม ตามภาพเลยคะ เวลาจะเดินข้ามไปแต่ละชานชลาต้องเดินข้ามสะพานลอยไปนะค่ะเดินออกมาด้านหน้าสถานีรถไฟก็เป็นแบบนี้ค่ะ สถานีไฟสวยงามตามแบบฉบับศิลปะแบบฝรั่งเศส ดูหรูหรานะคะที่สถานีรถไฟเมืองนีซ ดูค่อนข้างคึกคักกว่าเมืองโมนาโคมากๆเลยค่ะพอเดินออกมาแล้ว ก็อย่าพึ่งจรลีเดินหนีไปก่อนนะค่ะ ให้แวะไปที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวประจำเมืองนีซก่อนค่ะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟเลย เพื่อจะได้ไปเอาโบว์ชัวร์หรือแผนที่ท่องเที่ยว และขอคำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ค่ะเข้าไปด้านในก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ หยิบมาแค่แผนที่ท่องเที่ยว หรือข้อมูลที่ต้องการก็พอตอนเดี๊ยนเข้าไป ก็หยิบเอาแต่แผนที่ท่องเที่ยวนะค่ะ จะหยิบเอาโบว์ชัวร์อย่างอื่นด้วยก็ได้นะค่ะ แต่ไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เห็นมีแต่ฝรั่งเศสทั้งนั้นเลย หรือหากมีข้อสงสัยก็ไปกดบัตรคิว เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่ที่นี้พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟแล่บเลย ทำเดี๊ยนงงไปหมดเลย เพราะตัวเองก็ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆมากๆแผนที่ท่องเที่ยวได้มาแล้วค่ะ ดูงงๆหน่อยๆ แต่ยังไงก็เปิดมือถือดูควบคู่ไปด้วยนะค่ะเมื่อหยิบแผนที่ท่องเที่ยวมาแล้วก็กางดูก่อนเลยค่ะ ว่าจะแวะไปเที่ยวที่ใหนสำหรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณนายเว่อร์ เธอเป็นบ้าในครั้งก็ไม่มีอะไรบ้าดิฉันกะจะไปเดินชิล รับวิวทะเลอย่างเดียว และตอนนี้ก็หิวมากๆแล้วด้วยคะ กะว่าจะซัดของกินให้เรียบเลย แต่ก็ต้องดูตังในกระเป๋าด้วยนะ ไม่งั้นงบบานแน่ๆเริ่มต้นที่สถานีรถไฟเมืองนีซ เดินเท้าตรงไปยังชายหาดค่ะ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เดินตรงอย่างเดียวไม่ต้องเลี้ยวไปใหนเลยนะคะขยายแผนที่ดูซูมๆให้ชัดๆ แต่ก็ไม่ชัดอยู่ดี เพราะดูมันปนกันมั่วกับตัวหนังสือภาษาฝรั่งเศสไปหมดเมื่อเปิดดูแผนที่พอเข้าใจแล้ว จากนั้นก็เดินออกจากสถานีรถไฟเลี้ยวซ้ายเดินชิดตามถนนติดไปเรื่อยๆจะเจอถนนใหญ่คะพอเดินมาก็จะเดินถนนใหญ่ โดยถนนมีชื่อว่า Ave Jean Médecin ซึ่งเป็นถนนมีเส้นทางของรถรางหรือรถทรัมวิ่งตรงกลางค่ะจากนั้นก็เดินตรงไปเรื่อยๆเลยจ้า แต่อย่าไปเดินตรงกลางถนนนะค่ะ เดียวรถรางวิ่งทับเอาจ้า แนะนำเดินตรงฟุตบาทดีที่สุด เพราะทางเดินฟุตบาทในเมืองนี้ กว้างใหญ่โอฬารมากๆเดินมาได้ประมาณ 300 เมตร ก็ผ่านโบสถ์คริศประจำเมืองนีซ สวยงามเชียวค่ะสำหรับโบสถ์วิหารแห่งนี้ ดูในแผนที่แล้ว มีชื่อว่า Basilica of Our Lady of the Assumptionระหว่างเดินตรงดิ่งไปเที่ยวยังทะเลเมืองนี้ ก็ลืมดูทรัพย์สินของมีค่าตัวเองให้ครบด้วยนะค่ะ เนื่องจากมีในเมืองนีซมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะกว่าเมืองคานส์ และโมนาโคมากๆเลยค่ะ ถือเป็นเมืองที่คึกคักที่สุดอีกแห่ง พอๆกับเมืองมาร์เซย์ที่ได้ไปเที่ยวมาเลยนะ ต้องระวังของมีค่า อย่าพกตังมาเยอะเลยนะค่ะ เพราะถ้าเห็นของอยากได้ ก็จะต้องเสียตังตลอด ดังนั้นเอามาพอที่ใช้ก็พอหากเพื่อนคนใหนที่เลี้ยงน้องหมา ก็เอามาเที่ยวจูงเดินตามถนนด้วยได้นะคะตอนไปเที่ยว เดี๊ยนเห็นนักท่องเที่ยวและชาวฝรั่งเศสหลายคน จูงน้องหมา พาน้องแมวมาเที่ยวกันเยอะเชียวเดินผ่านตรงนี้ น่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ในเมืองนีซค่ะมองไปยังสถานีรถไฟที่เดินผ่านมา ระยะทางก็ไม่ไกลมาก แต่ก็ขาลากเหมือนกันนะค่ะ ถือว่าเดินออกกำลังกายล่ะกัน เพราะคนที่มาเที่ยวเมืองนี้ ส่วนใหญ่ก็เดินกันเป็นส่วนใหญ่เลย แต่ถ้าใครที่หอบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ วางแผนมาพักตากอากาศหลายๆอาทิตย์ คงต้องพึ่งรถรางแล้วล่ะค่ะหรือไม่ก็คงต้องนั่งแท๊กซี่เอานะ แต่ต้องเผื่อสตังไว้เยอะหน่อยนะ เพราะราคาสูงลิ่บ เหมือนเงินปลิวหายไปในอากาศเลย สำหรับคนแบกเป้มาเที่ยวแบบดิฉัน คงต้องรำพึงรำพันประหยัดแบบสุดฤทธิ์เลยจ้าเดินมาประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าก็มาถึงย่าน LA PLANETA Events Nice ซึ่งเป็นลานกว้าง และเป็นย่านศูนย์การค้า ที่เห็นเป็นตึกๆสีสวยๆสไตล์ฝรั่งเศสผสมอิตาลี นั้นก็คือห้างสรรพสินค้านะค่ะโดยในย่าน LA PLANETA Events Nice ก็เป็นลานกว้าง ปูนด้วยกระเบื้องอิตาลีลายกราฟฟิกสีขาวดำ สวยงามแปลกตาเชียว และมีศูนย์การค้าเป็นตึกสีสันสวยงาม ให้ได้ถ่ายรูปกันอีกด้วยรถรางวิ่งผ่านจอดตรงย่านนี้ เพื่อรับส่งผู้โดยสาร ดิฉันเองก็ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่นะค่ะ น่าจะไม่แพงมาก แต่คนที่มาเที่ยวที่นี้ส่วนใหญ่ก็เห็นจะขยันเดินกันเยอะเสียมากกว่า แต่ถ้าไประยะไกลคงต้องนั่งรถรางในเมืองนีซน่าจะช่วยผ่อนแรงขาได้เยอะเลยและใกล้ๆกับย่านลาน LA PLANETA Events Nice จะเป็นอุทยาน Promenade du Paillon เป็นลานแสดงน้ำพุ Miroir d’eau ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นด้วยเด็กๆกำลังสำเริงสำราญกันน้ำพุอย่างสนุกสนาน น่าจะคลายร้อนได้มากเลยทีเดียวนะบรรยากาศโดยรอบย่านลาน LA PLANETA Events Nice ในเมืองนีซ ถือเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสายและที่พลาดไม่ได้ถ้ามาในย่านนี้ ก็คือน้ำพุ Fontaine du Soleil เป็นอีกหนึ่งจุดมหาชนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองนีซน้ำพุ Fontaine du Soleil จัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)นอกนี้ยังมีรถไฟนำเที่ยวชมเมืองให้บริการด้วยเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่นที่ดิฉันได้ไปมาเลยคะรถไฟน่ารักดีนะ โดยราคานั่งรถไฟชมเมือง น่าอยู่ที่ประมาณ 8 ยูโร เหมือนๆกับที่เมืองมาร์เซย์ โพรวองซคะหลังจากแวะถ่ายภาพที่ย่านจตุรัสมาเซนน่า แล้วนะค่ะ จากนั้นแนะนำให้เพื่อนๆเดินมาย่านเมืองเก่าต่อค่ะOld Townซึ่งในย่านนี้ก็มีร้านค้า ขายของที่ระลึกริมทางมากมายให้เลือกซื้อคะเดินมาที่ย่าน Vieille Ville (Old Town) ย่านเมืองเก่า ก็จะเป็นตลาดขายของเก่า ให้เดินช็อปปิ้งกันด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านค้าริมทางมากมายเลยคะบรรยากาศที่ย่านเมืองเก่า Vieille Ville (Old Town) ก็เป็นตลาดถนนคนเดิน Saleya Market Shoppingเป็นตลาดเปิดท้ายขายของ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือและของเก่าคะบ้านม่านชานเรือนก็สีสันสวยงามตามสไตล์เมืองพักตากอากาศริมชายทะเลบรรยากาศที่ตลาดในย่านเมืองเก่านี้ค่อนข้างคึกคักมากๆคะสินค้าส่วนใหญ่เป็นของเก่ามือสองทั้งนั้นเลยค่ะหากใครที่ชอบสินค้าแนววินเทจ หรือของเก่าๆแก่ก็มาแลเดินดู ซื้อไปเก็บสะสมได้นะค่ะวันที่ดิฉันเดินไป ก็มีเห็นของอยากได้ด้วยนะค่ แต่เกรงว่าซื้อไปแล้ว ต้องโดนคุณแม่เดี๊ยนกระซวกแน่ๆว่าซื้อของอะไรมาให้รกบ้านอีกล่ะ…เฮ้อเพลีย ก็เลยได้แต่เดินเที่ยวชมอย่างเดียวช้อนกับส้อมก็มีนะค่ะ อยากได้มากๆ เพราะกำลังหาซื้อชุดช้อนส้อมพอดี แต่ก็อย่างว่า ซื้อไปก็โดนคุณแม่ที่บ้านกระซวกเอาคะที่ตลาดถนนคนเดิน Saleya Walking Road Market at Nice มีสินค้าให้เลือกเยอะมากๆเลยนะค่ะ แต่ละอย่างก็น่าซื้อมากๆ ดูออกแนววินเทจ สไตล์ฝรั่งเศส อิตาลีสินค้าจำพวกตุ๊กตาปูนปั้นก็มีให้เลือกเยอะเลยนะค่ะ แต่ละชิ้นน่าซื้อไปเป็นของสะสมทั้งนั้นเลยที่ย่านเมืองเก่า ก็มีตึกร้างบ้านช่องเก่าๆมากมายให้พร่างพรายถ่ายรูปชมกันคะใกล้ๆกับตลาดถนนคนเดิน Saleya Market เลยเดินช็อปปิ้งดูสินค้าอยู่นาน เริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ ขอเติมพลังทานอาหารมื้อเที่ยงนี้ที่ร้านอาหาร ณ ย่านตลาด Saleya แล้วกันค่ะเปิดดูเมนูอาหารมื้อนี้สิทานอะไร คงหนีไม่พ้นสลัดคะเดี๊ยนเลยขอสั่งสลัดมาทานล่ะกัน ราคา 15.50 ยูโร น้ำดื่มอีก 3 ยูโร รวม 18.5 ยูโรการทานอาหารให้ได้บรรยากาศ ต้องนั่งทานนอกร้านค่ะ แต่ก็เหม็นบุหรี่มากๆนะ เนื่องจากคนที่นี้สูบบุหรี่กันจัดเชียว ถ้าไปนั่งด้านในก็หนีไม่พ้นกลิ่นบุหรี่อยู่ดี ยังไงทนเอาหน่อยแล้วกันนะคะระหว่างรออาหาร เดี๊ยนเริ่มรอไม่ไหวแล้วค่ะ ท้องร้องหนักมากๆ กว่าอาหารจะมาเสริฟอีกนานเลย เดี๊ยนขอเป็นคนเสียมารยาท หยิบขนมขึ้นมาทานแก้หิวนะค่ะทานขนมคุ๊กกี้จนหมด ในที่สุดอาหารมื้อเที่ยงนี้ก็มาแล้ว สลัดไก่สไตล์เมืองนีซ เป็นแบบนี้นะค่ะดูหน้าตาอาหาร ไก่เป็นชิ้น ปิ้งจนผิวด้านด้านไหม้เกรียมเชียวหากใครที่เป็นคนรักสุขภาพ คงจะทานลำบากนิดนึงนะค่ะ เพราะต้องแทะเลมเอาไอ้ที่ใหม้ของไก่ออกให้หมดก่อนจะทานส่วนน้ำดื่มที่นี้ก็มีน้ำแข็งแยกมาให้ด้วยนะคะเวลาทานสลัดที่นี่ ก็ไม่ได้หยิบทานใส่ปากเลยค่ะถ้าจะถ้าให้สะดวกก็หยิบผักรวมมิตรและไก่ใส่แป้งฟัฟแผ่นห่อที่เตรียมมาให้ แล้วยัดใส่ปากทานได้เลยจ้าแต่อย่าลืมนะคะ ถ้าไก่ใหม้ก็แทะไอ้ที่ไหม้ออกก่อนนะสลัดไก่ที่ร้านนี้รสชาติอร่อยดีค่ะ น้ำสลัดไม่เค็มจนเกินไป น่าจะเอาใจคนเอเชียได้ดี แต่เสียอย่าง ลูกค้าที่มานั่งทาน สูบบุหรี่กันจัดเหลือเกิน ทานสลัดไปก็สูดดมกลิ่นบุหรี่ไป ได้บรรยากาศเหลือเกินนะ รู้สึกว่าเดี๊ยนจะกินอาหารกึ่งๆเพื่อสุขภาพนะค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมคึกคักไปด้วยควันบุหรี่ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วเชียวและหลังจากทานข้าวอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวต่อ สำหรับสถานที่ต่อไปที่อยากแนะนำเพื่อนๆไปชมก็คือ ชายหาดและจุดชมวิว Castle Hill Park คะเดินออกไปชมชายหาดพอเดินออกมาจะเป็นถนนเลียบติดริมชายหาดแบบนี้คะ มีต้นปาล์มยืนเรียงรายอยู่ริมทะเลบรรยากาศโดยรอบก็สวยงาม ลมพัดเย็นดี๊ดีนะคะส่วนอีกฝรั่งของถนนก็เป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่มกันเป็นส่วนใหญ่แต่ร้านขายเครื่องดื่มเค้าน่าเข้าไปนั่งนะค่ะ มีระเบียงยื่นออกมาให้นั่งชมวิวอีกด้วยล่ะน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบดื่มไป ชมวิวไปอะไรประมาณนี้นะทางม้าลายเดินข้ามมายังชายหาด ส่วนที่เห็นนักท่องเทียวเดินตรงไปนั้นคือ ตลาด Saleya Market นั้นเองมีร้านอาหารชื่อ Cambodia ด้วยนะนอกจากร้านอาหารแล้วยังมีโรงแรม บ้านพักตากอากาศให้บริการด้วยนะค่ะ ห้องพักมีระเบียง ไว้นอนชมวิวทะเลหลังจากได้เดินดูบ้านม่านชานเรือน และตลาดในเมืองนีซแล้ว ทีนี้ก็มาดูชายหาดและทะเลในเมืองนีซสิว่าสวยงาม สมกับเป็น ริเวียร่าแห่งเมดิเตอร์เรเนียนใหม๊ชายหาดที่เมืองนีซไม่ได้เป็นหาดทรายสีขาวเหมือนชายหาดในเมืองไทยเรานะค่ะ จะเป็นก้อนกรวด ก้อนหินเรียงรายเต็มหาดไปหมดค่ะ แต่ก็ถือว่าสวยงามแปลกตาดีนะค่ะ ดูเป็นเอกลักษณ์ของชายหาดแห่งนี้ และดูแล้ว คนที่แวะมาเที่ยวที่นี่ก็น่าจะชอบใจไม่น้อยแต่น้ำทะเลเมดเตอร์เรนียนค่อนข้างใสสะอาดสวยงามมากๆนะคะ ถือว่าเปิดหูเปิดตาดูชายหาดทะเลในต่างแดน ก็สวยเริ่ดสะแมนแตนไม่แพ้ทะเลในบ้านเรา ลักษณะของกรวดและก้อนหินก็นวลๆ น่าจะนอนนัวตัวได้ดี แต่ถ้าแดดร้อนจัดกว่านี้ เดี๊ยนว่าคงนอนไม่ได้แน่ๆคงจะร้อนก้อนดูสองหนุ่มฝรั่งสองคนนี้สิ กำลังนอนอาบแดดเพลิน ริมชายหาดเมืองนีซ หุ่นนี้แซ๋บซี๊ดมากๆนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเมืองนี้ ต่างก็นิยมมานอนพักอาบแดดริมชายหาดกันนะ โดยเฉพาะผู้หญิงแต่ละคน ใส่ชุดว่ายน้ำหุ่นเซี๊ยะมากๆ ส่วนผู้ชายก็หุ่นล้ำบึก ตาน้ำข้าว ดูออกสาวหน่อยๆ แต่ก็น่ารักดีหลังจากได้นั่งพักชมวิวชายหาดเมืองนีซแล้วนะค่ะอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวถ่ายภาพที่สวยงามที่สุดอีกแห่งเมื่อมาเที่ยวเมืองนีซก็ถือ การเดินออกกำลังขึ้นไปยังจุดชมวิว Site de’ Ancien Chateau ตามป้ายบอกทางเลยค่ะ หรือ Great Panorama Nice จุดชมวิวเมืองนีซจากรูปที่เป็นป้อมใหญ่นั้นก็คือ ลานชมวิวค่ะ เดินบันใดขึ้นไปเลยค่ะ ไม่เสียตัง ขึ้นฟรีจ้าพอขึ้นมาก็จะเป็นแบบนี้ เริ่มมองเห็นเห็นวิวทะเลและชายหาดไม่ต้องกลัวหลงทางนะค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางตลอดเลย แต่ก็งงภาษาฝรั่งเศสหน่อยๆ แต่ก็พอเข้าใจนิดๆนะเมื่อเดินขึ้นมาถึงก็จะเป็นลานชมวิวตามภาพเลยคะมองจากจุดชมวิวไปก็จะเห็นวิวชายหาดและวิวเมือง ดูสวยงามตามแบบฉบับฝรั่งเศสค่ะ ถ้าแดดและท้องฟ้าใสกว่านี้ น่าจะงดงามกว่านี้มากค่ะชายหาดทอดยาวเรียงรายหลายกิโลเมตร มองไปก็เห็นคนตัวเท่ามดเลยนะค่ะ กำลังสำราญเริงรมย์นอนอาบแดด ตามลมริมชายหาดซูมกล้องไปไกลๆก็เป็นบ้านพักตากอากาศและโรงแรมที่พักสุดหรูมากมายมีภาพวาดติดไว้ตรงจุดชมวิวแห่งนี้ด้วย เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ดิฉันก็แปลไม่ออก เดาออก น่าจะเป็นภาพวาดที่สำคัญอีกภาพของเมืองนี้ เขียนว่า Jean Klissak Les Conges Payesหันมาดูวิวเมืองบ้านสิ บ้านเมืองก็สวยงาม หลังคาสีส้มสดปี๊ด สวยงามจี๊ดถึงใจ กับย่านเมืองเก่า Vieille Ville (Old Town)ที่เป็นหลังคาสีส้มนี้คือย่านเมืองเก่านะค่ะ มีโบสถ์วิหารสวยงามใหญ่โต ให้ได้แวะไปเฮโลเที่ยวถ่ายรูปกันแบบชิลๆกลับมาดูทะเลบรรยากาศริมชายหาดต่อนะค่ะมองไปที่ทะเลก็เห็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังค่ากำลังสุขอุรานอนพักอาบแดดกันอยู่เป็นส่วนใหญ่เห็นนักท่องเที่ยวคนนึงกำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยซูมกล้องลงไปยังชายหาด ก็เห็นสองหนุ่มหล่อ กำลังคลอเคล้านอนอาบแดดกันอยู่อย่างสุขสบายอีกคู่ละ ดูมีแฮปปี้ ชีวิตดี๊ดีกันจังเลยคะซูมกล้องไปไกลก็เห็นนักท่องเที่ยวกำลังไฉไลกันริมทะเลส่วนใหญ่ที่ดิฉันเห็นก็จะมาเที่ยวกันเป็นคู่ ไม่ค่อยฉายเดี่ยวแบบตัวดิฉันเท่าไหร่นัก น่าจะเหมาะกับคู่รักฮันนีมูนที่ต้องการมานอนพักตากอากาศมากกว่า ถ้ามาเที่ยวฉายเดี่ยวแบบตัวดิฉัน คงต้องแบกเป้สะพายกล้อง เดินท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยแบบเนี่ยแหละคะบรรยากาศของวิวทิวทัศน์เมืองนีซและชายหาดสวยงามมากๆ ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาดูเมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของยุโรปค่ะ ถ้าเดี๊ยนไม่ได้ปักหมุดมาเที่ยวฝรั่งเศส คงไม่ได้แวะเที่ยวดูนะค่ะยังไงก็ได้เห็นเป็นบุญตาแล้วคะอยากบอกว่า บรรยากาศตรงจุดชมวิวเมืองนีซด้านบน ลมพัดเย็นดีมากๆ สมแล้วค่ะที่เป็น ริเวียร่าแห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหากใครที่อยากเห็นอะไรชัดๆก็มีกล้องส่องทางไกลให้ดูด้วยนะ แต่ต้องหยอดเหรียญไปถึงจะได้ดูจ้าจุดชมวิวยังไม่หมดนะค่ะ ยังเดินต่อไปได้ แต่ดิฉันเองเดินไปไม่ไหวแล้วค่ะ ดูนาฬิกาในข้อมือแล้ว รู้สึกเดินเร็วเหลือเกิน ถ้าเดินไปอีก มีหวังวันนี้ต้องตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายแน่ๆเลย เพราะว่าต้องเดินทางกลับไปเมืองคานส์ เพื่อไปเอากระเป๋าเป้และเดินทางไปยังเมือง Lyon ต่อคะระหว่างนี้ก็ชมบ้าน ชมเมืองเค้าไปเรื่อยๆ แบบชิลๆรับวิวลมทะเลสไตล์ฝรั่งเศสไปคะที่ริมชายทะเลมีประดับธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นธงที่เปิดกว้างในเรื่องความหลากหลายทางเพศวิถีมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร คุณก็มาเที่ยวเมืองนีซนี้ได้อย่างสบายใจ จะเห็นได้ว่าทั้งคู่รักชายหญิง หรือคู่รักชายชาย หรือคู่รักหญิงหญิง ก็จูงมือกันมาสวิงกิ้งเที่ยวเมืองนีซกันมากมายหลังจากที่ได้นั่งพักและชมวิวทิวทัศน์เมืองนีซไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงแล้วค่ะพอเดินลงมาก็แนะนำให้เดินเลียบชายหาดไปอีกหน่อย เพื่อไปชม Castle Hill Park คะพอลงจากจุดชมวิวมาจะมีทางเดินเลียบริมชายหาด เลาะไปเรื่อยๆ เพื่อไปชม Castle hill park ค่ะเดินไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทางนะค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางตลอดคะเดินมาก็จะเป็นท่าเรือเมือง Nice ค่ะ มีเรือจอดเรียงรายอยู่ที่ท่าเรือคะส่วนมุมนี้ก็เป็นอนุสรณ์สถาน La Ville De Niceเดินไปก็จะเป็นโรงแรม สถานพักตากอากาศและร้านอาหารเรียงรายอีกมายเลยคะแต่วันที่ดิฉันไปเที่ยว ก็ไม่ได้เดินเหินไปไกลมากนัก เนื่องจากด้วยเวลาจำกัด เพราะต้องเผื่อเวลาไว้เดินทางกลับเมืองคานส์ด้วยคะหากใครที่ไม่อยากเดิน ก็นั่งรถชมเมืองนีซเพลินๆได้นะคะรถบริการนำเที่ยวชมเมือง ก็จะช่วยย่นระยะเวลาชมเมืองได้เยอะทีเดียวเลยมองไปที่ท่าเรือก็เป็นประภาคารอยู่ริมอ่าวท่าเรือในเมืองนีซ และบ้านพักตากอากาศสุดหรูหราหลายหลัง สร้างกันอยู่บนภูเขาส่วนน้ำทะเลที่นี้ก็อย่างที่เห็นในภาพเลยคะ น้ำใสสดงดงามสมคำล้ำลือว่าเป็น French Rivieraน้ำทะเลใสสะอาดไม่ค่อยมีขยะเห็นมากนัก แต่ตามถนนหนทางเดิน ฟุตบาท ก็มีอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นเมืองท้องเที่ยว แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สวยงามนะคะดิฉันเดินชมเมืองไปเรื่อยระหว่างจะเดินกลับ ก็เห็นแต่นักท่องเที่ยวจูงน้องหมา พาน้องแมว มาออกกำลังกายกัน บางตัวก็โดนผูกไว้กับเสา ไม่รู้เจ้าของไปใหนส่วนบางตัวก็น่ารักเชียว เดินดุ๊กดิ๊ก กระดิกหาง เริ่ดๆเชิ่ดๆแบบน่ารักสุดๆเห็นคนกำลังว่ายน้ำดูปะการังอีกแล้วค่ะ ใช่คนเดิมหรือเปล่า ว่ายมาซ่ะไกลเลยนะคะ ส่วนน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงเดือนพฤษภาคมก็ใสสด จรดมองเห็นก้นบึ้งของทะเลเลยทีเดียวหลังจากที่ได้เดินชมวิวชายหาดเมืองนีซจนสาสมใจตัวเองแล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินแบกเป้เร่งฝีเท้ารีบเดินไปยังสถานีรถไฟ Nice Ville เพื่อเดินทางไปยังเมืองคานส์คะตอนแรกดิฉันกะว่าจะนั่งรถรางมาแล้วนะค่ะ แต่คิดไปคิดมา ใหนๆตอนขามาก็เดินมาล่ะ ขากลับก็เดินกลับไปยังสถานีรถไฟเหมือนเดิมล่ะกัน จะได้ประหยัดตังค่ะ เพราะตอนเที่ยงก็ฟาดสลัดไปตั้ง 18 ยูโรเลยนะหลังจากนั้นก็นั่งรถไฟ TER จากสถานีรถไฟเมืองนีซ เดินทางกลับเมืองคานส์ ระหว่างทางก็นั่งชมวิวริมทะเลไปคะเห็นเรือแล่นอยู่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมองผ่านกระจกรถไฟ ก็เห็นชายหาดทรายสีขาว ชายหาดตรงนี้ดิฉันว่าน่าเล่นกว่า ชายหาดที่เมืองนีซนะค่ะ แต่ก็สวยงามคนละแบบนะนั่งรถไฟมาไม่นานประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟเมืองคานส์แล้วค่ะเมื่อมาถึงดิฉันก็ไม่รีรอ รีบเดินเท้าไปยังโรงแรมต่อค่ะ ยังดีนะค่ะที่พักโรงแรมใกล้สถานีรถไฟ ถ้าพักไกลกว่านี้มีหวังเดินขาลากแน่ๆนะคะเดินมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรมคะพนักงานที่นี่ก็ใจดีนะ นำกระเป๋าของดิฉันไปเก็บไว้สักห้องลับเชียว กว่าจะแบกออกมาได้ เล่นเดี๊ยนแทบเป็นลมเลยหลังจากได้กระเป๋าแล้วนะค่ะ ดิฉันก็เดินแบกเป้ใบใหญ่ด้านหลังและเป้ใบเล็กเอาไว้ด้านหน้ารวมมูลค่าไม่กี่ร้อยบาท แต่น้ำหนักรวมๆน่าจะ 15 กิโลกรัม แต่เอาว่ะ ใหนๆก็มาเที่ยวทั้งที ก็ไปให้ไปหลุดโลกเลยเดินแบกเป้มาต่อกดบัตรคิวเข้าแถว เพื่อจองตั๋วรถไฟความเร็วสูง เดินทางไกลไปยังเมืองท่องเที่ยวถัดไปก็คือเมืองลียงคะ สำหรับเพื่อนคนใหนที่จะต้องเดินทางไกล และต้องใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูง หากมีบัตร Eurail Pass แล้ว ยังไงก็ต้องมาเสียเงินค่าจองที่นั่งอีกนะคะสำหรับราคาค่าธรรมเนียมจองที่นั่งรถไฟ TGV เดินทางจากเมือง Cannes ไปยังเมือง Lyon อยู่ที่ 20 ยูโร แต่ถ้าใครที่ไม่มีบัตรยูโรพาส เดี๊ยนว่าราคาตั๋วแพงลิบลิ่วแน่ๆหลังจากที่ได้เสียค่าธรรมเนียมจ่ายค่าจองที่นั่งแล้วนะค่ะวันที่ 21 พ.ค.2018 เวลา 17.52 น. ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงขบวน TGV จากเมือง Cannes มุ่งหน้าสู่เมือง Lyon โดยสวัสดิภาพหากเพื่อนๆคนใหนที่นั่งรถไฟชั้น 1 บนรถไฟก็มี WiFi ให้ใช่ด้วยนะคะรู้สึกว่าตอนนั่งรถไฟจากเมืองปารีสลงมาที่เมืองมาเซย์ สัญญาณ WiFi ก็ใช่ได้นะ แต่หลุดบ่อยเหมือนกันมาดูสิว่ารถไฟ TGV ขบวนนี้ สัญญาณ WiFi ใช้ได้หรือเปล่าลองเปิดดูแล้ว ค่อนข้างง่อยมากๆจ้า หลุดบ่อยแบบสุดๆ เรียกว่าใช้งานไม่ได้เลยล่ะค่ะดิฉันเลยอดตอบเมลล์งานที่บริษัทเลย จะโดนลูกค้ากินหัวใหม๊เนี่ยในเมื่อ WiFi ใช่ไม่ค่อยได้ เดี๊ยนเลยขอหยิบอาหารเย็นมาทานล่ะกันอาหารเย็นมื้อนี้ก็ง่ายๆ สลัดอีกเหมือนเดิมทานคู่กับครัวซองอีกล่ะ คิดถึงผัดกระเพราไข่ดาว แต่ก็ต้องอดทนไว้นะ เพราะหนทางอีกยาวไกลจากคุณนายนั่งรถไฟมาเกือบ 4 ชั่วโมงในที่สุดก็ถึงสถานีรถไฟ Gare De Lyon Part Dieuออกจากเมือง Cannes เวลา 17.52 มาถึงเมือง Lyon เกือบ 4 ทุ่มเลยนะค่ะหลังจากนั้นก็เดินแบกเป้ลุยเดี่ยวเพื่อเดินไปยังโรงแรมที่พักค่ะระหว่างเดินไป ก็ต้องเปิดมือถือนำทางไปยังที่พักคะ ก็แอบกลัวๆบ้างนิดหน่อย เกรงจะมีมิจฉาชีพมาดักปล้นระหว่างทาง แต่ถ้าจะโจรจะปล้นก็ปล้นไปเถอะคะ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว ถ้ามัวแต่กลัว เดียวจะเกิดอาการนอยส์ เที่ยวไม่สนุกเอานะดิฉันเดินตามทางฟุตบาทเปิดมือถือนำทางมาเรื่อยก็ถึงโรงแรม Ibis Lyon คะโรงแรมคืนนี้พักใกล้ๆสถานีรถไฟ แต่ก็ไม่ใกล้ทีเดียวนะค่ะ เดินมาไกลพอสมควร น่าจะประมาณเกือบ 1 โลเมตรได้พอมาถึงดิฉันก็รีบ Checkin เข้าพักจากนั้นก็นอนพักสลบไสล หลังจากที่วันนี้ เมื่อยล้าจากการเดินทางเที่ยวทั้งวันสรุปวันที่ 21 พ.ค.ไปใหนบ้างตอนเช้า นั่งรถไฟจาเมืองคานส์แวะไปเที่ยวประเทศโมนาโคตอนบ่าย นั่งรถไฟจากโมนาโค มาเที่ยวเมืองนีซตอนเย็น นั่งรถไฟจากเมืองนีซกลับมาที่เมืองคานส์ จากนั้นก็นั่งรถไฟ TGV ความเร็วสูงเพื่อเดินทางมายังเมืองลียง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวถัดไปคะเป็นไปตามแผนครบจบกระบวนการ แต่ตอนที่รู้สึกปวดหลังแบบสุดๆ ก็ตอนแบกเป้เดินหาโรงแรมไอบีสเนี่ยแหละค่ะ กว่าจะมาถึงเล่นเอาซ่ะหลังแทบหักเลยจ้าจบทริปเที่ยวเมืองนีซ ได้ชมดินแดดแห่งริเวียร่าของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตามที่ตั้งใจไว้ และไปเดินไฉไลรัฐโมนาโคตอนเช้า และทริปต่อจากนี้ไป คุณนายเว่อร์ จะขอเป็นคนบ้ามารีวิวพาทุกท่านแวะเดินทางเที่ยวเมืองลียงต่อค่ะ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของฝรั่งเศสค่ะสำหรับทริปรีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 8 แวะไปเมืองนีซในบล็อกนี้ ดิฉันก็ขอจบการร่ายพรรณา บ้าๆบอๆแต่เพียงเท่านี้นะค่ะ หวังว่าคงกระตุ้นต่อมเพื่อนที่รักการเดินทางออกมาตะลุยเที่ยวเปิดโลกกว้างกันไม่น้อย หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เสียสละเวลาคลิีกเข้ามาลั๊ลลาเปิดอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ…จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน—————————————————————————————————————–

พาเที่ยวฝรั่งเศส 10 แลนด์มาร์คในฝันที่ใครพลาดก็เหมือนไปไม่ถึง

Bonjour! เริ่มต้นด้วยคำทักทายแบบนี้ หลาย ๆ คนน่าจะเดากันได้แล้วใช่ไหมว่าเรากำลังจะพาทุกคนวาร์ปไปที่ไหน แน่นอนว่าต้องเป็นดินแดนแห่งศิลปวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ ปรัชญา รวมไปถึงแฟชั่นสินค้าไฮเอนด์ต่าง ๆ อย่าง “ประเทศฝรั่งเศส” นั่นเอง นอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งอารยธรรมตะวันตก ประเทศฝรั่งเศสยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมและไวน์ ที่หอมฟุ้งคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกในแต่ละปี 

ข้อดีอีกข้อที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของการเที่ยวฝรั่งเศสก็คือการเดินทางทั้งภายในเมืองและการข้ามระหว่างเมืองที่แสนสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถบัส รถไฟ รถชมเมือง หรือล่องเรือ เราก็สามารถใช้บริการได้ทั้งหมดเพียงถือบัตรโดยสาร Eurail France Pass เพียงใบเดียว ใครที่กำลังแพลนทริปเที่ยวฝรั่งเศส สามารถจองผ่าน KKday ได้ง่าย ๆ คลิกเลย 

หากพร้อมแล้ว ตามไปเก็บ 10 ที่เที่ยวยอดนิยมของประเทศฝรั่งเศสที่ใครไม่ได้ไปถือว่าพลาดอย่างแรงกันเลยค่ะ

หอไอเฟล

หอไอเฟลเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปารีสและประเทศฝรั่งเศสที่มักจะปรากฏอยู่ตามสื่อต่าง ๆ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนเมืองน้ำหอมแห่งนี้ หอไอเฟลมีลักษณะเป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กความสูงรวมกว่า 300 เมตร นอกจากจะสามารถถ่ายภาพคู่กับหอไอเฟลจากด้านล่างแล้ว ด้านบนหอไอเฟลยังมีภัตตาคาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก จุดชมนิทรรศการและจุดชมวิวที่สามารถชมเมืองปารีสที่มีแม่น้ำแซนไหลผ่านได้แบบ 360 องศา พูดได้เต็มปากเลยว่าหากไม่ได้มาหอไอเฟล ก็เหมือนมาไม่ถึงฝรั่งเศส!

พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles)

พระราชวังแวร์ซายได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน และถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความหรูหรามั่งคั่งที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อาณาบริเวณของพระราชวังแวร์ซายครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารสิ่งปลูกสร้างอันโอ่อ่าหรูหราและสวนอุทยานขนาดใหญ่ ตัวอาคารมีการออกแบบตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Baroque) และ โรโคโค (Rococo) มีการประดับตกแต่งอย่างอลังการด้วยงานประติมากรรมและงานศิลปะชั้นเอกของโลก รวมไปถึงโคมไฟระย้าเกือบทุกจุดของวัง 

อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Cathédrale Notre-Dame de Paris)

อาสนวิหารน็อทร์-ดาม หรือ มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารเก่าแก่อายุกว่าหลายร้อยปีที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยรูปแบบการก่อสร้างแบบโกธิค ประดับประดาตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสีและผ่านการเรียงร้อยเรื่องราวทางศาสนาและวัฒนธรรมเอาไว้ในงานประติมากรรมแกะสลักที่วิจิตรบรรจงอ่อนช้อยในทุกรายละเอียด มหาวิหารน็อทร์-ดามจึงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์คู่เมืองฝรั่งเศสที่ทรงคุณค่าทั้งในแง่ความงดงามทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ ศาสนาและวัฒนธรรม

วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล (Mont Saint-Michel) 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิกของฝรั่งเศสที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงคือ “วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล” วิหารที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะกลางทะเลในแคว้นนอร์มังดี ความงดงามเลื่องชื่อของสถาปัตยกรรมยุคกลางผสานเข้ากับบรรยากาศของเกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเล ทำให้ภาพของวิหารบนเกาะกลางน้ำแห่งนี้ยิ่งสวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยาย และที่สำคัญวิหารมงต์ แซงต์ มิเชล ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตก (Wonder of the Western World) อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของหลาย ๆ คนที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum)

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และเป็นจุดหมายในฝันของคนรักศิลปะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะชั้นยอดของโลกและวัตถุโบราณจากหลายยุคสมัยรวมนับหมื่นชิ้น! คนที่รักการเสพงานศิลป์จริง ๆ เดินชมวันเดียวอาจไม่พอด้วยซ้ำ ดังนั้นไฮไลต์ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นสายอาร์ตหรือไม่ก็ตามควรจะต้องเดินตามหาก่อนเลยคือผลงานมาสเตอร์พีซขึ้นหิ้งอย่างภาพวาดโมนาลิซา (Mona Lisa) ของศิลปินเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci), รูปปั้นวีนัส (Vénus de Milo), ภาพวาด Liberty Leading the People ของศิลปิน Eugène Delacroix, ภาพวาด The Raft of the Medusa ของศิลปิน Théodore Géricault และประติมากรรมรูปปั้นหัวขาด Winged Victory of Samothrace เป็นต้น

นอกเหนือจากผลงานศิลปะล้ำค่าด้านในอาคาร อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของพิพิธภัณฑ์เก่าแก่แห่งนี้คือพีระมิดแก้วขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าหลักสู่อาคารด้านใน เรายังแอบเห็นหลาย ๆ คนที่มีเวลาเที่ยวจำกัดหรือไม่ได้อินกับงานศิลปะเท่าไหร่นัก ก็มักจะแวะมาถ่ายรูปกับพีระมิดแก้วมุมนี้พร้อมกับเช็คอินว่าถึงลูฟวร์แล้วอยู่เหมือนกัน 

ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées)

 

สวรรค์ของนักช็อป โดยเฉพาะบรรดาสินค้าพรีเมียมแบรนด์เนม ไลฟ์สไตล์หรูหราต้องยกให้ถนนฌ็องเซลิเซ่เลยล่ะค่ะ ถนนความยาวเกือบ 2 กิโลเมตรเส้นนี้ที่ถูกรายล้อมไว้ด้วยต้นเกาลัดที่ถูกปลูกเอาไว้อย่างสวยงาม เป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยโรงละคร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านรวงและศูนย์การค้าสุดหรูหรา อาคารส่วนใหญ่บนถนนเส้นนี้ถูกก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะ Art Deco และ Art Nouveau เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)

ประตูชัยฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรือจัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l’Étoile) สร้างโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์ชัยชนะจากการรบในสงครามนโปเลียนและเป็นที่บันทึกหน้าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อย่างการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส รายชื่อเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ร่วมรบในสงครามและปกป้องประเทศ รวมถึงศพทหารนิรนามจากสงครามโลกครั้งที่ 1

ดิสนีย์แลนด์ปารีส (Disneyland Paris)

ออกผจญภัยและร่วมสนุกไปกับตัวละครตัวโปรดจากดิสนีย์ที่สวนสนุกและศูนย์รวมความบันเทิงดิสนีย์แลนด์ปารีส หนึ่งเดียวในยุโรปที่จะพาทุกคนย้อนวัยหลุดเข้าไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ ภายในดิสนีย์แลนด์ปารีส แบ่งออกเป็นโซนสวนสนุกแบบธีมพาร์ค Disneyland Park และ Walt Disney Studios Park นอกจากนี้ยังมี Disney Resort อีกหลายแห่งด้านใน ทุกวันนี้สวนสนุก Disneyland Paris ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสวนสนุกที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในบรรดาสวนสนุกทั้งหมดของยุโรปอีกด้วย แล้วอย่างนี้สาวกดิสนีย์จะพลาดได้ยังไงกันล่ะ

เมืองนีซ (Nice)

เดินทางลงมาทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จะพบกับเมืองสวรรค์แห่งการพักผ่อนริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเมืองนีซ (Nice) ที่ตั้งอยู่ใน French Riviera แม้จะไม่ได้เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสักเท่าไหร่ แต่เมืองนีซนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของชาวฝรั่งเศสและชาวยุโรปจากประเทศอื่น ๆ เลยก็ว่าได้ 

เมื่อมาถึงเมืองนีซ เราจะได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากปารีส ทั้งภาพผู้คนแต่งตัวสุดชิลเดินขวักไขว่อยู่ริมชายหาด บ้างก็นอนอาบแดด หรือขี่จักรยาน นั่งรถรางชมรอบเมือง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว สถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ จัตุรัสใจกลางเมือง พิพิธภัณฑ์ และตลาดนัดให้ได้ออกสำรวจ

และหากใครพอมีเวลาเหลือสักหนึ่งวันยังสามารถนั่งรถไฟไปเช้า-เย็นกลับข้ามไปชมสถาปัตยกรรมและสัมผัสความหรูหราที่ประเทศโมนาโก (Monaco) ประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐี ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าตั๋วรถไฟหลักร้อยต้น ๆ เท่านั้นเอง

เมืองกอลมาร์ (Colmar)

ข้ามมายังแคว้นอาลซัส (Alsace) จะมีเมืองท่องเที่ยวบรรยากาศสวยงามราวเทพนิยายตั้งอยู่ท่ามกลางไร่องุ่นที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนแวะมาเยือน นั่นก็คือเมืองกอลมาร์ เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่หลาย ๆ เสียงเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้กับฉากในการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง Beauty and the Beast จุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือทั่วเมืองมีลำคลองไหลผ่าน ขนาบไปด้วยอาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิกริมสองฝั่ง ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้รับฉายา “ลิตเติ้ลเวนิสแห่งฝรั่งเศส” ไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย